ตอนที่ 23 : เดอะแก๊งค์เสื้อช็อป : Chapter 23
NOTE : ขออภัยสำหรับคำผิดค่ะ
Chapter 23
“นี่มันอะไร!!”
ทั้งสามคนที่กำลังจับกลุ่มนั่งคุยกันในเวลาว่าง ก็ต้องวงแตกทันทีเมื่อมีคนปาเอกสารบางอย่างลงมากลางโต๊ะ ใบไม้หันไปมองคนที่ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธจ้องมองมาที่ตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อแล้วต้องเมินหน้าหนีก่อนจะถอนหายใจแรงๆอย่างเหนื่อยใจ แม๊กซ์เพียงแค่กรอกตาแล้วทำหน้าเมื่อยๆเท่านั้น ก็มีแต่เอมที่นั่งจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นกลับ แฟนเก่าพี่นี่กัดไม่ปล่อยเลยจริงๆ เขาควรจะทำไงดี
“ฝีมือพวกแกใช่ไหม?!!!” เมื่อไม่ได้รับคำตอบทันทีก็เข้ามากระชากแขนเล็กๆของใบไม้อย่างแรง ใบไม้เพียงแค่เบ้หน้าออกมาเพราะความเจ็บเล็กน้อย ก่อนจะแกะมือเล็กๆนั้นออกจากแขนตัวเองแล้วสะบัดออกอย่างแรง พลางทำท่าปัดๆที่แขนตัวเองเบาๆ เรียกความคุกกรุ่นให้หญิงสาวตรงหน้ามากยิ่งขึ้น “นี่!! ตอบฉันมา!!”
“โอ๊ยเจ๊ มาพูดเสียงดงเสียงดังแถวนี้ทำไม ว่างมากนักเหรอเจ๊” เสียงที่ดังขึ้นมากลางวงก็หยุดหญิงสาวที่ตรงเข้ามาหาใบไม้อีกครั้งได้ เพื่อนทั้งสามคนต้องหันมามองหน้ากันอย่างสงสัย และคนที่โปรยยิ้มอย่างอารมณ์ดีมานั่งลงข้างๆเพื่อนขายาวอย่างแม๊กซ์ก็เป็นคำตอบได้อย่างดี
“เตวินแก!! หุบปากไปเลย!!”
“จิ๊ๆๆๆ ใช้ไม่ได้ ผู้หญิงประสาอะไรพูดจาไม่เพราะเลย ยาหยี...อย่าเป็นอย่างนี้ พี่ละปวดหัวกับคนนิสัยเสียแบบนี้จริงๆ” พูดพลางซบลงไปมนไหล่บางของแม๊กซ์ คนตากวางก็ได้ก็กรอกตาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆผลักหัวคนช่างลวนลามออก แล้วหันไปกอดอกมองหน้าหญิงสาวแทน ส่วนเพื่อนเขาน่ะเหรอ ใบไม้นั่งทำหน้าปลงๆ ส่วนเอมก็นั่งเท้าคางยิ้มบางๆ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆราวกับเรื่องตรงหน้านั้นมันช่างสนุกสนาน
“เล๊วเลวเนอะ” เสียงเอมมาลินที่พึมพัมออกมาเบาๆก็เรียกความโมโหของหญิงสาวได้อย่างดี เธอกระโจนเข้ามาหาเอมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อคนที่คิดจะปองร้ายผลักเธอออกอย่างแรง
“แก!!...ก..กรี๊…”
“หยุด! ห้ามกรี๊ด!!” เตวินยกมือขึ้นมาห้ามอย่างทันที ส่วนเด็กทั้งสามคนก็เตรียมอุดหูไว้เรียบร้อยแล้ว “นี่ฉันจะบอกอะไรให้” ว่าพลางรวบเอกสารที่กระจัดกระจายเต็มโต๊ะเข้ามาไว้ด้วยกันเคาะเบาๆสองสามทีก่อนจะมาวางไว้ตรงหน้าค่อยๆคลี่มันก็ออกมาดูทีละแผ่นแล้วก็ส่งยิ้มไปให้หญิงสาวที่กำลังค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
“เอกสารพวกนี้ก็...หมายเรียกไง” ถูกต้อง หมายเรียก...หลังจากวันที่เกิดเหตุ จอมทัพก็พาใบไม้ไปโรงพักทันที และเพียงแค่วันเดียวหลักฐานทุกอย่างก็อยู่ในมือจอมทัพด้วยฝีมือเอมมาลิน มันส่งเอกสารให้ทนาย เตรียมส่งหลักฐานให้ตำรวจ แน่นอนว่าอีกไม่กี่วันต้องมีหมายจับและหมายศาลอีกฉบับสองฉบับส่งตรงถึงบ้านผู้หญิงคนนี้แน่ๆ
“ฉันรู้แล้ว ฉันอ่านออก!! แต่ฉันถามว่าฝีมือพวกแกใช่ไหม!!”
