ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลอ้างอิง

    ลำดับตอนที่ #6 : ตำนานเทพ 2

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 51


    ตำนานเทพแบบย่อๆ (ลงเยอะเด๋วกระทู้ไม่มีไรลง= =)

    กำเนิดเทพเจ้า ตามตำนานเทพเชื่อว่าเหล่าทวยเทพทั้ง
    หลายล้วนเกิดจากโลกและสรรค์ สืบเชื้อสายเป็น 12 มหาเทพโอลิมเปียน ได้แก่

    1)จูปิเตอร์
    2เนปจูน
    3พลูโต
    4จูโน
    5มาร์ส
    6อะเธนา
    7อะพอลโล
    8วีนัส
    9เมอร์คิวรี
    10ไดอานา
    11เวสตา
    12วัลแคน

    จุปิเตอร์ ประมุขแห่งเทพ

    จูปิเตอร์ คือประมุขแห่งทวยเทพ สถิตอยู่ ณ ยอดเขาโอลิมปัส มีมเหสีคือจูโน อาวุธ คู่กายคือสายฟ้า พระองค์มีฤทธิ์ เหนื่อเทพทั้งมวล กล่าวกันว่าต่อให้ผูกเชือกทอง กับสรรค์แล้วให้เทพทุกองค์ดึง จูปิเตอร์ ลงมาก็ไม่อาจทำได้
    ช้อเสียของจูปิเตอร์ ซึ่งหลายครั้งกลายเป็น ชนวน ความวุ่นวายในตำนานเทพ

    จุปิเตอร์ แปลงกาย
    ตามนิสัย ของจูปิเตอร์ เมื่อพอใจหญิงใดจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาครอบครอง วันหนึ่งขณะ นางยูโรปา กำลังเก็บดอกไม้อยุ่ในทุ่ง นางพบโคลักษณะงามและเชื่องตัวนึง
    จึงขึ้นไปนั่งหลัง ทันใดนั้นโคก็เผ่นหนีลงทะเล แล้วนำยูโรปา มาไว้ที่เกราะ ครีต พร้อมแสดง ตน คือ เทพ จูปิเตอร์ นั้นเอง

    เนปจูน เทพแห่งมหาสมุทร

    เนปจูน คือเทพผู้ครองห้วงมหาสมุทร มีฐานะเป็นพี่ชาย ของจูปิเตอร์ พระองค์มีความ สำคัญ ยิ่งต่อชาวประมงริมฝั่ง ทะเล เอเจียน เพราะเป็น ผุ้เดียว ที่บัญชาให้ท้องทะเลเงียบสงบ หรือเกิดคลื่นลมปั่นป่วน อาวุธที่ใช้คือ ตรีศูล มีฤทธิ์ ทำลายทุกสิ่งในพริบตา พระองค์ยังเป็นผู้ประทาน ม้าตัวแรกให้แก่ มนุษย์ อีกด้วย

    พลูโต เทพแห่งแดนยมโลก

    พลูโต คือเทพ ผู้ยิ่งใหญ่ปกครองยมโลกและวิญญาน คนตาย รวมถึงสมบัติ ล้ำค่า ใต้พิภพ เทพองค์ อื่นล้วนเกรงกลัว และไม่ยินดี ต้อนรับพลูโต เพราะพระองค์คือเทพที่ปราศจากความปราณี แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความยุติธรรมพลูโตมักเดินทางไปไหนม าไหนด้วยหมวกวิเศษ ที่ทำให้ผู้ส่วมใส่ล่องหนได้ ปล. มีก็ดีดิ จะเอาไปปล้นร้านทอง

    ลักพาตัว เทวีพรอสเสอะพิน (พรอสเซอร์พิน)

    วันหนึ่งพลูโต ทรงรถผ่านสวนดอกไม้ พบเทวี พรอสเสอะพิน เทวีแห่งพืชผล แล้วเกิดหลงรักจึงชิงตัวนางมาไว้ที่นครบาดาล มารดาของนางเฝ้าตามหา และขอให้ จูปิเตอร์ช่วย
    จูปิเตอร์จึงตัดสินให้ทุกปีพรอสเสอะพิน ต้องลงมาอยู่ กับพลูโตทุก 6 เดือน อันเป็นที่มา ของฤดูแล้ง และขึ้น ไปอยู่กับมารดาบนโลก 6 เดือน อันเป็นที่มาของฤดู พืชผล

    จูโน ผุ้ปกป้องเหล่าสตรี (เมียหลวงขี้หึงนี่มีมาตั้งแต่กรีกเลยแฮะ= =")

