คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความทรงจำ
ภายใต้ผ้าคลุมโปร่งใสสีชมพูที่ถูกขึงไว้กับเพดานห้องจนมาถึงบริเวณที่บรรทมองค์หญิงแคทเธอร์รีนทรงพลิกพระวรกายไปมาด้วยทรงบรรทมไม่หลับเมื่อดำริถึงว่ากี่ไม่เพลาข้างหน้าพระองค์จะทรงเจอมิตรสหายคู่ใจที่สนิทกันมาก
ทรงดำริถึงพระพักตร์ที่อ่อนโยนรอยยิ้มที่ละมุนละไมเมื่อครั้งเก่าก่อนที่เจ้าชายซาลีโอเสด็จมายังอาณาจักรของพระบิดาขององค์ ยังทรงจดจำได้มิมีลืมเลือนว่าทรงแกล้งปลอมพระองค์เป็นนางกำนัลไปยังที่พำนักของเจ้าชายซาลีโอเพื่อทรงต้องการทราบว่าลับหลังพระองค์แล้วเจ้าชายซาลีโอจะทรงตรัสถึงพระองค์อย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเจ้าชายซาลีโอตะทรงรู้ทันพระดำริขององค์หญิงจึงแกล้งต่อว่านิสัยขององค์หญิงแคทเธอร์รีนทรงเป็นเด็กไม่รู้จักโตต่อหน้านางกำนัล
เหล่านางกำนัลพากันหัวเราะโดยมิได้รู้เลยว่ามีองค์หญิงปลอมพระองค์มาแฝงตัวอยู่ในหมู่พวกนาง
เจ้าหญิงแคทเธอร์รีนทรงทนความอับอายไม่ไหวรีบลุกอย่างเสียพระพักตร์และด้วยความรีบร้อนทำให้พระองค์สะดุดขอบประตูที่พำนักขอองค์ชายซาลีโอ
เหล่านางกำนัลพากันตกใจเมื่อเห็นพระภูษาที่คลุมใบพระพักตร์ขอองค์หญิงหลุดออกเผยให้เห็นเป็นพระพักตร์ขององค์หญิง
เจ้าชายซาลีโอทรงพระสรวลนิดๆก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าพระพักตร์องค์หญิงและยื่นพระหัตถ์ไปตรงหน้าพระพักตร์องค์หญิงแคทเธอร์รีน
เจ้าหญิงแคทเธอร์รีนทอดพระเนตรพระหัตถ์ของเจ้าชายซาลีโออย่างเคืองๆก่อนจะลุกขึ้นด้วยตัวของพระองค์เองและเสด็จออกนอกที่พำนักของเจ้าชายซาลีโอไป
เจ้าชายซาลีโอรีบเสด็จตามองค์หญิงแคทเธอร์รีนไป
“องค์หญิงน้อยท่านโกรธเราหรือ”
เจ้าชายซาลีโอจับข้อพระหัตถ์ขอองค์หญิงแคทเธอร์รีนไว้
เจ้าหญิงแคทเธอร์รีนทรงหันพระพักตร์ไปยังทางข้างหน้าอย่างไม่สนพระทัยในคำตรัสของเจ้าชายซาลีโอที่มีต่อพระองค์
เจ้าชายซาลีโอทรงแย้มพระโอษฐ์นิดๆก่อนจะเอื้อมพระหัตถ์ไปจับพระเกษองค์หยฺงแคทเธอร์รีนอย่างเอ็นดู
“องค์หญิงทรงทำองค์เป็นเด็กจริงๆ”
องค์หญิงแคทเธอร์รีนมีพระพักตร์บึ้งตึงเล็กน้อย พระโอษฐ์สั่นเล็กน้อยด้วยความพิโรธ
เจ้าชายซาลีโอจับพระหัตถ์องค์หญิงแคทเธอร์รีนไว้พร้อมกับเสด็จไปเผชิญพระพักตร์กับองค์หญิงแคทเธอร์รีน ทรงจ้องไปยังพระเนตรขององค์หญฺงแคทเธอร์รีนพร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนละมุนละไม
เจ้าหญิงแคทเธอร์รีนทอดพระเนตรสายเนตรของเจ้าชายซาลีโอตอบอย่างหนักแน่นหมายจะจะจ้องสายพระเนตรให้เจ้าชายซาลีโอได้รู้สำนึก แต่กลับกลายเป็นพระองค์เองที่มิอาจทนจ้องสายพระเนตรคู่นั้นของเจ้าชายซาลีโอได้นานด้วยรู้สึกพระทัยสั่นเหลือเกินยามมองพระเนตรของเจ้าชาย
ทำไมกันกับแค่จ้องพระเนตรตอบพระองค์ต้องทรงหวั่นไหวถึงเพียงนี้ทั้งที่พระองค์ก็ทรงได้พบเจ้าชายต่างเมืองมากมายที่เสด็จมาเยือนตามกิตติศัพท์ที่เลื่องลือว่าพระองค์เป็นเจ้าหญิงผู้ทรงสิริโฉมงามยิ่งนักทำให้บุรุษมากมายต่างหมายปองพระองค์
“เราขอโทษ ความจริงแล้ว ท่านมีความน่ารัก และงดงามมากจริงๆ บุรุษใดก็ตามที่พบประสบพักตร์องค์หญิงน้อยเราเชื่อว่าคงมิอยากกลับไปยังเมืองที่ตนได้ปกคอรงไว้เลย คงอยากอยู่เมืองขององค์หญิงตราบสิ้นชีวาวาย”
“ท่านว่าเราเป็นเด็ก”
“ถ้าท่านเป็นเด็กก็ดีสิ เราจะได้ขอท่านกลับไปยังเมืองเรา เราจะดูแลท่านอย่างไม่สะสายตาเลย เพราะเกรงว่าจะมีเด็กหนุ่มมาตามเฝ้าชมเชยท่าน”
“เจ้าชายตรัสราวกับว่าท่านหวงเรา”
“ไม่ว่าผู้ใดก็จักต้องหวงทั้งนั้น หากมีคู่หมายที่สิริโฉมงามเยี่ยงนี้”
“ท่านพูดอะไรเราไม่เข้าใจ อีกอย่าเงรากับท่านก็มิได้เป็นอะไรนอกจากสหายนะ มาหวงเราเพื่ออะไร”
เจ้าหญิงทรงพระเนตรมองเจ้าชายซาลีโออย่างสงสัย
เจ้าชายซาลีโอทรงหยิบแหวนขึ้นมาประคองใส่สู่นิ้วนางข้างขวาของเจ้าหญิงแคทเธอร์รีน
“นี่ล่ะคำตอบ”
“เจ้าชายท่านทำอะไร”
“ต่อไปนี้องค์หญิงน้อยคือคู่หมายของเรา”
“ท่านพ่อมิทรงยอมแน่”
“เราจักไปคุยด้วยตนเอง”
คำตรัสในเพลานั้นของเจ้าชายซาลีโอทำให้องค์หญิงแคทเธอร์รีนทรงปลื้มพระหัยจนมาบัดและมิดำริพระทัยไว้ให้ชายใดอีกเลย
เจ้าชายซาลีโอทรงเป็นบุรุษเพียงผู้เดียวที่อยู่ในพระทัยของพระนางไม่ว่ายามบรรทมหรือตื่นบรรทม
เจ้าหญิงแคทเธอร์รีนทรงพลิกพระวรกายไปมาสักสองสามครั้งก่อนจะเผลอบรรทมไปด้วยพระโอษฐ์ที่แย้มอย่างมีความสุข
เพลาเช้ามาถึงจักรพรรดิแอนท์ดิสทรงตื่นพระบรรทมเมื่อมีทหารกล้ามาถวายรายงานถึงที่บรรทมแต่เช้า
จักรพรรดิ์แอนท์ดิสทรงทอดพระเนตรไปยังทหารกล้าที่ทรงส่งไปให้สืบหาว่าอนุชาขององค์ไปพำนักอยู่แห่งใดไยถึงยังมิกลับมายังวัง
ทหารกล้ามองจักรพรรดิแอนท์ดิสด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มราวกับต้องมนต์สะกดมาจากที่ใด
