ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : นางในฝัน
       
        รุ่นพี่ตัวใหญ่ เสียงดัง [*๐*] เข้ามาสั่ง
        [*๐*] \"น้องที่คิดว่าเป็นนิเทศนั่งอยู่กับที่เพราะพี่จะซ้อมเชียร์\"  [^๐^] [T_T] [-_-]  (หน้าตารุ่นน้องตอนนั้น)
      รุ่นน้องพากันโห่ยกห้อง แต่บางคนก็ซ่าไม่ใช่เล่นขนาดโดนรุ่นพี่ขู่ว่าจะไม่ผ่านกิจกรรมก็ไม่กลัวแถมแอบใช้วิชามารหนีออกไปอีกออกไป  เช่น  เข้าห้องน้ำ  แม่ตายพ่อตาย  มีธุระด่วน  ไปหาหมอ  นัดอาจารย์ไว้ 
      เมื่อรุ่นพี่เห็นว่าอยู่กันคบแล้วก็เริ่มซ้อมเชียร์ แค่เริ่มนายโจก็รู้สึกเบื่อซะแล้วแต่เขาก็ต้องทำเพราะถือคติที่ว่าทำเพื่อสถาบันทำเพื่อศูนย์  เสียงผู้ชายเริ่มเบาบางลงเมื่อมีรุ่นพี่คนสวยมาคุมด้วยแต่นายโจกลับรู้สึกว่ารุ่นพี่คนนี้ยังสวยสู้สาวสวยเชิดหยิ่งคนนั้นไม่ได้ถึงสูงกว่าก็จริงเหอะถึงข่าวกว่าก็จริงเหอะ
      พอหมดเวลาซ้อมเชียร์นายโจก็ช่วยรุ่นพี่ลากโตะเก็บที่เดิม  หลังจากนั้นเขาก็นั่งรถเมล์กลับบ้านระหว่างที่นั่งรถเมล์ไปก็อดนึกถึงคนสวยคนนั้นไม่ได้  เขาคิดในใจว่าถึงแม้ว่าเธอจะปากไม่ดี  พูดไม่เพราะ  เขาก็ไม่สนใจต่อไปแล้ว ขอแค่ให้เธอคนนั้นเป็นคนดีก็พอ
    ภายใต้ชายคาบ้านหลังใหญ่เพรียบพร้อมไปด้วยบริวารแต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าเธอเหงาเพียงไร
                  \"คุณหนูทานข้าวก่อนเถอะค่ะ คุณท่านไป L.A.คงทานข้าวพร้อมคุณหนูไม่ได้\"
                    เธอวางช้อนลงอย่างไม่พอใจแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไป 
 
                  \"คุณหนูขา  คุณหนู\"  แม่นมเรียกแต่เสียงที่แม่นมได้ตอบกลับคือเสียงปิดประตูดังปัง
                  \"อ้อยเก็บโต๊ะสิเดี๋ยวฉันจะไปดูคุณหนูหน่อย\"
      ระหว่างทางตอนเดินกลับนายโจพบสาววัยสามสิบกำลังยกรถเข็นที่มีลูกตนอยู่ข้ามบันไดสะพานลอย  หลายคนเดินผ่านเธอไปโดยไม่สนใจแต่นายโจกลับเดินเข้าไปช่วย
                    \"ผมช่วยนะครับ\"
      นายโจลงมือยกรถเข็นขึ้นบันไดจนถึงขั้นสุดท้าย  หญิงวัยกลางคนกล่าวขอบใจ  นายโจรู้สึกดีไม่ใช่เพราะได้รับคำขอบใจแป็นเพราะได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตะหาก  เขายังคงเดินไปตามทางจนถึงบ้านของเขา
      วันต่อมา  นายโจก็มาเรียนตามปกติเหมือนทุกวันเพียงแต่วันนี้แตกต่างตรงที่ไม่มีการเรียนรวม  แล้ววันนี้เขาก้ต้องเรียนผ่านทางกล้องวีดีโอซึ่งมันทำให้เขาต้องใช้สมาธิในการเรียนมากขึ้นอีกเป็นสิบเท่าเพราะเพื่อนๆในห้องต่างคุยกันสนั่นห้องไม่สนใจวีดีโอเลย  นายโจกับเพื่อนอีกหนึ่งคนที่ยังมีกระจิตกระใจอยากเรียนอยู่ตัดสินใจกันไปเรียนในห้องที่อาจารย์สอนโดยตรง
