ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Treasure Magic ผจญภัยขุมทรัพย์แห่งเวทมนตร์

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 - การปะทะครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 54


    ---ocean---

             เช้าวันรุ่งขึ้นเอเวียน่าตื่นขึ้นจากเตียงนอนเร็วกว่าปกติ แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นข้างๆ เตียงเธอได้หายไปแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นบิดตัว และก็ต้องครางอย่างเจ็บปวดเมื่อการกระทำกระทบเข้ากับแผลที่เอว

             รุ่งเช้าบนเรือโจรสลัดมีอากาศเย็นสบายกว่าที่คิด

             เอเวียน่างัวเงียหาห้องน้ำที่อยู่ข้างห้องของอัล ทันทีที่เธอเปิดก็แทบจะปิดลงในทันที ตาเบิกโพล่งขึ้นแทนที่จะเป็นงัวเงียอีกต่อไป ต้องทำความสะอาดก่อน เธอคิดแค่นั้น ไม่อยากบรรยายสภาพห้องน้ำให้มันอึดอัดใจ

             ไม่มีใครอาบน้ำบนเรือหรอกนะ เพราะว่ามันสกปรก อัลเคยพูดไว้

             ตอนนี้ข้าพอเข้าใจแล้ว เธอพึมพำ ไม่ใช่ไม่มีใครอยากอาบ แต่อาบไม่ได้ต่างหากล่ะ แล้วเมื่อไรเธอจะได้อาบน้ำล่ะเนี่ย

             เอเวียน่าแก้ปัญหาในเช้าวันนั้นด้วยการล้างหน้า แปรงฟันแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า อากาศเย็นอาจจะทำให้โจรสลัดไม่ชอบอาบน้ำแต่เธอไม่ใช่ หญิงสาวรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย แต่เอาเถอะตอนนี้ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว เธอคิดแล้วเดินฉับๆ ออกไปนอกห้อง

             บรรยากาศบนดาดฟ้าเรือดีจริงๆ เรือไม้เก็บความเย็นจากบรรยากาศไว้ได้หมด ตะวันเป็นสีอ่อนๆ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมีไอน้ำและหมอกที่พัดเข้ามาจากด้านนอกเรือตัดแสงไว้ แต่หมอกก็ไม่ได้จัดเท่าไรนัก ท้องฟ้าเข้ากับทะเลสีคราม ไอน้ำเย็นๆ พัดเข้ามา ฟริงค์หมาป่าสีน้ำตาลออกมาวิ่งอยู่บนเรือทักทายโจรสลัดที่กำลังทำงานอยู่ ส่วนใหญ่ทุกคนตื่นแล้ว

             หรือว่าสกปรกจนนอนนานไม่ได้ ความคิดเข้ามาในหัวหญิงสาว ไม่ใช่มั้ง และเธอก็ปัดความคิดนั้นออกไป

             เอเวียน่าเดินตรงเข้าไปหาคลิฟท์ที่เธออยู่ในระยะที่เธอมองเห็นชัดที่สุด ตรงริมขอบเรือ เขากางกระดาษบางอย่างออก หน้าตาดูท่าทางใช้ความคิด เอเวียน่าเดินเข้าไปใกล้ๆ ไง เธอทัก

             คลิฟท์สะดุ้งแทบจะในทันที เขารีบเก็บกระดาษใบนั้นด้วยความตกใจ โธ่ เอเวียน่า เจ้าอย่าเข้ามาเงียบๆ สิ คลิฟท์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไงแล้วเมื่อคืนหลับสบายรึเปล่าล่ะ

             ก็น่ะ อากาศเย็นดี แล้ว... เอเวียน่าเกิดสงสัยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ...นั่นอะไร เธอชี้ถึงกระดาษที่คลิฟท์พยายามซ่อนไว้ข้างหลัง ความจริงเธอไม่ใช่คนที่สอดรู้หรอกนะแต่ว่า ไม่มีเรื่องจะคุยมากกว่า

             อ๋อเนี่ย เป็นแผนที่น่ะ คลิฟท์กางออกให้ดู ว่าเราจะแวะจอดที่ไหนต่อไป

             เอเวียน่ารู้สึกแปลกๆ แผนที่แล้วทำไมต้องรีบซ่อนด้วย อีกอย่างหนึ่งคือ... แวะ?

             เดี๋ยวก่อนนี้เราไม่ตรงไปเอร์ซิลเลยหรอกเหรอ อัล! คลิฟท์! อัลล่ะอัลอยู่ไหน เธอถามท่าทางโวยวายอย่างไม่พอใจ

             ส่วนผู้ที่ถูกถามได้แต่สะดุ้งอย่างตกใจที่จู่ๆ สาวน้อยตรงหน้าเกิดอารมณ์ไม่คงที่ขึ้นมา ใจเย็นก่อนสิ อัลไม่ว่างตอนนี้ เจ้าจะหาอะไรกินก่อนมั๊ยล่ะ คลิฟท์เริ่มเบนความสนใจของเธอ

             หากไม่ใช่ว่าเอเวียน่าหิวมากเธอคงไม่ยอมให้คลิฟท์เบนความสนใจไปได้ง่ายๆ หรอก

             รองกัปตันหนุ่มผมบลอนด์เดินนำไปที่ห้องอาหารใต้ท้องเรือ นี่คงเป็นเวลาอาหารของพวกโจรสลัดเพราะเอเวียน่าสังเกตว่ามีคนตามเธอกับคลิฟท์มาด้วย

             พอเปิดไปในห้องอาหารโต๊ะสามตัวยาวๆ วางไว้และมีเคาน์เตอร์กั้นระหว่างครัวกับโต๊ะอาหาร มีโจรสลัดบางคนอยู่ที่นั่นแล้วรวมทั้งคิวโอ ดิวโอ และครีล์

