ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jack Frost : Once Upon a Winter (ภาคกำเนิดผู้พิทักษ์)

    ลำดับตอนที่ #6 : แจ็คและพิทช์

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 60










     


     

    แจ็คและพิทช์

     

     

     

    ชั่วเสี้ยววินาทีที่แอลลีสันมองเห็นแจ็คซึ่งกำลังดิ่งสู่พื้นปฐพี เสียงของสายลมที่พัดโชย ภาพของแจ็คสะท้อนอยู่ในแววตาสีเขียวของเธอ เธอทำอะไรลงไป เธอน่าจะอยู่ใกล้ๆเขาสิ ไม่ใช่มาทำอะไรไร้สาระอยู่ตรงนี้ เขาไม่ใช่นักสู้เขาเป็นแค่คนธรรมดา แล้วเธอทำอะไรลงไป เธอทิ้งเขา ทิ้งให้เขาอยู่กับไอ้พวกฝันพยศตามลำพัง เธอทำลงไปได้ยังไง แอลลีสันรู้สึกราวกับว่ามีคนมาฉีกหัวใจของเธอออกไปจากร่าง เลือดในกายของเธอร้อนรน สมองบอกให้เธอผละออกจากการต่อสู้อย่างกระทันหัน เธอทิ้งตัวพุ่งทะยานลงไปสู่เบื้องล่างและตามเด็กหนุ่มไปอย่างรวดเร็วราวกับอัสนีบาก ส่วนพวกไนท์แมร์คู่ต่อสู้ของเธอก็ตามมาอย่างมาขาดสาย

    ในหัวของแอลลีสันเต็มไปด้วยความกลัว ความสับสน หูยาวๆของเธอได้ยินเสียงระเบิดของเลียม เสียงลม เสียงปีกของเธอ เสียงของแจ็ค เกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาบาดเจ็บหรือ เขาจะตายไหมเธอตีโพยตีพายโทษตัวเองว่าเป็นผู้ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ถ้าเขาเป็นอะไรไป เธอคงไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองเด็ดขาด

                “แอลลี!”เลียมร้องเรียกแทบใจจะขาดขณะที่เห็นพี่สาวของตนเองที่พุ่งตัวลงไปในสายทราย แต่เขาไปหาเธอไม่ได้ ไนท์แมร์อยู่เต็มท้องฟ้าไปหมด เลียมหันมาสนใจการต่อสู้ เขาเดือดจัดจนควันแทบจะออกจากหู ตาดำของเขาขยายออกด้วยไฟโทสะจนแทบจะบดบังม่านตาสีเขียวของเขา ตาที่เหมือนนกเค้าแมวของเขาไร้ซึ่งแววตาของมนุษย์แต่กลับเปลี่ยนเป็นแววตาของอะไรบางอย่างที่ทรงพลังอำนาจ

                “ดูที่แกทำสิ แล้วแกจะต้องเสียใจ”เลียมตะโกนจนเสียงแตกพร่า ไนท์แมร์ตัวหนึ่งโฉบเขามาที่เขาจากนั้นก็ตามมาอีกเป็นร้อยๆ เลียมบินหลบหลีก แต่แล้วเขาก็หันหลังกลับมาพ่นเอาลมหายใจที่เต็มไปด้วยไฟสีน้ำเงินใส่พวกมัน พวกไนท์แมร์ส่วนหนึ่งกลายเป็นทรายเหลวๆเหมือนแก้วที่โดดหลอมพากับตกจากท้องฟ้า ส่วนที่เหลือหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่งแล้วแยกกันโจมตี มันรวดเร็วราวกับห่าฝนลูกธนูสีดำ เลียมต้องถอยแล้ว

    ในขณะเดียวกัน แจ็คเองก็ดิ่นรนเอาตัวรอดอย่างไร้หนทางอยู่กลางอากาศที่ถาโถมซัดสาดร่างของเขา เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้ เขาเคยอยากตาย แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่ไม่อยากตายเลย เขาแทบไม่อยากจะรู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ เขายังไม่พร้อม ยังมีอะไรอีกมากมายที่เขายังไม่ได้ทำ แต่ชีวิตของเขากำลังจะจบในอีกไม่กี่วินาที แต่คำถามในใจยังไม่มีคำตอบ ทำไมไม่มีมนุษย์หน้าไหนที่ได้ยินเขา ไม่มีใครเห็นเขา ไม่มีใครคุยกับเขา เอ่ยชื่อเขา แล้วทำไมพี่น้องม๊อทถึงมองเห็นเขาล่ะ เขาเป็นใคร ตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาเกิดมาทำไม ทำไมมีเขาคนเดียวที่ต้องเผชิญกับความเงียบเหงาในเงาของผู้คนมากมายที่อยู่รอบกายของเขา จะมีใครคิดไหมว่าเขาโด่ดเดี่ยวแค่ไหน...

    แล้วทันใดนั้นแจ็คก็เห็นแอลลีสันทะลุสายทรายสีดำออกมา ตามเนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยบาดแผล ปีกของเธอมีแต่รอยขาดกระรุ่งกระริ่ง แจ็คเบิกตาโต ไม่ใช่ด้วยความดีใจ แต่เป็นความตกใจที่ฝังลึกเข้าไปในทุกอณูของร่างกาย เธอมาช่วยเขา ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก ไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรสักคำ ภูตสาวก็โฉบเขาขึ้นมาจากความตาย ยังไม่ทันที่หลังของเขาจะได้สัมผัสกับยอดไม้เลยด้วยซ้ำ

    แอลลีสันอุ้มแจ็คไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหนเหมือนกับเด็กทารกคนหนึ่ง เธออุ้มเขาไว้ได้อย่างสบายมาก น้ำหนักของเขาน้อยกว่าใบไม้หนึ่งใบด้วยซ้ำ  ตัวของเขาเย็นเจี๊ยบ ไม่ได้เย็นแบบผิวของมนุษย์ แต่เย็นเหมือนกับหิมะ มันทำให้เธอแสบมือแทบดิ้น แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่มีทางทิ้งเขาได้ด้วยเหตุผลแค่แสบมือ เขาเป็นเพื่อนของเธอและเขาเคยช่วยเธอไว้ ถ้าไม่มีเขา เธออาจจะไม่ได้เจอหน้าของน้องชายสุดรักสุดชังอีกก็ได้

     แต่สำหรับแจ็คแล้ว เขากลับรู้สึกแปลกๆที่ถูกผู้หญิงร่างเล็กอุ้มไว้อย่างง่ายดาย เขารู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก เขาอายด้วยซ้ำ แต่จะทำไงได้ เขาจะไม่มีวันลองดิ่งพสุธาอย่างนั้นอีก แจ็คมองลงไปข้างล่างแล้วก็เสียงสันหลังวาบ เขาจิกเล็บลงไปบนไหล่ของแอลลีสันเพื่อยึดเกาะ แต่อย่างน้อยการตกก็ไม่ได้ทำให้เขากลัวความสูง

