ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 ความวุ่นวายในการท่องเที่ยว
หลังจบเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่เซตะนำพาพวกรูบี้เดินทางไปเที่ยวเพื่อชดเชยที่พาไปลำบากลำบนแม้รูบี้ไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็ค้านไม่ได้เพราะเสียงส่วนใหญ่ดังเห็นด้วย
เมื่อวันต่อมาเป็นวันหยุดเซตะจึงไม่รอช้าจะพาทั้งก๊วนไปเที่ยวภูเขา ซึ่งแถบนั้นมีร่องเขามากมายเกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำสายใหญ่ แต่ตอนนี้เหลือเพียงลำธารเล็กๆตอนนี้เซตะกำลังเดินนำพวกรูบี้เดินย้อนไปตามลำธารที่ว่านี้อยู่
"อะ....สะพานนั้นไง ที่เราจะไปเล่นปัมจี้จัมป์"เซตะชี้ไปสะพานที่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ซึ่งต้องเดินอ้อมขึ้นบันไดหินไป แต่ดูเหมือนพวกโกลด์จะอยากเล่นมากพวกเขาทิ้งพวกรูบี้ที่ค่อยๆเดินก้าวเท้ายาวๆไป
"จะรีบไปไหนกันละนะ"รูบี้เอ่ยอย่างเซ็งมองภาพด้านหน้าอย่างเอือมระอา
"เอาน่า พวกเขาคงอยากเล่นแล้วละ"เซตะกล่าวยิ้มๆ
"ปิด!?"พวกโกลด์อุทานเมื่อกำลังอ่านปิดบริการชั่วคราวที่แขวนในบริเวณที่เล่นบันจี้จัมป์บนสะพานแขวนที่เชือมระหว่างผาสองข้าง
ปิดบริการชั่วคราว
เนื่องจากอยู่ระหว่างซ่อมบำรุงจึงปิดเป็นเวลา 1 วัน
"เหอๆ"พวกรูบี้ที่ไม่ได้จริงจังกับเรื่องแต่แรกหัวเราะกันเล็กน้อย พวกเขาสงสัยตั้งแต่มองแต่ไกลไม่มีคนมาเล่นเลยซักคน ส่วนเซตะตอนนี้ได้แต่ยิ้มแห้งก่อนกลุ่มติ๊งต๊งจะหันมาโทษเซตะแทน
"แย่จังเนอะ..."เซตะเปรย
"เพราะคุณเซตะนั้นแหละไม่เช็คให้เรียบร้อยก่อน!"โกลด์เอ่ย
"ใช่ค่ะ แล้วแบบนี้จะได้เล่นหรือเปล่า"แซฟไฟรเสริม
"ทำอะไรซักอย่างสิ"
"เอาน่าพรุ่งนี้ก็ยังทัน"เยลโลว์ปลอบใจ กลุ่มรูบี้พาเห็นด้วย
"ไปหาโรงแรมกันก่อนเถอะ"รูบี้ชวนทั้งหมดเห็นด้วยพากันเดิน พวกเขามาเที่ยวพักสองวันหนึ่งคืนจึงจองโรงแรมเมื่อบัมจี้จัมป์ยังเล่นไม่ได้พวกเขาจึงมุ่งตรงไปที่พักก่อน
"อะ นั้นพวกเขาทำอะไรกันอยู่นะ"แซฟไฟรเหลียวตามขณะกำลังเดินเข้าโรงแรมที่จองไว้
"อ่อ พวกนั้นเป็น หน่วยกู้ภัยฝึกหัดนะ หน่วยงานของพวกเขาตั้งใกล้ๆนี้เลยมาซ้อยบ่อยๆนะ"มาม่าซังของโรงแรมที่เดินออกมาต้อนรับพวกเขาตอบคำถามแทน
"เร็วๆเข้าสิพวกแก ชักช้าแบบนี้"ชายวัยเลยกลางคนไปหน่อยกำลังตะเบงเสียงดุกลุ่มชายหนุ่มที่แต่งตัวยูนิฟอร์มของหน่วยกู้ภัย เขาค่อยเดินเอ่ยปากไล่คนที่เดินช้าในแถวให้วิ่งขึ้นไป
"ดูเข้มงวดจัง"พวกผู้หญิงในกลุ่มพวกรูบี้แทบจะเอ่ยพร้อมกัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังไล่มือไม้ตีก้นคนท้ายแถว