“ก็แหม...เห็นมาถามก็นึกว่าจะอ่านไม่ออกซะอีก” ส่งยิ้มกวนโมโหไปให้หญิงสาวอีกครั้ง แล้วเลื่อนเอกสารไปวางไว้ตรงหน้าหญิงสาวที่กำมือแน่น หน้าตาสะสวยต้องบูดเบี้ยวเพราะความโมโหของตัวเอง “ก็อาจจะใช่ ก็แบบ...เธอมาทำอะไรไม่ดีกับพวกเราเอง พวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะเอาผิดกับเธอได้นี่ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ไปไหนนะ อ๋อ...สถานีตำรวจ และอืม...ศาล เผลอๆก็อาจจะ...คุกด้วย”
“ไม่มีทาง!!” นุชมองชายตรงหน้าเขม็ง ผู้ชายคนนี้ไม่เคยญาติดีกับเธอตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้ตอนที่เธอเป็นแฟนกับเพื่อนของเขาก็ไม่เคยยินดียินร้ายอะไรกับเธอทั้งสิ้น
“ก็เธอโง่เองที่ปล่อยให้จอมทัพมันเก็บเอกสารปลอมไว้อะนะ” โง่จริงๆนั่นแหละ ทำอะไรไว้มีกล้องจับไว้หมด ทีนี้ก็หลักฐานมัดตัวชัดเจน ยังจะบอกไม่มีทางอีก เฮ้อ คนเรานะ..
“อ..เอกสารนั่นเป็นของจริง!! เขาเป็นลูกของจอมทัพ!! ไอ้โง่ ไหนวันนั้นเราพูดรู้เรื่องกันแล้วไง!!” นุชที่จนมุมก็พุ่งเป้าไปที่ใบไม้ทันที มือเล็กๆทำท่าจะฟาดลงมา แต่ก็หยุดชะงักเมื่อมีน้ำเสียงกวนประสาทดังขึ้นมากวนใจอีกครั้ง
“นี่ๆๆๆ คิดจะทำร้ายร่างกายลูกเดียว เดี๋ยวก็โดนอีกกระทงซะหรอก” เตวินว่าพลางยกนิ้วชี้ขยับไปมาพลางส่ายหัวให้หญิงสาว ส่วนใบไม้ที่เห็นนุชถอยห่างออกไปก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย นึกว่าจะตบแล้วซะอีก...
“ผมเปล่า...คุณคงเข้าใจของคุณเอง” เอาจริงๆเขายังไม่ตกลงอะไรด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนี้ก็ตะโกนใส่เขาปาวๆแล้วเดินหนี ส่วนนุชก็ได้แต่ยกมือกอดอก เชิ่ดหน้าใส่ใบไม้อย่างไม่หวั่นเกรงใดๆ
“หึ..ยังไงจอมทัพก็ต้องรับผิดชอบฉันอยู่แล้ว เดี๋ยวแกก็ต้องถูกทิ้งอยู่ดี ยังจะโง่อยู่อีก” หญิงสาวก้าวเข้ามาเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มเยาะ จ้องตาดำขลับที่แววตาดูเปลี่ยนไปก่อนจะหัวเราะแผ่วๆออกมาเมื่อเห็นแววตาไหวหวั่นของใบไม้ คนโง่ก็ยังโง่อยู่วันยันค่ำนั่นแหละ “เขารักฉัน เราจะแต่งงานกัน เราจะสร้างครอบครัวกัน อย่ามาเป็นมารมากั้นขวางทางฉันกับเขา เข้าใจไหม!!”
“ผมขอโทษด้วย...แต่ถึงยังไงผมก็เชื่อในสิ่งที่พี่จอมทัพพูดอยู่ดี” สุดท้ายใบไม้ก็กดความรู้สึกต่างๆออกไป เรื่องผ่านมาจนหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปโดยที่เราสองคนยังคงเหมือนเดิม เขาเชื่อใจพี่...ว่าแล้วแววตาดับขลับนั่นดูจะกลับมานิ่งอีกครั้ง ปากอิ่มยกยิ้มบางๆให้หญิงสาวที่กำลังกำมือแน่นอย่างอดทนเพราะสู้อะไรไม่ได้
“นี่ป้า…” อยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ใบหน้าโกรธเกรี้ยวสะบัดไปมองทันที แม๊กซ์เพียงกอดอกมองนิ่งๆเท่านั้น “อย่าต่อความยาวสาวความยืดจะได้ไหม ผมมีเรียนอีกห้านาที ผมต้องใช้เวลาไปที่ห้องเรียนสามนาที รีบพูดมาเร็วๆ จะได้จบๆสักที ผมจะสายแล้ว” เตวินหันไปมองคนข้างๆก่อนจะเลิกคิ้วมองงงๆ ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็ค่อยๆทะยอยเก็บของลงกระเป๋าแล้วคว้ามาสะพายเตรียมไว้เรียบร้อย
“นี่พวกแกคิดจะ...” หญิงสาวยกมือสั่นๆขึ้นมาชี้หน้าทุกคนพร้อมกับแววตาที่ดูไม่เข้าใจ จะมาไม้ไหนกันแน่!! อยู่ๆจะให้รีบพูดเนี่ยนะ! วันนี้ต้องจบแน่นอน..แต่ฉันต้องจะ...
“ผมให้เวลาแค่สิบวิ…” ก่อนจะได้คิดอะไรอีกเสียงของคนคนเดิมดังขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวเพียงได้แต่อ้าปากค้างอย่างพูดอะไรไม่ออกเท่านั้น “จะไม่พูดเหรอ ห้าวิแล้วนะ” แม๊กซ์ว่าพลางเคาะนาฬิกาไปมาสองสามครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นมาคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย
“ถ้าผมสาย ป้าต้องรับปิดชอบความรู้ที่จะไม่ได้เข้าสมองผม ผมไม่อยากจะโง่แบบป้าหรอกนะ สวัสดี” พูดจบก็ก้าวออกไปทันทีอย่างไม่สนใจใบหน้างงงวยของหญิงสาว ใบไม้ถอนหายใจออกมาแล้วเดินตามเพื่อนไป เอมมาลินยกมือขึ้นโบกไม้โบกมืออย่างร่าเริงก่อนจะเดินตามไปอีกคน
“บายครับคนสวย จ๊วบบบบ” เตวินว่าพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว นุชที่ถอยหลังก็ต้องยกมือขึ้นปัดใบหน้าที่ดูโรคจิตในความตัวเองออกไปอย่างพัลวัน เตวินที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเด้งตัวออกแล้วหัวเราะชอบใจทันทีที่ยั่วโมโหคนตรงหน้าได้ รีบวิ่งตามคนรักของตนออกไปทิ้งไว้แต่เพียงหญิงสาวที่กระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว
“แก!!....ไอ้โรคจิต!!”