                “แจ็ค เธอเป็นอะไรรึเปล่า โถ่...เธอเจ็บตรงไหนรึเปล่า”แอลลีสันบอกกับเขาด้วยความเป็นห่วง

                “ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”แจ็คตอบเร็วจี๋และเกาะเธอแน่นขึ้น

                “แน่ใจเหรอ”แอลลีสันกระซิบอย่างสงสัย

              “ไม่”แจ็คตอบเสียงดัง “ฉันบินไม่ได้แล้วแอลลีสัน”แจ็คบอก แอลลีสันหน้าซีดเผือก เธออ้าปากค้าง กระพริบตาถี่ๆเพราะเธอพูดไม่ออกและไม่รู้จะแสดงความเสียใจดีรึเปล่า

              “อะ...อะไรนะ”แอลลีสันกระซิบติดๆขัดๆ “เธอไม่ได้หมายความอย่างที่พูดใช่มั้ย”

                “ฉันพูดจริงๆ ฉันต้องไปเอาไม้เท้าวิเศษของฉัน ไม่งั้นลมจะไม่ยอมฟังคำสั่งของฉัน ฉันจะบินไม่ได้ แอลลีสัน”เขาพูด แอลลีสันฟังอย่างตั้งใจ เธอพึ่งสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้ถือไม้เท้าไว้ เขาอาจจะพูดถูกจริงๆ เธอมองตาของเขาราวกับถามว่ามันอยู่ที่ไหน แต่แล้วแจ็คที่อยู่ในอ้อมแขนเหมือนเด็กน้อยๆก็เบิกตาโต

                “แอลลีสัน หลบ!”แจ็คร้อง แอลลีสันหลบตามที่เขาพูด เพียงชั่วพริบตาเดียว สายทรายขนาดมหึมาก็เฉียดหัวพวกเขาไป มันใหญ่จนบดบังแสงของดวงอาทิตย์ มีแต่เงามืดที่ทาบสองร่างซึ่งตกตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูก มันใหญ่มโหฬารเหลือเกิน มันทำให้แอลลีสันนึกท้อแท้ขึ้นมาในใจลึก แต่มันกลับทำให้แจ็คฟรอสต์เห็นอะไรบางอย่าง ไม้เท้าของเขาติดไปกับสายทรายนั่น และมันกำลังจมหายลึกลงไปในทรายเรื่อยๆแจ็คแหงนหน้ามองตามมันไปอย่างไม่ละสายตา

                “บนนั้น”แจ็คตะโกน พร้อมกับเอี้ยวตัวปีนไปด้านหลังของแอลลีสันราวกับว่าเขาเป็นเด็กน้อยๆคนหนึ่งซึ่งกำลังชี้ตามลูกโป่งของตนเองที่ปล่อยหลุดมือไปลอยไปในอากาศ

                “อะไร”แอลลีสันตะโกนถาม เธอดึงแจ็คที่กำลังทำให้เธอควบคุมการบินไม่ได้กลับมาอยู่ที่เดิม

                “ฉันเจอไม้เท้าแล้ว”แจ็คยิ้มกริ่ม รอยยิ้มนั้นเป็นกำลังใจให้กับภูตสาว เธอมองไปยังสายทรายตามที่แจ็คชี้ พวกไนท์แมร์ลอยอยู่รอบๆและกำเนิดออกมามากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันอาจจะเข้าโจมตีเมื่อไรก็ได้ แต่เมื่อหันมามองหน้าของแจ็ค เขาจำเป็นต้องการมันจริงๆ แอลลีสันรวบรวมกำลังทั้งหมด เธอทำได้ เธอทำได้ เธอทำได้

                “ไปกันเลย”แอลลีสันกระซิบพร้อมกับโยนแจ็คขึ้นไปบนอากาศ แจ็คตกใจกับการกระทำของเธอ เขาควานมือและเท้าเหมือนกับนักว่ายน้ำพร้อมกับเปล่งเสียงร้องอย่างน่าขัน แต่เมื่อแจ็คลอยขึ้นไปถึงจุดสูงสุดด้วยแรงส่งของแอลลี เขาหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศและไม่กี่วินาทีจากนั้นเขาก็เริ่มจะตก...อีกครั้ง เขาร้องเสียงหลง แต่ทันใดแจ็คก็ถูกกรงเล็บของนกอินทรียักษ์ขนาดใหญ่เป็นหกเท่าของวัวไบซันจับเข้าที่เอวของเขาและพาเขาบินตามสายทรายไป เจ้านกกินเนื้อก้มลงมามองเด็กชายในอุ้งเล็บด้วยตาใสแจ๋ว เขาจำแววตานี้ได้ มันคือแอลลีสันนั่นเอง เขาไม่เคยรู้ว่าเธอแปลงร่างเป็นอะไรแบบนี้ได้ด้วย แจ็คฟรอสต์ยิ้มออกมาด้วยความประหลาดใจและสนุกสนาน

    ทั้งคู่บินไต่ระดับตามสายทรายไปอย่างรวดเร็ว พวกไนท์แมร์ที่อยู่รอบๆต้นกำเนิดฝันร้ายต่างพากันเข้าขัดขว้างทั้งสองอย่างตั้งหน้าตั้งตา พวกมันหมุนวนไปรอบๆราวกับภายุทอนาโด นกยักษ์แอลลีสันบินหลบคมเขี้ยวสีดำอย่างฉวัดเฉวียนเฉียดฉิวจนน่าหวาดเสียว ไม่ว่าจะบินไปที่ไหนพวกมันจะตามล่าไปทุกที่เหมือนฝูงหมาป่าที่หิวกระหายเลือด

                “เร็วๆๆๆๆ”เด็กหนุ่มผมหงอกซึ่งอยู่ที่กรงเล็มเร่งเจ้านก “เราต้องเร็วกว่านี้อีก”

    นกอินทรียักษ์ก้มหัวลงมามองด้วยสายตาหมายโทษและส่งเสียงร้องอย่างฉุนเฉียวแสนแสบแก้วหูใส่แจ็ค เด็กชายหลับตาปี๋งอตัวและใช้มือทั้งสองข้างปิดหู จากนั้นก็ลืมตาขึ้นข้างหนึ่งแต่ก็แทบหยุดหายใจ

