ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Treasure Magic ผจญภัยขุมทรัพย์แห่งเวทมนตร์

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 - ราฟาเอวล์

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 54


    ---ocean---

             เจ้าต้องการอะไร อัลถาม หลังจากที่บรรยากาศรอบๆ นิ่งเงียบไป ดูเหมือนโจรสลัดตรงหน้าต้องการให้เธอตอบว่าทำไมถึงเลือกมาเป็นพวกเขา ทั้งที่ตอนแรกปฏิเสธ สีหน้าของอัลดูแตกต่างจากเมื่อครู่ เขาดูจริงจัง และไม่เหมือนคนที่ดื่มเบียร์ไปหลายแก้วเลยซักนิด แล้วก็มีเสียงร้องดังออกมาจากโจรสลัดกลุ่มหนึ่ง พวกเขาหันไปมองทันที ชายคนหนึ่งกำลังถอดเสื้อโชว์สาวบริการ ที่ร้องหวีดว้ายอย่างตื่นเต้น

             เดี๋ยวข้าจัดเอง เพื่อนตัวล่ำสันพูดขึ้น และเดินออกไป ชายผมบลอนด์ตามไป ทั้งคู่คงไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเจรจา

             ...หาที่คุยเงียบๆ หน่อยมั๊ย เสียงชายหนุ่มพูด เรียกร้องความสนใจของหญิงสาวให้ละสายตาไปจากภาพเมื่อครู่ แล้วเอเวียน่าก็เดินตามชายผู้นั้นไป เขาเลือกสวนพฤกษาที่อยู่หลังโรงแรม อัลนั่งที่ริมกระถางพุ่มไม้ต้นหนึ่ง ข้างหลังเขามีแสงไฟลอดผ่านกำแพงสูงจากในเมืองที่ครึกครื้นในยามราตรี

             เอเวียน่าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าอัล เธอมองชายผมแดงเพลิง สายตาของเขามองออกไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งเหมือนไม่ใส่ใจเธอ เอเวียน่ารอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอัลจะละสายตาไปจากต้นไม้ต้นนั้นเลย เธอเลยตัดสินใจพูดขึ้นก่อน

             ข้าต้องการให้เจ้า... ชายหนุ่มยกมือเป็นเชิงปราม

              อะไร เธอถาม

             ชู่ อัลส่งเสียงบอกเธอ เจ้าเงียบซักพักได้มั๊ย

             เอเวียน่าทำตามอย่างว่าง่าย เธอมองไปที่ต้นไม้ใหญ่เพื่อค้นหาว่าชายผมสีแดงเพลิงกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ แต่ที่นั่นก็ไม่มีอะไรนอกจากเสียงใบไม้ และแมลง หญิงสาวกลับมามองมาที่ชายผู้นั้น ตอนนี้สายตาของเขามองมาทางเธอแล้ว

             เอาล่ะ เจ้าว่าอะไรนะ อัลถามในที่สุด เอเวียน่าหรี่ตามองเขาด้วยความสงสัย

             เมื่อกี้นี้เจ้าทำอะไร เธอถาม

             ฟังเสียง อัลตอบถ้วนๆ และมองเธอที่หรี่ตาลงอีก เอาเถอะน่า ไม่ใช่เรื่องของเจ้าซักหน่อย เราต้องคุยกัน...เรื่องอะไรนะ อ๋อ...ใช่!” สายตาที่จริงจังของอัลกลับมาอีกครั้ง...เจ้าต้องการอะไร

             เอเวียน่าถอนหายใจ            ข้าอยากติดเรือเจ้าไป...ก็แค่นั้นแหละ และข้าจะเป็นลูกเรือที่ดีตลอดทางเลยข้าสัญญา เธอกล่าว

             อัลเลิกคิ้ว ขอโทษเจ้าหนุ่ม ข้าเป็นโจรสลัดไม่ใช่นักเดินเรือ ถ้าเจ้าอยากไปเกาะอื่นล่ะก็จอห์น...เจ้าควรไปหาเรือแถวท่านะ เขาพูด เอเวียน่าทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง ที่ข้าชวนเจ้าเป็นโจรสลัด ก็คือต้องการให้เจ้าเป็นโจรสลัดไม่ใช่ผู้ที่อาศัยเรือโจรสลัด อัลกล่าวราวกับรู้สิ่งที่เธอคิด เขาพูดได้ถูกต้องเธอจึงเงียบไป ชายหนุ่มถอนหายใจ จ้องมองเธอ และการเป็นโจรสลัดไม่ใช่จะเลิกได้ง่ายๆ หากเจ้าเป็นแล้ว... อย่างน้อยคนส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ข้อมูลของตัวเองโดยเปล่าๆ จอห์น ข้าขอบอกไว้ก่อนนะหากเจ้ามาเป็นโจรสลัดในเรือข้าแล้ว ภายหลังถ้าเจ้าจะขอเลิกข้าจะฆ่าเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่โจรสลัดส่วนใหญ่จะทำแน่ๆ อัลกล่าวราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่โจรสลัดจะฆ่าเพื่อนโจรสลัดด้วยกัน

             เอเวียน่าเงียบไปพักนึง “…หมายความว่าเจ้าจะไม่รับข้าเป็นผู้ร่วมเดินทางงั้นสิ เธอกล่าว หมายความว่าเจ้าเลิกล้มความคิดที่จะชวนข้าไปเป็นพวกของเจ้าแล้วงั้นสิ เอเวียน่าย้ำ เธอเชื่อว่าชายผู้นี้ไม่มีทางที่จะเลิกล้มความคิดง่ายๆ แน่ เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองเป็นที่หนึ่งเลยล่ะ

             อัลใช้ความคิด เจ้าจะไปที่ไหน เขาพูดออกมา ท่าทางยังคิดหาข้อโต้แย้งไม่ออก

             เซลซิล เอเวียน่าตอบอย่างมั่นใจ ...หมู่เกาะเอร์ซิล”

             อัลเบิกตาโพล่ง เจ้าบ้าไปแล้ว เขาพึมพำแต่เอเวียน่ายังทำหน้านิ่งสงบ ไม่มีใครจะเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นหรอกรวมทั้งข้าด้วย

             นั่นมันเจ้า ไม่ใช่ข้า

             อัลลูบหัวอย่างใช้ความคิด และถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ วันนี้ข้าฟังเรื่องงี่เง่าอย่างนี้มารอบนึงแล้ว ชายหนุ่มไม่นิ่งเหมือนเคย ส่ายหัวไปมาอย่างระงับอารมณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าจะไปทำอะไร...คงไม่ใช่ไปเป็นกุ๊กหรอกนะ

             เอเวียน่าคิด เรื่องงี่เง่า?...จะรอบหนึ่งหรือรอบสองมันก็เป็นข้าทั้งนั้นแหละ เจ้าไปเอาอาชีพนั่นมาจากไหน หญิงสาวแกล้งพูดทั้งที่รู้อยู่เต็มอก จะใครเล่าหากไม่ใช่เธอ ข้าจะไปทำอะไรมันก็เรื่องของข้า เธอขยับเสื้อคลุมให้กระชับขึ้น

             อย่าตอบแบบเดียวกันได้มั๊ย อัลร้อง เขาไม่ได้สบตาเธอเหมือนเช่นเดิม ข้าว่าแล้วว่าหล่อนเหมือนใคร เจ้ามีพี่น้องเป็นผู้หญิงรึเปล่า เขาหันมาถามเธอ

             ไม่นี่ เอเวียน่าตอบ สีหน้าไม่สื่ออะไร เธอรอจนคนตรงหน้านิ่งอีกครั้งหนึ่ง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด แต่แค่ลำบากใจเท่านั้น แล้วข้าก็มีข้อต่อรองกับเจ้านิดหน่อย ตอนนี้อัลหันมาสบตาเธอแล้ว

             บอกข้อแม้ของเจ้ามา

             เอเวียน่ายิ้มอย่างนักธุรกิจ ข้าจะจ่ายค่าเดินทางให้จนถึงเอร์ซิล มันคงไม่น้อยแน่ๆ ข้ารู้...แล้วข้าจะเป็นลูกเรือที่ดีตลอดทาง แค่เจ้าส่งข้าให้ถึงเอร์ซิลก็พอ เธอกล่าว ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้

             ...แล้วข้อแม้ของเจ้าล่ะ

             อัลใช้เวลาคิดซักพักนึง ...ก็ได้จอห์นข้าตกลง แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนข้าจะยอมรับรึเปล่า เขายื่นมือมา ข้ายังไม่รีบออกเดินทางยังอยู่ที่นี่อีกซักสองสามวัน เจ้ามีเวลาที่จะเปลี่ยนใจมาเป็นพวกข้าได้นะ เขายิ้ม

             เอเวียน่ารู้ว่าอัลไม่ได้โง่ และเป็นคนที่ประมาทไม่ได้ เขายังไม่ได้บอกข้อต่อรองกับเธอ และที่ชายหนุ่มยังอยู่ที่นี่ต่ออาจเพราะว่า ยังอยากเจอแม่สาวเอเวียน่ารึไง แต่เจ้าไม่มีทางได้เจอหรอก เพราะเธอไม่มีตัวตน เธอคิด เธอคือข้าเอง เอเวียน่าจับมือของอัล หวังว่าจะได้รับใช้ท่าน...กัปตัน เธอปล่อยมือแต่ว่า...

             อัลยังจับมือเธอไว้ และมันก็แน่นมากเสียด้วย ข้าเปลี่ยนใจแล้วรอยยิ้มระบายบนใบหน้า เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า ว่าแล้ว เขาคลำข้อมือเธอ

             เจ้าโรคจิตเหรอไง เอเวียน่าต่อว่าและเจ้าหมายความว่าไงที่บอกว่า...เฮ้ย!” เธอร้อง อัลดึงเธอเข้ามากอด เขาคลำคอ เลยมาถึงหู ชายหนุ่มดึงต่างหูของเธอออกและผลักหญิงสาวไป เจ้าทำอะไร อุ๊บ’” เสียงเธอแหลมขึ้นมาทันทีจนเธอต้องปิดปากเอาไว้

             อัลมองดูต่างหู และหันมามองเธอ ใช่จริงๆ ข้าโง่อยู่ตั้งนาน ใครจะเหมือนกันขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นคนเดียวกัน อัลเดินเข้ามาหาเธอ เอเวียน่าหยุดอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน ข้าก็สงสัยว่าทำไมเจ้าถึงชอบใส่เสื้อคลุมนัก ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ถึงผมจะสั้นแต่ท่าทางน่ะเจ้าแน่ๆ เอเวียน่า

             ผู้ถูกกล่าวด้วยชื่อจริงแย่งต่างหูจากมือของอัลมา เขายิ้ม

             “…ข้อแม้ของข้าคือเจ้าต้องเป็นตัวเจ้าเองบนเรือข้า…” อัลกล่าว “…และก็หวังว่าจะเจอเจ้าพรุ่งนี้เช้าที่ท่าเรือนะ...สาวน้อยเขากล่าวแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว

             เพียงครู่เดียวที่เอเวียน่ารู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า ตอนนี้ชายผู้นั้นรู้ความลับของเธอซะแล้ว แม้ไม่อยากยอมรับแต่ตอนนี้เขาอยู่เหนือเธอ ความรู้สึกของหญิงสาวรู้สึกเป็นรองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อย่าคิดว่าเจ้าชนะนะ ข้าไม่ยอมแพ้หรอก เธอคิด

             ข้าจะอยู่บนเรือนั้นได้นานมั๊ยน้า...เฮ้อ เธอถอนหายใจ

     

             เช้าวันรุ่งขึ้นทิงกาเบลและเอเวียน่าตื่นแต่เช้า ระหว่างทางที่เธอจะไปท่าเรือโจรสลัดเอเวียน่าได้เข้าไปในร้านหนังสือพิมพ์ และสั่งให้หนังสือพิมพ์ของโอเชี่ยนนิวส์ไปส่งเธอทุกวัน เอเวียน่าไม่อยากพลาดข่าวสารและไปลอยเคว้งอยู่กลางทะเลบนเรือโจรสลัดโดยที่ไม่รู้ว่าจะถึงจุดหมายเมื่อไร

             ทีตอนเดินเรือครั้งก่อนๆ ท่านไม่เห็นต้องอ่านหนังสือพิมพ์เลยนี่น่า เบลถามเอเวียน่าเมื่อเธอเลือกหนังสือพิมพ์อยู่

             ก็นั่นข้าไม่ได้ไปกับโจรสลัดนี่ แล้วข้าก็ไม่รู้ด้วยว่าหมอนั่นจะปล่อยข้าลงเอร์ซิลเมื่อไร อาจพาลอยกลางทะเลอยู่สี่ห้าเดือนก็ได้ เอเวียน่ากล่าวระหว่างที่ตาไม่ละไปจากคนขายเลือกหนังสือพิมพ์

             หลังจากที่ออกจากร้านหนังสือพิมพ์แล้ว เธอก็มุ่งหน้าไปท่าเรือทันที การหาเรือโจรสลัดของอัลไม่ใช่ง่ายๆ เนื่องจากมีเรือโจรสลัดอยู่ที่นั่นเต็มไปหมด เอเวียน่าจึงค่อยๆ เดินดูตั้งแต่ต้นท่าเรือ

             นายท่าน ทำไมท่านถึงแน่ใจว่าอัลไม่ได้คิดจะทำร้ายท่าน เบลถามระหว่างทาง ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าท่านเป็นผู้หญิง

             เอเวียน่าหันมามองนกน้อย ข้าไม่ได้มั่นใจในนิสัยของผู้ชายอย่างหมอนั่นหรอก แต่มั่นใจในฝีมือของข้ามากกว่าว่าไม่มีผู้ชายหน้าไหนกล้าทำอะไรข้าเจ้ายิ้มอะไร เธอถามเจ้านกน้อยที่ยิ้มขณะมองเธออยู่ตลอดเวลา

             มันยิ้ม ก็นายท่าน...เป็นผู้หญิงเอเวียน่าเลิกคิ้ว ไม่ใช่อย่างนั้นคือว่าข้าหมายความว่า...เอ่อคือ...ปกติท่านจะมี เอ่อ เสียงเป็นผู้ชายน่ะ

             เอเวียน่าเงียบไปซักพัก ข้าว่าเป็นผู้ชายดีกว่าอีก ข้าไม่ชอบเลย ตัวข้าออกจะเหมือนผู้ชายขนาดนี้...

