คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๒ วันที่ฟ้าสีหม่นกับคนขี้เหงา ( 60 เปอร์เซนต์ นะครับ )
ตอนที่ ๒ วันที่ฟ้าสีหม่นกับคนขี้เหงา
“อยากเจอใครสักคน
มาช่วยลบความเหงาที่ชอบเล่นกลกับคน
คนนี้อยู่ข้างกัน
สบตา พูดคำหวาน บอกหลับฝันดีอธิษฐานดาวตกคืนนี้
ขอมีคนดี เกี่ยวก้อยใจ มาเป็นคนพิเศษคู่ใจฉันอยู่เคียงข้างกัน
ไม่ว่าทุกข์หรือสุขแค่ไหนเปลี่ยนความเหงาให้เป็นเงาของคนรู้ใจ
เติมความอบอุ่นให้รักสดใส
เปี่ยมความสุขใจ มีฉัน มีเธอ”อาจเพราะว่าสายตาคู่นั้น มีอำนาจิเศษสะกดให้ใครต่อใครตกอยู่ในภวังค์ เขายืนอยู่สุดถนนร่างสง่าเป็นจุดเด่นที่ใครผ่านไปมาต่างต้องหยุดมอง ผิดกับความรู้สึกภายในของเขาที่
เบื่อหน่ายต่อสิ่งรอบกายเต็มทนไม่เว้นแม้กระทั่งผู้คนที่กระซิบและหัวเราะคิกคักโดยเฉพาะเด็กสาวซึ่งจับกลุ่ม
ตรงหน้าเขาอยู่ตอนนี้
“ไม่ไหวเอาเสีย ผู้หญิงในเมืองมนุษย์พวกนี้” เขาเบือนหน้าหนี มาดนิ่งแต่ท่าทีอย่างนั้นกับยิ่งถูกใจกลุ่มเด็กสาวมากขึ้น “บ้า.........แล้ว....ฉันเขินเป็นเหมือนกันนะ” สาวอวบถูกเพื่อนๆ อีก3คนดันหลังให้เข้ามาใกล้ ชายหนุ่มผู้ที่มีสายตาเข้มคู่นั้น “พี่ค่ะ ...พวกเราขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม” เหมือนจะขวยเขินในตอนแรก แต่พอพูดคำหนึ่งออกมาได้ เธอก็ร่ายยาวต่อเป็นชุด“เป็นดาราหรือเปล่าค่ะ
มาเที่ยว รอแฟน ” เขาได้แต่กระตุกริมฝีปากเล็กน้อยและฝืนยิ้มแห้งๆออกไปหนึ่งทีพวกเธอรีบตอบแทนด้วยเสียงกรี๊ดลั่นไปทั่วบริเวณทางเดิน
กล้องถ่ายรูปมือถือหลายเครื่องส่งแสงวูบไหวทำหน้าที่เก็บทั้งภาพคู่ และหมู่คณะจากท่าทีขรึม ไม่นานนักเขากับรู้สึกมีชีวิตชีวา
ยิ่งเมื่อมองรอบกายตอนนี้ ดูจะมีคนให้ความสนใจในตัวเขา มากกว่าการเดินเข้าไปจับจ่ายของในห้างหรูเสียอีก“พวกเจ้า
มองแค่สิ่งเปลือกนอกเท่านั้นหรือมนุษย์” ระตูยิ้มกว้างดวงตาฉายแววความคิดอย่างที่ใครก็ยากจะรับรู้ได้..........................