                “โว้วววว!”แจ็คร้องเสียงหลง แอลลีสันตกใจและเงยหน้าขึ้น สายทรายขนาดใหญ่มหึมาอยู่ตรงหน้าทั้งสอง นกอินทรีสาวเบิกตาโพลงร้องเสียงหลงเช่นเดียวกับแจ็ค แต่แล้วเธอก็ตั้งสติได้ เธอก้มลงมา คาบแจ็ค โยนเขาข้ามด้านบนของสายทรายโดยไม่บอกไม่กล่าวตามเคย แจ็คร้องดังกว่าเดิมขณะลอยขึ้นไปในอากาศ เขาเกือบจะเสียการควบคุมกระเพราะปัสวะไปเสียแล้ว ถ้าเจ้านกงี่เง่านั่นไม่บินลอดสายทรายไม่มารับเขาเสียก่อน แจ็คหายใจฟืดฟาดอยู่บนหลังของเจ้านก มือกำขนนุ่มๆแน่นทั้งสองข้าง ไม่นานเขาก็เงยหน้าขึ้นและมีคำพูดมากมายกองทับกันสูงเท่ากับหลังคาโบสถ์จะสวดให้เจ้านกฟัง

                “เธอกำลังจะทำให้ฉันบ้าตาย ถ้าเธอไม่หยุดเหวียงฉันขึ้นไปอีก ฉันจะ...”เขาขู่ แต่นกอินทรีหันมองมองเขาด้วยหาง มันหรี่ตาลงรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ แจ็คน้ำลายหนืดคอ “ฉันจะ...จะทำอะไรก็ตาม แต่ไม่ได้พาเธอไปเลี้ยงข้าวก็แล้วกัน”

    แต่แล้วแจ็คก็ชะงัก มองซ้ายมองขวาอย่างไม่อยู่สุข  เขาพยามมองหาสายทรายสายใหญ่ที่สุดเพื่อหาไม้เท้าวิเศษของเขา ในที่สุดเขาก็หามันเจอ มันกำลังไหลมาโอบล้อมพวกเขาทั้งสองไว้! และไม้เท้าของเขากำลังจมลงในทรายเกือบหมดทั้งด้ามแล้ว เหลือไว้เพียงส่วนโค้งเล็กๆของมัน


     

                “เราต้องไปเอาไม้เท้า”แจ็คร้องบอกแอลลีสันที่กำลังบินหลบหลีกอย่างจ้าละหวั่น เมื่อได้ยินเจ้าก็นกบินตรงไปที่นั่นทันที แต่สายเกินไป ไม้เท้าสุดรักและเป็นหนทางเดียวที่จะต่อกรกับฝันพยศจมหายลงไปแล้ว เช่นเดียวกับใจของแจ็คที่จมหายลงไปส่อนในส่วนลึก แจ็คนิ่งเงียบขมวดคิ้วและทำสีหน้าปั้นยาก เขาหายใจหอบอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงเอาหน้าแนบกับหลังของนกอินทรีสีน้ำตาลที่บินนิ่งอยู่กลางอากาศ แอลลีสันหันมามองเขา แจ็คเอาแก้มนาบกับหลังของเธอ สีหน้าของเขาดูแย่มาก เขาขมวดคิ้วสีดำจนเกือบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดวงตา กัดฟันขาวราวกับหิมะของเขาอย่างเจ็บปวด เขาไม่ได้เสียใจ แต่เขากำลังทรมานเหมือนคนไข้ขึ้น คงเป็นเพราะไม้เท้านั่น ไม้เท้านั้นคงเป็นส่วนหนึ่งของเขา ผ่านไปสักพัก เขาก็กลับมาเป็นปกติความเจ็บปวดหายไปจากไปหน้าเหลือไว้เพียงแต่ความเสียดาย

                “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

    เสียงหัวเราะอันคุ้นเคยดังก้องไปทั่วท้องฟ้าราวกับเสียงฟ้าร้อง เสียงนั้นสั่นประสาทของนกแอลลีสัน แต่เสียงหัวเราะเดียวกันนั้นกลับทำให้แจ็ครู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขาเคยได้ยินมันมาก่อนในความฝันและเขารู้จักมันและที่สำคัญที่สุด...เขาเกลียดมัน แต่แล้วนกแอลลีสันก็ร้องออกมา พยามบินออกไปจากวงล้อมของทรายมรณะ เธอกระสับกระส่ายและร้อนรนจนบินไปบินมาอย่างควบคุมไม่ได้ แจ็คเกาะนกสติแตกแน่น

                “เฮ้! เป็นอะไรไปน่ะ”แจ็คร้องและลูบขนของเจ้านกอย่างอ่อนโยน “ตั้งสติหน่อยสิสาวน้อย” แอลลีสันชะงัก เขากล้าดียังไงมาเรียกเธอว่าสาวน้อย แต่คำนี้มันก็ทำให้เขานึกถึงอีกคนหนึ่งที่น่ากลัวกว่าแจ็ค เธอนึกถึงพิทช์ เขาชอบเรียกเธอว่าสาวน้อย มันทำให้เธอเกลียดคำนี้ เกลียดอย่างสุดซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจ

                “ใจเย็นๆเราต้องไม่เป็นไร”แจ็คลูบหัวของเธออย่างเอ็นดูเหมือนกับว่าเธอเป็นเด็กคนหนึ่ง แต่มันเป็นสัมผัสที่ทำให้เธอสงบได้อย่าแปลกประหลาดโดยไม่ใช้เวทย์มนต์ เขาเคยทำแบบนี้ครั้งหนึ่ง ตั้งนานมาแล้ว ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นเขามีสเน่ห์มาก ผมสีน้ำตาล ตาสีน้ำตาล หล่อร้ายสุดๆ เป็นชายในฝันของสาวๆหลายคน ทั้งในหมู่บ้านและในเมือง แต่เขากลับไม่เคยสนใครและเป็นตัวก่อกวนที่คอยพาลูกชาวบ้านออกไปเที่ยวเล่นในป่า ตอนนั้นเขาพาน้องของเธอออกไปเที่ยวกับเด็กๆอีกฝูงหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ลืมพาน้องของเธอกลับมาด้วย เธอต้องออกไปตามหาน้องของเธอในป่าที่มีแต่หมาป่าเต็มไปหมด สุดท้ายเธอพบน้องของเธอกลายร่างเป็นเสือไซบีเรียวิ่งปุเลงปุเลงไล่ล่าพวกหมาป่าอยู่ในป่า เธอไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้แจ็คฟัง แต่ก็โกรธเขาไม่น้อยเลย เธอไปต่อว่าเขาถึงบ้าน...ก็บินไปนั่นแหละ สุดท้ายเขามาขอโทษเธอและลูบหัวเธอสองสามทีมันทำให้เธอเย็นลง เล่นเอาเด็กสาวๆที่เห็นอิจฉาเธอไปหลายเดือนเลย แอลลีสันคิด

                “เราต้องออกไปจากที่นี่”เขากระซิบที่หูของเธอ แต่เธอตัวใหญ่เกินไปกว่าที่หลุดจากวงล้อมทรายไปได้ง่ายๆ พวกไนท์แมร์บินวนเต็มท้องเหมือนกับฝูงกานับร้อยสีดำทะมึนราวกับเมฆฝน

