คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชนวนความแค้น
1 แต่น่าแปลก....สิ่งที่หญิงสาวคิดว่าเป็นหมอนข้างนั้น มันกระดุกกระดิกได้ และมีลมหายใจ
หญิงสาวเปิดดวงตากว้างพยายามปรับสภาพการมองเห็นในความมืด แล้วจ้องเขม่งมองสิ่งตรงหน้าแบบตาไม่กระพริบ
"อือ...." เสียงร้องเบาๆ เล็ดรอดมาจากสิ่งที่หญิงสาวกำลังกอดมันอยู่ ทำให้หญิงสาวเกิดเอะใจมากยิ่งขึ้น
‘อย่าบอกนะว่า.
ในบ้านนี้มีผะ ผะ ผี เอ๋...ไม่น่าจะใช่ หรือว่าจะเป็น...โจร!!!!’
ท่ามกลางความหนาวเย็นสุดขั้วหัวใจของเครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนที่ปิดไฟจนมืดสนิท ผสมกับลมที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง พัดมากระทบร่างของหญิงสาวให้ได้สัมผัสถึงความหนาวเหน็บในยามค่ำคืน ร่างกายที่อ่อนหล้าของหญิงสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงกว้าง ซึ่งความคิดของหล่อนกำลังโลดแล่นอยู่ในห้วงนิทราความฝัน หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเรือนร่างอันเบาะบางเคล้าความงดงามซ่อนเร้นภายในชุดนอนที่บางจ๋อยหล๋อยจนมองทะลุเห็นสิ่งต่างๆภายใน หญิงสาวกำลังเปลี่ยนท่าทางในการนอนให้สบายตัวขึ้น โดยการเหยียดขาเรียวยาวไปพลาดกับหมอนข้างแล้วเอาแขนทั้งสองข้างกอดรัดมันไว้อย่างแนบแน่น
แต่น่าแปลก....สิ่งที่หญิงสาวคิดว่าเป็นหมอนข้างนั้น มันกระดุกกระดิกได้ และมีลมหายใจ
หญิงสาวเปิดดวงตากว้างพยายามปรับสภาพการมองเห็นในความมืด แล้วจ้องเขม่งมองสิ่งตรงหน้าแบบตาไม่กระพริบ
"อือ...." เสียงร้องเบาๆ เล็ดรอดมาจากสิ่งที่หญิงสาวกำลังกอดมันอยู่ ทำให้หญิงสาวเกิดเอะใจมากยิ่งขึ้น
‘อย่าบอกนะว่า.
ในบ้านนี้มีผะ ผะ ผี เอ๋...ไม่น่าจะใช่ หรือว่าจะเป็น...โจร!!!!’
หญิงสาวเปิดดวงตากว้างพยายามปรับสภาพการมองเห็นในความมืด แล้วจ้องเขม่งมองสิ่งตรงหน้าแบบตาไม่กระพริบ
"อือ...." เสียงร้องเบาๆ เล็ดรอดมาจากสิ่งที่หญิงสาวกำลังกอดมันอยู่ ทำให้หญิงสาวเกิดเอะใจมากยิ่งขึ้น
‘อย่าบอกนะว่า.
ในบ้านนี้มีผะ ผะ ผี เอ๋...ไม่น่าจะใช่ หรือว่าจะเป็น...โจร!!!!’
"อือ...." เสียงร้องเบาๆ เล็ดรอดมาจากสิ่งที่หญิงสาวกำลังกอดมันอยู่ ทำให้หญิงสาวเกิดเอะใจมากยิ่งขึ้น
‘อย่าบอกนะว่า.
ในบ้านนี้มีผะ ผะ ผี เอ๋...ไม่น่าจะใช่ หรือว่าจะเป็น...โจร!!!!’
‘อย่าบอกนะว่า. ในบ้านนี้มีผะ ผะ ผี เอ๋...ไม่น่าจะใช่ หรือว่าจะเป็น...โจร!!!!’
อย่าบอกนะว่า. ในบ้านนี้มีผะ ผะ ผี เอ๋...ไม่น่าจะใช่ หรือว่าจะเป็น...โจร!!!!’พอสิ้นความคิดในสมองอันชาญฉลาดนั้น หญิงสาวก็ขวัญกระเจิงจนเตลิดเปิดเปิงไปไกลเสียแล้ว เธอรีบกระโดดลงจากเตียงนอน เอามีคลำหาสวิสไฟจนเจอ แต่ว่า...ก่อนที่หญิงสาวจะได้รับรู้ความจริงว่ามันเป็นอะไรกันแน่ เสียงเพลงแปลกๆมาพร้อมกับไฟกระพริบๆในโทรศัพท์มือถือที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน หญิงสาวรู้สึกตกใจยิ่งนักว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับห้องนอนของเธอ สายตาที่พร่ามัวของหญิงสาวแลเห็นเงาดำๆเป็นร่างคนเดินลงจากเตียงของเธอ แล้วกดรับโทรศัพท์อย่างไม่สนใจ
หญิงสาวก็ขวัญกระเจิงจนเตลิดเปิดเปิงไปไกลเสียแล้ว เธอรีบกระโดดลงจากเตียงนอน เอามีคลำหาสวิสไฟจนเจอ แต่ว่า...ก่อนที่หญิงสาวจะได้รับรู้ความจริงว่ามันเป็นอะไรกันแน่ เสียงเพลงแปลกๆมาพร้อมกับไฟกระพริบๆในโทรศัพท์มือถือที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน หญิงสาวรู้สึกตกใจยิ่งนักว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับห้องนอนของเธอ สายตาที่พร่ามัวของหญิงสาวแลเห็นเงาดำๆเป็นร่างคนเดินลงจากเตียงของเธอ แล้วกดรับโทรศัพท์อย่างไม่สนใจ"ฮัลโหล..." เสียงผู้ชายที่เอ่ยออกมาอย่างห้วนๆ ทุ้มๆ เหมือนกับว่าเขาคนนั้นกำลังหลับตารับสาย ส่วนหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังเกิดระแวงกลัวอย่างดื้อๆ
"โรคจิตที่ไหนโทรมาตอนเวลานี้วะ โทรมาแล้วก็วางสาย" ชายหนุ่มนิรนามตรงหน้าทำเสียงหงุดหงิด โยนโทรศัพท์เจ้ากรรมนั้นทิ้งลงบนเตียง เมื่อเขารู้สึกตาสว่างแล้วจึงไม่อยากนอนต่อ เขาจึงเดินไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง หยิบหนังสือในลิ้นชักขึ้นมาอ่าน แต่แล้วจู่ๆเขาก็เหลือบสายตาเรียวคมเห็นร่างหญิงสาวยืนมองเขาตาแป๋วเนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้ม