"รีบๆเข้าพักเถอะ"เซตะเอ่ย ก่อนทั้งหมดจะเข้าไปในโรงแรม
"เฮ่อ สุดท้ายก็ไม่ได้เล่นจนได้"แซฟไฟรถอนหายใจขณะที่นั่งลงบนเสื่อทาซามิในห้องพักของโรงแรม ก่อนเจ้าตัวจะปรายตาออกไปมองด้านนอก
"เอาเร็วไต่ลงมา"เสียงเร่งของชายที่เป็นผู้คุมหน่วยกู้ภัยฝึกหัดกำลังตะโกนอยู่ใต้หอสูง เร่งให้คนหอกระโดดไต่เชือกลงมาเรื่อยๆ ในขณะการซ้อมดำเนินไปเรื่อยบนหอเหลือเพียงสองคน
"เอา ซาโต้ อากิระ ลงเร็วๆ"เขาหันมาสั่งคนบนหอหลังจากปล่อยคนอื่นๆกลับไปหมดแล้ว
ชายสองคนที่อยู่ด้านบนมองลงมาข้างหนึ่งก่อนมีคนหนึ่งจับเชือกหันหลังไต่ลงมาอย่างคล่องแคล่ว ก่อนเงยมองอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านบน
"เฮ้ อากิระ ทำอะไรอยู่รีบลงมาเข้าสิ!!"ชายคนเดิมเร่งเร้า ชายคนที่ยืนด้านบนมองลงมาด้านล่างด้วยสายตาหวาดๆ ก่อนขาสองขาจะเริ่มสั่นไม่หยุด มือสั่นเท้าเอื้อมไปจับเชือกช้าๆแต่ปล่อยและหันเกากำแพงด้านหนึ่งแทน
"ทำบ้าอะไรอยู่!"อีกฝ่าย แต่ฝ่ายด้านบนยังคงขาสั่นขยับไม่ได้ก่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นบนหอ
"เป็นอะไรไป?"แซฟไฟรที่มองจากหน้าต่างชั้นสองกับชายที่เป็นครูฝึกทำหน้าแปลกพร้อมๆกัน ขณะชายคนที่อยู่ด้านล่างอีกคนกลับทำหน้าเหมือนรู้อยู่แล้ว
"โรคกลัวความสูง..."แซฟไฟรทวนคำที่ได้ยินอีกครั้งเบาๆ
หลังจากที่แอบดูเหตุการณ์หญิงสาวถือโอกาสเดินออกมาสอบถามพวกพนักงานในโรงแรม
"แปลกแฮะ เป็นโรคแบบนั้นยังเข้าหน่วยกู้ภัยทำไม"เธอเปรยถามบ่อยๆ เพราะหน่วยงานจะเผชิญหลายอย่างที่อันตรายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ความสูงก็นับเป็นสิ่งหนึ่งต้องเจอ
"เขาคงมีเหตุผลของเขาละค่ะ"พนักงานหญิงเอ่ย แซฟไฟร ขณะที่พวกรูบี้เดินถามว่ามีอะไร
"อ่อ ไม่มีอะไรหรอก..."
"เดี๋ยวสิครับ เรื่องแค่นี้ต้องถึงกับไล่ออกเลยหรอครับ"เสียงชายคนหนึ่งร้องประท้วงภายในห้องของสำนักงานกู้ภัย กลางห้องมีชายที่นั่งบนโต๊ะซึ่งคือครูฝึกของหน่วยกู้ภัย
"ความสูงเป็นสิ่งที่พวกเราต้องเจอ หมอนั้นดังเป็นโรคกลัวความสูงแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรตัวไร้ประโยชน์ เมื่อไร้ประโยชน์เอาไว้ทำไม"ฝ่ายครูตอบกลับเสียงดังพร้อมชี้ไปทางชายที่อากิระซึ่งยืนอยู่อีกมุมหนึ่ง
"แต่ทว่า เรื่องนี้คอยแก้ไปก็ได้นี้ครับ"ฝ่ายแรกแย้ง
"ไม่รู้ละ ถ้าหมอนั้นไม่สามารถผ่านด่านทดสอบพรุ่งนี้ได้ก็ออกไปได้เลย ฉันไม่อยากเลี้ยงให้เสียข้าวสุก คนจากหน่วยอื่นๆจะเอาเรื่องนี้คุยเสียเปล่า"ชายเป็นครูฝึกยื่นคำขาดอย่างไร้น้ำใจก่อนเดินออกจากห้องไป
