คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด100%
มาอัพนิยายแล้วเจ้าค่ะ ผู้อ่านเบื่อที่จะติดตามผลงานหรืออะไรยังไงบอกกันได้นะคะ^^ ปอนไม่ว่ากัน ขอแค่คอมเม้นเพิ่มก็พอใจแล้วค่ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านนิยายร่วมไปกับ TK นะคะ หวัดดีค่าา~
..............................
บทที่ 13
จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด
หลังจากการแข่งขันเสร็จ จากตอนแรกที่คิดว่าจะไปเลี้ยงฉลองหลังจากลงเวทีเลย แต่แล้วกลับต้องเลื่อนวันฉลองไปอีก1 อาทิตย์เนื่องจากต้องเตรียมเคลียร์สถานที่และส่งคณะกรรมการถึงประตูบ้าน ก็ทำให้หมดแรงไปตามๆกัน พอวันถัดมาก็ติดสอบ เราก็เลยใช้เวลาทั้งอาทิตย์ไปกับการเรียน พอถึงวันที่ไปเลี้ยงฉลองกันวันนี้ก็เลยจัดการรวมทีมไปฉลองที่ร้านเดิมนั่นคือร้านหมูกระทะนั่นเอง
และคราวนี้ฉันไม่ต้องเป็นปัญหากับการไปเหมือนคราวที่แล้ว เพราะครั้งนี้เล่นไปกันแบบเป็นคู่ แล้วเจอกันที่ร้านตามเวลานัดหมายเลยทีเดียว ฉันเองก็ถูกโทโมะนัดแนะจัดแจงให้ฉันไปกับเขาโดยที่ยังไม่ได้ถามฉันซักคำ เลยเป็นเหตุให้ฉันต้องมาเคาะประตูห้องเขา เมื่อเห็นว่ามันเกินเวลานัดไปมากแล้ว
ก๊อก!!ก๊อก!!ก๊อก!!(เสียงน้ำหนักมือทำให้รู้ว่าเริ่มจะกรุ่นๆแล้ว)
ฉันเดินมาเคาะประตูห้องของนายโทโมะแต่ก็กลับไร้เสียงตอบรับของคนที่น่าจะอยู่ข้างในห้อง จะเป็นไปได้ไงอ่ะ ถ้าโทโมะจะออกไปแล้ว ก็หมอนี่เป็นคนนัดว่าจะมารับฉันไปนี่
ฉันเตรียมจะเคาะห้องอีกทีแต่ก็มีเสียงผู้หญิงดังลอดออกมาจากในห้อง
“มาแล้วค่า มาแล้ว!!”เสียงผู้หญิงดังออกมาจากห้องของโทโมะหรอ 0.0 แล้วเป็นใครกัน ?
“หวะ...หวายO_O”ฉันต้องตกตะลึงทันทีเมื่อหวายเป็นคนมาเปิดประตู เธออยู่ในห้องกับโทโมะหรอ หรือว่าฉันเคาะห้องผิด?
“อ้าว!! แก้วเองหรอ มาทำไมจ๊ะ”หวายยิ้มให้ฉันนิดนึงก่อนถามถึงสาเหตุว่าเหตุใดฉันจึงมาเคาะห้องนี้เปรียบดั่งห้องนี้เป็นห้องของเธอ
“เอ่อ สงสัยฉันเคาะผิดห้องน่ะ ขอโทษด้วยนะฉันนึกว่าเป็นห้องของโทโมะ”ฉันเกาหัวแก้เก้อนิดๆ แล้วเตรียมเดินจากอกมา ถ้าไม่มีเสียงจากหวายฉุดรั้งฉันไว้ก่อน
“เธอมาไม่ผิดห้องหรอกแก้ว ฉันอยู่กับโมะน่ะ!”เสียงของเธอเหมือนเป็นหมอกควันอะไรบางอย่างที่ทำให้สมองฉันมึนงง เธอบอกว่าเธออยู่กับโทโมะงั้นหรอ
“เอ่อ งั้นฉันฝากบอกโทโมะด้วยละกันว่าเดี๋ยวฉันไปเอง”ฉันฝากบอกหวายไว้แค่นั้นก่อนเป็นฝ่ายที่เดินจากมา
ฉันเดินมาถึงรถของตัวเองด้วยความเลื่อนลอย เหมือนถูกค้อนปอนด์ทุบอย่างไงอย่างนั้นเลย พอขึ้นไปนั่งบนรถปุ๊บสิ่งที่เหมือนอัดอั้นเอาไว้ก็ไหลออกมา ทั้งๆที่ฉันคิดว่าทั้งชีวิตมันจะไม่ไหลออกมาอีกแล้วนั่นคือ น้ำตา ฉันออกรถด้วยความเลื่อนลอย ม่านน้ำตาเริ่มมากขึ้น...มากขึ้นเรื่อยๆ ทำไมมันถึงออกมามากมายขนาดนี้ ฉันลองถามตัวเองว่าฉันร้องไห้ทำไม ฉันเสียใจงั้นเหรอที่เห็นโทโมะอยู่กับหวาย ทั้งๆที่....ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลยซักนิด แล้วฉันจะร้องไห้ทำไม?