             เอเวียน่านั่งเก้าอี้ที่คลิฟท์เลื่อนให้ และโจรสลัดที่ตามมาก็ลงมานั่งข้างเธอบ้างตรงข้ามเธอบ้าง สองฝาแฝดรีบสละที่นั่งเก่าของตัวเองมานั่งอยู่กับหญิงสาวเช่นกัน

             เมื่อคืนหลับสบายมั๊ยเอเวียน่า หนึ่งในสองฝาแฝดถาม

             กัปตันให้เจ้านอนเตียงรึเปล่า เอเวียนอีกคนหนึ่งกล่าว

             เอเวียน ทำไมเรียกข้าด้วยชื่อทุเรศแบบนั้น เจ้าเป็นดิวโอหรือเปล่า หรือคิวโอ

             ข้าดิวโอ ข้าเพิ่งคิดชื่อใหม่ให้เจ้า ข้าว่าเอเวียน่ามันยาวเกินไปหน่อย เอาล่ะเจ้าชื่อเอเวียน เด็กหนุ่มผมสีเงินกล่าวอย่างสนุก แถมยังชี้นิ้วมาทางเธออย่างออกคำสั่งอีกต่างหาก

             เอาล่ะ ดิวโออย่าเรียกข้าอย่างนั้นอีก เอเวียน่าพูดอย่างสงบ ใช้ชื่อที่เด็กแฝดกล่าวเมื่อครู่ย้อนกลับไป

             เป็นความคิดที่ดี คิวโอกล่าวตามมาแทบจะในทันที โดยไม่สนใจคำพูดของหญิงสาว ข้าก็กำลังคิดอยู่

             ใช่ม้า ใช่ม้า ข้าคิดอยู่ทั้งคืนเลย

             อะไรก้าน ชื่อแค่นี่เจ้าคิดอยู่ทั้งคืนเลยเหรอ คิวโอพูดอย่างดูถูก ถ้าเป็นข้าน่ะ... ตาของเด็กหนุ่มเหล่มาทางน้องชายที่ท่าทางไม่ยอมแพ้

             แล้วทำไมเจ้าไม่คิดเองเล่า!” ดิวโอไม่ยอมให้ถูกดูถูกฟรี ๆ

             อ้าว! ข้าไม่มีเวลาว่างแบบ...

             พวกเจ้าไม่หิวข้าวรึไง ทำไมมาทะเลาะกันอยู่ตรงนี้ คลิฟท์เข้ามาห้ามการขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น ก็มีเสียงโห่ขึ้นมาทันที

             โธ่! ท่านคลิฟท์ ห้ามทำไมข้ากำลังสนุกอยู่เชียวเสียงดังออกมาจากกลุ่มโจรสลัด ที่ดูท่าทางเสียดายกับการพนันที่เริ่มต้นและจบลงอย่างรวดเร็ว

             เงียบน่า!“ เขาสั่ง

             พวกเจ้าก็ทำอาหารต่อได้แล้ว เสร็จรึยังน่ะ คลิฟท์หันไปโวยกับพ่อครัวที่หันมาดูการต่อสู้โดยละทิ้งหน้าที่

             กลิ่นแปลกๆ เริ่มลอยติดจมูกเอเวียน่า ถ้าไม่ผิดเหมือนของไหม้ กลิ่นอะไรกัน สายตามองไปที่หม้อเก่าๆ ที่ตั้งอยู่บนเตาไฟ บ๊อบ! นั่น! อาหารของเจ้า เธอร้อง

             ผู้ที่ถูกเรียกชื่อหันขวับไปยังที่หมาย ควันดำออกมาจากหม้อของเขา เจ้าตัวรีบปิดไฟอย่างลำบาก และยกหม้อขึ้นมาอย่างมีความพยายาม เพราะดูท่าทางมันจะร้อนไม่ใช่น้อยทีเดียว

             โอเค บ๊อบหัวหน้าพ่อครัวพูดออกมาอย่างโล่งอก

             โอเคเหรอ ไม่โอเคเลยซักนิด เอเวียน่าได้แต่คิด เขาเป็นพ่อครัวแน่รึเปล่ากัน

             แล้วคำพูดที่เอเวียน่านึกไม่ถึงก็ตามมา เอ้าเร็ว อาหารวันนี้เป็นสตูสูตรพิเศษของข้าเอง บ๊อบตะโกนบอกเพื่อนที่อยู่ในห้องอาหาร ในมือมีทัพพีเก่าๆ อันหนึ่ง ชี้เข้าไปในหม้อที่มีแกงไหม้ๆ ดำๆ ที่เพิ่งตะลุยผ่านไฟครอกเข้ามาเมื่อกี้นี้

             แล้วแค่นั้นเองเอเวียน่าก็นึกถึงคำพูดของทิงกาเบล รสชาติมันแย่สุดๆ ขึ้นมาได้ เรื่องที่เธอควรจะทำก่อนที่จะทำความสะอาดเรือคงเป็นเรื่องการสอนให้บ๊อบรู้ว่าสิ่งไหนคืออาหารที่คนเอาไว้กิน และสิ่งไหนไม่ใช่ และเธอพูดได้ในตอนนี้เลยว่า ที่อยู่ในมือบ๊อบ หรือที่ทุกคนกำลังกินอยู่น่ะ มันไม่ใช่อาหารแน่ๆ เอเวียน่าคิดอยู่ลึกๆ และเธอก็รีบปฏิเสธอาหารเช้านั้นด้วยอาการกุมขมับ ถึงแม้เธอจะหิวมากก็ตามที

     

             เช้านี้ของเอเวียน่าเริ่มต้นด้วยการจ่ายค่าหนังสือพิมพ์สองกิลเซล และการอ่านหนังสือพิมพ์บนหัวเรือ แทนที่จะเป็นการนั่งทานอาหารเช้าอยู่ในห้องอาหารใต้ท้องเรือ