เวลาผ่านดวงอาทิตย์เคลื่อนมาตำแหน่งลับแสงผืนฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีแสดส้มแสบตา ใต้สะพานเงียบสงบกว่าทุกวันเพราะไม่มีใครใช้บริการเล่นบัมจี้จัมป์
สุภาพสตรีคนหนึ่งกำลังพาโปเกมอนสุนัขมาเดินเล่นข้างลำธาร เสียงกระแสน้ำไหลดังกระซิบตลอดเส้นทาง ก่อนสุนัขที่เธอลากจะได้กลิ่นแปลกลอยตามทาง และออกวิ่งกระชากเชือกที่รักคออยู่เพื่อพาเจ้านายตาม
หญิงสาวสู้แรงสัตว์เลี้ยงไม่ได้ก็ผ่อนตามแรงพอตามมาได้สักพักกลื่นเหม็นคาวบางอย่างก็ลอยฟลุ้งทุกอณูพื้นที่ทำให้เธอต้องยกจมูกสัตว์เลี้ยงของเธอสลัดเชือกหลุดพร้อมวิ่งไปหยุดยืนเห่าคำรามนะจุดหนึ่ง
หญิงสาวสงสัยเดินตามก่อนจะได้เห็นสิ่งที่ทำให้เธอตกใจสุดขีด
แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่มาถึงพวกแซฟไฟรคยักคยอกที่จะตื่น เพื่อจะไปเล่นบัมจี้จัมป์เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ รูบี้แม้ตื่นเช้าอยู่แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ที่บรรดาเหล่าคนขี้เกียจกลับตื่นแต่เช้าได้เพื่อเรื่องนี้
"เอ๋? ทำไมมีคนเยอะจัง"พวกรูบี้มองไปใต้สะพานซึ่งมีคนเยอะกว่าปกติเหมือนมุมทำอะไรซักอย่าง
"เป็นอะไรองค์หญิงทำหน้ายังกับเจอผี กลัวหรอ?"รูบี้หันไปแซวนามิ เมื่อหญิงสาวออกอาการไม่อยากไปด้วยอย่างเห็นได้ชัด
"คะ...ใครกลัว"นามิแต่เสียงยังสั่น จากรูบี้ก็โดนดุเล็กน้อยแต่เขาเพียงยิ้มแห้งๆเล็กน้อยในใจนึกสะใจนิดๆกับการครั้งนี้เหมือนกัน จากนั้นพวกเร้ดก็ตัดสินแบ่งคนออกเป็นสองส่วนคือกลุ่มที่จะไปเล่นกับกลุ่มที่ไม่เล่นซึ่งกลุ่มที่จะเล่นยังคงขึ้นบนสะพานปกติ ส่วนกลุ่มไม่เล่นไปกับนามินั่งรอที่ใต้สะพานและเพื่อสืบดูด้วยว่ามามุมกันทำไม
พวกโกลด์เดินมาถึงสะพานก็ต้องตกใจไม่เพียงบัมจี้จัมป์ตัวสะพานก็ยังปิดไม่ให้ข้าม ก่อนปรายตาไปดูด้านล่างดีเขาเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบหลายคนยืนอยู่รายล้อม
"พวกเราลงไปดูเถอะ"เร้ดเอ่ยคนอื่นพยักหน้ากระโดดลงจากผาสูงใช้ความชันและก้อนหินให้เป็นประโยชน์ไล่ตามเกาะลงได้สำเร็จ รูบี้มองพรรคพวกอย่างระอา เดินอ้อมลงบันไดกันหน่อยไม่ได้ โชคดีที่คนมุมดูเหตุที่เกิดจึงไม่หันมาสังเกตพวกเขา รูบี้ตัดสินพาคณะกลุ่มไม่เป็นยุทธลงไปทางเดินปกติ ขณะพวกนามิที่ก็เดินมาสบทบพวกโกลด์ที่เดินลงมาพอดี
"อุบัติเหตุ!?"พวกรูบี้ตามาสบทบพวกโกลด์ที่สอบถามเรื่องเสร็จอุทานเสียงดัง
เกิดเหตุคนตายใกล้สถานที่แบบนี้บัมจี้จัมป์คงได้ปิดยาวเพราะเท่าฟังมาสาเหตุการตายเกิดจากการตกจากที่สูงหรือคือสะพานนั้นแหละ แถมผู้ตายังคนเป็นคุ้นพวกรูบี้พอควรนั้นก็ครูฝึกหน่วยกู้ภัยเมื่อวานนั้นเอง!
