ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพราะความประมาทของฉันแท้ๆเลย TT_TT
“นี่มณ
ถามอะไรหน่อยสิ” กานเอ่ยปากถามฉันด้วยแววตาที่เป็นประกายวาววับ *_*
“เอ้า มีอะไรเว้ามาได้เลยจ้า” ฉันตอบกับไปด้วยแววตาที่เป็นประกายด้วยเช่นกัน  *_*
“แอบปิ๊งใครสักคนเนี่ยมันผิดไหมอ่ะ”
“แล้วใครล่ะที่เธอแอบปิ๊งน่ะบอกมาก่อนสิแล้วจะบอกให้ว่าผิดรึเปล่า” แค่ฉันถามชื่อแค่นั้นแหละเจ้าตัวถึงกับอายม้วน บิดซ้าย บิดขวาที บิดไป บิดมา จนกระทั่ง
โครม!!!
ไม่ต้องสงสัยค่ะเพื่อนๆยายนั่นแค่ตกเตียง ฮะ ฮะ ฮะ สมน้ำหน้าคะ
แต่ด้วยสปิริตของนางเอกอย่างฉันก็ต้องกลั้นหัวเราะ ปั้นสีหน้าเรียบเฉย ค่อยๆไปพยุงเพื่อนขึ้นมา
“ไงล่ะ หายอายเลยสิท่า”
“โห อย่าแ_กดันฉันนักเลยน่า” ในที่สุดความอดกลั้นของฉันก็ขาดสะบั้นลง ฉันระเบิดเสียงหัวเราะของฉันออกมาอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ได้นึกถึงจิตใจของเพื่อนเลยที่ในขณะนี้หน้างอเป็นจวักเลยล่ะ
“เอ่อ ขอโทษนะเราไม่ได้ตั้งใจจะแ_กดันอะไรเธอหรอกนะ เพียงแต่แซวเล่นเท่านั้นเอง” ฉันปั้นหน้าแบบว่าสำนึกผิดสุดๆ ^o^
“เราไม่ให้อภัยมณหรอกนะจนกว่า ”
“จนกว่าอะไรหรอ” *_*
“ก็จนกว่าเรากับเขาคนนั้นจะได้เป็นแฟนกันตกลงไหม” O^Oตะลึงค่ะโอ้ พระเจ้าจอร์ชมันแย่มาก
“ ” เงียบค่ะพูดไม่ออกเลย
“นี่ นี่ มณเธอเงียบทำไมล่ะเนี่ย ฉันยิ่งไม่ค่อยสบายใจอยู่นะ”
“คือ ว่า คือ ว่า ” ติดอ่างเลยค่ะ
“คือว่า คือว่าอะไรล่ะทำไมไม่พูดออกมาล่ะ ว่ายังไงล่ะ จะช่วยฉันไหม”
“แล้วเขาคนนั้นคือใครล่ะ”
“ฟลุ๊ค พ่อเทพบุตรของฉัน หล่อสุดๆ”
“นายฟลุ๊คเนี่ยนะ เฮ้อ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด”
“ไม่รู้ล่ะมณรับปากเราแล้วเพราะฉะนั้นเริ่มบุกตั้งแต่คืนนี้เลยนะ”
“เฮ้ย!! ว่าไงนะคืนนี้เลยหรอ บ้ารึเปล่าเนี่ยกานจะไม่ให้ฉันได้เตรียมใจเลยรึไง”
“ไม่เห็นจำเป็นเลย เอาน่าเวลาไม่เคยคอยใคร ” กานยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงของบรรดา 3 สาวที่เหลือเรียกพวกเราให้ไปทานข้าว ยายนั้นนะคะเพื่อนๆเชื่อไหม เดินไปกินด้วยความสบายใจเฉิบ คงเหลือแต่ฉันที่นั่งตังแข็งทื่อไม่กระดิกไปไหน แง้ แง้ T_T ฉันจะทำยังไงดีล่ะคะเพื่อนๆ ฉันยิ่งเป็นโรคแพ้ผู้ชายหล่ออยู่ด้วย
“อ้าว มณทำไมไม่ลงไปกินอีกล่ะเพื่อนๆรออยู่นะเร็วไป” พูดไม่พูดเปล่ายายบีมก็ฉุดกระชากลากถูฉันไม่ด้วยซะงั้นแหละ ฉันก็เลยปล่อยตัวเองไปตามแรงนั้น ก็สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันทำเอาฉันหมดแรงเลยนี่ อาหารมื้อนี้รสชาติเป็นยังไงฉันก็ไม่อาจรับรู้ได้ ที่ฉันรับรู้ได้ก็คือ ความข่มขื่นที่ฉันกำลังจะตอบเผชิญ
ว้าย!!!
