ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pokemon Ruby & Sapphire Special IV Ragnarok

    ลำดับตอนที่ #1 : ------

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 55


                     ท่ามกลางตัวเมืองวิสัยอันทันสมัย ย่านการค้าที่เคยมีผู้คนเดินพลุ่งพล่านบัดนี้ไม่เหลือใครซักคน มีเพียงหอคอยโบราณสูงตระหง่านฟ้าที่โผล่มาใจกลางเมืองและบัดนี้หอคอยนั้นกำลังพังทลาย

                    ดั่งเสาหลักที่ค้ำจุนอยู่พังลง ตัวอาคารทรงตัวพยุงไม่ให้ เริ่มถล่มลงมา พนังเริ่มหลุดลอก เพดานแต่ละชั้นเริ่มแตกพัง เริ่มเศษปรักหักพังค่อยร่วงสู่เบื้องล่างอย่างช้า

                    ภายในโครงสร้างใกล้ผุพังทลายยังเหลือเงาคนอยู่อีกสองคนที่ยังไม่ยอมจากไป

                    "มัวทำอะไรของเธออยู่เล่า ที่นี้จะใกล้จะพังแล้วนะ"เสียงหนึ่งดังก้องสะท้อนไปทั่วภายในหอคอยที่เริ่มพัง เงาร่างคนสองคนกำลังยืนประจันหน้ากันไม่ยอมขยับไปไหนแม้แต่เพดานจะเริ่มแตก เศษหินเริ่มตกมาใกล้พวกเขาแล้วก็ตาม

                    "นายนั้นแหละ คิดจะทำอะไรอย่าบอกนายจะอยู่ที่นี้!?"อีกเสียงหนึ่งโต้กลับด้วยความเข้มของเสียงที่แรงไม่แพ้กันแต่เสียงที่สองนั้นสูงกว่าเสียงแรกจึงน่าเป็นผู้หญิง

                    "แหงสิ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็ตายหมดพอดี"ชายหนุ่มตอบกลับ

                    "อย่าเอาแต่คิดแต่แก้ปัญหาเองคนเดียวสิยะ"การทะเลาะนับยิ่งดุเดือดต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอย ก่อนชายหนุ่มจะตัดบทดื้อๆ

                    "ไม่มีเวลาแล้ว เธอไปซะ"ชายหนุ่มเลิกสนใจอีกหันหลังกลับไปยังทางที่จากมา

                    "เดียวสิอีตาบ๊อง!..."ฝ่ายหญิงคว้ามืดอีกฝ่าย ไม่ยอมปล่อย ชายหนุ่มเริ่มที่รำคาญหันไปกลับเพื่อสะบัดอีกฝ่ายให้ปล่อยมือ"อะไรของเธออีก..ละ.!?"

                    ชายหนุ่มชะงักดวงตาเปิดกว้างสัมผัสอุ่นที่ริมฝีปาก ราวเตาไฟที่หลอมละลายหิมะในวันพายุหิมะ กลีบริมฝีปากติดกันแนบสนิท ชายหนุ่มหลับตาเหมือนเวลาหยุดดูยาวนานและสั้นจนเกินไปในเวลาเดียวกัน หอมหวานดึงดูดจนทั้งสองเกือบจะลืมเวลาไปชั่วขณะก่อนฝ่ายหญิงจะถอนปากออกแล้วก้าวถอย

                    "อะ!?"หญิงสาวยื่นมือผลักออกไปด้านหน้าชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวเสียหลักด้านหลังของเขาเป็นรูโหว่ของช่องตึกที่ทะลุไปด้านนอก ร่างของชายหนุ่มเซล้มออกจากตัวตึกก่อนค่อยๆร่วงสู่พื้นเบื่องล่าง

                    "ฉันรักนายนะ...ลาก่อน"สิ้นเสียงหญิงสาวปรายตามองร่างชายหนุ่มที่กำลังร่วงลงไปด้านหน้าด้วยสายตาห่วงหาครั้งสุดท้ายก่อนเดินหันหลังลับตาไป"พาเขาไป!"