"แบบนี้ แผนการเล่นของเราก็ล้มไม่เป็นท่าละสิ"แซฟไฟรโอยครวญ พวกรูบี้ทำได้จำใจเพราะมันเหตุสุดวิสัยแต่โกลด์ไม่ยอมเลิกราพร้อมพูดว่า"มีบอกว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นฆาตกรรมตั้งหากเล่า ไม่แน่นะถ้าหาคนร้ายเจอเราก็ได้ต่อ"
พวกรูบี้เห็นว่าไร้สาระจึงพากันกลับโรงแรมไปตั้งโปรแกรมเที่ยวใหม่ ส่วนโกลด์โดนคริสตัลลากไปอบรมสั่งสอน ระหว่างนั้นมีคนมุมมากมายพูดไปเดียวกันว่าเป็นฆาตกรรมมากกว่าอุบัติเหตุ แซฟไฟรทำท่านึกตามความคิด รูบี้เห็นท่าไม่ดีสอยเท้าเร็วขึ้นแต่ไม่ทันการณ์
"รูบี้ ฉันว่าเราช่วยกันตามหาความจริงเถอะ มาสืบแบบลับๆกันเถอะ"แซฟไฟรยิ้มหวานแต่รูบี้รู้สึกหายนะชอบกล
"เอ๋ ผู้ตายมีความแค้นกับใครบ้างหรอ?"เสียงชาวบ้านคนหนึ่งเปรยเบาๆหลังจากแซฟไฟรถามชาวบ้านแถบนั้นโดยตรง รูบี้แทบอยากระโดดหน้าผาตายเล่นถามตรงๆแบบนี้ไม่เรียกกันสืบแบบลับๆแล้วละ
"นั้นสินะ คนนั้นเป็นปากคอเราะร้าย คอยว่าคนอื่นไปทั่ว เรียกได้มีคนไม่ชอบหน้าเยอะทีเดียวเลยละ"ชาวบ้านคนนั้นตอบ เอาแซฟไฟรที่รอฟังคำตอบหน้าจ๋อ
"แล้วเมื่อวานมีคนเห็นเข้าครั้งสุดท้ายเมื่อไรหรอกครับ"แซฟไฟรถามต่อ
"รู้สึกจะที่สำนักงานนะ"
"เจอครั้งสุดท้ายครูฝึกที่ไหนหรอ"แซฟไฟรตรงมาสำนักงานฝึกหน่วยกู้ภัยพรอมดึงตัวหน่วยกู้ภัยฝึกหัดคนหนึ่งมาถามเรื่องราว
"อืม...หน้าห้องของครูฝึกละสิ รู้สึกตอนนั้นครูฝึกเพิ่งทะเลาะกับซาโต้และอากิระด้วย"ชายคนนั้นเอ่ยแซฟไฟรทวนชื่อสองบุคคลที่ได้ยินก่อนฝ่ายแรกจะชี้ไปทางสองคนที่วิ่งฝึกอยู่ร่วมกับคนอื่นๆในสนามพร้อมพูดว่า"สองคนนั้นไง"
"อากิระเป็นโรคกลัวความสูง ทำให้ครูฝึกจะไล่ออก แต่ซาโต้ไม่เห็นด้วย พวกเราส่วนใหญ่ก็คิดอย่างงั้นมันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เพราะหมอนั้นมีปมเรื่องนี้แต่เด็ก แต่ครูยังรั้นจะไล่ออกท่าเดียว"ชายคนนั้นกล่าวอธิบายทำให้แซฟไฟรนึกย้อนไปภาพเหตุการณ์เมื่อวานพร้อมครุ่นคิดบางอย่างก่อนถามจากรู้เปล่าว่า
"จากนั้นเห็นครูฝึกบอกว่า จะไปดูที่สะพานเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย เพราะพรุ่งนี้มีการทดสอบไปโดดที่นั้น แต่หลังจากก็ไม่มีใครเห็นครูฝึกอีกเลยจนมีคนพบศพ"
แซฟไฟรฟังปะติดปะต่อเอาตามความเข้าใจก่อนมองไปทางสองที่ชายคนแรกชี้
"หรือว่าคนชื่ออากิระเป็นคนทำ เพราะถ้าครูฝึกไม่อยู่ เขาก็ไม่ต้องทดสอบและอยู่ต่อได้"แซฟไฟรสันนิฐานรู้สึกว่าตอนนี้เธอปักใจเชื่อว่าเป็นฆาตกรรมอย่างเดียวแล้ว
"มันก็จริงในตอนแรกใครก็คิดแบบนั้น เพราะอากิระกับครูฝึกมีปัญหากันมานานและขัดแย้งกันมากที่สุด แต่มันเป็นไรไม่ได้ละสิ"ชายคนนั้นค้านความคิดของแซฟไฟรทำให้หญิงสาวต้องถามกลับว่าทำไมละ
"เพราะเมื่อตำรวจมาถามแล้วว่าสองคนนั้นทำอะไรในตอนเกิดเหตุ ซาโต้ก็ตอบว่ากำลังฝึกที่หอปีนป่ายกันสองคน ซึ่งมีคนเห็นซาโต้ไปที่นั้น และกลับพร้อมๆกับอากิระ ที่สำคัญอากิระเป็นโรคกลัวความสูงแบบนั้นไปบนสะพานไม่ได้หรอก"ชายคนเดิมอธิบายเหตุผล ทำเอาแซฟไฟรทำหน้ามุ่ยไปเลย ก่อนหันมาขอความเห็นรูบี้ รูบี้เพียงเหยียดพร้อมแบมือสองข้างเชิงว่าช่วยไม่ได้ หลักฐานพยานครบแบบนี้
