ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เย่ลี่จิง (อ่านฟรี 3 วัน ติดเหรียญนะคะ) จบแล้วค่ะ

    ลำดับตอนที่ #8 : ฝึก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 65


                หลังกลับมาจากท่องเที่ยวเสมือนจริง  ร่างเล็กนั่งเอามือเท้าคางอยู่ในห้องของตนเอง  สิ่งที่เป็นความรู้ใหม่ก็มี แนวทางชีวิตในโลกนี้เริ่มเป็นรูปร่าง เพราะตัวตนมิใช่คนอ่อนแอและชอบความสนุกตื่นเต้น การฝึกยุทธจึงไม่ใช่สิ่งที่ฝืนทน  นั่งนึกถึงอาวุธที่มีในอานิเมะในเกมส์   อาวุธ 2  มือน่าจะเหมาะกับนาง  พรุ่งนี้จะบอกพี่ใหญ่ก็แล้วกัน
           

                ช่วงสายวันต่อมา ที่คิดไว้ว่าจะคุยกับเย่หยางไคเรื่องการใช้อาวุธ  กลับกลายเป็นว่าการฝึกวันนี้ค่อนข้างจริงจังเด็กหญิงจึงยืนนิ่งสงบเสงี่ยมอยู่กับพี่ชายทั้งสองมิได้พูดบอกความต้องการของตน   การฝึกยุทธของบุตรตระกูลเย่ผู้ฝึกสอนหลักคือลุงเฉียวฟงมือขวาของบิดา   บางครั้งก็เป็นเย่ฮวงเทียนเองที่มาสอน  นับตั้งแต่เย่ลี่จิงฟื้นขึ้นมาจากการบาดเจ็บครั้งล่าสุด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประมุขตระกูลเย่มาสอนบุตรทั้ง 3 ด้วยตนเอง 

        

             เย่ลี่จิงมองบิดาสีหน้าเคร่งขรึม ยืนหลังตรงมือไพล่หลังท่าทางจริงจังดั่งครูพละเตรียมสอนสมรรถภาพทางกาย   


               "หยางไค ตงเหิงหยิบอาวุธที่ถนัด"  แล้วเบี่ยงหน้าไปทางบุตรสาวที่มองด้วยแววตาใฝ่รู้  "ลี่จิง อาวุธที่ถนัดมือมีหรือยัง" 

      

                'เสียงโหด ไม่เหมือนตอนแรกที่เจอเลยแหะ'     "ยังเจ้าค่ะ"   กลีบปากเล็กปิดสนิทก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม   "ลูกอยากลองว่าถนัดสิ่งใดได้ไหมเจ้าคะ"  

     

                "ได้สิ"  

     

                 พี่ใหญ่เลือกดาบไม้ พี่รองเลือกกระบี่ไม้   เท้าเล็กเดินไปหยุดตรงดาบสั้นไม้ที่วางอยู่เป็นคู่  กระชับไว้ในมือทั้ง 2 ข้างซึ่งไม่รู้ว่าใช้วิธีอันใดทำให้ดาบสั้นไม้มีน้ำหนักไม่เบาอย่างของปลอม    ก่อนเดินไปยืนเรียงหน้ากระดานร่วมกับพี่ชาย  

        

               "เจ้าจะใช้ดาบผีเสื้อหรือ?"  เย่ฮวงเทียนถามบุตรสาว 

         

               "ลูกอยากลองใช้ 2 มือเจ้าค่ะ

    แต่หากใช้กระบี่ก็ยาวจนเกินไป  ใช้ไม้พลองก็ลำบาก  ดาบสั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้เจ้าค่ะ แต่ลูกก็ยังไม่ชอบเพราะเทอะทะ  ความจริงลองอยากใช้กระบี่สั้นเจ้าค่ะ"    
          

                  สายตาของบิดาและพี่ชายล้วนมองมาที่นางอย่างกังขาระคนแปลกใจ   ร่างสูงแข็งแรงของบิดาเดินไปที่เก็บอาวุธสำหรับฝึกซ้อม  มือซ้ายหยิบกระบี่ไม้ขึ้นมา ส่วนมือขวา..  

