ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo | ` short fiction : nutcracker ♡

    ลำดับตอนที่ #1 : | OS | Behind The Glass : Luhan x Minseok ♡

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 57


    | Behind The Glass|

    Paring : Luhan x Minseok

    AUTHOR : NUTCRACKER

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “เด็กพวกนั้นนอนกันหมดแล้วเหรอ?”

                มินซอกพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังเทคลีนซิ่งออยล์ลงบนฝ่ามือหลังจากที่รูมเมทของตนเองเดินกลับเข้ามาในห้องเมื่อสักครู่นี้

    “ยังหรอก” ลู่หานเข้ามายืนข้างหลังแล้วมองเขาผ่านกระจกเงาหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ คนตัวเล็กเหลือบตามองครู่หนึ่งแต่แล้วก็หันกลับมาสนใจของเหลวที่อยู่บนฝ่ามือมากกว่า

    “โดนไล่มาล่ะสิ”

    “ก็เปล่านะ”

    “เหรอเหรอเหรอ?” มินซอกพูดล้อคนที่กำลังยืนจ้องเขาในกระจก แม้จะนับได้ว่าเป็นพี่รองของวงแต่ลู่หานก็ยังถูกเด็กๆแกล้งอยู่ดี ซึ่งก็มีตรงนี้ที่แตกต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง “ไม่น่าเชื่อ”

                “เด็กพวกนั้นกลัวฉันกันหมดแหละน่า” ไม่ว่าเปล่า กำปั้นแข็งทุบลงที่ต้นแขนเล็กเบาๆจนทำให้ฝ่ายถูกกระทำต้องเซไปอีกทาง

                “บ้าพลังชะมัด” มินซอกบ่นเบาๆ

                “เหนื่อยเป็นบ้าเลย...” พอขาดคำ คนตัวเล็กก็ได้ยินเสียงดังตุบเมื่อลู่หานทิ้งตัวลงบนที่นอนสปริงที่อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะเครื่องแป้งมากนัก ร่างสูงถอนหายใจออกมาในขณะที่ตายังมองเพดานอยู่

                “ลุกเดี๋ยวนี้”

                “ทำไม?”

                “ไปล้างเมคอัพแล้วก็อาบน้ำ เก็บข้าวเก็บของเข้าที่ด้วย” ลู่หานเบ้หน้าให้กับนิสัยรักความสะอาดเสียยิ่งกว่าผู้หญิงของรูมเมท เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จ้างให้ก็ไม่ลุกออกไปง่ายๆหรอก

                “ลู่หาน” คนเดิมเรียกซ้ำอีกครั้ง ใบหน้าคมขาวซุกลงบนผ้าปูเตียงก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างดื้อรั้น

                “จะนอนทั้งแบบนี้ไม่ได้นะ” คราวนี้ร่างสูงคว้าหมอนขึ้นมาปิดหูแล้วขยับขึ้นไปถึงกลางเตียง มินซอกมองเข้าไปในกระจกก่อนจะละเลงคลีนซิ่งออยล์ลงทั่วหน้าแล้วหันกลับมาหาคนที่นอนนิ่งไป

                “ป่านนี้แบคฮยอนจะอาบน้ำหรือยังนะ”

     

     

     

                ได้ผล...

                พอลองแกล้งพูดแบบนั้นหมอนใบใหญ่ที่เคยใช้ปิดหน้าก็ถูกปัดออกมาทันควัน ลู่หานลุกขึ้นมานั่งหน้ามุ่ยก่อนจะจ้องมองมาที่เขา มินซอกหันไปแค่นยิ้มให้หนึ่งทีพอเห็นว่าใบหน้าเล็กๆของลู่หานตอนนี้กำลังง้ำงอเหมือนเด็กที่โดนขัดใจ

     

     

     

                “ฉันอาบก่อนก็ได้” พูดจบมินซอกก็โยนหลอดน้ำยาล้างเมคอัพไปให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงที่รับได้อย่างพอดิบพอดี

