คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อนใหม่
เพื่อนใหม่
:: การมาเรียนวันแรก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
.
.
“เซฮุน..ตื่นได้แล้วลูก”
เสียงผู้เป็นแม่ที่มาเรียกลูกชายของตัวเองในยามเช้า
“ครับแม่ ขอเวลาอีกแปปนึงนะครับ”
“แต่นี่มันสายแล้วนะลูก แม่จะรอลูกอยู่ข้างล่างนะ”
เมื่อผมได้ยินอย่างนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้เข้าเรียนมหาลัย และวันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้มันก็สายแล้วด้วย!!
“ครับแม่..แล้วผมจะรีบลงไปครับ”
ผมใช้เวลาไม่ถึง10นาทีผมก็อาบน้ำเสร็จ จากนั้นผมก็รีบมาแต่งตัว เมื่อผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็รับวิ่งลงไปข้างล่างโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูห้องของตัวเอง(ลืมบอกไปน่ะ ว่ามันเป็นนิสัยของผมแล้ว ที่ไม่ชอบให้ใครเข้าห้องของผมโดยที่ผมไม่รู้ มันเป็นโรคส่วนตัวน่ะ)
เมื่อผมลงมาถึงข้างล่างก็พบว่าแม่ของผมนั่งรออยู่(คือแบบว่าผมอยู่กับแม่ของผม2คนน่ะ เนื่องจากพ่อของผมมีประชุมตั้งแต่เช้า จึงทำให้วันนี้มีแม่อยู่เพียงคนเดียว)
“แม่ครับ..วันนี้แม่ไม่มีประชุมหรอ”
“มีจ่ะ..แต่วันนี้แม่อยากอยู่กับลูกมากกว่า”
“ทำไมหรอครับ”
ในขณะที่ผมคุยกับแม่ ผมก็สามารถที่จะกินข้าวเช้าภายในเวลาเดียวได้อีกด้วย
“ก็วันนี้เป็นวันแรก..ที่ลูกมาอยู่กับแม่ แม่ก็ต้องทำอะไรเพื่อลูกหน่อย”
คงสงสัยสินะว่าทำไมแม่ถึงพูดแบบนี้ ก็ตั้งแต่ผมอยู่อนุบาล ผมเรียนโรงเรียนประจำมาโดยตลอดจึงทำให้ผมได้เจอกับพ่อแม่แค่เพียงช่วงปิดเทอมเท่านั้น แต่ใช่ว่าผมจะได้อยู่กับพ่อแม่ตลอดหรอก เพราะว่าพ่อกับแม่ของผมไม่ค่อยมีเวลาว่างเนื่องจากงานของท่านมากจนเสียไม่มีเวลามาอยู่กับผม แต่ใช่ว่าท่านจะไม่รักผมนะ แต่เพียงแค่ว่าท่านไม่มีเวลาให้ผมแค่นั้นเอง
แต่พอเวลาผ่านไปนานๆผมก็เริ่มชินแล้ว เพราะว่าผมเรียนโรงเรียนประจำตั้งแต่อนุบาล1-ม.6เลย ซึ่งทำให้ผมชิน และเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง 5555 แต่ใช่ว่าผมจะไม่มีความสุข ผมมีความสุขมากเพราะทำให้ผมเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเองและมันยังทำให้ผมดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย
“แม่ครับ..งั้นผมไปก่อนนะตอนนี้มันสายแล้วว”
พูดเสร็จผมก็รีบวิ่งมาโดยทันที แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะหอมแก้มแม่ของผมก่อนออกจากบ้านหรอกนะ เพราะผมเป็นคนที่รักพ่อกับแม่มาก
“ผมรักแม่นะครับ”
“แม่ให้คนขับรถเตรียมรถรอลูกไว้แล้วนะ...รีบไปเถอะ”
พูดเสร็จผมก็รีบวิ่งออกมาโดยทันที จากนั้นผมก็รีบวิ่งกระโดดเข้าไปในรถทันที(ย้ำนะว่ากระโดด เพราะว่าตอนนี้มันสายแล้ว)
จากนั้นผมก็ใช้เวลาไม่ถึง30นาทีผมก็มาถึงมหาวิทยาลัยของผมแล้ว ซึ่งตอนนี้ผมตื่นเต้นมากเพราะนี่เป็นวันแรกของผม แล้วผมก็เริ่มต้นวันแรกของการเรียนมหาวิทยาลัยได้ดีมาก ด้วยการมาสายนั่นเอง
ผมเดินขึ้นไปยังห้องเรียนของผมแล้วผมก็ต้องตกใจ เมื่อคนที่มาสายวันนี้ไม่ได้มีแต่คนเดียว แต่มีถึง2คน
KM Planet University
“นายก็มาสายเหมือนกันหรอ!”
