ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลอ้างอิง

    ลำดับตอนที่ #2 : ตำนานเทพ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      1
      20 ต.ค. 51

    ฮาเดส

    ฮาเดส หรือ เฮดีส (hades) ในที่ชาวโรมันเรียกว่า พลูโต (pluto) เทพเจ้าผู้ปกครองนรกและโลกหลังความตาย ในตำนานถือว่ามีศักดิ์เป็นพระเชษฐาของ ซุส ราชาแห่งเหล่าเทพ และยังถือได้ว่าเป็นเจ้าแห่งทรัพย์เพราะเทพฮาเดสมีสิ ทธิ์ในทรัพย์สินทุกอย่างภายใต้พื้นพิภพ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ดีส (dis) ซึ่งแปลตรงตัวว่า ทรัพย์สิน
    ฮาเดส แท้ที่จริงแล้วเป็นเทพที่มีความยิ่งใหญ่อีกองค์หนึ่ง เช่นเดียวกับซุส หรือ โพไซดอน เนื่องจากเป็นพี่น้องกัน แต่ทว่าความที่ฮาเดสเป็นผู้ปกครองนรกซึ่งเป็นโลกใต้ด ินซึ่งมีแต่ความมืดมิดและน่ากลัว จึงไม่ใคร่ขึ้นไปยังเขาโอลิมปัส อีกทั้งเทพองค์อื่น ๆ ก็ไม่ใคร่ที่จะต้อนรับฮาเดสด้วย ดังนั้น ฮาเดสจึงไม่มีชื่อเป็นหนึ่งในเทพโอลิมปัสเฉกเช่นองค์ อื่น ๆ
    ฮาเดส ได้ชื่อว่าเป็นเทพที่มีความเที่ยงธรรมอย่างมาก ตัดสินความดีชอบของคนตายโดยปราศจากอคติใด ๆ ทั้งสิ้น กล่าวกันว่า พระองค์มีหมวกวิเศษอยู่ใบหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้สวมห ายตัวได้ และพระองค์มีเทพผู้ช่วยในการตัดสินความดีชั่วในยมโลก อีก 3 องค์คือ ราดาแมนทีส, ไมนอส, ไออาคอส ที่เรียกว่า สามเทพสุภา และยังมีฮิปนอส เทพแห่งการหลับไหล และ ทานาทอส เทพแห่งความตายคอยช่วยอีก
    ฮาเดส มีชายาองค์หนึ่งชื่อ เพอร์ซิโฟเน (persephone) ซึ่งเป็นพระธิดาองค์เดียวของ ดีมิเทอร์ (demeter) เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเกษตร จากความงดงามของนางเพอร์ซิโฟเน ทำให้ฮาเดสลืมเลือนไปหมดสิ้นว่า นางที่แท้จริงคือหลานสาวแท้ ๆ ของตน เพราะว่า ดีมิเทอร์มีศักดิ์เป็นพระขนิษฐาของพระองค์เอง เมื่ฮาเดสได้ฉุดนางไปเป็นเทพีแห่งนรกคู่กัน ทำให้เกิดเป็นกรณีพิพาทขึ้นระหว่างทวยเทพแห่งโอลิมปั ส ซุสซึ่งเป็นองค์ประธานได้ตัดสินให้ฮาเดสต้องคืนเพอร์ ซิโฟเนแก่ดิมิเทอร์ ฮาเดสก็ใช้อุบายลวงให้นางต้องมาหาตนปีละ 3 เดือนทุกปีไป ดังนั้นในปึหนึ่ง ๆ ฮาเดสจึงต้องประทับอยู่อย่างเดียวดายนานอยู่ถึง 9 เดือน แต่ทั้งที่ต้องประทับอยู่อย่างเดียวดายนานถึงปีละ 9 เดือน ฮาเดสก็พิสูจน์องค์เองว่าเป็นพระสวามีที่ซื่อสัตย์
    ชาวกรีกโบราณจะถวายการสักการะแด่ฮาเดสด้วยแกะดำ และเป็นพิธีกรรมที่เร้นลับสืบมาที่ได้ค่อนข้างยาก แต่ก็สืบทอดกันมาว่า หากจะบูชาเทพแห่งความตายหรือเทพอันใดที่เป็นสัญลักษณ ์ของความน่ากลัวหรือชั่วร้าย ต้องบูชายัญด้วยแพะหรือแกะดำ