"อืม...แบบนี้ก็สรุปไม่ได้ละสิ"แซฟไฟรเดินปั่นหัวไปมาในขณะเดินริมลำธารใต้สะพานที่เกิดเหตุเพื่อมาดูสถานที่อีกครั้งน่าแปลกคนที่เดินนำมาไม่ใช่เธอแต่เป็นเจ้ารูบี้แทน
"อะ ใช่โปเกมอนไง ขอเพียงใช้โปเกมอนบินขึ้นไปหรือผลักครูฝึกคนนั้นลงมาก็น่าจะทำได้"แซฟไฟรเอ่ยเมื่อมองเห็นโปเกมอนป่าวิ่งตัดหน้าไป
"เป็นไม่ได้ การสืบสวนสองคนนั้นไม่ได้เป็นเทนเนอร์ โปเกมอนในหน่วยงานส่วนใหญ่ถูกฝึกเป็นส่วนกลางและการเบิกออกต้องเป็นขั้นตอน"รูบี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายขณะที่ดวงตากลับกวาดมองรอบคราบเลือดที่ติดบนพื้นซึ่งตอนนี้ไม่มีคนคิดจะมาดูแล้วเจ้าหน้าที่จึงแค่กางอาณาเขตทิ้งไว้เฉยๆ
"งั้นสองคนนั้นร่วมมือกันโกหกละ คนชื่อซาโต้อาจไปที่หอจริงแต่คนชื่ออากิระไม่ได้ไป ส่วนเรื่องกลัวความสูงอาจโกหก"แซฟไฟรเดามั่วเรื่อยๆรูบี้ส่ายหน้าถอนหายใจพร้อมกล่าวกลับว่า
"เรื่องโกหกอาจจะใช่แต่คนชื่ออากิระจะโกหกเรื่องกลัวความสูงไปทำไมละ เพราะถ้าเขาไม่กลัวฝ่ายครูฝึกก็ไม่เหตุผลที่ไล่เขาออก"แซฟไฟรสะอึงไปพักหนึ่งโต้กลับ
"งั้นสลับคนละ"รูบี้ส่ายนิ้วพร้อมพูดว่า"ถ้างั้นก็ขัดแย้งกับพยานที่ว่าเห็นเขาอยู่ที่หอสิ"
"โอ๊ย คิดไม่ออก ดูถ้าจะอุบัติเหตุจริงๆหรือนี้"แซฟไฟรเบ้ปากแต่คงต้องยอมรับเพราะหาเบาะแสไม่เจอเลย รูบี้กลับไม่พูดอะไรเขานั่งย่อเขาก็ยื่นไปด้านหน้าวัดมุมต่างๆราวกำลังคำนวนบางอย่าง
"ไม่หรอกนี้แหละฆาตกรรมเห็นๆ..."รูบี้กล่าวพร้อมลุกขึ้น
เวลาตกเย็นสะพานไร้ผู้คนจนเงียบสนิท สถานที่บัมจี้จัมป์เกือบถูกปิดตายหลังจากสันนิฐานว่าอุบัติเหตุเกิดจากการกระโดดลงโดยเชือกไม่แข็งแรงพอ ขณะบนทางเดินควรไร้ผู้คนกลับมีสองร่างเดินเคียงกันมาทั้งสองเดินมาจนมาถึงใกล้ทางเดินข้ามสะพานก่อนหยุดเท้า
"นายสินะที่ส่งจดหมายนี้มา"ซาโต้ชูซองขาวในมือ พร้อมมองไปยังสองร่างที่ยืนอยู่บนสะพานอันเปล่าเปลี่ยวรูบี้กับแซฟไฟกำลังยืนรอทั้งสอง ณ จุดที่โดดบัมจี้จัมป์ คนแรกอยู่กลางสะพาน อีกคนอยู่ที่ปลายฝั่งตรงข้าม
"ใช่แล้วครับ ผมเรียกพวกคุณมาเพื่อไขความเป็นจริง"
"ความเป็นจริงอะไร"สองคนที่ยืนสะดุ้งเล็กน้อยถามแบบโยนหินถามทาง
"เรื่องที่ครูฝึกของพวกคุณโดนฆ่าโดยใครบางคนในพวกคุณสองคนยังไงละ"รูบี้กล่าวด้วยน้ำเสียงปกติราวไม่รู้สึกรู้สากับประโยคที่พูด สองคนที่งรอฟังชะงักไปพักก่อนโต้เถียงกลับมา
"นายไม่มีหลักฐาน"รูบี้ยกมือห้ามก่อนพูดต่อ
"ก่อนสรุปอะไรโปรดฟังของสันนิฐานของผมดูก่อน"รูบี้ส่ายนิ้วไปมาเล็กน้อยก่อนสลับมือค่อยคลี่นิ้วชี้ออกมานิ้วแรก"ข้อแรกคุณอากิระเป็นคนฆ่าครูฝึกด้วยความแค้นส่วนตัวและการโดนบังคับให้ออกจากหน่วยกู้ภัย...ทว่าคุณอากิระเป็นโรคกลัวความสูงไม่สามารถเข้าสะพานเรื่องนี้ไม่ได้โกหกเพราะผมีเพื่อนเป็นโรคเดียวกันย่อมมองออก"
สิ้นคำรูบี้ทุกในที่นั้นปรายตามองอากิระที่ขาสั่นๆแม้อยู่ห่างจากสะพานพอควร รูบี้ชูนิ้วกลางเป็นนิ้วที่สองก่อนกล่าวต่อว่า"งั้นข้อสอง คนฆ่าคือคุณซาโต้เพื่อนสนิทของคุณอากิระ ถ้าเป็นคุณเรื่องสะพานก็ไม่ใช่ปัญหาและเรี่ยวแรงคุณพอที่จะสามารถผลักร่างของครูฝึกลงไปได้..."