"โรคจิตที่ไหนโทรมาตอนเวลานี้วะ โทรมาแล้วก็วางสาย" ชายหนุ่มนิรนามตรงหน้าทำเสียงหงุดหงิด โยนโทรศัพท์เจ้ากรรมนั้นทิ้งลงบนเตียง เมื่อเขารู้สึกตาสว่างแล้วจึงไม่อยากนอนต่อ เขาจึงเดินไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง หยิบหนังสือในลิ้นชักขึ้นมาอ่าน แต่แล้วจู่ๆเขาก็เหลือบสายตาเรียวคมเห็นร่างหญิงสาวยืนมองเขาตาแป๋วเนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้ม
โรคจิตที่ไหนโทรมาตอนเวลานี้วะ โทรมาแล้วก็วางสาย" ชายหนุ่มนิรนามตรงหน้าทำเสียงหงุดหงิด โยนโทรศัพท์เจ้ากรรมนั้นทิ้งลงบนเตียง เมื่อเขารู้สึกตาสว่างแล้วจึงไม่อยากนอนต่อ เขาจึงเดินไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง หยิบหนังสือในลิ้นชักขึ้นมาอ่าน แต่แล้วจู่ๆเขาก็เหลือบสายตาเรียวคมเห็นร่างหญิงสาวยืนมองเขาตาแป๋วเนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้ม‘เอ๋...ผู้หญิงมาอยู่ในห้องนอนผมได้ไงอ่ะ’
"อ๊ะ นั่นเธอเป็นใครกันน่ะ มาอยู่ในห้องนอนของผมได้ไง..." ชายหนุ่มทำน้ำเสียงงุนงงละคนความตกตะลึงในใจ พรางมองร่างหญิงสาวขึ้นลงแล้วกระพริบตาถี่ๆ หญิงสาวอ้าปากค้างเติ่งทันทีที่ได้ยินคำว่า‘ห้องนอนผม’เขาพูดคำนั้นได้นิ่งเฉยมากจนหญิงสาวพูดไม่ออก แสงไฟสลัวๆจากโคมไฟทำให้หญิงสาวมองใบหน้าของเขาไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ที่รู้ๆเขามีดวงตาที่สวยมากเหลือเกิน จนหญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้เหมือนโดนมนต์สะกดชวนให้หลงใหลในดวงตาคู่นั้น เสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกหวั่นวิตก
"ว่าไงครับ...." เขาเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวลถาม
"อ๊ะ นั่นเธอเป็นใครกันน่ะ มาอยู่ในห้องนอนของผมได้ไง..." ชายหนุ่มทำน้ำเสียงงุนงงละคนความตกตะลึงในใจ พรางมองร่างหญิงสาวขึ้นลงแล้วกระพริบตาถี่ๆ หญิงสาวอ้าปากค้างเติ่งทันทีที่ได้ยินคำว่า‘ห้องนอนผม’เขาพูดคำนั้นได้นิ่งเฉยมากจนหญิงสาวพูดไม่ออก แสงไฟสลัวๆจากโคมไฟทำให้หญิงสาวมองใบหน้าของเขาไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ที่รู้ๆเขามีดวงตาที่สวยมากเหลือเกิน จนหญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้เหมือนโดนมนต์สะกดชวนให้หลงใหลในดวงตาคู่นั้น เสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกหวั่นวิตก
"ว่าไงครับ...." เขาเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวลถาม
"ว่าไงครับ...." เขาเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวลถาม
ว่าไงครับ...." เขาเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวลถาม‘เขาคือใครกัน...หรือเป็นผู้ชายคนใหม่ของแม่ แต่ทำไมเด็กกว่าตั้งเยอะเลย...โอ้ย..คิดแล้วปวดหัวจัง’
เขาคือใครกัน...หรือเป็นผู้ชายคนใหม่ของแม่ แต่ทำไมเด็กกว่าตั้งเยอะเลย...โอ้ย..คิดแล้วปวดหัวจัง’หญิงสาวนิ่งเงียบไม่มีคำตอบให้เขา ทำสายตาลังเล
ทำสายตาลังเล"นี่เธอ...จะบอกผมได้หรือยังว่าเธอเป็นใครกันแน่ หรือว่าเธอเป็นใบ้ พูดไม่ได้ ฮะ!!!" ชายหนุ่มทำน้ำเสียงรำคาญ ลุกขึ้นยืนตรงหน้าหญิงสาวแล้วพูดต่อ "บอกมาซะทีซิ" เขาส่งสายตาดุดันแฝงความฉงนสงสัยไว้ในดวงตาสีน้ำตาลเข็มมาให้หญิงสาว กิริยาท่าทางของชายหนุ่มตอนนี้ต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง
นี่เธอ...จะบอกผมได้หรือยังว่าเธอเป็นใครกันแน่ หรือว่าเธอเป็นใบ้ พูดไม่ได้ ฮะ!!!" ชายหนุ่มทำน้ำเสียงรำคาญ ลุกขึ้นยืนตรงหน้าหญิงสาวแล้วพูดต่อ "บอกมาซะทีซิ" เขาส่งสายตาดุดันแฝงความฉงนสงสัยไว้ในดวงตาสีน้ำตาลเข็มมาให้หญิงสาว กิริยาท่าทางของชายหนุ่มตอนนี้ต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง"ฉันตั้งหากที่ต้องถามคุณ ว่าคุณคือใคร...ถึงมานอนแอ้งแม้งในห้องของฉันได้ ว่าไง!!" หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงไม่ค่อยสู้ดี แต่สีหน้ามั่นอกมั่นใจ
"เอ๋...ห้องของเธอ เมื่อไหร่...มันเป็นของเธอเมื่อไหร่กัน? ประสาทหรือเปล่าเธอ!! ที่นี่มันบ้านของพ่อผมนะ แล้วเธอเป็นใครถึงมายืนอยู่ในห้องของผมได้ยังไง บอกมาสิ" ชายหนุ่มทำหน้าสับสนมึนงงอย่างไม่เข้าใจ เขาขมวดคิ้วจนชนเข้าหากัน พ่อเข้าขายบ้านนี้ให้กับหญิงแปลกหน้าหรือยังไง? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็บ้าไปแล้ว....