    ฮาเดส ในวัฒนธรรมสมัยนิยมมักถูกสร้างให้เป็นตัวละครฝ่ายร้า ย เช่น การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เซนต์เซย่า ฮาเดสเป็นเทพเจ้าที่หวังยึดครองโลกมาแต่ครั้งเทพนิยา ย ภาคสุดท้ายของการ์ตูนชุดนี้เป็นเรื่องของเหล่าเซนต์ต ่อสู้กับเหล่าสเป็คเตอร์ของฮาเดส ฮาเดสมีรูปร่างที่งดงามและหลงใหลรูปตัวเองมาก จึงซ่อนร่างที่แท้จริงไว้ในปราสาทที่เอเริเซี่ยน จึงอาศัยอันโดรเมด้า ชุนเป็นร่างสิงสถิตย์แทน
    หรือ ภาพยนตร์การ์ตูนของวอลต์ ดีสนีย์ เรื่อง Hercules ในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ฮาเดสก็เป็นตัวโกงในเรื่องด้วย


    เพอร์ซิโฟเน

    เพอร์ซิโฟเน หรือ เปอร์เซโฟเน (persephone) เป็นธิดาของดีมีเทอร์เทวีแห่งธัญพืชกับเทพซุส พระนางมีทั้งรูปโฉมที่สวยสะคราญและน้ำเสียงอันไพเราะ ที่สามารถปลุกชีวิตชีวาให้แก่ธรรมชาติ เหล่าสัตว์ป่ามักจะชอบเข้ามาคลอเคลียกับพระนาง ไม่ว่าเยื้องกรายไปทางไหน พืชพันธุ์ที่เคยเหี่ยวแห้งก็จะฟื้นกลับมาอุดมสมบูรณ์ เทพีดิมีเทอร์จึงรักพระธิดาองค์เดียวอย่างสุดสวาทขาด ใจ จนกระทั่งวันหนึ่งเทพ ฮาเดสแห่งยมโลกได้ขึ้นมายังพื้นโลก ในขณะนั้นเทพฮาเดสบังเอิญถูกศรรักของกามเทพคิวปิดปัก เอา และคนแรกที่เทพฮาเดสเห็นก็คือ เทพีคนงาม เพอร์ซิโฟเน นั่นเอง ทำให้เทพฮาเดสหลงรักเทพีผู้เป็นหลานสาวอย่างสุดหัวใจ ทันใดนั้นเองเทพฮาเดสก็ได้ตัดสินใจจับเทพีเพอร์ซิโฟเ น่ลงไปอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา ณ ใต้บาดาล
    เทพีดิมีเทอร์เศร้าโศกเสียใจอย่างหนักที่ธิดาสุดที่ร ักหายตัวไปจนกระทั่งพืชผลเหี่ยวแห้งทั่วโลก ชาวมนุษย์เดือดร้อนอดตายเป็นจำนวนมาก เทพซุสจึงเรียกตัวพี่ชาย เทพฮาเดส ขึ้นมา เพื่อขอเทพีเพอร์ซิโฟเนคืน แต่ทว่าในระหว่างที่อยู่ในยมโลก เทพีเพอร์ซิโฟเนได้เสวยอาหารทิพย์เม็ดเล็กๆของยมโลกไ ป 3 เมล็ด ทำให้เทพซุสทำข้อสัญญาตกลงกันว่า จะให้เทพีเพอร์ซิโฟเนอยู่บนโลกตามใจชอบเป็นเวลา 9 เดือน จากนั้นก็ให้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ยมโลกเป็นเวลาอีก 3 เดือน ซึ่งในระหว่างที่ธิดาไม่อยู่ เทพีดิมีเทอร์ก็จะเศร้าโศก พืชผลก็จะปลูกไม่ขึ้น แห้งแล้ง แต่เมื่อองค์ธิดากลับมาสู่อ้อมอก พืชผลก็จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของฤดูกาลนั่นเอง


    เซอร์เบอรัส