ซาโต้ฟังกำลังอ้าปากค้านแต่รูบี้กลับลดมือพร้อมพูดแทรกก่อนว่า"แต่ทว่ามีคนเห็นคุณอยู่ที่หอฝึกในใกล้เคียงกับเวลาตายของผู้ตายที่สำคัญผู้ตายไม่ร่องรอยขัดขืนต่อสู้ประเด็นนี้จึงตัดทิ้งไป...แล้วอย่างงั้นจะเกิดขึ้นได้ยังไงอุบัติเหตุหลังจากทดสอบกระโดดงั้นเหรอ? ทางตำรวจสันนิฐานแบบนั้นเพราะพบเชือกที่ใช้กระโดดขาดและผู้ตายตกในบริเวณใกล้เคียง"
"ก็น่าจะเป็นอย่างงั้นไม่ใช่เหรอ?"ซาโต้เอ่ย รูบี้ส่ายหน้าพร้อมถามบางอย่างกับอีกครั้ง"ขอถามหน่อยนะครับตอบคุณบอกตำรวจว่าพวกคุณซาโต้อยู่ที่หอฝึก และมีคนเห็นคุณเดินไปที่นั้น มีอะไรที่คุณบิดบังไว้หรือเปล่า?...."
รูบี้เป็นนัย ทำเอาซาโต้ชะงัก"ถ้าให้เดาหลังจากที่พวกคุณทะเลาะกันครูฝึก และได้รู้ว่าพรุ่งนี้เขาจะใช้บัมจี้จัมป์เป็นตัวทดสอบคุณสองคนก็คิดว่าต้องทำอะไรอย่างดังนั้นคุณซาโต้จึงชวนคุณอากิระไปที่หอฝึกเพื่อฝึกลดความกลัวสินะครับ"
"ใช่"อีกฝ่ายพยักหน้าเบา
"แต่ทว่าคุณอากิระได้ไปจริงหรือ?...คำตอบที่ผมจะพูดคือไม่! ....ต้องทำอะไรซักอย่างของคุณอากิระไม่ตรงกันและทันทีที่คุณไม่เห็นคุณอากิระมาคุณก็แน่ใจแล้วว่าต้องไปทำอะไรซักแน่พอรู้เรื่องครูฝึกคุณจึงโกหกช่วยเหลือเขาไป"
"เดี๋ยวแล้วไงเรื่องอากิระกลัวความสูงละ หมอนี้ไม่มีทางเข้าใกล้สะพานเด็ดขาด"ซาโต้แย้งด้วยน้ำเสียงโมโห รูบี้ไม่ถือสาเพียงยิ้มแล้วจึงพูดว่า"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาแม้เขาไม่ขึ้นมาบนสะพานก็สามารถฆ่าครูฝึกได้เช่นกัน"
รูบี้กล่าวพร้อมผายมือไปทางด้านล่างซึ่งมีเงาหญิงสาวอีกคนกำลังเดินมีดเดินป่าเล่มเล็กในมือใน บริเวณห่างจากเธอหรือเกือบใต้สะพานมีท่อนไม้างบนผ้าที่ปูเรียบพื้นโดยมีเชือกบัมจี้มัดคล้องรวมกับเชือกสี่เส้นบนมุมสีด้านและเชือกบัมจี้จัมป์ต่อสายเชือกยาวไปผูกตึงไว้กับก้อนหินก้อนใหญ่
หญิงสาวที่อยู่ด้านล่างไม่ใช่ใครนอกจากนามิที่รูบี้เรียกตัวมาช่วย รูบี้ส่งสัญญาณให้เริ่มลงมือ นามิพยักหน้าพร้อมใช้มีดตัดเชือกที่ถูกตึงอยู่ขาด หลังจากเชือกขาดจากหลักความยืดหยุ่นและคงรูปของวัตถเชือกที่ถูกจนตึงและปล่อยออกจะทำให้เชือกหดตัวกลับตามสภาพเดิมหรือก็คือเชือกย้อนกลับขึ้นด้านบนและดึงมุมทั้งสี่ของผ้าที่ปูไว้ขึ้นห่อท่อนไม้ยกขึ้นจากพื้น
เพียงชั่วพริบตาท่อนไม้โดดเหวี่ยงขึ้นลอยกลางอากาศเหนือพื้นในตำแหน่งสูงกว่าสะพานเชือกก่อนร่วงลงตามแรงโน้มถ่วงในจุดที่ร่างของครูฝึกตกลงแม่นยำราวจับวางก่อนทุกคนจะมองตาม ยกเว้นอากิระจะพยายามหันไปคนละทางเพราะคาดเดาคำตอบได้อยู่แล้ว
"สถานที่เขานัดพบครูฝึกไม่ใช่บนสะพานแต่เป็นใต้สะพาน และด้วยสมมุติฐานเมื้อกี้ คุณอากิระก็สามารถฆ่าเขาได้ครับ..."