"หา...อะไรนะคะ!!? นี่คือบ้านของพ่อคุณหรอ? เอ๋....แล้วฉันอยู่ที่นี่ได้ไงกัน" หญิงสาวพึ่งจะรู้ถึงความผิดพลาด ทำหน้าตาอยากรู้คำตอบอย่างใจจะขาด แล้วเมื่อครู่เธอรู้สึกเจ็บๆที่หัวด้วย ช่วงเวลานี้ หญิงสาวได้แต่กวาดสายตามองเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนี้ มันน่าแปลกมาก....ที่ในห้องนอนของเธอไม่เคยมีเตียงกว้างใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ และไม่มีของตกแต่งห้องที่หรูหราราคาแพงแบบนี้มาก่อน แถมยังมีโทรทัศน์สีจอยักษ์ประมาณสามสิบสองนิ้วแบบนี้ได้ ทุกอย่างจัดวางอยู่ที่ปลายเตียง เธอจึงนึกย้อนกลับไปประมาณห้าชั่วโมงก่อน นึกถึงคำพูดและเหตุการณ์ทุกอย่าง
"เอ๋...ห้องของเธอ เมื่อไหร่...มันเป็นของเธอเมื่อไหร่กัน? ประสาทหรือเปล่าเธอ!! ที่นี่มันบ้านของพ่อผมนะ แล้วเธอเป็นใครถึงมายืนอยู่ในห้องของผมได้ยังไง บอกมาสิ" ชายหนุ่มทำหน้าสับสนมึนงงอย่างไม่เข้าใจ เขาขมวดคิ้วจนชนเข้าหากัน พ่อเข้าขายบ้านนี้ให้กับหญิงแปลกหน้าหรือยังไง? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็บ้าไปแล้ว....
"หา...อะไรนะคะ!!? นี่คือบ้านของพ่อคุณหรอ? เอ๋....แล้วฉันอยู่ที่นี่ได้ไงกัน" หญิงสาวพึ่งจะรู้ถึงความผิดพลาด ทำหน้าตาอยากรู้คำตอบอย่างใจจะขาด แล้วเมื่อครู่เธอรู้สึกเจ็บๆที่หัวด้วย ช่วงเวลานี้ หญิงสาวได้แต่กวาดสายตามองเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนี้ มันน่าแปลกมาก....ที่ในห้องนอนของเธอไม่เคยมีเตียงกว้างใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ และไม่มีของตกแต่งห้องที่หรูหราราคาแพงแบบนี้มาก่อน แถมยังมีโทรทัศน์สีจอยักษ์ประมาณสามสิบสองนิ้วแบบนี้ได้ ทุกอย่างจัดวางอยู่ที่ปลายเตียง เธอจึงนึกย้อนกลับไปประมาณห้าชั่วโมงก่อน นึกถึงคำพูดและเหตุการณ์ทุกอย่าง
"หา...อะไรนะคะ!!? นี่คือบ้านของพ่อคุณหรอ? เอ๋....แล้วฉันอยู่ที่นี่ได้ไงกัน" หญิงสาวพึ่งจะรู้ถึงความผิดพลาด ทำหน้าตาอยากรู้คำตอบอย่างใจจะขาด แล้วเมื่อครู่เธอรู้สึกเจ็บๆที่หัวด้วย ช่วงเวลานี้ หญิงสาวได้แต่กวาดสายตามองเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนี้ มันน่าแปลกมาก....ที่ในห้องนอนของเธอไม่เคยมีเตียงกว้างใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ และไม่มีของตกแต่งห้องที่หรูหราราคาแพงแบบนี้มาก่อน แถมยังมีโทรทัศน์สีจอยักษ์ประมาณสามสิบสองนิ้วแบบนี้ได้ ทุกอย่างจัดวางอยู่ที่ปลายเตียง เธอจึงนึกย้อนกลับไปประมาณห้าชั่วโมงก่อน นึกถึงคำพูดและเหตุการณ์ทุกอย่าง
หา...อะไรนะคะ!!? นี่คือบ้านของพ่อคุณหรอ? เอ๋....แล้วฉันอยู่ที่นี่ได้ไงกัน" หญิงสาวพึ่งจะรู้ถึงความผิดพลาด ทำหน้าตาอยากรู้คำตอบอย่างใจจะขาด แล้วเมื่อครู่เธอรู้สึกเจ็บๆที่หัวด้วย ช่วงเวลานี้ หญิงสาวได้แต่กวาดสายตามองเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนี้ มันน่าแปลกมาก....ที่ในห้องนอนของเธอไม่เคยมีเตียงกว้างใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ และไม่มีของตกแต่งห้องที่หรูหราราคาแพงแบบนี้มาก่อน แถมยังมีโทรทัศน์สีจอยักษ์ประมาณสามสิบสองนิ้วแบบนี้ได้ ทุกอย่างจัดวางอยู่ที่ปลายเตียง เธอจึงนึกย้อนกลับไปประมาณห้าชั่วโมงก่อน นึกถึงคำพูดและเหตุการณ์ทุกอย่าง"พิราวรรณ...ลูกต้องเข้าใจแม่บ้างสิ ที่แม่แต่งงานกับคุณธนชัย เพราะแม่ทำเพื่ออนาคตของแม่และลูกนะ ครอบครัวของคุณธนชัยอยากจะช่วยเหลือพวกเรา..."
เสียงที่เศร้าสร้อยของแม่หญิงสาวกล่าวบอกกับเธอ เธอยืนมองหน้าบ้านของตัวเองที่กำลังเป็นของคนอื่น พนักงานรับจัดตกแต่งบ้านกำลังขนสมบัติทั้งหมดของเธอและแม่โยนมาไว้ที่หน้าบ้านอย่างไม่ใยดี
เธอยืนมองหน้าบ้านของตัวเองที่กำลังเป็นของคนอื่น พนักงานรับจัดตกแต่งบ้านกำลังขนสมบัติทั้งหมดของเธอและแม่โยนมาไว้ที่หน้าบ้านอย่างไม่ใยดี"แต่ว่าบ้านเราล่ะคะ....เราจะไปอยู่ที่ไหนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีก็ถูกไอ้แก่นั่นยึดไปหมดแล้วนะ หนูไม่ยอมให้แม่แต่งงานกับมัน เด็ดขาด"
"โธ่ลูก...แม่กับลูกจะต้องช่วยกันขนของทุกชิ้นย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณธนชัยเดี๋ยวนี้...เพราะเราไม่มีที่อยู่ เข้าใจหรือเปล่าพิราวรรณ"
"ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."
"โธ่ลูก...แม่กับลูกจะต้องช่วยกันขนของทุกชิ้นย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณธนชัยเดี๋ยวนี้...เพราะเราไม่มีที่อยู่ เข้าใจหรือเปล่าพิราวรรณ"
"ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."
"ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."
ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."หญิงสาวตะโกนก้องใส่หน้าผู้เป็นมารดาอย่างเสียใจยิ่งนัก หญิงสาวร้องให้จนน้ำตาอาบพวงแก้มทั้งสองข้าง ทุกสิ่งตอนนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงร่างกายเธอจนร้าวรานขาดสะบัดเป็นชิ้นๆ เมื่อเธอสูญเสียทุกอย่างไปก็เพราะฤทธิ์จากผีพนันเข้าสิงสถิตอยู่ในร้างของบิดาที่พึ่งเสียชีวิตไปเมื่อไปนาน เธอรู้สึกรังเกลียดทุกสิ่งที่พ่อทำกับครอบครัวของเธอจนหมดสิ้นไม่เหลืออะไรเลยตอนนี้ แม้กระทั้งบ้านที่แม่ซื้อมันกับมือ แม่ของเธอต้องมารับกรรมแทนพ่อโดยการใช้ตัวเองเข้าแลกให้กับไอ้แก่ตัณหาที่เป็นเจ้าของบ่อนการพนันรายใหญ่ อย่างนายธนชัย เธอคิดอยากจะหนีไปให้ไกลๆเสียเหลือเกิน อยากจะฆ่าตัวตายลาโลกที่มีแต่ความทุกข์ทนทรมานใจ เมื่อคิดหาทางออกไปบ้าๆแบบนั้น หญิงสาวจึงวิ่งออกจากบ้านไปที่พลับแห่งหนึ่งดื่มเหล้าเมาจนหมดสติ แล้วจากนั้นก็มีผู้ชายใส่สูทสีดำสี่ห้าคนแบกเธอขึ้นรถตู้ไปที่ไหนสักแห่ง
พอเธอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องนอนของชายหนุ่มแล้ว นี่เธอโดนฉุดทำร้าย หรือลักพาตัวมา หรืออะไรกันแน่ แต่ยังโชคดีที่เธอไม่ได้โดนข่มขืนร่างกาย ทุกอย่างเธอยังดูดีเหมือนเดิมอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรเธอไม่รู้ ถ้าไอ้พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยแล้วส่งเธอมาที่ห้องนี่ด้วย แล้วทำไมเจ้าพวกนั้นต้องอุ้มเธอมาที่นี่ด้วย....ไม่เข้าใจ หรือพวกเจ้าหนี้ของพ่อมาคิดบัญชีกับเธอ แต่ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะที่นี่ดูดีเกินที่จะเป็นสถานที่ลักพาตัว แถมไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้จักการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดแซกของเธอเป็นชุดนอนบางจนยั่วยวนจระเข้ได้หลายตัวอีกตังหาก
พอเธอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องนอนของชายหนุ่มแล้ว นี่เธอโดนฉุดทำร้าย หรือลักพาตัวมา หรืออะไรกันแน่ แต่ยังโชคดีที่เธอไม่ได้โดนข่มขืนร่างกาย ทุกอย่างเธอยังดูดีเหมือนเดิมอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรเธอไม่รู้ ถ้าไอ้พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยแล้วส่งเธอมาที่ห้องนี่ด้วย แล้วทำไมเจ้าพวกนั้นต้องอุ้มเธอมาที่นี่ด้วย....ไม่เข้าใจ หรือพวกเจ้าหนี้ของพ่อมาคิดบัญชีกับเธอ แต่ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะที่นี่ดูดีเกินที่จะเป็นสถานที่ลักพาตัว แถมไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้จักการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดแซกของเธอเป็นชุดนอนบางจนยั่วยวนจระเข้ได้หลายตัวอีกตังหาก
พิราวรรณ...ลูกต้องเข้าใจแม่บ้างสิ ที่แม่แต่งงานกับคุณธนชัย เพราะแม่ทำเพื่ออนาคตของแม่และลูกนะ ครอบครัวของคุณธนชัยอยากจะช่วยเหลือพวกเรา..."เสียงที่เศร้าสร้อยของแม่หญิงสาวกล่าวบอกกับเธอ เธอยืนมองหน้าบ้านของตัวเองที่กำลังเป็นของคนอื่น พนักงานรับจัดตกแต่งบ้านกำลังขนสมบัติทั้งหมดของเธอและแม่โยนมาไว้ที่หน้าบ้านอย่างไม่ใยดี
เธอยืนมองหน้าบ้านของตัวเองที่กำลังเป็นของคนอื่น พนักงานรับจัดตกแต่งบ้านกำลังขนสมบัติทั้งหมดของเธอและแม่โยนมาไว้ที่หน้าบ้านอย่างไม่ใยดี"แต่ว่าบ้านเราล่ะคะ....เราจะไปอยู่ที่ไหนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีก็ถูกไอ้แก่นั่นยึดไปหมดแล้วนะ หนูไม่ยอมให้แม่แต่งงานกับมัน เด็ดขาด"
"โธ่ลูก...แม่กับลูกจะต้องช่วยกันขนของทุกชิ้นย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณธนชัยเดี๋ยวนี้...เพราะเราไม่มีที่อยู่ เข้าใจหรือเปล่าพิราวรรณ"
"ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."
"โธ่ลูก...แม่กับลูกจะต้องช่วยกันขนของทุกชิ้นย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณธนชัยเดี๋ยวนี้...เพราะเราไม่มีที่อยู่ เข้าใจหรือเปล่าพิราวรรณ"
"ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."
"ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."
