คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : แผนการณ์
“ไปตามหาพวกมันให้เจอ”พิทช์สั่งเหล่าไนท์แมร์นับร้อยตัวด้วยเสียงแข็งกร้าว ขณะที่ เขานั่งอย่างสง่างามอยู่บนหลังอาชาชาญศึกคู่ใจของเขา โดยมือของราชาแห่งฝันร้ายยังคงกำไม้เท้าของแจ็คอย่างแน่นหนาจนหลังมือขึ้นข้อขาว เขาไม่ควรเสียเวลาอันมีค่ามากมายขนานนี้ไปกับเกมเกมโง่ๆนี่ บางทีเขาควรจะจบเกมได้แล้ว เมื่อพิทช์คิดดังนั้น เขาก็ตะโกนประกาศก้อง
“พวกเจ้าซ่อนตัวไปก็เปล่าประโยชน์!”
“ถ้าไนท์แมร์ของข้าฆ่าพวกเจ้าได้เมื่อไร ข้าจะนำกองทัพของข้าเดินทางไปรอบโลก ค่อยๆตามฆ่าผู้พิทักษ์ทีละตน ไล่ตั้งแต่กำจัด ภูตม๊อททาเลียนทั้งเผ่าพันธ์ แฟรี่ทุกตัวที่อาศัยอยู่ในเบล็คฟรอเรส ตามด้วยบดขยี่เทือกเขาหินมพานต์ที่อยู่ของเทพทูธเทียน่า จากนั้นก็จะพากองทัพไปทำลายแบล็คเอาท์ ออสเตรเรีย ที่เจ้ากระต่ายอีสเตอร์จอมโอหังนั่นมุดหัวอยู่ในอาณาจักรใต้ดินของมัน ต่อจากนั้นก็จะขึ้นเหนือ...ใช่ขึ้นเหนือ ไปเยี่ยมโรงงานของแซนต้าซักประเดี๋ยว...เยี่ยมแบบจัดเต็มไม่ให้เหลือเศษซากเลยที่เดียว”พิทช์พูด แล้วลดเสียงลงอย่างเย็นชาและเต็มไปด้วยอำนาจ
“ถึงตอนนั้นข้าคงรวบรวมพลังแห่งความกลัวได้มากพอ มากแบบไม่เคยมากมาก่อน และทำลายเพื่อนที่เก่าแก่ที่สุดของข้า...แซนแมน และดับทุกแสงแห่งความฝัน ให้สาสมกับที่พวกมันเคยทำกับข้า ข้าจะไม่ฆ่ามนุษย์ เพราะข้าจะปล่อยให้ชายบนจันทร์มองโลกที่กำลังโดนกัดกินด้วยฝันร้ายที่ละน้อย ที่ข้าจะปลูกมัน ชุบเลี้ยงมัน ฝังมันไว้ในจิตใจของมนุษย์ จากนั้นสงครามก็จะตามมา หลังจากที่มนุษย์เริ่มฆ่าฟันกันเอง เด็กจะไร้บ้าน กำพร้า และล้มตายอย่างทรมาน ไม่นาน...ไม่นานเลย ไม่ใช่แค่โลกนี้ที่ข้าต้องการ ข้าจะทำให้ทั้งจักรวารจะตกสู่ยุคมืดอีกครั้ง อย่างที่มันเคยเป็น และจะเป็นตลอดไป”หลังจากพูดจบทุกอย่างยังคงเงียบงัน ไอทมิฬและฝุ่นทรายสีดำลอยเอื่อยๆอยู่ในอากาศราวกับเศษเถ้าภูเขาไฟ
“พวกเจ้ากำลังกลัว ข้าสัมผัสได้ และกลัวมากเสียด้วย”พิทช์กระซิบ
บึ้ม!