                    รอบตัวชายหนุ่มมีเปลวไฟหุ้มตัวก่อนมีหน้ากากแฟมทอมสีแดงลายครามปรากฏพร้อมควบคุมเปลวไฟราวตรึงร่างหนุ่มแล้วกระชากลอยไปในกลางอากาศออกห่างจากตัวตึก

                    "ยัยบ้าเอ๋ย..ปล่อยฉันสิ.!!"ชายหนุ่มดิ้นรนต่อต้าน เพื่อให้หลุดจากพันธนาการและย้อนกลับไป ทว่าไม่ทันเสียแล้ว

                    ตูม!!ระเบิดแห่งวินาศถูกจุดขึ้นรัศมีเพลิงแผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง เผาผลาญสรรพสิ่งในละแวกจนเป็นจุณ คร่าทุกชีวิตที่เข้าใกล้ ไฟบรรลัยกัลป์แผ่ออกจนย้อนเมืองทั้งเมือง

                    "นามิ!!!~"

                   

                    -ย้อนเวลากลับประมาณ 2 ปี-

                    กริ๊งงง!!!~ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นสนั่นทั่วห้องเพื่อปลุกร่างที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้นมารับแสงสว่างยามเช้า ร่างนั้นตอบสนองเสียงนาฬิกาด้วยการยื่นมีมาตบที่ปุ่มของมันไม่หนักแต่ก็ไม่เบาครั้งหนึ่งก่อนดันร่างขึ้นมานั่งบนเตียง

                    ชื่อผมคือเซ็นริ รูบี้ เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง ผมเป็นคนชอบที่มันBeautiful และWonderful ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเสื้อนี้ยิ่งยับไม่ได้เลย ผมชอบการประกวดโปเกมอน การแสดงเสียมากๆเลยเพราะมันแสดงอารยธรรมที่สูงส่งของมนุษย์

                    นอกจากนี้ผมยังเป็นหนึ่งผู้ครองสมุดภาพโปเกมอนซึ่งใช้รวบรวมข้อมูลโปเกมอนสารพัดชนิด ยังถือเป็นเทรนเนอร์พิเศษที่ถือว่าได้เลือกด้วยเลิศสมกับผมดีจริงๆ

                    ผมอาศัยอยู่ในบ้านของยายที่เสียไปเพื่อเรียนรู้ศึกษาหาความรู้ตามคำสั่งพ่อแม่ทว่าบ้านของผมก็ใช่มีคนเพียงคนเดียว ยังน้องสาวตัวดีอีกคนซึ่งเธอค่อนข้างฉลาดเรียกว่าอัจฉริยะเลยก็ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีของเสีย ข้อเสียอย่างแรกเลยคือ ห้องของน้องสาวผมรกมาก เต็มไปด้วยอุปกรณ์ประหลาดจะเก็บกวาดสักทีก็ต้องหวาดๆกันนิดๆ

                    ผมเดินไปแวะห้องน้องสาวอย่างเอือมระอาเล็กน้อยเมื่อปรายตาเห็นห้องที่รกจนเกินหาช่องว่าง

                    เรื่องบ้านส่วนใหญ่ผมมักจะเป็นคนรับผิดชอบ เพราะถ้ามันไม่เรียบร้อยอย่างที่คิดมันรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะอาหารเช้า ผมมักทำเองเสียทุกวัน อีกทั้งมันก็ไม่ได้เหนื่อยเท่าไร แต่สิ่งที่ทำให้เหนื่อยใจที่สุดนั้นนะหรอ...