    เซอร์เบอรัส หรือ เคอร์เบอรอส (อังกฤษ: Cerberus ; กรีก: Κέρϐερος (Kerberos) แปลว่า ปีศาจในหลุม) เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีก มีรูปร่างเป็นสุนัขสีดำใหญ่โตพ่วงพี มี 3 หัว ปลายสุดของหางเป็นงู (บางตำนานว่าเป็นหางมังกร) เซอร์เบอรัสมีหน้าที่เฝ้าทางลงสู่นรกที่หน้าประตูทาง เข้า ตรุทาร์ทะรัส
    เซอร์เบอรัสเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของฮาเดส (Hades) มันจะยอมให้วิญญาณของคนทุกคนเข้าประตู แต่จะไม่ยอมให้กลับออกมาเป็นอันขาด เมื่อไปถึงประตูนี้ วิญญาณแต่ละดวงจะถูกพาไปรับคำพิพากษาของ สามเทพสุภาคือ ราดาแมนทีส ,ไมนอส และ ไออาคอส. วิญญาณที่ชั่วร้ายจะถูกพิพากษาให้ต้องทนทุกข์ทรมานอย ู่ในตรุทาร์ทะรัสไปชั่วกัลป์ ส่วนวิญญาณที่ดีจะได้รับคำพิพากษาให้พาไปอยู่ยัง ทุ่งอีลิเซียน แดนสุขาวดีของกรีก
    นอกจากนี้ เซอร์เบอรัสยังเป็นภาระกิจที่ 12 ของเฮอร์คิวลิสอีกด้วย เรื่องราวก็เนื่องจาก เทพีเฮร่ากลั่นแกล้งให้เฮอร์คิวสิสวิกลจริต และทำความผิดหลาย อย่าง เช่น ฆ่าทายาทของตัวเอง, เฮอร์คิวลิสจึงต้องรับโทษ โดยให้อยู่ใต้อำนาจของกษัตริย์ที่อ่อนแอ เป็นเวลาถึง 12 ปี และต้องทำภาระกิจ 12 ประการให้เสร็จสมบูรณ์ จึงจะพ้นโทษ ภารกิจ 12 ประการนั้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการพิชิตปีศาจ หรือไม่ก็สยบสัตว์อิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ การจับเซอร์เบอรัสมาให้กษัตริย์ของเขาก็เป็นหนึ่งในภ าระกิจด้วย และเฮอร์คิวลิสก็สามารถจับเซอร์เบอรัสได้ด้วยพลังอัน มหาศาลของเขา นอกจากเฮอร์คิวลิสแล้ว ออร์เฟียสเคยใช้เสียงเพลงสะกดเซอร์เบอรัสให้เชื่องขณ ะเข้าไปในยมโลกเพื่อคืนชีพให้คนรัก ในตำนานของโรมัน ไซคีได้ทำให้เซอร์เบอรัสหลับด้วยเค้กน้ำผึ้งใส่ยานอน หลับ แม่ของเซอร์เบอรัสเป็นอสุรกายชื่อ อีคิดน่า (กรีก: Echidna) เป็นพี่น้องของพวกกอร์กอนส์ทั้งสาม อีคิดน่ารูปร่างหน้าตาสวยงามเฉพาะท่อนบน แต่ท่อนล่างลงมาเป็นงูยักษ์มหึมา และได้มามีสัมพันธ์กับอสุรกายอีกตนหนึ่งคือ ไทฟอน (Typhon) ซึ่งลูกๆของไทฟอนและอีคิดน่าล้วนแต่เป็นสัตว์ประหลาด ดุร้าย นอกจากเซอร์เบอรัสแล้วก็คือ ไฮดรา, ออทรัส, สิงโตเนเมีย, ไคเมร่า และ สฟิงซ์ แต่นอกจากเซอร์เบอรัสซึ่งได้เป็นสัตว์เลี้ยงของฮาเดส แล้ว พี่น้องทั้งหมดของเซอร์เบอรัสก็ถูกวีรบุรุษในตำนานกร ีกสังหารเสียสิ้น
    ในนิยายและวีดิโอเกม ดิจิตัลเดวิล โมโนกาตาริ: เมกามิเทนเซย์ เซอร์เบอรัสเป็นปิศาจที่อาเคมิ นาคาจิมะ ตัวเอกของเรื่องเรียกมาช่วยในการต่อสู้กับโลกิ และในเกมภาคต่อ ๆ มามักมีเซอร์เบรัสเป็นผู้ช่วยสำคัญเสมอ รูปแบบของเซอร์เบอรัสในเมกามิเทนเซย์ นอกจากที่เป็นสุนัขสามหัวแล้วบางครั้งยังปรากฏตัวเป็ นสิงโตสีขาวที่มีหางเรียวยาวเป็นปล้อง[1] ในเซนต์เซย่า เซอร์เบรัสเป็นสุนัขเฝ้านรกขุมที่ 2 ที่มี สฟิงซ์ ฟาโรห์ เป็นผู้ดูแล เซอร์เบรัสมีหน้าที่กัดกินคนตายเป็นการลงโทษ เมื่อเซอร์เบรัสได้พยายามกินเพกาซัส เซย่า แต่กินไม่ลงเพราะเซย่ายังไม่ตาย และถูกปราบด้วยโซ่ของอันโดรเมด้า ชุน
    ส่วนในหนังสือนิยายเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ มีการกล่าวถึงตัวเซอร์เบอรัสซึ่งมีชื่อเรียกว่าฟลัฟฟ ี่ ในฉบับภาพยนตร์ของภาคแรก รอน วีสลีย์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้พูดถึงเรื่องฟลัฟฟี่




    Anubis
    อานูบิส (Anubis) เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของอียิปต์ที่มีบทบาทสำคัญอย่าง ยิ่งในชีวิตของชาวอียิปต์ เพราะอานูบิสเป็นเทพแห่งความตาย และเป็นเทพของการทำมัมมี่ ดังนั้นทั้งในพิธีกรรมการทำศพแบบอียิปต์โบราณและเรื่ องราวในโลกหลังความตายของมนุษย์เทพองค์นี้จึงมีส่วนเ กี่ยวข้องด้วยอย่างมาก โดยที่มาของการนับถือเทพอานูบิสนี้น่าจะมีที่มาจากเม ือง Abydos (อาบิโดส) ในอียิปต์เหนือ แต่ศูนย์กลางของความเชื่อนี้อยู่ที่เมือง Cynopolis (ไซโนโปลิส) ในอียิปต์เหนือ
    อานูบิสเป็นเทพที่มีลักษณะลำตัวเป็นคน แต่ส่วนหัวจนถึงคอเป็นลักษณะศีรษะของหมาในสีดำ ในมือถือคทา บางครั้งเทพองค์นี้ก็เรียกกันว่า Anpu (อันปุ) พิธีกรรมการนับถือเทพอานูบิสนี้เชื่อกันว่ามีมานานมา กแล้วและบางครั้งก็มีการสร้างรูปปั้นหมาในสีดำ หรือสีทองเป็นตัวแทนของเทพองค์นี้ก็มี และที่ลักษณะของเทพอานูบิสที่มีใบหน้าเป็นหมาในก็สัน นิษฐานได้ว่า เป็นเพราะสัตว์ชนิดนี้มักจะออกหากินในตอนกลางคืน และพบมากในบริเวณสุสานของคนตาย จากสิ่งนี้เองจึงทำให้คาแรทเตอร์ของเทพอานูบิสมีใบหน ้าเป็นหมาในซึ่งชาวอียิปต์นับถือกันในนามเทพผู้พิทัก ษ์คนตายและสุสาน
    หน้าที่ของเทพองค์นี้ก็คือการนำดวงวิญญาณของคนตายสู่ ยมโลกเพื่อทำการตัดสินผลกรรมที่ได้ทำมาก่อนตาย ต่อหน้าองค์เทพโอซิริส (Osiris) โดยเทพอานูบิสจะนำหัวใจของผู้ตายไปวางไว้บนตาชั่งข้า งหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งของตาชั่งจะเป็นขนนกที่ได้รับมาจากเ ทพ (มูอาท) Muat หากหัวใจของผู้ตายเบากว่าขนนกแสดงว่าในขณะที่คนผู้นั ้นมีชีวิตอยู่ได้กระทำการอันเป็นกุศล จึงสมควรได้รับพรจากเทพโอชิริสให้มีชีวิตอันเป็นนิรั นดร์แล้วจะได้อยู่ในดินแดนที่เรียกว่า "Fields of the Reed" หรือสวรรค์ของชาวอียิปต์นั่นเอง ส่วนคนที่ไม่ผ่านการทดสอบนั่นก็คือหัวใจมีน้ำหนักมาก กว่าขนนก สัตว์อสูรที่ชื่อ Ammut (อัมมุท) ที่นอนรออยู่ใต้ตาชั่งก็จะกินหัวใจของดวงวิญญาณดวงนั ้นทันที แล้วดวงวิญญาณนั้นก็จะสูญสลายตลอดไป ก็ถือว่าเป็นการตายครั้งที่สองและเป็นการตายสนิท ตายแบบถาวรไปเลย