เตวินที่วิ่งตามเด็กสามคนมาก็เข้ามากอดคอเด็กตากวางที่ยืนต่อแถวขึ้นลิฟท์เอาไว้ แล้วกดจมูกลงที่แก้มอูมๆนั่นหนึ่งที เรียกแววตาหงุดหงิดของแม๊กซ์ออกมาได้ในที่สุด เตวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะยกมือยีกลุ่มผมนุ่มเบาๆ
“ดูจะเป็นการจบเรื่องแบบงงๆอยู่นะ” เตวินว่า งงจริงๆนั่นแหละ อยู่ๆคิดจะจบก็จบ เอมมาลินที่ได้ยินก็หัวเราะลั่นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาพูด
“ไม่งงหรอกค่ะ จะสายแล้ว...คนอย่างแม๊กซ์ต้องเข้าเรียนตรงเวลา” เตวินได้ยินก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ เด็กคนนี้ทำเขาอึ้งหลายอย่างอีกแล้ว นอกจากจะกินเก่ง เล่นเกมเก่งจนเอาชนะมือเซียนอย่างเขาได้ ยังจะเรียนเก่งอีก รู้ได้ไงว่าแฟนผมเรียนเก่ง?....อืม...ก็ผมมั่นใจของผมของผมอะ ยาหยีของผมต้องเรียนเก่งอยู่แล้ว
“วันนี้ก็ตั้งใจเรียนนะ…” เตวินว่าพลางลูบกลุ่มนุ่มสีน้ำตาลเข้มเล็กน้อย แล้วยิ้มอย่างชอบใจเมื่อแก้มคนตรงหน้าแดงระเรื่อออกมา ก่อนจะยกนิ้วขึ้นไปเขี่ยนแก้มอูมเหมือนอันปังแมนที่เวลามันขึ้นสีแดงระเรื่อ เรียกค้อนวงโตจากดวงตากลมๆนั่นได้อีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับพี่เตวิน…” เสียงใบไม้ที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังก็ทำให้เตวินหันไปมองก่อนจะยกยิ้มให้ “ไม่มีพี่คงแย่..”
“ไม่เป็นไร ไอ้จอมทัพมันไม่ว่าง ก็เลยฝากพี่มาดูหน่อย...มันอย่างกะมีเซนท์แหน่ะ...ดีนะที่มาทันพอดี”
ก็วันนี้จอมทัพมันต้องไปแก้งานน่ะสิ อาจารย์เรียกตัวด่วน ได้แต่หันมาบอกกับเขาคำสองคำว่าให้ไปดูน้องให้ด้วย ผมพยักหน้าให้เพื่อนที่ดูท่าจะเป็นห่วงไม่เลิก แต่ยังไงก็จะไปหาแม๊กซ์อยู่แล้ว ได้ข้อความกลับมาว่าอยู่ส่วนไหนของมหาลัยก็รีบบึ่งไปหาทันที แต่นั่นแหละพบเข้ากับแจ๊กพอตจนได้
“ขอบคุณนะคะ” เอมมาลินว่า เตวินยกยิ้มบางๆให้เท่านั้นก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อนิ้วเรียวเข้ามาสะกิดที่เอวเขาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองแม๊กซ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วต้องยิ้มกว้างเมื่อมีแขนเข้ามาเกี่ยวที่แขนตัวเอง ตากลมๆเหมือนกวางช้อนตามองเขาเล็กน้อย
“วันนี้ขอบคุณนะครับ” ก็รู้นะว่าเด็กตากวางไม่ได้ช่างอ้อนแบบใบไม้ แต่บางทีไอ้ท่าทางที่แสดงออกมาแบบไม่รู้ตัวเนี่ยแหละมันโคตรน่ารัก น่ารักจน...
“คืนนี้ขอฟัดจะได้ไหม” และสุดท้ายเตวินก็ได้ค้อนวงโตกับแรงหยิกที่เอวจนชายหนุ่มต้องรีบเด้งตัวออกมาก่อนจะลูบเอวตัวเองแรงๆ “มันเจ็บนะยาหยี...แค่พี่จะขอฟัดเองไม่เห็นจะต้องโมโหร้ายใส่กันเลย”
“หยุดพูดไปเลย!!!”