แต่แล้ว! ลูกไฟสีฟ้าก็ทะลุก้อนเมฆขึ้นมา มันระเบิดทรายสีดำแตกกระจายออกไป แต่มันกลับอยู่ไกลจากพิทช์ เบล็ค มาก ราวกับว่าตั้งใจจะไม่ให้โดนเขา
ราชาแห่งฝันร้ายยิ้มเยาะกับการกระทำอันโง่เขลา แต่ไม่นาน ลูกไฟอีกหลายๆลูกก็พุ่งขึ้นมาอีกอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงดังกึกก้องเหมือนภูเขาไฟระเบิด แต่มันไม่โดนพิทช์เลยแม้แต่น้อย พิทช์ตกใจและระวังตัวมากขึ้น เขากระชับบังเหียนของไนท์แมร์และในสมองพยามขบคิด
ความร้อนของลูกไฟทำให้เมฆเย็นที่กระจายตัวอยู่ค่อยๆเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหมอกหนา และเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ ทิ้งให้องค์ราชาตกอยู่ใต้วังวนสลัวของหมอกสีขาว
“เจ้าคิดว่าทำอย่างนี้มันจะได้ผลงั้นหรือ”พิทช์ตะโกนด้วยความสะใจ เขายกมือขึ้น แล้วสายทรายสายใหญ่ก็ทะลุสายหมอกเข้ามา จากนั้นทรายสีดำก็ก่อเกิดรูปร่างของม้าสีดำแตกกระจายออกมาจากสายทรายราวกับผึ้งทหารที่แตกออกมาจากรัง เหล่าไนท์แมร์ล้อมและเข้ามาคอยปกป้ององค์ราชาอย่างขันแข็ง
“คิดจะต่อสู้หรือจะหนีตอนนี้มันก็สายไปแล้ว!”พิทช์กล่าว “พวกเจ้าช่วยมนุษย์ทั้งโลกไม่ได้หรอก”
พิทช์จ้องมองเข้าไปในเมฆหมอกขุ่นมัวที่หนาจนราวกับว่า กองทัพไนท์แมร์ของเขากำลังเดินด้วยตาที่มืดบอด ไนท์แมร์เองก็มองไม่ชัดเจนเช่นเดียวกันกับเจ้าแห่งฝันร้าย มันมองไปรอบอย่างสับสนและพยามดมกลิ่นความกลัวในสายลม แต่ไม่ได้สิ่งใดเลยนอกจากความว่างเปล่า
แต่แล้ว!เงารูปร่างประหลาดคล้ายมังกรก็ทาบผ่านหมอกที่มีแสงสลัวๆ ทางด้านซ้ายของราชาฝันร้าย
“มันอยู่ตรงนั้น!”พิทช์สั่งเหล่าไนท์แมร์ด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม พร้อมกับชี้นิ้วบอกทางให้กับเหล่าไนท์แมร์ กองร้อยไนท์แมร์พุ่งทะยานไปตามคำสั่งอย่างว่องไว
แต่ไม่ทันไร เงาประหลาดก็บินเฉียดหัวของพิทช์ไปอย่างรวดเร็ว พิทช์ทั้งโกรธทั้งตกใจ เขากัดฟันคำรามออกมาด้วยโทสะ ทรายสีดำที่อยู่ในมือของเขาก็แปรสภาพก่อรูปร่างเป็นเคียวยาวสีดำทมิฬที่ทรงพลัง แต่เขาไม่สามารถจับอาวุธนั้นได้ถนัดด้วยสองมือ เพราะในมืออีกข้างของพิทช์ถือไม้เท้าของแจ็คอยู่ องค์ราชารู้สึกรำคานไม้เท้านี่ เขาหรี่ตามองไม้เท้าในมืออย่างไม่ชอบมาพากล บางที่พวกมันอาจจะวางแผนอะไรอยู่ก็เป็นได้ องค์ราชาคิด
