คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มเรื่องราว
**** ไม่อ้างอิงความจริงทางประวัติศาสตร์ ประเพณี ยุคราชวงศ์จีนแผ่นดิน ประเทศ และทุกอย่าง (^o^)
ชื่อก็มั่วเอาเช่นเดียวกับเรื่อง เลือกผิดสินะ ชีวิตเรียบง่ายจึงหายไป เช่นนั้นไม่ต้องคิดคำแปล
เรื่องนี้ไร้สาระมากค่ะ เอื่อยเฉื่อยตามปกติของคนเขียนกว่าจะโตยาวนาน
ตอนแรกมาแค่นี้นะคะ มาให้พออ่านดู แล้วจะหายไปนาน
〰️〰️〰️---------------〰️〰️〰️
ใบหน้าเล็กค่อนข้างกลม ขนตางอนเรียงเส้นสวยขยับเมื่อเจ้าของลืมตาขึ้นมาแล้วต้องปรับสายตากระพริบมองภาพตรงหน้า 'ไทยมุงหรือ แล้วทำไมถึงแต่งตัวเป็นหนังจีนกำลังภายในกัน เพดานก็แปลก' สมองเริ่มทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้า เพราะโรคระบาดที่ทำให้คนป่วยเยอะจนระบบสาธารณะสุขแทบล่ม อาชีพผู้ช่วยเชฟจึงต้องสะดุดลงอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากร้านอาหารรายได้ลดลง รวมถึงอาชีพเสริมตอนกลางคืน มือกลองตามผับบาร์ก็โดนยกเลิกเพราะเปิดกิจการไม่ได้ การเปลี่ยนอาชีพจึงเกิดขึ้น วันหยุดเสาร์อาทิตย์ทำหมูปิ้งไก่ปิ้งขายตามตลาดนัด วันธรรมดาขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหารเพื่อหารายได้ ตอนนั้นก็ขี่อยู่เลนซ้ายสุดด้วยความเร็วปกติตามกฏหมายกำหนด คันหน้าก็ผ่านไปกันได้ แต่พอถึงเธอ รถยนต์ที่จอดนิ่งข้างทางอยู่ ๆ ประตูด้านคนขับก็เปิดพรวดออกมาขวางทางพอดิบพอดีจะเบรคก็ไม่ทัน รถจักรยานยนต์,คันเก่าชนประตูจนเสียหลักล้มรู้สึกร่างลอยกระเด็น หลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดสนิท เมื่อรู้สึกตัวก็กลายเป็นภาพตอนนี้ พอลองขยับร่างกายก็ปวดไปหมด
"จิงเออร์ฟื้นแล้ว รีบไปบอกท่านประมุข" เสียงหวานสั่งบ่าวรับใช้ แต่แล้วเมื่อเห็นสายตาเลื่อนลอยระคนสงสัยของบุตรสาวก็ใจไม่ดี บุตรสาวคนเล็กของนางเย่ลี่จิงอายุเพียง 8 หนาวคิดทำตามพี่ชาย ใช้วิชาตัวเบาเดินขึ้นไปตามหน้าผา ทั้งที่ตนเองมีพลังปราณยังไม่เพียงพอ จึงตกลงมาสลบไปเกือบ 2 ชั่วยาม ดีที่ไม่มีบาดแผลใหญ่มีเพียงรอยขีดข่วน ไหล่
หลุดและฟกช้ำ แต่สายตาที่ดูงุนงงสับสนกำลังมองนางอยู่อาจเกิดจากศีรษะกระทบกระเทือน "รู้สึกเจ็บปวดตรงไหน จิงเออร์ลูกแม่" มือลูบใบหน้าบุตรสาว แล้วเลื่อนไปจับชีพจร
คิ้วเล็กบางขมวด หญิงสาววัยประมาณ 30 ผิวยาวจัดดวงตาเรียวนี่หรือแม่ ! สายตามองไปที่เด็กชายอีก 2 คนวัย 10 ขวบกว่า ๆ ที่ยืนมองด้วยสีหน้าเป็นห่วงปนวิตกกังวล
"หรือว่าน้องสามจะ ...จะจำอะไรไม่ได้"
"น้องสาม จำพี่ได้ไหม?"