หนึ่งในจำนวนผู้มาสายเอ่ยถามขึ้นมา ผมได้แต่พยักหน้ารับเพราะด้วยความที่ผมเพิ่งมาใหม่และยังไม่รู้จักใคร
“เราชื่อชานยอล.. แล้วนี่เพื่อเราชื่อคิม จงอิน”
“เชี้ย! แนะนำกูซะเต็มยศเลยนะมึง” คิม จงอินตบหัวชานยอล
“เรียกเราว่า ไค หรือ จงอินก็ได้นะ”
ผมได้แต่ยืนนิ่งด้วยความงง เพราะว่าผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย ทั้งชานยอลและจงอินก็พูดจนไม่มีโอกาศให้ผมได้พูดมั่งเลย
“ว่าแต่นายชื่ออะไร?” จงอินเอ่ยถามผม
“ชื่อ โอ เซฮุน หรือ เซฮุน” ผมตอบกับไป
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ เซฮุน” จงอินพูดกับผม
ในขณะที่ผมกับทำความรู้จักกับจงอินอยู่นั้น ชานยอลก็มาเกาะไหล่ผมกับจงอิน ทำให้ผมที่กำลังคุย
กับจงอินอยู่นั้นถึงกับต้องตกใจ
“ไหนๆวันนี้พวกเราก็มาสายกันแล้ว” พวกเรา? ( ผมไปเป็นพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่)
“วันนี้กูมีที่มานำเสนอมึงด้วย รับรองว่าวันนี้เด็ด” ชานยอลหันมาพูดกับผมและจงอิน
“ที่ไหนของมึงว้ะ ที่จัดว่าเด็ด” จงอินหันไปพูดกับชานยอล
“….มึง...” ผมหันไปหาชานยอลแล้วทวนคำพูดว่า “มึง” นี่สรุปว่ากูไปสนิทกับมึงตอนไหนเนี่ย
“เออน่ามึง ยังไงมึงกับกูก็เป็นเพื่อนกันแล้วจะใช้คำว่ามึงกับเพื่อนตัวเองมันผิดตรงไหนว้ะ”
งั้นกูก็จะไม่เกรงใจมึงแล้วนะชานยอล “ แล้วมึงจะพวกกูไปไหนว้ะ” ผมตอบกับไป
“เออน่า แล้วพวกมึงจะต้องขอบใจกูทีหลัง” มันพูดพร้อมกับกวนๆ
สรุปวันนี้ผมไม่ได้เข้าเรียนเพราะว่าดันมีเพื่อนที่รู้จักกันยังไม่ถึง10นาทีพาไปเที่ยว นี่คงเป็นการมาเรียนที่ดีมากเลยสินะ มาถึงวันแรกก็ไม่ข้าเรียน แต่ผมก็เริ่มจะสงสัยแล้วสิว่าเพื่อนใหม่ของผมกำลังจะพาผมไปไหนกัน
.
.
------------------------------ 40% -------------------------------
LUHAN : TALK
ณ. KM Planet University (ฝั่งเคะ)
เวลายามเช้าเหล่านักศึกษาต่างเดินทางมามากมาย บางก็ครอบครัวมาส่งบางก็เดินทางมาเองโดยอาศัยรถประจำทางหรือแม้กระทั่งปั่นจักรยานมาเอง ต่างคนต่างเร่งรีบมาเพื่อให้ทันคาบแรกของวันนี้(ไรเตอร์ไม่รู้ว่าชีวิตมหาลัยเป็นยังไง เลยปนๆไปกับมัธยม)
“ อ๊ากกกกกกกกกก O.O ไม่ทันแล้ว ผมไม่ทันแน่ๆ ” อะแฮ่มๆ ขอแนะนำตัวหน่อย สวัสดีครับผมลู่หาน วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของผม แล้วผมก็เกือบมาไม่ทันแล้วเพราะว่าบ้านผมมันไกลมากน่ะสิ T^T แถมวันนี้รถยังติดอีก (โอ๋ ลู่ของไรเตอร์น่าสงสาร) อีกนิดเดียวผมก็เกือบจะโดนทำโทษแล้ว แต่เพราะขาผมมันยาว (หรอ? : ไรเตอร์) เลยทำให้ผมมาทันเวลาพอดี
“ แฮ่กๆ ๆๆ ” ผมอยู่หน้าห้องแล้ว
“ เฮ้ยไอ่ลู่ วันแรกก็สายเลยนะมึง ” เพื่อนคนหนึ่งของผมพูดขึ้น
