ขนมเพื่อสุขภาพ - ขนมเพื่อสุขภาพ นิยาย ขนมเพื่อสุขภาพ : Dek-D.com - Writer

    ขนมเพื่อสุขภาพ

    คนรักขนมและรักสุขภาพต้องอ่านนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,392

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.39K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ธ.ค. 49 / 15:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เชื่อว่าตั้งแต่เด็กจนโต คงไม่มีใครที่ไม่เคยกินขนมมาก่อน แต่ว่าเจ้าตัวขนมนี่ล่ะที่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาหลายอย่าง โดยส่วนมากขนมแทบทุกชนิดในท้องตลาดนั้น จะเป็นขนมที่มีส่วนประกอบของ แป้ง น้ำตาล น้ำมัน กะทิ นม ฯลฯ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โคเลสเตอรอลสูง ความดันสูง เบาหวาน หัวใจ จนกระทั่งไปถึงโรคมะเร็ง

      ในปัจจุบัน จึงมีการรณรงค์ให้กินอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการกินผักและผลไม้ โดยมีการแนะนำให้กินผักครึ่งหนึ่งอย่างอื่นครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าถามว่าจะให้เด็กเลิกกินขนมตลอดชีวิตเลยหรือ ถ้าทำได้ก็ดี แต่ถ้าเกิดว่าชีวิตนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ วันนี้ผมก็มีขนมดีๆที่จะมาแนะนำ เผื่อว่าจะไม่ต้องอดขนม(ฮิฮิ เพราะผู้เขียนก็ชอบอยู่แล้ว) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้วันๆ กินแต่ขนม หรือว่าพอบอกว่ากินแล้วไม่เป็นไร ก็กินเข้าไปเยอะๆ อันนี้ก็ไม่ดี เพราะอะไรก็ตาม ควรกินให้พอดี จะเกิดประโยชน์มากกว่า

      ถั่วเหลือง เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญมากๆ และสามารถที่จะกินแทนเนื้อสัตว์ได้เลยโดยที่สารอาหารที่ได้รับก็ยังครบถ้วน (ขึ้นอยู่กับวิธีการกินด้วยนะจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป) นอกจากนี้การทานถั่วเหลืองยังให้ในเรื่องของวิตามินอีกด้วย โดยจะมีวิตามินเอ บี ดี ซึ่งการรับประทานถั่วเหลืองนั้นจะช่วยในเรื่องของการสร้างกระดูก ช่วยเรื่องของสมองและประสาท กับเป็นส่วนสำคัญของเลือดอีกด้วย

      งา เป็นสิ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ในปริมาณที่สูงมาก โดยอาจจะเป็นงาอบอัดแท่ง ไขมันในงาจะมีอยู่มากประมาณ 45-57% จัดเป็นไขมันที่มีคุณภาพดี เพราะมี กรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง และไม่เกิดการเหม็นหืนง่าย เนื่องจากมีสารกันหืนตามธรรมชาติ นอกจากนั้นยังช่วยลดโคเลสเตอรอลในเลือดด้วย ส่วนโปรตีนก็มีอยู่ไม่น้อยกว่า 20% เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เพราะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นอยู่ครบทุกชนิด โดยเฉพาะเมธิโอนิน ซึ่งมีอยู่น้อยในโปรตีนถั่วเหลือง แต่กลับมีมากในงา ดังนั้นผู้ที่บริโภคอาหารมังสะวิรัติ ซึ่งร่างกายจะได้รับโปรตีนจากธัญพืชจึงต้องบริโภคเมล็ดงาร่วมกับเมล็ดถั่วด้วย จึงจะได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ในเมล็ดงาจะอุดมไปด้วยวิตามินบีทุกชนิด (ยกเว้นวิตามินบี 12) ซึ่งจะช่วยในการบำรุงสมอง ประสาท และป้องกันโรคเหน็บชา ส่วนเกลือแร่จะมีมากถึง 4.1-6.5% ที่สำคัญ ก็คือ พวกธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี แคลเซียม และฟอสฟอรัส โดยเฉพาะแคลเซียม และฟอสฟอรัสในงาจะมีอยู่มากกว่าผักชนิดอื่น ๆ ถึง 40 และ 20 เท่าตามลำดับ ดังนั้นงาจึงเป็นแหล่งของสารอาหารที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง ที่อาจจะช่วยบรรเทาโรคบางชนิดได้ เช่น โรคเหน็บชา โรคปวดตามข้อกระดูก เป็นต้น

      หลายๆอย่างที่กินแล้วเกิดประโยชน์ยังมีอีกมากมายหลายชนิด ขึ้นอยู่กับว่าเราทราบสรรพคุณของมันหรือไม่เท่านั้นเอง ไว้โอกาสหน้ามีเคล็ดลับดีๆจะนำมากเล่าให้ฟังอีก วันนี้ขอตัวไปเลือกขนมกินก่อนนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×