______________________________________________________
“เราจะไปไหนกันเหรอครับ” ใบไม้เงยหน้ามองคนที่ตั้งใจขับรถก่อนจะถามออกมาอย่างสงสัย พอเล่าทุกอย่างให้ฟัง อยู่ดีๆพี่ก็จูงเขาขึ้นรถ จนผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ไม่ยอมบอก ไม่พูดไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำ ผมเหลือบมองพี่เล็กน้อย ก็ไม่เห็นจะมีแววตาคุกกรุ่นอะไรมาก เพียงแต่จะดูหงุดหงิดในตอนแรกด้วยซ้ำ
“โรงพยาบาล” และคำตอบของจอมทัพก็ทำใบไม้ต้องเด้งตัวขึ้นมานั่งทันทีหลังจากเลื้อยอยู่กับเบาะ ดวงตาที่ทำท่าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่กลับเบิกขึ้นไร้ความง่วงงุนอีกต่อไป ก่อนคนตัวเล็กจะเข้าไปกอดแขนแข็งแรงพลางถูแก้มไปมา
“โถ่..ผมบอกแล้วว่าไม่เป็นไร ที่เธอบีบก็ไม่ใช่ข้างที่เจ็บด้วย ผมสบายดีนะ” เมื่อร่างสูงไม่ตอบอะไร คนตัวเล็กก็ต้องดึงแขนเสื้อช็อปของอีกคนเบาๆเรียกร้องความสนใจ แล้วก็ต้องโอดครวญเข้าไปอีกเมื่อรถเลี้ยวเข้าไปในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใบไม้มองไปรอบๆอย่างไม่เข้าใจ พี่ลอกล่อให้เขามาโรงบาลจนต้องพามาไกลถึงนี่เลยเหรอ ที่ผ่านคงทำให้ตายใจสินะ “พี่ครับบ...ผมสบายดี จริงๆนะ...ไม่ต้องหาหมอก็ได้”
“พี่เข้าใจ แต่ยังไงเราก็ต้องไป”
“พี่ไม่เห็นเข้าใจผมเลย ถ้าเข้าใจจะพาผมมาโรงพยาบาลทำไม” ใบไม้ว่าพลางกอดอกทำหน้ามุ่ยใส่ จอมทัพที่จอดรถเรียบร้อยแล้วก็หันมามองเด็กดื้อยิ้มๆก่อนจะมือขึ้นลูบหัวกลม ส่งยิ้มละมุนให้จนคนตัวเล็กต้องตาลอย
“อย่างอนพี่เลยนะคนดี…” พูดจบก็กดจูบลงบนกระหม่อนบางเบาๆ ก่อนจะผละออกแล้วถอดกุญแจรถ เปิดประตูออกไปทิ้งให้ใบไม้ได้นั่งนิ่งอยู่คนเดียว...เฮ้อ รอยยิ้มเมื่อกี้น่ะ...กระชากใจเป็นบ้าเลยให้ตาย ชักมากเกินไปแล้วจะหลงพี่มากเกินไปแล้ว จนเสียงเปิดประตูข้างหลังตัวเองดังขึ้นนั่นแหละถึงจะสติกลับมาได้
“มาเร็ว…” จอมทัพว่าพลางส่งมือให้ใบไม้ สุดท้ายคนตัวเล็กก็ต้องระบายลมหายใจเบาๆล้วส่งมือไปให้จอมทัพอย่างจำใจ
เอาวะ หาหมอก็หาหมอ… ไม่เป็นอะไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง…จนแล้วจนรอด สุดท้ายใบไม้ก็ต้องกอดแขนจอมทัพพร้อมกวาดตามองไปรอบๆอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่ ก่อนจะเขย่าแขนจอมทัพไปมาเมื่อคนข้างๆเดินตรงไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดชะงักแม้แต่นิดเดียว “พี่ครับ...ผมสบายดีจริงๆนะ เนี่ยๆ เฝือกยังแข็งแรงไม่มีแตกร้าวเลย ที่หัวไม่อักเสบด้วย….เห็นไหมๆ แผลจะหายแล้ว ไม่เจ็บสักนิด”
“พี่ครับบบ…” แล้วใบไม้ก็ต้องร้องเรียกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อทั้งสองคนเข้าไปในลิฟท์ ใบไม้กอดแขนแข็งแรงแน่นแล้วถูแก้มไปมาพลางช้อนตามองอย่างออดอ้อน “ผมไม่อยากหาหมอเลย...ไม่อยากโดนฉีดยาอีกแล้ว ผมไม่ชอบบ” จอมทัพได้ยินก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“ที่ไม่อยากมาโรงพยาบาลเพราะกลัวโดนฉีดยาเหรอ” คนตัวเล็กพยักหน้า จอมทัพส่งยิ้มให้แล้วลูบหัวกลมที่ซบอยู่ที่แขนเขา “ไม่เป็นไรหรอก เจ็บนิดเดียวเอง” พอได้ยินอย่างนั้นใบไม้ก็สะดุ้งขึ้นมามองจอมทัพตาโต
“ที่พูดแบบนี้เพราะผมจะโดนฉีดยางั้นเหรอครับ” จอมทัพไม่พูดอะไรเพียงยิ้มให้บางๆ ก่อนจะจับจูงมือคนตัวเล็กที่ดูอิดออดออกมาจากลิฟท์เมื่อถึงชั้นที่หมาย ใบไม้กระตุกแขนจอมทัพแรงยิ่งขึ้นเมื่อร่างสูงไม่หยุดเดินเลยสักนิด “ผมสบายดีนะ จริงๆนะ...ผมสบายดีแล้วผมจะฉีดยาทำไม!...พี่ครับบ”
“มากันแล้วเหรอ…” และแล้วเสียงที่ดังขึ้นมาข้างหลังก็ทำให้ทั้งสองหยุดชะงัก ใบไม้ค่อยๆหันไปมอง ผู้ชายตรงหน้าใส่สูทสีเทาท่าทางสุขุมแต่แววตาดูซุกซน เนคไทสีอ่อน แต่ท่าทางดูไม่น่าจะเป็นหมอ ถ้าหมอก็ต้องใส่เสื้อกราวน์สิ แต่แล้วคนตัวเล็กก็ต้องตาโตเมื่อเห็นใบหน้าผู้ชายคนนั้นเต็มๆตา ใบหน้าใสหันไปมองคนข้างๆที และผู้ชายอีกคนที ซ้ำไปซ้ำมา ใบหน้าที่ถอดแบบกันมาแบบนั้นน่ะ...