                    "นี้ รูบี้ข้าวเสร็จหรือยัง"

                    ผมกำลังเดินถือถาดอาหารเดินเข้าไปห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องครัวพอดี เปิดเข้ามีโต๊ะไม้กลมตัวหนึ่งกับเฟอร์นิเจอร์ทีวีธรรมดาอีกตัวที่มุมห้อง และร่างของหญิงสาวสองคน คนหนึ่งผมน้ำตาลไหม้ อีกคนทองอมน้ำตาล

                    ขอพูดต่อ...จากเมื้อกี้ สิ่งที่ทำให้เหนื่อยใจที่สุดคือ ...การที่ผมดังมีคู่หมั่น(แบบบังคับ)ถึงสองคนนี้ไหงละ ผมไล่วางจานบนถาดจนหมดแล้วนุ่งลงรับประทานข้าวเช้าพร้อมกับอีกสองคน

                    "แอ้วอิอังอังอะ"เสียงจากหญิงสาวผมน้ำตาลดวงตาสีไพลินทะเลกล่าวออกขณะที่ข้าวอยู่เต็มปาก เธอนี้ชื่อ โอดามากิ แซฟไฟร ลูกสาวโอดามากิ เพื่อนสนิทของพ่อแม่ผม เรื่องหมั่นหมายอะไรนั้นพวกผู้ใหญ่ก็เป็นฝ่ายจัดการเอง และเธอเป็นผู้ครองสมุดภาพโปเกมอนเช่นเดียวกับผมแถมยังรุ่นเดียวกันด้วย

                    "......."ส่วนที่คนที่นิ่งเงียบอยู่ชื่อ ซุน นามิ ยัยนี้จริงแล้วไม่ใช่คนยุคนี้หรอกครับ เป็นคนจากอดีตราว 600 ปีก่อน ถามว่าแล้วมาได้ไง หมั่นกันยังไง เนื่องมีเหตุบางอย่างทำให้ผมต้องย้อนเวลากลับไปที่อดีต แล้วพ่อยัยนี้ดันตายพร้อมทิ้งคำสั่งเสียที่ว่า 'ยกลูกสาว' ให้ ประมาณมัดมือชกพอๆกัน ที่น่าแปลกกว่านั้นครอบครัวผมดังยอมรับเอาดื้อๆนี้สิ

                    "วันนี้คุณไดโกะบอกว่าจะมารับนะ"น้องสาวผมพิเศษกว่าคนหนึ่งหน่อยนึ่งตรงที่ว่าต้องมีซักวันสองวันที่บริษัทคอมปานีชื่อดังซึ่งเป็นคนรู้จักกันมาขอยืมตัวไปช่วยงานวิจัย ประมาณเรียนจบเมื่อไรก็มีงานทำในระดับสูงของบริษัทได้สบายๆ

                    "เร็วเข้าเถอะ เดี๋ยวสายหรอก"ผมวางตะเกียบลงเมื่อกินหมดจานก่อนหันไปเร่งสองคนที่ยังชักช้ากันอยู่ สองคนนั้นพยักหน้ากันช้าก่อนจะเริ่มแยกย้ายกันแต่งตัวชุดนักเรียนเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อนอกสีเหลือง กางสีน้ำเงินกรมท่าส่วนกระโปรงเป็นสีเขียวลายกางเขน ผู้ชายผูกเน็ทไทขณะฝ่ายหญิงผูกโบว์

                    เมื่อแต่งตัวเสร็จทั้งหมดจึงเปิดประตูบ้านออกไปเดินทางไปบนถนนที่เดินแทบทุกวัน ขณะที่กำลังเดินอยู่เสียงๆหนึ่งก่อนดังขึ้นพร้อมร่างกระโจนเข้าตบที่หลังคอผม

                    "งายย รูบี้!"

