Title : คำที่ไม่อาจเอ่ย Unspoken Word
Pairing : Blake Shelton / Adam Levine (slash, boy's love)
Rate : PG
*เป็นแค่เรื่องแต่ง ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง*
แสงแดดสาดส่องในตอนบ่ายของวันสะท้อนผิวถนนสร้างความร้อนระอุมากขึ้น อดัม เลอวีนนักร้องนำวงป๊อปร็อคชื่อดังก้าวเท้าผ่านความร้อนใจกลางเมือง LA อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ พยายามเดินผ่านเข้าร่มเงาใต้กันสาดของตึกทุกหลังและใต้ต้นไม้ทุกต้นที่เขาเดินผ่าน
เขากำลังจะสาย ใช่! แต่เขาก็ไม่สามารถทนเอาผิวที่เต็มไปด้วยรอยสักซึ่งโผล่พ้นเสื้อยืดเพียงตัวเดียวที่เขาสวมอยู่ให้ปะทะกับแดดแรงตลอดทางที่จะไปสตูดิโอได้หรอกนะ ไม่ใช่เพราะเขากลัวผิวจะเสีย แต่แดดแมร่่งโคตรจะร้อนต่างหาก เขาผิดเองที่ดันนอนตื่นสายจนต้องรีบร้อนจนลืมแจ๊กเก็ตหนังสีดำตัวโปรดซะได้ แต่ยังดีที่เขามีแว่นกันแดด เพราะเขาไม่มีวันลืมไอเท็มโปรดประจำตัวแน่นอน
แว่นกันแดดมีประโยชน์ต่อเขาสามอย่าง คือหนึ่งป้องกันเปลวแดดจัดๆ เข้าตาอย่างวันนี้ สองอำพรางหน้าตัวเองจากปาปารัซซี่และประชาชีแฟนคลับ และอย่างสุดท้ายที่ดูจะสำคัญต่อเขามากที่สุดในช่วงนี้ คือ มันใช้ซ่อนความรู้สึกหรืออะไรก็ตามทำนองนั้นที่อาจปรากฏออกมาทางสายตา ตราบใดก็ตามที่เขายังคงเป็นโค้ชในรายการเดอะวอยซ์ร่วมกับคนคนนั้น เขาจะไม่มีวันยอมให้ความจริงในใจเผยออกไปให้ ‘เขา’ รู้เด็ดขาด
อีกไม่กี่ก้าวจะถึงประตูสตูดิโอที่ใช้ถ่ายทำการประกวดแข่งขันร้องเพลงรายการใหม่และถูกจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ รายการเดอะวอยซ์ แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่มาสายวันนี้ เพราะสายตาพลันไปเห็นชายร่างยักษ์แต่ใจดีดูเหมือนพ่อหมีในหมวกคาวบอยเดินมาจากอีกมุมของถนน ให้ตายสิ! เขายังไม่ทันได้เตรียมใจจะเจอคนที่เป็นสาเหตุให้เขาตื่นสายวันนี้เลย คนที่เมื่อคืนนี้เกือบจะทั้งคืนโผล่มาในหัวเขาตลอดไม่ปล่อยให้เขาได้หลับได้นอน
แค่ได้เจอหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ขอบคุณสวรรค์ที่เบลคไม่เห็นเขา เพราะคุณพ่อหมีกำลังคุยโทรศัพท์ ด้วยแววตาอ่อนโยนคลี่ยิ้มและหัวเราะให้กับคนในสาย คงจะเป็น มิรันดา ภรรยาสุดที่รักอีกตามเคย
ความคิดที่ว่าเบลค เชลตัน เจ้าพ่อเพลงคันทรี่ร่างสูงใหญ่ ชอบใส่รองเท้าบู๊ตและหมวกคาวบอย ดื่มวิสกี้ บ้าทวีตเตอร์ ผู้มีสำเนียงเป็นเอกลักษณ์ มีรอยยิ้มที่อาจฆ่าคนได้ และดวงตาสีน้ำเงินสวยที่เคยสะกดเขาไว้หลายต่อหลายครั้ง คนที่เข้ามาอยู่ในฝันแม้ยามหลับหรือยามตื่น คนที่ตอนนี้เขาค่อนข้างแน่ใจว่า ‘ตกหลุมรัก’ นั้น แต่งงานแล้ว กับนักร้องคันทรี่สาวผมบลอนด์ ไม่มีอะไรที่เขาจะเทียบเธอได้ ไม่มีทางที่เขาจะแทนที่เธอได้ ไม่มี.......
ความคิดนี้สร้างความเจ็บแปลบในอกและขาเหมือนจะหมดแรงก้าวเอาดื้อๆ และน้ำตา....เริ่มปริ่ม.....บ้าชิบ! เขาโกรธ โกรธตัวเองที่หวั่นไหวให้กับความอ่อนโยน หวั่นไหวไปกับความสุขเวลาอยู่ใกล้เบลค หวั่นไหวไปกับข่าวประเด็นความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองเหมือนบรรดาแฟนคลับสาวๆ ที่ตั้งตารอคอยฉาก ‘โบรแมนซ์’ ของเขาทั้งคู่ออกอากาศ บ้าชิบบบ!
