ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สักครั้งได้ไหม...ให้หัวใจเราใกล้กัน

    ลำดับตอนที่ #5 : ^_ ^_||

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 50



          

           ตอนเย็น มยุรีมาดักรอภูวรินน์ ภูวรินน์จึงซักถามว่ามีอะไร เธอจึงบอกว่ามาสมัครเป็นเลขาคนใหม่ของเขา

     

           ภูวรินน์รับอย่างไม่รีรอเพราะเห็นมยุรีมีประสบการณ์แต่ติดตรงที่ว่ามยุรีเป็นนนางแบบอาจจะไม่เหมาะที่จะทำช่วงนี้ภูวรินน์จึงขอให้มยุรีไปเคลียร์งานให้หมดก่อนแล้วค่อยมาทำงานกับเขา

     

           วันต่อมา ธารธิณีมาทำงานในสถานที่ใหม่เธอเข้ากับทุกคนได้ดีโดยเฉพาะนภดลเจ้านายสุดหล่อ

     

           นพดลกล่าวชมธารธิณีเสมอว่าเขาเลือกคนไม่ผิดนอกจากธารธิณีจะมีจิตใจที่งดงามแล้วยังทำงานเก่งอีก เพียงแค่นี้ก็ถึงกับทำให้ธารธิณีเขินจนเก็บอาการไม่อยู่

     

           ขณะเดียวกันภูวรินน์ก็รู้สึกวุ่นไปหมดตั้งแต่ที่ไม่มีธารธิณีอยู่เขาต้องชงกาแฟเอง จัดคิวลูกค้านัดลุกค้าเอง จดรายละเอียดที่สำคัญในการประชุมเองเวลามีปัญหากับลุกค้าเขาก็ต้องเคลียร์เอง

     

           สุมิตเห็นเพื่อนเคร่งเครียดกับงานที่ทำก็รู้สึกเป็นห่วงจึงเตือนให้ภูวรินน์เพลางานลงหน่อยหรือไม่ก็แค่ลงทุนไปง้อเลขาแสนแสบคนเก่งกลับมา

     

           ภูวรินน์ลุกขึ้นอย่างทระนง

     

               หวังไปเถอะ

     

           สุมิตยกกาแฟขึ้นดื่มแต่แล้วก็ต้องหาถังขยะป้วนทิ้ง

     

               โห นี่แกชงกาแฟได้บัดซบมากเลยนะเนี่ย ฉันไปดื่มที่ร้านกาแฟดีกว่า

     

           ภูวรินน์นั่งลงอย่างเหนื่อยใจก่อนที่จะค่อยๆหันไปมองแฟ้มที่กองอยู่บนโต๊ะ

     

           ตอนบ่ายของวันนั้นนพดลชวนธารธิณีไปทานข้าวด้วยกันซึ่งธารธิณีก็รับปากอย่างเต็มใจ

     

           ธารธิณีได้แต่คิดในใจว่านพดชั่งเป็นเจ้านายที่แสนดีจริงๆอุตส่าห์ชวนเธอมาทานข้าว ลองเป็นภูวรินน์หรออย่าว่าแต่ข้าวเลย น้ำสักแก้วก็ยังไม่เคยเลี้ยง ตอนนี้เธอรู้สึกแล้วว่าเธอเลือกคนไม่ผิด

     

           เสียงปืนดังขึ้นทำให้เธอได้สติมองไปรอบๆเห็นผูคนมากมายหมอบอยู่ใต้โต๊ะ

     

           นพดลกระซิบบอกให้ธารธิณีหมอบลง

     

           ธารธิณีได้ยินไม่ถนัดจึงตะโกนถามหัวหน้าโจรจึงหันมามองทางธารธิณีและสั่งให้เธอหมอบลง

     

               ฉันไม่ใช่หมานะ

     

           หัวหน้าโจงเล็งปืนไปทางธารธิณี

     

               หมอบก็ได้

     

           ธารธิณีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆก่อนจะหมอบลง

     

               นำของมีค่าทั้งหมดมาวางกองวางบนโต๊ะ

     

           ธารธิณียังคงเป็นคนเดียวที่ทำท่าจะขัดขื่น

     

           หัวหน้าโจรมองหน้าธารธิณีก่อนจะยกปืนขึ้นและสั่งให้ธารธิณีถอดสร้อยที่ใส่อยู่ที่คอออก