ฉันปาดน้ำตาทิ้งเมื่อเลี้ยวเข้าร้านหมูกระทะชื่อดังที่เคยมากับเพื่อนๆคราวก่อน หาที่จอดรถแล้วสำรวจหน้าตัวเองอีกที แสร้งยิ้มเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินลงจากรถไป...
[::Tomo::]
ผมรีบเดินกลับห้องหลังจากประชุมกันในวงของผมเสร็จลง ทุกคนรีบแยกย้ายไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมแต่งหล่อไปรับสาวๆของใครของมันทันทีถึงมันจะก่อนเวลานัดชั่วโมงครึ่งก็เถอะ แต่ผมจะรีบไปซื้อดอกไม้สักช่อมาให้คนที่ผมรักสักหน่อย
ผมพันผ้าขนหนูออกจากห้องน้ำเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ผมเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียง เอ๊ะ?ก็ยังไม่ถึงเวลานัดนี่หน่า ทำไมแก้วมาเคาะประตูแล้วล่ะ หรือว่าอยากเจอผมเร็วๆ^^ต้องใช่แน่ๆเลย รู้ได้ไงเนี่ย ว่าผมคิดถึง
ผลรีบเดินไปเปิดประตูห้องทันทีโดยลืมไปว่าทั้งร่างกายพันผ้าขนหนูไว้แค่ผืนเดียว พอเปิดประตูคนที่อยู่ข้างหน้าผมกลับไม่ใช่อย่างที่ใจคิด แต่กับเป็น...
“เธอมีธุระอะไร หวาย”ผมถามเสียงเครียด เพราะถ้าใครมาเห็นผมอยู่ในสภาพนี้คงโดนซุบซิบนินทาจนลอยไปกระทบหูแก้วแน่ๆ
“โมะอ่ะ ทำไมชอบทำเสียงเครียดกับหวายอยู่เรื่อย หวายก็แค่เอาน้ำส้มมาให้โมะเท่านั้นเอง หวายคั้นเองเลยนะ”หวายพูดพร้อมกับชูแก้วน้ำส้มที่บรรจุน้ำส้มสีสวย ผมพูดขอบคุณ รับแก้วน้ำส้มมาไว้ในมือเตรียมจะปิดประตู
“โมะเดี๋ยวสิ หวายขอเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหม”
“เธอจะเข้ามาทำอะไร ฉันไม่ว่างหรอกนะ”ผมวางแก้วน้ำส้มไว้โต๊ะบนห้องรับแขกแล้วตะโกนคุยกับหวายแทน
“ก็แค่ไปเก็บแก้วเท่านั้นแหละ โมะเปิดประตูให้หน่อยน้า”เสียงยังคงดังอยู่หน้าประตูห้อง ผมคิดว่าถ้าแค่นั้นก็คงไม่เป็นไร เลยเดินไปเปิดประตูให้หวาย
“ใจจ้า^-^”หวายยิ้มอย่างน่ารัก แต่สำหรับผม ผมไม่หลงเสน่ห์หรอก เพราะใจของผมมีแค่แก้วเท่านั้น
ผมเดินไปหยิบแก้วมาดื่มน้ำส้มให้หมด หวายจะได้รีบๆออกไปจากห้องซะที พอหมดแก้วผมก็ส่งแก้วคืนให้หวาย พร้อมจะเดินออกไปเปิดประตูให้ออกไปซะที แต่ก่อนที่จะเปิดประตูผมก็รู้สึกมึนๆงงๆในหัว พอหันไปมองหวายอีกทีก็ทันเห็นรอยยิ้มอย่างเป็นสุขจากใบหน้าของหวาย
“ทะ...เธอ +-+”หลังจากนั้นสติที่มีอยู่ในตัวผมก็พร่าเลือนและดับวูบลงในทันที
“...หวายขอโทษนะที่ทำกับโมะแบบนี้ หวายก็แค่ไม่อยากให้โมะไปกับยัยแก้ว ก็แค่นั้น....^-^”
[::End::]
ฉันยังคงทำตัวเหมือนปกติ เดินเข้าร้านแล้วมองหาเพื่อนๆ พอเห็นแล้วก็เดินตรงเข้าไป ทักทายทุกคน แต่ทุกคนกลับเงียบและมองมาที่ฉัน จนแจมเอ่ยถามคำถามที่ฉันไม่อยากได้ยิน