                “จะรีบไปไหน”เสียงทุ้มนุ่มลึกดุจกำมะหยี่เนื้อดีดังสะท้อนก้องไปทุกที่อย่างชวนสยดสยอง ทั้งสองพร้อมใจกันมองหาต้นเสียง แต่แล้วชายผู้ทรงอำนาจที่สุดในนาทีนี้ก็ปรากฎตัวอยู่ณจุดสูงสุดของเนินทรายลอยฟ้า สูงเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขามและเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขาหัวเราะอย่างสะใจสั้นๆขณะมองลงมายังเหยื่อทั้งสอง

     “นี่มันเพิ่งจะแปดโมงเอง”เขาหยอกพร้อมกับแบบมือขวาออกมาทางทั้งสองคน แจ็คและแอลลีสันในร่างของนกอินทรียักษ์เงยหน้าขึ้นมองบุรุษผู้นั้น ทรายสีดำและเหล่าฝันพยศห้อมล้อมชายชุดดำไว้ราวกับเป็นองค์รักษ์ชั้นแนวหน้า

    “แก”แจ็คคำรามออกมาเหมือนกับสุนัขป่า

    “หือ ทำไมหรือ”เขาพูดและแสยะยิ้มเพ่งตามองลงมายังเด็กชายแห่งฤดูหนาว “แจ็คฟรอสต์ อ๋อ...ไม่สิ ข้าจะรู้จักชื่อของเจ้าได้ยังไง ขนาดมนุษย์ข้างล่างนั่น ยังมองไม่เห็นเจ้าเลย”

    แจ็คผงะ เย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง เขาก้มหน้าลงไม่อยากให้ใครมองเห็นแววตาที่หวั่นไหวขอเขา เด็กชายเม้มปากแน่น ควบคุมลมหายใจที่ไม่เป็นจังหวะและหัวใจที่เต้นระรัว แอลลีสันรู้สึกได้ถึงความหวั่นไหวของเขา เธอไม่เข้าใจที่พิทช์พูด เขาหมายความว่ายังไง แจ็คเป็นมนุษย์ เธอรู้จักเขาดีกว่าใคร เขาเป็นคนที่ทำของหายบ่อยที่สุดที่เธอเคยรู้จัก เขาคยทำน้องตัวเองหายด้วยซ้ำ  แต่ช่วงหลังมานี้เขาแปลกไป เขามีพลังอำนาจ ใครจะรู้ เขาอาจจะเป็นพ่อมดก็ได้ แต่ผมและตาของเขาเปลี่ยนไป อันนี้เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เขาทำราวกับว่าเธอและน้องชายเป็นคนอื่นคนไกลเหมือนกับเขาจำพวกเธอทั้งสองไม่ได้  เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ หรือจะเป็นเพราะพิทช์ มันทำให้เขาเป็นแบบนี้หรือ ความคิดนี้ทำให้แอลลีสันมั่นใจและเริ่มเดือดด้วยความโกรธ มันพรากมนุษย์ที่สดใสร่าเริงไปจากเธอ มันพรากเด็กชายที่เธอแอบปลื้มไป มันพรากความสงบสุขของเมืองไป มันทำให้เด็กๆหวาดกลัว ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ไว้ใจเธอสองพี่น้อง คราวนี้มันจะมาพรากแจ็คไปจากเธอ

                “อ้าว นั่นมันแอลลีสันนี่ สัตว์ประหลาดที่น่ารักไงแจ็ค”ราชาแห่งฝันร้ายเยาะ “เป็นไง...ขี่นกสนุกเท่าข้อเสนอที่ข้าส่งไปให้มั้ย”

                “แกส่งอะไรมานะ”แจ็คพึมพำ ตวัดตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความโมโหขึ้นมองพิทช์  เจ้าแห่งฝันพยศเปลี่ยนสีหน้าเป็นงุนงง จากนั้นก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์น่าขนหัวลุก

                “อย่ามาไก๋หน่อยเลย เจ้าจำภาพฝันร้ายเมื่อคืนไม่ได้หรือ เรียกว่าฝันร้ายมันก็กระไรอยู่ เจ้าฝันไม่ได้แล้วนี่ นอนก็ไม่ได้ด้วยใช่มั้ย เพราะฉะนั้น ต้องเรียกว่านิมิตรที่ข้าส่งไปให้เจ้าจะเหมาะที่สุด”พิทช์เตือนความจำ

     แจ็คจำได้ และแม่นยำที่สุด เขาเห็นภาพที่เขาโด่ดเดี่ยว ไม่มีแอลลี ไม่มีเลียม ไม่มีใครสักคน เขาต้องทนทุกทรมานกับความตาย และข้อเสนอบางอย่างจากชายชุดดำ

                “ถ้าจำไม่ได้ งั้นข้าจะพูดอีกทีแล้วกัน...”

    ทันใด นกอินทรียักษ์ก็บินเข้าจู่โจมองค์ราชาขณะที่กำลังพูดเรื่อยเปื่อยอย่างอวดดี เสียงร้องแหลมของนกอินทีดังก้องอยู่ในหูของแจ็คฟรอสต์ เขากอดขนของแอลลีสันแน่น พิทช์ทั้งโกรธทั้งตกใจ เขาทำมือทั้งสองข้างเหมือนกำลังยกขึ้นเป็นสัญญานให้คลื่นไนท์แมร์สีดำที่เกิดจากทรายก็ถาโถมเขาหาทั้งสอง แอลลีสันบินหลบออกไปอย่างหวุดหวิดก่อนที่วงคลื่นจะกลืนกินเธอทั้งสองจมหายลงไปในฝันร้าย แจ็คเกาะเธอแน่นและหันไปมองมันอย่างยินดีและสนุกสนาน เขาหัวเราะออกมาให้กับความสำเร็จ เสียงหัวเราะนั้นมันยิ่งทำให้พิทช์เดือดปุดๆหนักกว่าเดิม ลำธารทรายสีดำสายเล็กๆกลับกลายเป็นคลื่นทรายสายใหญ่นับสิบๆลูก  นกยักษ์หลบมันได้เรื่อยมาอย่างน่าอัศจรรย์