             อย่างไรก็ตามข่าวในหนังสือพิมพ์แทบจะไม่เข้าหัวเธอเลย เอเวียน่าหิวมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จริงเธอไปมองหาเสบียงที่ซื้อมาก่อนออกเดินทาง แต่มันไม่เหลือแล้ ไม่รู้ว่าเจ้านั่นมันเอาอาหารที่เธอซื้อมาไปไว้ที่ไหนกัน เอเวียน่านึกถึงผลแซนดีน สามผลที่เข้าลอยมา และก็ต้องปัดความคิดนั้นออกไป

             สตูสูตรพิเศษ คิดแล้วทำให้เอเวียน่าแทบจะขนลุกทันที แน่ใจเหรอว่าใช่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าอัลจะกินอาหารนี้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าโจรสลัดจะกินอาหารอย่างนี้ ให้ตายสิ หนึ่งก็เรื่องห้องน้ำ สองก็เรื่องอาหาร ข้าจะอยู่ที่นี้ได้นานไหมเนี่ย เธอคิดอย่างหมดอารมณ์

     

             เช้านั้นเอเวียน่าต้องรอให้เหล่าโจรสลัดกินอาหารเสร็จ และเริ่มทำความสะอาดเรือ เริ่มจากดาดฟ้าเรือที่ที่พวกโจรสลัดอยู่บ่อยที่สุด ครีล์ทำตามคำสั่งเธอโดยไม่บ่นซักคำ แล้วเอเวียน่าก็ได้ คิวโอ ดิวโอ รอยซ์ ฟิลิป ฟริงค์หมาป่าสีน้ำตาลและโจรสลัดที่เธอยังไม่เคยคุยด้วยอีกหลายๆ คนเข้ามาช่วย

             แปลกนะหนึ่งในฝาแฝดกล่าวระหว่างที่ถูเรือ ฟริงค์น่ะ ปกติมันไม่ค่อยถูกกับคนเท่าไรหรอก" เด็กชายบอกเมื่อเอเวียน่าหันมา ว้า! เนี่ยเรือที่ข้าอยู่แน่รึเนี่ย สกปรกจริงๆ เจ้าคิดถูกแล้วที่ทำความสะอาดเอเวียน นั่นเองที่เอเวียน่าแน่ใจว่าคนที่พูดอยู่คือ ดิวโอ

             อย่าเรียกข้าอย่างนั้น เอเวียน่าเอ็ดอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก

             คิว แข่งถูพื้นไปถึงตรงนู้นกันไหม ดิวโอไม่ฟังคำพูดของเธอเช่นเคย

             ก็เอาซิ คิวโอผู้เป็นพี่รับคำท้าอย่างยินดี เอเวียน่าช่วยให้สัญญาณหน่อยสิ”

             ข้าช่วยเอง ธีอะดอร์เข้ามาหาสองฝาแฝดโดยละทิ้งไม้ถูพื้นเก่าๆ ที่ถืออยู่แทบจะในทันที พร้อมรึยังล่ะ

             พร้อมเสมอ เสียงจากผู้เป็นฝาแฝดดังขึ้นมาพร้อมกัน

             เอาล่ะ ระวัง!...”

             เอเวียน่าไม่สนใจการแข่งขันนั้นเท่าไรนัก เธอมองไปรอบๆ ดาดฟ้าเรือคงอีกสองสามวันล่ะ กว่าจะทำความสะอาดที่นี่เสร็จ หญิงสาวมองดูไปรอบๆ อีกครั้ง โจรสลัดที่นั่งอยู่สองคนเหมือนกำลังแอบทำอะไรบางอย่างอยู่ เอเวียน่าเดินเข้าไป

             ...ว่าแต่กัปตันน่ะแน่ใจแล้วเหรอ

             แกพูดอย่างนั้นได้ยังไง กัปตันน่ะเป็นหัวหน้าเรานะโว้ย เจ้าตัวดียกเบียร์ขึ้นดื่ม แล้วเอเวียน่า...

             เจ้าตัวดีและเพื่อนอีกสองคนแทบจะตัวแข็งในทันทีเมื่อเห็นเธอ ข้าไม่ยักรู้ว่าพวกเจ้ากินเบียร์ตั้งแต่หัววันอย่างนี้ ทำตัวดีๆ หน่อยสิ หญิงสาวแย่งเบียร์มา

             เอเวียน่า โจรสลัดพูด

             เจ้าชื่ออะไรน่า...อ๋อ...อลัน เจ้าเป็นคนทำอาหารนี่น่า แล้วมานั่งดื่มเบียร์แต่เช้าแบบนี้ดีแล้วเหรอ เอเวียน่าหันไปมองสองคนข้างหลัง แล้วเจ้า…”

             ข้าชื่อชาร์ลี หมอนี่ชื่อจอน หนุ่มที่ดูเหมือนตัวโตกว่าเพื่อนแนะนำตัว เจ้า เอเวียน่า เจ้าน่ะทำเป็นใหญ่มาสั่งพวกข้าอย่างนี้แน่ใจงั้นเหรอ

             ข้าไม่ได้มาทำเป็นใหญ่สั่งพวกเจ้าเลย เอเวียน่ากล่าวอย่างจริงจัง ข้าแค่พูดว่าเจ้าทำอย่างนี้ถูกแล้วเหรอต่างหาก เธอเอ่ยโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย มาทำความสะอาดดีกว่าน่า เรือของเจ้านะ เอเวียน่าชวน

             ชาร์ลีมองหน้าเพื่อนและพวกเขาก็หัวเราะขึ้นมา กัปตันบอกว่าเจ้าทั้งกล้าและโง่ในคนๆ เดียวกัน ฮ่า ฮ่า...แต่เจ้าแน่มากจริงๆ

             ข้าจะช่วยเจ้าหลังจากที่กินเบียร์เสร็จนะ ขอกินอีกหน่อยน่า กฎเราไม่ได้ห้ามกินเบียร์ตอนกลางวันนะ จอนแย่งเบียร์จากมือเธอ พร้อมอธิบายกฎให้ฟังอีกหนึ่งข้อ

