ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แซนทาเซีย มหาสงครามแห่งพื้นพิภพ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 เคลื่อนทัพ

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 50


    แย่แล้ว ๆ เอธิโอบัส ยกทัพมา พร้อมทั้งบอกให้ส่งตัวเจ้าหญิงไปให้ ทำไงดีครับ  ราชองค์รักษ์รายงานเจ้าดาร์กโฮเซ่

    แล้วเจ้ารู้หรือไม่ ว่าใครเป็นคนนำทัพครั้งนี้มา เจ้าดาร์กโฮเซ่เอ่ยถาม

    เรียนท่านเจ้า หม่อมฉันทราบข่าว ในศึกครั้งนี้ผู้นำทัพคือเจ้าชายเซเทส และเจ้าชายเอรอส โอรสทั้งสองของกษัตริย์เอสลูฟ อีกทั้งโอรสทั้งสองยังพา บลูฟ๊อกมาด้วย โซเทีย ราชองค์รักษ์หนุ่ม ผู้มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยภายในปราสาทกล่าวขึ้น

    ว่าไงนะ ถึงกับพาสัตว์ในตำนานมาเลยหรอเนี่ย  แสดงว่าเราต้องเตรียมรับศึกหนัก หากเรายอมมอบลูกหญิงของเราไปก็เท่ากับว่าเรายอมแพ้หละสิ เรียกประชุมเหล่าองค์รักษ์ เราจะเตรียมรับมือกับศึกครั้งนี้  เจ้าดาร์กโอเซ่กล่าวพร้อมสีหน้าครุ่นคิด

    รับทราบ เสียงราชองค์รักษ์เอ่ยรับคำสั่งผู้เป็นกษัตริย์

     

                    เสียงอะไรแอะอะดังลั่น พวกเจ้าไปดูให้เราหน่อยสิ เจ้าหญิงองค์น้อยที่ทรงไม่น้อยแล้วกล่าวขึ้นด้วยความงัวเงีย

                    กราบทูลเจ้าหญิงเพคะ บัดนี้ทัพแห่งเฮธิโฮบัส ได้ยกทัพเข้ามาประชิดเมืองแล้วเพคะ พี่เลี้ยงทูลถวายเจ้าหญิงให้คลายสงสัย

                    อะไรนะ! พวกเขาจะยกทัพมาตีเมืองเราทำไม เราไมได้ทำอะไรผิดซักหน่อย เจ้าหญิงกล่าวด้วยความงุนงง

                    คือว่า เอ่อ... คือว่า ที่พวกเขายกทัพมาครั้งนี้เพื่อต้องการตัวองค์หญิง และสาเหตุก็เพราะว่า เจ้าหญิงทรงปฏิเสธการอภิเษกไงเพคะ พี่เลี้ยงกล่าวทูลถวายข้อสงสัย

                    อะไรนะ !” เจ้าหญิงทรงตกใจเป็นครั้งที่สอง ไหนท่านพ่อไม่ได้บอกเรานิ ว่าหากเราไม่แต่งแล้ว จะเกิดสงครามขึ้น นี่สงครามเกิดขึ้นเพราะเราหรือนี่ เจ้าหญิงกล่าวด้วยใบหน้าหมองเศร้า

                    เราจะเข้าเฝ้าท่านพ่อ  เจ้าหญิงกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าๆ

     

                    องค์ดาร์กโฮเซ่ เจ้าหญิงเฟร์ร่า ทรงขอเข้าพบ จะให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าหรือเปล่า ราชองค์รักษ์เอ่ยถาม

                    อืม ให้นางเข้ามา เจ้าดาร์กโฮเซ่ เอ่ยอนุญาติ

                    ท่านพ่อ ทำไมท่านพ่อไม่บอกลูกหละเพคะ ถ้าหากลูกปฏิเสธองค์รัชทายาทอะไรนั่น ผลจะทำให้เกิดสงคราม เจ้าหญิงกล่าวอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นผู้เป็นบิดา

                    ใจเย็นๆสิ เฟร์ร่า ที่พ่อไม่บอกเจ้าก็เพราะพ่อไม่อยากให้เจ้าไม่มีความสุขตลอดชีวิต ชีวิตการแต่งงานถ้าเจ้าไม่เต็มใจแต่ง แทนที่มันจะสุข แต่มันกลับทุกข์ นะลูก ในเมื่อพ่อตัดสินใจไปแล้ว ในเมื่อเจ้าไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องแต่ง ที่เหลือพ่อจะรับผิดชอบเอง เจ้าดาร์กโอเซ่ผู้เป็นบิดาและเป็นบิดาแห่งแผ่นดินกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

                    ท่านพ่อ เจ้าหญิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับน้ำตา พร้อมทั้งสวมกอดผู้เป็นบิดาอย่างตื้นตัน

                    ท่านพ่อ หม่อมฉันขออาสาไปสู้ศึกครั้งนี้นะเพคะ อย่างไรก็ตามสงครามครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะหม่อมฉัน ดังนั้นควรให้หม่อมฉันเป็นผู้รับผิดชอบนะเพคะ เจ้าหญิงองค์น้อยของผู้เป็นบิดากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