    จูโน คือมเหสีเอกของจูปิเตอร์ ได้รับการยกย่องบูชาในฐาณะเทวี ผู้ปกป้องสตรี ทั้งมวล และยังเป็นผุ้คุ้มครองสตรียามคลอดบุตรด้วย
    แต่ความร้ายกาจของนางดูจะมากกว่า เพราะมักตามหึงหวงจุปิเตอร์ และคอยตามราวี หญิงสาวที่จุปิเตอร์แอบไปหารวมถึงบรรดาลุกๆ ของนางเหล่านั้น

    มาร์ส เทพแห่งสงคราม ตรูละชอบองค์นี้จิงๆ


    มาร์สคือบุตร ของจูปิเตอร์ กับจูโน เป็นเทพแห่งสงครามแต่เทพและมนุษย์ส่วนใหญ่ ไม่ชอบมาร์ส เว้นแต่ชาวโรมัน เนื่องจาก เป็นชาตินักรบ และชอบทำสงคราม มาร์สเป็นชุ้รักคสำคัญ ของ วีนัส ซึ่งต่อมาถูก วัลแคนสามึของวีนัส ใช้แหเหล็กคลุมร่างของทั้งสองขณะ อยุ่ด้วยกันไว้ และ ให้เหล่าเทพมาดู เป็นที่อับอายของมาร์ส ยิ่ง นัก


    มิเนอร์วา เทวีแห่งปัญญาและสงคราม
    มิเนอร์วา เป็นธิดาองค์ โปรดของจูปิเตอร์ ถือกำเนิดแปลกว่า เทวีองค์อื่นๆ คือผุดออกจาก ศรีษะ (เฮ้ย-*-) ของจูปิเตอร์พร้อมสวมชุดเกราะ นางจึงเป็นเทวีแห่งสงครามผู้ปกป้องบ้านเมืองจากศัตรู และยังเป็นผู้ประทานบังเ!ยน ทำให้ท้าเชื่อและเป็น พาหนะ ของมนุยษ์ นอกจากนี้นางยังเป็น เทวีแห่งปัญาและความ บริสุทธิ์ ด้วย(ยังซิง55+)

    พอลโล เทพแห่งดวงอาทิตย์


    อะพอลโลถือกำเนิดจาก จุปิเตอร์ และนางโลโต เมื่อแรก

    เกิดไร้รับอาหารทิพย์ จึงเติบโตเป็นหนุ่มภายในวันเดียว

    เป็นเทพ แห่งแสงสว่างมีหน้าที่ขับรถม้า พาดวงอาทิตย์

    ข้ามจากขอบฟ้าตะวันออกมายัง ตะวันตก อะพอลโลมี

    ฝีมือบรรเลงพิณ ขับกล่อมเหล่าทวยเทพและยังเป็น

    นักธนู มือฉมัง(เขาบอกว่ายิงตายุงโดนละกัน-*-)

    มีเทวีแห่งความจำเป็นบริวาณ ติดตาม


    วีนัส เทวี ผู้เลอโฉม


    วีนัส เป็นธิดา ของจูปเตอร์ ที่เกิดจากดิโอนี แต่ด้วยความ

    กลัวจึงนำดิโอนีไปฝากท้องไว้กับพระสมุทร วันัสจึงถือ

    กำเนิดบนฟองคลื่น(กำ) วีนัสได้ชื่อว่าเป็นเทวีที่งดงามที่สุด

    แต่กลับต้องไปแต่ง งานกลับวัลแคนเทพรูปร่างอัปลักษณ์

    และเนื่องจากนางคือเทวีแห่งความรัก คิวปิดบุตรของนางจึง

    เป็นเทพแห่งความรักเช่นกัน


    อ่าวลืม

    วัลแคน เทพแห่งการช่าง

    วัลแคนถือกำเนิดมาจากจูโน เป็นเทพที่อาถัพที่สุด เพราะนอกจากจะมีรูปร่าง อัปลักษณ์แล้ว มารดายังไม่สนใจใยดี วัลแคนใช้ชีวิต เพลิดเพลินกับการช่างประกอบโลหะ
    มีห้นาที่ผลิตสายฟ้าอาวุธให้จูปิเตอร์ รวมถึง ศรรักของคิวปิด แม้จะได้แต่งงาน กับวีนัส ผู้เลอโฉม แต่ก้ไม่มีความสุข เพราะนาง ปันใจให้ชายอื่น (เลวที่สู๊ดๆ-*-)


    เมอร์คิวรี เทพแห่งการสื่อสาร

    เมรอ์คิวรี คือเทพที่ถือกำเนิดจากจุปิเตอร์ และนางไม้ไม

    อาเป็นเทพที่ถือสารและเจรจาความให้จูปิเตอร์ และมี

    หน้าที่ส่งวิญญาน สุ่แดนยมโลกสมัย เด็กเคยขโมยวัวของ

    อะพอลโลไปซ่อน จึงเป็นที่บูชาของหมุ่หัวขโมย(ซะงั้น)

