ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สักครั้งได้ไหม...ให้หัวใจเราใกล้กัน

    ลำดับตอนที่ #3 : ( + _ + )

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 50



         

    คุณหญิงแม่ก็ไม่มีทางรับหญิงเอ๋อเป็นลุกสะใภ้หรอก

     

           คุณหญิงวิมาลาเอื้อมมือจะไปตบหน้าแต่น้องหญิงห้ามไว้ทัน

     

           เมื่อชายนลและน้องหญิงมิสามารถทำให้แม่ทั้งสองยอมรับในตัวของเธอและเขาไม่ได้จึงตัดสินใจบอกกับคุณหยิงแม่ทั้งว่าจะไปโดดน้ำตายพร้อมกัน

     

           คุณหญิงทั้งสองไม่เชื่อเพราะต่างคิดว่าชายนลและน้องหญิงพูดกันเล่นๆ

     

           จนกระทั่งข่าวมาออกทางโทรทัศน์คุณหญิงทั้งสองจึงได้วิ่งหน้าตั้งไปบนสะพานพร้อมกันและยอมอนุญาตให้ทั้งสองแต่งงานกันได้

     

           ในงานเลี้ยง คุณหญิงสินิทราคุยกับลุกชายว่าอยากให้ลุกชายไปเปิดฟลอร์เต้นรำใหหน่อย

     

           ภูวรินน์รีบปฎิเสธทันทีพร้อมทั้งบอกด้วยว่าไม่มีคู่

     

           คุณหญิงสินิทรามองไปเห็นเลขาของลูกชายจึงดึงตัวมาเต้นรำเปิดงานให้หน่อย

     

           เมื่อโดนมัดมือชกอย่างงี้ภูวรินน์ก็จำใจต้องทำตาม

     

           เต้นรำที ธารธิณีก็เหยียบเท้าภูวรินน์ที

     

           ภูวรินน์ยิ้มให้กับกล้องที่รุมเข้ามาถ่ายพลางแอบกระซิบข้างหูธารธิณี

     

               นี่คุณเต้นรำเป็นหรือเปล่าเหยียบเท้าผมมาหลายรอบแล้วนะ

     

               ก็ไม่เป็นสิคะ ถึงได้เหยียบ

     

           มยุรีฝ่าวงล้อมเข้ามาหาภูวรินน์พร้อมผลักธารธิณีให้ออกห่างจากภูวรินน์

     

           ธารธิณีโมโหที่มยุรีผลักตนจนล้มจึงลุกขึ้นผลักคืน

     

               นี่แกกล้าดียังไงมาผลักฉัน

     

               แล้วคุณล่ะคะถือสิทธิ์อะไรมาผลักฉัน

     

               ภูคะ ดูเลขาคุณสิคะ

     

           ภูวรินน์นิ่เงียบไม่โต้ตอบแทนมยุรี

     

           มยุรีจึงแก้แค้นโดยการปราดเข้าตบธารธิณี

     

           ธารธิณีหลบทันและตบคืน ทั้งสองลงไปเกลือกกลิ้งที่พื้นแลกตบกันไปมา

     

           นักข่าวพากันวิ่งมาถ่ายรูปหลังจากนั้นก็มีตำรวจมาจับแยกทั้งคู่ออกจากกัน

     

           คุณหญิงสินิทราเรียกหายาดม

     

           ภุวรินน์ประคองแม่ไปนั่งพัก

     

               อ้าว!คุณหญิงเป็นไรไป

     

               ถามลูกชายตัวดีของคุณเองสิคะ

     

               ว่าไงพ่อลูกชาย

     

           หลังจากเสียงค่าปรับแล้วธารธิณีและมยุรีต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน

     

           สายใจพอรู้ข่าวจากลุกก็โมโหมากถึงกับบอกกับลุกว่าตนจะไปตบสั่งสอนเอง

     

               แล้วเอาเงินมาใช่ไหมล่ะ ธานินรีบเสริม

     

           สายใจมองตาขวางไปทางธานินเหมือนกับจะเอาเรื่อง

     

               เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร อันสัตว์โลกเกิดมา

     

           สายใจรีบห้ามสามีก่อนที่สามีของหล่อนจะเทศน์มากไปกว่านี้

     

           สายใจเดินเข้าครัวไปทำกับข้าว

     

           ธานินเดินขึ้นไปห้องพระเพื่อนั่งสมาธิ

     

