คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ฝึก
ช่วงสายวันต่อมา ที่คิดไว้ว่าจะคุยกับเย่หยางไคเรื่องการใช้อาวุธ กลับกลายเป็นว่าการฝึกวันนี้ค่อนข้างจริงจังเด็กหญิงจึงยืนนิ่งสงบเสงี่ยมอยู่กับพี่ชายทั้งสองมิได้พูดบอกความต้องการของตน การฝึกยุทธของบุตรตระกูลเย่ผู้ฝึกสอนหลักคือลุงเฉียวฟงมือขวาของบิดา บางครั้งก็เป็นเย่ฮวงเทียนเองที่มาสอน นับตั้งแต่เย่ลี่จิงฟื้นขึ้นมาจากการบาดเจ็บครั้งล่าสุด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประมุขตระกูลเย่มาสอนบุตรทั้ง 3 ด้วยตนเอง
เย่ลี่จิงมองบิดาสีหน้าเคร่งขรึม ยืนหลังตรงมือไพล่หลังท่าทางจริงจังดั่งครูพละเตรียมสอนสมรรถภาพทางกาย
"หยางไค ตงเหิงหยิบอาวุธที่ถนัด" แล้วเบี่ยงหน้าไปทางบุตรสาวที่มองด้วยแววตาใฝ่รู้ "ลี่จิง อาวุธที่ถนัดมือมีหรือยัง"
'เสียงโหด ไม่เหมือนตอนแรกที่เจอเลยแหะ' "ยังเจ้าค่ะ" กลีบปากเล็กปิดสนิทก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม "ลูกอยากลองว่าถนัดสิ่งใดได้ไหมเจ้าคะ"
"ได้สิ"
พี่ใหญ่เลือกดาบไม้ พี่รองเลือกกระบี่ไม้ เท้าเล็กเดินไปหยุดตรงดาบสั้นไม้ที่วางอยู่เป็นคู่ กระชับไว้ในมือทั้ง 2 ข้างซึ่งไม่รู้ว่าใช้วิธีอันใดทำให้ดาบสั้นไม้มีน้ำหนักไม่เบาอย่างของปลอม ก่อนเดินไปยืนเรียงหน้ากระดานร่วมกับพี่ชาย
"เจ้าจะใช้ดาบผีเสื้อหรือ?" เย่ฮวงเทียนถามบุตรสาว
"ลูกอยากลองใช้ 2 มือเจ้าค่ะ
แต่หากใช้กระบี่ก็ยาวจนเกินไป ใช้ไม้พลองก็ลำบาก ดาบสั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้เจ้าค่ะ แต่ลูกก็ยังไม่ชอบเพราะเทอะทะ ความจริงลองอยากใช้กระบี่สั้นเจ้าค่ะ"สายตาของบิดาและพี่ชายล้วนมองมาที่นางอย่างกังขาระคนแปลกใจ ร่างสูงแข็งแรงของบิดาเดินไปที่เก็บอาวุธสำหรับฝึกซ้อม มือซ้ายหยิบกระบี่ไม้ขึ้นมา ส่วนมือขวา..