“เราคงเป็นใบไม้สินะ...” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มตรงหน้าก้มลงมามองคนตัวเล็ก ก่อนจะยื่นมือออกหาคนที่กำลังทำหน้างงพลางส่งยิ้มกว้างไปให้ “ยินดีที่ได้รู้จัก...” ใบไม้กระพริบตาปริบๆไปมา ก่อนจะค่อยๆยื่นมือออกไป แต่แล้วอยู่ดีก็มีคนปัดมือของชายหนุ่มตรงหน้าออกแล้วรวบมือเล็กๆกลับไปกุมไว้
“ไม่ต้องมาทำเจ้าชู้กับใบไม้เลย...” ใบไม้เงยหน้าไปมองจอมทัพที่ขมวดคิ้วมุ่นทำหน้าบูดบึ้งใส่ผู้ชายตรงหน้า ก่อนเขาจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วหันไปส่งยิ้มให้ใบไม้อีกครั้ง
“สวัสดีครับ พี่ชื่อจอมพลนะ...เป็นพี่ของไอ้คนที่ทำหน้าบูดๆอยู่ข้างๆเราน่ะ” ได้ยินอย่างนั้นใบไม้ก็ตาโตยกมือสวัสดีพี่ชายของจอมทัพทันที เขาลืมไปได้ยังไงว่าพี่มีพี่ชายแล้วหน้าตาที่พิมพ์เดียวกันแบบนั้นอีก ส่วนจอมพลก็รับไหว้ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วมองน้องชายของตัวเองทันที
“ว่าไง...คุณหนูเล็ก จะไม่แนะนำหน่อยเหรอ” ได้ยินอย่างนั้นใบไม้ก็หัวเราะออกมาเบาๆกับสรรพนามที่พี่ชายของจอมทัพเรียก ส่วนคนโดนเรียกก็ได้แต่ตีหน้านิ่งใส่พี่ชายของตน
“นี่ใบไม้...แฟนผมเอง” แต่พอได้ยินอย่างนี้คนที่พยายามกลั้นขำก็ต้องหน้าขึ้นสีระเรื่อออกมาทันที มือเล็กยกขึ้นมาเกาแก้มตัวเองแก้เขิน จอมพลส่งสายตาล้อเลียนให้น้องชายตัวเองหวังว่าจะได้เห็นความขัดเขินของน้องชายบ้างแต่ก็แห้วเมื่อมีแต่หน้านิ่งๆส่งกลับมาเท่านั้น
“เฮ้อ...เอ็งนี่จะเลิกตีหน้านิ่งสักครั้งในชีวิตมันจะตายหรือไงวะ” จอมพลยกมือเท้าเอวพลางส่ายหัวให้น้องชายก่อนจะหันไปส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้คนตัวเล็กข้างๆน้องชายตัวเองทันที “สู้น้องใบไม้ก็ไม่ได้..ดูสิหน้าตาน่ารักน่าชัง” ว่าพลางยื่นมือออกมาหวังจะลูบกลุ่มผมนุ่มๆเพื่อยั่วโมโหน้องตัวเอง แต่ก็ต้องโดนน้องชายปัดมืออีกครั้ง
“เลิกเจ้าชู้สักที...ลงมานี่คงมาแอบส่องพยาบาลสาวๆเหมือนเคย ขึ้นไปทำงานได้แล้ว...ถ้าไม่ขึ้นไปผมจะฟ้องแม่” ชายหนุ่มได้ยินก็จิ๊ปากใส่น้องชายเมื่อโดนน้องจับไต๋ได้ ถ้าแม่รู้ก็ไม่ใช่แค่แม่รู้ แต่อาจจะไปถึงหูแฟนเขาอีกคนน่ะสิ! ทีนี้ล่ะจะซวย
“เออๆ แค่มาดูเฉยๆหรอกน่า...แกก็ไปได้แล้วไอ้ชายกลางคงรออยู่...เสร็จแล้วก็อย่าลืมขึ้นไปด้วยล่ะ” จอมพลว่าเสร็จก็หันมาโบกไม้โบกมือให้ใบไม้ทันที คนตัวเล็กก็ได้แต่ส่งยิ้มแล้วโบกมือกลับไป ก่อนจะหันไปกลับไปมองจอมทัพที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ...เจอพี่ชายเอาแต่ทำหน้าบูดใส่อยู่ได้” จอมทัพเหล่ตามองใบไม้เล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นวาดเข้ากอดคอคนตัวเล็กดึงรั้งให้ไปด้วยกันอีกครั้ง “ว่าแต่...พี่จอมพลก็หล่อดีครับ...ดูสุขม แต่ก็ดูขี้เล่นเหมือนกัน” ได้ยินอย่างนั้นจอมทัพก็ชะงัก หันมามองใบไม้ทันที คนตัวเล็กที่เห็นร่างสูงทำหน้าบูดกลับมาก็ส่งยิ้มหวานให้
“แต่สำหรับผมพี่จอมทัพหล่อที่สุดน้า...” ได้ยินอย่างนั้นจอมทัพก็ยกยิ้มมุมปากหัวเราะหึในลำคอเบาๆก่อนจะกดจูบลงบนปลายจมูกรั้นแรงๆ
“ปากหวานนักเชียว....” ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งกดจูบลงบนปากอิ่มนั่นลงไปแรงๆหลายทีให้หายหมั่นเขี้ยว สมกับที่สะสมมานาน มากอดแขนเขาแล้วมาถูแก้มถูหัวไปมาราวกับลูกแมวแบบนั้นคิดว่าเขาจะอดทนได้ไปนานสักแค่ไหน เห็นว่าคนพลุกพล่านหรอก แต่ตอนนี้ปลอดคนแล้วจะแกล้งน้องสักกี่ครั้งก็ได้
“บ้า!!...นี่โรงพยาบาลนะ”ใบไม้ก็ได้แต่หน้าแดงจัดซุกหน้าลงกับมือตัวเอง จอมทัพที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะแผ่วแล้วกอดคอให้ใบไม้เดินตามไปอีกครั้ง “พี่จอมพลเป็นหมออยู่ที่นี่เหรอครับ...”
