ผมโตแล้วจะกินอะไรก็ได้ฮ่ะ!!!(ทุเรียน×อีกา) - นิยาย ผมโตแล้วจะกินอะไรก็ได้ฮ่ะ!!!(ทุเรียน×อีกา) : Dek-D.com - Writer
×

    ผมโตแล้วจะกินอะไรก็ได้ฮ่ะ!!!(ทุเรียน×อีกา)

    ผมโตแล้วนะฮ่ะ!!ผมจะทำอะไรก็ได้!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    227

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    227

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    21
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ก.พ. 60 / 20:06 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เสียงแหบอันทรงพลังของชายผู้สวมชุดขนปกครอมร่างกายมีจงอยปากเป็นนกสีดำทั้งตัวเขาผู้นั้นได้ชื่อว่า"หน้ากากอีกาดำ"เสียงของเขาน่าหลงไหลและมีเทคนิคในการใช้เสียงที่เป็นมืออาชีพมากและนั่นทำให้เขาสมชื่ออีกาดำเสียจริงๆ และมันทำให้ดึงดูดคนๆหนึ่งผู้ซึ่งมีเสียงนุ่มหวานชวนฟังและมีเอกลักษตรงความกวนบาทาของเจ้าตัวเขาไม่รู้ทำไมหลงไหลในเสียงของชายผู้นี้ทั้งๆที่พวกเขาเป็นคู่แข่งกันในอนาคตหรือเพราะอีกฝ่ายมีความเป็นผู้ใหญ่สุขุมนุ่มลึกกันแน่ที่ดึงดูดตัวเขาให้หลงไหลคนๆนั้นเขาอยากเห็นอีกด้านของชายผู้สุขุมผู้นี้.....

    "คุณหน้ากากทุเรียนค่ะ!"เสียงเรียกสติให้กลับมาใช่เขาคือหน้ากากทุเรียนแชมป์ของกรุ๊ปAนั้นเองเสียงของเขามีเสน่ห์ดึงดูดสาวๆด้วยเสียงนุ่มๆหวานของเขาแต่เขากลับหลงไหลในเสียงแหบๆทรงพลังของชายผู้ชื่อว่าหน้ากากอีกาดำเสียมากกว่า

    "อะฮ่ะมีอะไรต้องทำต่อหรือฮ่ะ??"เมื่อเขาตั้งสติได้ก็หันหน้าไปคุยกับพี่ทีมงานที่ทำหน้บูดเป็นโมจิสงสัยโกรธเพราะที่เขาไม่ได้ฟังพี่เขาเลยสมควรไหมละทุเรียนเอ้ยยย

    "เดี๋ยวต่อจากนี้จะกรุ๊ปBจะแข่งชิงแชมป์นะคะขอให้คุณหน้ากากทุเรียนไปพักที่ห้องรับรองก่อนนะคะเดี๋ยวถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบอีกทีค่ะ"กรุ๊ปBกรุ๊ปที่คนๆนั้นอยู่นิน่าอยากลองไปเจอสักครั้งจังแฮ่ะ

    "ผมจะไปเจอหน้ากากกรุ๊ปอื่นได้ไหมฮ่ะ?"เขาถามพร้อมเอียงคอเล็กน้อยตามที่เขาถนัด

    "ไม่ได้ค่ะ!!ถ้าเกิดความลับที่คุณเป็นใครแตกขึ้นมาจะไม่ดีต่อตัวคุณนะคะ!!"พี่ทีมงานทำมือกากบาทพร้อมย้ำอีกเรื่องที่ผมต้องระวังตัวตนของผมไว้แต่ผมอยากเจอนิผมโตแล้วจะไปไหนก็ได้นิ!!!

    "งั้นผมแค่ไปเดินเล่นได้ไหมฮ่ะอยู่แต่ในห้องมันน่าเบื่ออะฮ่ะ"ผมยกไหล่และเอียงหัวพูดแบบกวนๆตามแบบของผมจนพี่ทีมงานกุมหัวขมับ

    "ถ้างั้นก็อย่าลืมเปิดเครื่องแปลงเสียงและห้าม!!ปิดเด็ดขาดนะคะ!!และห้าม!!ถอดหน้ากากด้วยนะคะ!!!ย้ำนะคะว่าห้าม!!!"พี่ทีมงานจับไหล่ผมและเขย่าแถมย้ำคำว่าห้ามตั้งหลายรอบพี่คิดว่าผมยังไม่โตหรอฮ่ะถึงห้ามนู่นห้ามนี้อะ!!!