“แก้ว แล้วโทโมะอ่ะ ไหนว่าจะมาด้วยกันไง:]”พี่จงเบที่นั่งข้างๆแจมเลยกระทุ้งศอกเป็นการเตือน ความเป็นพี่ชาย พี่จงเบคงรู้ว่าฉันเป็นอะไร หรืออยู่ในหมวดอารมณ์ไหน
“เขาไม่มาแล้วน่ะ แล้วทุกคนจะเงียบทำไม เรานัดมาฉลองกันน้า มากินกันให้เต็มที่เลย^-^”ถึงแม้ว่าฉันจะยิ้ม แต่ก็เป็นการยิ้มที่ฝืนสังขารฉันจริงๆ
“โอเคจ้า งั้นแก้วไปกับเฟย์น้า ไปตักเนื้อสรพัดสัตว์มาหม่ำกันดีกว่านะ”เฟย์ลากแขนฉันไปตรงซุ้มที่จัดวางอาหารหลากหลายชนิดวางเรียงรายเป็นตับ เอ่อ#_#ที่อยู่บนโต๊ะนั่นยังไม่พออีกหรือไงนะ
“แก้วอยากกินอะไรก็ตักเลยนะ เหลืออะไรยังไงเดี๋ยวแจมก็จัดการหมดแน่ๆ^^”เฟย์เอ่ยอย่างขันๆแล้วคีบปลาหมึกใส่จาน
“อื้มๆ เฟย์ตักแทนแก้วละกัน พอดีไม่ค่อยหิวเท่าไหร่อ่ะ เฟย์แก้วไปที่โต๊ะก่อนนะ พอดีเมื่อยๆน่ะ”ฉันบอกเฟย์ เฟย์เลยกลับมาพร้อมฉันเลย วันนี้โต๊ะต่อกันเพียงสองโต๊ะ ที่นั่งฉันเลยอยู่ตรงหัวโต๊ะ พอฉันนั่งลงปุ๊บ เสียงกวนๆของป๊อปปี้ก็ดังขึ้นทันที่
“แน่ะ!ๆๆ นั่งหัวโต๊ะ จะเป็นเจ้ามือหรอไงแก้ว”พูดไม่พอ ยังเอาตะเกียบมาชี้หน้าอีก
“ก็ได้”ฉันตอบด้วยเสียงเนือยๆ ไม่รู้จะพูดอะไรนี่หว่า ไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยกับใครจริงๆ
“เอ่อ...แก้ว เป็นอะไรรึเปล่า แก้วดูเครียดๆนะ”ฟางเอื้อมมือมาจับมือฉัน เหมือนต้องการส่งความห่วงเป็นมาให้
“ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปปวดหัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย แก้วก็แค่ไม่สบายนิดหน่อยน่ะฟาง ไปได้เป็นอะไรจริงๆ^^”ฉันยิ้มเหมือนต้องการตัดคำถามของคนอื่นๆอีก ฉันรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงฉัน แต่ฉันก็อยากขอเวลาทำใจเรื่องที่จะเล่าเหมือนกัน
“เอาล่ะๆ ทุกคนคร้าบบบ มาชนแก้วกันหน่อยเร้วววว ไม่ต้องรอใครแล้วคร้าบบบ”เขื่อนก็ยังพยายามสร้างสีสันให้กับทุกคนเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน
“เอ่อ ขอโทษนะจ๊ะ ใช่เคนตะป่าวอ่ะ”มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเคนตะ พอเคนตะหันไปมองอย่างตกตะลึง เธอเป็นใครกันนะ
“พะ...พี่มดO.O!!~”
“เคนตะจริงๆด้วย เย่!! พี่คิดถึงนายมากเลยรู้ไหม ตั้งแต่เราเลิกกันนายก็ไม่ติดต่อพี่เลย”หา!! ผู้หญิงคนนี้เคยคบกับเคนตะหรอ ไม่น่าเชื่อ
“อะ...เอ่อ พี่ครับอย่าพูดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้วเถอะนะครับ เอ่อ...ผมมีฟะ...”