             ไม่หรอกท่าน ท่านเป็นผู้หญิงก็ดูน่ารักดี

             ฮึ...ขอบใจ เอเวียน่าหัวเราะ นกน้อยหน้าแดงขึ้นมา พอเดินไปอีกซักพักนึง เธอก็เจออัลรออยู่ ชายหนุ่มยิ้มซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ควรได้รับการตัดเยื่อใยที่สุดในสายตาเธอ แน่นอนว่าเอเวียน่าไม่ยิ้มตอบให้เสียเวลา

             ด้านหลังของเขาปรากฏเป็นเรือโจรสลัดขนาดกลาง เรือสี่เสา ตัวเรือเป็นไม้สนอย่างดีหนาและท่าทางแข็งแรง เป็นเรือที่ดูไม่เก่ามากนักน่าจะผ่านการใช้งานมาเพียงไม่กี่เดือน ลูกเรือหลายนายกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง ลำเลียงของเข้าสู่ดาดฟ้าเรือ

             ไง ตื่นเช้านี่ อัลทักทายด้วยรอยยิ้มกว้าง เจ้ามองข้าอย่างกับบังคับให้เจ้าขึ้นเรือมาอย่างนั้นแหละ

             เรือของเจ้ากี่ปีแล้วล่ะ เอเวียน่าไม่ใส่ใจคำพูดที่อาจทำให้เธออารมณ์ไม่ดีแต่เช้า

             ถ้าเจ้าจะหลอกถามว่าข้าเป็นโจรสลัดมากี่เดือนแล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่าเพิ่งจะครบหกเดือน ชายผู้เป็นกัปตันเรือตอบ หญิงสาวเดาได้ง่ายๆ ว่าเขาเป็นกัปตันตั้งแต่เธอเห็นโจรสลัดท่าทางเคารพเขาที่บาร์วันนั้น ถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่ยอมบอกว่าเขาเป็นกัปตันเรือ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

             หญิงสาวถอนหายใจ งั้นหมอนี่ก็เป็นก็โจรสลัดที่ไม่มีค่าหัว เธอคิด ปกติแล้วโจรสลัดจะมีค่าหัวมากๆ มักจะเป็นโจรสลัดที่มีประวัติการเดินเรือเกินสองปีขึ้นไป พวกที่ยังไม่ถึงปีจะถูกปล่อยให้เร่ร่อนไปเรื่อยๆ และคอยให้โจรสลัดที่เก่งกาจคนอื่นๆ ที่มีประวัติในทางการทหารเรือและกรมตำรวจทะเล ฆ่าแทนที่พวกเขาจะต้องเหนื่อย ถ้าจะฆ่าก็คงไม่ได้เงินเท่าไร เอเวียน่าพึมพำ

             อย่าคิดฆ่าข้าแหละดีที่สุด อัลกล่าว ข้าเป็นกัปตันนะ

             ในที่สุดอัลก็ยอมรับออกมา แต่หญิงสาวไม่สนใจ อ๋อ...ใช่ อย่างน้อยฆ่าเจ้าก็ยังได้เรือ เอเวียน่าพึมพำอีกรอบ

             เจ้าคิดอะไรให้มันเบาๆ หน่อยได้มั๊ย เอเวียน่า

             ร่างบางหันขวับ เธอไม่ชอบให้เขาเรียกเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้น

             แต่ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ อ๋อ...แล้วเสื้อคลุมเจ้าน่ะ ข้าแนะนำให้ถอดออกดีกว่า อัลปีนเชือกที่โยนลงมาจากเรือ

             ขึ้นเรือได้แล้วล่ะ...มาสิ เขาส่งมือให้ ทิงกาเบลเปลี่ยนร่างเป็นนกแล้วเกาะที่ไหล่ของเอเวียน่า

             เจ้าใช่...เทพซีซัต...ใช่ไหม เจ้าขึ้นไปก่อนก็ได้นะ จบคำทิงกาเบลสีเหลืองทองก็บินขึ้นไปเกาะอยู่บนขอบเรือและหายไปจากสายตาเอเวียน่า ตาเจ้าแล้ว มาสิ อัลขยับมือเป็นเชิงเร่ง

             คนถูกเร่งมองตามกราบเรือที่นกน้อยหายไป ...ทำไมข้าไม่บินได้เหมือนนกนะ เธอคิด ข้าปีนเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งเจ้า เอเวียน่าหันมากล่าวกับอัล

             กัปตันหนุ่มมองเธออย่างสงบ ข้ารู้ว่าถ้าเจ้าบินได้ เจ้าก็บินไปแล้ว แต่นั่นแหละปัญหา...เจ้ามีปีกรึเปล่า

             ไม่ เอเวียน่าตอบสงสัยว่าทำไมเขาถึงถาม ทั้งๆ ที่น่าจะรู้

             เจ้าเคยขึ้นเรือโจรสลัดรึเปล่า อัลถามอีก

             ไม่

             เจ้าเคยปีนเชือกเส้นเดียวบนเรือโจรสลัดรึเปล่า อัลเริ่มพูดอย่างช้าๆ

             ไม่!”

             แล้วเจ้าเคยตกหัวฟาดท่าเรือ หรือหัวคะมำบนพื้นเรือตอนขึ้นครั้งแรก หรือจับเชือกไม่ดีแล้วลื่นไถลตกน้ำรึเปล่า

             ก็ไม่นี่ เธอตอบคำตอบเดิม เจ้าถามทำไม

     

             อัลหลับตา เอามือมา เขาสั่งด้วยน้ำเสียงปกติ

             ไม่! ข้าบอกแล้วว่าข้าปีนเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชายอย่างเจ้าเอเวียน่ากล่าว เจ้าถอยไปสิ

             ชายหนุ่มปล่อยเชือก เขาเสยผมขึ้นไปอย่างเหนื่อยใจ ทำไมเจ้าถึงดื้อด้านอย่างนี้ อัลกล่าว ในเมื่อเจ้าบินไม่ได้ ไม่เคยขึ้นเรือโจรสลัด และไม่เคยปีนเชือกเส้นเดียวบนเรือโจรสลัดแล้วล่ะก็ หัดฟังข้าบ้าง อัลยังคงเก็บอารมณ์ไว้อยู่

             กัปตันเราทิ้งท่านแล้วนะคร้าบ เสียงดังมาจากบนเรือ

             จะขึ้นไปเดี๋ยวนี้แหละคิว อัลหันไปตะโกนกับบนเรือ เอาล่ะ...ส่งมือมา อัลพูดและคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะพูดแบบนี้อีกในวันนี้

             ไม่!!” เอเวียน่ายืนยันคำตอบเดิม เจ้าถอยไปซิ ข้าจะขึ้นเอง อัลถอนหายใจ เอเวียน่าผ่านตัวเขาไปที่เชือกเธอจับเชือกให้กระชับมือและเตรียมตัวปีน แต่... ยังไม่ทันที่จะได้ปีน แขนข้างหนึ่งก็โอบรอบตัวเธอ

             เฮ้ย!” เธอร้อง ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า

             อัลโอบตัวเธอพาดบ่าเขาแล้วปีนขึ้นไปอย่างง่ายดาย ให้ปล่อยเจ้าตอนนี้น่ะคิดดีแล้วเหรอ...ถ้าหากเจ้าไม่ดื้อด้านและขึ้นมาพร้อมๆ ข้าล่ะก็ ข้าคงไม่ทำอย่างนี้หรอก อัลกล่าวอย่างมีอารมณ์ เขาก้าวไปอีกสองก้าว ว่าแต่พออุ้มเจ้าอย่างงี้แล้วค่อยรู้สึกหน่อยว่าเจ้าเป็นผู้หญิงหน่อย...ฮึ อัลล้อเลียน

             เอเวียน่าหน้าร้อนผ่าวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เจ้าบ้า! ปล่อยข้านะ

             ข้าปล่อยแน่ๆ ไม่อยากอุ้มม้าพยศอย่างเจ้าไว้นานนักหรอกถ้าไม่จำเป็น อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว อัลก้าวข้ามกราบเรือไป แล้วโยนเอเวียน่าลง

             นี่เจ้า!” เอเวียน่าโมโห ทิงกาเบลบินมาเกาะไหล่เธอ

             อัลไม่สนใจเธอ เอาล่ะออกเรือ!” เขาสั่งเสียงดังสนั่นไปทั่ว มีเสียงดังครับรับคำตามมาแทบจะในทันที

             เรือสีน้ำตาลไม้แหวกผ่านผืนผ้าที่นิ่งสงบสีฟ้าอมเขียว ฟองระรอกคลื่นกระจายออกเป็นทางผ่านให้กับหัวนาวา ความโครงเครงที่ชวนมึนหัวเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เดียว ก่อนที่จะสงบลง แสดงให้เห็นถึงความชำนาญของผู้คนที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของเรือลำนี้

             หลังจากที่เรือออกมาได้ซักพักอัลก็สั่งลูกน้องอีกครั้ง เอ้า! ทุกคนมารวมกันหน่อยเร็ว ข้ามีสมาชิกใหม่มาแนะนำ

             เอเวียน่าสังเกตเห็นคนวิ่งกันมาอย่างรีบร้อน หลายคนโหนเชือกลงมาจากข้างบน บางคนก็ยังสวมผ้ากันเปื้อนดูได้ว่าอยู่ระหว่างการทำอาหาร บางคนก็หน้าตาเหมือนพึ่งตื่นนอน บางคนนุ่งผ้าผืนเดียวมาเข้าแถว แต่ถึงกระนั้นแถวก็เป็นระเบียบอย่างรวดเร็ว

             กัปตันหนุ่มเดินเข้ามาดึงเธอขึ้น ข้าขอเตือนอย่าใส่เสื้อคลุมอย่างนี้อีกมันไม่รัดกุม และเขาก็ดึงเสื้อคลุมของเธอออกไป ตัวเธอเหลือเพียงเสื้อแขนสั้นกับกางเกงขายาว

             นี่เจ้า!” เอเวียน่าพยายามเก็บเสียงให้เบาที่สุด เธอไม่แน่ใจว่าพวกโจรสลัดจะพอใจที่ผู้หญิงอย่างเธอจะเข้ามาบนเรือโจรสลัดรึเปล่า กฎของโจรสลัดที่เธอรู้ดีข้อนึงคือ ผู้หญิงคือหายนะ โดยไม่มีเหตุผล

             ไม่เป็นไร มั่นใจในตัวเองหน่อยสิอัลพูดกับเธอ เอาล่ะทุกคน ข้าขอแนะนำให้รู้จัก กับสตรีผู้นี้ เสียงซุบซิบดังขึ้นมาทันที เงียบหน่อยน่า สิ้นคำกล่าวเบาๆ ของกัปตันหนุ่ม สรรพเสียงก็ค่อยๆ เงียบลงจนสงบเหมือนดังเดิม เธอคือเอเวียน่า ขอให้ทุกคนต้อนรับเธอด้วยคำกล่าวง่ายๆ ที่ทำให้ลูกเรือนิ่งอึ้งอย่างตั้งตัวไม่ทัน เสียงร้องแสดงความยินดีและต้อนรับเธอดังขึ้นมาภายหลัง

             อัลหันมามองเธอ ดวงตาสีน้ำตาลของเขาทอประกาย เส้นผมสีแดงเพลิงสว่างตัดกับท้องฟ้า และเอเวียน่า ขอต้อนรับเจ้า...สู่เรือราฟาเอลว์ เสียงเฮดังลั่นทั่วดาดฟ้าเรือ รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของลูกเรือแต่ละคน แสดงความยินดี เคารพ และนับถือในความคิดของกัปตันตรงหน้าพวกเขา

             ที่จริงเอเวียน่าไม่ได้หวังว่า เธอจะได้รับการต้อนรับจากพวกโจรสลัดและก็ไม่คิดว่าพวกโจรสลัดกลุ่มนี้จะยินดีกับการที่เธอมายืนอยู่บนเรือลำนี้ แต่นี่มัน...