                    "ดูทำหน้าบูดเข้าสิ "คนที่เข้าตบหลังคอผมไม่คนอื่นคนไกล ชายร่างสูงผิวคล่ำ ทรงผมหยิกแบบสาหร่าย หนวดเคราขึ้นตามคาง เขาชื่อคาซึกิ คาซึฮะ เพื่อนสมัยเด็กของผมเอง นิสัยขี้เล่นของหมอนี้มักพาเรื่องแย่ๆมาหาเขาเสมอ

                    "คาซึกิ! ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่า เล่นแรงแบบนี้"ส่วนเธอคนที่กำลังดึงหูเจ้าตัวแสบอยู่นี้ชื่อ คาซึยะ มานามิ เป็นเพื่อนสมัยเด็กผมอีกคนซึ่งกำลังคบอยู่กับเจ้าคาซึ เธอคนเปรียบดั่งกฎที่เจ้าคาซึต้องปฏิบัติตามอย่างขัดขืนไม่ได้

                    "รูบี้ ช่วยฉันด้วย!!"คาซึโดนดึงหูเสียหลักร้องขอความช่วยเหลือแต่ผมไม่สนใจ โดนสั่งสอนซะบ้างก็ดีเหมือนกันพวกผมยังเดินไปโรงเรียนตามปกติ เส้นทางเลียบถนนมุ่งสู่โรงเรียนโคกาเนะ

                    โรงเรียนโคกาเนะเป็นโรงเรียนเอกชนที่กว้างใหญ่เหมือนโรงเรียนไฮโซชั้นสูงส่วนใหญ่แต่คนสามัญทั่วไปก็สามารถเข้าได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการศึกษาไม่แพงเกินไป หนำซ้ำโรงเรียนยังประวัติยาวนานมาเกือบ50ปี

                    "ไง รูบี้"เสียงๆหนึ่งดังขึ้นทักทายผมขณะที่ผมกำลังอยู่ที่ล็อคเกอร์ ผมหันไปมองคนนั้นคือ คุณโกลด์ หนึ่งในรุ่นพี่ผู้ครองสมุดภาพโปเกมอนโดยทั้งหลักและอายุเขามากกว่าผม แต่ด้วยภารกิจบางอย่างทำให้รุ่นพี่ทั้งหมดต้องเข้ามาเรียนชั้นเดียวกันพวกผม

                    นอกจากนี้คุณยังผู้ก่อตั้ง แก๊งการาสึกลุ่มรวมตัวของวัยรุ่นที่เริ่มมีอิทธิพล ณ เมืองนี้ด้วย แต่พูดมากไม่ได้เพราะผมเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอยู่พอควร แต่เรื่องนั้นไม่เท่าไรแต่ที่เรื่องคุณโกลด์เป็นหัวหน้าแก๊งการาสึมีอยู่คนหนึ่งรู้ไม่ได้เด็ดขาด

                    "นี้โกลด์ คิดจะหนีไปไหน!"เสียงตวาดดังมาแต่ไกลๆ คุณโกลด์ยืนหัวเหมือนได้ยินเสียงระฆังเตือนในหัวเขารีบพูดลาผมก่อนหันโกยแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง"ขอตัวนะ!!"

                    "ให้ตายสิ...อย่าให้จับได้นะ"ร่างหญิงสาวผมหางม้าสั้นสองข้าง ด้านหลังเธอยังมีคนยืนเรียงอยู่อีก 5 คน พวกเขารวมทั้งเธอด้านหน้าคือรุ่นพี่ผู้ครองสมุดภาพที่เหลือไล่จากทางซ้าย คุณซิลเวอร์ คุณบลู คุณกรีน พี่เยลโลว์ พี่เร้ด ส่วนด้านหน้าสุดคุณคริสตัล ซึ่งเป็นคนๆเดียวกันที่ผมพูดถึงเมื้อกี้ให้รู้เรื่องคุณโกลด์ไม่ได้เด็ดขาด อันเพราะคุณโกลด์ขอร้องกับปากเอง

                    "ใจเย็นก่อนนะค่ะ"พี่เยลโลว์กำลังพูดเพื่อให้คุณคริสตัลใจเย็นลงดูไร้ผลเท่าที่ควร

                    "อีกแล้วหรอครับ"ผมถามพี่เร้ดไม่เดามาก คุณโกลด์คงไม่ละเมิดกฎอะไรซักข้อหรือไม่ก็ทำให้คุณคริสตัลมีน้ำโหอย่างแน่นอน พี่เร้ดยิ้มเจื่อนๆก่อนตอบว่า"ใช่"