ทันใด ไนท์แมร์ของพิทช์ฝูงหนึ่งก็พากันวิ่งผ่านองค์ราชาไปอย่างรวดเร็วในสายหมอก ส่งเสียงอึกกะทึกเหมือนกำลังตามจับอะไรบางอย่างเข้าไปในสายหมอกโดยที่ตาแทบมองไม่ทัน
“ฮ่า!เจ้าหนีไม่รอดหรอก”พิทช์กระแทงเสียงด้วยความสะใจ เขารีบคว้าสายบังเหียน ควบอาชานัยตัวโปรดตามฝูงไนท์แมร์ล่าเนื้อของเขาไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า วิ่งมาได้สักพักไนท์แมร์ก็หยุดลงและเดินไปมาอย่างสับสน สิ่งที่ราชาเห็นมีเพียงแต่ความว่างเปล่า เขาโกรธมาก เขากำลังโดนเด็กปั่นหัว
“อ๊าก!”เสียงของเด็กชายแว่วขึ้นมาไกลๆในสายหมอก เหล่าไนท์แมร์พุ่งทะยานไปยังจุดนั้นทันที่โดยไม่ทันที่พิทช์จะออกคำสั่ง และแล้ว ลูกไฟก็พุ่งผ่านหมอกหนาขึ้นมาอีกและทำให้มันยิ่งหนามากขึ้น เงาประหลาดทาบผาดผ่านบนหมอกสีขาวอย่างรวดเร็วแล้วหายไป เสียงไนท์แมร์วิ่งไปมาในอากาศส่งดังราวกับฟ้าผ่า องค์ราชาแห่งฝันร้ายหมดความอดทน จึงตัดสินใจควบอาชาบินขึ้นไป สูงขึ้น สูงขึ้น และสูงขึ้น จนพ้นขึ้นมาจากสายหมอก และสิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาแทบผงะ
“นี่มันบ้าอะไรกันนี่”พิทช์สบถอย่างไม่อยากเชื่อสายตาของตนเอง สิ่งที่ต่ำลงไปจากที่ที่เขาอยู่ คือ วังวนแห่งภาพลวงตา เขาเห็นเหล่าไนท์แมร์ที่รักของเขากำลังตามล่าเงาของกันและกันเอง ซึ่งพวกมันคิดว่าเป็นเงาของศัตรู และเมฆหมอกลวงตานั้นสะท้อนเสียงประหลาดที่ดังไปทั้วอาณาบริเวณทำให้คิดผิด ว่า เป็นเสียงร้อง แสงจากลูกไปสะท้อนไปมาอย่างมั่วซั่วชวนสับสน
ในหัวของพิทช์เต็มไปด้วยโทสะ เขากัดฟันกรอดๆ และกระชับเคียวมรณะในมือแน่น มีทางเดียวที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ได้ คือ ต้องจัดการตัวการเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่า พวกมันต้องอยู่ข้างล่างนี่เป็นแน่ เขาคิด พิทช์ควบไนท์แมร์ดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูงผ่านเมฆหมอกและความวุ่นวายต่างๆลงมาและหวังว่าเมื่อพ้นจากหมอกที่อยู่ในอากาศลงมาแล้ว เขาจะพบกับตัวปัญหาที่ก่อเรื่องพวกนี้
ในช่วงอีกไม่กี่ร้อยฟุตนี้พิทช์ก็จะผ่านออกมาจากวังวนหมอกอย่างรวดเร็ว เขาสังเกตได้จากหมอกที่บางลงเรื่อยๆ