คนที่ยังสงสัยว่าตนเองกำลังนอนรักษาตัวหลังเกิดอุบัติเหตุอยู่ที่ไหนมองเด็กชายวัยประมาณมัธยมต้นแต่งชุดจีนโบราณ 2 คนที่พูดขึ้นสลับกัน จิงเออร์ แม่ น้องสาม พี่ชาย !! หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อมือที่ยกขึ้นมาเพื่อบีบขมับจากการปวดหัวกลับเป็นมืออวบเล็ก ๆ ขาวจัดอย่างผิวคนจีนไม่ใช่มือคนทำงานของสาววัย 25 ปี นี่เธอตายแล้วเกิดใหม่หรือ ทำไมไม่ไปนรกสวรรค์ใช้บุญกรรมแล้วก็เกิดใหม่เป็นทารก หรือเป็นการใช้บุญใช้กรรมยุคใหม่ไร้พรมแดนย่นระยะเวลา
เสียงประตูเปิดพร้อมด้วยเสียงทุ้มเอ่ยอย่างรีบร้อน "ลูกฟื้นแล้วหรือ"
คนบนเตียงที่โดนจับจ้องด้วยสายตา 6 คู่เบี่ยงหน้าหันไปมองต้นเสียง เห็นชายหนุ่มอายุราว 35 - 40 ปี ร่างสูงกำยำผิวคล้ามแดดเล็กน้อย ใบหน้าคมคายดุดันดูแล้วถ้าเล่นหนังจีนคงอยู่ฝ่ายอธรรม หรือเล่นเป็นผู้ร้ายอยู่เบื้องหลังวางแผนแยบยลในภาพยนต์บู๊ล้างผลาญเพราะหน้าหล่อร้าย คางเป็นสันชัด นัยน์ตาดุคิ้วหนารีบก้าวเข้ามา ก่อนจะยืนจ้องสบตากับใบหน้าเล็กที่นอนมอง คิ้วเข้มขมวดจนเห็นร่องลึก
"ทำไม?"
'ทำไมอะไร?' หรือความปวดเมื่อยตามเนื้อตัวนี่ ขาหัก นิ้วหักไปหรือ รีบขยับก็อยู่ครบ ขาขยับก็รู้สึก
"เหมือนลูกจะจำพวกเรามิได้"น้ำเสียงสั่นเครือของสตรีเอ่ยบอก "ข้าจะลองฝังเข็ม"
'ฝังเข็ม ! ' สายตาหวาดกลัวชำเลืองมองม้วนผ้าซึ่งพอสตรีที่บอกว่าจะฝังเข็มคลี่ออก ก็มีเข็มอยู่หลายสิบเล่มเสียบอยู่เหมือนที่เก็บดินสอ พยายามจะขยับตัวหนี ความเจ็บปวดตรงหัวไหล่ทำให้หลุดเสียงร้อง "โอ้ย" ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเสียงที่เปล่งออกมานั้นเล็กหวานใสเป็นเสียงเด็ก
คนที่รีบเข้ามาประคองคือบุรุษที่เพิ่งเข้ามาใหม่ "อย่าเพิ่งขยับ ครั้งนี้เจ้าเจ็บหนักกว่าทุกครั้งรู้หรือไม่" เสียงค่อนข้างดุเจือห่วงใย
'ควรเรียกตนเองว่าอะไร ผู้ชายคนนี้คงเป็นพ่อ' เมื่อกำลังสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก แล้วยังกลัวว่าจะพูดผิดจึงเงียบ นอนลงอย่างว่าง่ายพลางมองดูเข็มในมือขาวเนียนที่มาอยู่ตรงหน้า กลืนน้ำลายด้วยความหวั่นใจ เจ็บเหมือนฉีดยาไหม ทำอย่างไรดี ที่นี่ที่ไหน เด็กคนนี้อายุเท่าไหร่ เธอตายแล้วหรือแค่วิญญาณออกจากร่างมาเข้าร่างคนอื่น เป็นผีสิงคนอื่นเช่นนี้จะโดนพระมาไล่ไหม ถ้าเธอมาสิงก็น่าจะคุยกับเจ้าของร่างได้สิ เหมือนในละครจึงหลับตาพยายามพูดคุยในใจ แล้วรู้สึกว่ามีเข็มจิ้มตรงระหว่างคิ้วแต่ไม่เจ็บ แล้วก็มีอีก 3 จุดบนใบหน้า ทุกจุดล้วนตึง ๆ แต่ไม่เจ็บเหมือนโดนฉีดยาหรือโดนเข็มตำ เมื่อไม่รู้สึกเจ็บจึงไม่สนใจ ตั้งใจหาทางคุยกับเจ้าของร่าง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา เพราะมัวหลับตาจึงไม่เห็นสีหน้าวิตกกังวลของทุกคนที่รายล้อมอยู่
"จิงเออร์ รู้สึกอย่างไร" บุตรสาวของนางนอกจากจะจำสิ่งใดไม่ได้ ยังพูดโต้ตอบได้หรือไม่
นัยน์ตารูปเมล็ดซื่งลืมตาขึ้นมอง ก่อนส่ายหน้าเพราะยังปรับตัวไม่ทัน ไม่รู้ควรทำอย่างไรจึงไม่อยากพูด
ผู้เป็นมารดายกมือขึ้นปิดปากตนเองน้ำตารื่น นางเป็นหมอยังไม่รู้ว่าทำไมบุตรสาวถึงสูญเสียความทรงจำ ศีรษะมีรอยช้ำและโนเล็กน้อยไม่น่าจะกระทบกระเทือนมาก แล้วยังพูดไม่ได้อีก สามีดึงตัวนางไปโอบกอดอย่างปลอบใจ