“เปล่าหรอก...” จอมทัพส่ายหัวก่อนจะเปิดประตูตรงหน้าแล้วส่งยิ้มให้ใบไม้ที่ทำหน้างงๆอยู่ “คนที่เป็นหมอน่ะคนนี้ต่างหาก...” แล้วเป็นอีกครั้งที่ใบไม้ต้องตาโตเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าที่อยู่หลังกรอบแว่นทรงสี่เหลี่ยมก็ทำให้ใบไม้ตระหนักได้ว่า คนตรงหน้าคงเป็นหนึ่งในพี่น้องของพี่จอมทัพ และพี่น้องบ้านนี้น่ะ...เหมือนกันอย่างกับแกะ!!
“อ้าว...รอตั้งนานแน่ะ” คุณหมอที่นั่งอ่านแฟ้มอยู่ก็เงยหน้ามาส่งยิ้มใจดีให้ทั้งสองคนทันที สมกับเป็นหมอจริงๆ ถึงหน้าตาจะดูคมเข้มตามกรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดให้พี่น้องบ้านนี้ แต่คนนี้กลับดูละมุนละไมกว่าพี่น้องอีกทั้งสองคนมาก
“มาตั้งนานแล้ว ต้องโทษพี่ใหญ่โน่น...ยั่วโมโหอยู่ได้” จอมทัพว่าพลางดันให้ใบไม้นั่งลงบนเกาอี้ที่ตัวเองเลื่อนให้ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ข้างกัน “นี่พี่จอมยุทธนะ...พี่ชายคนกลาง เมื่อกี้คนโตสุด”
“สวัสดีครับ...” ใบไม้ยกมือสวัสดีคนตรงหน้าก่อนจะได้รับรอยยิ้มใจดีกลับมาอีกครั้ง
“นี่ใบไม้นะพี่...แฟนผม”
“สวัสดีครับ...น่ารักสมกับที่คุณหนูเล็กอวดไว้เลย” แต่แทนที่ใบไม้จะเขินอย่างเคยกลับต้องขำออกมาเมื่อได้ยินสรรพนามที่ใช้เรียกจอมทัพอีกครั้ง จอมทัพที่ได้ยินก็ทำหน้ายุ่งทันทีก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
“หยุดหัวเราะเลย...พี่ก็เหมือนกัน เมื่อไหร่จะเลิกเรียกผมแบบนี้สักที” จอมทัพพูดพลางกรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ จอมยุทธได้ยินก็หัวเราะพลางยื่นมือมาตบไหล่น้องชายเบาๆ
“ไม่มีทางหรอก ก็แกเป็นน้องเล็กนี่หว่า เนอะคุณหนูเล็ก” ว่าเสร็จก็หัวเราะลั่น แล้วหันมาพูดกับใบไม้ที่ยิ้มขำอยู่ข้างๆน้องชาย “ไอ้นี่นะ...โดนเรียกว่าคุณหนูเล็กกันทั้งบ้าน แต่ก่อนมันเป็นไอ้แห้ง..ขี้โรคด้วย ตัวเล็กสุดในห้องเรียนเลย แม่ก็อยากเลี้ยงมันให้น่ารักๆเลยเรียกว่าหนูเล็ก แต่อยู่ดีๆมันก็สูงชะลูดขึ้นมาซะอย่างนั้น เป็นหนุ่มแล้วนะเนี่ยน้องชายพี่”
ใบไม้เลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งทำหน้าบูดเพราะถูกขายความลับอยู่ข้างๆ ตัวสูง ไหล่กว้าง ไม่ผอมแห้ง แต่กลับดูแข็งแรงกำยำ ดูไม่เหมือนคนที่เคยเป็นไอ้แห้งอย่างกับที่พี่จอมยุทธพูดเลยแม้แต่นิดเดียว ผิดกับเขาน่ะสิ...ถึงเด็กๆจะตัวเล็ก ไม่ขี้โรค ไม่ผอมด้วย แต่พอโตมากลับหยุดโตพร้อมเพื่อนผู้หญิงในห้องซะอย่างนั้น
“พอได้แล้วน่า...เข้าเรื่องวันนี้ได้แล้ว” จอมทัพว่า และพอใบไม้ได้ยินอย่างนั้นก็ผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันทีอย่างตื่นตัว พลางกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะพี่พูดเหมือนว่าเขาจะโดนฉีดยาน่ะสิ! จอมยุทธได้ยินก็พยักหน้าให้เบาๆก่อนจะก้มลงเปิดลิ้นชักแล้วคว้าซองพลาสติกสีใสที่ข้างในมีกางเกงอยู่ แล้วใบไม้ก็เข้าใจทันที...ก็ที่พี่ขอกางเกงเขาไปวันนั้น
“ตรวจแล้ว...สบายใจได้เลยนะใบไม้ ดีเอ็นเอไม่ตรงกับจอมทัพ” จอมยุทธว่าพลางยื่นเอกสารออกมายืนยันคำพูดตัวเอง ใบไม้ก็ได้แต่ยิ้มบางๆพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ครับ ผมเชื่อใจพี่จอมทัพ” จอมทัพได้ยินก็ยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะส่งมือขึ้นไปลูบหัวกลมแล้วกดจมูกลงไปบนกลุ่มผมนุ่มที่โชยกลิ่นหอมๆอยู่ไม่ขาด
“เลิกหวานกันหน่อย...เข้าเรื่องกันได้แล้ว” และสุดท้ายจอมทัพก็ระบายลมหายใจออกมายาวๆแล้วผละออกมาอย่างจำใจ ส่วนใบไม้ก็เกาแก้มตัวเองแก้เขิน แล้วต้องตาโตเมื่อคุณหมอหนุ่มคว้าถาดบางอย่างออกมาและเข็มที่แวววาวสะท้อนเข้าตาคนตัวเล็กอย่างพอดี “ก่อนอื่นพี่ขอเจาะเลือดก่อนนะ...”