ขอบคุณพระเจ้าที่เขาสวมแว่นกันแดดอยู่ตอนนี้ คงไม่ดีแน่ถ้าจะทักทายเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ในสตูฯ ด้วยนัยน์ตาขวางและคิ้วขมวดเพราะตอนนี้เขาเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ แล้ว
ต้องเข้าไปก่อนที่เบลคจะสังเกตเห็นเขา คือความคิดเดียวในหัวตอนนี้ แต่ดูเหมือนจะช้าไป เพราะทันทีที่เขาผลักประตูให้เปิดออก สำเนียงคุ้นหูดังขึ้นข้างหลัง
“เฮ้ ซิตี้บอย ใส่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียวอีกแล้วนะ ไม่กลัวว่ามันจะเซ็กซี่เกินไปจนใครต่อใครอดใจไม่ไหวเหรอ” อดัมกรอกตาให้กับประโยคทักทายนั้น แต่ก็หันกลับมามองอีกฝ่ายฝืนยิ้มกว้างตอบ แอบรู้สึกดีกับสรรพนามที่เบลคตั้งให้ ความหงุดหงิดเมื่อกี๊เริ่มลดน้อยลงเมื่อหันมาเจอรอยยิ้มพิชิตใจของเบลคที่ส่งมาให้เขาแบบตรงๆ เขาไม่สามารถหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียได้เลยจริงๆ เวลาที่เจ้าตัวมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ เขาแบบนี้ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างทำให้เขาสงบ
และเขาต้องกลับไปเป็นอดัม เลอวีนผู้ร่าเริง พูดมาก กวนตีน และแน่นอน.....อารมณ์ดี
“สาวๆ ชอบที่ฉันเซ็กซี่ ไม่เหมือนนายบิ๊กคันทรี่” นั่นคือสรรพนามที่เขาตั้งให้ชายหนุ่มตรงหน้า พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาเกี่ยวแว่นตาดำลงเล็กน้อยเพียงเพื่อจะให้เบลคมองเห็นดวงตาของเขาที่บัดนี้หรี่ลงเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมกับยักคิ้วข้างเดียวแบบมั่นใจว่ากวนบาทาสุดๆ ส่งไปให้
ชายหนุ่มกล่าวต่อไป พยายามทำเสียงให้เหมือนเด็กวัยรุ่นเลือดร้อน พร้อมขมวดคิ้วแบบให้ดูเอาจริงเอาจัง “มีปัญหาเหรอ อยากลองกับฉันสักตั้งมั้ย” อดัมท้าก่อนจะส่งรอยยิ้มกวนบาทาและทำท่าตั้งการ์ดเตรียมจะชก แต่ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเขากลับยืนนิ่ง ปากอ้าตาโต เหมือนช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน
อดัมเอียงคอขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงงกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า แต่ไม่ทันไรตัวเองก็ต้องเป็นฝ่ายปากอ้าตาโตบ้างเมื่อเข้าใจความคิดของเบลค หน้าเริ่มร้อนฉ่าเหมือนใครเอาเตารีดมานาบเมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่พูดออกไปเมื่อสักครู่ ประโยคที่ว่า อยากลองกับฉันสักตั้งมั้ย มันมีความหมายมากกว่าที่เขาคิด ใครก็ได้ช่วยเอาเขาออกไปจากที่นี่ที ได้โปรดดด
อดัมรีบละล่ำละลักแก้ตัว ต้องพูดอะไรสักอย่าง เขายื่นมือไปแตะไหล่เบลค “เอ่อ.....คือ ฉันไม่ได้......อ่า...นายเข้าใจใช่มั้ย” ให้ตายยยยยยย มันแทบไม่เป็นประโยคด้วยซ้ำ
แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะทำเรื่องให้ง่ายลง เพราะเบลคสะดุ้งเล็กน้อยทันทีที่โดนสัมผัส เขาตวัดสายตาขึ้นมองเจ้าของมือที่วางอยู่บนใหล่เขาตอนนี้ และหัวเราะ นัยน์ตามีแววสำนึกผิด “ขอโทษ ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ นายไม่กลัวฉันใช่มั้ย ไม่ได้คิดกับนายแบบนั้นนะ คือฉันแค่...”
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ” อดัมตัดบท เขาไม่อยากฟังคำขอโทษหรือคำแก้ต่างใดๆ ก็ตามที่เบลคพยายามจะพูด เพราะเขารู้ว่าชายตรงหน้าพูดความจริง เขารู้ว่าเบลค เชลตันไม่คิดอะไรเกินเลยกับเขา ไม่มีทางมากกว่าการเป็น ‘เพื่อนใหม่ที่ถูกคอ เหมือนพี่น้องแท้ๆ’
และแค่นี้เขาก็พอใจแล้ว แค่มีเบลค เชลตันอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตาม
อดัมฉีกยิ้มกว้างพร้อมดันใหล่หนุ่มร่างยักษ์ให้เดินเข้าข้างใน “ฉันว่าเราควรต้องรีบนะ เหมือนว่ากำลังจะมีคนสองคนโดนด่าในอีกห้านาทีถ้าไม่โผล่ไปให้ทีมงานเห็นหน้าน่ะ”
เบลคหัวเราะพร้อมยกแขนขึ้นพาดไหล่หนุ่มรุ่นน้องพาเดินเข้าไปด้วยกัน
และนั่น.......อดัมไม่สามารถห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นแรงได้ อีกแล้ว!
Fin.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น