     หลังจากที่พี่ทีมงานบอกผมเรื่องห้ามนู่นห้ามนี้เสร็จก็ไปเตรียมการซ้อมชิงแชมป์ของกรุ๊ปBผมก็เดินเล่นไปเรื่อยๆที่จริงก็แถวๆห้องซ้อมใหญ่นั้นแหล่ะฮ่ะอิๆคงรู้สินะฮ่ะว่าผมมาทำอะไรแถวนี้

    ผมแอบชะโงกเห็นเงาคนที่ใส่ชุดที่ปกคลุมไปด้วยขนนกปลอมและจงอยปากที่เป็นเอกลักษณ์กำลังยืนเคอะไมล์และเตะขาไปมาใต้ชุดคลุมนั้นเขาคือเจ้าของเสียงแหบทรงพลังที่คนชุดหนามหลงไหลอยู่นั้นเองเขาแอบมองอยู่สักพักอีกฝ่ายก็รีบซ้อมร้อง
    เพลง

    เพราะรักแล้วช้ำ รักมันทำลาย
    ทำลายจิตใจ ให้เราเป็นบ้า
    เพราะรักแล้วเสีย เสียทั้งน้ำตา
    ที่เราไม่เคยเสียให้ใคร.....

    เสียงแหบทรงพลังได้เริ่มขับร้องมากจากชายที่ปกครอมไปด้วยขนนกสีดำทำให้ดูมีความเถื่อนและน่าเกรงขามเรื่องการใช้เสียงเนี่ยต้องยกให้เขาเท่านั้น

    เก็บความรักที่พ่ายแพ้ เพราะคนคนหนึ่ง
    ทิ้งความเจ็บช้ำ ที่เกาะกินในใจ
    ทิ้งลงแม่น้ำ แล้วลืมทุกอย่าง
    นั่งมองดูความรัก ลอยไป....

     เพลงนี้เป็นเพลงที่เหมือนเขาร้องให้กับความรักที่ไม่สมหวังเหมือนกับตัวผมทุเรียนคนนี้หรือเปล่านะเพราะนอกจากหลงไหลในเสียงของคนตรงหน้าแล้วยังหลงไหลบุคคลท่าทางต่างๆของคนตรงหน้าทั้งๆที่ไม่เคยแม้จะพูดคุยหรือเจอกันเลยด้วยซ้ำและผมกลัวอีกฝ่ายจะตีห่างจากเขาไปหากเขาบอกไป

    ปล่อยให้ไหลไป ให้ลอยลงสู่ทะเล
    ให้หายไป ให้มันอย่าคืนย้อนมา
    ทิ้งไป เพราะรักนั้นทำกับเรา ให้เสียใจ
    ให้ลอยไปไกล ให้ไปไกลๆ
    ไม่มีอะไรต้องเหลือ ทิ้งแล้วทุกอย่าง

    รู้แล้วครั้งนี้ รักคือตัวการ
    ทำคนเบิกบาน ให้กลายเป็นเศร้า
    ขืนรักแล้วหลง ให้มันมอมเมา
    ก็โดนมันแผดเผา เจียนตาย....

      ตอนนี้ผมก็จะเจียนตายแล้วนะฮ่ะผมอยากคุยอยากเจออยากใกล้ชินเจ้าของเสียงแหบอันทรงพลังนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ได้แต่เฝ้ามองอีกฝ่ายผ่านมอมิเตอร์วันนี้ก็ได้เจอตัวจริงทั้งที่แต่ก็กลับได้แค่แอบมองเหมือนเดิมทั้งๆใจจริงอยากทำมากกว่านั้นอีกนะฮ่ะ

    เก็บความรักที่พ่ายแพ้ เพราะคนคนหนึ่ง
    ทิ้งความเจ็บช้ำ ที่เกาะกินในใจ
    ทิ้งลงแม่น้ำ แล้วลืมทุกอย่าง
    นั่งมองดูความรัก ลอยไป

    ปล่อยให้ไหลไป ให้ลอยลงสู่ทะเล
    ให้หายไป ให้มันอย่าคืนย้อนมา
    ทิ้งไป เพราะรักนั้นทำกับเรา ให้เสียใจ
    ให้ลอยไปไกล ให้ไปไกลๆ
    ไม่มีอะไรต้องเหลือ ทิ้งแล้วทุกอย่าง....