เป็นเช้าวันใหม่ที่ติชิลา มีพลังวิเศษปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างมีความสุขเป็นล้นพ้น สาวน้อยเริงร่าหมุนตัวหน้ากระจก ร้องเพลงอย่างใจชอบเต้นระบำสนุกสนาน จะว่าไปแล้วก็คล้ายคนมีความรักยังไงยังนั้นไม่ผิดเพี้ยน ชุดกระโปร่งยาวลูกไม้สีชมพูสุดหวานเป็นข้อห้ามมิควรสวมใส่ยิ่งนัก ซึ่งว่าตามกฎเมืองเวทมนตร์แล้ว แม่มดจะยอมทำผิดธรรมเนียมข้อบังคับที่วางไว้ ก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นมีความสำคัญยิ่งยวด ว่าแต่ว่าครั้งนี้ ติชิลาเธอทำเพื่อสิ่งใด หรือเพื่อใครกันนะ ติชิลาในชุดสุดหวานเดินไปตามท้องถนนพร้อมความสุขกับรุ่งอรุณ แต่ทุกอย่างพลันสูญสลาย เพราะภาพตรงหน้าที่เห็นตอนนี้ โลกสีรุ้งสดใสเปลี่ยนเป็นสีเทาในพริบตา ขอบตาเธอร้อนผ่าวแทบจะเผาผลาญทุกอย่างในโลกนี้ได้เลย
นายต้นไม้ ยืนเกาะประตูรถคันงามป้ายแดง หน้าตาคล้ายจะบ่งบอกว่าเวลานี้มีเพียงแต่ตัวเขาและแม่สาวปากแดง
ขนตาสีม่วงฉ่ำคนนั้นอยู่ลำพังสองต่อสองบนถนนสายนี้ “บ้า........ฉันไม่ได้โกรธ เปล่าอิจฉา แค่หมั่นไส้นิดหน่อย” ติชิลาพยายามข่มอารมณ์ ปรามตนเองให้แจ่มใสเข้าไว้ ทว่าผมหยิกสีแดงเพลิง เกิดปฏิกิริยาต่อความรู้สึกภายใน สนองความเคืองที่ก่อตัวอย่างรวดเร็ว แสดงอาการฟูฟ่อง ดูแล้วน่าขันระคนน่ากลัวพอๆ กัน “โอม .........เพี้ยง” เธอหลับตาลบสิ่งทีเห็นนั้นเสีย “โธ่.........เป็นอะไรไปนะเรา” ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้น ทำไมต้องยอมให้นายต้นไม้และหญิงสาวแก้มป่องคนนั้น มามีอิทธิพลทำให้เกิดอารมณ์โมโหร้ายกับโลกทั้งใบได้ถึงเพียงนี้ ติชิลาก้มหน้ามุ่ยสีหน้าเศร้าผิดกับชุดสวยสีชมพูแสนหวาน ความน้อยใจก่อตัวตามมาและพาลเกเรชวนให้เธอมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีหม่นอย่างคนขี้เหงาชอบเอ่ยถึงกัน สาวน้อยอยากเข้าใจอะไรมากกว่านี้ อย่างน้อยก็เรื่องของจิตใจมนุษย์บนโลก ถึงแม้ตำรามากมายเคยกล่าวถึงก็ดูเหมือนว่าความเป็นจริงแล้วมันยากจะหยั่งถึงยิ่งนัก
เธออยากจะมีเกราะกำบังป้องกันตนเองจากสิ่งที่มองไม่เห็น ด้วยวันนี้ความอ่อนแอทำให้รับรู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่เสียจนตัวเธอเองกลัวที่จะตองเผชิญสิ่งต่างๆ ตามลำพัง “อ้าว...................ยายหัวรังนก ทำไมมานั่งอ้วนอยู่นี่คนเดียว” นายต้นไม้วิ่งเหยาะๆเข้ามาทักทายด้วยภาษาน่ารักมาก “..............................” หน้านิ่งขอบตาแดง “เป็นไรจ้ะ.....ทำตาเยิ้มเชียวเธอ”เข้าใจพูดนะพ่อคุณ ติชิลาอยากจะกระโดดคว้าคอเสื้อ ต่อยหน้ายียวนให้หายแค้นยิ่งนัก “เปล่า” ติชิลาส่ายหน้าช้า ๆ ทำปากเบ้ น้ำตาเอ่อขึ้นมา “ไปกันใหญ่แล้ว ตะกี้หน้าบึ้งเป็นนางยักษ์ ประเดี๋ยวจะกันแสง” เขางงจึงได้แต่ยืนทำคิ้วชนกัน ครั้นจะเข้าไปปลอบ ติชิลาเองก็ยกมือขึ้นห้าม “ไม่ต้องมายุ่งเลย” เธอตวาดใส่ พร้อมกับอาการงอแงเป็นเด็ก “พิลึก แล้วยายบ๊อง” ต้นต่อท้ายประโยคด้วยการขำ หึๆ ในลำคอ “คน..... ผีทะเลฉันมารอนายตั้งนานแล้วนะ มัวแต่ทำตัวเป็นเจ้าเอ๋ง ชะเง้อคอเห่าเครื่องบินอยู่ได้” ติชิลาระบายความในใจที่อัดอั้นออกไปให้เขารับรู้ถึงความน้อยใจของตน “นี่ ..........