"เป็นพ่อแม่และพี่ชายเหรอ?" สายตาไล่ทีละคนตามลำดับที่เอ่ย
"จิงเออร์ จำอะไรไม่ได้จริง ๆ ด้วย" เด็กชายที่โตที่สุดพูดขึ้น
"บางทีอาจแค่ชั่วคราว" เด็กชายอีกคนพูดขึ้นบ้าง สายตามองคนตัวเล็กที่ยังกระพริบตาปริบ ๆ มองเขาอย่างคนแปลกหน้า
เย่ฮวงเทียนเป็นคนตอบบุตรสาว "พ่อ แล้วนี่แม่ของเจ้า" ชี้ไปทางบุตรชายอีก 2 คน " พี่ใหญ่ พี่รอง เจ้าจำชื่อตนเองได้ไหม"
หลังจากคิดว่าไม่ควรโวยวาย บอกความจริงว่าตนเป็นใคร จึงตัดสินใจปิดบัง "จิงเออร์" เสียงเล็กหวานใสตอบเบา ๆ
"ชื่อแซ่เต็ม ๆ" เย่ฮวงเทียนถามอีกครั้ง
"ไม่รู้" ก่อนจะปวดศีรษะจนนิ่วหน้า ได้ยินเสียงสตรีที่เป็นมารดาร้องเรียกอย่างตกใจทั้งที่อยู่ใกล้แต่เสียงเหมือนห่างไกล ความรู้สึกเหมือนร่วงหล่นจากที่สูง แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไปอีกครั้ง
"ท่านแม่ น้องเป็นอย่างไร" เย่หยางไคถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นร่างเล็กยกมือกุมศีรษะ ท่าทางเจ็บปวดแล้วสลบไป
"แม่ก็จนปัญญาได้แต่รักษาตามอาการ ที่ตรวจดูตอนนี้นอกจากรอยช้ำทุกอย่างในร่างกายทั้งอวัยวะภายในก็ปกติ นางเพิ่งฟื้นคงต้องพักผ่อน" ถอนหายใจแล้วมองสบตาสามี "หากนางจำสิ่งใดไม่ได้"
"ก็ค่อย ๆ บอก ค่อย ๆ สอนกันใหม่ นางอยู่กับเราอย่างไรก็มีความผูกพัน ไม่เป็นไร" เสียงทุ้มปลอบ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ความหนักอึ้งในหัวเหมือนตอนฝันร้ายแล้วต้องตื่นนอนกระทันหันทำให้ขยับศีรษะ หายใจหอบหนัก รู้สึกสัมผัสจากฝ่ามือที่ลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน พอลืมตาก็เห็นสตรีผิวขาวเนียนคนเดิม
"ท่านแม่" มองใบหน้าเรียวที่ไม่ใช่รูปไข่สมบูรณ์เป๊ะอย่างสาว
เกาหลีผ่านมือหมอแต่ก็ถือว่า เรียวสวย "ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ จิงเออร์พอจำอะไรได้เล็กน้อยแล้ว"
เย่ฮูหยินยิ้มอย่างดีใจ ก้มหน้าไปหอมแก้มกลมของบุตรสาว "เจ้าชื่อแซ่อะไร"
"เย่ลี่จิง 8 หนาว พี่ชายใหญ่ เย่หยางไค พี่ชายรอง เย่ตงเหิง จิงเออร์ตกหน้าผาถึงมานอนอยู่นี่" ความจริงอยากจะบอกว่า ณิรินอายุ 25 ปี โดนพวกเผอเรอไร้ความระมัดระวังเปิดประตูรถออกมาโดยไม่สนใจใคร ทำให้มานอนอยู่นี่ ถ้าฝันเป็นจริง ณิริณตายแล้ว เฮ้อ ! บิดามารดาล้วนเสียชีวิตเพราะคนเมาแล้วขับ ตนเองก็ตายเพราะความสะเพร่าของคนขับรถอีก พี่สาว 2 คนต่างแต่งงานมีครอบครัว ประกันชีวิตก็มี เท่ากับมีเงินก้อนให้พี่สาวคนละครี่งตามที่เคยลงชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้ในสัญญาประกัน ไม่มีหนี้สินเพราะมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้อยู่เท่านั้น ไม่กินหรูไม่อยู่สบาย ไม่มีเงินซื้อบ้านก็เช่าหอ มอเตอร์ไซค์ซื้อตั้งแต่เรียนจบผ่อนหมดแล้ว ไม่มีสิ่งให้กังวล สายตามองใบหน้างดงามของสตรี แปลกหน้า นัยน์ตาเรียวสวยซึ่งยังคงยิ้มให้อย่างดีใจ ชีวิตที่ไม่มีบิดามารดาดูแลปรับตัวสู้งานดูแลตนเองมาตลอดกับเรื่องหลุดโลกตอนนี้ทำไมจะปรับตัวไม่ได้ "แต่บางเรื่องก็ยังนึกไม่ออก" เสียงเล็กบอกออกไป
ความคิดเห็น