      และก็ช่างเป็นโชคดีของเขากับนายก็อตเหลือเกินเพราะมันยังมีที่นั่งเหลือพอสำหรับเขาและเพื่อน  นายโจเริ่มรู้สึกมีสมาธิมากขึ้นในการเรียนมากขึ้นแต่แล้วสักพักเสียงเพื่อนกลุ่มก็ดังขึ้นพร้อมเสียงเปิดประตู  นายโจคิดว่าจะเรียนไม่รู้เรื่องซะแล้วเพราะเพื่อนๆๆพวกนั้นแต่กลับผิดคาดนอกจากพวกนั้นไม่คุยกันแล้วยังตั้งใจเรียนแบบไม่น่าเชื่อ
      สอนไปได้สักพักอาจารย์ก็สั่งให้ทำแบบฝึกหัดลงในสมุดแล้วเก็บมาส่งเป็นห้อง  นายโจทำเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วหันมามองทางเพื่อนๆของเขา  แต่ละคนยังคงนั่งทำงานกันอย่างขะมักขะเขม้น 
      ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงซึ่งใกล้เวลาส่งแล้ว หัวหน้าห้องก็ยังไม่ปรากฏตัวมาและเพื่อนๆที่ทำงานกันสร็จแล้วก้ยังทำเป็นนั่งเฉยๆ  นายโจเลยตัดสินใจเก็บสมุดเพื่อนที่อยู่บนโต๊ะไปส่งให้อาจารย์แทน  จังหวะที่นายโจกำลังจะเอาไปส่งนั้นหัวหน้าห้องก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมสมุดหนึ่งกองพอดีนายโจจึงอาสารวบรวมไปส่งให้  จากการกระทำครั้งนี้ทำให้วารู้สึกปลื้มนายโจขึ้นเป็นกองและยังแอบมองโจด้วยแววตาชื่นชมด้วย
      โจหิ้วหนังสือกองเป็นตั้งไปวางไว้บนโต๊ะอาจารย์  อาจารย์ค่อยๆตรวจของนักศึกษาแต่ละตอนเรียนซึ่งอาจต้องใช้เวลามากหน่อยเพราะมีตั้งหลายห้องมาส่งสมุด  นายโจเบนสายตามองไปรอบๆฆ่าเวลา
        และสักพักหนึ่งสายตาเขาก็ต้องหยุดลงที่แถวหน้าสุดเพราะสาวที่เขาแอบปิ๊งอยู่แธอนั่งอยู่ข้างหน้าเลยน่ะสิ  ไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือพรหมอาลวาดกันแน่ถึงทำให้เขาแธอต้องมาเจอกันอีก  สักพักเขาก็สังเกตเห็นเธอลุกขึ้นเดินมาทางอาจารย์เขารีบมองไปทางอื่นเพื่อไม่ให้เธอจับได้ว่าเขาแอบมองเธออยู่
        สักพักนายโจก็มองไปทางสาวคนนนั้นอีกซึ่งตอนนี้เธอกำลัง  ยืนเกาะโต๊ะอาจารย์อยู่  ช่างเป็นคนที่ดูดีจริงๆทำอะไรก็ดูดีไปหมด  โจยังคงจ้องหน้าเธอคนนั้นอย่างไม่กระพริบตา  ตอนนนี้หนังสือกองห้องเขาได้เริ่มทยอยตัวแล้ว  โจยังคงมีสติพอที่จะรับสมุดจากอาจารย์แล้วหันมามองหน้าสาวสวยคนนั้นเป็นระยะระยะ  โจสังเกตเห็นเธอยิ้ม  แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอยิ้มอะไร  เขารู้เพียงแต่ว่าเวลาเธอไม่ยิ้มก็สวย พอเธอยิ้มก็เหมือนเธอหยุดโลกของเขาไว้ทั้งใบ  โลกนี้ชั่งมีสีสันเหลือเกินเพียงแค่มีรอยยิ้มของเธอที่อยู่หน้าเขาตรงนี้มาแต่งเติม
        เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหกเพราะตอนนี้เวลานี้เขาเดินกลับมานั่งที่ตนเองพร้อมกับแจกสมุดเพื่อนๆ  ทั้งๆที่ตอนนี้เขากลับมานั่งที่แล้วแต่สายตาของเขาก็ยังมองไปยังแถวหน้า  ผู้หญิงที่ผูกโบสีชมพู  วามองที่เดียวก็รู้ว่าโจกำลังมองใคร  วาบอกกับตัวเองว่าสักวันคนที่โจมองอาจาไม่ใช่หล่อนคนนั้นแต่เป็นเอตะหาก  เพื่อนโจเริ่มกระซิบ
                    \"รู้แล้วว่ะว่ายัยคนสวยชื่ออะไร\"
                    \"ใครคือยัยคนสวยที่นายว่า\"
 
                    \"ก็คนที่สวยที่สุดในห้องนี้และเป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆหลายคนน่ะสิ\"
                    \"แล้วไง\"
                    \"โห่ไม่สนใจเลยว่ะบอกไอ้กล้วยแทนดีกว่า\"
                    \"ไม่ต้องบอกข้ารู้แล้ว\"
                    \"เฮ้ยทำไมรู้ไวจังวะ  มั่วเปล่าเนี่ย\"
                    \"ชื่อน้ำผึ้งถูกมั้ย\"  ก็อตพยักหน้ารับ\"
        โจฟังชื่อแล้วยิ่งตะลึงเหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเธอจริงๆน้ำผึ้ง  เธอมีความเปรี้ยวอมหวานอยู่ในตัวเอง  และยังดูทรงอำนาจเหมือนนางพญาผึ้งอีก  สักพักนายโจก็กวาดตามองไปรอบๆวันนี้ดูนักศึกษามากันน้อยจริงๆท่าทางจะขี้เกียจซ้อมเชียร์  นายโจลุกไปเข้าห้องน้ำ   
        รุ่นพี่ตัวใหญ่ เสียงดัง [*๐*] เข้ามาสั่ง
        [*๐*] \"น้องที่คิดว่าเป็นนิเทศนั่งอยู่กับที่เพราะพี่จะซ้อมเชียร์\"  [^๐^] [T_T] [-_-]  (หน้าตารุ่นน้องตอนนั้น)
      รุ่นน้องพากันโห่ยกห้อง แต่บางคนก็ซ่าไม่ใช่เล่นขนาดโดนรุ่นพี่ขู่ว่าจะไม่ผ่านกิจกรรมก็ไม่กลัวแถมแอบใช้วิชามารหนีออกไปอีกออกไป  เช่น  เข้าห้องน้ำ  แม่ตายพ่อตาย  มีธุระด่วน  ไปหาหมอ  นัดอาจารย์ไว้ 
      เมื่อรุ่นพี่เห็นว่าอยู่กันคบแล้วก็เริ่มซ้อมเชียร์ แค่เริ่มนายโจก็รู้สึกเบื่อซะแล้วแต่เขาก็ต้องทำเพราะถือคติที่ว่าทำเพื่อสถาบันทำเพื่อศูนย์  เสียงผู้ชายเริ่มเบาบางลงเมื่อมีรุ่นพี่คนสวยมาคุมด้วยแต่นายโจกลับรู้สึกว่ารุ่นพี่คนนี้ยังสวยสู้สาวสวยเชิดหยิ่งคนนั้นไม่ได้ถึงสูงกว่าก็จริงเหอะถึงข่าวกว่าก็จริงเหอะ
      พอหมดเวลาซ้อมเชียร์นายโจก็ช่วยรุ่นพี่ลากโตะเก็บที่เดิม  หลังจากนั้นเขาก็นั่งรถเมล์กลับบ้านระหว่างที่นั่งรถเมล์ไปก็อดนึกถึงคนสวยคนนั้นไม่ได้  เขาคิดในใจว่าถึงแม้ว่าเธอจะปากไม่ดี  พูดไม่เพราะ  เขาก็ไม่สนใจต่อไปแล้ว ขอแค่ให้เธอคนนั้นเป็นคนดีก็พอ
    ภายใต้ชายคาบ้านหลังใหญ่เพรียบพร้อมไปด้วยบริวารแต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าเธอเหงาเพียงไร