“เฮ้ย มณเงียบๆสิ” ไม่พูดเปล่าแถมด้วยการเอามือมาอุดปากฉันอีกต่างหาก กว่าปากของฉันจะเป็นอิสระเอาซะแทบแย่
“โอ้ย แล้วใครเขาจะรู้ล่ะอยู่ๆก็มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงฉันก็ตกใจสิ”
“เออ เออ ฉันขอโทษก็แล้วกันนะเอ้านี่”
“ไรอ่ะ” ฉันถามไปงั้นพอจะรู้เป็นลางๆอยู่แล้วล่ะ
“ก็จดหมายไงล่ะ เอ้ารับไปสิ” ว่าแล้วยายนั่นก็ยัดจดหมายฉบับนั้นใส่มือฉันมา ฉันก้มหน้ามองจดหมายฉบับนั้นทีสลับกับหน้าของยายนั่นที เอาจริงรึวะเนี่ย ซวยแล้วฉัน
“มณเร็วๆเข้าสิ เดี๋ยวครูมาตรวจที่พักก็ซวยกันพอดี” พูดพลางทำหน้ายักษ์ใส่ฉันเป็นเชิงข่มขู่ TT_TT แย่สุดๆเลยทำไมฉันต้องมาเจอกับยัยนี่ด้วยนะ เจ๊อยากตาย ฮือๆๆๆ
“โชคดีนะมณ เดี๋ยวฉันจะนอนรอฟังผลนะ” อึ๋ย @_@ ยังจะมาอวยพรฉันอีก เฮ้ย  เอาวะตายเป็นตาย  ว่าแล้วฉันก็เดินตรงดิ่งไปยังบ้านหลังที่ 2 โห เขาปิดไฟนอนกันหมดแล้วนี่นา อืม แต่ว่าลองเรียกดูก็ได้
ก๊อกๆๆ    ก๊อกๆๆ
“ใครวะ มาเรียกตอนนี้น่ะ” เสียงโวยวายของใครรู้ไหมคะ ของตาฟลุ๊คนั้นแหละคะไม่ใช่ใครอื่นไกล
“เอ่อ คือ กานเขาฝากให้ฉันเอาไอ้เนี่ยมาให้นายน่ะ” ฉันส่งจดหมายให้เขาด้วยมือที่สั่นเทา
“แล้วทำไมฉันจะต้องรับด้วยล่ะ” นายนั่นยืนโต้ตอบฉันด้วยท่าทางที่กวนพระบาทาสุดๆ
“แต่นายต้องรับนะ” ฉันตอบกลับอย่างไม่ยอมลดละ
“เธอเป็นแม่ฉันหรอ มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันน่ะ” เขายังคงโต้ตอบฉันด้วยท่าทางเช่นเดิม แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากจะบอกเลยคะว่าเลือดขึ้นหน้าฉันซะแล้ว ฉันจึงสวนกลับไปว่า
“นี่ ฉันจะบอกอะไรให้นะฉันไม่ได้อยากจะมาเสวนากับคนไร้มารยาทอย่างเธอเลยจะบอกให้ ถ้าไม่เพราะเพื่อนฉันขอร้องล่ะก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะมายืนให้นายโขกสับฉันอยู่อย่างนี้น่ะ เอ้า เอาไปเลย” พอพูดจบฉันก็ปาจดหมายฉบับนั้นใส่หน้าของนายนั่น ฉันเห็นเขาขบกรามจนเป็นสันนูนขึ้นเขาคงจะโกรธฉันมากแต่ก็ช่างเขาเถอะอยากมากวนประสาทฉันทำไมล่ะ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ช่วงเวลาที่ฉันกลับตัวกำลังจะเดินกลับบ้านพักของฉัน เขากลับกระชากแขนของฉันด้วยแรงมหาศาลของเขาบวกกับความไม่ได้ระมัดระวังตัวของฉันทำให้ร่างของฉันซบลงกับไหล่กว้างของเขาแล้วเขาก็ เขาก็ก้มหน้าของเขาลงมาอย่างรวดเร็วริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาประกบอย่างหนักหน่วงบนริมฝีปากของฉัน ฉันตัวสั่นเทาด้วยความรู้สึกซ่านซ่าที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วเรือนร่าง ลิ้นของเขาสอดแทรกเข้าไปในปากฉัน ทำหน้าที่ซุกซน ซอกซอน ปลุกเร้าให้ตอบสนอง ขณะที่ฉันกำลังเคลิ้บเคลิ้มไปกับรสสัมผัสของเขา สติของฉันก็กลับมาฉันใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดผลักร่างของเขาออกจากตัวฉัน ฉันใช้แรงสุดท้ายที่เหลือตบหน้าของเขาอย่างสุดแรง แล้วฉันก็วิ่งกลับมาที่พัก ฉันไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันเข้าห้องน้ำแล้วใช้มือถูปากอย่างแรง เจ็บใจนัก คนเลว ฉันเกลียดนายที่สุด คอยดูนะฉันจะแก้แค้นคืนให้ได้เลย ดีนะคะที่ยัยกานหลับแล้วไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้จะตอบยัยนั่นว่าอะไร เฮ้ย แล้วฉันจะข่มตาหลับได้ไหมล่ะเนี่ย แต่ไม่นานนักฉันก็หลับด้วยความเหนื่อยล้ากับเหตุการณ์ที่เพิ่งไปเผชิญมา
“เอ้า มีอะไรเว้ามาได้เลยจ้า” ฉันตอบกับไปด้วยแววตาที่เป็นประกายด้วยเช่นกัน  *_*
“แอบปิ๊งใครสักคนเนี่ยมันผิดไหมอ่ะ”
“แล้วใครล่ะที่เธอแอบปิ๊งน่ะบอกมาก่อนสิแล้วจะบอกให้ว่าผิดรึเปล่า” แค่ฉันถามชื่อแค่นั้นแหละเจ้าตัวถึงกับอายม้วน บิดซ้าย บิดขวาที บิดไป บิดมา จนกระทั่ง
โครม!!!
ไม่ต้องสงสัยค่ะเพื่อนๆยายนั่นแค่ตกเตียง ฮะ ฮะ ฮะ สมน้ำหน้าคะ
แต่ด้วยสปิริตของนางเอกอย่างฉันก็ต้องกลั้นหัวเราะ ปั้นสีหน้าเรียบเฉย ค่อยๆไปพยุงเพื่อนขึ้นมา
“ไงล่ะ หายอายเลยสิท่า”
“โห อย่าแ_กดันฉันนักเลยน่า” ในที่สุดความอดกลั้นของฉันก็ขาดสะบั้นลง ฉันระเบิดเสียงหัวเราะของฉันออกมาอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ได้นึกถึงจิตใจของเพื่อนเลยที่ในขณะนี้หน้างอเป็นจวักเลยล่ะ
“เอ่อ ขอโทษนะเราไม่ได้ตั้งใจจะแ_กดันอะไรเธอหรอกนะ เพียงแต่แซวเล่นเท่านั้นเอง” ฉันปั้นหน้าแบบว่าสำนึกผิดสุดๆ ^o^
“เราไม่ให้อภัยมณหรอกนะจนกว่า ”
“จนกว่าอะไรหรอ” *_*
“ก็จนกว่าเรากับเขาคนนั้นจะได้เป็นแฟนกันตกลงไหม” O^Oตะลึงค่ะโอ้ พระเจ้าจอร์ชมันแย่มาก
“ ” เงียบค่ะพูดไม่ออกเลย
“นี่ นี่ มณเธอเงียบทำไมล่ะเนี่ย ฉันยิ่งไม่ค่อยสบายใจอยู่นะ”
“คือ ว่า คือ ว่า ” ติดอ่างเลยค่ะ