                “ดีเลย” ลู่หานระบายยิ้มออกมาอย่างมีพิรุธ ร่างเล็กเลิกคิ้วมองเป็นเชิงถามว่าดีตรงไหน? แต่คำตอบก็มีอยู่ในใจอยู่แล้ว... นิสัยอย่างลู่หานน่ะเหรอ ก็คงจะรอให้เขาเป็นฝ่ายเข้าไปอาบน้ำก่อนอีกตามเคย

                “วางของใช้ให้เป็นที่นะ แยกของฉันกับของนายด้วย ตอนเก็บกลับเข้าไปจะได้ไม่ปนกัน”

                “ปนกันแล้วไม่ดียังไง?” ลู่หานถามพลางบีบคลีนซิ่งออยล์ลงบนฝ่ามือของตัวเองบ้าง

                “ไม่ดีแล้วกัน” มินซอกตอบแบบขอไปทีแล้วก้มลงไปหยิบของใช้ส่วนตัวในกระเป๋าเสื้อผ้า

                “ไม่ดียังไง?” ไม่วายที่จะถามซ้ำ ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าลู่หานคงกำลังไม่พอใจที่เขาพูดแบบนั้น มินซอกโยนโฟมล้างหน้าขึ้นมาก่อนจะแบมือรับกลางอากาศ

                “ไม่ดีตรงที่ต้องมาเอาบ่อยๆน่ะสิ”

              “เอาบ่อยๆแล้วไม่ดีเหรอ?”

     

     

     

     

     

                ฉ่า...

                รู้สึกเหมือนกำลังมีเพลิงไหม้อยู่บนหัวจนไอร้อนของมันต้องตกลงมาถึงแก้มทั้งสองข้าง เขาไม่หันกลับไปสบตาคนพูดพลางคิดต่อว่าจะเก็บอาการอย่างไรดี ป่านนี้อีกคนคงกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่ในใจแน่ๆ... บ้าเอ๊ย! ลู่หานพูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตายได้ยังไงกันนะ?

     

     

     

     

                “ทำไมไม่ตอบ” เหมือนโดนค้อนทุบซ้ำลงมาอีกครั้ง มินซอกเม้มปากแน่นก่อนจะกลอกตามองอีกฝ่าย ลู่หานกำลังยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วโน้มตัวเข้าไปหากระจกเงาบานใหญ่ ดูเหมือนว่าไม่ได้สนใจในสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาด้วยซ้ำ มีแต่เขาที่คิดมากไปเองล่ะมั้ง...

                “ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีหรอก”

                “ใช่ไหมล่ะ”

                “อื้อ” พอตอบออกไปแล้วลู่หานก็หันกลับมามอง

                “ฉันก็คิดแบบนั้นล่ะ” ร่างสูงระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับใบหน้าของตัวเองในกระจกอีกครั้ง มินซอกเกาหลังหูเบาๆแก้เขินแล้วรีบลุกขึ้นมาทันควัน

     

     

               

                ก้มหน้าก้มตาเดินเข้ามาถึงหน้าห้องน้ำแล้วไฟในห้องก็ปิดลง ได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังขึ้นจากข้างหลังก็พอจะรู้ว่าลู่หานคงจะนั่งดูรายการกีฬาฆ่าเวลา หันมองกลับไปก็เห็นว่าร่างสูงเลิกคิ้วแล้วยิ้มให้ก่อนจะทอดสายตาไปที่หน้าจอแอลซีดีอีกครั้ง คืนนี้อาจจะไม่มีอะไรน่ากังวลก็ได้

     

     

               

     

                พรึ่บ!

     

     

     

                พอปลายนิ้วมือเล็กแตะลงบนสวิตช์ ไฟห้องน้ำสีส้มนวลก็ส่องสว่างขึ้นมา มินซอกทำผ้าขนหนูหล่นลงไปกองกับพื้นทันทีเมื่อเห็นว่าในโซนของห้องอาบน้ำและชักโครกกลับถูกสร้างขึ้นมาโดยมีกระจกหนาบุเป็นผนัง ยิ่งไปกว่านั้น...