เธอหมายความว่าอย่างไร” ต้นชักฉุน เขากอดอกวางท่าจิ๊กโก๋ “ตรงตามที่พูด มิได้อ้อมค้อมแต่อย่างใด เจ้าค่ะ” ติชิลาเช็ดน้ำมูก ทำตาโตจ้องหน้าต้นไม้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน “อืมม์ คนที่ชอบจุ้นเรื่องชาวบ้าน จะเรียกว่ากะไรดีนะ” เขาเอียงตัวเข้าใกล้เธอ เม้มปากแล้วขยับซ้ายทีขวาที “เปล่า ฉันเปล่าจุ้น แล้วก็ไม่ได้แอบมองด้วย ประเจิดประเจ้อขนาดนั้น” ติชิลาทำจมูกย่น พ่นลมใส่หน้าต้นอย่างแรง “ยี้..........ผู้หญิงอะไร ไม่น่ารักเอาเสียเลย” กัดริมฝีปากล่างยกมือข้างหนึ่งขึ้นสูงหมายจะเขกที่หัวเธอสักที “แล้ว .....ใครเขาบอกให้รักล่ะ” พอเธอพูดจบ คนทั้งคู่ก็เกิดอาการนิ่งงัน พอนึกถึงคำพูดที่ตนเอ่ยออกไปได้ “ บ้า .........บ้า........ที่สุด” ติชิลา เก้อเขิน อายม้วน ส่วนต้นก็เกาหัวยิ้มแก้มแดงไม่แพ้กัน “รัก..........อะไรกันเล่า .......” ร่างสูงโปร่ง รีบเดินไปคว้าจักรยานและผิวปากไปตามเรื่องเขาทำคิ้วยุ่งพอนึกอะไรขึ้นได้อีกก็พึมพำกับต้นเองว่า
“ยายเพี้ยน หัวรังนกเอ๊ย”................................................
ต้นเป็นคนอาสาปั่นจักรยานเอง เพราะเขายืนยันว่าอาการเจ็บจากอุบัติเหตุเมื่อวานหายดีแล้วเมื่อเป็นอย่างนั้นสาวน้อยในชุดหวานจึงนั่งซ้อนท้ายปล่อยใจไปตามสายลม
“หนักจังเลย ผู้หญิงจริงๆหรือเปล่า นึกว่าลูกหมูอู๊ดๆ เสียอีก” ติชิลาไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาเสียแล้ว ได้แต่นั่งนิ่ง มองถนนหนทาง พอเขาจอดรถเธอก็ทำหน้าที่ส่งของตามบ้านแต่ละหลังอย่างเสียมิได้ “รู้ไหม ผู้หญิงน่ะยิ้มทีไร โลกก็สดใส สว่างล้ำเมื่อนั้น” เขาบอกเธอเผื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้เปลี่ยนใบหน้าหงอยเหงาให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง
“แต่คงไม่ใช่ฉันคนหนึ่งล่ะ” ติชิลาพูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างให้เห็นเป็นขวัญตา “...................................” ต้นไม้ถึงกับมองตาค้าง พร้อมกับการกลืนน้ำลายล้างคำพูดตนเองไปอึกใหญ่ “เอ่อ .........ไม่ขอออกความเห็นดีกว่า” เขามุ่งหน้าปั่นจักรยานต่อไป และเธอก็ยังคงนั่งนิ่งอาการแบบนี้ทำให้เขารู้สึกอดห่วงไม่ได้ “เหลือฉบับสุดท้ายแล้วเดี๋ยวรับผิดชอบเอง ว่าแต่เธอจะให้ไปส่งที่ไหนไหม” เขาถาม “ไม่เป็นไรฉันอยากเดินเล่นเสียหน่อย“ ก้มหน้ามองพื้นถนน“แล้วพรุ่งนี้
ค่อยเจอกันนะ อย่าลืมสัญญาล่ะ” ต้นส่งเธอที่ริมทางเท้า เขายิ้มแก้มบุ๋มให้ติชิลาแล้วควบจักรยานจากไปด้วยความเร็ว
แต่ก็ยังไม่ลืมหันหลังกลับมาโบกมือให้ พร้อมยังทำหน้าตลกล้อเลียนเธอ หวังเรียกเสียงหัวเราะจากสาวน้อยหัวฟู ติชิลามองดูเขาจนสุดสายตา หัวใจเวลานี้เต้นตึกตักจนตัวเธอเองก็ไม่อาจควบคุมได้ เพราะอะไรกันนะ ความรู้สึกเช่นนี้................................................
ความคิดเห็น