             แต่เอเวียน่าไวกว่า จอนเลยอดกินไป ชายหนุ่มน้ำตาตกใน ความภูมิใจเล็กๆ น้อยๆ ถูกข่มแหง เพราะไม่ทันหญิงสาวตรงหน้า

             เจ้าบอกจะช่วยก็ต้องช่วยก่อนสิ เบียร์น่ะไว้กินตอนเย็นก็ได้ ข้าไม่ชอบให้กินตอนเช้าแบบนี้

             โธ่ เอเวียน่า นะ นะ

             หญิงสาวเลิกคิ้วน้อยๆ เอเวียน่างั้นหรือ วันนี้เธอได้ยินชื่อที่เธอไม่เคยใช้บ่อยมาก...จนชักชินซะแล้ว ร่างบางถอนหายใจ ไม่ก็คือไม่ ชาร์ลีเจ้าไปถูที่หัวเรือเลย อลันเจ้ากับไปช่วยบ๊อบทำงานไป ส่วนเจ้าจอน เธอส่งสายตาจิ้มลิ้มมา แต่กับทำให้เจ้าตัวรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไปถูเสาหลักเรือด้านหลังนู้นเธอพูดพลางชี้

             เสา? เจ้าตัวสงสัย ถูยังไง

             ง่ายจะตาย เจ้าก็ปีนขึ้นไปบนเสาแล้ว ก็เอาผ้าพันรอบเสาไว้แล้วก็เจ้า จับผ้าให้แน่นๆ และรูดเสาลงมาไง เอเวียน่าพูดช้าๆ

             รูดเสาชายหนุ่มเบิกตาโพล่งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

             ใช่รูดเสา ข้ายกให้เจ้าทั้งสี่เสาเลยล่ะกันแล้วเอเวียน่าก็เดินไปโดยไม่ฟังคำพูดอ้อนวอนโหยหวนจากคนที่เธอสั่งให้ปฏิบัติ ฟิลิปช่วยดูแลฟริงค์ดีๆ หน่อย เอ๊ะ! ระวัง

             ฟริงค์หมาป่าสีน้ำตาลที่นึกคึกกระโดดโลดเต้นขึ้นมา และอีท่าไหนมันกระโดดถอยหลังไปโดนกระป๋องน้ำที่มีน้ำผงซักฟอกอยู่เต็มไปหมด

             โครม!’ ล้มอย่างสวยงามโดยมีถังน้ำอยู่บนหัว และฟองอยู่เต็มตัว มันพยายามเอาถังออก แต่ก็ต้องลื่นไปมา

             ทุกคนหัวเราะกับการกระทำน่ารักๆ ของเจ้าหมาป่าสีน้ำตาลเพียงแต่เอเวียน่าเท่านั้นที่มองไปยิ้มไป ส่วนครีล์ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเช็ดเรือต่อไป

             แต่ไม่ทันที่เสียงหัวเราะจะหายไป ฟริงค์ก็เริ่มสะบัดตัวเล่นเอาคนที่อยู่รอบๆ หนีกันกระจัดกระจาย รวมทั้งหญิงสาวด้วย ข้าไม่อยากอาบน้ำตอนนี้หรอกนะ เธอคิด

             หลังจากเหตุการณ์สงบลงแล้ว ฟิลิปก็พาเจ้าหมาป่าไปเช็ดตัว ส่วนน้ำที่หกก็เป็นภาระของลูกเรือบางคนผู้โชคร้าย

             ขยันจริงๆ นะ พวกเจ้าเนี่ย เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ด้วยสัญชาตญาณทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง อัลยืนอยู่บนระเบียงที่แยกออกมาจากห้องที่ท้ายเรือ อยู่สูงขึ้นไปหน่อย ข้างหลังมีรองกัปตันสองคนไรอัลกับคลิฟท์ และที่ปรึกษาสองคนคริซโตเฟอร์กับฮอคซ์

             แล้วท่านล่ะทำอะไร ท่านกัปตัน รอยซ์เริ่มการต่อล้อต่อเถียง

             ข้าเหรอ อัลยิ้มอย่างอ่อนโยน ...ก็มองดูพวกเจ้าทำงานไง

             โห่! เสียงดังขึ้นอย่างไม่พอใจ

             เอเวียน่าทำงานต่ออย่างไม่สนใจ เธอมีเรื่องอยากถามซักเรื่อง แต่ว่าเอาไว้ก่อนล่ะกัน

             เอาน่า เอาน่ะ อัลกล่าว อยากให้พวกเจ้าเตรียมพร้อมไว้หน่อย เราน่าจะปะทะกับเรือลำหนึ่ง อีกซักหกชั่วโมง อ้า...นีโอ เจ้าอย่าเอาน้ำมาสาดข้าอย่างนั้น เขาเดินลงมาจากระเบียงนั้น ...เรือที่ทำให้เทพซีซัตของเราบาดเจ็บน้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชากว่าตอนแรก

             เอเวียน่าเช็ดที่ขอบเรืออย่างตั้งอกตั้งใจ ว่าแต่ว่าเบลหายไปไหน ฮอคซ์ก็อยู่ตรงนี้แล้ว เจ้านกน้อยตัวดีไปอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย

             กระสุนปืนใหญ่ยังมีอยู่รึเปล่า อัลถามชาร์ลี

             เจ้าตัวพยักหน้า ยังเหลืออยู่ซักโหลล่ะครับ

             ใช้ซัก...ซักสามลูกก็พอ

             หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าฮอคซ์ทำอะไรหรอกนะ ไหนอัล บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ไหนบอกว่าไว้ใจได้ไงล่ะ เอเวียน่าเช็ดอยู่ที่เดิม

             อาวุธเตรียมให้พร้อม

             ที่ปล่อยให้เป็นไปตามนั้นก็เพราะว่าเบลรักหมอนั่นหรอกนะ ข้าคิดแล้วว่ามันไม่เหมาะ ฮอคซ์เจ้า...