ไม่...หนูไม่ไป...หนูเกลียดแม่..."หญิงสาวตะโกนก้องใส่หน้าผู้เป็นมารดาอย่างเสียใจยิ่งนัก หญิงสาวร้องให้จนน้ำตาอาบพวงแก้มทั้งสองข้าง ทุกสิ่งตอนนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงร่างกายเธอจนร้าวรานขาดสะบัดเป็นชิ้นๆ เมื่อเธอสูญเสียทุกอย่างไปก็เพราะฤทธิ์จากผีพนันเข้าสิงสถิตอยู่ในร้างของบิดาที่พึ่งเสียชีวิตไปเมื่อไปนาน เธอรู้สึกรังเกลียดทุกสิ่งที่พ่อทำกับครอบครัวของเธอจนหมดสิ้นไม่เหลืออะไรเลยตอนนี้ แม้กระทั้งบ้านที่แม่ซื้อมันกับมือ แม่ของเธอต้องมารับกรรมแทนพ่อโดยการใช้ตัวเองเข้าแลกให้กับไอ้แก่ตัณหาที่เป็นเจ้าของบ่อนการพนันรายใหญ่ อย่างนายธนชัย เธอคิดอยากจะหนีไปให้ไกลๆเสียเหลือเกิน อยากจะฆ่าตัวตายลาโลกที่มีแต่ความทุกข์ทนทรมานใจ เมื่อคิดหาทางออกไปบ้าๆแบบนั้น หญิงสาวจึงวิ่งออกจากบ้านไปที่พลับแห่งหนึ่งดื่มเหล้าเมาจนหมดสติ แล้วจากนั้นก็มีผู้ชายใส่สูทสีดำสี่ห้าคนแบกเธอขึ้นรถตู้ไปที่ไหนสักแห่ง
พอเธอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องนอนของชายหนุ่มแล้ว นี่เธอโดนฉุดทำร้าย หรือลักพาตัวมา หรืออะไรกันแน่ แต่ยังโชคดีที่เธอไม่ได้โดนข่มขืนร่างกาย ทุกอย่างเธอยังดูดีเหมือนเดิมอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรเธอไม่รู้ ถ้าไอ้พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยแล้วส่งเธอมาที่ห้องนี่ด้วย แล้วทำไมเจ้าพวกนั้นต้องอุ้มเธอมาที่นี่ด้วย....ไม่เข้าใจ หรือพวกเจ้าหนี้ของพ่อมาคิดบัญชีกับเธอ แต่ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะที่นี่ดูดีเกินที่จะเป็นสถานที่ลักพาตัว แถมไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้จักการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดแซกของเธอเป็นชุดนอนบางจนยั่วยวนจระเข้ได้หลายตัวอีกตังหาก
พอเธอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องนอนของชายหนุ่มแล้ว นี่เธอโดนฉุดทำร้าย หรือลักพาตัวมา หรืออะไรกันแน่ แต่ยังโชคดีที่เธอไม่ได้โดนข่มขืนร่างกาย ทุกอย่างเธอยังดูดีเหมือนเดิมอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรเธอไม่รู้ ถ้าไอ้พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยแล้วส่งเธอมาที่ห้องนี่ด้วย แล้วทำไมเจ้าพวกนั้นต้องอุ้มเธอมาที่นี่ด้วย....ไม่เข้าใจ หรือพวกเจ้าหนี้ของพ่อมาคิดบัญชีกับเธอ แต่ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะที่นี่ดูดีเกินที่จะเป็นสถานที่ลักพาตัว แถมไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้จักการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดแซกของเธอเป็นชุดนอนบางจนยั่วยวนจระเข้ได้หลายตัวอีกตังหาก
นี่เธอโดนฉุดทำร้าย หรือลักพาตัวมา หรืออะไรกันแน่ แต่ยังโชคดีที่เธอไม่ได้โดนข่มขืนร่างกาย ทุกอย่างเธอยังดูดีเหมือนเดิมอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรเธอไม่รู้ ถ้าไอ้พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเลยแล้วส่งเธอมาที่ห้องนี่ด้วย แล้วทำไมเจ้าพวกนั้นต้องอุ้มเธอมาที่นี่ด้วย....ไม่เข้าใจ หรือพวกเจ้าหนี้ของพ่อมาคิดบัญชีกับเธอ แต่ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะที่นี่ดูดีเกินที่จะเป็นสถานที่ลักพาตัว แถมไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้จักการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดแซกของเธอเป็นชุดนอนบางจนยั่วยวนจระเข้ได้หลายตัวอีกตังหาก"เฮ...เฮ....เธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมเงียบไป ไม่ได้ยินที่ผมพูดหรือไง" ชายหนุ่มเรียกสติเธอให้กลับมาสู่โลกแห่งความจริง หญิงสาวเพ่งพินิจคิดทบทวนอีกรอบว่าเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเพราะสาเหตุอะไร....และใครคือคนสั่งให้ทำ
เฮ...เฮ....เธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมเงียบไป ไม่ได้ยินที่ผมพูดหรือไง" ชายหนุ่มเรียกสติเธอให้กลับมาสู่โลกแห่งความจริง หญิงสาวเพ่งพินิจคิดทบทวนอีกรอบว่าเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเพราะสาเหตุอะไร....และใครคือคนสั่งให้ทำ‘การลักพาตัวคนแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้ หรืออาจจะเป็นฝีมือไอ้แก่ธนชัยก็เป็นไปได้....พวกมันฆ่าคนปากเถื่อนจะตายไป’
การลักพาตัวคนแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้ หรืออาจจะเป็นฝีมือไอ้แก่ธนชัยก็เป็นไปได้....พวกมันฆ่าคนปากเถื่อนจะตายไป’หญิงสาวหลับตาคิดสักพักแล้วค่อยๆลืมตาจ้องมองหน้าเขาตรงๆ
"เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ว่า...พ่อคุณคือใคร แล้วคุณชื่ออะไร แล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้" พิราวรรณส่งน้ำเสียงถามเขาอย่างสั่นๆ กลัวว่าคำตอบจะเป็นไปตามที่เธอคิด พ่อของเขาต้องสั่งลูกน้องมาอุ้มตัวเธอมาที่นี่แน่ๆ
เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ว่า...พ่อคุณคือใคร แล้วคุณชื่ออะไร แล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้" พิราวรรณส่งน้ำเสียงถามเขาอย่างสั่นๆ กลัวว่าคำตอบจะเป็นไปตามที่เธอคิด พ่อของเขาต้องสั่งลูกน้องมาอุ้มตัวเธอมาที่นี่แน่ๆ"พ่อผมน่ะเหรอ เป็นเจ้าของบ่อนการพนัน ส่วนผมชื่อภูมิวเดช....แต่ที่ถามว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง ผมไม่รู้หรอกนะว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง ถามทำไมหรอ? หรือว่าเธอจะมาสืบเรื่องครอบครัวของผม" เขาทำน้ำเสียงจริงจังระคนความสงสัยกับกิริยาท่าทางอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว ตั้งแต่ภูมิวเดชเห็นพิราวรรณอยู่ในห้องก็รู้สึกสลัดความง่วงไปปลิดทิ้ง เกิดอยากใช้นิสัยเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ของพ่องัดมาใช้กับหล่อนสักหน่อย แต่ว่า...เขาไม่ได้อยากเป็นแบบพ่อเขานักหรอก เขาควรที่จะเกลียดพ่อเขามากกว่าใครคนอื่น เพราะพ่อเขามีนิสัยแบบนั้นจึงทำให้แม่รีบลาจากโลกอันสดใสหนีเขาไปคนเดียวเงียบๆ