"ถึงเป็นจริงก็ไม่มีใครเชื่อ..."อีกฝ่ายกำลังค้านอีกครั้ง รูบี้ยิ้มอีกครั้ง"งั้นหรอครับ"
ทันใดนั้นด้านหลังแซฟไฟรมีคนกลุ่มเดินออกมองหน้าชัดจะพบว่าเป็นตำรวจที่ทำหน้าที่เกียวกับคดี ซึ่งรูบี้ให้แซฟไฟรหาวิธีนำพาพวกเขามาฟัง
"ฮึมมม!!"สิ้นคำอธิบายซาโต้พุ่งเข้ากระชากคอรูบี้ดันไปติดเชือก"อากิระหนีไป!"
พวกแซฟไฟรตกใจกำลังวิ่งเข้าช่วย แต่เพียงครึ่งทางรูบี้ก็ยกมือห้ามพร้อมพูดว่า"พอเถอะครับพวกคุณน่ารู้ดีว่ายังไงก็หนีไปพ้น"
อีกฝ่ายไม่สนใจพร้อมตะโกนให้เพื่อนหนีไป พอหันไปมองเห็นอีกฝ่ายกำลังลากสังขารตัวเองเดินข้ามสะพานมา แม้อีกฝ่ายจะสั่นจนลงไปนอนคลานก็ยังพยายามเคลื่อนตัวเข้าไป
"....พ....พอเถอะ...ซาโต้..."อีกฝ่ายเขาดึงเสื้อเพื่อนเบาๆ
"...อากิระ...นาย..."
พรืด!! เสียงเส้นเชือกขาดดังขึ้นโดยมิได้มีคนเอะใจ สะพานนี้เก่าเกินไปและซ่อมบำรุงไม่เสร็จ การี่เชือกขาดเพียงเส้นเดียวส่งผลกระทบต่อสะพานทั้งสาย เชือกที่เหลือไม่สมารถรับน้ำหนักที่เกินความยืดหยุ่นของตนพากันขาดกันต่อเนื่องราวลูกโซ่
"ระวัง!"นามิที่อยู่ด้านหลังร้องเสียงดังเตือนทันทีที่เห็นเชือกเส้นแรกขาด
พวกรูบี้ได้ยินเสียงแล้วหันมองอย่างตกใจ รูบี้เป็นคนแรกที่ได้ยินเขาพุ่งกระโจนไปคว้าแซฟไฟรไว้ก่อนเพราะอีกฝ่ายไม่พกโปเกมอนมา อันที่จริงแม้ไม่พกแซฟไฟรก็เอาตัวรอดได้เธอกางปีกสีฟ้าอวตารขึ้นได้แต่เพราะคับขันรูบี้จึงแตกตื่นเกินไปและไม่อยากให้คนอื่นมองพวกเขาเป็นตัวประหลาดจึงต้องไม่ให้แสดงออกมาพร้อมปล่อยมิโรราคอสออกมา
"Mimi!"มิโรราคอสพุ่งออกจากบอลลำตัวที่ยาวเอื้อมไปถึงฝั่งหน้าผาพร้อมโบกหางเข้าโดยรวบพวกตำรวจที่เหลือพาเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย สะพานเริมพังเศษไม้ลอยกระจายและร่วงลงไปด้านล่างโดยมีใจกลางสะพานที่โดดบัมจี้จัมป์เป็นจุด
"รูบี้สองคนนั้น"แซฟไฟรร้องเตือนรูบี้สบถกับตัวเองก่อนปล่อยโปเกมอนอีกสองตัว"Nana Coco!"