             เอเวียน่า!”

             เจ้าตัวสะดุ้ง อะไร

             เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า

             เปล่า เอเวียน่าปฏิเสธทันที สายตาเธอมองไปเห็นเทพซีซัตหนุ่มในความคิด ฮอคซ์...เบลอยู่ไหน

             เจ้าเหยี่ยวหันมามองเธอ หล่อนไม่ได้อยู่กับเจ้าเหรอ สายตากังวลเกิดขึ้นมาทันที หล่อนไม่ได้อยู่กับข้านะ...แล้วไปไหนล่ะเนี่ย เขาลูบผมสีทองแล้วมองไปรอบๆ

             อัลหันมาหาโอลิเวอร์ทันที เบลหายไป ข้าบอกให้เจ้าดูแลหล่อนไม่ใช่เหรอ โอลิเวอร์

             ข้าดูแลแล้วนะท่าน" ฮอคซ์รีบแก้ตัว

             งั้นเบลหายไปไหน เอเวียน่ามองโอลิเวอร์ด้วยสายตาเย็นชา ส่วนหัวเธอพยายามคิดถึงสาเหตุที่ตัวนกน้อยที่ปกติติดเธอยังกับอะไรดีหายไป และสายตาของเธอก็เลื่อนจากตาของโอลิเวอร์ มาหยุดที่ต้นแขน...ที่ถูกยิงด้วยกระสุนสีทอง ทันทีนั้นเองเธอก็แสดงสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมา โจรสลัด เธอร้องขึ้นเรียกร้องความสนใจจากทุกคนที่อยู่บนเรือ

             อัลหันมามองเธออย่างหาคำตอบ มีอะไรงั้นเหรอ เอเวียน่า เจ้านึกอะไรออก

             โจรสลัด!...โจรสลัดที่ยิงเจ้าน่ะ! เป็นใครเธอถามพร้อมกระชากคอเสื้อของเจ้าเหยี่ยวตัวดีที่ไม่สามารถบอกได้ว่านกของเธอหายไปไหน

             เธอรู้รึเปล่า

             เจ้าตัวดีทำท่าคิดหนักทันที ดูเหมือนพยายามคิดว่าทำไมสิ่งที่เขาพูดออกไปว่าโจรสลัดคนนั้นเป็นใครจะทำให้เบลหายไป หมายความว่าไง เขาถามอย่างสงสัย ไม่ใส่ใจว่าตัวเองถูกกระชากคอเสื้อ

             เอเวียน่าถอนหายใจ พยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็น แต่มือยังคงไม่ปล่อยจากคอเสื้อ หมอนี่ตอบไม่ตรงคำถาม อย่าทำให้ข้าต้องอดทนมากกว่านี้ ข้าถามเจ้าว่า...โจรสลัดที่ยิงเจ้าน่ะเป็นใคร และเบลรู้รึเปล่า กรุณาตอบให้ตรงคำถาม คำพูดขอร้องที่ฟังดูเหมือนข่มขู่

             โอลิเวอร์ไม่สนใจที่จะมอง แต่ก็เสียวสันหลังจนต้องดึงตัวเองออกให้พ้นจากรัศมีที่มือนั้นจะกระชากคอเสื้อของเขาได้อีก เขาคือโจรสลัดภายใต้การนำของริชาร์ดแห่งท้องทะเล เขาอธิบาย ข้าไม่คิดว่าถึงเบลจะรู้ก็คงไม่เกี่ยวอะไรกับที่เธอหายไปเลยนี่น่า

             ริชาร์ด แห่งท้องทะเล เธอพึมพำ

             หมอนั่นหนึ่งในสิบเป้าหมายที่ทางการส่งให้กับนักล่าหัวจัดการ เอเวียน่าคิดช้าๆ เธอคิดหาสิ่งที่เบลหายไป เบลอาจจะไปที่เรือนั้นก็ได้แต่เพราะอะไรล่ะ หรือว่าหมอนั่นจะรู้ความลับบางอย่างของโจรสลัด.. แต่ไม่สิเรื่องนั้นโจรสลัดที่ไหนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว ริชาร์ด กษัตริย์ที่เข้มแข็งแห่งท้องทะเล หรือว่า...งาน! เอเวียน่าวิ่งเข้าไปหาเสื้อคลุมที่เก็บข้อมูลของงานที่เอร์ซิลของเธอไว้ เธอกางแผ่นกระดาษออกอย่างเร่งรีบ พยายามใช้สายตามองอ่านข้อมูลนั้นอย่างละเอียด

             “---ผู้นำแห่งท้องทะเล ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อเราจะเป็นใหญ่ สามหมื่นสำหรับการรับงานที่เอร์ซิล เพื่อทดสอบและต้อนรับกับการมาของท่าน--- เธออ่านข้อความทั้งหมด

             ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ เป็นไปได้ว่าเป็นริชาร์ด แต่อาจไม่ใช่ก็ได้ ไม่มีหลักฐานและข้อมูลซักหน่อย เอเวียน่าไม่เห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลแปลกๆ ที่เป็นปริศนานั้น ทั้งที่ไม่มีหลักฐานซักหน่อย หลักฐาน?? แย่ชะมัดเลยแฮะ ข้าควรทำไงดี ออกไปหาดีไหมหรือว่าจะรออยู่ที่นี่ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เธอพยายามปัดความกังวลแบบนั้นออกไป ท้องเริ่มร้องโหยหวนเพราะความหิว ให้ตายสิ อดทนหน่อย เอเวียน่ากุมท้องและพูดกับตัวเอง