           ธารธิณีนั่งกุมปากตัวเองที่แตกและเขียว

     

               แค้นนี้ต้องชำระ

     

           วันต่อมา หนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ลงข่าวกันให้ระนาว

     

               ไฮโซชื่อดังตบสาวนิรนามที่แย่งคนรักไป  เกลือกกลิ้งตบตีมิน่าเชื่อว่าจะเป็นเธอ กลัวถูกแย่งลงทุนตบเลขา นักธุรกิจหนุ่มเจ้าเสน่ห์แรงสาวตบตีแย่งมาตรอง

     

               นี่มันอะไรกันนี่ โอ๊ย!ฉันอยากจะเป็นลม

     

               อ้าว!คุณหญิง

     

           ที่บริษัท ภูวรินน์เรียกธารธิณีเข้ามาพบแล้วให้ดูหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้

     

           ธารธิณีทำท่าดีใจราวกับได้แก้ว

     

           ภูวรินน์ต่อว่าหาว่าธารธิณีไม่สำนึกที่ทำให้เขาต้องเสียชื่อ

     

               อะไรกันคะ ฉันตะหากที่เสียชื่อ และก็เจ็บตัวด้วย

     

           ธารธิณีเอามือจับที่ปากเพราะเริ่มเจ็บปากขึ้นมาอีกแล้วหลังจากที่พูดมากไป

     

           ภูวรินน์มองหน้าธารธิณีแล้วอดขำไม่ได้

     

           ธารธิณีโมโหจ้องหน้าภูวรินน์อย่างเอาเรื่อง

     

           ภูวรินน์หยิบหามาจากลิ้นชักแล้วทำให้ธารธิณี ทั้งสองมองตากันอย่างซึ้งใจ

     

           พลันก็มีพนักงานเปิดประตูเข้ามาถือแฟ้มกองโตเดินมาชนยาที่ทาจึงเปื้อนเสื้อของภูวรินน์

     

           ภูวรินน์ร้องออกมาอย่างตกใจ

     

               สูทของฉัน ออกไปให้หมด ออกไป

     

           ธารธิณีเดินออกมาจากห้องพร้อมวิตรา

     

               ฉันขอโทษฉันไม่รู้จริงๆว่าเธอกำลังสวีตกับท่านประท่านอยู่

     

               สวีตอะไรกัน

     

           ธารธิณีเดินไปอีกทาง

     

           พนักงานเริ่มจับกลุ่มเข้ามาถามวิตราว่าเจออะไรเมื่อกี้

     

           วิตราบอกปัดให้ไปถามธารธิณีเอาเอง

     

           สานั่งหน้าเซ็งหมดสนุก ป้องกับชัยเข้ามาเตือนว่าอย่ายุ่งเรื่องของคนอื่นมากนัก

     

           มยุรีมาหาภุวรินน์

     

           ภุวรินน์ทำหน้าเซ็งทันทีที่เห็นมยุรี

     

           มยุรีขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่ทำให้งานเมื่อวานนี้หมดสนุก

     

           ภูวรินน์บอกให้มยุรีไปขอโทษแม่เขาจะดีกว่า

     

           มยุรีเห็นด้วยแต่มีข้อแม้ว่าภูวรินน์ต้องไปด้วย

     

           วิตราชวนธารธิณีออกไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน

     

           ระหว่างทางที่เดินด้วยกันอยู่ส้นรองเท้าของธารธิณีก็ดันมาหักกลางถนน

     

           รถคันหนึ่งหักหลับผ่านธารธิณีไปอย่างหวุดหวิด

     

           ธารธิณียืนช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     

           คนในรถจอดรถแล้วลงมาดู

     

               คุณครับเป็นอะไรหรือเปล่าครับ คุณครับ

     

           ธารธิณีได้สติพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเสียงที่เรียก

     

           ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าก็คือชายหนุ่ม หน้าตาคมเข้ม สูงโปร่ง ท่าทางสุภาพอ่อนโยน เขาเอ่ยกับเธออย่างสุภาพอีกครั้ง

     

               คุณปลอดภัยดีใช่ไหมครับ

     

           น้ำเสียงอันนุ่มนวลของเขาทำให้ธารธิณีเกือบเคลิ้มไป

     