                “เธอบินเก่งชะมัดเลย”แจ็คร้องบอกแอลลีสัน “อย่างนี้ เธอต้องสอนฉันซะแล้วล่ะ” คำพูดพวกนั้นขับไล่ความกลัวของแอลลีสันให้อันตรธานหายวับไปกับตา แต่แล้วทรายสายหนึ่งก็ตวัดมาเหมือนกับหนวดของปลาหมึก มันรวบขาทั้งสองของนกอินทรีเอาไว้และดึงกลับอย่างรวดเร็วจนลมพัดที่มาจากด้านหลังทำให้แจ็คลอยไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาร้องเสียงหลงขณะพลัดตกจากเธอ แต่แอลลีสันใช้ปากคาบเสื้อของเขาไว้ก่อนที่จะส่งเขาไปดิ่งพสุธา ทรายสีดำลามขึ้นมายังต้นขาและตัวของเธอ แอลลีสันกระพือปีกหนีสุดชีวิตแต่ก็สู้แรงของทรายไม่ไหว เธอถูกดึงให้จมลงไปในทรายอย่างรวดเร็ว แอลลีสันวางแจ็คลงบนทรายที่มั่นคงแล้วกลับร่างเป็นเด็กสาวอีกครั้ง เธอตะเกียกตะกายใช้มือขุดตัวเองออกจากทรายดูด เธอส่งเสียงร้องเหมือนเด็กน้อยออกมาด้วยความกลัว แจ็คช่วยดึงเธอออกมาแต่มันก็ไร้ประโยชน์ เธอกำลังจมอย่างรวดเร็ว

                “แจ็ค”แอลลีสันเรียกขณะที่ตัวสั่นระริก เธอกลางปีกภูตสีน้ำเงินระยับออกแล้วกระพือสุดแรงเกิดแต่ก็ดิ่นไม่หลุด ทรายสายหนึ่งงอกออกมาแล้วกระชากปีกของเธอหลุดข้างหนึ่ง แอลลีสันสะอื้นเฮือก เธอมองดูปีกสีน้ำเงินใสของตัวเอง ปีกคู่ซ้ายฉีกกระกาย ส่วนคู่ขวาก็มีแต่รอยขีดข่วน มันชาไปหมดและไร้ความรู้สึก เธอลองกระพือมันเบาๆแต่ก็ต้องเจ็บแปร๊บ“แจ็ค แจ็ค”

                “ปีกเธอ”แจ็คกระซิบ ตาโต“ไม่เป็นไร อย่าขยับนะ ฉันจะช่วยเธอออกมา”เด็กชายตรงมาที่เธอและตั้งหน้าตั้งตาขุด

              “แจ็ค แจ็ค”แอลลีสันสติแตก

                “ชูวว์ๆ”แจ็คกระซิบอย่างอ่อนโยน ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบที่คิ้วสีดำโค้งสวยของแอลลีเพื่อให้เธอตั้งสติ เขามองไปที่ปีกของเธอแล้วใจหายวาบแต่ก็ต้องฝืนพูดต่อ เพื่อจะได้ไม่ทำให้แอลลีกลัวแล้วสติแตกอีก “ทุกอย่างจะเรียบร้อย โอเคมั้ย”

                “แจ็ค”แอลลีสะอื้นขณะแจ็คขุดไปเรื่อยๆ แต่แล้วเขาก็สะดุ้งโหยง เขายกมือที่เจ็บแสบของตัวเองขึ้นมาดู มันมีรอยขีดข่วนเล็กๆอยู่ ทรายพวกนี้มันตอบโต้ได้ด้วย

                “อะไร”แจ็คถามอย่างหงุดหงิด

                “อย่าสูดหายใจเอาฝุ่นทรายเขาไปนะ”เธอกระซิบ แจ็คอึ้งแล้วยิ้มให้เธอด้วยความประหลาดใจ

                “แน่นอน ฮ่าๆๆๆได้ แต่เราต้องรีบหนีแล้ว”เขากระซิบและพยามหัวเราะบอกแล้วทั้งสองก็ขุดต่อ

              “อย่างเพิ่งรีบไปพวกเด็กๆ”พิทช์ปรากฏตัวออกมาจากเนินทรายสีดำที่อยู่ไม่ไกล แจ็คไม่สนใจเขาแต่แอลลีชะงักและหวาดกลัว แจ็คพยามอยู่กับเนื้อกับตัวมากที่สุดขณะกำลังขุดทรายออกอย่างเร่งด่วนเพราะแอลลีสันจมไปจนถึงอกแล้ว แอลลีสันจับไหล่ของแจ็คบอกให้เขาหยุด

                “อย่ารีบร้อน”ราชาพูดแล้วยกมือสองข้างออกมาห้ามอย่างอ่อนโยน ซึ่งมันเป็นแค่การแสดง เขาไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยนด้วยซ้ำ

                “บูกี้แมน ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”แจ็คตะโกนอย่างเดือดดาล

                “ไม่ แจ็ค จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าความกลัวจะได้ครอบครองโลก”พิทช์ตะโกนตอบ จากนั้นก็ทำสีหน้าผิดหวัง “ข้ายื่นขอเสนอให้เจ้าแล้ว ถ้าเจ้ามาอยู่ฝ่ายข้า เจ้าจะได้ทุกอย่าง เจ้าจะไม่ต้องโด่ดเดี่ยว และข้าอาจจะเมตตาเล็กๆน้อย เก็บภูตม๊อทนั้นไว้อีกสักตน แต่เจ้าปฏิเสททุกโอกาส เจ้าทำให้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เจ้าไม่มีค่าพอจะอยู่ด้วยซ้ำแจ็ค ไม่เชื่อถามดวงจันทร์สิ”

                “ช่างมันเถอะ ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เจ้านักหรอก” เขาหัวเราะเบาๆ“แต่....ข้าว่ามีใครบางคนทำของหายนะ ข้ากำลังอยากได้อยู่พอดี”ว่าแล้วทรายข้างๆเท้าของเขาก็นูนขึ้นมา พิทช์มีอารมณ์ขันแบบแปลกๆ เขาหัวเราะแล้วทรายที่นูนก็ทิ้งตัวลงมาเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน มันคือไม้เท้าวิเศษที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจเมื่อไม่ได้อยู่กับเจ้าของ

                “ไม้เท้านั่นไม่ใช่ของแก”แจ็คตะโกนและพยามทำให้ทรายท่วมแอลลีสันให้ช้าที่สุด

                “แล้วก็ไม่ใช่ของเจ้า”พิทช์สวน เขายื่นหน้าลงมามองแจ็ค เลิกคิ้ว อ้าปากค้างแบบไร้เดียงสา “เจ้ามีมันก็ไร้ประโยชน์ แจ็ค เจ้าไม่มีประโยชน์กับข้าเลยเพราะเจ้ามันเป็นแค่เด็ก เจ้าจะมีมันไปทำไม เจ้าไม่ได้เข้าสงครามนี่ ถูกมั้ย”

                “แต่มันเป็นของข้า”แจ็คอ้าง

                “เจ้าแน่ใจหรือ”พิทช์กระซิบถาม

    “มะ..มัน” แจ็คอึ้งแล้วหลุบตาต่ำ เขาไม่แน่ใจ จริงอย่างที่พิทช์พูด มันอาจไม่ใช่ของเขา ดวงจันทร์ไม่ได้บอกอะไรที่จำเป็นกับเขาเลย ดวงจันทร์ละทิ้งเขา ให้เขาเกิดมาเพื่อเผชิญกับเรื่องเลวร้าย แล้วดวงจันทร์จะให้ไม้เท้ากับเขามาเพื่ออะไรโดยที่ไม่เคยแคร์เขาเลย