“แต่เราก็เริ่มกันใหม่ได้นี่ พี่ยังรักเคนตะอยู่นะ และพี่ก็รู้ด้วยว่าเคนตะก็รักพี่^^”เออ ดีจริง พูดเองเออเองซะงั้น ผู้หญิงนี่ไงนะ - -*(แกลืมไปรึเปล่าแก้วว่าแกก็ผู้หญิงน่ะ)
“พี่ครับ ผมมีแฟนแล้วฮะ ขอโทษนะครับ”โอว์!! สุดยอดมากเคนตะ นายโคตรแมนเลยอ่ะ!!
“ไม่เป็นไรจ้า พี่ก็แค่บอกไว้ก่อนเผื่อมีหวัง ถ้ายังไงคิดถึงพี่ก็โทรหาได้นะจ๊ะ พี่ไปก่อนนะ”เธอยื่นนามบัตรให้เคนตะก่อนที่จะเดินจากออกไป ทิ้งความเจ็บช้ำใครกับใครบางคนที่นั่งข้างๆนายเคนตะนั่น
“เอ่อ ขนมจีนไปห้องน้ำก่อนนะ”ขนมจีนรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำ โดยมีเคนตะวิ่งตามไปด้วย คนตาไวอย่างฉันก็พอมองเห็นน้ำตาที่คลอเบ้าก่อนที่ขนมจีนจะไป งานนี้ฉันรู้อย่างเดียวว่าต้องมีเคลียร์!!
ฉันนั่งรอเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ โดยที่กินไปเขี่ยไป มันเหมือนว่าวันนี้ก็มีแต่อะไรที่แย่ๆไปหมด ทั้งฉัน ทั้งเพื่อน เห้อ!! เบื่อ!! เมื่อไหร่จะได้กลับห้องซะที
“แฮก!ๆ ขอโทษที มาช้าไปหน่อย”เสียงทุ้มๆที่แสนคุ้นเคยดังอยู่ที่หัวโต๊ะตรงข้าม เขามองฉัน และฉัน...หลบสายตาเขา ฉันไม่กล้ามองดวงตาที่แสนอ่อนโยนคู่นั้นซึ่งบัดนี้มันกลับเหมือนต้องการจะขอร้องอะไรสักอย่างที่ฉันไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่กล้าแม้จะเงยหน้าสบตาเขา
“แกมาตอนเขาอิ่มกันแล้วไม่มาเลยจะง่ายกว่าไหมโมะ”พี่จงเบถามเสียงกวน แต่หน้าพี่ดูจริงจังเหลือเกิน ตกลงจะมาดีหรือร้ายเนี่ย - -^
“เอาน่า ยังไงมันก็ยังมาเก็บเศษอาหารทัน”เขื่อนพูดพร้อมกับรวบรวมทุกสารพัดเนื้อสัตว์ยำลงไปในจากเดียว แล้วยื่นให้ตรงหน้าโทโมะที่ยังไม่ยอมนั่งซะที
“แก้ว โมะมีเรื่องอยากจะอธิบายให้แก้วฟังนะ ไปคุยกันข้างนอกหน่อยได้ไหม”โทโมะพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งขอร้องกึ่งบังคับ
“เอ่อ...อื้ม ก็ได้”ฉันลุกขึ้นแล้วก้าวพรวดๆไปบริเวณสวนที่ตกแต่งอยู่หน้าร้าน ซึ่งมีต้นไม้ปกคลุมรอบๆ จัดไว้อย่างสวยงาม รวมถึงไฟหลากสีที่ประดับประดาไว้บนต้นไม้ด้วย ช่วยทำให้ภายใต้ความมืดมิดก็ยังมีแสงสีสวยซ่อนอยู่
ฉันหย่อนตัวลงบนชิงช้าเด็กเล่นตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆบ่อน้ำพุขนาดเล็ก ฉันฟังเสียงรองเท้าที่เดินตามเข้ามาแล้วหย่อนตัวลงชิงช้าตัวข้างๆ แล้วแกว่งไปมาอย่างช้าๆ
“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะแก้ว...”เสียงโทโมะที่เจือไปด้วยความเสียใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่เกาะกุมหัวใจทั้งสองอยู่ในความมืดมิด
“แล้ว...นายรู้หรอว่าฉันคิดอะไร”ฉันถามเขา อยากให้เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฉันฟัง อยากให้เขาอธิบายทุกอย่างให้ฉันเข้าใจ ไม่ใช่เงียบแบบนี้ ความเงียบน่ะ มันไม่ใช่คำตอบที่ดีเสมอไปหรอกนะ
“โมะเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่โมะอยากบอกแก้วว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนะแก้ว แก้วต้องเชื่อโมะนะ”โมะลุกขึ้นแล้วมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าฉัน มันยิ่งทำให้น้ำตาที่กักเก็บเอาไหวเริ่มไหลออกมา
“แล้วหวายล่ะ นายจะไม่บอกฉันหน่อยหรอว่าเธอเข้าไปห้องนายได้ไง นายจะบอกว่าเธอปีนหน้าต่างเข้าไปยังงั้นหรอถ้าไม่ใช่นายเองนั่นแหละที่เปิดประตู!!”ฉันไม่รู้สึกตัวว่าเริ่มขึ้นเสียงมากเรื่อยๆ จนกลายเป็นการตะคอก ฉันไม่รู้ตัวว่าเสียงของฉันสั่น เหมือนกับดวงใจของฉันที่ตอนนี้กำลังสั่นไหว กลัว...ว่าเขาจะยอมรับความจริง...
“โมะเป็นคนเปิดประตูให้หวายเข้ามาเอง...”โทโมะพูดออกมาเสียงแผ่ว ถ้าบริเวณนี้ไม่เงียบสงัดฉันก็คงไม่ได้ยิน
“อืม^-^เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว นายไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรนี่ ในเมื่อฉันก็เข้าใจทุกอย่างดีอยู่แล้ว! ว่านายกับหวายเป็นอะไรกัน”ฉันส่งยิ้มเลือดเย็นไปให้เขา ที่เหมือนคนแปลกหน้า...ไม่รู้จัก...ไม่คุ้นเคย..
“แก้ว...”เสียงที่เขาเรียกฉันเหมือนกระซิบ แต่ฉันไม่ต้องการฟังอะไรอีกแล้ว ฉันไม่อยากได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าเขาอีกแล้ว ฉันลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะเดินกลับไปที่รถ แต่มือที่เคยอบอุ่นแต่ตอนนี้กลับดูว่างเปล่าเอื้อมมาจับมือฉัน สมองอยากสั่งให้สะบัดทิ้ง แต่ใจกลับสั่งให้หยุดนิ่ง ใจฉันมันอยากรอ...ซึ่งฉันเองยังไม่รู้เลยว่าหัวใจต้องการรออะไร
“ฉันรักเธอ...โมะรักแก้วนะ รัก...จนไม่อยากจากแก้วไปไหนอีก รัก..จนไม่อยากให้แก้วห่างจากโมะ รัก...จนไม่อยากให้เราไกลห่างกัน รัก...ที่จะได้รักแก้ว....”น้ำตาของฉันยังคงไหลต่อเนื่องเหมือนมันไม่สามารถหยุดได้ ก่อนที่หัวใจจะสั่งการ สมองบ้าๆก็สั่งให้ทำสิ่งที่ตรงข้ามกับใจออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
“กลับไปหาหวายเถอะ เราเป็นแค่เพื่อนกัน เธอเองคงต้องการนายมากกว่าฉัน..”พอพูดจบฉันก็รีบเดินจากมา ทิ้งความเจ็บปวดและน้ำตาไว้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เขารักฉันหมดหัวใจ....
...ถึงแม้ที่จริงแล้วฉันก็รักเขาหมดหัวใจเช่นกัน...
.................................................................................
ถึงตอนนี้แล้วผู้อ่านอยากให้รักออกมาเป็นแนวไหนบ้างคะ
เพื่อน....คนรัก....หรือคนแปลกหน้า....
เรารักเขา เขารักเรา แต่หัวใจสองดวงไม่อาจรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้
เพราะมี'คนอื่น'เข้ามาแทรกกลางระหว่างความรัก
ช่วยกันติดตามด้วยนะคะ^^
ความคิดเห็น