       แม้จะเป็นเพลงเดิมก่อนหน้านี้แล้วก็ตามแต่เมื่อมาฟังสดๆแบบนี้มันช่างเป็นเสียงที่สุดยอดผมเองก็ชักจะใจหวิวๆว่าจะแพ้ให้กับคนๆนี้หรือเปล่านะแต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะฮ่ะ!เพราะผมก็อยากถอดของเขาด้วยตัวผมเองและก็อยากถอดอย่างอื่นด้วยเหมือนกัน...

    "จะแอบอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมครับ?"เสียงแหบๆผ่านเครื่องแปลงเสียงดังอยู่ด้านหลังของคนที่ใส่ชุดหนามนุ่ม

    "อะมาตั้งแต่เมื่อไหร่ละฮ่ะเนี่ยย!"เขาอุทานด้วยความตกใจเมื่อด้านหลังคือชายใส่ชุดคลุมขนนกสีดำและจงอยปากที่แสงคุ้นเคยกำลังยื่นไขว่หลังมองดูผมอยู่คนอะไร๊ขาสั้นแต่เดินไว๊ไวจริงฮ่ะ!!

    "ตอนร้องเสร็จผมเห็นอะไรเขียวๆนะครับเลยลองมาดูคิดว่าใครที่ไหนคุณคือหน้ากากทุเรียนใช่ไหมละครับ"ทุเรียนหนอทุเรียนทำไมชุดเขาถึงดูเด่นได้ละเนี่ยรู้งั้นเอาสีอื่นดีแทนสีเขียวสว่างแบบนี้ดีกว่านะฮ่ะเนี่ย!

    "คุณรู้จักผมด้วยหรอฮ่ะคุณอย่างคุณไม่น่าจะ
    สนใจคนอื่นเลยนิฮ่ะ"ปากหนอปากทุเรียน!ตอนนี้เขาละอยากชกปากตัวเองสักสองสามครั้งถามแบบนี้เหมือนไปหาเรื่องอีกฝ่ายเลยนะ!!

    "ผมก็รู้จักแทบทุกคนนั้นแหล่ะครับแล้วคุณหน้ากากทุเรียนแอบมายื่นดูผมซ้อมแบบนี้เดี๋ยวโดนพี่ๆทีมงานดุเขานะครับ"น้ำเสียงแหบๆปนขี้เล่นนิดๆหัวเรอะเบาๆพอดูดีๆแล้วผมละสงสัยจริงๆฮ่ะว่าข้างใต้นั้นพี่แกใส่ส้นตึกตามที่พี่ๆทีมงานเคยบอกไว้หรือเปล่าไอ้ส้นตึก 10 ซม นั้นนะ

    "แล้วคุณอีกาดำใส่ส้นตึก 10 ซม หรือเปล่าฮ่ะแปลว่าคุณก็ตัวเตี้ยมากเลยสินะฮ่ะ"ผมว่าผมควรไปเอาสุนัขออกจากปากบ้างนะดูสิคุณอีกาดำนิ่งไปเลยเขาจะคิดว่าผมเป็นเด็กไม่ดีหรือเปล่าฮ่ะเนี่ยยย

    "อืมมก็ไม่เบาเหมือนกันครับรองเท้าเนี่ยและนั่นทำให้ความฝันของผมที่อยากตัวสูงมานานแล้วสมหวังขึ้นมาได้"ชายชุดขนนกสีดำเอามือลูบจงอยผงักหน้าน้อยๆตามฉบับของตัวเอง

    "งะงั้นหรอฮ่ะแต่ว่าเสียงของคุณสุดยอดมากเลยละฮ่ะ!!ผมชักจะกลัวที่จะต้องเจอก้บคุณชะแล้วสิ!!"ผมเกาหัวตัวเองและบิดตัวไปมาทำไมผมต้องเขิลด้วยละเนี่ย!!