                    เฟร์ร่า เจ้าพูดอะไรขึ้นมา เจ้ายังเด็กนัก เจ้ารู้มั้ย สงครามครั้งนี้มันอันตรายขนาดไหน  ไหนจะบลูฟ๊อก เจ้าของศึกสงครามครั้งนี้คือเมืองซึ่งขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญการรบเป็นที่สุด ถ้าหากเจ้าเป็นอะไรไป พ่อจะไม่ยอมให้อภัยตนเองเด็ดขาด เจ้าเข้าใจที่พ่อพูดมั้ย ผู้เป็นบิดา กล่าวขึ้น

                    โธ่ ท่านพ่อ หม่อมฉันมิใช่เด็กน้อย เหมือนเมื่อสมัยก่อนแล้วนะเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันก็มีคฑาอัคคี อีกทั้ง เจ้าเรดดาร์กอน หม่อมฉันไม่กลัวพวกมันหรอกเพคะ เจ้าหญิงกล่าวขึ้นอย่างประจบผู้เป็นพ่อ

                    เอาไว้พ่อคิดอีกทีนะเฟร์ร่า ผู้เป็นบิดากล่าวขึ้นอย่างเลี่ยงๆ เพราะไม่เคยที่จะปฏิเสธคำขอของคนตรงหน้าได้ซักที

                    ท่านพ่อ งั้นลูกขอตัวกลับปราสาทก่อนนะเพคะ พรุ่งนี้ลูกจะมารับคำตอบจากท่านพ่อนะเพคะ หวังว่าท่านพ่อคงไม่ทำให้ลูกต้องผิดหวัง นะเพคะ เจ้าหญิงกล่าวขึ้นพร้อมกับคำพูดที่แสดงความคาดหวังทิ้งท้ายให้ผู้เป็นบิดาต้องนำไปนั่งคิด หากเจ้าพี่อัลเทียอยู่ด้วยตอนนี้ก็คงดีสินะ หล่อนจะได้อาสาออกไปสู้รบเคียงข้างเจ้าพี่ท่านพ่อจะได้ไม่ทรงห่วงมากมายขนาดนี้ เจ้าหญิงองค์น้อยคิดพร้อมกับเสด็จกลับปราสาท

     

                    เรียนท่านราชองค์รักษ์โซเทีย เจ้าหญิงมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า องค์รักษ์ของเจ้าหญิงกล่าวขึ้นเมื่อเห็นท่านราชองค์รักษ์ออกมาจากห้องของกษัตริย์ดาร์กโฮเซ่

    เจ้าไปบอกเจ้าหญิง เดี่ยวเราจะไปเฝ้าพระองค์เอง  เจ้าหญิงทรงมีธุระอะไรกับเราอีก จะก่อเรื่องยุ่งอะไรอีกแน่เลย  ราชองค์รักษ์คิดขึ้นในใจ ด้วยความเอ็นดูเจ้าหญิงพระองค์น้อย ที่เขาคอยดูแลตั้งแต่เด็กๆ ดูแลด้วยหน้าที่และดูแลด้วยหัวใจ เขากับเจ้าหญิงเติบโตมาด้วยกัน เคยหนีเที่ยวนอกปราสาทด้วยกัน โดยเฉพาะตอนที่เจ้าชายอัลเทียไปศึกษาต่อ เจ้าหญิงทรงร้องไห้ทุกวัน มีเขานี่แหละช่วยเป็นเพื่อนเล่นคลายเหงาให้พระองค์ แต่บัดนี้เมื่อต่างคนต่างเติบโตขึ้น ด้วยภาระหน้าที่สวนทางกันทำให้เขาทำได้แค่คอยเป็นกำลังใจ คอยเพื่อนให้กับเจ้าหญิงอย่างห่างๆ

     

    นี่โซเทีย เจ้าพอรู้มั้ย ว่าพวกทหารแห่งเอธิโอบัส ตั้งทัพอยู่ที่ใด เจ้าหญิงกล่าวถามด้วยความอยากรู่

    เจ้าหญิง พระองค์ทรงคิดจะทำอะไร รู้มั้ยว่ามันอันตรายขนาดไหน อย่าเอาพระองค์ไปเสี่ยงในที่อันตรายแบบนั้นเลยนะ ทรงฟังหม่อมฉันบ้าง ที่ท่านเจ้าเตือนก็เพราะความเป็นห่วงในตัวองค์หญิง ทรงอย่าดื้อดึงให้ท่านเจ้าต้องไม่สบายใจเลย ราชองค์รักษ์หนุ่มกล่าวขึ้นอย่างรู้ทัน

    โธ่ โซเทีย เราก็แค่อยากจะไปดู ถ้าเจ้าไม่บอกเรา เดี่ยวเราก็จะหนีออกไปสืบเอง คอยดูนะ ถ้าเราเป็นอะไรไปท่านพ่อต้องทำโทษท่านแน่ๆ ว่าแต่เจ้าจะไปกับเรามั้ย เจ้าหญิงกล่าวด้วยสีหน้าแฝงไปด้วยความท้าทายที่ทำให้คนตรงหน้าเอือมระอากับความดื้อรั้น

    ไปสิ ในเมื่อเป็นความประสงค์ของเจ้าหญิง หม่อมฉันหรือจะกล้าขัด  ราชองค์รักษ์หนุ่มกล่าวขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อห้ามไม่เป็นผล ก็ต้องเป็นหน้าที่ที่ต้องอารักขาความปลอดภัยให้เจ้าหญิงองค์น้อย

              ððððððð

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×