                “มันเป็นของแจ็ค องค์ราชา มันไม่คู่ควรกับท่าน”แอลลีสันตะโกน พิทช์ขำอยู่ในลำคอแล้วจุ๊ปากในเธอเงียบ

    “เก็บปากเจ้าไว้เถอะ สาวน้อย เราต้องคุยกันอีกเยอะ”พิทช์กระซิบเป็นปริศนา

    “เราจะไม่ได้คุยอะไรทั้งนั้น”แอลลีคำราม

    “ใช่”พิทช์ค้อนหน้าช้าๆและเม้มปากแสดงความเสียดาย “เพราะพวกเจ้าตายก่อนไง”

    ทันใดทรายใต้เท้าของแจ็คก็ค่อยๆร่วงหล่นจากฟ้าไปที่ละน้อยๆ แจ็คสะดุ้ง เขากำลังจะตกอีกแล้ว แจ็คลื่นและตกจากที่ที่ยืนอยู่ แอลลีสันเอื้อมมือมาคว้าข้อสอกเขาไว้ได้อย่างว่องไว แต่เธอก็กำลังจมลงเหมือนกัน

                แจ็คร้องว๊ากเสียงดังลั่น แอลลีสันตะเกียกตะกายแหวกทรายออกจากไหล่และคอ พิทช์หัวเราะสุดเสียงอย่างมีอำนาจ ขณะที่ไม้เท้าวิเศษสิ้นแสงและสองชีวิตกำลังตกอยู่ในกำมือของจ้าวแห่งฝันร้าย เหล่าฝันผยศกระโจนออกมาจากทรายที่อยู่ใกล้เคียง พวกมันย่างสามขุมเข้ามาหาทั้งสองเรื่อยๆ บางตัวส่งเสียงร้องชวนสยองขวัญเคล้ากับเสียงหัวเราะของเจ้านายของมัน

              “เชื่อเถอะ ข้าใจดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ไว้ชีวิตพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าสองคนคงไม่ชอบโลกตอนที่ข้าได้ครอบครองมันหรอก”ราชาพูดอย่างเกรี้ยวกราด

    แต่แล้วก็มีเงาบางอย่างกำลังบินมาทางด้านหลังของพิทช์ที่มัวแต่หัวเราะร่วนอย่างรวดเร็ว แสงสีฟ้าสดใสสว่างจ้าก่อนที่ราชาจะหันไปมองทัน ตามด้วยเสียงบึ้มดังกังวานจนหูแทบดับ ทรายสีดำที่พิทช์กำลังยืนอยู่แตกกระจายราวกับฟองสบู่  พิทช์กระเด็นไปกลางอากาศแต่มีไนท์แมร์ตัวหนึ่งมารับเขาไว้ก่อนที่จะเป็นอันตราย อะไรบางอย่างที่บินเร็วมากจู่โจมกองทัพฝันร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงคำรามของสัตว์ร้ายผู้จู่โจมดังก้องไปทั้งฟากฟ้าขณะที่ทั้งสามมองหากันอย่างจ้าละหวั่นและวุ่นวายไนท์ แมร์แต่ละตัวบินไปบินมาขวักไขว่

                “เกิดอะไรขึ้น”แจ็คตะโกนและพยามหลบความวุ่นวายทั้งหลาย ระเบิดสีฟ้าสว่างวจ้าลงอีกรอบใกล้ๆกับทั้งสอง พวกไนท์แมร์ที่ล้อมพวกเขาอยู่แตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง  แล้วเงาดำมหึมาก็ทาบบนตัวของทั้งสองคน

                “มังกรนี่”แจ็คพูดงึมงำ หนาววาบลงไปยังสันหลัง ผมสีขาวที่ท้ายทอยตั้งชันด้วยความขนหัวลุก แจ็คกลืนน้ำลายไม่ลง พูดไม่ออกราวกับว่ามีก้อนบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอ

    สัตว์ประหลาดในตำนานโฉบลงมาข้างหน้าทั้งสอง ตัวของมันใหญ่กว่าตอนที่แอลลีสันแปลงร่างเป็นนกอินทรีเสียอีก แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มหึมา ขนาดของมันไม่ยาวไปกว่าสิบห้าฟุต ผิวเป็นเกล็ดด้านสีน้ำตาลอมเหลืองไร้ซึ่งความมันวาวเหมือนเกล็ดของอิกัวน่า มันยืนด้วยขาผอมยาวทั้งสี่มีกรงเล็บยาวเหมือนกับหมีงอกออกมาจากอุ้งเท้า ตาของมันโตจนผิดปกติ ปีกของมันเป็นผังผืดเหมือนปีกของค้างคาว ผังผืดนั้นหนาและยาวลงไปจนถึงปลายหางที่เป็นหนามของมัน แต่แล้วมันก็อ้าปากที่มีฟันซี่ใหญ่ๆกับลิ้นหนาสองแฉกออก แล้วส่งเสียงเหมือนคนกำลังกลั้วคอออกมา แจ็คที่ห้อยต่องแต่งเหวี่ยงตัวไปมาแล้วร้องอ๊ากด้วยความตกใจ

                “แจ็ค นั่น เลียม”แอลลีสันพูดด้วยรอยยิ้มแห่งความหวังพร้อมกับเขย่าแขนของเขา แจ็คถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เขาเอื้อมมืออีกข้างขึ้นมาเกาะแขนแอลลีให้แน่นขึ้น สายตาที่หวาดระแวงของแจ็คกลับแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสนุก

                “ว้าว!”แจ็คกระซิบ “จริงเหรอ”แจ็คพูดเสียงแผ่ว เจ้ามังกรพยักหน้า

    “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นายมันเท่ตัวพ่อ ไอ้น้องชาย”แจ็คร้อง

    “แน่สิ”เลียมในร่างของมังกรร้องตอบเป็นเสียงเหมือนกับเสียงกรนกับเสียงครางของแมว ที่ฟังไม่ค่อนรู้เรื่อง เขาก้มหัวใหญ่ๆคาบแจ็คขึ้นมาวางบนที่ปลอดภัย จากนั้นเลียมก็เริ่มจ้อไม่หยุด เจ้ามังกรสีน้ำตาลส่งเสียงเหมือนเครื่องตัดหญ้าและเสียงของนกหัวขวานแล้วต่อด้วยเสียงกรีดกระจกพร้อมกับกระโดดไปมาและทำท่าเหมือนบิดขี้เกียจพร้อมกับทำตาเหลือกจากนั้นก็คำราม เป็นครั้งแรกที่ฟังเหมือนเสียงของมังกรจริงๆ จากนั้นก็ทำเสียงเหมือนเสียงหัวเราะ แจ็คไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรแต่คงเป็นอะไรที่เขาภูมิใจมาก แจ็คได้แต่ฟังและยิ้มแหยๆ