จักรพรรดิ์แอนท์ดิสทรงลุกขึ้นจากที่บรรทมและนั่งลงบนที่บรรทมพร้อมกับเปล่งพระสุรเสียงก้องดังกังวาน
“ทหารกล้าแห่งข้าเจ้าเป็นเยี่ยงใดไปหรือไยถึงทำท่าราวกับเจอสิ่งมหัศจรรย์หรือพบเจอเรื่องประหลาดอันใดมา แล้วอนชาของเราล่ะทำไมเจ้าไม่เอาตัวกลับมาหรือเพราะเจ้ามิพบเจ้าชาย”
“พบพะยะค่ะ แต่อยู่กับหญิงสาวนางหนึ่งในป่าทึบ”
“ไม่เห็นแปลก แต่เหตุใดเจ้าถึงไม่นำเจ้าชายกลับมา และเพราะอะไรเจ้าถึงต้องทำตาลอยๆ ราวกับจะล่องลอยไปกับสายลม”
“ข้าพระบาทคิดว่าเจ้าชายคงมิจะประสงค์กลับมาในวังหรอกพะยะค่ะ คงติดพระทัยหญิงนางนั้น”
“เหลวไหลน้องเรามิเคยติดนารีจนเสียงานเสียการ”
“แต่ข้าพระบาทว่าไม่ว่าบุรุษใดได้เห็นนางก็ต้องมีอันลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป คงจะจดจำได้อย่างเดียวคือนางผู้อยู่เบื้องหน้า”
“เหลวไหล เจ้าชักจะกล่าวหาน้องเราว่าติดนารีจนลืมงานการไปมากซะแล้ว เจ้านี่บังอาจจริงๆ”
“ถ้าพระองค์ไม่เชื่อก็ทรงรับสั่งให้ช่างวาดมาวาดรูปนางนั้นสิพะยะค่ะ ข้าพระบาทจะเป็นผู้บอกช่างวาดเองว่าให้วาดออกมาให้เหมือนนางมากที่สุด”
“ไปตามอนุชากลับมาให้ได้และเลิกพูดถึงนางที่ทำให้ทหารกล้าของข้าเช่นเจ้าเลอะเลือนได้แล้ว”
ทหารกล้าถวายราชสาสน์ให้กับจักรพรรดิแอนท์ดิสก่อนจะถวายบังคมลาออกไปจากห้องพระบรรทม
จักรพรรดิ์แอนท์ดิสทรงเปิดราชสาสน์ออกมาทอดพระเนตรดู
ในเนื้อความของราชสาสน์ได้เขียนบรรยายถึงความงามสตรีนางหนึ่ง
งานเกินหญิงใดทั่วแหล่งหล้า แม้นางฟ้ามิอาจเทียบ เทพีเจอต้องยอมพ่าย ดุจดั่งละอองดาวบนท้องฟ้า ถึงอยู่ในความมืดมิด ก็มิอาจบดบังความงดงาม ผิวพรรณผ่องอำไพ รูปองค์นาง ให้เห็นเป็นหลงใหล เพียงพิศได้ไม่นานเท่าไหร่ ใจต้องพลีให้นางทั้งดวง
บุรุษใดในแหล่งหล้า เก่งและกล้ามาแค่ไหน เพียงพบนางก็พร้อมยอมพลีกายแม้ต้องสิ้นด้วยมือนางก็จักยอม
เป็นดุจดั่งดวงใจคนทั่วหล้า เลืองลือถึงชั้นฟ้าสวรรค์ เทพองค์สูงสุดของสวรรค์ได้เจอยังต้องหลงใหล งามแม้เพียงเส้นผม เพียงได้พิศก็ยิ่งหลงใหล ชายมากมายล้วนพลีชีพไว้ข้างกายนาง
ทำให้องค์จักรพรรดิ์อดดำริไม่ได้ว่านางผู้นั้นอาจมิใช่สามัญชนธรรมดาและเข้ามาที่นี่ต้องมีจุดประสงค์อันใดแน่ เห็นทีพระองค์ต้องทำอันใดสักอย่างแล้วเพื่อให้ได้นางมาอยู่ใกล้ๆเพื่อความปลอดภัยของชาวเมืองทุกคน
ความคิดเห็น