                  \"คุณหนูทานข้าวก่อนเถอะค่ะ คุณท่านไป L.A.คงทานข้าวพร้อมคุณหนูไม่ได้\"
                    เธอวางช้อนลงอย่างไม่พอใจแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไป 
 
                  \"คุณหนูขา  คุณหนู\"  แม่นมเรียกแต่เสียงที่แม่นมได้ตอบกลับคือเสียงปิดประตูดังปัง
                  \"อ้อยเก็บโต๊ะสิเดี๋ยวฉันจะไปดูคุณหนูหน่อย\"
      ระหว่างทางตอนเดินกลับนายโจพบสาววัยสามสิบกำลังยกรถเข็นที่มีลูกตนอยู่ข้ามบันไดสะพานลอย  หลายคนเดินผ่านเธอไปโดยไม่สนใจแต่นายโจกลับเดินเข้าไปช่วย
                    \"ผมช่วยนะครับ\"
      นายโจลงมือยกรถเข็นขึ้นบันไดจนถึงขั้นสุดท้าย  หญิงวัยกลางคนกล่าวขอบใจ  นายโจรู้สึกดีไม่ใช่เพราะได้รับคำขอบใจแป็นเพราะได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตะหาก  เขายังคงเดินไปตามทางจนถึงบ้านของเขา
      วันต่อมา  นายโจก็มาเรียนตามปกติเหมือนทุกวันเพียงแต่วันนี้แตกต่างตรงที่ไม่มีการเรียนรวม  แล้ววันนี้เขาก้ต้องเรียนผ่านทางกล้องวีดีโอซึ่งมันทำให้เขาต้องใช้สมาธิในการเรียนมากขึ้นอีกเป็นสิบเท่าเพราะเพื่อนๆในห้องต่างคุยกันสนั่นห้องไม่สนใจวีดีโอเลย  นายโจกับเพื่อนอีกหนึ่งคนที่ยังมีกระจิตกระใจอยากเรียนอยู่ตัดสินใจกันไปเรียนในห้องที่อาจารย์สอนโดยตรง
      และก็ช่างเป็นโชคดีของเขากับนายก็อตเหลือเกินเพราะมันยังมีที่นั่งเหลือพอสำหรับเขาและเพื่อน  นายโจเริ่มรู้สึกมีสมาธิมากขึ้นในการเรียนมากขึ้นแต่แล้วสักพักเสียงเพื่อนกลุ่มก็ดังขึ้นพร้อมเสียงเปิดประตู  นายโจคิดว่าจะเรียนไม่รู้เรื่องซะแล้วเพราะเพื่อนๆๆพวกนั้นแต่กลับผิดคาดนอกจากพวกนั้นไม่คุยกันแล้วยังตั้งใจเรียนแบบไม่น่าเชื่อ
      สอนไปได้สักพักอาจารย์ก็สั่งให้ทำแบบฝึกหัดลงในสมุดแล้วเก็บมาส่งเป็นห้อง  นายโจทำเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วหันมามองทางเพื่อนๆของเขา  แต่ละคนยังคงนั่งทำงานกันอย่างขะมักขะเขม้น 
      ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงซึ่งใกล้เวลาส่งแล้ว หัวหน้าห้องก็ยังไม่ปรากฏตัวมาและเพื่อนๆที่ทำงานกันสร็จแล้วก้ยังทำเป็นนั่งเฉยๆ  นายโจเลยตัดสินใจเก็บสมุดเพื่อนที่อยู่บนโต๊ะไปส่งให้อาจารย์แทน  จังหวะที่นายโจกำลังจะเอาไปส่งนั้นหัวหน้าห้องก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมสมุดหนึ่งกองพอดีนายโจจึงอาสารวบรวมไปส่งให้  จากการกระทำครั้งนี้ทำให้วารู้สึกปลื้มนายโจขึ้นเป็นกองและยังแอบมองโจด้วยแววตาชื่นชมด้วย