                    หลังจากความวุ่นวายเล็กน้อยพวกผมก็เดินมาถึงหน้าห้องเรียนจนได้ ป้ายตัวเลข 4-Aถูกแขวน ณ ตำแหน่งเดิมของมันโดยไม่ผิดเพี้ยน ขณะพวกผมคุยเพลิดพร้อมกับเปิดประตูห้องร่างเล็กๆร่างหนึ่งก็เดินสวนชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ

                    "สวัสดีค่ะ รูบี้คุง"เสียงเขินอายเล็กน้อยตามบุคลิกของเจ้าของดังขึ้น เธอคือ นิชิซาวะ โนโดกะ หนึ่งสมาชิกห้อง 4-A เธอเป็นคนไม่ค่อนแสดงออกเท่าไร มักโดยพวกบ้าๆในห้อง(รุ่นพี่ผมกับเพื่อนผมทั้งนั้น)พากันร่วมชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

                    "สวัสดีครับ โนโดกะจัง"

                    "โนโดกะ!!"เสียงตะโกนดังอีกครั้ง ร่างหญิงสาวผมน้ำเงินออกม่วงนิดๆวิ่งมาบนระเบียงทางเดินคนที่วิ่งมาคือ อายาเซะ ยูเอะ เพื่อนสนิทของโนโดกะจังซึ่งสองคนเป็นสมาชิกห้องสมุด หลังจบงานเทศกาลห้องสมุดก็มีงานยุ่งตามเยอะยะ สองคนนั้นคุยกันแล้วขอตัวไปเคลียร์ของตัวเอง

                    "สวัสดีครับคุณเซ็ตซึนะ"ผมหันทางไปทักทายหญิงผมครึ่งหน้าม้ารวบหางม้าอีกครึ่งหนึ่งซึ่งอยู่เยื้องไปด้านหลัง เธอชื่อ อาซากุระ เซ็ตซึนะ นักดาบจากชิเมริว ผู้มีเชิงดาบที่ยอดเยี่ยมแถมยังมีเชี่ยวชาญด้านศาสตร์องเมียวจิ ซึ่งช่วยเหลือพวกผมจากเรื่องมามากมายพอควร นอกจากนี้เธอยังองค์รักษ์บอดีการ์ดที่คอยดูแลหลานสาวของผ.อ.โรงเรียนด้วย

                    "สวัสดีค่ะ รูบี้คุง"

                    "แล้วโคเทงาว่าละครับ"ผมถามกลับ ก่อนอีกฝ่ายจะตอบกลับอย่างรวดเร็ว"คุณหนู กำลังอยู่ท่านผ.อ.เดี๋ยวคงกำลังกลับมานะค่ะ"

                    พวกผมนั่งลงคุยฆ่าเวลา ขณะที่พวกผมคุยกันเรื่อยๆประตูหน้าห้องเปิดออกพร้อมกับร่างหนึ่งเดินเข้ามา ผมปรายตามองก่อนเอ่ยปากทักทาย"สวัสดีครับ คุณจิซาเมะ"

                    "สวัสดี...หืม? อ.ยังไม่เข้ามาอีกหรอ?"อีกฝ่ายถามลอยกับตัวเองเบาๆเพราะนี้เลยได้เวลาโฮมรูมมาระยะหนึ่งแล้ว พวกเราจึงพากันส่ายหน้า

                    "คุณมาสายนะค่ะ คุณจิซาเมะ"เสียงๆหนึ่งขึ้นหลังคุณจิซาเมะ ร่างระหง สูงรูปร่างดี ผมยาวสีดำสนิท โคเทงาว่า ยุย หลานสาวสุดหวงของผ.อ.โรงเรียน นอกจากนี้เธอยังประธานกรรมการนักเรียนและคนสวยคนหนึ่งด้วย

