คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : มาแล้วจ๊ะ ดองอีกแล้ว
ณ อาณาจักร ดินแดนอันไกลโพ้นมีพระราชาผู้ปกครองเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมเพียงผู้เดียวเพราะองค์ราชินีผู้เป็นคู่บุญบารมีได้สิ้นสวรรคตเมื่อได้ทรงครรภ์องค์หญิงน้อยออกมา
พระราชาจึงทรงรักและตามพระราชหฤทัยองค์หญิงเป็นอย่างมากเพราะองค์หญิงเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งราชินีมิปาน ไม่ว่าจะเป็นดวงพระพักตร์ของพระองค์ที่ถอดแบบมาจากพระมารดาของพระองค์มิปาน ทรงมีพระพักตร์ชมพูระเรื่อราวกับผลของผลไม้ต่างเมืองที่ส่งมาบรรณาการต่อเมืองขึ้นขององค์พระราชา
องค์หญิงทรงมีดวงเนตรที่หวานจับฤทัย มีพระโอษฐ์ที่งดงามรับกับใบพระพักตร์ มีพระเกศาสีน้ำตาลแดงอ่อนทำให้รับกับพระพักตร์ของพระองค์ทำให้ดูพระพักตร์ของพระองค์ดูอ่อนหวานยิ่งนัก
องค์หญิงทรงมีพระนามว่า แคทเธอร์รีน ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาเหมือนพระราชบิดามิปาน ทรงมีพระทัยโอบอ้อมอารีเหมือนพระราชมารดามิผิดเพี้ยน
ทรงเป็นองค์หญิงผู้เป็นที่รักและบูชาแก่ราษฎร์ผู้พบเห็นมิว่าจะเสด็จไปอยู่แห่งหนตำบลใดก็จะมีแต่ผู้คนรักและชื่นชม
พระราชาเสด็จมาสู่ห้องพระบรรทมขององค์หญิงแคทเธอร์รีนผู้ทรงเป็นสายเลือดแห่งพระองค์
พระราชาทรงทอดพระเนตรเห็นเหล่านางกำนัลกำลังจัดเตรียมของอย่างวุ่นวายก็ทรงตรัสกับองค์หญิงแคทเธอร์รีนว่า
“ลูกจะไปแห่งใดหรือ ถึงได้สั่งให้นางกำนัลพากันให้เตรียมออกให้วุ่นวายอย่างนี้”
องค์หญิงทรงละพระเนตรจากเหล่านางกำนัลหันมาพระพักตร์ของพระบิดาก่อนแย้มพระโอษฐ์ออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ลูกจะไปเยี่ยมซาลีโอเพคะ”
“จริงสินะลูกมิได้พบซาลีโอมาเนิ่นนานแล้วหลังจากที่ซาลีโอมาเยี่ยมลูกคราวนั้นใครๆก็ต่างพากันเห็นพรองต้องกันว่าลูกทั้งสองเหมาะกันยิ่งนัก”
องค์หญิงแคทเธอร์รีนทรงหลบพระพักตร์ของพระบิดาอย่างเขินอาย
“ท่านพ่อก็ทรงตรัสเกินไป”
นางกำนัลจัดข้าวของเสร็จก็มาทูลถวายต่อองค์หญิงแคทเธอร์รีนว่าจะทรงเสด็จเพลาไหน
องค์หญิงทรงตรัสว่าพรุ่งนี้เมื่อตะวันขึ้นจะเริ่มออกเดินทางทันทีเพราะเพลานี้ก็ใกล้ค่ำเต็มที่แล้ว
ณ อาณาจักร บาร์มีน็อต ซึ่งปกครองด้วยจักรพรรดิ์หนุ่มรูปงามนามว่าแอนท์ดิส