             ...เกินกว่าจะเชื่อ

             แล้วถ้าหากข้ารู้ว่าใครกล้าล่วงเกินเธอแล้วล่ะก็ อัลมีน้ำเสียงข่มขู่ดังขึ้นมาทันที ...ข้าไม่ไว้แน่...เอาล่ะแยกย้ายๆทุกคนแยกย้ายกลับไปทำงานเช่นคำสั่ง เสียงซุบซิบเรื่องเธอดังขึ้นมา

             คืนนี้ข้าต้องเตรียมตัวสำหรับปาร์ตี้รับสมาชิกใหม่ ชายคนที่ใส่ผ้ากันเปื้อนกล่าวกับเพื่อนของเขา

             ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าหล่อนจะได้ทำหน้าที่อะไร ชายหนุ่มกล่าวกับเพื่อนระหว่างเก็บเชือกบางที่อาจเป็นหน้าที่เดียวกับข้า และทีนี้ข้าจะได้เป็นรุ่นพี่

             หล่อนเป็นผู้หญิงแน่เหรอ ข้าว่าเหมือนผู้ชายมากกว่าเล่นเอาข้าสับสนไปหมดชายคนหนึ่งกล่าวอยู่ที่ริมขอบเรือ

             เอเวียน่ารู้ว่าโจรสลัดที่นี่ยินดีต้อนรับเธอดีมากเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน อาจเป็นเพราะกัปตันของพวกเขาเป็นแบบนั้น ...ผู้ชายบ้า

             ร่างบางลุกขึ้นยืน ลูกเรือ ประมาณสามสิบคน ทุกคนมีอาวุธอยู่ข้างตัว เป็นดาบบ้างปืนบ้าง อืม...น้อยไปหน่อย ส่วนสภาพเรือ เอ่อ...แล้วเอเวียน่าก็สังเกตรอบเรือโจรสลัดเป็นครั้งแรก...

             มุมเรือด้านที่เธอขึ้นมามีขวดเบียร์วางอยู่ค้างจากการดื่ม ด้านตรงข้ามมีอาหารที่เน่าแล้ววางอยู่ ตรงบันไดขึ้นจากใต้ท้องเรือมีปลาเน่าอยู่หลายตัว ตรงประตูทางเข้าห้องๆ หนึ่งมีคล้ายๆ สาหร่ายหรือตะไคร้น้ำเกาะอยู่ นั่นตรงเสาหลักเรือมีอะไรอยู่ในเชือกเต็มไปหมด และมุมอื่นๆ อีกมากมาย รก...ทำไมถึงรกอย่างนี้ เธอคิด

             เอเวียน่า มาสิข้าจะแนะนำให้รู้จัก อัลเรียกหญิงสาว เขาอยู่กับเพื่อนสองคนที่เธอเห็นบ่อยๆ ที่โรงแรม เธอเดินตามมาอย่างว่าง่าย

             นี่ไรอัล... มือของ อัลบอกว่าเป็นชายคนที่ล่ำสัน ...และก็นี่ คลิฟท์ เพื่อนผมบลอนด์ของเขายิ้ม

             ไงคุณหนู ไรอัลกล่าวแขนของเขาพาดอยู่บนขอบเรือ ข้าว่าแล้วว่าตัวเจ้าน่ะไม่มีทางเป็นผู้ชายได้หรอกน่า ดูตัวสิ แล้วเขาก็หัวเราะอย่างมีพลัง

             คลิฟท์หรี่ตาลง ข้าว่าเราเคยเจอกันแล้ว หมายความว่าตอนที่เจ้าแต่งเป็นสตรีน่ะ ใช่ไหม...เอเวียน่า เขาชำเลืองมองเพื่อนผมแดงเพลิงที่มีแววตาสงสัย และตอบคำถามโดยอัลไม่ต้องถาม เธอตกบันไดมาทับตัวข้า

             แล้วอัลก็สบตาหญิงสาว เจ้าชอบตกนู้นนี่เป็นงานอดิเรกหรือไง กัปตันหนุ่มถาม แล้วเขากับเพื่อนอีกสองคนก็หัวเราะ

             ข้าเปล่านะ เอเวียน่ากล่าว เธอรู้สึกแปลกๆ

             เอาเถอะ...ฮึ อัลหยุดหัวเราะแล้ว สองคนนี้เป็นรองกัปตัน มีอำนาจในเรือรองจากข้า ถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามเขาได้ เขากล่าวในที่สุด แล้วเขาก็พาเธอเดินไปที่อื่นต่อ

             คนต่อไปเป็นเด็กชายตัวเล็กกว่าเธอดูท่าทางอายุราวสิบสองปี สองคนนี้คือ ดิวโอกับคิวโอ ทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน พวกเขามีผมสีเงิน และดวงตาสีน้ำทะเล ดูน่ารักน่าชัง เอเวียน่ามองทั้งสองตาไม่กระพริบ

             อย่าหลงกลเชียวนะพวกนี้อายุสิบหกแล้ว อัลเตือน

             สิบหก!...จริงเหรอ!” เอเวียน่าหันมาถามอย่างไม่เชื่อ ชายผมแดงเพลิงพยักหน้า

             สองฝาแฝดมองเขาหน้าตาไร้เดียงสา พี่เอเวียน่าอายุเท่าไรล่ะ หนึ่งในสองฝาแฝดถาม

             เอ่อ ประมาณสิบหกหรือสิบเจ็ดล่ะมั้งเอเวียน่าพูดเบาๆ ไม่อยากนึกถึงสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของเธอ ทิงกาเบลมองเธอด้วยร่างของนก

             เอ่อนั้น...เทพซีซัตรึเปล่าเขาชี้มาที่ทิงกาเบล

             พวกเจ้ารู้จักเทพซีซัตด้วยเหรอ เอเวียน่าสงสัย จริงสิ อัลก็ดูเหมือนรู้จักเทพซีซัตเหมือนกัน หญิงสาวชำเลืองไปมองคนในความคิด

             แสงสีทองสว่างวาบ...เบลแปลงร่างเป็นคน

             คิวโอพยักหน้า แน่นอนก็บนเรือเรามีอยู่คนหนึ่ง ตอนนี้ไปสำรวจต้นทางคงจะกลับมาตอนเย็นๆ เขาพูดพลางจับมือกับทิงกาเบล

             ขอตัวก่อนนะ ไปเอเวียน่า อัลชวน เบลท่าทางถูกใจเด็กสองคนนั้นมากทีเดียวเลยไม่ตามมา กัปตันหนุ่มแนะนำให้เธอรู้จักอีกหลายคนด้วยกัน ไบรอันและรอยซ์ชอบเล่นการพนันมาก บิลเลียมกับโอเอลที่เป็นต้นหนมักอยู่บนรังกาจุดสูงสุดของเรือ บ๊อบที่เป็นหัวหน้าในการทำอาหาร ฟิลิปคนของเผ่าไกกี (แห่งป่า) ที่ชอบอยู่ในคอกสัตว์ (ซึ่งเอเวียน่าไม่นึกว่าจะมีอยู่บนเรือด้วย ในนั้นมีม้าสองตัวและหมาป่าที่นอนอยู่ในนั้นชื่อว่าฟริงค์) ธีอะดอร์ลูกเรือที่เอเวียน่าจำได้ว่าเป็นคนที่ถอดเสื้อโชว์สาวบริการ รวมถึงอดัมที่เป็นคนเคาะไม้ในตลาดวันนั้น

             เอาล่ะพอแค่นี้ดีกว่า ข้าควรปล่อยให้เจ้าเดินเอง แล้ว...เจ้ารู้สึกยังไงกับเรือข้าบ้าง อัลถามหลังจากที่พาเธอเดินมารอบนึงทั่วเรือและหยุดอยู่ที่ดาดฟ้าเรือแล้ว

             เอเวียน่าสบดวงตาสีน้ำตาลดำของเขา ถ้าจะให้ข้าบอกตรงๆ ขอบอกเลยว่าเรือของเจ้ารกไปหน่อย เธอกล่าวอย่างไม่เกรงใจ

             เป็นเรื่องปกติ ก็นี่มันเรือโจรสลัด

             ไม่ปกติเลย รกเกินไป เอเวียน่ากล่าวแล้วมองไปที่มุมต่างๆ บนเรือ แล้วห้องน้ำมีมั๊ย

             เจ้านี่จู้จี้กว่าที่คิดแฮะ อัลกล่าว มีน่ะมี แต่ว่าไม่มีใครอาบน้ำบนเรือหรอกนะ เพราะว่ามันสกปรกเขามองหน้าเอเวียน่าที่ดูเหมือนสื่อว่า เห็นมั๊ยล่ะข้าบอกแล้ว โธ่แล้วถ้ามันสกปรกสำหรับเจ้า เจ้าจะทำอะไรได้ล่ะข้าอยากรู้นัก

             เอเวียน่าไม่ได้มองอัลเหมือนเดิมแล้ว ข้าจะทำแน่ เธอคิด

             อัลลลลล! เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง เจ้าของชื่อถูกตะครุบลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวใดๆ ด้านบนของเขาถูกทับด้วยร่างของคนๆ หนึ่ง

             อัลค่อยๆ ประคองตัวเองขึ้นมาพร้อมกับหญิงสาวผมสีน้ำตาลแดงยาวจนถึงพื้น ที่ยังคงเกาะตัวเขาไม่ยอมปล่อย ปล่อยข้านะ คริซ

             ไม่ หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าคริซกล่าว ตอนนี้เอเวียน่ารู้แล้วว่าทำไมเธอถึงได้รับการต้อนรับจากโจรสลัดเช่นนี้ เพราะว่าในเรือมีผู้หญิงอยู่แล้วนี่เอง...

             อุ๋ย นี่เหรอเอเวียน่าสมาชิกใหม่ของเรา ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ คริซปล่อยอัลและหันมาสนใจเอเวียน่า ดวงตาสีเขียวมรกตส่องประกายมาที่เธอ ผู้หญิงคนนี้อายุมากกว่าเอเวียน่าราวปีสองปี เธอมีความงามที่ดึงดูดคนอื่นได้ เธอสวยงดงามจนสามารถทำให้ผู้ชายจำนวนมากหลงใหลในพริบตาที่สบเข้ากับแววตาสีเขียวนั้น

             ยินดี... เอเวียน่าพูดติดขัด

             คริซโดดเข้ามากอดเธอ ว้าย! น่ารักจังเลย

             อัลมองเอเวียน่าที่ดูงงๆ หมอนี่ ชื่อคริซโตเฟอร์...เป็นผู้ชาย เอเวียน่าเบิกตาโพล่ง เป็นที่ปรึกษาหนึ่งในสองของข้าเอง และก็เป็นชาวเผ่าอะลาศ (แห่งไฟ)

             คริซโตเฟอร์ปล่อยเอเวียน่า ผู้ชายเผ่าอะลาศ!” เอเวียน่าร้อง ผู้ชายอะไรถึงสวยได้ขนาดนี้ และยังเป็นคนเผ่าอะลาศ เธอคิด เผ่าอะลาศที่ตายไปแล้วจำนวนมากโดยฝีมือของจ้าวแห่งความมืด เป็นผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้โดยใช้มีด เอเวียน่าไม่คิดว่าจะเจอเผ่าอะลาศในตำนานเลยซักครั้ง แต่ว่าตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าเธอ ยินดีที่ได้รู้จักครัค่ะเอเวียน่ารีบโค้งตัวลง