    เมอร์ คิวรีมีหมวกและรองเท้าวิเศษที่ช่วยให้เดินทางได้รวด


    เร็วเท่าความคิด






    เรื่องของแอตแลนติส

    ว่ากันว่าที่เกาะแอตแลนติสอันมั่งคั่งที่เป็นที่อยู่ อาศัยของพลเมืองผู้ทรงคุณธรรม และแม่มด กำแพงเมืองเป็นทองคำ และวิหารสร้างด้วยเงิน ในเมืองมีอุทยานหน่อนใจ และสนามแข่งม้า ทว่ามันถูกทำลายพินาศไปด้วยความพิโรธของเทพเจ้าผู้เน รมิตมันขึ้นมา บางก็ว่าว่าผู้ทําลาย คือแม่มดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่พอใจพวกมนุษย์ ตำนานเกี่ยวกับทวีปอันมั่งคั่งโอ่อ่าที่พลเมืองอาศัย อยู่อย่างสุขสันต์ แต่กลับถูกทำลายสิ้น เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น

    เพลโตปราชญ์ชาวกรีก(บางคนเชื่อว่าเขาคือพ่อมด) ได้พรรณนาถึงการอุบัติ และการวิบัติ ของเกาะแอตแลนติสไว้ คำพรรณนาของเขาบันดาลใจให้มีคนพากันเขียนหนังสือเกี่ ยวกับดินแดนนี้ประมาณ 2,000 เล่ม มีการค้นหาแอตแลนติสเป็นเวลานับไม่ถ้วนจำนวนปี บางคนเสนอว่าดินแดนมหัศจรรย์นี้ควรจะอยู่ตรงนั้นตรงน ี้ต่างๆกันไปถึงกว่า 40 แห่ง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่ามันเคยมีอยู่จริง เพลโตเขียนไว้ในหนังสือบทสนทนาเรื่อง ทิไมอุส ( Timaeus ) และครีทีอัส ( Critias ) ในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์กาลเป็นครั้งแรกเรื่องเกาะ "ขนาดใหญ่กว่าลิเบียและเอเชียไมเนอร์รวมกัน" กับผู้คนซึ่งอาศัยบนเกาะอันอุดมสมบูรณ์

    เมื่อแรกที่มีการแบ่งดินแดนบนโลกกัน โพโซดอน ( Poseidon ) เทพแห่งสมุทรและแผ่นดินไหวได้รับแอสแลนติสมาเป็นสมบั ติ ชาวแอตแลนติสทุกคนจึงเป็นเชื้อสายของเทพเจ้าองค์นี้ก ับเคลริโอ ( Klerio ) ชายาซึ่งเป็นมนุษย์ ตามที่เพลโตเล่าไว้ แอตแลนติสเป็นชาต์ยิ่งใหญ่ทางทะเลซึ่งตั้งอยู่เลย "เสาหินแห่งเฮอร์คิวลีส" หรือช่องแคบยิบลอนตาในปัจจุบันออกไป อาณาจักรนี้ครอบคลุมน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจรดอ ียิปต์และตุรกี เป็นดินแดนอันอุดมด้วยทรัพยากร และอาหารนานาชนิด ทิวเขาสูงกำบังลมจากทางเหนือสรรพ! ทั้งช้างและม้าเล็มหญ้าอยู่ในท้องทุ่ง ดื่มกินน้ำจากทะเลสาปและลำธาร มีกษัตริย์สิบองค์ครองดินแดนสิบแคว้น พลเมืองทั้งหมดอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีและสันติสุ ข "พวกเขารังเกียจทุกอย่างนอกจากคุณธรรมความดีงาม ไม่สนใจไยดีต่อสมบัติพัสถาน ไม่ว่าทองคำหรือทรัพย์สมบัติอื่นๆ"

    การที่เพลโต้ย้ำว่า ที่ตั้งของแอตแลนติส อยู่เลยเสาหินแห่งเฮอร์คิวลิสออกไป ทำให้หนดที่ตั้งได้ลำบาก ที่ตั้ง ซึ่งที่เพลโตกล่าวไว้ ไม่มีทางที่จะตรงกับเกาะธีราหรือซานโตรินีของกรีก และเมื่อทรอยที่เชื่อกันว่าอาจเป็นที่เชื่อกันว่าเป็ นที่ตั้งของแอตแลนติก ในปี ค.ศ.1992 ดร.เอเบอร์ฮาร์ท ซังเงอร์ นักธรณีโบราณคดี ผู้โยงโบราณคดีเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของพื้นโลก ตีพิมพ์ผลการค้นคว้าหาตำแหน่งของแอตแลนติส ซึ่งกินเวลาถึง 10 ปี ในหนังสือชื่อ "อุทกภัยจากสวรรค์ (The Flood from Heaven)" เขาได้เสนอว่า เมืองทรอยซึ่งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ตุรกีนั้น ตรงกับคำบรรยายของเพลโต เกียวกับที่ตั้งของแอตแลนติส