ภายใต้ห้องโถงอันโองอ่าพื้นถูกปูด้วยพรมชั้นดีจากต่างเมือง ฝาผนังหินอ่อนถูกแกะสลักด้วยช่างฝีมือดีจากต่างเมืองทำให้ดูสวยงามยิ่งนัก ไฟถูกออกแบบให้มีลักษณะพิเศษคือเมื่อมีคนเดินเข้ามาห้องนั้นก็จะสว่างเองโดยอัตโนมัติ
จักรพรรดิ์แอนท์ดิสทรงเสด็จไปมาอย่างร้อนพระทัยที่เห็นอยุชาอันเป็นที่รักของพระองค์ทรงเสด็จหายไปนาน ไหนจะมีราชกิจต่อบ้านเมืองที่ต้องสะสางอีก
อนุชาของพระองค์มิเคยทำองค์เหลวไหลเยี่ยงนี้และมิเคยเสด็จออกไปนานเป็นวันๆแบบข้ามวันข้ามคืนท่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับอนุชาเป็นแน่ เมื่อดำริได้ดังนั้นก็ทรงตรัสสั่งทหารทั้งสองนายซ้ายขวาออกไปตามหาพระอนุชาของพระองค์กลับมาโดยเร่งด่วน
ทหารทั้งสองนายเมื่อได้รับคำสั่งก็รีบออกนอกราชวังเพื่อตามหาเจ้าชายซาลีโอพระอนุชาของพระองค์จักรพรรดิ์แอนท์ดิส
ภายใต้ร่มไม้อันมืดครึ้มและบรรยากาศหนาวเย็นยามค่ำคืนมีเพียงกองไฟตรงหน้าเท่านั้นที่ให้ความสว่างและอบอุ่นได้
เจ้าชายซาลีโอทรงสุ่มกองไฟให้สูงกองเข้าไว้เพื่อให้ความอบอุ่นแก่พระองค์และเพื่อป้องกันสัตว์ร้ายที่มาเยี่ยมในยามวิกาลก่อนที่พระองค์จะทรงเสด็จไปยังลำธารเล็กๆไม่ไกลจากที่ประทับของพระองค์เพื่อนำพระภูษาของพระองค์ลงไปซักก่อนจะบิดให้แห้งแล้วจึงทรงนำมาซับใบหน้าของนางผู้เลอโฉมที่พระองค์ทรงช่วยชีวิตมาจากดินแดนทะเลทรายที่ร้อนระอุและเต็มไปด้วยมนต์ดำต่างๆ
ยิ่งเจ้าชายซาลีโอได้พิศดวงหน้าของนางใกล้ๆก็ยิ่งหลงใหลเป็นยิ่งนักถึงขนาดที่พระองค์จะทรงโน้มองค์ลงไปพิศนางแต่นางนั้นก็ได้ตกใจตื่นขึ้นมาซะก่อนพร้อมกับชักมีดขึ้นมาเพื่อป้องกันตน
เจ้าชายซาลีโอทรงหลบได้อย่างว่องไวก่อนตรัสออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ข้าคิดว่าแม่ของเจ้าคงดุยิ่งนัก ขนาดลูกสาวยังใจเด็ดขนาดนี้ ถ้าข้าหลบไม่ทัน ไส้ของข้าได้ลงไปกองบนพื้นเป็นแน่”
“ท่านนั่นเอง ข้าก็คงว่าใคร แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แล้วพี่ชายของข้าล่ะ”
“เราคิดว่าท่านคงจะเดินหลงทางจึงพลัดพรากจากพี่ชายของท่าน ดังนั้นเราจึงอาสาจะไปส่งท่าน ขอเพียงท่านบอกมาว่าญาติของท่านอาศัยอยู่ที่ใด”
“ท่านพูดกับว่าท่านชำนาญพื้นที่ในเมืองเป็นอย่างดี”