      โจหิ้วหนังสือกองเป็นตั้งไปวางไว้บนโต๊ะอาจารย์  อาจารย์ค่อยๆตรวจของนักศึกษาแต่ละตอนเรียนซึ่งอาจต้องใช้เวลามากหน่อยเพราะมีตั้งหลายห้องมาส่งสมุด  นายโจเบนสายตามองไปรอบๆฆ่าเวลา
        และสักพักหนึ่งสายตาเขาก็ต้องหยุดลงที่แถวหน้าสุดเพราะสาวที่เขาแอบปิ๊งอยู่แธอนั่งอยู่ข้างหน้าเลยน่ะสิ  ไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือพรหมอาลวาดกันแน่ถึงทำให้เขาแธอต้องมาเจอกันอีก  สักพักเขาก็สังเกตเห็นเธอลุกขึ้นเดินมาทางอาจารย์เขารีบมองไปทางอื่นเพื่อไม่ให้เธอจับได้ว่าเขาแอบมองเธออยู่
        สักพักนายโจก็มองไปทางสาวคนนนั้นอีกซึ่งตอนนี้เธอกำลัง  ยืนเกาะโต๊ะอาจารย์อยู่  ช่างเป็นคนที่ดูดีจริงๆทำอะไรก็ดูดีไปหมด  โจยังคงจ้องหน้าเธอคนนั้นอย่างไม่กระพริบตา  ตอนนนี้หนังสือกองห้องเขาได้เริ่มทยอยตัวแล้ว  โจยังคงมีสติพอที่จะรับสมุดจากอาจารย์แล้วหันมามองหน้าสาวสวยคนนั้นเป็นระยะระยะ  โจสังเกตเห็นเธอยิ้ม  แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอยิ้มอะไร  เขารู้เพียงแต่ว่าเวลาเธอไม่ยิ้มก็สวย พอเธอยิ้มก็เหมือนเธอหยุดโลกของเขาไว้ทั้งใบ  โลกนี้ชั่งมีสีสันเหลือเกินเพียงแค่มีรอยยิ้มของเธอที่อยู่หน้าเขาตรงนี้มาแต่งเติม
        เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหกเพราะตอนนี้เวลานี้เขาเดินกลับมานั่งที่ตนเองพร้อมกับแจกสมุดเพื่อนๆ  ทั้งๆที่ตอนนี้เขากลับมานั่งที่แล้วแต่สายตาของเขาก็ยังมองไปยังแถวหน้า  ผู้หญิงที่ผูกโบสีชมพู  วามองที่เดียวก็รู้ว่าโจกำลังมองใคร  วาบอกกับตัวเองว่าสักวันคนที่โจมองอาจาไม่ใช่หล่อนคนนั้นแต่เป็นเอตะหาก  เพื่อนโจเริ่มกระซิบ
                    \"รู้แล้วว่ะว่ายัยคนสวยชื่ออะไร\"
                    \"ใครคือยัยคนสวยที่นายว่า\"
 
                    \"ก็คนที่สวยที่สุดในห้องนี้และเป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆหลายคนน่ะสิ\"
                    \"แล้วไง\"
                    \"โห่ไม่สนใจเลยว่ะบอกไอ้กล้วยแทนดีกว่า\"
                    \"ไม่ต้องบอกข้ารู้แล้ว\"
                    \"เฮ้ยทำไมรู้ไวจังวะ  มั่วเปล่าเนี่ย\"
                    \"ชื่อน้ำผึ้งถูกมั้ย\"  ก็อตพยักหน้ารับ\"
        โจฟังชื่อแล้วยิ่งตะลึงเหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเธอจริงๆน้ำผึ้ง  เธอมีความเปรี้ยวอมหวานอยู่ในตัวเอง  และยังดูทรงอำนาจเหมือนนางพญาผึ้งอีก  สักพักนายโจก็กวาดตามองไปรอบๆวันนี้ดูนักศึกษามากันน้อยจริงๆท่าทางจะขี้เกียจซ้อมเชียร์  นายโจลุกไปเข้าห้องน้ำ   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น