    “แล้วนายคิดว่าไง”เลียมกรน

                “ฉัน...เอ่อ”แจ็คพูด “คือ...ฉันฟังภาษามังกรไม่รู้เรื่อง”

    เจ้ามังกรสีน้ำตาลกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับถอนหายใจออกมาเป็นไฟสีน้ำเงิน เลียมคำรามเสียงก้องในลำคอแล้วแลบลิ้นสีชมพูสองแฉกเลียตาโตๆของตัวเอง จากนั้นก็ทำเสียงเหมือนเสียงลากเก้าอี้ดังเอี๊อดอ๊าดแสบหู           

    “ฉันไม่เขาใจจริงๆนะ”แจ็คพูดพร้อมกับแบมือออกทั้งสองข้างและหัวเราะด้วยความประหลาดใจ เลียมแยกเขี้ยวใส่เขาและหรี่ตาจากนั้นก็ทำเสียงกระแอมดุๆ

                “หนุ่มๆ”แอลลีสันเตือน เธอหุบปีกของเธอและท้าวคางอยู่บนทรายทอดสายตามายังทั้งสอง แล้วเธอชูมือท่าทียอมแพ้

    ฉึก!

    หอกสีดำปักอยู่ห่างจากอกของภูตสาวไปไม่กี่นิ้ว แอลลีอึ้งและพูดไม่ออก เธอได้แต่จ้องหอกที่เกือบปิดชีวิตเธอ แจ็คและมังกรหันไปมองยังที่มาของหอกมรณะ พิทช์นั่นเอง เขาขี่อยู่บนไนท์แมร์ที่สง่างามที่สุดและสยดสยองที่สุดที่เคยเห็นมา เขามองพวกเด็กๆด้วยหน้าตาที่เบื่อหน่ายเต็มทน เขาถือไม้เท้าของแจ็คอยู่ในมือ กำมันด้วยความโกรธจนข้อที่นิ้วมือสีเทาของเขาขึ้นข้อขาว เขาเชิดคางยาวๆขึ้นและมองลงมายังทั้งสามอย่างเย้อหยิ่ง แล้วทันใดฝูงไนท์แมร์ก็เข้าจู่โจมทันทีแจ็คตรงไปหาแอลลีสัน ดึงหอกออก แล้วเริ่มขุดทันที

                “บ้าจริง”แจ็คสบถ “บ้า จริง บ้าจริง เธอน่าจะตัวเล็กกว่านี้นะ”เขาขุดมือเป็นระวิง

              “อ้ะ! เธอหาว่าฉันอ้วนเหรอ”แอลลีสันว่า

                “เปล่า ฉันหมายถึง เธอน่าจะเตี้ยกว่านี้นะ จะได้ขุดออกมาง่ายๆ”เขาพูด แล้วแอลลีสันก็สว่างวาบ ความคิดบางอย่างเข้ามาในหัวของเธอ เป็นความคิดที่เยี่ยมที่เดียวเมื่อตั้งสติได้

                “จริงด้วย ฉันน่าจะเตี้ยกว่านี้ เธอน่าจะบอกฉันเร็วกว่านี้นะ”เธอร้องและเขย่ามือแจ็ค แต่เด็กชายไม่เข้าใจ แอลลีสันแปลงร่างเป็นตัวตุ่นสีดำตัวเตี้ยสั้นและขุดตัวเองออกมาจากทรายได้อย่างง่ายดาย เธอเกาะนิ้วของแจ็คขึ้นมาและแปลงร่างกลับเป็นเด็กสาวอีกครั้ง

    เลียมขู่คำรามเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า เขาย่อตัวลงทำท่าโจมตี แล้วพ่นไฟออกมาใส่ไนท์แมร์ที่เข้ามาโจมตี

    “อย่า!”แอลลีสันตะโกนบอกเลียม ผลักแจ็คออกไป แล้วเธอก็หมอบลง

    ลูกไฟพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ตามองไม่ทัน  ความเร็วของเพลิงสีฟ้าแหวกอากาศส่งเสียงดังเหมือนสายฟ้าฟาด เปรี๊ยง! แรงระเบิดโหมเอาลมและเสียงมหาศาลพุ่งไปทุกทิศทุกทาง แรงจนพลังงานของธรรมชาติที่มองไม่เห็นกระแทกแจ็คและทุกอย่างที่อยู่รอบด้านกระเด็นจนลอยไปไกล เขายื่นมือออกมาแล้วจิกลงไปในเนินทรายเพื่อไม่ให้กระเด็นไปไกล ตาของเขาพร่าเลือน ในหูของเขามีเสียงแหลมสูงเหมือนว่าหูดับไปแล้ว แต่ไม่นานหูก็กลับมาได้ยินเป็นปกติ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีฟ้าหม่นด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาสัปหงกและค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่าเก้ๆกัง  แต่แล้วแอลลีสันก็วิ่งมาฉุดแขนเขา แจ็คเซไปตามแรงของเธอและต้องวิ่งตามเธอไปบนสายทรายที่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เลียมกำลังต่อสู้อยู่กับฝูงไนท์แมร์นับร้อยๆอยู่กลางอากาศ ลูกไฟสีฟ้าของเลียมส่องแสงวูบวาบ แต่บางครั้งก็ถูกเหล่าไนท์แมร์ที่รวมกลุ่มกันดับแสงของลูกไฟมหาปะลัย แต่บางคราวก็ระเบิดเอาพลังงานจำนวนนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปพร้อมกับไนท์แมร์ที่ระเบิดเป็นผุยผง ทั้งคู่ผลัดกันรับผลัดกันรุกอีกฝ่ายกันอย่างเดายากว่าใครจะชนะ ระหว่างมังกรวัยรุ่นไฟแรงกับมหาราชาแห่งฝันร้าย

                “เราต้องรีบแล้ว”แอลลีสันร้อง

                “ไปไหน”แจ็คถามและเริ่มวิ่งและกระโดดได้อย่างคล่องแคล่ลวขึ้นแต่แอลลีกลับวิ่งได้อย่างปวกเปียก  ยังไม่ทันตอบคำถามแจ็คเธอก็ขัดขาตัวเองลงไปกลิ้งอยู่บนพื้นทรายย้วบๆเสียแล้ว แจ็คอยากจะขำแต่เขาต้องผะยุงเธอขึ้นมาก่อนแล้วเริ่มวิ่งต่อ สายทรายสายใหญ่ร่วงลงมาเกือบทับทั้งสองแต่ทั้งคู่ก็หลบได้ก่อน พอวิ่งไปได้ไม่กี่วินาทีแจ็คก็สะดุดหลุมทรายดูดเล็กๆ เท้าของเขาจมลงไปแต่เมื่อทรายไหลออกไปหมดก็เหลือเพียงรูโหว่ซึ่งข้างล่างเป็นพื้นดินและป่าสนต่ำลงไป รูโหว่ขยายขึ้นเรื่อยๆ แจ็คเริ่มจะไหลลงไปตามทราย แอลลีสันดึงเขาขึ้นมา และเริ่มวิ่งไปถึงเลียมให้ทันก่อนสายทรายทั้งสายจะตกลงจากท้องฟ้าสู่แผ่นดิน