ราชินีมิเซลเอร่าทรงเอ่ยอย่างสงสัยในพระทัย
เจ้าชายซาลีโอเริ่มรู้พระองค์ว่านางคงสงสัยเป็นแน่จึงแกล้งพูดกลบเกลื่อนไป
“อย่าลืมสิว่าข้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ ข้าก็เป็นคนที่นี่ แล้วมันจะแปลกอะไรท่าข้าจะชำนาญที่ทางนี้เป็นอย่างดี”
ราชินีมิเซลเอร่าทอดพระเนตรไปยังใบหน้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของพระพักตร์ของพระองค์อย่างใช้พระดำริแล้วก็ทรงอดดำริในพระหฤทัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ดูสง่างามมากกว่าจะเป็นแค่ชาวเมืองทั่วๆไป อีกทั้งการพูดจาก็ฉะฉานดูเป็นผู้มีภูมิความรู้มากกว่าจะเป็นแค่ชาวเมืองธรรมดาคนหนึ่ง
เจ้าชายซาลีโอก็ทรงดำริในพระทัยเช่นกันว่านางนั้นคงสงสัยพระองค์เป็นแน่แท้เพราะดูจากท่าทางนางก็มิใช่ผู้ที่ผู้ใดจะมาหลอกลวงเสียง่ายๆ ท่าทางจะได้รับการเรียนรู้จากพ่อแม่ของนางมาอย่างดีถึงได้ดูฉลาดเป็นกรดยิ่งนัก
“ท่านหิวหรือยังข้าจะไปจับปลามาให้ท่าน”
“ข้าหิวแล้ว แต่ท่านจะลงไปจับปลายามวิกาลเช่นนี้คงได้ซักตัวกระมัง”
“นั่นน่ะสิ งั้นข้าแกล้งลงไปนอนตายให้ปลาตอดดีมั้ย”
“ท่านนี่ท่าจะเพี้ยน เอาอย่างงี้แถวนี้มีผลไม้มั้ย”
“มี แต่ไม่รู้ว่าจะกินได้มั้ยกลัวเป็นผลไม้มีพิษ งั้นข้าจะหามาแล้วทานให้ท่านดูก่อนดีมั้ย ถ้าอันไหนมีพิษข้าก็คงจักตาย”
“ข้าว่าท่านน่าจะหาวิธีอื่นมากกว่า”
องค์ราชินีมิเซลเอร่าอดดำริในพระทัยไม่ได้ระแวงชายหนุ่มผู้นี้มากเกินไป เพราะเจ้าหนุ่มคนนี้ก็เป็นเพียงชายหนุ่มซื่อๆบื่อๆคนหนึ่งหาได้ทำร้ายอะไรพระองค์ได้เลย
“งั้นท่านไปจับสัตว์มาตัวนึง พร้อมกับผลไม้มาจำนวนหนึ่งเอามาต่างชนิดกัน”
“จะจับมาให้สัตว์กินผลไม้แทนเราก็อดสิ”
“ท่านนี่จริงๆไปทำตามที่เราบอกเถอะ”
เจ้าชายซาลีโอทรงทำเป็นรีบร้อนสะดุดกิ่งไม้ตรงหน้าไปล้มทับหญิงสาวผู้อยู่ตรงหน้า
เจ้าชายซาลีโอทรงพระเนตรไปยังดวงหน้าของนางที่งามหาผู้ใดเปรียบได้
องค์ราชินีมิเซลเอร่าทรงจ้องพระเนตรตอบไปยังดวงเนตรที่อยู่เบื้องหน้าพระองค์ด้วยใจหวั่นไหวอย่างมิเคยรู้สึกเป็นกับผู้ใดมาก่อน
เจ้าชายซาลีโอทรงเลื่อนพระพักตร์ไปใกล้ใบหน้าของนางผู้ที่อยู่ตรงพระพักตร์ของพระองค์เรื่อยๆจนมาถึงปากของนางที่เอิบอิ่มงดงามหาผู้ใดเปรียบเสมือนได้
ความคิดเห็น