ใบไม้ได้ยินก็ส่ายหัวเร็วๆจนผมสะบัดไปมา จอมทัพที่เห็นคนที่นั่งหน้าซีดอยู่เลยยื่นแขนออกไปวางไว้บนโต๊ะก่อน และนั่นที่ทำให้ใบไม้หลับตาปี๋ หันหน้าหนีทันที นีใช่ไหมที่พี่บอกว่าฉีดยา! เข็มเจาะเลือดนี่ใหญ่กว่าเข็มฉีดยาอีกนะ! โอ๊ย...ทำไมต้องเจาะเลือดด้วย ทำไงดี
“ใบไม้...” เสียงที่ดังขึ้นข้างหู ก็ทำให้ใบไม้รีบส่ายหัวไปมาทันที “ใบไม้..มาเถอะ ไม่เป็นอะไรหรอก” จอมทัพค่อยๆจับไหล่เล็กให้หันกลับมา ส่วนใบไม้ที่สายตาเข้าไปปะกับสำลีที่มีรอยเลือดซึมที่แปะอยู่บนแขนแข็งแรงก็ต้องหน้าซีดเข้าไปอีก
“ผ...ผมไม่ทำได้..ม..ไหมครับ...คือ..ค...คือ...ผ..ผมสบายดี” คนตัวเล็กตอบอย่างตะกุกตะกักพลางช้อนตามองคุณหมอตรงหน้าอ้อนๆ จอมยุทธก็ได้แต่ส่งยิ้มใจดีไปให้ใบไม้ที่ทำหน้าซีดอยู่ในอ้อมแขนน้องชายตัวเอง
“ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เจ็บหรอก แค่เหมือนมดกัดเอง” แต่พอได้ยินอย่างนั้นใบไม้ก็ยิ่งส่ายหัว ใครจะไปเชื่อ ตั้งแต่เล็กจนโตหมอก็พูดแบบนี้กับเขาทุกคน แล้วผลเป็นยัง...เขาเจ็บ เจ็บมากด้วย! “พี่ขอเลือดไปตรวจโรค...เพื่อตัวใบไม้เองนะ” จอมยุทธส่งยิ้มปลอบประโลมให้ใบไม้อีกครั้ง คนตัวเล็กช้อนตามองจอมทัพอย่างอ้อนๆ แต่แววตาที่ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้กับลูกอ้อนของเขาก็ทำให้ใบไม้ค่อยๆยื่นแขนตัวเองออกไปอย่างหวาดๆ
“เก่งมากครับ...” จอมยุทธเอ่ยชม ก่อนใบไม้ต้องหลับตาปี๋ลงทันทีเมื่อคุณหมอหนุ่มเริ่มลงมือทำ แต่อยู่ดีๆใบหน้าเองตัวเองก็ถูกกอบกุมด้วยมืออุ่นๆ ใบไม้ปรือตามองจอมทัพก่อนจะต้องหลับตาลงอีกครั้งเมื่อได้รับแรงเค้นคลึงที่ริมฝีปาก จอมยุทธเหลือบตามองน้องชายที่เหล่ตาส่งซิกมาให้ก่อนจะรีบลงมือเจาะเลือดให้คนไข้ขี้กลัวทันทีอย่างรวดเร็ว
แรงกระตุกเบาๆที่แขนเล็กเพราะความเจ็บก็ทำให้จอมทัพต้องกดจูบแนบแน่นขึ้นพลางกดท้ายทอยของร่างบางให้รับจูบของตัวเอง ริมฝีปากหยักกดแรงเค้นคลึงลงไปพลางงับเข้าไปที่ปากอิ่มเบาๆ คุณหมอหนุ่มเท้าคางมองทั้งสองคนตรงหน้าปลงๆ เขาเจาะเลือดเสร็จแล้ว แต่สองคนนี้ยังดูจะไม่เสร็จสักที
“อะแฮ่ม...” แล้วก็ต้องทนไม่ไหวส่งเสียงเตือนขึ้นมาทันที เมื่อน้องชายทำท่าจะส่งลิ้นไปละเลียดความหวานบนริมฝีปากอิ่ม เป็นใบไม้ก่อนที่สะดุ้งเฮือกออกมา คนตัวเล็กเหลือบตามองจอมยุทธที ก่อนจะซุกหน้าร้อนจัดของตัวเองลงกับโต๊ะ บ้าไปแล้วว..เขาทำอะไรลงไปเนี่ย มาจูบโชว์คนอื่นเขาเนี่ยนะ!...น่าอายชะมัดเลย ส่วนจอมทัพก็ได้แต่ถอนหายใจแรงๆแล้วตะวัดตาไม่ชอบใจให้พี่ชายแล้วกอดอกทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายๆ
“เอาล่ะๆ...เราคงต้องเข้าเรื่องแล้วจริงๆสักที...เอาแบบจริงๆนะ เรื่องที่เราอยากจะปรึกษาน่ะ” ได้ยินอย่างนั้นใบไม้ก็ค่อยๆยันตัวเองขึ้นมา จอมยุทธก็ต้องยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าเหมือนจะร้องไห้ของแฟนน้องชาย ส่วนน้องชายตัวเองก็กอดอกรออย่างตั้งใจฟังอยู่ก่อน แล้วก็เริ่มพูด “การมีเพศสัมพันธุ์ของชายกับชายที่ปลอดภัยและถูกวิธีน่ะ....”
