คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ - นิพนธ์ปรัมปรา 100%
ดุจนิทานปรัมปราของวณิพก ...กาลครั้งหนึ่งเมื่อแรกเริ่ม ณ เอเดรียนที่แสนสงบสุข แผ่นดินใหญ่หนึ่งเดียวที่ผู้คนมีอำนาจติดต่อกับเบื้องบน มนุษย์เอเดรียนใกล้กับสวรรค์เพียงเอื้อมมือ พวกเขาเป็นเหล่าบุตรที่รักของพระบิดา ได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา...และคริสตัลสีขาวแห่งดวงดาวก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่พระองค์ประทานพร้อมพันธสัญญาที่จะมอบความสมบูรณ์พูนสุขให้แก่ชาวเอเดรียน
แต่แล้วนั่นก็ไม่ได้เป็นจริงตลอดกาล เอเดรียนตกอยู่ในอำนาจริษยา เสมือนเด็กเอาแต่ใจที่พอถึงคราวถูกละเลยก็ไม่อาจทนได้ ...และแล้วสองเพื่อนรักก็หันหลังเข้าหากันเพื่อแย่งชิงสิ่งสุดท้ายแห่งพันธสัญญาณ
เบลากูล เรฟเซียและเคียร์ จามินฮาล
สงครามครั้งแรกอันทำให้แผ่นดินแยกเป็นสองส่วนและเผ่าพันธุ์แห่งแสงสว่างและความมืดก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับความขัดแย้งของสองขั้วอำนาจ
เบลากูลมอบไมตรีให้กับมิตรสหายทั้งสี่เพื่อขยายอาณาเขตของแผ่นดินกว้างไกลและอุดมสมบูรณ์ทุกสัดส่วน พลังมนตราที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งคัดสรรผู้นำเผ่าพันธุ์ที่เป็นดั่งขุนพลเอกแห่งดินแดนแสงสว่าง...และแล้ว ไกกี จิลเซเวีย เออร์ลินและอะลาศ ก็ถือกำเนิด ณ ทั่วทิศ
นัยนั้นจ้าวแห่งความมืดที่โดดเดี่ยว ...รับรู้ด้วยความโกรธแค้น บุรุษผู้เคยเป็นมิตรไมตรีตั้งจิตไม่ซื่อหวังรุมล้อมด้วยห้าเผ่าพันธุ์แข็งแกร่งแห่งจิตวิญญาณของโลกที่พระบิดาเคยประทาน ทั้งยังกุมอำนาจเหนือแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสรรพสิ่งแห่งชีวิต ผลักไสตนสู่ความแห้งแล้งในดินแดนหนาวเหน็บ หยิบยื่นความพ่ายแพ้ดั่งคำประณามกึกก้องทั้งท้องฟ้า
หารู้ไม่ว่าดินแดนไร้แสงนั้น เกลื่อนกลายไปด้วยเผ่าพันธุ์สีดำจำพวกหนึ่ง เคียร์ดั่งผู้ถูกขับไล่จากตะวัน ตอบรับมนตราอีกด้านแห่งเอเดรียน และก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ปิศาจผู้ไม่มีใครทัดเทียมด้วยพันธสัญญาแห่งโลหิตแดง
ด้วยประทับในดินแดนอันอบอุ่น เบลากูลและสี่ขุนพลไร้ประหวั่นถึงอีกหนึ่งขั้วอำนาจในอาณาจักรเร้นลับ ไม่มีหมายกำหนดการตระเตรียมล่วงหน้า ไม่มีสาส์นดวลแจ้งนำ ไม่มีนัยเตือนด้วยอำนาจใด เมื่อจ้าวแห่งความมืดก้าวผ่านดินแดนด้วยมนตราใหม่ พร้อมกับกองทัพยิ่งใหญ่ของพลปิศาจ
ครานั้นเป็นการประกาศศักดาโดยแท้ เพราะบุรุษทั้งห้าแห่งเผ่าพันธุ์ ณ แดนตะวัน มิใช่เป้าหมายของเคียร์ กษัตริย์แห่งความมืด หากเป็นสายใยมนตราแผ่นดินสีขาว ซึ่งเดิมทีกระจายทั่วดั่งส่วนหนึ่งของเอเดรียน...อำนาจแห่งอดีตกาลถูกทำลายหมดสิ้น เส้นทางเชื่อมต่อเบื้องบนนำสู่สรวงสวรรค์ขาดหาย...ทั้งหมดถูกละทิ้งจากพระบิดาด้วยยอมให้ความขัดแย้งกลืนกินหัวใจ
และสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ คือ คริสตัลแห่งดวงดาว
จึงเป็นก่อเกิดเป็นสงคราม ที่ชโลมผืนดิน สะเทือนพื้นน้ำและกึกก้องท้องนภา
หัตถ์แห่งฟ้าถูกหยิบยื่นแยกเอเดรียนที่เคยเป็นหนึ่งให้แตกสลาย ก่อเกิดเป็นสองทวีปต่างซีกโลกแสนห่างไกล และคริสตัลที่เคยเปรียบเสมือนสัญญาจากพระบิดาก็กระจัดกระจายทั่วทิศ
หลายร้อยปีผันผ่าน หลายตำนานถูกเล่าขาน
และวันหนึ่งอดีตกาลก็ถูกขับร้องอีกครั้งเพื่อเติมเต็มมัน...