เย่ลี่จิงตาโตเมื่อเห็นท่าในตำนานหนังจีนกำลังภายใน สองนิ้วหักกระบี่ 'กระดูกนิ้วแข็งเบอร์ไหนนี่'
ร่างเล็กมั่นใจว่า บิดาทำให้นาง แถมยังทำให้ 2 อันจึงเดินไปวางดาบผีเสื้อ แล้วรับกระบี่ปลายหักที่เหลือความยาวเพียง 1 ศอกมาถือไว้ "ขอบคุณเจ้าค่ะ"
ผู้เป็นบิดาหันไปสั่งบุตรชาย "เจ้าทั้งสองซ้อมคู่กัน"
นัยน์ตารูปเมล็ดซิ่งมองบิดาที่หันหน้ามาหานาง เริ่มเห็นเค้าลางโชคร้าย ตอนเรียนวิชาพละหากมีการจับคู่แล้วเหลือเศษก็ต้องคู่กับครูพละ
"พ่อจะฝึกซ้อมกับเจ้าเอง"
'นั่นไง' "เจ้าค่ะ"
"การฝึกสองมือมีกระบวนท่าแตกต่าง ต้องแยกประสาทสัมผัส กำลังต้องมีเพียงพอ มาดูกันว่าเจ้าจะแบ่งแยกได้ดีหรือไม่"
เย่ลี่จิงลอบยิ้มในใจ ตีกลอง ต้องใช้ทั้งมือและเท้า ดังนั้นการใช้ 2 มือ นางมั่นใจ
ผ่านไป 2 เค่อ ท่วงท่าของร่างเล็กคล่องแคล่ว มือซ้ายยกกระบี่ขึ้น มือขวาขวาตั้งรับก่อนจะตวัดตอบโต้ เท้าก็ขยับก้าวไปในทิศทางที่สมดุลกับกระบวนท่าตามบิดาสอน สองมือประสานช่วยกันทั้งป้องกันและบุกทะลวง
นัยน์ตาคมมองบุตรสาวซ้อมกระบวนท่ากระบี่สองมือซึ่งปกติน้อยคนนักที่จะเลือกฝึก ดูท่าทางแล้วเย่ลี่จิงสามารถที่จะฝึกได้ แม้ตอนนี้สองมือจะมีกำลังไม่เท่ากัน แต่หากตั้งใจฝึกฝนย่อมสามารถใช้ได้ดี ส่วนบุตรชายทั้งสองเมื่ออายุครบ 14 หนาวเขาจะให้จับอาวุธจริงประลองฝีมือ ร่างสูงที่แฝงไปด้วยความเด็ดขาดเดินเข้าไปหาบุตรสาว กำหมัดเตรียมพร้อม
เย่ลี่จิงเห็นบิดาเดินมา ตั้งท่าเตรียมจู่โจมก็ชะงัก
"ถ้าหากศัตรูมาเจ้าจะชะงักเช่นนี้ได้รึ!" แล้วพุ่งเข้าหาบุตรสาวด้วยกำลังเพียงหนึ่งส่วน
'ก็บิดาไม่ใช่ศัตรูไง แล้วพุ่งมาทำไม!' เท้าเล็กรีบถอยหนี ใช้ปลายเท้าถีบตัวหลบไปมา
"อย่าเอาแต่หนี" เสียงเข้มดุ
เรียวปากเล็กเม้มเข้าหากัน ในใจแอบบ่น 'จะให้ทำไง ท่าไหนก็ได้ใช่ไหม' มือเล็กกระชับกระบี่มั่น พลางนึกถึงจังหวะเพลงร๊อคที่ต้องหวดสุดมันส์ กระเดื่องเดือด เท้าที่ถอยหนีหยุดยืนมั่นคง กระบี่ทั้งสองยื่นไปด้านหน้า พยายามบอกตนว่าเย่ฮวงเทียนเป็นกลองชุดที่ขยับได้ ก่อนจะขยับแขนและข้อมือฟาดไปยังกลองชุดที่เคลื่อนที่เข้ามา
การตั้งรับและการตอบโต้ของบุตรสาวค่อนข้างแปลก คล้ายไม่มีกฎเกณฑ์ แต่จังหวะไม่ขาดตอนกระหน่ำทั้งฟันและฟาดกระบี่ใส่เขาอย่างรวดเร็วเท่ากำลังของเด็กน้อยที่สามารถทำได้ มีกระบวนท่าที่เขาให้ฝึกผสมอยู่บ้าง และบางครั้งก็เป็นกระบี่เดียวที่หยางไคสอนให้ ยามหลบหลีกก็ถอยไปเสียไกล จากการลองต่อสู้กับบุตรสาวก็พอสรุปได้ว่า เย่ลี่จิงเหมาะกับอาวุธคู่อย่างที่นางต้องการ แต่กระบวนท่ามั่วซั่วนี่คืออันใด