    "ขอบคุณครับ....แต่เสียงคุณก็สุดยอดเหมือนกันนะครับหวังว่าพวกเราจะได้แข่งกันในรอบชิงนะครับ"คนชุดนกสีดำโค้งตัวลงน้อยๆเป็นการขอบคุณก่อนที่จะกลับมายืนตัวตรงพร้อมกับเอียงหัวเล็กน้อย

    "ชุดคุณอีกาดำท่าทางจะร้อนนะฮ่ะเวลาร้องเพลงไม่กลัวเป็นลมหรอฮ่ะ"ผมพูดพร้อมมองคนชุดนกสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบชัดๆ
    แขนพี่แกทำไมมันสั้นน่ารักแบบนี้ละฮ่ะ!!แถมขนาดตัวน่ากอดมากเลยฮ่ะ!!อ่ะนี้ผมคิดอะไรบ้าๆของผมอยู่ละเนี่ย!!ทุเรียนเอ้ย!!

    "ชุดผมก็ไม่หนาเท่าของคุณหรอกนะครับ"เสียงแหบๆแบบขี้เล่นพูดแซวคนชุดหนามสีเขียว 

    "ที่จริงผมก็ไม่อยากให้มันหนาแบบนี้ชะหน่อยนะฮ่ะ"

    "ครับๆแล้ว...ยังไม่ไปอีกหรอครับเดี๋ยวพี่ๆทีมงานก็มาเห็นชะก่อนนะ"อะไรๆก็เอาพี่ๆทีมงานมาขู่!!ตอนนี้นะแถวนี้มีแต่พวกเรานะฮ่ะ!!ไม่รู้พี่ๆทีมงานหายไปไหนกันหม๊ดดดงั้นทุเรียนจะทำอะไรก็ได้สินะฮ่ะ!

    "แถวนี้ไม่มีพี่ทีมงานตอนนี้หรอกนะฮ่ะ...มีแค่พวกเราสองคน.."ผมยื่นมือไปแตะจงอยปากของคนที่ใส่ชุดอีกาดำที่มีขนปุยบุ๋ยและเดินเข้าไปไกลคนชุดนกตกใจเล็กน้อย

    "หน้ากากผมมันเบี้ยวหรอครับ??"คนชุดนกเอ่ยถามก่อนจะปักมือผมออกเบาๆและเดินถอยหลังเพื่อที่จะทำการจับหน้ากากตัวเองให้เข้าที

    "คุณอีกาดำฮ่ะคุณเคยมีความรักหรือเปล่าฮ่ะรักแบบไม่รู้จักอีกฝ่าย..."ผมกำลังโดนความรู้สึกเล่นงานมันเป็นความรู้สึกที่ค่องข้างแปลกแต่ผมก็ไม่ได้เกลียดมันหรอกนะเหมือนเพลงที่ผมร้องคู่กับโพนี่ถึงผมจะปัดความคิดความรู้สึกนี้ให้หายไปแต่มันกลับไม่หายไปและยิ่งเพิ่มทุกเวลาที่คุยกับเขามันคงเรียกได้ว่าความรักละมั้งฮ่ะแต่มันอาจจะมากกว่านั้น.....ผมถือสากุมมือคนใส่ชุดอีกาดำขึ้นมาและถอดถุงมือหนังสีดำที่ปลดปิดสีผิวขาวนวลใต้ถุงมือหนังสีดำนั้นคนชุดนกก็ทำท่างงๆเอียงคอนิดๆและคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงทำแบบนี้

    "ผมคงต้องขอตัวก่อนละกันนะครับ.."คนชุดนกสะบัดมืออีกฝ่ายออกและเอาถุงมือหนังคืนก่อนที่จะกำลังจะเดินออกจากตรงนั้นแต่ก็โดนมือของคนชุดหนามจับข้อมือที่เต็มไปด้วยขนนกไว้แน่น