เมื่อกษัตริย์เอกอล วินเซนน์ ลีอานัส รวบรวมพลังอำนาจเพื่อประกาศให้โลกรับรู้ว่าคริสตัลมิได้ถูกทำลายอย่างที่ใครคาดคิด คริสตัลทั้งเจ็ดถูกค้นพบในเสี้ยวของพลังมนตราที่ยังคงอยู่ในอดีตผืนแผ่นดินเอเดรียน...พันธสัญญาแห่งพระบิดามอบส่วนหนึ่งของมนุษย์ก่อนจะถูกทำลายด้วยความขัดแย้งริษยา
วินเซนน์เป็นผู้ถูกจารึก...ขยายนามสิ่งของในตำนานศักดิ์สิทธิ์เรียกร้องหาแผ่นดินที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่และเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน...
ผู้ใช้อำนาจคริสตัลทั้งเจ็ดถูกเสาะหาจากทุกผืนแผ่นดิน...ควานอำนาจอันหลงเหลือจากดินแดน ณ อดีตกาล...ละเลยความขัดแย้งเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันคือความเป็นหนึ่ง
หากความเป็นหนึ่ง...นั้นหมายถึงหนึ่งเดียวกันของแผ่นดิน หรือแสดงนัยแห่งกษัตริย์เอเดรียน ...มิมีใครรู้
สองผู้นำแห่งสองทวีปในยุดนั้น...เวลเบิร์ต เอคดรอย ลากาอูลแห่งเรฟซาเรียและเกเบรียล เอลาดิน บาสซาลแห่งเคียร์วา
หนึ่งปรารถนาจะเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเอเดรียน เยื้อแย่งอำนาจของชนเผ่าลมซึ่งในอดีตเป็นหนึ่งในสี่ขุนพลของเบลากูล เรฟเซีย ยึดติดในความเป็นผู้นำเผ่าแห่งตำนาน แม้เวลานั้นจะก่อเกิดเผ่าพันธุ์น้อยใหญ่นับไม่ถ้วน...แต่ดวงตะวันก็ส่องสว่างทั่วสารทิศดั่งสาดแสดงความเกรียงไกรไม่มีพ่าย
หนึ่งเฝ้ามองจากเงามืดในดินแดนที่เปี่ยมด้วยมนตรา พร้อมขุนกำลังประหัตประหารของปิศาจสีดำ ตระเตรียมอยู่ในความเงียบกริบของดินแดนเร้นลับอีกซีกโลก รอคอยจังหวะเวลาของความขัดแย้ง ซึ่งจะนำไปสู่การต่อกรอีกคำรบหนึ่งเหมือนเช่นที่เคยเป็นดั่งตำนานเก่าแก่หลายศตวรรษ
และชนวนก็บังเกิดขึ้น
มิมีใครล่วงหรือถึงเหตุการณ์ที่แท้จริงของการต่อสู้ของคาเมนท์และเมดิก้า...แต่ทั้งหมดนั้นถูกนำสู่สงครามของสองเผ่าพันธุ์อีกครั้งด้วยสิ่งเดิมพันสิ่งเดียวกับอดีตกาล ...คริสตัลดวงดาว
ครานี้ด้วยดินแดนที่ถูกแยกออก ผลกระทบของการฆ่าฟันจึงมีมาสู่หลายเผ่าพันธุ์ไม่ละเว้น ความขัดแย้งร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งแรกมากมายนัก ทุกซอกมุมของโลกตกอยู่ในมหาวิบัติของสองขั้วผืนฟ้า ...กระนั้นก็ไม่มีใครได้สิ่งของแห่งพันธสัญญาสรวงสวรรค์ไปครอบครอง
