ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักใสๆ สไตล์มัธยม

    ลำดับตอนที่ #1 : เข้าค่าย

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 51


                          ณ โรงเรียนไผ่ตงวิทยา จ.สงขลา วันนี้มีกิจกรรมการเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี และยุวกาชาติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง อาจารย์ได้นัดให้มาพร้อมกันที่โรงเรียนในเวลาเจ็ดโมงเช้า เตรียมตัวก่อนทำพิธีหน้าเสาธงและแยกย้ายกันไปตามค่าย ซึ่งในโรงเรียนตอนนี้มีแต่นักเรียนชั้นม.2เท่านั้น ชั้นอื่นๆหยุดเรียนสามวัน

     

     

                         ตื่นเต้นจังเลย วันนี้จะได้ไปเข้าค่ายแล้วฉันพูดขึ้นมา

     

     

                แกเป็นเอามากนะไอบุ๋มไปเข้าค่ายแค่นี้ทำเป็นตื่นเต้น แหวะ น้อยพูดแทรก

     

           

                อ้าว ไหงแกพูดงี้อ่ะ อย่าบอกนะว่าแกไม่อยากไป แล้วใครกันน้าจัดกระเป๋าตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว^_^”ฉันพูดขึ้นด้วยสีหน้าขำๆ ยิ่งเห็นท่าทางงอนๆของน้อยแล้วยิ่งหัวเราะ

     

     

                ใคร๊   ใครที่ไหนวะ ไม่รู้โว้ย  o///o” น้อยพูดด้วยอาการเขินอย่างรุนแรงที่ฉันรู้ทัน

     

     

                        ไม่รู้จริงดิ  งั้นเดี๋ยวบอกให้  คนๆนั้นก้อคือ………..อ้ากฉันหยุดพูด ก่อนจะวิ่งหนีฝ่าเท้าของน้อยที่กำลังมันจะประดับไว้บนก้นแฟบๆๆ

     

     

                         นี่    หยุดได้แล้ว เล่นกันเป็นเด็กไม่รู้จักโตไปได้ แกก้ออีกคนไอบุ๋มไปแกล้งไอน้อยมัน เดี๋ยวก้อโดนมันเตะเข้าจริงๆหรอก ไปเข้าแถวได้แล้วจะแปดโมงแล้ว พวกแกนี่น้า กัดกันได้จริงๆหลิวห้ามทัพ

     

     

                         เจ้าค่า คุณแม่ อิอิฉันกับน้อยพูดพร้อมกัน ก่อนที่จะหัวเราะกับท่าทางของหลิว และก้อเดินไปเข้าแถวเคารพธงชาติ

     

     

                         ทำกิจกรรมเสร็จก้อถึงเวลาของผอ. กล่าวอะไรเล็กๆน้อย ระหว่างนั้นเราสองคนก้อคุยกัน คือฉันกับน้อย เนื่องจากไอหลิวมันหลับ

     

     

                         ร้อนจะตาย บ่นรัยอยู่ก้อไม่รู้ ยิ่งเห็นหน้าแกแล้วยิ่งร้อนฉันบ่นพร้อมกับ ใช้มือพัดให้ลมเข้าหน้าไปด้วย จะบอกอะไรให้นะ(นินทานิดนึง) ผอ.โรงเรียนเราน่ะ ไม่มีสง่าราศีของการเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเลย ตอนที่ถูกย้ายมาที่โรงเรียนวันแรก แกใส่ชุดกากีมา ดูแล้วยิ่งเหมือนภารโรง ใครเห็นก้อนึกไม่ออกว่าเป็น ผอ. ดีนะที่อาจารย์บอกพวกเราก่อน ไม่งั้นพวกเราคงจะหน้าแตกกัน ที่สำคัญศรีษะอันเป็นเอกลักษณ์ที่ปราศจากเส้นผมแม้แต่เส้นเดียวของแก ในตอนนี้กำลังเปล่งประกายรัศมีแข่งกับดวงอาทิตย์ตอนแปดโมง

     

                          ใช่ๆๆ โคตรจะร้อนเลย ใส่ชุดนี้แล้วยิ่งร้อนอ่ะ ชุดบ้ารัยวะ อุปกรณ์เยอะชะมัด น้อยบ่น พร้อมกับดึงผ้าพันคอให้หลอมอีกนิด

     

                      

                           ชุดสวยออกแก ใส่แล้วเท่ห์ดี

     

                   

                  สวยกะผีไรอ่ะ กว่าจะใส่ได้แต่ละทีเป็นชั่วโมง ไหนจะผ้าพันคออีก ทำไมไม่ม้วนแล้วก้อใส่ว๊อกเกิลแบบเนตรวะ น้อยบ่นพร้อมกับดึงผ้าพันคอออกมาแล้วพับใหม่