สองร่างพุ่งเป็นเส้นสีขาวดำสองสายโดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยหน่วยกู้ภัยฝึกหัดสองคนกำลังร่วงลงไป แต่ดูเหมือนความเร็วในถล่มและแรงโน้มถ่วงของโลกจะกระชากสองร่างนั้นไปเร็วกว่า สองร่างนั้นร่วงลงโดยโปเกมอนทั้งสองยังวิ่งไปไม่ถึง
ในชั่วเวลาเสี้ยววินาทีอากิระจับร่างเพื่อนหนุ่มออกแรงเตะดันขึ้นด้านบนด้วยกำลังขา ทำให้ของร่างซาโต้ลอยขึ้นค้างนานอีกครั้งNanaไม่พลาดโอกาสใช้เขี้ยวงับชายเสื้อไว้ส่วนCocoพยายามช่วยอีกตัวลากเนื่องอีกฝ่ายมีร่างใหญ่
ณ ช่วงเวลานั้นรูบี้ก็มองสถานการณ์ออกเช่นกันเขาวิ่งทั้งทีแบกแซฟไฟรย้อนกลับตั้งแต่ตอนปล่อยโปเกมอนสองตัว พอNanaคว้าร่างซาโต้ได้สำเร็จเขาก็กระโดดไปเอื่อมมือจับร่างอากิระไว้แต่มือนั้นกลับยาวไม่พอ เป็นส่วนเสี้ยววินาทีให้เขาตัดสินใจหากยื่นกงเล็บอวตารออกไปตอนนี้จะสามารถช่วยทันแต่ก็สร้างความแตกตื่นให้คนกำลังมองอยู่ทว่าถ้าไม่...
ขณะรูบี้คิดตัดสินใจนั้นเขามองหน้าอีกฝ่ายก็ชะงักที่จะทำ ใบหน้าอีกฝ่ายมีเพียงรอยยิ้มที่เห็นเพื่อนรอดแล้วก็กำลังอ้าปากกล่าวบางอย่าง"ลาก่อน..."
รูบี้ที่เค้นพลังเก็บมือกลับพร้อมกัดฟัน"Coco!"
หางของโคโคเอเนโกะยืดออกรัดร่างพวกเขาไว้ อีกฝ่ายคิดจะตายด้วยตัวเองและอยากให้เพื่อนรอด ร่างของอีกฝ่าร่วงไปด้านล่างเรื่อยก่อนกระแทก ณ จุดเดียวกันกับครูฝึกที่ร่วงลงมา
นามิที่อยู่ด้านล่างเดินเข้าใกล้เพื่อช่วยเหลือก็พบว่าเขาหมดสติไม่อาจฟื้นได้อีกแล้ว
หลังจากเหตุการณ์นั้นทุกคดีก็ถูกสะสางอย่างรวดเร็ว สะพานแขวนถูกปิดยาวเพราะพังไปทั้งหมด พวกรูบี้อดเล่นบัมจี้จัมป์อย่างแน่นอน ทำเอาคนตั้งใจรอทำหน้าหงอย
ด้วยการที่รูบี้ไม่ต้องการเป็นข่าวจึงตกลงกับทางตำรวจไปแล้วว่าไม่ เช้าวันใหม่กลุ่มรูบี้รีบเดินทางกลับทันทีเพื่อไม่ให้วุ่นวาย
"โธ่ เซ็งเลย"แซฟไฟรกล่าวอย่างหมดแรง
"เอาน่าคราวหน้า ค่อยหาที่ใหม่ ถือซะมาทั่วพักแรมเฉยๆ"คนในกลุ่มกล่าวปลอบ
"......"นามิเดินตามทั้งสองแบบเงียบเรื่องที่ทั้งสองคนรวมทั้งเธอไปที่สะพานเมื่อวานโดนปิดเป็นความลับทั้งหมดจึงไม่ค่อยมีใครรู้ว่าที่แซฟไฟรเธอชักดิ้นชักงอกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะอุตส่าห์แกคดีได้แล้วแต่ทันสะพานซะงั้น ด้านรูบี้หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเพราะอนึ่งการที่เขานัดไปที่ทำให้สะพานขาดก็ดีไปอย่างเพราะถ้ากลุ่มเขาไปวันนี้ตอนเช้าได้ตกสะพานทั้งกลุ่มแน่
ส่วนนามิเธอกลับคิดบางอย่างในใจโดย เมื่อวานรูบี้ตัดสินพุ่งแซฟไฟรที่อยู่ไกลกว่าทั้งทีเขาอยู่ใกล้ชายหน่วยกู้ภัยสองคนทำให้หนึ่งในนั้นไม่สามารถช่วยได้ทัน พูดได้ว่าที่เกิดเหตุการณ์ตายเมื่อวานเพราะการตัดสินใจช่วยแซฟไฟรก่อน นามิมองชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าก่อนคิดต่ออย่างไม่ตั้งใจ
ถ้าเธอกับแซฟไฟรสองคนอยู่ในสถานการณ์คล้ายกันละ หมอนั้นจะช่วยใครก่อน...
สักพักเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคิดอะไรอยู่ก็สะบัดหน้าพร้อมบ่นกับตัวเองเบา
"ไร้สาระ..."
จบตอน
รู้สึกช่วงนี้คนดูน้อยไม่รู้หายไปไหนกันหมด คนเขียนเริ่มหมดแรงเพราะยอดวิว- -
รู้สึกช่วงนี้คนดูน้อยไม่รู้หายไปไหนกันหมด คนเขียนเริ่มหมดแรงเพราะยอดวิว- -
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น