             จ๊ะ ข้าคริซซี่ ผู้รู้แห่งราฟาเอลว์ หนึ่งในที่ปรึกษาของกัปตันนั่น ชายเผ่าอะลาศแก้ชื่อตัวเองเสียใหม่ ไม่ต้องมารยาทมากก็ได้...เจ้าเป็นผู้ชายมากี่ปีแล้วล่ะเนี่ย คริซซักถามขึ้นมา เอเวียน่าหลบตา

             ...เอ่อ...ก็ประมาณหกปีล่ะมั้ง เธอตอบ แล้วรอว่าจะให้พวกเขาพูดอะไร แต่คริซและอัลพูดอะไรที่เธอนึกไม่ถึงเลย

             เจ้าน่ะเป็นผู้หญิงที่ดีนะ เอเวียน่า อัลกล่าว คำพูดเหมือนแทงเข้าไปในหัวใจของคนที่ปฏิเสธเพศของตัวเองมาโดยตลอด เจ้าตัวได้แต่นิ่งอึ้ง ข้าไปก่อนนะคริซ ไปเถอะ เขาหันมาหาเอเวียน่า เธอเดินตามไป เขากำลังจะพาเธอเดินผ่านประตูห้องหนึ่งเข้าไป

             กัปตัน เสียงชายหนึ่งดังขึ้น พวกเขาหันไปตามเสียง ข้าน่ะ ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกเลยนะ ถ้าท่านจะรับเจ้าหล่อนเข้ามาเป็นพวกด้วยจริงๆ ล่ะก็ต้องเกิดหายนะแน่ๆเอเวียน่ารู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเขาเป็นคนที่ลวนลามทิงกาเบล และทันทีทันใดเธอก็รู้สึกไม่ถูกชะตาขึ้นมา

             ครีล์ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาน่ะ เมื่อกี้ข้าเห็นนีโอตามหาเจ้าอยู่ อัลพูดราวกับไม่ได้ยินเรื่องที่เขาถามเมื่อกี้

             บุรุษนาม ครีล์ ลูบผมดำยาวที่เซอร์ๆ นั่น ข้าว่าข้าออกความเห็นเกี่ยวกับแม่สาวเอเวียน่าให้ท่านฟังนะเมื่อครู่นี้ เขาย้อน

             อัลถอนหายใจ ทั้งๆ ที่เขาไม่อยากจะใส่ใจเรื่องนี้เท่าไรนัก เจ้ามีสิทธิที่จะออกความคิดเห็นครีล์ แต่เจ้าไม่มีสิทธิจะสั่งข้าไม่ให้รับเธอมาเป็นลูกเรือ และถ้าคิดกันดีๆ เจ้าไม่มีสิทธิมายืนต่อล้อต่อเถียงกับข้าแบบนี้ด้วย

             แน่นอนท่านกัปตัน ข้าแค่อยากจะเตือนท่านเท่านั้น

             หากมันเป็นเรื่องของข้าล่ะก็ ข้าควรจัดการเองดีกว่าถึงจะถูกใช่มั๊ย...ครีล์เสียงดังขึ้นมาจากสตรีสาว เอเวียน่าพูดขึ้น เธอไม่ชอบที่จะหลบอยู่ข้างหลังของใครนักหรอก

             เจ้ากล้าดีนี่ สาวน้อย ครีล์กล่าว ถ้าเจ้าน่ารักเหมือนเด็กสาวผมทองนั่นล่ะก็ ข้าคงไม่ว่าอะไรหรอก...แต่นี่เป็นเจ้า อยากมีปัญหาหรือไง เขาพูดเสียงเย็นชา

             เจ้าคิดว่าไอ้สายตาของเจ้าจะทำอะไรข้าได้เหรอไง เจ้าขี้ขลาด เอเวียน่ากล่าว หากเจ้าเป็นโจรสลัดก็ควรทำหน้าที่ของโจรสลัดให้ดีนะไม่ใช่มากระแทกกระทั้นข้าที่เป็นผู้หญิง ครีล์อ้าปากจะพูด และข้าขอบอกตรงว่าข้าเกลียดเจ้า เกลียดเจ้าตั้งแต่ที่เจ้ามายุ่งกับสหายของข้าเอเวียน่ากล่าวต่อจนจบ

             ครีล์ไม่กล่าวอะไร เขากำลังหน้าเป็นสีเขียว อัลหัวเราะคิกคัก เอาล่ะ ชายหนุ่มถอนหายใจไล่อารมณ์ของเขาเมื่อครู่ออกไป ครีล์ข้าว่าเจ้าไปหานีโอเถอะ และเอเวียน่าเจ้าไปกับข้าเขาดึงเอเวียน่าไป

             เดี๋ยว!” ครีล์เรียกพวกเขาไว้ ทั้งสองหันมาตามเสียง ข้าขอท้าประลองกับผู้หญิงคนนั้น เขาชี้นิ้วมาที่เอเวียน่า

             จะบ้าเหรอไง อัลกล่าว ข้าไม่อนุญาต

             เอเวียน่าสงสัย บนเรือนี้มีกฎให้ลูกเรือสู้กันได้ด้วยเหรอ

             อัลพยักหน้า ข้าเป็นคนออกกฎนี้เอง ดีกว่าไปทะเลาะกันลับหลังข้า เขามองมาที่เอเวียน่า แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามคำท้าก็ได้

             ก็ดีนะ กฎนี่สะดวกดี เอเวียน่าคิด ผู้ชนะจะได้อะไร

             คำสั่งหนึ่งข้อเป็นอิสระ คือไม่กำหนดเวลา...เอ่อ อย่างเช่นว่าครีล์สั่งให้เจ้าเป็นทาสเจ้าก็สามารถเป็นได้เรื่อยๆ จนกว่าหมอนี่จะพอใจ แต่คำสั่งต้องให้ข้าและคนอื่นๆ เห็นด้วยก่อน และกฎคือกฎเจ้าห้ามปฏิเสธที่จะไม่ทำ อัลอธิบาย เพราะฉะนั้นเจ้าไม่จำเป็นที่จะต้อง...

             รับคำท้า เอเวียน่ากล่าวอย่างรวดเร็ว ข้ารับคำท้า

             ครีล์ยิ้มอย่างเย็นชา เป็นอันว่าตกลง ตอนเย็นเจอกันที่ดาดฟ้าเรือ แล้วเขาก็จากไป

             เอเวียน่ามองชายผู้นั้นจนลับตา และเธอก็หันมาหาอัล แล้วเจ้าเอาเสื้อคลุมของข้าไปไว้ที่ไหนล่ะ เธอถามเหมือนไม่ใส่ใจอะไร

             กัปตันราฟาเอลว์แทบระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ตะโกนออกมาสุดเสียง เจ้าจะบ้าเหรอไง!”

     

             อีกชั่วโมงต่อมาอัลพาเธอไปที่โรงฝึกใต้ท้องเรือ ไรอัลกับคลิฟท์อยู่ที่นั่นช่วยเลือกอาวุธให้กับเธอ เอเวียน่าก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเรือลำนี้จะมีทั้งคอกสัตว์ และโรงฝึกด้วย แถมในนั้นยังมีอาวุธอยู่เต็มไปหมดจนลายตา

             ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะมั่นใจในตัวเองมาก แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโง่ถึงขนาดสร้างศัตรูตั้งแต่วันแรก ให้ตายสิอัลบ่นตลอดทาง

             พอได้แล้วน่ะอัล คลิฟท์กล่าว          เจ้าน่าจะใช้ดาบนะเพราะหมอนั่นก็ใช้ดาบเหมือนกัน จะเอาดาบยาวหรือดาบสั้นดีล่ะ เขาพูดพลางเลือกดาบให้

             เจ้านี่แน่จริงๆ ข้าจะพนันข้างเจ้าแน่ๆ ไม่ต้องห่วง ไรอัลพูดพลางตบไหล่เอเวียน่า

             เธอตั้งตัวไม่ทัน ถึงกับเสียการทรงตัว ขอบคุณ...เอ่อ...ค่ะ เอเวียน่ารู้สึกไม่ชินปากจริงๆ

             พูดกับพวกเราไม่จำเป็นต้องพูดไพเราะนักหรอก คลิฟท์กล่าว ว่าไงเอาดาบแบบไหน เขาชูดาบให้เอเวียน่าเลือก

             เธอส่ายหน้าปฏิเสธ คือข้า ขอใช้คทาดีกว่า

             อัลถอนหายใจ ข้าเห็นด้วยกับคลิฟท์ เจ้าใช้ดาบนั่นแหละ เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าจะชนะง่ายๆ หมอนั่นมีฝีมือใช้ดาบพอๆ กับไรอัลเชียวนะ เขาถอนหายใจอีก ...ข้าไม่เข้าใจผู้หญิงเลยให้ตายสิ เขาพึมพำ

             ทำไมเจ้าต้องกระแทกกระทั้นข้าตลอดทางด้วย...ข้าจะใช้คทา ข้าถนัดของข้า เจ้าอย่ายุ่งดีกว่า เอเวียน่าเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมา

             อ๋อใช่สิ...ข้าก็ไม่อยากยุ่งนักหรอก คอยดูนะข้าจะไม่ห้ามเลยหากว่า ครีล์สั่งให้เจ้ากระโดดลงจากเรือในทะเลที่มีปลาฟันแหลมยั้วเยี้ย หรือไม่ก็ทะเลที่เต็มไปด้วยฉลามหรือแมงกะพรุนไฟอัลหันหน้าหนี อย่ามาขอร้องให้ยาก คำพูดบ่นพึมพำยังเข้าหูหญิงสาวอย่างคนพูดตั้งใจให้เป็น

             ข้าไม่มีทางขอให้เจ้าช่วยเหลือเด็ดขาด ขอบอกไว้เลยนะ หากครีล์จะโยนข้าลงกลางทะเลล่ะก็ ข้าไม่รอดแน่เพราะข้าว่ายน้ำไม่เป็นและก็ขอให้ข้าตายอย่างสงบโดยไม่มีคนอย่างเจ้ารบกวนข้าด้วย ข้าขอร้อง

             อัลเบิกตาโพล่ง หันหน้ากลับมาหาเธอ เจ้าพูดจริงเหรอที่บอกว่าว่ายน้ำไม่เป็น แล้ว...

             เอเวียน่าพยักหน้า แค่น้ำกับไฟเท่านั้นแหละที่ข้ากลัว

             อัลสบตากับเพื่อน และ...สมมุตินะ เอเวียน่า...สมมุติว่า...ถ้าเกิดเรือข้าไฟไหม้ล่ะเจ้าจะทำไงชายหนุ่มถามอย่างกลัวกับคำตอบที่ได้รับ

             เรื่องนั้นข้าคิดไว้แล้วตอนที่ตัดสินใจขึ้นเรือมากับเจ้า ว่าข้าขอเลือกจมน้ำตายดีกว่าอย่างน้อยศพก็ยังเห็นเป็นข้าบ้าง เอเวียน่ากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

             กัปตันราฟาเอลว์เหงื่อตก เจ้าอย่าพูดเล่นสิ นี่เรื่องใหญ่นะ...ถ้าครีล์สั่งให้เจ้าโดดน้ำจะทำไง

             คลิฟท์พยักหน้าเห็นด้วย

             ไม่ต้องห่วงข้าไม่แพ้หรอก ถึงข้าแพ้เบลก็ต้องช่วยข้า มันช่วยข้ามาตลอดอยู่แล้ว เอเวียน่ากล่าว พวกเจ้าไม่ต้องทำหน้าวิตกอย่างนั้นหรอก เธอพูดน้ำเสียงปกติ ทั้งสามมองหน้ากันและหันมามองเธออย่างเป็นห่วง

             ไรอัลหันมาพูดกับอัล ทำไมเจ้าไม่ห้ามหล่อนไว้ และเขาก็หันมาหาเอเวียน่า ข้าไม่ได้ไม่มั่นใจว่าเจ้าไม่มีทางชนะหรอกนะ แต่ว่า...