“อะไรนะครับ!!!” เสียงตะโกนดังลั่นก็หยุดชะงักทุกอย่างทันที คนตัวเล็กที่ดูท่าทางจะตื่นเต็มตา ใบหน้าใสที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำกำลังเบิกตาโตมองคุณหมออย่างไม่เข้าใจ จอมยุทธได้แต่ยักไหล่ยิ้มๆ ก่อนจะผายมือให้ทั้งสองคนราวกับบอกว่าให้ไปคุยกันก่อน เห็นอย่างนั้นใบไม้ก็ตวัดตามองจอมทัพทันที “นี่มันอะไรกันครับพี่!”
จอมทัพส่งมือเข้ามาโอบไหล่บางพลางลูบต้นแขนเล็กเบาๆ “พี่แค่อยากทำให้มันถูก...อยากทะนุถนอมเรา ไม่อยากให้เราเจ็บ” ใบไม้มองใบหน้าคมอย่างเหลือเชื่อ อยากทะนุถนอม...แต่ต้องมานั่งคุยเรื่องแบบนี้กับคนอื่นเนี่ยนะ โถ่...พี่คิดถึงจิตใจผมบ้าง แค่นี้ผมก็จะเขินตายอยู่แล้ว “น่านะ...เพื่อพวกเราเอง”
“ผ..ผม...ไม่ฟังเด็ดขาด..มันน่าอายจะตายไป!!” แล้วใบไม้ก็ต้องเขย่าแขนจอมทัพไปมาเมื่อคนตรงหน้าดูท่าทางจะไม่ยอมหยุดเรื่องนี้ “ค..คือ...มัน..เราก็ทำกันเองได้นี่...คือ..พี่คิดจะทำจริงๆเหรอ...ม..มัน..คือ...ทำแบบนั้นน่ะ..ผ..ผมนึกว่าพี่เลิกคิดไปแล้ว” จอมทัพที่ได้ยินอย่างนั้นก็ระบายลมหายใจเบาๆ พลางยกมือกุมขมับ...นี่เขาคิดอยู่คนเดียวเหรอเนี่ย จอมทัพระบายลมหายใจอีกครั้ง ก่อนจะรวบมือเล็กเข้ามากุมไว้
“พี่มีความรู้สึกนะ แล้วเราก็ใกล้ชิดกันมาก..มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่คนรักกันแล้วพอใกล้ชิดกันก็รู้สึกแบบนั้น ...มันต้องมีสักครั้งที่เราต้องเลยเถิดออกไป แล้วพี่อยากจะทะนุถนอมเราจริงๆเลยมาคุยกับพี่ชายเรื่องนี้ ในฐานะหมอ..คงจะแนะนำอะไรดีๆให้เราได้”
ใบไม้ได้ยินอย่างนั้นก่อนจะหลุบตาคิด มันก็จริงอย่างที่พี่พูด...ตัวเขาเองยอมรับว่าบางครั้งมันก็รู้สึก...แต่ไม่คิดที่จะทำจริงๆหรอก แต่ก็อย่างที่พี่พูดเราอาจจะเลยเถิดไปจนถึงขั้นนั้นจริงๆ แล้ววันนี้มาตรวจเลือดด้วย...พี่คงคิดที่จะมาปรึกษานานแล้วจริงๆ ก่อนจะต้องระบายลมหายใจออกมา ก่อนจะเหลือบตามองจอมทัพแล้วพยักหน้าอย่างจำยอม
“ก็ได้ครับ...” เฮ้อ...ใบไม้ แกต้องเขินจนตัวแตกตายแน่ๆ
Talk : หวานแหววกันเหมือนเดิมค่ะ ไม่ต้องห่วง
ตอนนี้น้องจะได้เจอครอบครัวของพี่จอมทัพบ้างอะไรบ้าง
อัพช้ามาก ต้องขอโทษด้วยนะคะ ใจจริงจะอัพตั้งแต่เมื่อวาน
แต่อินเตอร์เน็ตพังพึ่งมาใช้ได้สักพักนี่เอง
ขอบคุณทุกคนค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จอมพล จอมยุทธ์ จอมทัพ (;-;)!
คือเซ้นการตั้งชื่อ ดี๊ดี