“ ยังไม่สายเว้ยย ทันเวลาเปะ ” ผมตอบ
เอ้อ ! ผมลืมแนะนำเพื่อนเลยแหนะ เพื่อนผมน่ะมีอยู่ 2 คนด้วยกัน
ไอ่คนที่ทักผมน่ะชื่อ บยอน แบคฮยอน หรือ แบคฮยอน นั่นแหละ มันเตี้ยกว่าผม 55555 แถมตามันยังตี่ชอบกรีดอายไลน์เนอร์อีก -_- ผมล่ะตามมันไม่ทัน
ส่วนเพื่อนอีกคนชื่อ โด คยองซูหรือ คยองซู ดีโอ โด้ (หลายชื่อแท้) มันก็เตี้ยกว่าผมอีกเช่นเคย ที่ผมคบพวกมันนานก็ตรงนี้แหละ 55555555 ส่วนเรื่องความหล่ออะไรนั่น 2 คนนี้สู้ผมไม่ได้แน่ ;)
“ เออๆ มึงเข้ามานั่งที่ได้และจะยืนหัวโด่อยู่ทำไมว่ะ เดี๋ยวอาจารย์ก็มากันพอดี ” แบคฮยอนพูด
“ กลัวทำไมว่ะ ก็แค่อาจารย์ ” ผมเถียงกับ แต่ใช่ว่าผมจะยืนอยู่ที่เดิมหรอกนะ ระหว่างที่ผมพูดผมก็เดินมานั่งที่โต๊ะ พร้อมกับทำหน้าตาเฉยๆ
“ โถ่ๆๆ ไหนมึงบอกไม่กลัวไง ”
“ กูไม่ได้กลัว แค่กูขี้เกียจยืนเว้ย ”
พอผมพูดจบอาจารก็เดินเข้ามาในห้องพอดี ดีนะที่อาจารย์มาไม่ทันที่ผมพูด555 ไม่งั้นชะตาผมขาดตั้งแต่วันแรกแน่ๆ เพราะว่าอะไรอ่ะหรอก็เพราะปากของผมที่มันไวกว่าความคิดอ่ะซิ (เอาง่ายๆพูดไม่คิดอ่ะ แหละ55 : ไรเตอร์ ) จากนั้นผมก็เลิกคุยกับไอ้แบคฮยอนทันที่ จากนั้นผมก็สวมวิญญาณเด็กเรียนทันทีจบหมดคาบเรียนนั่นแหละ
กรี๊กกกกกกกกกกกกกกกก
เสียงสัญญาณบอกเวลาเลิกเรียนของผมดังขึ้น ผมก็เก็บของใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยเมื่อผมเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็รีบหันไปปลุกไอ้เพื่อนตัวดีของผมทั้ง 2 คนให้ตื่นขึ้นจากการไปเฝ้าพระอินทร์บนสวรรค์
“ เห้ย!! ตื่นๆๆ พระอินทร์เสด็จไปแล้ววววว ” ผมพูดพร้อมกับเขย่าตัวพวกมันทั้ง 2 คนให้ตื่น
“ เดี๋ยว/เดี๋ยว ” มันเป็นความบังเอิญหรือว่าอย่างไร มัน 2 คนพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“ เฮ้อออ (-_-;) วันนี้ว่าจะพาไปเลี้ยงข้าวกลางวันซะหน่อย ”
“ เห้ยๆๆ กูตื่นเล้ว ^0^ ” มันทั้ง 2 คนก็พูดขึ้นพร้อมกัน เรื่องกินเนี่ยไม่ต้องพูดถึง ต่อให้นอนหลับลึกถึงขุมไหนก็สามารถตื่นขึ้นมาหาเรื่องกินฟรีๆ ได้อย่างลืมหลับไปเลย 555
เมื่อไอ้เพื่อนรักของผมทั้งสองคนตื่นเรียบร้อย มันก็จัดการเก็บของบนโต๊ะซึ้งของบนโต๊ะของพวกมันไม่มีอะไรเลยนอกจากสมุดหนึ่งเล่มที่พวกมันใช้ปิดบังการหลับของพวกมันนั้นเอง
“ ไปยังมึง...กูหิวแล้ว ” คยองซูพูดขึ้นหลังจากที่มันเก็บของเสร็จ และมันก็ลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมที่จะไปเต็มที่
“ รีบกันจังนะพวกมึง เรื่องของฟรีไม่มีใครไวกว่าเพื่อนกูอีกแล้ว ” ผมพูดพร้อมกันยืนขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปนอกห้อง