             คงได้เวลาแล้ว...ข้าไปล่ะ เอเวียน่ากล่าว เธอรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงเธอแต่ว่าพวกเขาพูดเหมือนว่าเธอจะแพ้อย่างนั้นแหละ หญิงสาวเลือกคทาที่อยู่ในเสื้อคลุมของเธอมันมีอยู่สามอัน คทาสีขาวที่ทำมาจากอะไรซักอย่าง คทาไม้ และคทาสีเงินที่ทำมาจากบรอนซ์ เธอเลือกคทาอันสุดท้าย

             คงสู้กับดาบได้ เธอคิด เอเวียน่ากดปุ่มบนตัวคทาแล้วมันก็ยาวออกมาจนสุด

             หญิงสาวเดินจนถึงดาดฟ้าเรือตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ที่นั่นมีโจรสลัดอยู่รอบๆ มากมายทีเดียว ทุกคนถืออาหารหรือแก้วเบียร์ไว้ด้วย นี่เองทำให้เรือเจ้ารกอย่างนี้ เธอคิด ที่ตรงกลางถูกเว้นเอาไว้มีชายผมสีดำยุ่งๆ ยืนอยู่ เขายิ้มอย่างไม่เป็นมิตรทันทีที่เอเวียน่าสบตา เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทางแล้วเห็นว่าเบลกับฝาแฝดผมเงินเดินเข้ามาหาเธอ

             นายท่านจริงเหรอที่ท่านจะประลองกับชายคนนั้น ดิวโอบอกว่าเขาฝีมือดีมากเลยนะ เบลพูดน้ำเสียงปกติ

             ใช่...เจ้าคงไม่ห้ามข้าหรอกนะ

             ทำไมข้าต้องห้ามล่ะ น่าสนุกดีออก เบลท่าทางมีความสุข

             คิดดีแล้วเหรอเอเวียน่า คิวโอกล่าว หมอนั่นเก่งน้า

             หญิงสาวพยักหน้า งั้นก็เราจะพนันข้างเจ้า ดิวโอกล่าว

             โจรสลัดชอบการพนันเสียจริง เธอคิด หญิงสาวมองตามจนเบล คิวโอและดิวโอวิ่งไปนั่งกับเหล่าโจรสลัดที่อยู่รอบๆ จากนั้นเอเวียน่าเดินเข้าไปหาชายผมดำ...ครีล์

             ไงล่ะ ชายหนุ่มทัก ข้าอยากฆ่าเจ้าซะตอนนี้เลยแต่เราต้องรอกัปตันก่อน ของดีแบบนี้ก็ต้องรอหน่อย เขาพูดเสียงเย็นชา

             เอเวียน่ายิ้ม ข้าบอกแล้วไงครีล์ ว่าสายตาแบบนั้นของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ เธอกล่าว สตรีสาวรู้สึกสะใจเสียจริงๆ ที่ทำให้ชายตรงหน้าโกรธได้

             ครีล์ไม่พูดอะไรอีกเลยจนอัลและเพื่อนของเขาอีกสองคนเดินมา ที่นั่งของอัลถูกจัดไว้หน้าสุดของดาดฟ้าเรือ เขานั่งอยู่บนลังไม้ ไม่ต้องถึงกับนั่งเก้าอี้ปูพรมอย่างดี ก็รู้ว่าลูกเรือทุกคนให้เกียรติเขา คริซยืนอยู่ข้างหลังอัล รินไวน์ให้เขา กัปตันหนุ่มรับไวน์มา สายตามองมาที่ร่างเอเวียน่า เธอสบตาคู่นั้น และอัลก็ลุกขึ้น ทั้งเรือเงียบกริบทันที

             พี่น้องชาวราฟาเอลว์! วันนี้เป็นวันพิเศษที่เราจะต้อนรับสมาชิกใหม่คือสตรีตรงหน้าข้า สายตาเขายังไม่ละไปจากหญิงสาว ...แต่! มีใครบางคนเห็นว่าแค่นั้นยังไม่พอ...

             ช่าย...ช่าย เสียงดังกระหึ่มขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

             ที่จริง ข้าได้บอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าหากใครรังแกเธอต้องเจอดีกับข้า แต่ว่า...กฎก็คือกฎ เมื่อครีล์ท้าและเอเวียน่ายอมรับ การประลองจึงเกิดขึ้น เอาล่ะ เมื่อเป็นเช่นนี้... อัลรับปืนมาจาคลิฟท์ ยิงปืนขึ้นบนฟ้า

             ปัง สัญญาณดังขึ้นพร้อมกับคำพูดของผู้นำสูงสุด

             เริ่มได้!” อัลกล่าวและนั่งลงอย่างเหนื่อยใจ ทั้งเรือเงียบกริบรอลุ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา

             ตอนนี้สิ่งที่เอเวียน่าจะต้องคิดคือจะทำยังไงกับการต่อสู้ครั้งนี้ดี ชายหนุ่มผมสีดำที่มีดาบเป็นอาวุธ และเธอเป็นผู้หญิงที่ยังไงก็เสียเปรียบ...ทั้งยังมีคทาเป็นอาวุธ เธอจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด!!

             บุกเข้ามาสิสาวน้อย ความอวดเก่งของเจ้าไปไหนซะหมดล่ะ ครีล์พูด

             เอเวียน่าไม่ชอบผู้ชายอวดเก่งอย่างนี้เลยให้ตายสิ แต่เอาเถอะเมื่อเขาให้เธอบุกเธอก็ไม่ขัดข้อง หญิงสาวบุกทันที ครีล์ตั้งดาบรอรับ เธอควงคทาปะทะดาบอย่างชำนาญ พอโจมตีไปได้สี่ห้าไม้เธอก็เคลื่อนตัวด้วยความเร็วหายไปต่อหน้าครีล์

             อัลจับแก้วไวน์ไม่ขยับ ฝีมือดีนี่ เขาพึมพำ

             ครีล์ฟาดดาบไปรอบตัวอย่างบ้าคลั่งเพื่อค้นหาเอเวียน่า เธอประมาทไปหน่อยเลยทำให้เกิดแผลขึ้นที่เหนือเอว เจ้าบ้าทำอย่างนั้นไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก หญิงสาวคิด เอเวียน่าหยุดคลำแผล แผลลึกไม่ใช่เล่นไม่น่าประมาทเลย เสียงโจรสลัดคนอื่นๆ เริ่มส่งเสียงบอกให้หยุดก่อนที่เธอจะเป็นไร แต่อัลกับอยู่เฉยๆ และมองดูเธอต่อสู้ต่อ นั่นแหละที่เธอต้องการ

             ฤทธิ์ของบาดแผลทำให้หญิงสาวเพลีย และคงเพราะอัลยังไม่ให้เธอทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า แต่แค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับการเคลื่อนไหวของเธอหรอก เอเวียน่าบุกต่อทันที

             การใช้คทาไม่สามารถทำให้ตายได้ง่ายๆ แต่ถ้าจะเอาให้ถึงตายก็ต้องเจ็บปวดมากเลยทีเดียวกว่าจะตาย ถ้าทำให้ถึงตายใช้ดาบดีที่สุด คริซวิจารณ์ แล้วเจ้านึกยังไงถึงให้หล่อนมาประลองตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นเรือมายังงี้ เขาถามอัล

             พูดเป็นเล่นหมอนี่น่ะเหรอให้หล่อนมา คลิฟท์พูด        หล่อนน่ะสิตอบตกลงรับคำท้าของหมอนั่น ทั้งที่มันห้ามแทบตาย

             ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าหล่อนกินอะไรมาถึงดื้อด้านอย่างนี้ อัลกล่าว

             ว่าไปนั่น ว่าแต่เจ้าน่ะแหละที่ห่วงเจ้าหล่อนมากกว่าเพื่อน ไรอัลพูดและหันไปเชียร์ต่อ เอ้าเอเวียน่า รับดาบ ฟาดเลย เออ...ยังงั้นเยี่ยม!”

             เอเวียน่าหลบดาบได้อย่างเฉียดฉิว เธอฟาดคทาลงที่ไหล่ชายผู้นั้นเต็มแรงจนเขาล้มไปกองกับพื้น และหญิงสาวก็แทงคทาไปเหนือไหล่เขาเสียงดังสนั่นจบการประลองเอเวียน่าเป็นฝ่ายชนะอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด เสียงเฮที่ดังมาก่อนเพื่อนคือของไรอัลและคนอื่นๆ ก็ตามมาจนเสียงดังสนั่นไปทั่วเรือ

             อัลยืนขึ้นอีกครั้ง ทุกคนเงียบกริบ ผู้ชนะคือเอเวียน่า เอาล่ะบอกคำสั่งของเจ้ามา

             ไม่มีทาง! ข้าไม่มีทางทำตามคำสั่งของหล่อนแน่...หล่อนเป็นผู้หญิง!” ครีล์พูดอย่างบ้าคลั่ง เสียงโห่ตามมา

             เงียบๆ หน่อยพี่น้อง กัปตันหนุ่มกล่าว ทุกคนค่อยๆ สงบลงตามเสียง

             เอาล่ะบอกคำสั่งของเจ้ามาเอเวียน่า อัลกล่าวอย่างไม่สนใจที่ครีล์พล่ามเมื่อครู่

             เอเวียน่าครุ่นคิด ที่จริงเธอไม่ได้คิดมาเลยว่าจะสั่งให้ครีล์ทำอะไร ถ้าให้เป็นทาสหมอนั่นต้องหาโอกาสฆ่าเธอแน่ๆ ถ้าจะโยนลงทะเลให้ฉลามกินเป็นอาหาร หรือแขวนบนเสากระโดงเรือก็ดูโหดไปหน่อย เอางี้ดีกว่า เธอหันไปหาชายหนุ่มผมสีดำยุ่งๆ ตรงหน้า

             เจ้าคิดว่าเรือของเจ้ารกรึเปล่า เอเวียน่าถาม ทำให้ลูกเรือต่างมองไปทั่วเรือแล้วส่งเสียงอย่างเห็นด้วย พวกเจ้าก็เห็นด้วยใช่มั๊ยล่ะ เสียงเฮดังขึ้น ทำความสะอาดซะซิ ข้าหวังว่าเจ้าคงไม่อยากให้เรือนี่ที่เป็นบ้านของพวกเจ้าสกปรกและรกอย่างนี้ใช่มั๊ยล่ะ คำสั่งของเอเวียน่าเป็นปกาศิตไม่เฉพาะกับครีล์เท่านั้น ลูกเรือทุกคนต่างเห็นด้วยกับเธอ

             หล่อนมีความเป็นผู้นำมากทีเดียว คริซกล่าว ดูเหมือนมากกว่าใครบางคนด้วยซ้ำ เขาหันไปทางชายหนุ่มผมสีแดงเพลิง

             กัปตันของเราโดนหยามซะแล้ว คลิฟท์ล้อเลียน

             อัลยิ้ม ก็เป็นอันว่าครีล์ เจ้าต้องทำความสะอาดเรือตามคำสั่งของเธอและใครก็ตามที่ต้องการจะช่วยหล่อน ข้าไม่ว่าอะไร เอาล่ะ...ข้าว่าเริ่มงานเลี้ยงต้อนรับสตรีผู้นี้กันดีกว่า เขายื่นแก้วบางใส่ที่มีน้ำสีแดงสดอยู่ค่อนแก้วออกมาตรงหน้า ทุกคนเงียบเสียงลงรอให้ชายหนุ่มผู้นำกล่าว

             เราขอต้อนรับเจ้า...เอเวียน่า อัลชูแก้วไวน์ขึ้น พร้อมกับเสียงยินดีของเหล่าโจรสลัด ลงมือกินได้หลังจบคำพูดนั้น เหล่าโจรสลัดลงมือรับประทานอาหารโดยไม่รีรอ ความชุลมุนเกิดขึ้นทันที

             เอเวียน่ายังยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับไปไหน อัลเดินเข้ามาหาเธอ เจ้าไปทำแผลก่อนดีกว่า ท่าทางลึกน่าดู...ยังยืนอยู่ได้ไง กัปตันหนุ่มกล่าว

             ไม่เป็นไรปล่อยมันไว้เถอะ เธอเจ็บก็จริงแต่คิดว่ามันไม่หนักหนาอะไร

             พูดบ้าๆ บาดแผลขนาดนั้น อัลต่อว่า ไปทำแผลเถอะ

             เอเวียน่าไม่มีแรงต่อล้อต่อเถียงกับชายหนุ่มจึงยอมเดินตามไป ไปทำแผลที่ไหน เจ้าคงไม่บอกข้าว่าในเรือลำนี้มีห้องพยาบาลด้วยหรอกนะ

             ฮึ... พูดเป็นเล่น เรือข้าไม่ได้ครบวงจรขนาดนั้น อัลพูดระหว่างเดิน ไปทำที่ห้องข้าเอง

             เอเวียน่าหยุดกึกทันที จะบ้าเหรอไง! ตอนนี้ข้ายังไม่สติฟั่นเฟืองจนขนาดเดินเข้าห้องผู้ชายอย่างเจ้า ทั้งที่ตัวเองกำลังบาดเจ็บหรอกนะ

             กัปตันหนุ่มหันควับมาหาเธอทันที เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้างั้นเหรอ ขอโทษเถอะ ข้ายังมีสติดีอยู่...โธ่เอ๊ย ไอ้เราน่ะก็หวังดีกลัวว่าจะเป็นอะไรไป ประโยคท้ายเขาพึมพำกับตัวเอง

             เจ้าคิดว่าข้าจะไว้ใจผู้ชายปากสุนัขอย่างเจ้างั้นเหรอ เอเวียน่าตะคอกใส่ เหล่าโจรสลัดที่อยู่รอบๆ เริ่มหันมามองกัปตันของเขาและสตรีที่กำลังต่อล้อต่อเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้

             อัลส่ายหัว เขาพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้ หากข้าจะทำล่ะก็ข้าเอาไว้ทำตอนกลางคืนดีกว่า เพราะยังไงเจ้าก็ต้องนอนห้องเดียวกับข้า...แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนนะว่าข้ายังสติดีพอ ที่ไม่เอาผู้หญิงอย่างเจ้า

             ข้าไม่ได้ขอร้องให้เจ้ามาเอาข้าซะหน่อย เอเวียน่ากอดอก และเรื่องอะไรข้าจะต้องนอนกับเจ้า ข้าขอไปนอนในทะเลกับปลาวาฬเพชฌฆาตดีกว่า

             รอบข้างเริ่มหันมาทางทั้งสองมากขึ้น โอ๊ะ โอ๋ สงสัยจะเกิดเรื่องแล้ว ไรอัลกล่าวอย่างสนใจ คราวนี้ข้าขอพนันข้างอัลมันห้าจังค์!”