แต่ทันใดนั้นลูกไฟก็พุ่งเฉียดกับองค์ราชาไปไม่กี่นิ้วราวกับเตือนว่าถ้าลงมาต่ำกว่านี้จะต้องโดนเต็มๆพิทช์แน่ พิทช์หยุดอาชานัยค้างไว้ในอากาศและพินิจหมอกที่อยู่ด้านล่างอย่างรอบคอบ เขารู้ว่าเด็กแสบพวกนั้นอยู่ที่ด้านล่างนี้แน่ๆ เขายิ้มกว้างและหัวเราะ องค์ราชาหากลัวไม่ เขาลงไปต่ำอีกและใกล้ลงมาเรื่อยๆอย่างระมัดระวังตัว ในขณะที่ฝนลูกไฟระดมกระหน่ำใส่เขา จนมีแต่เสียงระเบิดดังกึกก้อง แต่พิทช์กลับขี่ไนท์แมร์หลบหลีกได้อย่างชำนาน
แน่สิ! เขาเป็นแม่ทัพและผ่านสงครามมาครั้งนับไม่ถ้วน ถึงแม้ศึกครั้งนี้มันออกจะแปลกไปหน่อย เพราะเขาไม่เคยเจอกลยุทธแบบนี้มาก่อนเลย และเขาทายออกเลยว่าเป็นความคิดของแจ็คฟรอสต์ พิทช์เสียดายที่สุดท้าย ยังไงก็ต้องกำจัดคนฉลาดๆอย่างแจ็คทิ้ง แต่แจ็คก็ไม่มีประโยชน์กับเขาสักเท่าไร ความตายคงจะเหมาะสมกับสิ่งที่เขาจะมอบให้เด็กแสบผู้พวกนี่แล้ว เมื่อคิดดังนั้นพิทช์ก็เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“ทำยังไงดี เขาลงมาเร็วกว่าที่เราคิดเอาไว้!”แอลลีร้องอย่างหวั่นๆ ขณะที่มองมังกรเลียมกำลังบินพ้นไฟจ้าละหวั่น เธอยืนอยู่บนกิ่งไม้กิ่งหนึ่งของต้นสน ในขณะที่แจ็คยืนอยู่บนหิมะหนาหลายฟุต แต่ตัวของเขากลับไม่จมลงไปเลยแม้แต่นิ้วเดียว
“ไม่ต้องห่วง นี่มันก็ยังอยู่ในแผนของฉัน”แจ็คตะโกนขึ้นมาบอก
“เขามาใกล้แค่ไหนแล้ว มีไนท์แมร์มาด้วยมั้ย”แจ็คถาม
“อีกไม่ถึงยี่สิบวินาทีเขาคงมาถึงแล้ว และก็มีแต่ไนท์แมร์ตัวที่เขาขี่มานั่นแหละ”แอลลีสันร้อง
“เตรียมตัว”แจ็คร้อง แอลลีสันขมวดคิ้วและเกาะที่กิ่งของต้นสนให้แน่นขึ้น แล้วแจ็คก็วิ่งไปในป่าผ่านแมกไม้ไป พยามที่จะไม่อยู่ที่ต้นลมและใต้ลมเพื่อจะได้เป็นไปตามแผน
“ดีมากๆๆ”แจ็คกระซิบกับตนเองระหว่างวิ่งไป “พิทช์มันประเมินเราต่ำเกินไป มันคิดว่าเพียงมันคนเดียวจะจัดการเราได้ มันคิดว่าแผนของเรามีแค่หมอก แต่มันไม่ใช่ ใช่มั้ย ลม!”แจ็คคุยกับลมด้วยความเคยชินแต่ไม่มีเสียงตอยรับ
“ออ จริงด้วย ฉันยังคุยกับพวกแกไม่ได้นี่นา”แจ็คกระซิบกับตัวเองและเร่งฝีเท้า
แอลลีสันมองเข้าไปในหมอกอันว่างเปล่า เธอรู้ว่าพิทช์ยังอยู่ในนั้นเพราะเลียมพ่นลูกไปขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ปีกของเธอใช้ไม่ได้แล้ว บางที่มันอาจจะไม่มีประโยชน์แล้วก็ได้ แอลลีสันต้องเอามันออกก่อนที่มันจะเป็นภาระของเธอ
ภูตสาวเอื้อมมือไปที่ต้นคอและควานหาอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็เจอ มันเป็นก้อนเล็กๆที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนังบางๆของเธอ จากนั้นแอลลีก็ใช้นิ้วจิกลงไปทำให้ผิวถลอกนิดๆ และแล้วเธอก็ดึงก้อนนั้นออกมา มันคือเศษผลึกแก้วเล็กๆรูปปีกผีเสื้อ เธอมองมันและทิ้งมันลงไปด้านล่าง จนมันตกลงบนพื้นหิมะ