             เธอเดินออกไปที่ดาดฟ้าเรืออีกครั้งนึง โจรสลัดมุงดูบางอย่างอยู่ อัลสังเกตเห็นเธอจึงเรียกเข้าไป เบลกลับมาแล้วล่ะ

             กลับมาแล้ว? แสดงว่าออกไปไหนมาจริงๆ สินะ หญิงสาวถอนหายใจและคิดอย่างโมโห พยายามแทรกเข้าไปในกลุ่มที่รุมนกน้อยอยู่

             เก่งมากเลย เจ้าน่ามาเป็นสายสืบ ตำแหน่งเดียวกับฮอคซ์

             เยี่ยมจริงๆ เบลมาอยู่นี้สองวันก็บุกไปเรือโจรสลัดที่เยี่ยมอย่างริชาร์ดแห่งท้องทะเลเลยนะเนี่ย แถมไม่เป็นอะไรเลยด้วยน้ำเสียงที่ชื่นชมทิงกาเบล กลับดูถูกโอลิเวอร์ ฮอคซ์ แต่ดูท่าทางเขาไม่สนใจอะไรกลับมองเธอด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มนิดๆ

             เอเวียน่าแหวกไปถึงจนได้ เจ้านกน้อยเคยบอกว่าเธอทำอะไรไม่ชอบปรึกษาและทีตัวเองล่ะ...

             ทิงกาเบลหันมาหาเธอแล้ว รอยยิ้มเกิดขึ้นและก็ต้องหุบลงแทบจะในทันที นกน้อยมองสายตาเอเวียน่าอย่างหวาดๆ แล้วก็หันหลังกลับอย่างช้าๆ ถึงรู้ว่าจะหนีไม่พ้นก็เถอะ

             โจซีฟีเน่…” ผู้ที่กำลังจะหนีความผิดหันกลับมาอย่างช้าๆ ตามเสียงเรียก เอเวียน่าสูดหายใจลึกๆ

             เจ้าไปไหนมาไหนทำไมไม่บอกข้า! มันไม่ตลกเลยซักนิดที่เจ้าบุกไปที่เรือนั้นโดยลำพัง! จะบ้าเหรอไง!” หญิงที่เหมือนบุรุษบัดนี้กลายเป็นยักษ์ตัวโตมหึมาในสายตาของโจซีฟีเน่

             แต่ข้าแค่...ผู้ถูกต่อว่าทำตัวให้เล็กกระจิดริดพยายามเถียงยักษ์ใหญ่

             ไม่มีแต่ เจ้ารู้มั๊ยว่าข้าเป็นหะ... เธอรีบหยุดก่อนคำว่า เป็นห่วงจะหลุดออกไปแต่ดูเหมือนว่าสายไปเสียแล้ว

             โจซีฟีเน่ทำตาลุกวาวเจ้านายเป็นห่วงเธอ น่าดีใจจริงๆ ดีใจจังที่ท่านเป็นห่วงข้า มันพูดด้วยรอยยิ้ม

             ข้าบอกเหรอว่าข้าเป็นห่วงเจ้า น้อยๆ หน่อย เอเวียน่ารีบแก้ตัว แต่เจ้าทิงกาเบลไม่ฟังได้แต่ยิ้มหน้าระรื่น

             เอาล่ะเบล เจ้าก็กลับมาแล้ว นายของเจ้าก็จะได้หยุดลุกลี้ลุกลนซักที ข้าเชื่อแน่ว่าถ้าเจ้ามาช้ากว่านี้อีกแป๊บเดียวล่ะก็ เอเวียน่าคงรีบเผ่นลงเรือไปหาเจ้าเป็นแน่ อัลพูด

             เจ้างี่เง่า ข้าไม่ได้บอกว่าเป็นห่วงซักหน่อย เอเวียน่าคิดอย่างโมโหทั้งๆ ที่ในใจเธอกลับคิดในสิ่งที่ตรงกันข้าม แน่นอน...เธอต้องเป็นห่วงเบลอยู่แล้ว

             อัลจัดการลูกเรือให้แยกย้ายออกไปทำงานเดิมของตนภายในเวลาไม่นานนัก ก่อนที่เขาจะหันมาสนใจเธอ คลิฟท์บอกว่าเจ้ายังไม่กินข้าวเช้า ชายหนุ่มกล่าวขึ้น

             ก็ อะ...อืมเอเวียน่าพูดตะกุกตะกัก

             ไม่หิวบ้างหรือไง อัลถาม หรือว่าอาหารที่นี่ดีเกินไป เขากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มๆ

             แย่สุดๆ ต่างหากล่ะ เจ้าเก็บไว้กินเองเถอะ อาหารดีๆ แบบนั้น เอเวียน่าตอกกลับ

             อัลเลิกคิ้วอย่างยั่วโมโห ผลไม้ไหมล่ะ เขาโยนแอบเปิ้ลลูกสีเขียวมาให้

             เอเวียน่ารับแทบไม่ทัน เจ้าเอามาจากไหน เธอถาม ท้องร้องออกมาเบาๆ อย่างหิวโหย

             กินซะสิ เดี๋ยวเราต้องปะทะกับเรืออีกลำ เจ้าจะได้มีแรง เขาพูด แล้วเดินจากไป

             เอเวียน่ามองตามหลังของชายผู้นั้น ความจริงไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ เธอพึมพำ กัดแอบเปิ้ลที่ให้รสหวานเปรี้ยวด้วยความรู้สึกแปลกๆ

             แล้วเจ้าก็น้อยก็เข้าเผชิญหน้ากับเธอ นายท่านโกรธข้ารึเปล่า โจซีฟีเน่ถามน้ำเสียงอ้อนวอน