                “เลียม”แอลลีสันตะโกนเรียกให้น้องชายของเธอมารับ

    เจ้ามังกรสีน้ำตาลทำหน้าเสียดายที่ต้องผละไปจากการต่อสู้ แต่ในที่สุดมันก็พ่นลูกไฟลูกสุดท้ายของยกนี้ใส่ไนท์แมร์จำนวนหนึ่ง ระเบิดสีฟ้าแตกกระจาย เลียมบินมาหาพี่สาวและแจ็ค พ่วงท้ายมาด้วยไนท์แมร์อีกจำนวนนับไม่ถ้วน

    ภูตสาวโยนเด็กหนุ่มที่ตัวเบาหวิวขึ้นบนหลังของมังกรที่บินเลียบเคียงไปกับสายทราย แจ็คกระแทกกับคอของเลียมดังอั้ก แล้วปีนขึ้นไปเกาะบนตัวของเขา จากนั้นก็ยื่นมือให้แอลลี ภูตม๊อทรับมือของเขา โดด ลากตัวเองขึ้นไปบนท้ายทอยของมังกร

                “พาเราไปที่พิทช์ เลียม”แอลลีสันพูด

              “หา”เลียมคราง

                “หืม”แจ็คคราง เลียมหันหัวใหญ่ๆและตาโตๆมามองทั้งสอง

                “เราต้องไปเอาคทาคืนให้แจ็ค จากนั้น เราจะต้องไล่ไนท์แมร์ ถ้าให้ดี เราก็จำเป็นจะต้องรวมตัวกับชาวบ้าน”แอลลีสันวางแผน เลียมกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายแล้วครางเสียงต่ำ

     “นายไม่ต้องห่วง เลียม ฉันไม่มีวันให้ชาวบ้านเจอนายแน่ จำได้ไหม ตอนที่เราไปซานโตลีนี ปารีส และ ริโอ เดอจาเนโล แล้วตอนที่นายแปลงร่างเป็นมังกรน่ะ ตอนนั้นพวกชาวบ้านทำกับนายยังไงนะ นายยังจำได้ใช่มั้ย”พี่สาวเตือนน้องชาย แจ็คมองไปรอบๆเพื่อมองหาพิทช์ เขามองฝ่าคลื่นทราย วังวนเมฆดำ ความวุ่นวาย และฝูงไนท์แมร์ ไม่เห็นมีพิทช์เลย เขาหายไปแล้ว พร้อมกับคทา

    “ให้ตายเถอะ ฉันมองไม่เห็นเขาเลย”แจ็คร้อง หรี่ตาลงเพราะลมแรงที่ปะทะใบหน้า

    เลียมบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด ปีกที่เป็นผังผืดของเขากระพือขึ้นลงระรัวลากสัตว์ในตำนานหนักเกือบหนึ่งตัน กับคนอีกสองคนขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็วจนลมที่พัดเข้ามาปะทะอาจจะทำให้ใครบางคนที่เกาะไม่แน่นพอหลุดออกไปจากท้ายทอยของเจ้ามังกรได้ ไม่นาน ทั้งหมดก็ขึ้นมาอยู่เหนือเมฆสีเทาเป็นสายลอยเอื่อยๆและความวุ่นวายทั้งหลาย เลียมบินอยู่นิ่งๆกลางอากาศเหมือนเหยี่ยวจ้องจะจับเหยื่อ เขาหมุนไปทางซ้ายที่และทางขวาดีพร้องกับส่งเสียงในรูปของความถี่ต่ำจนอากาศสั่นสะเทือน เบอร์เจสต์สงบลงมาก พวกไนท์แมร์ดูบางเบาลงไปจนผิดตา

                “เธอรู้สึกแปลกๆมั้ย”แจ็คกระซิบ

                “อะไร”แอลลีสันถาม

                “คือ ไนท์แมร์ไม่มีวันตายใช่มั้ย”

                “อ่าฮะ”

              “แน่ใจเหรอ”

                “ทำไม”

                “คือ ตอนที่ฉันทำลายมัน ตอนแรกก็คิดว่ามันจะฟื้นขึ้นมา แต่ว่า มันกลับไม่คืนชีพมาใหม่เหมือนกับเมื่อคืน แต่มันสลายกลายเป็นทรายเฉยๆ ฉันว่าเธอพลาดแล้วล่ะ”เขาหัวเราะแห้งๆ

                “ฉันไม่พลาดหรอก เพราะฉันก็เจอมาแล้วเหมือนกับเธอนั่นแหละ และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น”

    “ แต่มันก็ดีนะ อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าจะจัดการกับมันไม่ยากเท่าไร”แอลลีสันพูดแล้วยิ้มออกมา

              “ตะ ตะๆ...ตอนอ ชะ ชาว”เลียมคำรามอย่างยากลำบาก

                “อะไร”แจ็คถาม

                “ออ ใช่! ตอนเช้า”แอลลีสันร้อง “ฝันร้ายจะอ่อนแอในตอนเช้า บางทีที่ไนท์แมร์ไม่ฟื้นคืนชีพก็เพราะเหตุนี้”

                “แต่ยังไง พวกมันก็ไม่มีวันหมดอยู่ดี ถ้ายังมีทรายพวกนี้อยู่”แจ็คเสริมแล้วทอดสายตาไปที่ทรายสีดำจำนวนมหาสาร

                “ถ้ามีภายุแบบเมื่อคืนพัดมาสักลูกก็ดีสิ จะได้พัดทรายพวกนี้ออกไปให้หมด”ภูตสาวเพ้อ แจ็คชะงักแล้วหันมามองเธอ มองไปมองมา ยิ้มเหมือนกับเด็กน้อยๆ

                “จริงด้วย”เขาอุทานแล้วหัวเราะร่วน “ฉันมีแผนแล้วพวก และ...”

                “และฉันก็หาพิทช์เจอแล้ว”แอลลีสันพูดและมองลงไปในหมู่ไนท์แมร์ พิทช์ยังถือไม้เท้าอยู่แน่น

              “และนั่นก็เป็นขั้นแรกในแผนของฉัน”แจ็คกล่าว







     

    © themy�butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×