ทันใดปีกภูตที่พังยับของเธอก็สลายกลายเป็นไอไปในอากาศ เธอไม่ต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว แอลลีสันขยายม่านตาสีเขียวทำให้เธอมองเข้าไปในหมอกได้ชัดขึ้น สัญชาตะยาญในสายเลือดของเธอพุ่งพล่าน...ตอนนี้เธอเห็นพิทช์แล้ว
“เอาเลย!”เธอร้องให้สัญญาณน้องชาย
เมื่อพิทช์หลุดออกมาจากหมอก เลียมก็กระพือปีกใหญ่แข็งแรงเต็มที่พาตัวเองไปข้างหน้า มังกรวัยรุ่นกระโจนเข้าใส่องค์ราชัน และมันเป็นอย่างที่พิทช์คิดเอาไว้ เขาเงื้อเคียวขึ้นเตรียมจะฟันลงไปที่เจ้ามังกรแบบเต็มแรง เลียมและแอลลีสันตกใจมาก
แต่เร็วเท่าความคิดหนึ่ง เลียมเร่งความเร็วในขณะที่เคียวกำลังลงมาบั่นคอของเขา มังกรเลียมกลับร่างกลายเป็นเด็กชาย โดยที่เคียวเฉียดเขาไปแค่ปลายเส้นผม เลียมพุ่งไปเกาะพิทช์เอาไว้อย่างเหนียวแน่นจนพิทช์เสียการทรงตัวและควบคุมไนท์แมร์ในอากาศยากลำบาก
แอลลีสันไม่ต้องรอให้เลียมร้องความช่วยเหลือเลยสักเอะเดียว เธอกระโดดเต็มแรงออกไปจากกิ่งไม้และกลายร่างเป็นมังกรเช่นเดียวกับเลียม แต่เธอเป็นมังกรสีดำสนิท มังกรแอลลีพุ่งขึ้นไปคว้าเลียมเอาไว้แล้วพาตัวออกมา ในขณะเดียวกันพิทช์ก็ตวัดเคียวเฉียดต้นขาของเลียมไป ปลายเคียวอันแหลมคม กรีดผิวของเลียมไปเล็กน้อยจนเลือดสีน้ำเงินไหลซิบๆออกมา แต่เมื่อรู้ตัวในอีกเสี้ยววินาทีถัดมา พิทช์ก็พึ่งสังเกตว่าในไม้เท้าของแจ็คฟรอสต์ไปอยู่ที่เลียมเสียแล้ว
“...บู้!”เลียมหันมายิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ พิทช์กัดฟันแน่นที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แล้วเขาก็ทะยานตามมังกรแอลลีสันและเลียมไปอย่างรวดเร็ว
แต่แล้ว แทนที่จะหนีต่อไปมังกรแอลลีสันหันมาเผชิญหน้ากับพิทช์บนหลังของอาชา เธอกางกรงเล็บที่จับเลียมอยู่ออก ทำให้เลียมที่ยิ้มกริ่มตกลงไปในป่าที่มืดดำอย่างราวกับก้อนหิน พิทช์พยามจะดิ่งตามเลียมไป แต่มังกรสีดำกระเหี้ยมหายดักทางเขาเอาไว้ก่อนพร้อมกับเข้าโจมตีพิทช์อย่างไม่ให้ทันตั้งตัว
เคียวสีดำแหลมคมตวัดลงมารวดเร็วอย่างหน้าใจหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แอลลีสันหลบมัน แต่มันรวดเร็วเหลือเกิน คราวนี้เคียวฟาดมา มันเร็วเกินกว่าที่เธอจะหลบทัน แต่แล้วมังกรดำก็งับมันไว้กับที่และก็ใช้ลำคอแข็งแรงสะบัดเหวียงมันไปไกลๆ