พ่อผมน่ะเหรอ เป็นเจ้าของบ่อนการพนัน ส่วนผมชื่อภูมิวเดช....แต่ที่ถามว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง ผมไม่รู้หรอกนะว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง ถามทำไมหรอ? หรือว่าเธอจะมาสืบเรื่องครอบครัวของผม" เขาทำน้ำเสียงจริงจังระคนความสงสัยกับกิริยาท่าทางอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว ตั้งแต่ภูมิวเดชเห็นพิราวรรณอยู่ในห้องก็รู้สึกสลัดความง่วงไปปลิดทิ้ง เกิดอยากใช้นิสัยเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ของพ่องัดมาใช้กับหล่อนสักหน่อย แต่ว่า...เขาไม่ได้อยากเป็นแบบพ่อเขานักหรอก เขาควรที่จะเกลียดพ่อเขามากกว่าใครคนอื่น เพราะพ่อเขามีนิสัยแบบนั้นจึงทำให้แม่รีบลาจากโลกอันสดใสหนีเขาไปคนเดียวเงียบๆ"หรือว่าเธอจะมายั่วยวนผม...อยากให้ผมทำแบบนั้นกับเธอหรือยังไง ถ้าไม่ใช่แบนั้น คงจะไม่มารอผมถึงที่ห้องนอนหรอก อย่างนั้นผมควรจะตอบสนองกับข้อเสนอของเธอสินะ หึ หึ หึ"
"เปล่านะ...ฉันแค่อยากรู้ว่า..." พิราวรรณยังไม่ทันเอ่ยปากพูดให้จบ ชายหนุ่มทำสายตาแข็งกระด้างเดินตรงประชิดมาทางเธอ เขาคิดหลายตลบชั่วครู่เมื่อกี้แล้ว ยังไงเขาก็จะจัดการหญิงสาวที่ชอบทำสายตาบ้องแบ๋วให้เขาจนหยุดอารมณ์ไว้ไม่อยู่ตรงหน้านี้ให้ได้ เขากระชากไหล่เธอมาใกล้ๆหน้าอกของเขาแล้วเอาแขนทั้งสองข้างกอดรัดเอวหญิงสาวแน่นขึ้นเรื่อยๆ พรางก้มหัวที่จะประทับรอยจุมพิตที่กลีบปากอันอิ่มเอิบของพิราวรรณเสียให้ได้ แต่สายตาทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่เข้าใจ ในดวงตาลึกๆของพิราวรรณกำลังต่อต้านการกระทำของชายหนุ่ม แต่รูปร่างของเธอเล็กกว่าชายหนุ่มตั้งหลายเท่า จะหาทางดิ้นรนหนีรอดคงจะเป็นไปได้ยาก อ้อมกอดที่แน่นจนพิราวรรณแทบพ่นลมหายใจไม่ออก หล่อนทุบตีที่ไหล่เขาเสมือนเด็กกำลังนวดไหล่ให้เขาก็มิปาน เขากำลังซอกซอนไปที่ต้นคอเธออย่างรุนแรงจนหญิงสาวรู้สึกขยะแขยงกับการกระทำของเขา แต่พอเวลาผ่านไปนานไปเรื่อยๆเธอกลับรู้สึกชอบมันเข้าแล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่ถวิลหามาตอนยี่สิบสองปีได้เจอกับอ้อมกอดมันอบอุ่นจนอยากจะร้องไห้ แต่ยังไงเธอจะปล่อยให้เขากระทำกับเธอแบบนี้ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด ผลออกมาจะต้องเป็นสิ่งไม่ดีแน่
"เปล่านะ...ฉันแค่อยากรู้ว่า..." พิราวรรณยังไม่ทันเอ่ยปากพูดให้จบ ชายหนุ่มทำสายตาแข็งกระด้างเดินตรงประชิดมาทางเธอ เขาคิดหลายตลบชั่วครู่เมื่อกี้แล้ว ยังไงเขาก็จะจัดการหญิงสาวที่ชอบทำสายตาบ้องแบ๋วให้เขาจนหยุดอารมณ์ไว้ไม่อยู่ตรงหน้านี้ให้ได้ เขากระชากไหล่เธอมาใกล้ๆหน้าอกของเขาแล้วเอาแขนทั้งสองข้างกอดรัดเอวหญิงสาวแน่นขึ้นเรื่อยๆ พรางก้มหัวที่จะประทับรอยจุมพิตที่กลีบปากอันอิ่มเอิบของพิราวรรณเสียให้ได้ แต่สายตาทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่เข้าใจ ในดวงตาลึกๆของพิราวรรณกำลังต่อต้านการกระทำของชายหนุ่ม แต่รูปร่างของเธอเล็กกว่าชายหนุ่มตั้งหลายเท่า จะหาทางดิ้นรนหนีรอดคงจะเป็นไปได้ยาก อ้อมกอดที่แน่นจนพิราวรรณแทบพ่นลมหายใจไม่ออก หล่อนทุบตีที่ไหล่เขาเสมือนเด็กกำลังนวดไหล่ให้เขาก็มิปาน เขากำลังซอกซอนไปที่ต้นคอเธออย่างรุนแรงจนหญิงสาวรู้สึกขยะแขยงกับการกระทำของเขา แต่พอเวลาผ่านไปนานไปเรื่อยๆเธอกลับรู้สึกชอบมันเข้าแล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่ถวิลหามาตอนยี่สิบสองปีได้เจอกับอ้อมกอดมันอบอุ่นจนอยากจะร้องไห้ แต่ยังไงเธอจะปล่อยให้เขากระทำกับเธอแบบนี้ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด ผลออกมาจะต้องเป็นสิ่งไม่ดีแน่
เปล่านะ...ฉันแค่อยากรู้ว่า..." พิราวรรณยังไม่ทันเอ่ยปากพูดให้จบ ชายหนุ่มทำสายตาแข็งกระด้างเดินตรงประชิดมาทางเธอ เขาคิดหลายตลบชั่วครู่เมื่อกี้แล้ว ยังไงเขาก็จะจัดการหญิงสาวที่ชอบทำสายตาบ้องแบ๋วให้เขาจนหยุดอารมณ์ไว้ไม่อยู่ตรงหน้านี้ให้ได้ เขากระชากไหล่เธอมาใกล้ๆหน้าอกของเขาแล้วเอาแขนทั้งสองข้างกอดรัดเอวหญิงสาวแน่นขึ้นเรื่อยๆ พรางก้มหัวที่จะประทับรอยจุมพิตที่กลีบปากอันอิ่มเอิบของพิราวรรณเสียให้ได้ แต่สายตาทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่เข้าใจ ในดวงตาลึกๆของพิราวรรณกำลังต่อต้านการกระทำของชายหนุ่ม แต่รูปร่างของเธอเล็กกว่าชายหนุ่มตั้งหลายเท่า จะหาทางดิ้นรนหนีรอดคงจะเป็นไปได้ยาก อ้อมกอดที่แน่นจนพิราวรรณแทบพ่นลมหายใจไม่ออก หล่อนทุบตีที่ไหล่เขาเสมือนเด็กกำลังนวดไหล่ให้เขาก็มิปาน เขากำลังซอกซอนไปที่ต้นคอเธออย่างรุนแรงจนหญิงสาวรู้สึกขยะแขยงกับการกระทำของเขา แต่พอเวลาผ่านไปนานไปเรื่อยๆเธอกลับรู้สึกชอบมันเข้าแล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่ถวิลหามาตอนยี่สิบสองปีได้เจอกับอ้อมกอดมันอบอุ่นจนอยากจะร้องไห้ แต่ยังไงเธอจะปล่อยให้เขากระทำกับเธอแบบนี้ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด ผลออกมาจะต้องเป็นสิ่งไม่ดีแน่"โอ้ย...." เสียงร้องโอดครวญของภูมิวเดชทำให้พิราวรรณรู้สึกสะใจที่ได้แก้เผ็ด เพราะเธอกระทืบเท้าลงบนนิ้วเท้าทั้งสองข้างของภูมิวเดชอย่างแรง เขาเจ็บจนต้องคลายอ้อมแขนปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ
"ตาบ้า...โรคจิต
" หญิงสาวสรรค์หาคำเจ็บๆ มาบรรเลงตะคอกด่าใส่เขาจบก็เปิดประตูวิ่งออกจากห้องนั้นลงมาชั้นล่าง ปล่อยให้เขาน้ำตาเล็ดอยู่ในห้องเพียงผู้เดียว
"ตาบ้า...โรคจิต " หญิงสาวสรรค์หาคำเจ็บๆ มาบรรเลงตะคอกด่าใส่เขาจบก็เปิดประตูวิ่งออกจากห้องนั้นลงมาชั้นล่าง ปล่อยให้เขาน้ำตาเล็ดอยู่ในห้องเพียงผู้เดียว
ตาบ้า...โรคจิต " หญิงสาวสรรค์หาคำเจ็บๆ มาบรรเลงตะคอกด่าใส่เขาจบก็เปิดประตูวิ่งออกจากห้องนั้นลงมาชั้นล่าง ปล่อยให้เขาน้ำตาเล็ดอยู่ในห้องเพียงผู้เดียว‘หนอยแน่ะ....วันนี้เธอรอด แต่พรุ่งนี้เธอไม่รอดแน่ เพราะยังไงเธอก็ต้องเป็นของผม!!!’