             กัปตันหนุ่มมีท่าทางพยายามเก็บอารมณ์สุดๆ ลูกเรือเงียบกริบรอลุ้นว่าเขาจะทำยังไงต่อไป ... ชายหนุ่มหลับตาไปซักพักนึง

             ...เอาล่ะพี่น้อง!” อัลส่งเสียงดังขึ้นมาแต่สายตาของเขายังคงจดจ้องอยู่ที่เอเวียน่า ข้าขอท้าประลองกับเจ้าแล้วเสียงเฮก็ดังสนั่นขึ้น

             เอเวียน่าพยักหน้า ก็ได้ เธอกล่าว รอยยิ้มดูมั่นใจขัดกับสภาพร่างกายที่เริ่มล้าของหญิงสาว

             เอาเมื่อไรดี ตอนนี้เลยไหมล่ะ อัลกล่าวอย่างเหลืออด

             ก็เอาสิ เธอตอบ

             บ้าดีเดือดจริงๆ นั่นคือสิ่งที่อัลคิด เขาถอนหายใจ

             ข้าพนันกัปตัน

             เอเวียน่าอาจจะชนะก็ได้ข้าพนันข้าหล่อน การพนันของเหล่าโจรสลัดเริ่มขึ้นอีกครั้ง

             เอเวียน่าใช้คทาเหมือนเดิมเธอเริ่มบุกก่อน อัลหลบได้เพียงแค่ก้าวขาไปสองก้าวเท่านั้น เธอบุกต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว แต่ว่าอัลก็หลบได้ทุกไม้ กัปตันราฟาเอลว์ไม่ได้โจมตีเธอแม้แต่นิดเดียว หญิงสาวรู้ว่าความเร็วของเธอลดลง ความจริงเธอไม่น่ารีบร้อนในการประลองกับอัลเลย เขาเป็นถึงกัปตันเรือ ต้องมีฝีมือไม่ธรรมดาอยู่แล้ว และเธอก็รู้ด้วยว่าเขาไม่ได้โง่เลยซักนิด

             อัลจับคทาของเธอได้และทุ่มข้ามหัวเขา เอเวียน่าลงไปกองกับพื้นทันที เธอพยายามลุกขึ้น แต่กลับต้องกุมแผลที่อยู่เหนือเอวเอาไว้อย่างเจ็บปวด

             เห็นรึเปล่าล่ะข้าบอกแล้วว่าให้รีบทำแผล เจ็บล่ะสิ อัลกล่าว เอเวียน่าทำท่าจะเถียงแต่ก็ต้องฟุบลงไป ชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้น และเดินไป

             ข้าขอสั่งเจ้าเอเวียน่า... เขาพูดเบาๆ ให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว หัดฟังข้าซะบ้าง ข้ารู้ว่าเจ้ามั่นใจในตัวเองแต่ว่าบางครั้งก็หัดฟังคนอื่นซะหน่อยก็ดี และข้าไม่ชอบการกระทำเมื่อครู่ของเจ้าเลยรู้มั๊ย…” อัลกล่าวระหว่างลงบันได และเปิดประตูห้องของเขา เจ้าน่ะมีฝีมือแต่ว่าบางครั้งน่ะเจ้าต้องดูสภาพร่างกายของตัวเอง และหัดวิเคราะห์ อย่ามั่นใจว่าเจ้าจะชนะ...ถ้าเมื่อกี้ข้าเป็นศัตรู ข้าฆ่าเจ้าไปแล้ว อัลวางเธอลงบนเตียง

             เอเวียน่าตะกุยตะกายให้อยู่ในท่านั่ง นอนลงซะ ชายหนุ่มสั่งเมื่อเห็นเธอลุกขึ้นมาได้สำเร็จ เขาเดินเข้าไปหยิบกล่องยาที่หลังตู้หนังสือที่อยู่เหนือโต๊ะ ยังไม่นอนลงไปอีก อัลต่อว่า และเขาก็เปิดกล่องยาก่อนวางไว้บนโต๊ะ

             ข้าว่า...เรียกให้เบลมาดีกว่า คือ... เอเวียน่าพูดไปหอบไป เบลน่ะคงเห็นตอนที่ข้าอุ้มเจ้ามาแล้ว ถ้ามันจะมาล่ะก็มันคงตามข้ามาตั้งแต่นั้นแล้วล่ะ แสดงว่ามันไว้ใจข้า เขาสรุป ในมือถือยามาตั้งไว้บนโต๊ะที่มีผ้าพันแผล และยาอีกตัวไว้อยู่แล้ว เอาล่ะ เขาหันมาหาเธอ เจ้านอนลงไป

             ข้า...บอกแล้วว่ามัน... เอเวียน่าพยายามจะพูด

             อัลไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับหญิงสาวอีกต่อไป เขากดไหล่เธอลงไปบนเตียงโดยที่เธอไม่ทันได้ขัดขืนแม้แต่น้อย อัลถกเสื้อขึ้น

             อย่า...ข้า เอเวียน่าร้อง แต่ช้าไป

             นี่เจ้า อัลพึมพำมองหน้าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง และมองร่างกายของเธอ ร่างกายของเอเวียน่ามีผ้าพันแผลพันไว้อยู่แล้วรอบเอว อัลถลกเสื้อขึ้นอีกเพื่อให้เห็นว่ามันยาวแค่ไหน

             ผ้าพันแผลยาวพาดไปที่ไหล่ทั้งข้างซ้ายและขวาปิดบังส่วนบนที่แสดงความเป็นสตรีเอาไว้ คล้ายกับเอเวียน่าใส่เสื้อไว้ข้างในอีกตัว อัลมองเธออีกครั้ง และกลับมาทำแผล ข้าดึงของเก่าทิ้งก่อนนะอัลพูดราวกับไม่สนใจสิ่งที่เขาเห็น

             พอเอาผ้าพันแผลออกหมด ก็เห็นบาดแผลของเธอ แผลใหญ่สองแผลเป็นรอยที่เกิดจากอาวุธมีคม อยู่ที่ใต้อกซ้าย ยาวมาถึงด้านขวา และตรงใต้กระดูกไห้ปลาร้าเป็นทางยาว ทั้งสองแผลยังไม่หายดี ส่วนแผลเล็กๆ มีสองขีดอยู่ที่เอวด้านขวาซึ่งหายดีแล้ว เห็นแค่รอยแผลเป็นจางๆ เหนือขึ้นมาหน่อยคือแผลที่เกิดจากการสู้กับชายหนุ่มโจรสลัดผมดำเมื่อครู่ อัลค่อยๆ เช็ดเลือดสีแดงสดที่ออกมาจากร่างบางนั้นอย่างเบามือเป็นที่สุด

             เอเวียน่าได้แต่นอนเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่ว่าอัลจะมองมาซักกี่ครั้งก็ตาม ถึงยาที่ใช้ใส่แผลที่กัปตันหนุ่มบอกว่าแสบ เอเวียน่าก็นอนอยู่เฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรเลยซักนิด อัลทำแผลให้เอเวียน่าทั้งแผลใหม่และเก่าอย่างเรียบร้อย รวมทั้งหาเสื้อผ้าของเขาให้เธอใส่ หญิงสาวนอนเป็นเด็กดีตลอดเวลาที่กัปตันหนุ่มทำแผลให้ ความเงียบเกิดขึ้นในบรรยากาศอยู่พักใหญ่ เมื่อเขาทำแผลเสร็จก็เริ่มเก็บอุปกรณ์ลงไปในกล่องยา

             หญิงสาวมองตาม ...ไม่ถามเหรอ เอเวียน่าพูดเสียงเบากว่าปกติ

             อัลเก็บกล่องยาวางไว้ในที่ของมัน ถ้าถามแล้วข้าจะได้คำตอบรึเปล่าล่ะ เขาเลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งข้างๆ เตียง ถ้าได้ข้าจะถาม

             เอเวียน่าหลับตา ถูกของเจ้า ถึงเจ้าถามข้าก็ไม่บอก...

             แต่ข้าว่าซักวัน...ข้าจะถามเจ้า เมื่อข้าเชื่อว่าข้าได้คำตอบ อัลกล่าว ทั้งสองไม่พูดกันอีกซักพัก ข้าถามอะไรบางอย่างเจ้าได้รึเปล่า ชายหนุ่มกล่าวเบาๆ เอเวียน่ามองหน้าเขาซึ่งแสดงได้ว่าเธอฟังอยู่ ทำไมเจ้า...ถึงต้องการจะไปเอร์ซิล

             เอเวียน่าเข้ากับสบดวงตาสีน้ำตาลดำ เจ้าคิดว่า... เธอกล่าว ...เจ้าจะได้คำตอบงั้นเหรอ

             ชายหนุ่มขยี้หัวอย่างพยายามกลบเกลื่อนความขายหน้า เขาต้องคิดว่าไม่น่าถามแน่ๆ เอเวียน่าหัวเราะกับท่าทีของเขา อัลยิ้มเมื่อเห็นเธอหัวเราะ “…เวลาเจ้าหัวเราะ” เขาเอ่ยแผ่วเบา “...ก็น่ารักดี

             เอเวียน่ารู้สึกไม่สบายมาทันที ทำไมเธอถึงรู้สึกแปลกๆ ทั้งๆ ที่เบลก็เคยชมเธออย่างนี้เหมือนกัน แต่มันไม่เหมือน ยังไงล่ะ

             ดูเป็นผู้หญิงขึ้นเยอะ อัลพูดเหมือนการต่อให้ข้อความที่พูดไปเมื่อกี้จบลง เขายังยิ้มอยู่

             เอเวียน่าหันควับ หมายความว่าไง ข้าไม่เหมือนผู้หญิงเหรอ จบคำเธอโยนหมอนใส่อัลทันที เจ้าเหมือนผู้ชายนักสิอัลจะโยนหมอนคืนแต่ว่าเอเวียน่าห้ามไว้ ข้าเป็นคนเจ็บนะ

             อ๋อใช่...ข้าก็ลืมไป เขาพูดประชด งั้นคงต้องเอาคืนวันหลัง คำพูดจบลงพร้อมกับเสียงเคาะประตูดังขึ้น อัลเดินไปเปิดประตู เจ้าทิงกาเบลเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยใบหนึ่ง

             ท่านดูไม่เป็นไรแล้วนี่น่า เบลกล่าว ข้าทำอาหารมาให้ โทษทีที่ช้าหน่อย ...มันอาจจะรสชาติไม่เหมือนที่ท่านทำแต่ก็ดีกว่ากินอาหารของคุณบ๊อบล่ะกัน นกน้อยนั่งลงที่เก้าอี้ที่อัลตั้งไว้ข้างเตียง รสชาติมันแย่สุดๆ ไม่รู้ว่าทุกคนกินเข้าไปได้ไง เบลเริ่มตักโจ๊กที่อยู่ในจานให้เธอกิน

             ในเมื่อทิงกาเบลก็มาแล้วข้าไปข้างนอกหน่อยล่ะกัน อัลกล่าวและออกไปโดยที่เอเวียน่ายังไม่ทันพูดอะไรซักคำ

             หญิงสาวกินอีกคำหนึ่ง ฝีมือเจ้าไม่เลวนี่น่า อร่อยดี เธอพูด แล้วพวกโจรสลัดเป็นยังไงบ้างล่ะ