ระหว่างที่ผมเดินไป ผมก็คุยกันเรื่องร้านอาหารที่จะไปกินกันว่าจะไปร้านไหนดี ร้านนี้ดีมั้ย ร้านนู้นดีรึป่าว เดินไปเถียงกันไปสุดท้ายพวกผมก็ตกลงกันว่าพวกผมจะไปกินที่ร้านคาล์วบี้ ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก
เมื่อพวกผมเดินมาถึงร้าน พวกผมก็เลือกโต๊ะที่ติดกับระเบียงให้มากที่สุด คือพวกผมชอบบรรยากาศธรรมชาติก็ว่าได้ คือไม่ได้อะไรหรอกนะ คือพวกผมเป็นพวกชอบนินทาชาวบ้านเขานะ เวลาใครเดินผ่านไปผ่านมาไม่ว่าจะสาว จะแก่หรือจะเป็นคนชราก็เถอะ ไม่สามารถรอกปากพวกผมไปได้หรอ
“ เห้ยมึง...นั่งตรงนั้นเหอะมันใกล้ระเบียงดี ” แบคฮยอนพูดขึ้นหลังจากเดินเข้าไปในร้าน
“ เออนั่นดิมึง...จะได้นินทาคนอย่างมีความสุข ” คยองซูพูดขึ้น
“ พวกมึงเนี่ยนะ วันไหนไม่ได้นินทาชาวบ้านคงนอนไม่หลับ ” ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกบ่นๆๆเละก็บ่นกับผม
เมื่อพวกหาที่นั่งที่ถูกใจได้แล้วพวกผมหาที่นั่งที่ถูกใจพวกผมแล้ว พวกผมก็จัดการสั่งอาหารมารับประทาน และในระหว่างที่พวกผมกำลังนั่งรออาหารอยู่ พวกผมก็เข้าตามหลักสูตรเดิมครับ ใครเดินผ่านไปผ่านมา แม้กระทั่งหมาตัวน้อยๆยังไม่รอด
“เห้ยมึง!! กูว่าร้านนี้ก็ไม่เลวนะมึง บรรยากาศก็ใช้ได้ ” แบคฮยอนพูดขึ้นหลังจากที่พวกเรานั่งกินอาหารอยู่
“ หรอ! กูว่าสำหรับพวกมึงอ่า ที่ไหนกินฟรี พวกมึงก็บอกว่าดีทั้งนั้นแหละ ” ผมพูดไปตามความจริง เพราะผมรู้นิสับของพวกมันดี
“โห่ไอ้ลู่ มึงเห็นกูเป็นคนเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยหรอว่ะ T_T ” แบคฮยอนพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ผมพูดจบ
“อย่ามาแอ๊บเลยไอ้แบค กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปี ทำไมกูจะไม่รู้ว่าสันดาร เอ้ย! นิสัยของมึงเป็นไง ”
หลังจากที่ผมเถียงกับมันอยู่สักพัก พวกผมก็นึกขึ้นได้ว่านี่มันบ่าย 2 กว่าแล้ว ซึ่งผมจำได้ว่าผมต้องรีบกลับบ้านเพราะว่าวันนี้ผมต้องไปขอพ่อกับแม่เรื่อง ที่พัก ของผม ซึ่งบ้านของผมมันอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยมาก จนทำให้ผมมาสายเหมือนวันนี้ไงล้ะ เห็นเหตุผลของผมรึยังว่าทำไมผมถึงมาสาย
“ เห้ยมึงกูว่าเช็คบิลเหอะ เพราะว่ากูต้องรีบกลับบ้านไปขอพ่อแม่กูเรื่องคอนโดที่กูจะย้ายเข้าไปอยู่อีก ”
“ โหย!! ไรว้ะยังไม่ทันสะใจเลยรีบกลับซะแล้ว ” แบคฮยอนพูดขึ้น
“ งั้นพวกมึงก็จ่ายเองล่ะกัน กูกลับแล้ว ” ผมพูดยังไม่ทันขาดคำ และยังไม่ทันได้ยกขาเพื่อเตรียมจะก้าวขาออกจากโต๊ะ พวกมันก้อพูดสวนขึ้นมา
“ เห้ยเดี๋ยวดิมึง..รอกูด้วยดิ ”
.
.
.
เป็นไงบ้าง แย่มากไหมอ่าเพิ่งลองเเต่งเหมือนกัน
เม้นติกันได้นะ ไรเตอร์จะนำไปปรับปรุง
ยังไงก็ฝากด้วยนะ ^^
ความคิดเห็น