ร่างเล็กนอนหงายแผ่อยู่กับพื้น เมื่อบิดาอนุญาตให้พัก โดยไม่สนว่าผมจะยุ่งเลอะเศษดินเศษหญ้า เสื้อผ้าจะเลอะเทอะ 'เหนื่อยชะมัด' เสียงบิดายังคงสอนเย่หยางไคและเย่ตงเหิง ครานี้ให้ใช้อาวุธจริงแต่ไม่ได้ให้
ประลองกัน สายตามองก้อนเมฆสีขาวนุ่มฟูค่อย ๆ เคลื่อนตัวตามแรงลม รูปร่างแตกต่างตามจินตนาการ การได้มองนอนท้องฟ้าเรื่อย ๆ เช่นนี้ สบายใจดีเหมือนกัน อยู่ ๆ ใบหน้าของเย่ตงเหิงก็บังทุกอย่างจากสายตาเมื่อผู้เป็นพี่ยืนค้ำหัวชะโชกหน้ามามองนาง"น้องสามยังไม่สลบ สงสัยท่านพ่อจะเบามือไปนะขอรับ"
คิ้วเล็กกระตุก ริมฝีปากเผยออย่างเตรียมตัวจะต่อว่าพี่ชายตนเอง 'คนที่นี่เห็นเด็ก 8 ขวบแข็งแรงทนถึกนักหรือไง' เสียงเข้มของบิดาดังตามมา
"เจ้าใช้อาวุธสองมือได้ดี ควรหัดดาบผีเสื้อไว้ด้วย ให้พักอีกครึ่งเค่อแล้วลุกขึ้นมาฝึกต่อ"
แววตาต่อว่าจึงถูกส่งไปให้พี่ชายที่ทำหน้าล้อเลียนเยาะเย้ยก่อนจะผลุบหายไปจากสายตา ให้ตายเถอะ ถึงจะไม่ฝืนทนแต่ฝึกหนักก็ไม่ไหวนะ แล้วนึกวิธีหลีกเลี่ยง หากทำเป็นสนใจวิชาแพทย์อาจจะไม่ต้องฝึกยุทธหนักก็เป็นได้ มารดาอย่างไรก็ใจดีมากกว่าบิดา
หลังอาหารเย็นในวันเดียวกัน เย่ลี่จิงจึงเอ่ยกับครอบครัวยามพร้อมหน้า
"ท่านแม่ ลูกอยากเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับท่านแม่ได้หรือไม่เจ้าคะ"
"ได้สิ เจ้าเรียนกับอาจารย์เสร็จ ก็มาหาแม่ได้เสมอ"
"ขอบคุณเจ้าค่ะ" เด็กหญิงกระหยิ่มยิ้มย่อง จะเรียนบ้างขี้เกียจ จำได้บ้างไม่ได้บ้างก็คงดีกว่า
สายตาของบุพการีทั้งสองมองบุตรคนสุดท้องอย่างเอ็นดูและภูมิใจที่ลี่จิงใฝ่รู้ ทางเย่ฮวงเทียนนั้นคิดว่า บุตรสาวเก่งทั้งบุ๋นและบู๊คงดีมิน้อย อนาคตเมื่อถึงวัยออกเรือน ความเก่งกาจของนางก็จะทำให้บรรดาแมลงไร้ความสามารถไม่กล้าเข้าใกล้ ส่วนทางฟานถิงย่อมพอใจที่บุตรสาวสนใจเรียนรู้ด้านการรักษามากกว่าจับกระบี่ขี่ม้ายิงธนู นางอยากมีบุตรสาวสักคนมากกว่าบุตรชาย 3 คน
--------------เครดิต hmong.in.th
ดาบผีเสื้อมีพื้นเพมาจากภาคใต้ของจีนแม้ว่ามันจะยังได้เห็นการใช้งานในภาคเหนือ ใบดาบผีเสื้อมีความยาวพอ ๆ กับปลายแขนของมนุษย์ซึ่งช่วยให้สามารถปกปิดได้ง่ายภายในแขนเสื้อหรือรองเท้าบูทหลวม ๆ และช่วยให้คล่องแคล่วมากขึ้นเมื่อหมุนในระหว่างการต่อสู้ระยะประชิด ดาบผีเสื้อมักจะใช้เป็นคู่ มักจะถือดาบคู่หนึ่งเคียงข้างกันภายในฝักเดียวกันเพื่อให้มีลักษณะเป็นอาวุธเดียว
ความคิดเห็น