     

     

                          มาเดี๋ยวทำให้ แกนี้น้า ทำอะไรเรียบร้อยเป็นบ้างมั้ยเนี่ย เอา เสร็จแล้ว ไปขึ้นรถได้แล้วจารย์ปล่อยแล้ว

    ไอหลิวโว้ย ตื่นได้แล้วแก ไปขึ้นรถกัน แกนี่ร้อนจะตายยังหลับลง ว่าแล้วก้อจัดการดึงหลิวให้ลุกขึ้น

     

     

                 เออๆๆๆ………ก้อ คนมันง่วงนี่หว่า เมื่อคืนนั่งจัดกระเป๋าจนดึกกว่าจะได้นอนก้อตีสองเข้าไปแล้วหลิวพูดพร้อมกับขยี้ตาให้ตื่น

     

     

                จัดกระเป๋าบ้ารัยของแกวะ ตีสองตีสาม แต่เอาเหอะไปแบกกระเป๋าขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวไม่ได้ที่นั่งดีดีนะโว้ย  พวกเราทั้งสามคนแบกกระเป๋าขึ้นไปบนรถบัส   และเลือกที่นั่งด้านขวาก่อนหลังสุด มันนั่งกันได้พอดีสามคน แน่นอนฉันเลือกริมหน้าต่าง  หลังจากรถวิ่งไปได้แป๊บเดียวฉันก็หลับเป็นตาย ลองไม่หลับซีได้อ๊วกแตกคารถแน่ เพราะว่าฉันเมารถ 55555+(มันน่าขำตรงไหนวะ กับการเมารถ)

     

     

     

     

                 เอาล่ะ หลังจากที่คุยกันมานาน หลายๆท่านคงอาจจะงง ฉันจะแนะนำตัวเองให้ฟังฉันมีชื่อว่าดวงกมล สิริสุธาวรรณ ชื่อเล่นว่าบุ๋ม หน้าตาพอไปวัดได้แบบพระไม่วิ่งหนี สูง167 น้ำหนักอย่าไปพูดถึง ยิ่งพูดยิ่งเครียด ผิวสองสี ครึ่งขาวครึ่งดำ เอิ๊กๆๆๆ เป็นลูกชาวสวนยางพารา  พ่อมีที่ดินแค่พันกว่าไร่เท่านั้น อิอิ  เพื่อนอีกสองคนก้อคือน้อย นฤมล เลิศสุมาภรณ์ ไอนี่หน้าตาดีสูง172 หุ่นนางแบบ ผิวขาว  พ่อแม่เป็นเจ้าของร้านถ่ายรูปรายใหญ่ ที่มีกว่า60สาขาทั่วประเทศ พวกเราเลยได้ถ่ายรูปฟรีบ่อยอ่ะ   คนสุดท้ายคือหลิว วรางคณา สุภักษ์ศิลา  หลิวเป็นคนตัวเล็ก ผิวขาวอมชมพู หน้าตาน่ารักมาก เรียนเก่งด้วย เป็นลูกเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดัง สองคนหลังนี่มีเชื้อสายจีนเลยน่ารักแบบหมวยๆ ส่วยฉันไทยแท้เจ้าค่า  เราทั้งสามคนเรียนอยู่ชั้นม สอง เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว และตอนนี้พวกเรากำลังจะไปเข้าค่ายยุวกาชาติที่อุทยานวรรณคดีภาคใต้ ลูกเสือเนตรนารีจะไปเข้าที่ค่ายท่านมุก (เป็นชื่อเรียกสั้นๆน่ะ เต็มๆ เรียกไม่ถูกแล้ว อยู่ที่อำเภอสะเดา สงขลา)

     

                   แล้วที่พวกเรามาเรียนยุวกาชาติเพราะไปสมัครเนตรนารีไม่ทัน มัวแต่เลือกชุมนุมกันอยู่ อย่างว่าอ่ะนะเด็กเลือกกันเยอะแต่รับจำกัด  เราเลยต้องกระเด็นมานี่ ตอนแรกเซ็งเหมือนกันแหละ เพราะมันเป็นหญิงล้วนไม่มีผู้ชายให้มองเป็นอาหารตา เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ

                         ยุวกาชาติก้อเหมือนๆกับลูกเสือเนตรนารีอ่ะแหละ เพียงแต่ว่าจะเป็นผู้หญิงล้วนๆ  เรียนคล้ายๆเนตรนารีเลย ส่วนชุดจะต่างกับของเนตรนารี ของยุว จะเป็น เสื้อเชิ้ตสีฟ้า ติดเข็มกลัดของยุว กระโปรงจีบรอบสีฟ้า ใส่เสื้อในกระโปรงคาดเข็มขัดหนังสีดำ  มีผ้าพันคอสีน้ำเงินที่ต้องพับแล้วผูกเป็นโบว์ ใส่หมวกสีน้ำเงินแข็งๆ ส่วนรองเท้าปกติจะใส่สีดำแบบชุดนักเรียนอ่ะ  แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นผ้าใบสีขาวเนื่องจากเราต้องไปทำกิจกรรม ฉันชอบชุดนี้มากเลยมันสวยดี ฉันเป็นคนแพ้เครื่องแบบน่ะ

     

     

                          สามสิบนาทีผ่านไป

                       เอาล่ะจ้า เรามาถึงอุทยานแล้ว ยุวกาชาติทุกคนลงจากรถแล้วก้อไปจัดข้าวของ กางเต็นท์ให้เรียบร้อยนะจ้ะ  เจอกันตอนสิบโมง มารวมตัวกันทำพิธีเปิดค่าย ที่ลานกว้าง เสียงอาจารย์ชุลี ผู้ควบคุมค่ายยุวกาชาติประกาศทางโทรโข่ง

     

     

                    ฮ้าว ถึงแล้วเหรอแป๊บเดียวเองอ่ะ หลิวลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายพร้อมกับเอากระเป๋าออกจากรถ

     

     

                    แกก็เอาแต่นอนจริงๆเล๊ย  ไอบุ๋มอ่ะ หลิว แกปลุกไอบุ๋มด้วยเด๊ะ ไม่รู้มันเมารถอีกป่าวน้อยเอากระเป๋าเสร็จก้อขึ้นมาถามหลิวอีกครั้ง

     

     

                     เออๆๆ    บุ๋ม บุ๋มโว้ย ถึงแล้วลุกขึ้นเร็ว…………”

     

     

                     เออ ตื่นแล้วกำลังจะไป     อุ๊บ แหวะ ฉันพูดไม่ทันขาดคำก้อรีบวิ่งลงจากรถ ไปที่โคนต้นไม้ทันที

    เฮ้อ สุดท้ายก็อ๊วกจนได้ โอ๊ยแสบท้อง

     

     

                    เฮ้ย เป็นรัยมากมั้ยวะ หลิวเอาน้ำให้ไอบุ๋มหน่อยดิ หน้าซีดเลยว่ะ แกนี่น้า เมารถเป็นเด็กๆไปได้ น้อยรีบวิ่งลงมาดูอาการ ตอนนี้ทุกคนหันมามองกันเต็มเลย แต่พอรู้ว่าแค่เมารถก้อไม่สนใจ แยกย้ายกันไปเก็บข้าวของต่อ

     

     

                   น้องเป็นอะไรมากหรือป่าวครับเสียงผู้ชายดังขึ้นทางข้างหลัง เอ ค่ายนี้มีแต่ผู้หญิงนี่หว่าทำไมมีผู้ชายมาด้วยอ่ะ ไอน้อยรีบหันกลับไปดู O_O เห็นพี่นศท.คนหนึ่ง (นักศึกษาวิชาทหาร  ซึ่งก็คือ  รด. นั่นแหละ แต่ที่โรงเรียนเราจะเรียก นศท. มันเลยติดปาก) มาถามอาการ  โคตรหล่อเลยอ่ะ  น้อยทำท่าเคลิ้ม   แต่ฉันมึนหัวไปหมดแล้วตอนนี้ไม่สนหรอกว่าหล่อขนาดไหน แต่พาฉันไปนอนทีหมดแรงแล้ว

     

     

           
           
    เอ่อ น้องครับ เป็นอะไรครับ ดูเหมือนพี่เขาจะงงกับอาการของไอน้อย ที่ทำท่าเคลิ้มขนาดหนัก

     

     

                  อ้อ โทษทีค่ะ พอดีแค่งงว่าทำไมถึงมี นศท. มาด้วย คือเพื่อนน้องเมารถน่ะค่ะน้อยที่ดูเหมือนจะรู้สึกตัว ตอบพี่เขา

     

     

                เป็นอะไรมากป่าวครับ  หน้าซีดเลย ไปครับ ไปพักผ่อนก่อนพี่ นศท. คนนั้นก็มาพยุงฉันไป O///O   ง่ะ   นี่เป็นครั้งแรกนะเนี่ย ที่อยู่ใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นนอกจากพี่ฉัน(มีพี่ชายสองคนคือพี่บอยกับพี่เบิ้มน่ะ)ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆนะ ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×