    เมืองทรอยนั้น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบ ติดกับช่องแคบ มีลมจากทางเหนือพัดกระหน่ำใส่ และมีบ่อน้ำร้อนและน้ำเย็นอยู่ใกล้ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเชื่อว่า ชื่อ "เสาหินแห่งเฮอร์คิวลิส" นั้น เพิ่งจะนำมาใช้เรียกช่องแคบยิบรอลตา เมื่อประมาณราว 500 ปี ก่อนคริสกาลนี้เอง ก่อนหน้านี้คำนี้ ใช้เรียกช่องแคบดาร์คาแนล ซึ่งเป็นช่องแคบที่ค่อนระหว่าง ทวีบยุโรปกับเอเชีย ช่องแคบนี้เชื่อมต่อไปจนถึงทะเลดำ ส่วนเรื่องการจมหายไปในทะเลของเกาะแอตแลนติสที่เพลโต กล่าวไว้นั้น (ซึ่งเมืองทรอยไม่ได้จมหายไปไหน) ดร.ซังเงอร์ อ้างว่า ประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสต์กาล ได้มีอุทกภัยใหญ่ทำให้น้ำท่วมฉัลพลันในดินแดนทรอยตรง ส่วนที่เป็นที่ราบ หากแต่ยังคงต้องมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบก่อนที่จะ พิสูจน์ได้ว่าทฤษฎีนี้เป็นจริง ผู้คนส่วนใหญ่ ยังคงคิดว่า แอตแลนติสในตำแหน่งของเกาะธีรานั้น มีความคล้ายคลึงหลายประการเมื่อเปรียบเทียบกับคำบรรย ายของเพลโต และซากโบราณคดี จากอารยธรรมยุคสำริด ในบริเวณรอบๆ ทะเลเอเจียน เมื่อประมาณ 3,000-1,500 ปีก่อนคริสต์กาล

    นักโบราณคดีชาวกรีกชื่อ ศาสตราจารย์มารินาทอส ขุดค้นที่อ่าวอะโครทิรีบนเกาะธีลา และพบซากเมืองใหญ่ในยุคสำริด มารินาทอส+ สันนิษฐานว่าเมืองที่ขุดพบเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญข องอารยธรรมไมโนอัน บ้านเรือนสูง 2-3 ชั้น ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามด้วยภาพเขียนปูนเปียกบ่งบอกถึง ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อประมาณ 1,500 ก่อนคริสต์กาล เกาะธีราก็ถึงแก่การพินาศ ภูเขาไฟบนเกาะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงทำให้ทั้งเกาะ " ถูกกลืนหายไปในทะเล

    ทั้งเมืองทรอยและเกาะธีราไม่ได้ตรงกับคำอธิบานของเพล โตว่าแอตแลนติสมีอยู่เมื่อ " 9,000 ปี ก่อนสมัยของโซลอน " มีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดการเผลอเติมเลข 0 เข้าไปอีกตัวหนึ่ง หากเพลโตหมายถึง " 900 ปีก่อนสมัยของโซลอน " ระยะเวลาก็จะตรงกับเวลาที่ภูเขาไฟระเบิดพอดี

    อาจจะไม่มีทางบอกได้ว่าสิ่งที่เพลโตเขียนไว้นั้นเป็น เรื่องจริงหรือว่าเรื่องแต่ง แต่ก็มีชาวบ้านบางกลุ่มหาว่าเพลโตคือพ่อมดที่คอยเล่า นิทานหลอกเด็กให้หลงกลและเข้าไป
    ฟังนิทานของเพลโตทุกวัน และจะได้จับเด็กพวกนั้นมาเป็นสมุน หากมีการพิสูจน์ได้ว่าเกิดความคลาดเคลื่อนในเรื่องขอ งเวลา และว่าเสาหินแห่งเฮอร์คิวลีสนั้นไม่ได้หมายถึงช่องแค บยิบรอลตาเสมอไป ปริศนาเรื่องแอตแลนติสก็อาจจะคลี่คลายไปได้
    __________________



    ลิงค์ เนื้อหาเพิ่มเติม http://www.thaigaming.com/general-discussion/4529.htm
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×