“คือว่า คือว่าอะไรล่ะทำไมไม่พูดออกมาล่ะ ว่ายังไงล่ะ จะช่วยฉันไหม”
“แล้วเขาคนนั้นคือใครล่ะ”
“ฟลุ๊ค พ่อเทพบุตรของฉัน หล่อสุดๆ”
“นายฟลุ๊คเนี่ยนะ เฮ้อ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด”
“ไม่รู้ล่ะมณรับปากเราแล้วเพราะฉะนั้นเริ่มบุกตั้งแต่คืนนี้เลยนะ”
“เฮ้ย!! ว่าไงนะคืนนี้เลยหรอ บ้ารึเปล่าเนี่ยกานจะไม่ให้ฉันได้เตรียมใจเลยรึไง”
“ไม่เห็นจำเป็นเลย เอาน่าเวลาไม่เคยคอยใคร ” กานยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงของบรรดา 3 สาวที่เหลือเรียกพวกเราให้ไปทานข้าว ยายนั้นนะคะเพื่อนๆเชื่อไหม เดินไปกินด้วยความสบายใจเฉิบ คงเหลือแต่ฉันที่นั่งตังแข็งทื่อไม่กระดิกไปไหน แง้ แง้ T_T ฉันจะทำยังไงดีล่ะคะเพื่อนๆ ฉันยิ่งเป็นโรคแพ้ผู้ชายหล่ออยู่ด้วย
“อ้าว มณทำไมไม่ลงไปกินอีกล่ะเพื่อนๆรออยู่นะเร็วไป” พูดไม่พูดเปล่ายายบีมก็ฉุดกระชากลากถูฉันไม่ด้วยซะงั้นแหละ ฉันก็เลยปล่อยตัวเองไปตามแรงนั้น ก็สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันทำเอาฉันหมดแรงเลยนี่ อาหารมื้อนี้รสชาติเป็นยังไงฉันก็ไม่อาจรับรู้ได้ ที่ฉันรับรู้ได้ก็คือ ความข่มขื่นที่ฉันกำลังจะตอบเผชิญ
ว้าย!!!
“เฮ้ย มณเงียบๆสิ” ไม่พูดเปล่าแถมด้วยการเอามือมาอุดปากฉันอีกต่างหาก กว่าปากของฉันจะเป็นอิสระเอาซะแทบแย่
“โอ้ย แล้วใครเขาจะรู้ล่ะอยู่ๆก็มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงฉันก็ตกใจสิ”
“เออ เออ ฉันขอโทษก็แล้วกันนะเอ้านี่”
“ไรอ่ะ” ฉันถามไปงั้นพอจะรู้เป็นลางๆอยู่แล้วล่ะ
“ก็จดหมายไงล่ะ เอ้ารับไปสิ” ว่าแล้วยายนั่นก็ยัดจดหมายฉบับนั้นใส่มือฉันมา ฉันก้มหน้ามองจดหมายฉบับนั้นทีสลับกับหน้าของยายนั่นที เอาจริงรึวะเนี่ย ซวยแล้วฉัน
“มณเร็วๆเข้าสิ เดี๋ยวครูมาตรวจที่พักก็ซวยกันพอดี” พูดพลางทำหน้ายักษ์ใส่ฉันเป็นเชิงข่มขู่ TT_TT แย่สุดๆเลยทำไมฉันต้องมาเจอกับยัยนี่ด้วยนะ เจ๊อยากตาย ฮือๆๆๆ
“โชคดีนะมณ เดี๋ยวฉันจะนอนรอฟังผลนะ” อึ๋ย @_@ ยังจะมาอวยพรฉันอีก เฮ้ย  เอาวะตายเป็นตาย  ว่าแล้วฉันก็เดินตรงดิ่งไปยังบ้านหลังที่ 2 โห เขาปิดไฟนอนกันหมดแล้วนี่นา อืม แต่ว่าลองเรียกดูก็ได้
ก๊อกๆๆ    ก๊อกๆๆ
“ใครวะ มาเรียกตอนนี้น่ะ” เสียงโวยวายของใครรู้ไหมคะ ของตาฟลุ๊คนั้นแหละคะไม่ใช่ใครอื่นไกล