หนอยแน่ะ....วันนี้เธอรอด แต่พรุ่งนี้เธอไม่รอดแน่ เพราะยังไงเธอก็ต้องเป็นของผม!!!’ชายหนุ่มทำหน้ายับย่นด้วยความเจ็บปวดและเครียดแค้น ความวูมวามของเขาจึงทำให้หญิงสาวเสียขวัญ ส่วนพิราวรรณเมื่อก้าวท้าววิ่งลงมาถึงชั้นล่างก็เจอแม่ของเธอนั่งอยู่กับนายธนชัย ซึ่งผู้ชายแก่คนนั้นกำลังกอดไหล่แม่ของเธออยู่ทั้งที่แม่เธอกำลังบ่ายเบี่ยงไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้น แต่ก็ต้องจำยอม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องยอมทำแบบนั้นด้วย ยอมแม้กระทั้งเป็นเมียผู้ชายที่ทำงานทุจริตและไม่ใช่คนที่แม่รัก เธอมองสีหน้าเศร้าหมองเหมือนกำลังจะตรอมตรมเพราะถูกขืนใจของแม่แล้วรู้สึกระอายใจจนอยากจะวิ่งเข้าไปฆ่าไอ้ผู้ชายคนนั้นให้ตายคามือ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง....เพราะเธอไม่แข็งแรงพอที่จะช่วยแม่ได้...
‘กรรมเก่าตั้งแต่ชาติไหนหรือ ถึงทำให้แม่ฉันต้องชดใช้มันอย่างเจ็บปวดและขืนขม’
"พ่อหยุดทำหล่อนสักทีเถอะ!!!" เสียงของนายภูมิวเดชดังมาจากข้างหลังพิราวรรณ เขาเดินตามพิราวรรณลงมา แต่กลับเห็นพ่อของเขากำลังจะทำอะไรกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่แม่ของเขา เขากัดฟันกรอดแล้วกำหมัดแน่น
‘อีกแล้วหรอ...พ่อพาผู้หญิงมานอนที่บ้านอีกแล้ว’ เขาเอาเล็บจิกเนื้อตัวเอง
‘กรรมเก่าตั้งแต่ชาติไหนหรือ ถึงทำให้แม่ฉันต้องชดใช้มันอย่างเจ็บปวดและขืนขม’
"พ่อหยุดทำหล่อนสักทีเถอะ!!!" เสียงของนายภูมิวเดชดังมาจากข้างหลังพิราวรรณ เขาเดินตามพิราวรรณลงมา แต่กลับเห็นพ่อของเขากำลังจะทำอะไรกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่แม่ของเขา เขากัดฟันกรอดแล้วกำหมัดแน่น
‘อีกแล้วหรอ...พ่อพาผู้หญิงมานอนที่บ้านอีกแล้ว’ เขาเอาเล็บจิกเนื้อตัวเอง
"พ่อหยุดทำหล่อนสักทีเถอะ!!!" เสียงของนายภูมิวเดชดังมาจากข้างหลังพิราวรรณ เขาเดินตามพิราวรรณลงมา แต่กลับเห็นพ่อของเขากำลังจะทำอะไรกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่แม่ของเขา เขากัดฟันกรอดแล้วกำหมัดแน่น
‘อีกแล้วหรอ...พ่อพาผู้หญิงมานอนที่บ้านอีกแล้ว’ เขาเอาเล็บจิกเนื้อตัวเอง
‘อีกแล้วหรอ...พ่อพาผู้หญิงมานอนที่บ้านอีกแล้ว’ เขาเอาเล็บจิกเนื้อตัวเอง
อีกแล้วหรอ...พ่อพาผู้หญิงมานอนที่บ้านอีกแล้ว’ เขาเอาเล็บจิกเนื้อตัวเอง"เอ้า...แกเองหรอวะไอ้ภูมิ กลับมาถึงเมื่อไหร่เรอะ แล้วนั่นหนูพิราวรรณตื่นแล้วหรอจ้ะ นี่ไอ้ภูมิ...ไหว้แม่ใหม่ของแกซะสิ เร็วๆเข้า" นายธนชัยสั่งลูกชายอย่างเหมือนกับลูกน้องคนนึ่ง
ภูมิวเดชได้ยินคำประกาสิทธิ์ของพ่อตนเองเมื่อกี้ ถึงขั้นต้องล้มตึงเข่าทรุดลงพื้น ‘แม่ใหม่’อย่างนั้นหรอ พ่อกำลังทรยศแม่แท้ๆที่ตายไปของเขา พ่อลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่ พ่อเขากำลังมีหญิงอื่น เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป...เขากำลังจะปลุกปล้ำน้องสาวอย่างนั้นเหรอ เป็นไปไม่ได้...เขาต้องฝันไปแน่....
"ต้องขอโทษจริงๆที่ฉันไม่ได้เตรียมห้องไว้ให้หนูพิราวรรณ พวกเธอทั้งสองคงจะได้พูดคุยกันแล้วล่ะสิ แหม...ก็มันปุบปับกะทันหันจนพวกเธอรับไม่ได้ใช่ไหม เดี๋ยวก็ชินไปเอง..." นายธนชัยพูดอย่างยิ้มแห้งๆ เป็นกันเอง เสมือนราวกับว่าเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไว้แล้ว แต่มีนายธนชัยที่คิดไปเองคนเดียวว่ามันจะต้องชินไปเอง ลืมไปเอง แต่มันเป็นไปไม่ได้แน่....