     

           ธารธิณีจับสร้อยอย่างลังเล ทันใดนั้นคำที่สายใจเคยพูดไว้ก็แวบขึ้นมาที่หัว

     

               แม่เห็นว่าหนูอยากได้ก็เลยซื้อมาให้รักษาไว้ดีๆนะเพราะนี่อาจเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่แม่ซื้อให้หนู

     

           หัวหน้าโจรทำท่าจะยิงธารธิณีเพราะเห็นว่าธารธิณีเรื่องมากเหลือเกิน

     

               ก็แค่ปืนนึกว่าฉันกลัวหรอ

     

               ปากดีนักมึง

     

           หัวหน้าโจรจะตบธารธิณีด้วยสันปืนธารธิณีก็หลบและหยิบกระเป๋าขึ้นมา

     

               ฉันมีระเบิดจะลองหน่อยมั้ย

     

               โกหก

     

           ผู้คนพากันแตกตื่น

     

               งั้นฉันลองโยนระเบิดลงกับพื้นดูมั้ย

     

               อย่า อย่า จะเอาไงก็ว่ามา

     

           ข้างนอกร้านอาหารตำรวจกำลังระดมกำลังเข้าไปจับกุมโจรโดยละหม้อม

     

           ลูกน้องโจรเห็นตำรวจเข้ามาในร้านก็ลนลานยิงปืนให้มั่วไปหมด

     

           แขกที่อยู่ในร้านหมอบอยู่กับพื้นพร้อมร้องอย่างตกใจ

     

           ธารธิณีคลานหนีออกมาจากร้านอย่างว่องไวและเธอก็พบว่าตัวเธอมาหยุดอยู่ที่เท้าของใครคนหนึ่ง

     

           เสียงหัวเราะคุ้นๆดังขึ้น

     

               คิดว่าเป็นสุนัขหรือไงถึงได้คลานออกมานอกร้านอาหาร

     

           ธารธิณีลุกขึ้นผลักภูวรินน์กระเด็น

     

           หัวหน้าโจรหลบหนีออกมาได้และจับธารธิณีไว้เป็นตัวประกัน

     

           ภูวรินน์ยืนหัวเราะอย่างชอบใจ

     

           ธารธิณียืนหน้ามุ้ยพร้อมกับผวา

     

           ภูวรินน์โทรศัพท์ให้สุมิตมาดูธารธิณี

     

           สุมิตรีบขับรถมาเพื่อมาดูว่าภูวรินน์หาเรื่องอะไรธารธิณีอีก พอมาถึงก็แทบช็อคเมื่อเห็นธารธิณีถูกจับเป็นตัวประกัน

     

               นี่แกยืนใจเย็นอยู่ทำไมเล่า ทำไมไม่เข้าไปช่วยเลขาแก

     

               เธอคนนั้นไม่ใช่เลขาของฉัน

     

           ธารธิณีกระซิบหัวหน้าโจร

     

               พี่ลืมรูดซิบ

     

               หรอ

     

           หัวหน้าโจรก้มลงไปมองเลยเป็นโอกาสให้ธารธิณีวิ่งหนีไป

     

           หัวหน้าโจรจึงขว้าภูวรินน์ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดมาเป็นตัวประกัน

     

               เบาๆหน่อยสิคุณเสื้อผมยับหมดแล้ว นี่คุณเหยียบรองเท้าผมทำไมเปื้อนหมดแล้ว

     

           ธารธิณียืนยิ้มอย่างสะใจก่อนจะเดินไปทางนพดล

     

               ท่านคะ กลับกันเถอะค่ะ

     

               ไม่ได้หรอกครับ น้องผมโดนจับตัวอยู่

     

               หมอนั่นหรือคะ

     

           นพดลพยักหน้า

     

           ธารธิณีได้แต่คิดว่านพดลเป็นพี่ชายที่แสนดี เป็นเจ้านายแสนอบอุ่น เป็นผู้ชายที่จริงใจ อะไรจะเพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้ ผิดกับน้องชายลิบลับ

     

           ธารธิณีหยิบกล้วยมาทานและโยนเปลือกกล้วยทิ้งไปทางหัวหน้าโจร

     

           ภูวรินน์มองไปทางธารธิณีคล้ายกับจะเปรยว่าทำอะไรสิ้นคิดอีกแล้ว

     