        

                 เย่ลี่จิงตาโตเมื่อเห็นท่าในตำนานหนังจีนกำลังภายใน    สองนิ้วหักกระบี่ 'กระดูกนิ้วแข็งเบอร์ไหนนี่'    

         

                  ร่างเล็กมั่นใจว่า บิดาทำให้นาง แถมยังทำให้ 2 อันจึงเดินไปวางดาบผีเสื้อ แล้วรับกระบี่ปลายหักที่เหลือความยาวเพียง 1 ศอกมาถือไว้  "ขอบคุณเจ้าค่ะ"   

       

                  ผู้เป็นบิดาหันไปสั่งบุตรชาย "เจ้าทั้งสองซ้อมคู่กัน"  

          

                   นัยน์ตารูปเมล็ดซิ่งมองบิดาที่หันหน้ามาหานาง  เริ่มเห็นเค้าลางโชคร้าย ตอนเรียนวิชาพละหากมีการจับคู่แล้วเหลือเศษก็ต้องคู่กับครูพละ   

        

                  "พ่อจะฝึกซ้อมกับเจ้าเอง" 

        

                   'นั่นไง'     "เจ้าค่ะ" 

          

                    "การฝึกสองมือมีกระบวนท่าแตกต่าง ต้องแยกประสาทสัมผัส กำลังต้องมีเพียงพอ มาดูกันว่าเจ้าจะแบ่งแยกได้ดีหรือไม่" 

         

                    เย่ลี่จิงลอบยิ้มในใจ  ตีกลอง ต้องใช้ทั้งมือและเท้า  ดังนั้นการใช้ 2 มือ นางมั่นใจ  

        

                     ผ่านไป 2  เค่อ ท่วงท่าของร่างเล็กคล่องแคล่ว  มือซ้ายยกกระบี่ขึ้น มือขวาขวาตั้งรับก่อนจะตวัดตอบโต้ เท้าก็ขยับก้าวไปในทิศทางที่สมดุลกับกระบวนท่าตามบิดาสอน สองมือประสานช่วยกันทั้งป้องกันและบุกทะลวง

       

                    นัยน์ตาคมมองบุตรสาวซ้อมกระบวนท่ากระบี่สองมือซึ่งปกติน้อยคนนักที่จะเลือกฝึก ดูท่าทางแล้วเย่ลี่จิงสามารถที่จะฝึกได้ แม้ตอนนี้สองมือจะมีกำลังไม่เท่ากัน แต่หากตั้งใจฝึกฝนย่อมสามารถใช้ได้ดี   ส่วนบุตรชายทั้งสองเมื่ออายุครบ 14 หนาวเขาจะให้จับอาวุธจริงประลองฝีมือ  ร่างสูงที่แฝงไปด้วยความเด็ดขาดเดินเข้าไปหาบุตรสาว  กำหมัดเตรียมพร้อม

        

                 เย่ลี่จิงเห็นบิดาเดินมา ตั้งท่าเตรียมจู่โจมก็ชะงัก  

          

                 "ถ้าหากศัตรูมาเจ้าจะชะงักเช่นนี้ได้รึ!"  แล้วพุ่งเข้าหาบุตรสาวด้วยกำลังเพียงหนึ่งส่วน 

         

                   'ก็บิดาไม่ใช่ศัตรูไง  แล้วพุ่งมาทำไม!'   เท้าเล็กรีบถอยหนี  ใช้ปลายเท้าถีบตัวหลบไปมา

          

                    "อย่าเอาแต่หนี"  เสียงเข้มดุ  

       

                     เรียวปากเล็กเม้มเข้าหากัน ในใจแอบบ่น   'จะให้ทำไง  ท่าไหนก็ได้ใช่ไหม'  มือเล็กกระชับกระบี่มั่น  พลางนึกถึงจังหวะเพลงร๊อคที่ต้องหวดสุดมันส์ กระเดื่องเดือด เท้าที่ถอยหนีหยุดยืนมั่นคง กระบี่ทั้งสองยื่นไปด้านหน้า  พยายามบอกตนว่าเย่ฮวงเทียนเป็นกลองชุดที่ขยับได้ ก่อนจะขยับแขนและข้อมือฟาดไปยังกลองชุดที่เคลื่อนที่เข้ามา 

     

                    การตั้งรับและการตอบโต้ของบุตรสาวค่อนข้างแปลก คล้ายไม่มีกฎเกณฑ์ แต่จังหวะไม่ขาดตอนกระหน่ำทั้งฟันและฟาดกระบี่ใส่เขาอย่างรวดเร็วเท่ากำลังของเด็กน้อยที่สามารถทำได้  มีกระบวนท่าที่เขาให้ฝึกผสมอยู่บ้าง และบางครั้งก็เป็นกระบี่เดียวที่หยางไคสอนให้ ยามหลบหลีกก็ถอยไปเสียไกล  จากการลองต่อสู้กับบุตรสาวก็พอสรุปได้ว่า  เย่ลี่จิงเหมาะกับอาวุธคู่อย่างที่นางต้องการ  แต่กระบวนท่ามั่วซั่วนี่คืออันใด