‘นี่เองเหรอ...สิ่งที่ไอ้ผู้ชายคนนี้แกล้งแสแสร้งทำดีกับครอบครัวฉัน ทั้งที่เราเป็นแค่ลูกหนี้หนึ่ง มันต้องวางแผนแกล้งครอบครัวฉันอยู่แน่ๆ’
ภูมิวเดชได้ยินคำประกาสิทธิ์ของพ่อตนเองเมื่อกี้ ถึงขั้นต้องล้มตึงเข่าทรุดลงพื้น ‘แม่ใหม่’อย่างนั้นหรอ พ่อกำลังทรยศแม่แท้ๆที่ตายไปของเขา พ่อลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่ พ่อเขากำลังมีหญิงอื่น เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป...เขากำลังจะปลุกปล้ำน้องสาวอย่างนั้นเหรอ เป็นไปไม่ได้...เขาต้องฝันไปแน่....
"ต้องขอโทษจริงๆที่ฉันไม่ได้เตรียมห้องไว้ให้หนูพิราวรรณ พวกเธอทั้งสองคงจะได้พูดคุยกันแล้วล่ะสิ แหม...ก็มันปุบปับกะทันหันจนพวกเธอรับไม่ได้ใช่ไหม เดี๋ยวก็ชินไปเอง..." นายธนชัยพูดอย่างยิ้มแห้งๆ เป็นกันเอง เสมือนราวกับว่าเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไว้แล้ว แต่มีนายธนชัยที่คิดไปเองคนเดียวว่ามันจะต้องชินไปเอง ลืมไปเอง แต่มันเป็นไปไม่ได้แน่....
‘นี่เองเหรอ...สิ่งที่ไอ้ผู้ชายคนนี้แกล้งแสแสร้งทำดีกับครอบครัวฉัน ทั้งที่เราเป็นแค่ลูกหนี้หนึ่ง มันต้องวางแผนแกล้งครอบครัวฉันอยู่แน่ๆ’
"ต้องขอโทษจริงๆที่ฉันไม่ได้เตรียมห้องไว้ให้หนูพิราวรรณ พวกเธอทั้งสองคงจะได้พูดคุยกันแล้วล่ะสิ แหม...ก็มันปุบปับกะทันหันจนพวกเธอรับไม่ได้ใช่ไหม เดี๋ยวก็ชินไปเอง..." นายธนชัยพูดอย่างยิ้มแห้งๆ เป็นกันเอง เสมือนราวกับว่าเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไว้แล้ว แต่มีนายธนชัยที่คิดไปเองคนเดียวว่ามันจะต้องชินไปเอง ลืมไปเอง แต่มันเป็นไปไม่ได้แน่....
‘นี่เองเหรอ...สิ่งที่ไอ้ผู้ชายคนนี้แกล้งแสแสร้งทำดีกับครอบครัวฉัน ทั้งที่เราเป็นแค่ลูกหนี้หนึ่ง มันต้องวางแผนแกล้งครอบครัวฉันอยู่แน่ๆ’
‘นี่เองเหรอ...สิ่งที่ไอ้ผู้ชายคนนี้แกล้งแสแสร้งทำดีกับครอบครัวฉัน ทั้งที่เราเป็นแค่ลูกหนี้หนึ่ง มันต้องวางแผนแกล้งครอบครัวฉันอยู่แน่ๆ’
นี่เองเหรอ...สิ่งที่ไอ้ผู้ชายคนนี้แกล้งแสแสร้งทำดีกับครอบครัวฉัน ทั้งที่เราเป็นแค่ลูกหนี้หนึ่ง มันต้องวางแผนแกล้งครอบครัวฉันอยู่แน่ๆ’พิราวรรณกำหมัดแน่นเข้าคว้าแจกันลายมังกรจีนใบสวยสง่าโยนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีว่ามันจะราคาสักเท่าไหร่ ทำให้ธนชัยร้องจ้าด้วยความตกใจโผล่วิ่งไปดูเศษแจกันราคาแพงที่บัดนี้เป็นเพียงเศษขยะที่ไร้ค่าไปชั่วพริบตาเดียว แต่นายธนชัยยิ้มสู้ไม่ต่อว่าด่าพิราวรรณสักนิดเดียว หล่อนยิ่งเกลียดชายคนนี้เข้าไปอีก กับการที่จะต้องเจอหน้าคนที่อยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงใหม่ พิราวรรณแทบรับไม่ได้เลย หล่อนร้องไห้แล้วปราดน้ำตาอย่างแค้นใจวิ่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไปทันที
ทำให้ธนชัยร้องจ้าด้วยความตกใจโผล่วิ่งไปดูเศษแจกันราคาแพงที่บัดนี้เป็นเพียงเศษขยะที่ไร้ค่าไปชั่วพริบตาเดียว แต่นายธนชัยยิ้มสู้ไม่ต่อว่าด่าพิราวรรณสักนิดเดียว หล่อนยิ่งเกลียดชายคนนี้เข้าไปอีก กับการที่จะต้องเจอหน้าคนที่อยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงใหม่ พิราวรรณแทบรับไม่ได้เลย หล่อนร้องไห้แล้วปราดน้ำตาอย่างแค้นใจวิ่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไปทันที"เอ้าเฮ้ย...แกวิ่งไปตามหนูพิราวรรณมาสักสิ ยืนทื่ออยู่ทำบ้าอะไรล่ะไอ้ภูมิ โธ่...แจกันหายากอันล้ำค่าจากเมืองจีนต้องแตกหักเพราะลูกเธอ ฮึ่ม..ม..ม" ธนชัยตะคอกสั่งให้ภูมิวเดชไปตามพิราวรรณแล้วดุนางพิณรินอย่างเคื่องๆ แต่ภูมิวเดชก้าวขาไม่ออกเพราะเหตุผลกลใดถึงเป็นเช่นนั้น....
เอ้าเฮ้ย...แกวิ่งไปตามหนูพิราวรรณมาสักสิ ยืนทื่ออยู่ทำบ้าอะไรล่ะไอ้ภูมิ โธ่...แจกันหายากอันล้ำค่าจากเมืองจีนต้องแตกหักเพราะลูกเธอ ฮึ่ม..ม..ม" ธนชัยตะคอกสั่งให้ภูมิวเดชไปตามพิราวรรณแล้วดุนางพิณรินอย่างเคื่องๆ แต่ภูมิวเดชก้าวขาไม่ออกเพราะเหตุผลกลใดถึงเป็นเช่นนั้น....
ความคิดเห็น