             ทุกคนน่ารักกันทั้งนั้นเลย นายท่าน ต้อนรับข้าอย่างดีทีเดียว...คิวโอกับดิวโอบอกข้าตั้งหลายอย่าง ท่านรู้มั๊ยว่าโจรสลัดไม่ชอบกินปลาด้วยล่ะ แปลกนะทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ปลาแท้ๆ ดิวโอบอกว่าจะกินเฉพาะเวลาที่ขาดอาหารเท่านั้น เบลตักโจ๊กให้เธออีกคำหนึ่ง เอเวียน่าทานไปและฟังทิงกาเบลไปด้วย แล้วนะหลายคนชมฝีมือของท่าน ว่าท่านน่ะเก่งมากเลยด้วยที่ชนะครีล์ได้ เอ่อ...แล้วบาดแผลเป็นไงบ้าง เจ้านกน้อยพึ่งนึกได้

             ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะอัลทำแผลให้แล้ว เจ้าช่วยดูหน่อยสิ ทำให้มันดีขึ้นหน่อยได้ไหม ข้าไม่อยากอยู่เฉยๆ นานนักหรอก เธอกินโจ๊กคำสุดท้าย

             ข้าช่วยให้มันดีขึ้นเท่านั้นนะ ท่านนอนอยู่นิ่งๆ เอเวียน่าทำตามและรอให้เบลใช้พลังรักษาเธอ แสงสีทองสว่างทั่วห้องสว่างตาหลังจากเทพธิดาจับที่บาดแผลของเธอ หญิงสาวค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ แล้วแสงสีทองค่อยๆ จางไป ตอนนี้บาดแผลของเอเวียน่าน่าจะปิดแล้ว ขอบใจนะ

             ไม่เป็นไร ว่าแต่...นายท่าน อัลเห็นแผลนี่แล้วใช่ไหมเขาว่าไงบ้าง

             เอเวียน่ามองสายตาที่เป็นห่วงของทิงกาเบล ...เขาไม่ได้พูดหรือถามอะไรเลยเอเวียน่าตอบท่าทางสงบ

             อืม...งั้นเหรอ เจ้านกน้อยมองเจ้านายซักพัก ว่าแต่ว่าท่านจะออกไปงานตอนรับของท่านหน่อยไหม

     

             ในเรือที่ครึกครื้นนั้น ต้นหนสองคนของเรือที่ถูกทิ้งให้อยู่บนรังกายังคงทำหน้าที่อย่างของตนอย่างเคร่งครัด แม้ในใจจะรู้สึกเสียดายงานเลี้ยงเบื้องล่างก็ตาม          น่าอิจฉาคนข้างล่างนั่น สนุกกันใหญ่เชียว บิลเลียมกล่าวกับสหายที่นั่งดื่มเบียร์อยู่

             ช่าย...หน้าที่แบบนี้ก็น่าเบื่อตอนเนี้ยแหละ โอเอลเสริม

             ฮึบิลเลียมยกกล้องส่องทางไกลขึ้นดูทิศทาง เขาส่องไปฝั่งหัวเรือ หันกล้องทางซ้ายขวาอย่างคนชำนาญ ท้องฟ้ายามค่ำคืนทำให้เห็นอะไรไม่ค่อยถนัดนัก นอกจากหมู่ดาวที่สว่างสดใส ชายหนุ่มขยับกล้องไปเรื่อยๆ ยังคงไม่มีอะไรที่สะดุดตา ...แต่เดี๋ยวก่อนทางด้านซ้ายที่เขามองผ่านมาเมื่อกี้นี้มีบางสิ่งบางอย่างกำลังเข้ามา ถ้าเป็นเครื่องบินก็คงบินต่ำไปหน่อย นกล่ะมั้ง นกอะไร

             สิ่งที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นนกนั้น กำลังบินเข้ามาจนกล้องส่องทางไกลจนมองเห็นภาพได้ชัดเจน มันบินโซซัดโซเซเข้ามาทางเรือ ท่าทางบาดเจ็บที่ปีก นั่นมัน

     

             เอเวียน่าเดินออกมากับทิงกาเบล ซึ่งมันพาเธอไปปล่อยไว้ที่กราบเรือ ซักพักนึงก็มีคนเข้ามาคุยกับเธอ หลายต่อหลายคน พวกเขาถามอะไรมากมายจนเอเวียน่าตามไม่ทัน เอ่อ...ทำไมพวกเจ้าถึงมาเป็นลูกน้องของอัลล่ะ เธอจึงตัดสินใจถามขึ้นเอง

             กัปตันน่ะเหรอ ก็เขาเป็นคนที่ไม่ยึดถือกฎเกณฑ์ พวกเราอยากทำอะไรก็ทำได้ ชายคนหนึ่งที่เอเวียน่าแน่ใจว่าชื่อรอยซ์พูดขึ้น

             ไม่ยึดถือกฎเกณฑ์? เอเวียน่าเกิดไม่เข้าใจ คนแบบนั้นมีดีตรงที่ไม่ยึดถือกฎเกณฑ์...ขอโทษนะ ข้าว่ามันไม่ใช่ข้อดีหรอกมั้ง

             ไม่หรอก เอเวียน่า มีกฎหลายๆ ข้อที่โจรสลัดจำเป็นต้องมีอย่างเช่นการเสียสละตัวเองเพื่อคนส่วนมาก การห้ามไม่ให้ออกแสดงความคิดเห็นซึ่งไม่เกี่ยว ห้ามหยอกล้อผู้ที่มีฐานะสูง และก็การห้าม...นำผู้หญิงขึ้นเรือ แต่กัปตันไม่สนใจกฎงี่เง่าแบบนั้นหรอก

             ...งั้นเหรอ เอเวียน่ารู้สึกแปลกใจ ทำไมทั้งที่เป็นกฎแต่เจ้านั่นก็ยังเอาเธอขึ้นมา หญิงสาวถอนหายใจ เจ้านั่นเป็นพวกชอบแหกกฎดีๆ นี่เอง

             นี่ เอเวียน่านึกอะไรบางอย่างออก เจ้านั่น เอ้ย หมายถึงอัลน่ะ...กลัวอะไรบ้างรึเปล่า หญิงสาวนึกสนุกขึ้นมา

             กลัวเหรอ ไบรอันที่เป็นเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยทำท่าทางนึก รู้สึกว่าจะไม่ค่อยกลัวอะไรหรอกนะ

             ดูท่าทางรอยซ์จะนึกออก ไอ้นั่นไง นั่นไง รอยซ์ชี้มาที่เพื่อน

             อ๋อ!” ไบรอัลร้อง

             อะไรเหรอ เอเวียน่าถามอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ยินคำตอบ ชายที่กล่าวถึงก็มาอยู่ด้านหลังทำเอาพวกโจรสลัดที่เธอคุยอยู่เงียบกริบ และเดินหนีไปด้วยความรวดเร็ว เอเวียน่าหันไปเห็นกัปตันหนุ่มที่ด้านหลัง คิ้วสองข้างบนใบหน้านั้นขมวดเข้าหากัน

             เจ้าหายดีแล้วเหรอไง ออกมาจากห้องทำไม อัลพูดอย่างมีอารมณ์

             ก็งานนี้เป็นงานที่ต้อนรับข้า ข้าก็ต้องอยู่ด้วยสิ ไม่เห็นแปลก เอเวียน่ามองตาสีน้ำตาลดำของอัลอย่างแน่วแน่

             เจ้า...แต่ไม่ทันที่อัลจะด่าก็เกิดเสียงดังเอะอะขึ้นมาจากบนรังกาเรือ ต้นหนสองคนกำลังบอกอะไรบางอย่าง เป็นขณะเดียวกับที่ทิงกาเบลวิ่งมาหาเอเวียน่า

             ข้าอยู่นี่ อัลส่งเสียงดังขึ้นไปข้างบน มีอะไร บิลเลียม

             ทั้งเรือเงียบกริบและมองไปที่ที่ต้นหนยืนอยู่ ฮอคซ์ครับ ฮอคซ์ มันบาดเจ็บ กำลังบินลงมาที่สิบนาฬิกา...คาดว่าจะลงได้ที่หัวเรือแบบเฉียดขอบเรือครับ

                หัวเรือเหรอ อัลพึมพำและรีบวิ่งไปยังที่หมาย ปีนขึ้นไปยังหัวเรือ

             เอเวียน่าพยายามตามเขาไป เบลจำต้องตามไปด้วย ทั้งสองปีนขึ้นไปยังหัวเรือ ทันเห็นเหยี่ยวสีทองคำร่อนลงมาที่มืออัลอย่างทุลักทุเล ยังไม่ทันที่ขาของฮอคซ์จะแตะโดนแขนของอัล แสงสว่างสีทองก็เกิดขึ้น เหยี่ยวตัวนั้นก็กลายร่างเป็นคน อัลรับร่างนั้นไว้ได้พอดี

             เทพซีซัตเหรอ เอเวียน่าพึมพำ มองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มผมสีทองที่อัลรับตัวไว้...คือเทพซีซัตที่สองฝาแฝดพูดถึง

             กัปตันหนุ่มค่อยๆ พยุงชายคนนั้นขึ้นมา ก่อนจะลงไปใต้ท้องเรือ อัลได้กระซิบบอกให้เธอตามมาด้วย

             อืม หญิงสาวรับคำ เอเวียน่ากำลังเดินไป แต่เธอรู้สึกมีอะไรบางอย่างอยู่ตรงขากางเกง มันยึกยือพิกล เธอเปิดขากางเกงออก นกสีทองบินออกมาทันที มันมองซ้ายขวาไปมาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่เจ้าเล่นอะไรอีกล่ะเบล เธอถามทิงกาเบลที่เกิดกลายร่างเป็นนกขึ้นมา

             ข้าเปล่านะ แต่ว่าเขาไปแล้วใช่ไหม นายท่าน มันถามและมองไปซ้ายทีขวาทียังกับหาหรือระแวงอะไรอยู่

             หญิงสาวไม่ใส่ใจสิ่งที่นกน้อยถาม เดี๋ยวข้าต้องไปหาอัลซักหน่อย เขาบอกให้ข้าตามไปเอเวียน่ากล่าว เจ้าจะไม่ไปก็ได้...

             ข้าจะไป! มันตะโกน แต่ข้าขออยู่ข้างหลังท่านนะ แต่ด้านหลังเสียงอ่อย

             เอเวียน่าจำใจให้ทิงกาเบลซ่อนอยู่ในฮู้ดด้านหลังของเสื้อที่อัลให้เธอใส่และเดินไปที่ห้องของอัล เธอเห็นอัลกำลังผ่าเอากระสุนออก

             นั่นหรือว่าเป็นกระสุนสีทอง เอเวียน่าถามทิงกาเบลเสียงเบา

             ใช่นายท่าน กระสุนสีทอง นั่นตัวอันตรายเลย นอกจากจะทำบาดเจ็บแล้วยังดูดพลังของเทพซีซัตอย่างเจ้านี่ไปด้วย กว่าจะหายคงอีกนาน เบลพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงขึ้นมาทันที

             อ้าว เอเวียน่า อัลพูด เบลไม่มาด้วยหรือเขาถามน้ำเสียงปกติ

             ทำไมเหรอ เอเวียน่าสังเกตว่าผู้ป่วยบนเตียงยังมีสติอยู่ พลังของเบลช่วยได้เหรอ อัลพยักหน้า แต่...เธอไม่อยากช่วย เอเวียน่าพูดช้าๆ

             ทำไมล่ะ ชายหนุ่มถาม เป็นครั้งแรกที่เอเวียน่าจับความกังวลได้ในน้ำเสียง ถึงแม้จะไม่มากมายนักแต่ก็มี

             เบลยอมบินออกมาและกลายร่างเป็นคน ก็ได้ ก็ได้ มันกล่าว หน้าของหญิงสาวผมสีทองแดงระเรื่อ ชายหนุ่มบนเตียงเมื่อเห็นเธอก็ราวกับจะกระโดดขึ้นมาจากเตียงโดยลืมความเจ็บปวดนั้น

             โจซีฟีเน่…” ฮอคซ์เรียกทิงกาเบลอย่างคุ้นเคย โอ๊ย!”