ไม่ทันไร ทรายสีดำรอบๆตัวพิทช์ก็กลายเป็นเคียวอันใหม่ให้เขา มันทั้งใหญ่และน่ากลัวกว่าเดิม เธอจึงต้องถอยห่างออกมาและพ่นลูกไฟใส่แทน พิทช์ใช้เคียวนั้นฟาดฟันลูกไฟสีน้ำเงินที่มีความร้อนสูงแตกกระจายได้อย่างไม่ยากนัก
ในขณะเดียวกัน หมอกที่เลียมทำไว้ก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ ไนท์แมร์หลายพันตัวมองเห็นแอลลีสันและเจ้านายของมันกำลังปะทะกันอย่างชัดเจน กองทัพไนท์แมร์รี่ตรงกันลงมาราวกับภายุฝนสีดำ ส่งเสียงคลายอัศนีคำรน
“ทุกอย่างจบแล้วม็อททาเลียน”พิทช์ขู่ แอลลีสันมองขึ้นไปรอบๆ ที่ไหนๆก็เต็มไปด้วยฝันร้ายที่พร้อมจะปลิดชีวิตของเธอได้ทุกเมื่อ มังกรแอลลีสันพยามพ่นลูกไปใส่กองทัพไนท์แมร์ แต่มันไม้ได้ผล
ทุกครั้งที่เธอทำลายมันสิบตัว ไนท์แมร์ตัวใหม่จะกำเนินออกมากเป็นร้อยตัว ทุกครั้งที่เธอทำลายมันร้อยตัว มันโจมตีเธอกลับด้วยไนท์แมร์พันตัว
สายทรายแห่งฝันร้ายสายใหญ่ๆหลายสายไหลเข้ามารายล้อมรอบแอลลีสันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะบินไปที่ไหนก็ไม่มีทางออก เธอหมดหนทางเสียแล้ว แอลลีสันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเหลืองสว่างของราชาแห่งฝันร้าย เธอกำลัง...กลัว
“ลาก่อน เจ้าหญิงของข้า”พิทช์กระซิบด้วยรอยยิ้ม
ทั้งกองทัพของพิทช์และสายทรายแห่งฝันร้ายดาหน้าเข้ามาหาแอลลีสันอย่างรวดเร็ว จนเหมือนโลกทั้งโลกที่เธอมองเห็นเต็มไปด้วยความมืด แต่แล้วทันใดนั้น! ลมพายุรุนแรงก็โหม เอาความหนาวเย็นยะเยือกและหิมะเข้าถาโถมทั้งกองทัพฝันร้ายอย่างรุนแรง ทรายฝันร้ายไม่อาจต้านแรงลมมหาสาฬที่มีความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ สายทรายแห่งฝันร้ายค่อยๆถูกอุ้มไปตามแรงลมราวกับยอดเนินทรายในทะเลทรายยามโดนลมพัด
ภายุนี้มาจากใครไม่ได้นอกจากเขาคนนั้น แจ็ค ฟรอสต์ ด้วยเพราะฤดูหนาวนี้เป็นฤดูหนาวที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายร้อยปี พายุที่เขาเรียกมาจากทุกมุมโลกจึงทวีคูณความรุนแรงขึ้นหลายเท่า ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนแล้ว แอลลีสันคิด และหวนนึกไปถึงตอนที่พวกเธอวางแผนกัน
“แผนของฉันคืออย่างงี้”แจ็คร้องพร้อมกับทำท่าทางอธิบาย “อย่างแรก ฉันสังเกตว่า เวลาเลียมพ่นไฟ มันจะมีควันหนาขึ้น...”