       

                      ร่างเล็กนอนหงายแผ่อยู่กับพื้น เมื่อบิดาอนุญาตให้พัก โดยไม่สนว่าผมจะยุ่งเลอะเศษดินเศษหญ้า เสื้อผ้าจะเลอะเทอะ   'เหนื่อยชะมัด'   เสียงบิดายังคงสอนเย่หยางไคและเย่ตงเหิง ครานี้ให้ใช้อาวุธจริงแต่ไม่ได้ให้

    ประลองกัน   สายตามองก้อนเมฆสีขาวนุ่มฟูค่อย ๆ เคลื่อนตัวตามแรงลม รูปร่างแตกต่างตามจินตนาการ  การได้มองนอนท้องฟ้าเรื่อย ๆ เช่นนี้ สบายใจดีเหมือนกัน อยู่ ๆ ใบหน้าของเย่ตงเหิงก็บังทุกอย่างจากสายตาเมื่อผู้เป็นพี่ยืนค้ำหัวชะโชกหน้ามามองนาง   
     

                 "น้องสามยังไม่สลบ  สงสัยท่านพ่อจะเบามือไปนะขอรับ" 

      

                  คิ้วเล็กกระตุก ริมฝีปากเผยออย่างเตรียมตัวจะต่อว่าพี่ชายตนเอง   'คนที่นี่เห็นเด็ก 8 ขวบแข็งแรงทนถึกนักหรือไง'   เสียงเข้มของบิดาดังตามมา  

     

                   "เจ้าใช้อาวุธสองมือได้ดี ควรหัดดาบผีเสื้อไว้ด้วย  ให้พักอีกครึ่งเค่อแล้วลุกขึ้นมาฝึกต่อ"   

     

                    แววตาต่อว่าจึงถูกส่งไปให้พี่ชายที่ทำหน้าล้อเลียนเยาะเย้ยก่อนจะผลุบหายไปจากสายตา    ให้ตายเถอะ  ถึงจะไม่ฝืนทนแต่ฝึกหนักก็ไม่ไหวนะ  แล้วนึกวิธีหลีกเลี่ยง หากทำเป็นสนใจวิชาแพทย์อาจจะไม่ต้องฝึกยุทธหนักก็เป็นได้   มารดาอย่างไรก็ใจดีมากกว่าบิดา

        

                   หลังอาหารเย็นในวันเดียวกัน  เย่ลี่จิงจึงเอ่ยกับครอบครัวยามพร้อมหน้า


                   "ท่านแม่   ลูกอยากเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับท่านแม่ได้หรือไม่เจ้าคะ"       

         

                    "ได้สิ  เจ้าเรียนกับอาจารย์เสร็จ ก็มาหาแม่ได้เสมอ"  

       

                    "ขอบคุณเจ้าค่ะ"  เด็กหญิงกระหยิ่มยิ้มย่อง จะเรียนบ้างขี้เกียจ จำได้บ้างไม่ได้บ้างก็คงดีกว่า  

         

                   สายตาของบุพการีทั้งสองมองบุตรคนสุดท้องอย่างเอ็นดูและภูมิใจที่ลี่จิงใฝ่รู้   ทางเย่ฮวงเทียนนั้นคิดว่า บุตรสาวเก่งทั้งบุ๋นและบู๊คงดีมิน้อย อนาคตเมื่อถึงวัยออกเรือน ความเก่งกาจของนางก็จะทำให้บรรดาแมลงไร้ความสามารถไม่กล้าเข้าใกล้  ส่วนทางฟานถิงย่อมพอใจที่บุตรสาวสนใจเรียนรู้ด้านการรักษามากกว่าจับกระบี่ขี่ม้ายิงธนู นางอยากมีบุตรสาวสักคนมากกว่าบุตรชาย 3 คน  

          --------------   

    เครดิต hmong.in.th




    ดาบผีเสื้อมีพื้นเพมาจากภาคใต้ของจีนแม้ว่ามันจะยังได้เห็นการใช้งานในภาคเหนือ    ใบดาบผีเสื้อมีความยาวพอ ๆ กับปลายแขนของมนุษย์ซึ่งช่วยให้สามารถปกปิดได้ง่ายภายในแขนเสื้อหรือรองเท้าบูทหลวม ๆ และช่วยให้คล่องแคล่วมากขึ้นเมื่อหมุนในระหว่างการต่อสู้ระยะประชิด  ดาบผีเสื้อมักจะใช้เป็นคู่ มักจะถือดาบคู่หนึ่งเคียงข้างกันภายในฝักเดียวกันเพื่อให้มีลักษณะเป็นอาวุธเดียว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×