                    "หวัดดียุยจัง"พวกแซฟไฟรยังคงทักทายกันปกติ "สวัสดีค่ะ"

                    อีกฝ่ายเพียงตอบรับตามมารยาทแต่ก็มีน้ำเสียงสนิทสนมมากเมื่อเทียบโดยทั่วไป

                    "อ้าว อ.ยังไม่มาอีกหรอ"โกลด์โผล่มาพร้อมใบหน้าเหมือนเพิ่งไปฟัดกับอะไรสักอย่างมา ซึ่งพวกผมเดาได้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับคุณคริสไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

                    "หน้าไปโดนอะไรมาค่ะนั้น แถมมาสายอีก"โคเทงาว่าถาม

                    "อย่าไปใส่ใจเลย"คุณโกลด์เอ่ย

                    "อย่าใส่ใจเลยโคเทงาว่า คนบางคนแค่นั้นโดนประจำละ"ผมเอ่ย

                    "ใช่ๆ"คาซึเสริม

                    "นี้พวกนายนินทาฉันหรอ"โกลด์กล่าวอย่างหงุดหงิด

                    "เหอะ ว่ากันกันตรงๆเลย"ผมกับคาซึส่ายมือปฏิเสธพร้อมๆกล่าวเสียดแทงนิดๆ

                    "เลิกทะเลากันในซะทีเถอะค่ะ"โคเทงาว่าขึ้นเสียงเล็กน้อย ก่อนทุกคนจะพากันเงียบไป

                    เวลาผ่านไปอีกราวๆ10นาทีครูยังไม่เข้าโฮมรูมเช่นเคย จนมานามิที่มองเพื่อนั่งเงียบอยู่ยกมือขึ้นพร้อมเสนอบางอย่างที่แทบเรียกสนับสนุนจากทั่วห้องได้เกือบพร้อมกัน"ทำไมเราไม่ส่งคนไปตามละ"

                    "นั้นแหละ ใช่เลย!!"

                    "ปัญหาคือจะให้ใครละ"โคเทงาว่าถาม

                    "นั้นสินะ คนที่ก็ควรมีรับผิดชอบแล้วก็สนิทกับอ.หน่อยท่าจะดี"คุณคริสเสนอ

                    ทันใดผมรู้สึกเสียวสันวาบ สายตาทุกคู่เบนมองไปในทิศทางเดียวโดยไม่ได้นัดหมาย ซึ่งเป้าหมายสายตาพวกนั้นไม่ใช่อื่นนอกจากตัวผมเอง

                    "...ฉันหรอ..."ผมชี้หน้าตัวพร้อมถามเสียงอ่อยๆ

                    ใช่สิ ใครสั่งให้ผมเป็นน้องชายของอาจารย์ประจำชั้น อาจารย์เป็นพี่สาวของผมดังนั้นเงือนไขสองข้อที่ว่าจึงเหมาะสมกับผมที่สุด

                    "ช่ายแล้ว นายนั้นแหละเหมาะสมสุด"คุณโกลด์ชี้หน้าราวกำลังยิ้มเยาะสมน้ำหน้า จนผมอดถามไม่ได้ว่า"นี้แอบแค้นผมหรือเปล่านี้"

                    "เปล่า ^ ^"

                    "เอาเป็นจับฉลากกันดีกว่า"โคเทงาว่าเสนอ ผมรีบเห็นด้วยทันที จากนั้นพวกเราจึงทำการจับสลากกันทันทีผลคือ....