“เขาเรียกว่าหมอกแจ็ค”แอลลีบอก
“โอ้ว...”แจ็คร้องเหมือนเด็กที่ได้รับความรู้ใหม่ เขาทำตาใสแจ๋ว แล้วแจ็คก็อธิบายแผนต่ออย่างรวดเร็ว
“นั่นแหละ เวลาหมอกหนาขึ้นมันก็จะทำให้พวกไนท์แมร์สับสน จากนั้นพิทช์มันก็จะลงมาเพื่อจัดการพวกเราที่ก่อหมอก ตอนนั้นเลียมจะแย่งไม้เท้าของฉันคืนมา และเธอก็ดึงความสนใจกับพิทช์ไม่ให้เขาตามเลียมมา เมื่อเลียมเอาไม้เท้ามาให้ฉัน ฉันก็จะสร้างพายุพัดทรายฝันร้ายให้ไปไกลๆๆๆ จนตกขอบโลกไปเลย ตอนนั้นเราจะทำลายไนท์แมร์ที่เหลืออยู่ให้หมด”
“เดี่ยวนะแจ็ค พ่อคนฉลาด เธออาจจะยังไม่รู้ แต่โลกมันกลมนะแจ็ค มันไม่มีสุดขอบโลก”แอลลีสันพูดด้วยความรู้สึกอยากจะขำ
“งั้นเหรอ...”แจ็คร้องกระซิบๆตามองต่ำ จากนั้นก็มองตาแอลลีอีกที ราวกับต้องการให้เธอพูดต่อ
“โลกมนุษย์โคจรรอบดวงอาทิตย์ เพราะมันเป็นทรงกลม ด้านหนึ่งจึง...”แอลลีสันเกริ่นต่อ
“ด้านหนึ่งจึงเป็นกลางวัน”แจ็คกระซิบ แล้วไอเดียก็จุดประกายขึ้นมาในหัวของแจ็คและแอลลีสัน
“และด้านหนึ่งก็เป็นกลางคืน”แจ็คและแอลลีร้องพร้อมกัน
“ใช่! ถ้าเธอสามารถใช้เวทย์มนต์ของเธอเรียกพายุพัดมันไปถึงด้านกลางคืนได้ ทรายแห่งความฝันก็จะทำให้มันเปลี่ยนเป็นทรายแห่งฝันดี”แอลลีสันร้องพร้อมกับม่านตาขยายกว้างด้วยความตื่นเต้น
“เรื่องง่ายๆ”แจ็คกระซิบกับตัวเองแล้วยิ้มพราย แอลลีสันจำรอยยิ้มนั้นได้ดี มันคือรอยยิ้มที่มั่นใจมาก มันยังติดตราตรึงอยู่ในความทรงจำอยู่เลย จนถึงวินาทีนี้ วินาทีที่เธออยู่ต่อหน้าพิทช์ แอลลีสันมองพายุหิมะอันพร่ามัวที่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ เธอแทบจะหุบรอยยิ้มแห่งความปิติไว้ไม่ไหว แอลลีสันกลับคืนร่างเป็นภูตไร้ปีกดังเดิม และแล้วร่างอันหนักอึ้งก็ดิ่งลงไปในป่าเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว เพื่อที่เธอจะได้หลบแรงโจมตีจากลมพายุที่แทบจะฉีกผิวของเธอออกเป็นเสี่ยงๆ
ก่อนจะตกถึงพื้นแอลลีสันคว้ากิ่งไม้ที่ใกล้ที่สุดไว้และเหวี่ยงตัวเองลงไปที่โคนต้นสน ก้มตัวลงต่ำและหมอบอยู่ตรงนั้นอยู่สักครู่หนึ่ง แต่แล้วช้างแอฟริกาตัวใหญ่ก็วิ่งช้าๆจนพื้นดินสั่นสะเทือนเข้ามาหาเธอ
“แอลลี”เจ้าช้างร้อง เขาคือเลียมนี่เอง แม้ว่าเขาจะอยู่ในร่างของช้างตัวใหญ่มหึมาแต่เขาก็แทบยืนต้านแรงลมโดยไม่เอียงไปเอียงมาไม่ไหว