           วิตราวิ่งกลับมาดูเพื่อนด้วยความเป็นห่วง พอเห็นเพื่อนมาช่วยประคองธารธิณีไปนั่งแล้วชายหนุ่มนิรนามคนนั้นก็ขึ้นรถขับจากไป

     

           วิตราเรียกเพื่อนอีกที

     

               เจ้าชาย เจ้าชาย

     

               นี่ฉันเองเพื่อนแก

     

               แล้วเขาหายไปไหน

     

               คนที่เกือบขับรถชนแกหรอ โน้นขับรถไปไกลแล้ว

     

               เขาชื่ออะไรหรอ

     

               จะไปรู้ได้ไงวะฉันไม่ได้ถาม

     

           หลังทานอาหารกลางวันเสร็จธารธิณีก็ไปทำงานแต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูห้องเข้าไปภูวรินน์ก็เรียกไว้

     

           ธารธิณีหันมามองด้วยแววตาอันท้าทาย

     

               มีอะไรคะ ท่านประธาน

     

               ผมมีนัดเจรจาธุรกิจกับลุกค้า

     

               ค่ะ

     

               และคุณต้องไปด้วย

     

               ค่ะ

     

           ภูวรินน์เดินจ้ำอ้าวแบบไม่รอธารธิณีเลย

     

           ภูวรินน์แบบจะเปิดประตูไปชนธารธิณีอยู่แล้วโชคดีที่ธารธิณีหลบทัน

     

               ออกรถ

     

           คนรถสตาร์ทเครื่องจะออกไป ธารธิณีร้องลั่นเพราะขาเพิ่งก้าวเข้าไปได้ข้างเดียวเอง

     

           ภูวรินน์หันมามองด้วยแววตาที่เฉยชาและดูถูก

     

           ธารธิณีปิดประตูรถดังปีงอย่างโมโห

     

               มีมารยาทหน่อยสิ ปิดประตูรถแบบนี้ได้ไง

     

           ธารธิณีหันมาเผชิญหน้ากับภูวรินน์แล้วกระชากคอเสื้อภูวรินน์

     

               คิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะรังแกลุกน้องง่ายๆหรอ ขอบอกก่อนนะฉันไม่ให้ใครมารังแกฟรีๆ อนุบาลสามฉันตบลูก ผอ. ฟันหักที่มันมาดึงผมฉัน ป.1 มีคนมาเปิดกระโปรงฉันฉันทีบมันตกบันได ป.2 เด็กผ้ายตะบอลโดนหัวฉัน ฉันถอดรองเท้าตบหน้ามันเป็นรอยเลย ป.3 คุณครูตีก้นฉันทั้งๆที่ฉันไม่ผิด รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอต้องกลับบ้านทั้งเก้าอี้

     

               พอได้แล้ว วีรกรรมไรเสาระแบบนี้พูดมาได้ไง ไม่อายบ้างหรือไง เอามือเธอออกไปจากสูทฉํนได้แล้ว

     

               ที่พูดอกมาทั้งหมดนี่เพื่อจะบอกให้คุณรู้ว่าถ้าคุณรังแกฉันอีกนิดเดียวคุณจะโดนหนักยิ่งกว่ารายที่ผ่านมาอีก

     

           ภูวรินน์ไม่สนใจคำพูดธารธิณีเขาสั่งให้คนรถออกรถได้

     

           ธารธิณีไม่ทันตั้งตัวจึงล้มหน้าทิ่มจูบพื้นรถ

     

               นี่วอนจะไม่มีปากไปทานน้ำพริกซะแล้วนะ

     

           ภูวรินน์อดขำไม่ได้

     

           ธารธิณีหันไปมองด้วยแววตาอาฆาต

     

           เมื่อถึงร้านอาหาร ภูวรินน์ก็สั่งให้คนรถกลับไปก่อนเดี๋ยวเขาจะขับรถกลับบ้านเอง

     

           ธารธิณีแกล้งหกล้ม

     

           ภูวรินน์เข้ามารับทำให้ทั้งสองหกล้มไปด้วยกัน

     

           ธารธิณีกับภูวรินน์สบตากัน

      

           ภูวรินน์เหมือนต้องมนต์สะกด เขามองธารธิณีจนไม่รู้สึกตัวว่ากำลังจะเดือดร้อนเพราะใครบางคน

     

           ธารธิณีเรียกให้ภูวรินน์ลุกขึ้น

     

           ภูวรินน์ลุกขึ้นและเดินไปยังร้านอาหาร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×