“เอ่อ คือ กานเขาฝากให้ฉันเอาไอ้เนี่ยมาให้นายน่ะ” ฉันส่งจดหมายให้เขาด้วยมือที่สั่นเทา
“แล้วทำไมฉันจะต้องรับด้วยล่ะ” นายนั่นยืนโต้ตอบฉันด้วยท่าทางที่กวนพระบาทาสุดๆ
“แต่นายต้องรับนะ” ฉันตอบกลับอย่างไม่ยอมลดละ
“เธอเป็นแม่ฉันหรอ มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันน่ะ” เขายังคงโต้ตอบฉันด้วยท่าทางเช่นเดิม แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากจะบอกเลยคะว่าเลือดขึ้นหน้าฉันซะแล้ว ฉันจึงสวนกลับไปว่า
“นี่ ฉันจะบอกอะไรให้นะฉันไม่ได้อยากจะมาเสวนากับคนไร้มารยาทอย่างเธอเลยจะบอกให้ ถ้าไม่เพราะเพื่อนฉันขอร้องล่ะก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะมายืนให้นายโขกสับฉันอยู่อย่างนี้น่ะ เอ้า เอาไปเลย” พอพูดจบฉันก็ปาจดหมายฉบับนั้นใส่หน้าของนายนั่น ฉันเห็นเขาขบกรามจนเป็นสันนูนขึ้นเขาคงจะโกรธฉันมากแต่ก็ช่างเขาเถอะอยากมากวนประสาทฉันทำไมล่ะ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ช่วงเวลาที่ฉันกลับตัวกำลังจะเดินกลับบ้านพักของฉัน เขากลับกระชากแขนของฉันด้วยแรงมหาศาลของเขาบวกกับความไม่ได้ระมัดระวังตัวของฉันทำให้ร่างของฉันซบลงกับไหล่กว้างของเขาแล้วเขาก็ เขาก็ก้มหน้าของเขาลงมาอย่างรวดเร็วริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาประกบอย่างหนักหน่วงบนริมฝีปากของฉัน ฉันตัวสั่นเทาด้วยความรู้สึกซ่านซ่าที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วเรือนร่าง ลิ้นของเขาสอดแทรกเข้าไปในปากฉัน ทำหน้าที่ซุกซน ซอกซอน ปลุกเร้าให้ตอบสนอง ขณะที่ฉันกำลังเคลิ้บเคลิ้มไปกับรสสัมผัสของเขา สติของฉันก็กลับมาฉันใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดผลักร่างของเขาออกจากตัวฉัน ฉันใช้แรงสุดท้ายที่เหลือตบหน้าของเขาอย่างสุดแรง แล้วฉันก็วิ่งกลับมาที่พัก ฉันไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันเข้าห้องน้ำแล้วใช้มือถูปากอย่างแรง เจ็บใจนัก คนเลว ฉันเกลียดนายที่สุด คอยดูนะฉันจะแก้แค้นคืนให้ได้เลย ดีนะคะที่ยัยกานหลับแล้วไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้จะตอบยัยนั่นว่าอะไร เฮ้ย แล้วฉันจะข่มตาหลับได้ไหมล่ะเนี่ย แต่ไม่นานนักฉันก็หลับด้วยความเหนื่อยล้ากับเหตุการณ์ที่เพิ่งไปเผชิญมา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น