หลายเผ่าพันธุ์สูญเสียไพร่พลประชากรต่างเริ่มไม่เห็นพ้องกับความศักดิ์สิทธิ์ดั่งฟ้าประทานของคริสตัลแห่งดวงดาว เนื่องทุกครามันนำมาซึ่งภัยพิบัติและความขัดแย้งก็ขยายกระจายพร้อมความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นของสองเผ่าพันธุ์
คริสตัลสลายสูญไปอีกครา หากคราวนี้มันกลายเป็นเบื้องหลังอันไม่ได้รับการใส่ใจเมื่อสงครามและความขัดแย้งยังคงโรยรายอยู่บนเส้นทางแห่งเวลาตราบหลายศตวรรษ
อดีตกาลแห่งเอเดรียนจึงถูกเจือจางด้วยเรื่องเล่า เรื่องเล่าถูกกล่าวขานดั่งตำนาน และมันก็กลายเป็นแค่นิทานปรัมปราเมื่อผ่านมาหลายร้อยปี
คราหลัง ความขัดแย้งของสองเผ่าพันธุ์ก็ไม่ได้มาจากต้นต่อใดๆ
จนถึงยุคสมัยต่อมา อนุชนรุ่นหลังผู้ปรารถนาสันติภาพที่เห็นพ้อง...ด้วยเชื่อมั่นในอำนาจจากอิสตรีแห่งแพนโดร่าฟ้าประทาน อันเกิดภายใต้สองเผ่าพันธุ์อันร้อนแรงและเย็นเยียบ...อะลาศและจิลเซเวีย
แพนโดร่าคือราชินีผู้เป็นดวงใจบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งสองขั้วอำนาจ อันประทานจากพระบิดาเกรียงไกรเหนือสรวงสวรรค์ซึ่งถือกำเนิดพร้อมมนตราถือครองในสิ่งที่ทุกคนลืมเลือนมานานแสนนาน...คริสตัลแห่งดวงดาว
หากดิไลล่า ทาร์เนป และเจ้าหญิงไดอาน่า ซิลเซเวีย ควอเซนต์ไร้ในการควบคุมพลังของพันธสัญญา ทั้งคู่ไม่ได้เป็นผู้ใช้แห่งตำนาน...และไม่ปรารถนาการประกาศศักดาด้วยมหาสงครามศักดิ์สิทธิ์ ราชินีทั้งสองส่งต่อนัยแห่งพันธสัญญาสู่เจ้าของที่แท้จริงบุตรชายผู้ถือกำเนิดด้วยสายเลือดผสมแห่งแพนโดร่าอันเชื่อว่าจะขยายพลังแห่งเผ่าพันธุ์ผู้นำทั้งสองให้แข็งแกร่งดั่งพรของพระบิดา
พวกเขาเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งความปรองดอง...ระลึกถึงครั้งหนึ่งซึ่งเบลากูล เรฟเซียและเคียร์ จามินฮาล เคยเป็นมิตรสหายเก่าแก่ ณ ดินแดนเอเดรียนที่งดงามและมีความเป็นหนึ่ง...หันหน้าออกจากการรุกราน
แต่แล้ว...การลอบสังหารก็อุบัติขึ้น แย่งชิงดวงใจแห่งลอเรนเซียออกจากผืนแผ่นดินสีดำนำความโกรธแค้นอันร้อนระอุที่ถูกละเลยให้โหมกลับมายังดินแดนเย็นเยียบของเคียร์วา และครานั้น กษัตริย์เอียน เฟอร์ดินาล เดคมอร์ซิต้าได้นำทัพผ่านอาณาเขตแห่งมนตรา เผชิญหน้า ณ ดินแดนสีขาวที่ไร้การเหยียบย่างของชนเผ่าแห่งความมืดมานับพันปี
...สูญสิ้นรัชสมัยแห่งโจนาธาน ไคร์อา นีโวเอลต้า ผลักไสดินแดนแห่งแสงสว่างออกจากความรุ่งเรืองดั่งมังกรโหนทะยานให้จมดิ่งลง ณ หนองน้ำขุ่นมัวและหันหลังให้กับเส้นทางปรองดองที่แตกสลายด้วยความสูญเสียของทั้งสองแผ่นดิน ...