           ด้วยความประมาททำให้หัวหน้าโจรไม่ทันสังเกตเปลือกกล้วยที่อยู่ด้านหน้าจึงไปเหยียบลื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

     

           ตำรวจเข้าจับกุมหัวหน้าโจรโดยฉับพลัน

     

           นพดลบอกให้ภูวรินน์มาขอบใจธารธิณี

     

           นอกจากภูวรินน์จะทำท่าเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วยังเดินผ่านธารธิณีไปอย่างไม่สะทกสะท้านอีก

     

           ธารธิณีเห็นท่าภูวรินน์แล้วอดหมั้นไส้ไม่ได้จึงบอกให้นพดลกลับไปบริษัทเดี๋ยวเธอจะตามไปทีหลัง

     

           นพดลลังเลอยู่สักครู่ก่อนจะตัดสินใจขึ้นรถ

     

           ภูวรินน์กำลังจะเปิดประตูรถ

     

           ธารธิณีก็มาขวางไว้ก่อน

     

               คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า

     

               ถอยไปผมไม่ต้องการคุยกับคุณ

     

               อุตส่าห์ช่วยจะขอบใจสักนิดก็ไม่มี

     

               ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความบังเอิญ

     

               เมื่อไรนายจะเลิกเก๊กและทำตัวดีๆแบบพี่ชายนายสักที

     

               ผมต้องรีบไปทำงานกรุณาหลีกทางด้วย

     

               ก็ได้พวกไม่สำนึกบุญคุณ

     

           ในตอนเย็น ขณะที่วิตรากับธารธิณีกำลังเดินกลับบ้านก็มีรถขับตาม

     

           ธารธิณีหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของรถ

     

           ภูวรินน์ก้าวเข้ามาจากรถก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเต็มใจครึ่งไม่เต็มใจครึ่ง

     

               ขึ้นรถฉัน....จะไป....ส่ง

     

               ไม่

     

           ภูวรินน์รู้สึกเหมือนหน้าแตกอย่างละเอียดจึงๆแต่ก็กลบเกลื่อนไว้

     

               ถือว่าตอบแทนที่ช่วยฉัน

     

               งั้นหรอ ความจำยังดี หนินึกว่าความจำเสื่อม

     

           ภูวรินน์กำหมัดแน่น

     

               ฉันพูดดีกับเธอที่สุดแล้ว ธารธิณี

     

           ภูวรินน์เดินขึ้นรถก่อนจะปิดประตูอย่างสุภาพไม่ตึงตังเหมือนคนทั่วไปที่โกรธ

     

               เจ้านายนี่สุดยอดเลยเน๊อะ ขนาดโกรธยังดูดีมีมารยาทเลย

     

               ตรงไหนมิทราบ

     

           ธารธิณีมุ่งหน้ากลับบ้านโดยไม่รอเพื่อนซี้

     

           ที่บ้านภูวรินน์ สินิทราดูนาฬิกาพร้อมกับชะโงกหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง

     

               ลูกไม่เคยกลับผิดเวลา

     

               จะกังวลอะไรกันคุณหญิง

     

                5 โมงแล้วยังไม่มาอีก

     

           ยังไม่ทันขาดคำรถก็มาจอดเทียบบันไดบ้าน

     

           ภูวรินน์กล่าวสวัสดีแม่กับพ่ออย่างมีมารยาทก่อนที่จะขึ้นไปชั้นบนของบ้าน

     

               ป้านิ่มคุณภูเป็นอะไรอ่ะ ทำไมวันนี้ดูเงียบจัง

     

               เดือนไปช่วยป้าจัดสำรับก่อนดีกว่า

     

           ธารธิณีพอกลับถึงบ้านก็ปิดประตูดังปั้งจนสายใจต้องออกมามอง

     

               เบาๆหน่อยสิลุกเดี๋ยวประตูพังหรอก

     

           ธารธิณีไม่พูดกลับวิ่งเข้าห้องไป

     

           ธานินเอ่ยถามภรรยาอย่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับธารธิณี ทำไมทำราวกับว่าธารธิณีไปโกรธใครมา

     

           สายใจเองก็งงไม่แพ้กันจึงได้แต่ยืนมองด้วยความประหลาดใจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×