             เธอเหลือบตามอง โกรธ แล้วตอบสั้นๆ

             ไม่เอานะนายท่านอย่าโกรธข้าเลยได้โปรดเถอะ ทิงกาเบลกุมมืออ้อนวอนอย่างน่าสงสาร

             หน้าของเอเวียน่ามีรอยยิ้มบางๆ ทำให้ผู้อยู่ตรงหน้ารู้สึกโล่งใจ ข้าโมโหหิวมากกว่ามั้ง แล้วไหนล่ะข้อมูลที่เจ้าหามาได้เธอถามหาสาเหตุที่เจ้าตัวดีหายไปด้วยสีหน้าปกติ

             ทิงกาเบลยิ้มออก อย่างน้อยเจ้านายก็สนใจที่จะฟังงานเสี่ยงตายของเธอ คืองี้นายท่าน ริชาร์ดแห่งท้องทะเลเป็นชายแก่ราวสามสิบแล้วล่ะ น่าจะเป็นเป้าหมายของงานที่เกาะเอร์ซิลด้วยนะ ข้าว่า แล้วลูกเรือของเขามีฝีมือกันทั้งนั้น มีหลายตำแหน่งแยกๆ กันราวกับเป็นกรมทหารเลยล่ะท่าน มือขวากับมือซ้ายเก่งเรื่องการรบทุกชนิด และในเรือของเขานะยังมีทั้งนักดนตรี กุ๊กฝีมือเยี่ยม ทุกอย่างสุขสบายไร้ที่ติจริงๆ มันอธิบายรวดเดียว

             เว่อร์ล่ะซิไม่ว่า เอเวียน่ากล่าว แล้วไอ้เจ้ามือขวากับมือซ้ายเนี่ย มันเก่งแค่ไหนเชียว

             อืม...ว่ากันว่า กัปตันเรือแทบจะไม่ต้องออกคำสั่งเลยล่ะนายท่าน

             เก่งมากซินะ เธอกัดแอบเปิ้ลลูกเขียวในมือ อย่างนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย ข้าอยากรู้เสียจริงๆ ว่า เจ้ากัปตันที่ไม่ยอมทำหน้าที่นั้นจะเก่งซักแค่ไหนเชียว สายตาของหญิงสาวที่เคยเป็นสีชากลับเข้มขึ้นจนดูคล้ายกลายเป็นสีส้มที่น่าหวาดกลัว

     

             เวลาผ่านไป เร็วเหมือนโกหก พระอาทิตย์กำลังจะตกลงไปในเส้นขอบฟ้า ท้องฟ้าเป็นสีส้มสดใสของยามเย็น แต่ไม่มีใครซักคนนั่งชมความงามของตะวันที่กำลังจะตกดิน ในเรือราฟาเอลว์เงียบกว่าเดิม ทุกคนเหมือนอยู่ในมนต์ของความบรรยากาศแห่งความกดดัน พวกเขารออย่างใจจดใจจ่อ ไม่มีการสังสรรค์ หรือการร้องรำทำเพลง ทุกคนพยายามรวบรวมสมาธิไว้ให้มากที่สุด เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงเรือที่กระแทกลูกคลื่นแต่ละลูกเท่านั้น

             ที่รังกาต้นหนบิลเลียมถือกล้องส่องทางไกลไว้ตลอดเวลาเขาส่องไปทั่วทุกทิศ โอเอลก็เป็นคนหนึ่งที่คอยสับเปลี่ยนกับเพื่อนข้างกาย

             กัปตัน รองกัปตันสองคนคือคลิฟท์และไรอัล ผู้ช่วยกัปตันคริซโตเฟอร์และโอลิเวอร์ ฮอคซ์ และลูกเรือทั้งหมด ทุกคนมีอาวุธครบมือ ประจำที่ของตัวเองภายใต้ความเงียบสงบ รอสัญญาณบางอย่าง...

             ต้นหนคนเก่งส่งสัญญาณโบกมือให้กัปตันเบาๆ

             ทางสิบเอ็ดนาฬิกา ทุกคนอยู่ในความเงียบไว้ กัปตันราฟาเอลว์กล่าวเบาๆ อย่างผู้นำที่มีอำนาจ ทุกคนเพียงหันมามองผู้นำของเขา และหันไปสนใจมหาสมุทรกว้างต่อ...มีบางอย่างกำลังเข้ามา

             อัลหันไปหาคริซโตเฟอร์ที่บังคับเรือ นายขับไปช้าๆ อัลกล่าวเบาๆ

             ผู้รู้แห่งราฟาเอลว์เหลือบตาอย่างโกธรเคือง

             อัลต้องรีบแก้ตัว โทษทีๆ นาย เอ้ย...เธอขับไปช้าๆ ล่ะกัน คริซยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วหันหน้าไปที่หน้าเรือต่อ

             เอเวียน่าเป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ กัปตันหนุ่ม เธอไม่สนใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากนักหรอก ที่เธอสนใจน่ะ คือริชาร์ดแห่งท้องทะเลกัปตันของเรือนั้นต่างหากล่ะ

             เจ้าอยู่นิ่งๆ นะ อัลสั่ง ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น

             แต่...

             ฟังข้า! เชื่อข้า! ได้ยินมั๊ย อัลสั่งเด็ดขาดพยายามให้เสียงของเขาเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

             เอเวียน่าไม่เถียง เถียงไม่ออกมากกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมฟังคำนั้น เรื่องอะไรข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย เธอคิดประชดอยู่ในใจ คอยดูซิ

             ตะวันลับตาไปแล้วความมืดเข้าครอบงำ ตอนนี้มองเห็นเรือลำหนึ่งอยู่ในระยะสายตาไม่ไกลมากนัก เอเวียน่าสังเกตลูกเรือราฟาเอลว์อาวุธทุกชิ้นอยู่ในมือพวกเขา ทุกคนเล็งไปที่เรือเป้าหมาย กัปตันราฟาเอลว์ดวงตาของเขาจ้องมองที่เรือริชาร์ด นัยน์ตาของเขามีความแน่วแน่มั่นคง เอเวียน่าคิดว่าอัลคงกำลังหาจังหวะบางอย่างอยู่ เธออยากรู้จริงๆ ว่าเขาจะกะจังหวะได้ดีแค่ไหน

             เรือนั้นใกล้เข้ามา เข้ามา

             ทำไมเขาถึงไม่โจมตี เอเวียน่าคิด ทำไมริชาร์ดถึงเสี่ยงมาเข้าใกล้เรือที่ไม่รู้จักง่ายๆ แบบนี้...โง่จริงๆ

             เรือเข้ามาใกล้ในระยะที่สามารถมองเห็นได้แล้ว รอยยิ้มเกิดที่มุมปากของชายหนุ่ม และ...