ไม่เพียงแค่นั้น อะลาศ...ชนเผ่าแห่งไฟซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งสิ้นก็พินาศย่อยยับด้วยอำนาจแห่งมนตราสีดำ
ทุกฝ่ายมองเห็นสงครามที่อยู่เบื้องหน้า เพียงแต่คราวนี้เอเดรียนสีขาวจะเป็นผู้ปราชัย ด้วยขาดทั้งผู้นำอันแข็งแกร่งและพละกำลังจากหนึ่งขุนพลแห่งตำนาน...
หากสงครามมิได้บังเกิดทันทีอย่างที่ใครคาด ...กระนั้นทั้งหมดทั้งมวลก็ต่างประหวั่นพรึงของการก้าวย่างของมหาวิบัติครั้งที่สาม ซึ่งจะยิ่งใหญ่เหนือทั้งสองครั้งที่ผันผ่าน ความสูญเสียจะบังเกิดและเสียงร้องจะกึกก้องกว่าคราวใด
ณ กาลนี้มีคำเล่าขานแห่งวณิพก...ถึงสงครามสุดท้ายอันสูญสิ้นทั้งมวล รอเพียงการจุดชนวนอันเรียกร้องจากดวงใจแห่งผืนแผ่นดิน มิอาจหลีกเลี่ยง...
นัยมนตรา จรดฟ้า คู่แผ่นดิน กาลปรัมปรา แผ้วผิน ผ่านสมัย
สองเผ่าพันธุ์ ดารดิน ขจรไกล ควานนันดร ยิ่งใหญ่ ข้ามโลกา
พาลบังเกิด เยื้อแย่ง ดั่งนิมิต ณ ลิขิต สงคราม อุบัติฟ้า
หนึ่งกษัตริย์ หมื่นนักรบ ล้านประชา ผันธารา แก้วใส พาเลือดนอง
สองแผ่นดิน สองทวีป สองอำนาจ สองเหล่าราชย์ วิปโยค ประหัตพ้อง
สองซีกโลก สองผืนฟ้า กร่างลำพอง ประกาศฆ้อง ปราชัย เพื่อเผ่าพันธุ์
แม้สิ้นสุด ไร้พ่าย ปัจฉามิตร หากแค้นขึง ตรึงจิต มิแปรผัน
เจ้าจักเป็น อริราช ตราบชั่วกัลป์ ลั่นราชันย์ มั่นจำนง แม้วอดวาย
ณ ผืนหนึ่ง วิหคกาฬ จะโบยบิน เพื่อพลับแก้ว ดาริน พิสุทธิ์ใส
ผ่านนภา สมุทรคว้าง สู่แดนไกล คล้องฤทัย กุลมังกร จ้าวตะวัน
เจ้าจักเป็น อริราช แม้กาลก่อน แลปักศร อิงรอน พาลอาสัญ
ไร้จันทรา เฉิดคู่ สุริยัน กาลอนันต์ ภัณฑนา ดุจตำนาน
พิศภากร ทอนแสง ลงริบหรี่ จ้าวราตรี เผยเสี้ยว กรองวิกาล
สองผืนฟ้า ฤ เคียง คู่ดวงมาลย์ จักอุบัติ คำเล่าขาน ดั่งนิพนธ์...
*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*
To Be Continue
17/05/11 19.21
ความคิดเห็น