             นอนลงซะสิ ข้าจะดูแผลหน่อย...ข้าจะรักษาให้ด้วย อย่าขยับนะ!” เบลค่อยๆ ประคองชายผู้นั้นลงไป และเธอก็หันมาหามนุษย์สองคน เอ่อคือ...ออกไปก่อนได้มั๊ย

             อัลและเอเวียน่าลอบมองหน้ากันจำใจต้องออกไปแต่โดยดี

             เจ้ามาได้ไง ฮอคซ์ถามเมื่อทั้งสองคนออกไปแล้ว เสียงเบามากถ้าหากอยู่ไม่อยู่ใกล้อาจไม่ได้ยิน

             ข้าน่ะสิที่ควรสงสัยว่าเจ้ามาอยู่นี่ได้ไง ข้านึกว่าจะเจอเฟร็ดเดอร์ริคซะอีก ทิงกาเบลพูดระหว่างที่พันแผลที่แขนของชายหนุ่ม แผลเจ้าไม่ใช่เล่นเลยนะ เสียพลังไปเยอะล่ะสิท่า ไปทำอะไรมา

             ...เสียใจด้วยนะ โจซีฟีเน่มองหน้าอย่างสงสัย ที่เจ้าดันเจอข้าแทนที่จะเป็น...เฟร็ดเดอร์ริค ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าจะพูดถึงเด็กซื่อๆ อย่างนาโพเลียนแบบอย่างทุกทีเสียอีกเบลใช้พลังรักษาแผลแบบที่ใช้กับเอเวียน่า

             ไม่ล่ะ...เฟร็ดเดอร์ริคดีกว่าตั้งเยอะ และยังดีกว่าเจ้าด้วย...โอลิเวอร์ เบลยิ้ม เจ้าอยู่เฉยๆ ได้ไหม ข้าจะให้พลังแล้วนะโจซีฟีเน่ต่อว่าเมื่อโอลิเวอร์ลุกขึ้นมาและจับแผลที่ดูท่าทางเจ็บอยู่นิดหน่อย

             โอลิเวอร์ยิ้มมาที่โจเซฟีน หากเจ้าเต็มใจที่จะให้พลังข้า ข้าของรับพลังของเจ้าอย่างเต็มใจล่ะกัน จบคำเขาดึงเธอมาไว้ที่ตักอย่างรวดเร็ว

             เจ้าจะ...อุ๊บ... โอลิเวอร์จูบเธอ และดึงพลังจากตัวเธอออกไป อย่างช้าๆ

     

             โจซีฟีเน่...สองคนนั้นเคยรู้จักกันมาก่อนงั้นเหรอ ข้าไม่ยักรู้เลยแฮะ อัล กล่าวกับเอเวียน่าอยู่หน้าห้อง

             เอเวียน่ามองมาทางเขา ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” เอเวียน่าไม่แน่ใจว่าเบลมีอะไรปิดบังเธอหรือเปล่า ไม่อยากให้เธอรู้อะไรรึเปล่า และชื่อนั่น โจซีฟีเน่งั้นเหรอ ชื่อที่เธอไม่เคยได้ยิน คงเป็นชื่อจริงๆ ของเจ้านกน้อย “...ว่าแต่เจ้า อัลเจ้าได้เทพซีซัตมาจากไหน

             ข้าช่วยมันไว้ตอนที่ปีกหักน่ะ แต่ตอนนั้นไม่หนักขนาดนี้ อัลอธิบายให้ฟัง และเจ้า...

             เจ้าบ้า!” เสียงของทิงกาเบลดังออกมาจากห้อง ทั้งสองรีบเปิดประตูเข้าไปดูทันที

             เกิดอะไรขึ้น เอเวียน่าเปิดเข้าไป

             ทิงกาเบลวิ่งมาหาเธอ นายท่าน!”

             เกิดอะไรขึ้นฮอคซ์ อัลถามชายที่ท่าทางไปไม่รู้ไม่ชี้ ที่นั่งอยู่ที่เตียง หน้าตาดูเหมือนหายดีแล้ว

             เปล่านายท่าน...ข้าก็แค่…”

             อย่าพูดนะ!” เบลสั่ง เธอหันหน้ามาเผชิญหน้ากับโอลิเวอร์ เจ้าบ้า ข้าเกลียดเจ้าจริงๆ คิดว่าข้าจะดีใจเหรอที่ได้เจอเจ้า ที่ข้าลงมาเนี่ย... ไม่ได้มาหาเจ้าหรอกนะ คิดว่าข้าจะมาหาเจ้าเหรอไง...เจ้างี่เง่า!” เธอด่าอย่างเหลืออด

             เอเวียน่าคิดว่านี่คือสิ่งที่เธอเก็บมานาน เจ้าบอกเขาไปหมดแล้วว่าเจ้าลงมาจากเบื้องบนทำไม เธอคิดอย่างเหนื่อยใจ ข้าออกไปข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวจะเข้ามา

             อืม อัลรับคำ หลังจากที่เสียงปิดประตูดังขึ้นแล้วชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงก็มามองผู้ต้องหาตรงหน้า

             เจ้าทำอะไรหล่อน เขาถาม อย่าโกหกข้าพร้อมกับดักคอคนที่พร้อมจะพูดปด

             เปล่า นายท่านข้าก็แค่... โอลิเวอร์มองนายอย่างกล้าๆ กลัวๆ เสียงของเขาเบาลงกว่าเดิมไม่รู้ว่าเพราะแผลที่ได้มารึเปล่า จูบ…” ฮอคซ์ค่อยๆ ค้อนสายตามองนาย อัลส่งสายตาน่ากลัวมาหาเขา อย่าว่าข้านะ ข้าก็แค่...เขายกมือป้องกันหัวตัวเองไว้

             อัลมองดูเหยี่ยวของเขาซักพัก เจ้าก็แค่...อะไร เขาพูดราวกับต้องการคำตอบ เจ้าเป็นอะไรกับทิงกาเบล

             ทิงกาเบล? ฮอคซ์ทำน่าสงสัยมาทันที

             ข้าหมายถึง โจซีฟีเน่ของเจ้าน่ะแหละ อัลพูดด้วยเสียงสงบสายตายังรอคำตอบ เขาแก้เปลี่ยนนามใหม่เพราะทราบอยู่แล้วว่าชื่อนกนั่น เป็นเพียงยศที่ประทานจากเบื้องบนตอนลงมาโลกกลางเท่านั้น

             เจ้าเหยี่ยวนิ่ง ไม่อยากตอบคำถามนั้นเลยแต่ว่า... ก็แค่...เคยเป็นคนรักกันเท่านั้นแหละ

             งั้นเหรอ อัลรับเรื่องอย่างนิ่งที่สุด

     

             เอเวียน่าเมื่อได้รับรู้เรื่องที่เบลกับฮอคซ์เคยเป็นคนรักกันมาก่อน ก็รับเรื่องอย่างสงบเช่นกัน เธอคิดเอาไว้แล้วว่าการที่ทั้งสองคนนั้นรู้จักกันมาก่อนเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเอาเสียเลย แล้วเจ้ามีอะไรจะบอกข้าก็บอกได้นะ เธอกล่าวกับเบลที่ก้มหน้าตลอดเวลา

             คือข้า...ถึงนกน้อยก้มอยู่ก็รู้ได้ว่ามันกำลังหน้าแดงมากทีเดียว

             เจ้าตามเขาลงมาใช่มั๊ย

             มันพยักหน้า ใช่ ข้าตามเขาลงมา...หมอนั่นหนีลงมาจากเบื้องบนก็จริงแต่ว่า พอโอลิเวอร์มีเจ้านายแล้วเบื้องบนก็ละทิ้ง แต่ข้าลงมาด้วยความสามารถนะนายท่าน ทิงกาเบลพยายามพูดอย่างรวดเร็ว โดยไม่เงยหน้ามาแม้แต่น้อย

             เจ้าหมายความว่าเขาไม่มีความสามารถงั้นสิ เอเวียน่าเหมือนแกล้งหลอกถาม

             ไม่ใช่นะ! นายท่าน มันเงยหน้าขึ้นมาทันที เขานะเก่งมากเลย โดยเฉพาะฝีมือการใช้ดาบไม่เป็นรองใครเลย แต่ว่าเขาน่ะถูกกลั่นแกล้งทำให้ไปทดสอบที่จัดขึ้นในรอบสองปีไม่ทันก็เลย...อ๊ะ!” ทิงกาเบลหน้าแดงกับสายตาที่เอเวียน่ามองมาอย่างเอ็นดู มันเผลอพูดเรื่องยกย่องเขาขึ้นมาได้ มันก้มหน้าลงอีก

             เจ้ารักเขารึเปล่า

             มันพยักหน้าอีกครั้ง คือข้า... แล้วมันก็เงียบอีก

             เอเวียน่ารู้ว่าเจ้านกน้อยเกรงใจเธอเนื่องจากเธอไม่ชอบยึดติดกับคำว่ามิตรภาพและความรัก ทำตามใจเจ้าเถอะ

             ตอนนี้เขาไม่ได้รักข้า

             แล้วเจ้าจะทำยังไง เบลไม่ตอบ ...แล้วแต่เจ้าล่ะกัน เอเวียน่าหันไปเคาะประตูห้องของอัลเพื่อเข้าไปในห้องของกัปตันหนุ่มอีกครั้ง

             อัลยืนเท้าเอวอยู่ข้างเตียง มองไปยังผู้ต้องหาที่นอนหันไปอีกทาง เมื่อเอเวียน่าเข้ามาเขาจึงหันมา

             เป็นไงบ้างหญิงสาวถาม

             อัลหยักไหล่ แล้วเจ้าล่ะ

             ไม่มีอะไรมากหรอก เอเวียน่าพูดและหันไปที่เตียง โอลิเวอร์ ฮอคซ์ ใช่ไหม เจ้าตัวสะดุ้ง ก็เธอดันเรียกทั้งชื่อและยศอย่างเสร็จสรรพราวกับรู้จักกันมานาน ข้าเอเวียน่า เป็นลูกเรือในเรือนี้ซักพัก และก็เป็นนายของ โจซีฟีเน่ ทิงกาเบลด้วย ยินดีที่ได้รู้จัก

             เจ้าตัวค่อยๆ หันกลับมา ลุกขึ้นนั่งอย่างมีมารยาท ครับ

             อัลมองหน้าเหยี่ยวตัวดีของเขา โอลิเวอร์ เจ้าดูแลโจซีฟีเน่ซะ เขาสั่ง อย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้าปล่อยให้ใครกล้าทำอันตรายหล่อน และอย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้าปล่อยให้หล่อนไปนอนกับลูกเรือข้าที่เป็นชายล้วนอย่างนั้น

             แต่ข้า!... เสียงฮอคซ์กับทิงกาเบลร้องขึ้นพร้อมกัน

             ไม่มีแต่ หรือเจ้าจะให้เบลอยู่กับเจ้าพวกนั้นอัลส่งเสียงข่มขู่

             เบลแย้งขึ้นมาก่อน แต่ข้าแปลงร่างเป็นนกแล้วไปเกาะเสาเรือนอนก็ได้

             อัลหันมามองเบลและกลับไปมองฮอคซ์ ก็ได้ถ้าเจ้าคิดอย่างนั้น แต่ว่า ฮอคซ์เจ้าคงไม่คิดปล่อยให้หล่อนเกาะอยู่แล้วเจ้านอนสบายหรอกใช่ไหม แล้วบางคืนก็หนาว บางคืนก็มีพายุ เจ้าจะเอาไง

             เจ้าตัวก้มหน้าลง ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ...ก็ได้ มาสิ เขาตอบรับ เดินออกจากห้องทันที และเบลก็เดินก้มหน้าตามเขาออกไปโดยไม่พูดอะไรเลย

             หวังว่าคงไม่มีปัญหาอะไรนะ เอเวียน่าบ่นขึ้นมาหลังจากที่แน่ใจว่าทั้งสองจะไม่ได้ยิน

             ไม่หรอก ฮอคซ์น่ะไว้ใจได้ ถ้าไม่มีเรื่องนี้ ข้าก็ยังยืนยันให้ทิงกาเบลนอนอยู่ห้องเดียวกับเขาเหมือนเดิม...ว่าแต่เจ้านอนเตียงล่ะกันวันนี้

             เจ้าอย่าบอกนะว่าจะให้ข้านอนพื้นถ้าข้าไม่เกิดเจ็บแผลอย่างนี้ เอเวียน่าเริ่มโวย

             อัลถอนหายใจ เจ้าจะทำตัวให้น่ารักไม่เถียงข้าซักนาทีสองนาทีได้มั๊ย ...เจ้าควรขอบคุณข้าถึงจะถูกนะ ข้าอุตส่าห์สะ...

             ขอบคุณครับท่านกัปตัน และเธอก็โดดขึ้นไปบนเตียง คลุมโปงอย่างรวดเร็ว

             เจ้านี่นะ อัลไม่ได้ว่าอะไรอีก เพียงแต่นอนลงใต้เตียงโดยมีผ้าห่มผืนหนึ่งที่แย่งจากใต้เท้าเธอ

             เอเวียน่าคิด วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอจะไปถึงเอร์ซิลเมื่อไร เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าข้าจะถามอัล แต่เอาเถอะอยู่ที่นี้อาจจะไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว ร่างบางอ้าปากหาวและเธอก็หลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยล้า

     

     

    */*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

    To be Continue
    OPEN AGAIN 08/05/2011




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×