             ยิง!” อัลตะโกนสุดเสียง

             ปัง!’ เสียงปืนใหญ่ดัง ลูกปืนใหญ่โดนเรือเป้าหมายเต็มๆ เป็นสัญญาณเริ่มโจมตี ลูกเรือที่อยู่ใกล้เชือก คว้าเชือกและบุกเข้าไปในเรือฝ่ายตรงข้าม เสียงดาบดังมาเป็นจังหวะของการต่อสู้ คนที่อยู่ในเรือ เล็งตัวฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามาใกล้ และยิงปืนใส่ลูกเรือในเรือริชาร์ดแห่งท้องทะเล

             ไม่ต้องตาย ขอแค่ขยับไม่ได้...

             ราฟาเอลว์ไม่เน้นฆ่าฟัน...แต่ชอบการปะทะ ชอบความท้าทาย

             สายเชือกระโยงระยางจากเรือฝ่ายตรงข้ามเริ่มบุกเข้ามา ลูกเรือราฟาเอลว์ที่ถือดาบอยู่ก็เข้าหาคนเหล่านั้นทันที เคร้ง!’ เสียงดังปะทะกันทำลายความเงียบสงบเมื่อครู่นี้จนหมดสิ้น

             ปัง!’ เสียงปืนใหญ่ฝ่ายตรงข้ามดัง ลูกปืนเจาะเข้าที่ท้องเรือ เรือเครงไปด้านหนึ่ง ฟิลิป! ชาร์ลี!” อัลร้องเรียกแข่งกับเสียงที่ดังโหวกเหวก พวกเจ้าไปดูท้องเรือ!” คำสั่งตามมา ทำให้ทั้งสองรีบจัดการคู่ต่อสู้ แล้วทำตามคำสั่งทันที ทีต! ยิงอัดปากปืนลูกหนึ่ง อีกลูกเล็งไปที่ท้ายเรือ ธีอะดอร์เป็นคนดูแลปืนใหญ่ เขารีบปฏิบัติตามคำสั่งทันที

             คลิฟท์ยิงลูกปืนจากด้านบนโดนผ้ารัดหน้าผากของลูกเรือฝ่ายตรงข้ามพอดี อัลนายเอาไงต่อ เขาหันมาถามกัปตัน

             นายกับคริซไปเจรจา ข้าไม่ต้องการให้เรือข้าเสียหาย อัลกล่าว

             คลิฟท์พยักหน้า คริซโตเฟอร์ปล่อยพวงมาลัยบังคับเรือ และวิ่งไป

             ข้าไป...เอเวียน่าไม่อยากอยู่นิ่งๆ

             เจ้าอยู่นี่!” อัลสั่งพร้อมกับคว้าพวกมาลัยบังคับเรือมาถือเอาไว้

             แต่เจ้าหล่อนไม่ฟังอะไรทั้งนั้น กระโดดลงจากตรงนั้นไปเบื้องล่างที่ลูกเรือกำลังต่อสู้กับศัตรูอยู่

             เฮ้!” เสียงอัลตามมา

             เอเวียน่าไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เธอรู้ว่าเขาลงมาจากตรงนั้นไม่ได้แน่ๆ เขาต้องบังคับเรือและสั่งลูกเรือด้วย หญิงสาวซัดไปสองแย่งดาบมาได้เล่มนึง แล้วเอเวียน่าก็เห็นลูกเรืออีกฝ่ายกำลังเงื้อดาบหมายจะฆ่าคนที่ไม่มีทางสู้เบื้องล่าง แน่นอนว่าต้องเป็นลูกเรือฝ่ายราฟาเอลว์ เอเวียน่าแทงเข้าด้านหลังอย่างไม่ลังเล ชายผู้นั้นหล่นตุบ

             เจ้า!” ชายหนุ่มผู้ที่เอเวียน่าช่วยเหลือ เป็นคนสุดท้ายที่เธอคิดจะเป็นมิตรด้วย

             ครีล์ เอเวียน่าคิ้วขมวด เจ้าไม่น่าแพ้ง่ายๆ เลยนี่เธอกล่าว โยนดาบให้ เขารับไว้ เจ้าหมาป่าตัวสีน้ำตาลออกมาจากหลังของชายหนุ่มผมดำ

             เจ้าช่วยเก็บฟริงค์ไปหน่อยได้ไหม...เอ่อ... เขาลังเลจะพูด ...เอเวียน่า

             เจ้าหล่อนยิ้ม ดึงตัวเจ้าหมาน้อยเข้ามา ระวังตัวหน่อยล่ะ เธอกล่าว

             ครีล์ลุกขึ้นและแทงเข้าที่เหนือไหล่เอเวียน่า ตึง!’ โจรสลัดด้านหลังเธอล้มลง เธอเกือบไปแล้วไหมล่ะ เจ้าต่างหากที่ต้องระวังตัวแล้วชายหนุ่มก็รับดาบศัตรูเข้าอีกดาบ

             เอเวียน่ารีบหลบจากสถานการณ์ทันที เธอไปส่งฟริงค์ไปใต้ท้องเรือก่อนที่จะข้ามไปอีกฝั่ง...สู่เรือของริชาร์ดแห่งท้องทะเล

     

     

    */*/*/*/*/*/**/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*


    To be Continue
    OPEN AGAIN 08/05/2011


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×