    ในด้านตำนานเกี่ยวความเป็นมาของเทพอานูบิสนี้ เชื่อกันว่าอานูบิส เป็นโอรสของเทพีเนฟทิส (Nephtys) กับเทพเซต (Set) จึงนับเป็นหลานของเทพโอซิริส (Osiris) และ เทพีไอซิส (Isis) ด้วย ทั้งนี้มีบางตำราได้กล่าวไว้ว่าเทพอานูบิสให้ความเคา รพเทพีไอซิสเสมือนมารดาแท้ๆ คนหนึ่งของตนเลยทีเดียว และที่มาของการทำมัมมี่ก็มีที่มาโดยอ้างอิงจากตำนานข องเทพโอซิริส ในครั้งที่เทพโอซิริสและเทพีไอซิสถูกเทพเซ็ตตามล่า เทพโอซริสถูกสังหาร อานูบิสเป็นผู้รับอาสารักษาพระศพของเทพโอซิริส โดยใช้ขี้ผึงสูตรเฉพาะของตนเองแล้วก็ผ้าลินินสีขาวซึ ่งทอจากฝีมือของเทพีทั้งสองคือ ไอซิส และเนฟทีสมาห่อหุ้มร่างนั้นไว้ จากนั้นอานูบิสจึงได้ออกปากสัญญากับพระมารดาทั้งสองว ่าตนเองจะเป็นผู้พิทักษ์ร่างของโอซิริสเอง จากตำนานนี้เองจึงทำให้เทพอานูบิสนับถือว่าเป็นเทพผู ้พิทักษ์คนตายและนำทางให้ผู้ตายสู่โลกวิญญาณ ทั้งนี้ในสมัยโบราณจะมีนักบวชผู้กระทำพิธีสวมหน้ากาก ที่มีลักษณะเป็นหมาในซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพอานูบิส อีกด้วย
    …………………………………………………………………………………………………
    เกร็ดความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับ 7 ขั้นตอนหลังความตาย
    1. ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าหลังจากที่ดวงวิญญาณคนตายออก จากร่าง เขาจะต้องผ่านลำน้ำสวรรค์เพื่อไปยังยมโลกซึ่งน้ำโดย Nemty
    2. จากนั้นจะตอบปัญหาเพื่อผ่านประตูและเขาวงกต
    3. หลังจากนั้นเทพเอเคอร์ (Aker) ก็จะนำไปที่ท้องพระโรงของยมโลก
    4. คณะเทพตัดสินทั้ง 14 องค์จะพิจารณาความดีที่เคยทำมาในตอนที่ยังมีชีวิตอยู ่
    5. เทพอานูบิสจะทำการชั่งหัวใจของคนตายกับขนนกเพื่อเป็น การตัดสินความดีความชั่ว
    6. เมื่อผ่านการทดสอบเทพฮอรัส (Horus) ก็จะนำดวงวิญญาณคนตายเพื่อเข้าพบเทพโอซิริส
    7. แล้วในที่สุดคนที่ผ่านการตัดสินก็จะได้รับชีวิตอันเป ็นนิรันดร์แล้วได้อยู่ในแดนสุขาวดีที่เรียกว่า "Fields of the Reed"
    …………………………………………………………………………………….
    Ammut (อามุท) เป็นสัตว์อสูรเพศเมีย มีหัวเป็นจระเข้ ลำตัวเป็นสิงโต ช่วงขาหน้าคล้ายเสือดาว ช่วงบั้นท้ายจนถึงขาหลังเป็นฮิปโป คอยกินดวงใจของคนบาปที่ไม่ผ่านการทดสอบเพื่อรับชีวิต อันเป็นนิรันดร์
    ______________________________________
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×