    "แบบนี้ถือว่าปฎิเสธงั้นหรอฮ่ะ???"คนชุดนกไม่ได้พูดอะไรมีแต่ความเงียบที่ปกคลุม

    "ทำไมละฮ่ะ?"เสียงของผมเริ่มสั่นครือถึงผมจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหนแต่ขอเพียงชั่วเวลาที่ใส่หน้ากากก็พอขอแค่ชั่วเวลานี้อยากให้อีกฝ่ายแกล้งรับความรู้สึกเขาก็ยังดี

    "เพราะพวกเราเป็นคู่แข่งกันหรอฮ่ะ!??"

    "เพราะผมไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของคุณได้นะสิครับ...."คนชุดนกสีดำเอ่ยออกมาทำเอาเขาเจ็บแปร๊บๆที่หัวใจเขารู้ความหมายของคำที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาแปลว่าอีกฝ่ายมีตัวจริงของเขาอยู่แล้ว......

    "...งะงั้นหรอฮ่ะ..."ผมคลายมือจากข้อมือของอีกฝ่ายก่อนจะกำเสื้อตรงตำแหน่งอกรู้สึกเจ็บมากเลยละฮ่ะ

    "..งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ...คุณยังเด็กยังต้องได้เจอผู้คนอีกมากมายความรู้สึกของคุณต่อผมให้มันเป็นเพียงความรู้สึกชื่นชมดีกว่านะครับ...งั้นไว้เจอกันตอนแข่งกันนะครับ.."คนชุดนกสีดำโค้งตัวและเดินออกไปอย่างเงียยๆมีเพียงเสียงรองเท้าส้นตึกและเสียงแอร์เพียงเท่านั้น

      ตอนนี้คนชุดหนามยืนนิ่งแต่มีน้ำอุ่นๆไหลมาอาบแก้มทั้งๆที่เขาโตแล้วจะทำอะไรก็ได้จะกินอะไรก็ได้แต่กับคนที่ชื่อหน้ากากอีกาดำเขาถึงทำอะไรไม่ได้เลยละ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้...ยิ่งเจ็บกว่าตอนแรกอีกทั้งๆที่เขาไม่ควรทำแบบนี้เลยแต่ทำไมร่างกายบอกให้ทำแล้วดูสิตอนนี้หัวใจเขามันช้ำมากขนาดไหนอีกฝ่ายก็ดูนิ่งๆและปฎิเสธคำพูดที่แสงเย็นชาและเห็นใจในตัวเขาที่รู้สึกแบบนั้นทั้งๆที่เขาควรจะทำตัวร่าเริ่งขี้เล่นกวนกับอีกฝ่ายต่อไปเรื่อยๆแบบปกติก็ดีแล้วแท้ๆ

      เพราะรักแล้วช้ำ รักมันทำลาย

     ทำลายจิตใจ ให้เราเป็นบ้า.....
     
       ผมควรปล่อยความรู้สึกนี้ไปชะและลบให้หายไปไม่งั้นก็คงเจ็บอยู่แบบนี้ไม่งั้นเขาคงทำตัวแบบตัวเขาอย่างที่ผ่านๆมาไม่ได้......
    ลาก่อน...ความรักต่อหน้ากากอีกาดำ......... ทุเรียนคนนี้ก็มีสิ่งที่กินไม่ได้นะฮ่ะ .......


    จบ

    ----กว่าจะว่างมาแปะนี้นานมาก5555งานเยอะสุดๆเลย..ตอนแต่งตอนแรกไม่ใช่แบบนี้แต่ทำไมพอเขียนใหม่ถึงเป็นแบบนี้ละ?555
    ----เอาเป็นว่าเพราะความมึนจากการนอนน้อยของคนแต่ง555เลยกลายมาเป็นแบบนี้
    -----ขอขอบคุณที่บางคนอดทนรออ่านจนจบ555และรอลงนะ//ก้มกราบสอบสามรอบ
    -----ที่จริงก็อยากแต่งแบบรุกเข้าหาสุดๆละนะแต่เพราะกลัวบาปจริงๆ5555

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น