                    "......"สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนไปอยู่ดี

                    'ดวงเฮงจริงๆ!!'ทุกคนคิด

                    "เอาน่ารูบบี้เดี๋ยวพวกฉันไปด้วย"แซฟไฟรเดินเข้ามาเหมือนกับพยายามปลอบ ผมจึงจำใจเปิดประตูออกพร้อมเดินตรงไปที่ห้องพยาบาลซึ่งเป็นห้องครูประจำชั้นของพวกเรา ขณะผมเดินไปผ่านบันไดขณะกำลังเดินลงผมสังเกตว่ามีใครกำลังขึ้นก่อนจะมีมังกรสีทองปรากฏตรงหน้า

                    "เฮ้ย!"ผมดีดเท้าถอยหลังหัวเกือบคะมำ มังกรตัวนั้นล่าถอยก่อนคลายออกเป็นเส้นผมสีทองและปรากฏร่างเด็กสาวผมทองในชุดเดรสสีดำรัตติกาลพร้อมกับเสียงกระเดาะลิ้นคล้ายไม่พอใจเล็กน้อย ผมมองหน้าอีกฝ่ายแล้วจำได้ทันที

                    "ยามิ!"คอนจิกิ โนะ ยามิ นักฆ่าอันดับต้นๆของวงการด้วยเหตุบางประการทำให้ผมกลายเป็นเป้าหมายอีกทว่าอีกฝ่ายทำไม่สำเร็จและยังวนเวียนคอยลอบทำร้ายผมเป็นระยะๆ

                    "สวัสดี ยามิจัง"แซฟไฟรเข้ามาทักทายอีกฝ่าย ยามิตอบรับเสียงปกติอย่างสุภาพ ซึ่งไม่รู้ทำไมอีกฝ่ายถึงได้อาฆาตเขาคนเดียวหนักนา

                    "เมื่อไรเธอจะเลิกตอแยฉันซะทีเนี้ย"ผมถามลอยไม่คาดหวังคำตอบ

                    "งั้นคุณก็ยอมให้เราฆ่าซะทีสิค่ะ แล้วเราจะเลิกรา"อีกฝ่ายตอบเสียงเรียบ

                    "ไม่เอาหรอ บ้าดิ"

                    "พอดีเรามีธุระ ขอตัวนะค่ะ"อีกฝ่ายบอก ผมรีบไล่ทันทีก่อนหันมาเดินทางต่อ พวกผมเดินต่อไปเรื่อยจนมาหยุดที่หน้าประตูห้องพยาบาล ผมเปิดประตูเข้าเพื่อพบอาจารย์หรือพี่สาวผมทว่า...

                    ไม่ว่ามองซ้ายหรือมองขวาก็เห็นของวางระเกะระกะไปหมด แถมขวดเหล้ากระป๋องเบียร์ ก่อนพบร่างของ เซ็นริ อายูมิ นอนหลับฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ

                    "คร่อก...คร่อก..."

                    เพียงชั่วพริบตาผมรู้สึกตัวเองกำลังยิ้มที่ดูดีที่สุดจากนั้นเมื่อสติขาดพึงจนคนรอบๆพากันถอยกรูดตั้งแต่รอยยิ้มนั้น จากนั้นไม่นานโคเทงาวะก็เข้าร่วมวงอบรมสั่งสอนพี่สาวที่แสนดี(?)ของผมคนนี้เธอร่ายยาวโดยนักเรียนคนอื่นมองอย่างระอาใจ

                    ชีวิตของผมยังดำเนินแบบนี้ไปตามปกติ แม้จะวุ่นวายไปบ้างแต่ก็ยังสงบสุขดี ทว่าผมไม่รู้เลยมันช่วงสงบสุขจะหมดหลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ที่กำลังเกิดขึ้น...

                    บรืน.......โครมม!! พนังห้องระเบิดออกเหมือนมีบางอย่างกระแทกจากด้านนอกอย่างแรงก่อนมีรถตู้สีขาวพุ่งเข้ามาครึ่งคันแล้วหยุดนิ่ง ร่างชายผมสีดำสั้นสวมแว่น ใส่เสื้อกาวน์คนหนึ่งค่อยๆเดินลงจากรถช้าพร้อมใบหน้ายิ้มที่เปื้อนเลือดจากการกระแทก

                    และแล้ววันเวลาอันสงบสุขของผมก็จบลง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×