“เลียม”แอลลีสันร้องยิ้มร่าและโอบที่ขาหน้าของช้างด้วยความดีใจ
“พี่ต้องไม่เชื่อแน่ว่าพี่แจ็ค ฟรอสต์เขาทำอะไร”เลียมร้อง
“พี่เห็นแล้ว มันสุดยอดมาก”แอลลพยามตะโกนแข่งกับเสียงลมกรรโชกและหิมะพร้อมกับมองสูงขึ้นไปยังสมรภูมิที่กำลังจะแตกผ่ายไปกับสายลม
“พิทช์!”แจ็คตะโกนเสียงกร้าว เขาเหาะขึ้นมาในอากาศและลอยอยู่ต่อหน้าองค์ราชาที่พยามบังคับไนท์แมร์อย่างยากลำบาก พิทช์ แบล็ค มองมาที่แจ็คผ่านพายุหิมะด้วยความประหลาดใจ
“หยุดไนท์แมร์พวกนี้เถอะ”แทนที่จะได้คำตอบจากพิทช์ เขากลับได้เคียวคมกริบมาแทน แจ็คพึ่งรู้ว่าพิทช์มีอาวุธ เขาหลบมันไม่ทัน เพียงเสี้ยววินาที ไม้เท้าวิเศษของเขาก็เรืองแสง ลมแรงกล้าปะทะเคียวของพิทช์หลุดกระเด็นไป
“ไม่ แค่นี้คิดว่าจะหยุดข้าได้หรือ ข้ามีอยู่บนโลกนี้มานานมาก ลมแค่นี้ไม่ทำให้ข้าเป็นอะไรหรอก”พิทช์เตือน
“ข้ารู้...”แจ็คสรภาพด้วยใบหน้าเรียบเฉย “แต่ข้าไม่ได้จะทำอะไรเจ้านี่”
พิทช์ตกใจกับคำพูดของแจ็ค และแล้วเขาก็รู้ทันแผนของเด็กชายผู้นี้ พิทช์รู้ว่าตนเองทำผิดพลาดจริงๆที่คิดจะสู้กับ แจ็ค ฟรอสต์ ในปีที่ฤดูหนาวรุนแรงเช่นปีนี้ แจ็คไม่ได้วางแผนจะสู้กับเขา แต่แจ็คกำลังจะทำลายกองกำลังของเขา แจ็คกำลังกำจัดทรายสีดำต้นกำเนิดของกองทัพไนท์แมร์
ทรายแห่งฝันร้ายหลายพันสายมิอาจต้านแรงลมได้ มันลอยไปทางตะวันออก สายทรายแห่งฝันร้ายลอยข้ามเทือกเขาด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตร ไม่นานมันก็ไปถึงชายฝั่งของเขตทวีป สายทรายขนานมหึมาหนักหลายตันลอยข้ามท้องฟ้าราวกับฝูงนกกา มันถูกลมพัดข้ามทะเลแปซิฟิกเย็นยะเยือกในฤดูหนาวไปอย่างรวดเร็ว และที่ปลายขอบฟ้านั่นเอง ณ จุดนั้น จุดที่ยามราตรีและยามทิวามาบรรจบกันบนท้องฟ้าสีส้มของยามเย็น เรือสำเภาลำมหึมาที่สร้างจากทรายสีทองแห่งฝันดี ลอยอยู่บนอากาศเหนือน่านน้ำมหาสมุทรสีน้ำเงินอันยิ่งใหญ่
เมื่อทรายแห่งฝันร้ายเห็นดังนั้น มันก็ส่งเสียงร้องโหยหวนเสียงแหลมสูงเหมือนเสียงของค้างคาวผีดิบ ขณะที่เขาเขตภายใต้การดูแลของเทพผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด...แซนแมน สายทรายสีทองพุ่งออกมาจากเรื่องสำเภายักษ์เหมือนลูกปืนใหญ่ ทะยานไปในอากาศ เข้ากระแทกทรายสีดำที่โดนภายุหิมะพัดมาแตกกระจายและกัดกินฝันทรายจนหมดสิ้น
ความคิดเห็น