     

     

     

     

     

                มันดันเป็นกระจกใส

     

     

     

     

     

                ไวกว่าความคิด คนตัวเล็กรีบเอาหลังดันประตูห้องน้ำให้ปิดลงดังปัง มีกลอนล็อคประมาณสองชั้นเขาก็จัดการล็อคมันอย่างแน่นหนา ถ้าลู่หานทะเล่อทะล่าเข้ามาก็เห็นกันหมดพอดี

     

     

     

                “เฮ้! อย่าล็อคประตูสิ” เสียงจากข้างนอกดังขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กหลับตาแน่น กลั้นลมหายใจเอาไว้ในอกก่อนจะปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติตอบกลับไป

                “คนบ้าที่ไหนเขาอาบน้ำแล้วไม่ล็อคประตูกันบ้าง”

                “ฉันไง” คนเดิมตอบ คนที่กล้าทำเรื่องแบบนั้นก็มีแต่นายเท่านั้นแหละ

                “ใครสนล่ะ” มินซอกพูดด้วยน้ำเสียงเย็นแสดงออกถึงความไม่ใส่ใจทั้งที่ความจริงก็ยืนขาอ่อนอยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว

                “ตามใจนายแล้วกัน” ร่างเล็กถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “ถ้าฉันปวดห้องน้ำ ฉันจะลงไปตามพนักงานมาเปิดประตู”

     

     

     

     

     

     

     

     

              บ้าเอ๊ย!

                มินซอกเตะผ้าขนหนูบนพื้นจนกระเด็นเข้าไปติดผนัง เขาหายใจเข้าออกอย่างแรง โมโหก็ใช่ ประสาทเสียยิ่งใช่เข้าไปใหญ่ แต่ที่ใช่ที่สุดคงต้องเป็นความรู้สึกอับอายแน่ๆ... ถ้าเขากำลังอาบน้ำอยู่แล้วลู่หานเปิดประตูเข้ามาล่ะ? บ้าเอ๊ย... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?

     

                “ไม่ล็อคก็ได้”

    ร่างเล็กกัดฟันพูดออกมาก่อนจะปลดล็อคกลอนที่บานประตูทั้งสองชั้นออก เงี่ยหูฟังอยู่สักพักก็เห็นว่าลู่หานเงียบไป คงจะใจจดใจจ่ออยู่กับฟุตบอลในโทรทัศน์แน่ๆ ถ้ารีบอาบน้ำให้เสร็จตั้งแต่ตอนนี้ก็คงไม่เป็นปัญหา

     

     

     

    ฉลาดจริงๆเลยนะคิมมินซอก

     

     

     

     

                พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็ชั่งใจต่ออีกครู่ ป่านนี้รายการมันดำเนินไปถึงไหนแล้วนะ... ถ้ามันพักเบรกก่อนลู่หานต้องเดินเข้ามาล้างหน้าแน่ๆ เขาควรจะรอให้ลู่หานเข้ามาล้างหน้าก่อนไหม? ไม่สิ...ถ้าแบบนั้นคงไม่มีเวลาอาบน้ำแน่ๆ ถ้าออกไปตอนนี้เพราะกลัวโดนถ้ำมองก็คงจะต้องโดนล้อไปถึงเดือนหน้า ไม่ได้นะคิมมินซอก...เป็นพี่เขาแล้วยังจะขี้ขลาดกับเรื่องเด็กๆแค่นี้อีก เห็นก็เห็นสิ เห็นก็เห็นไปเลย เห็นไปเลย! เห็นให้หมดไปเลย!

     

     

     

                “ฮู่ว์...” มินซอกถอนหายใจออกมาก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของตนเองออกให้หมด จะเละเทะยังไงเวลานี้ก็ช่างมันเถอะ อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยมาพับออกไปก็ได้

     

     

     

                มือเล็กดันประตูกระจกเข้าไปภายในส่วนของห้องอาบน้ำ ขาเรียวก้าวเข้าไปในอ่างขนาดกลางที่มีที่ว่างพอสำหรับลงไปแช่แค่คนเดียว ห้องน้ำกว้างขนาดนี้ผสมกับความหวาดระแวงทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบราวกับกลัวว่าจะมีใครจ้องมองอยู่... น่ากลัวยิ่งกว่าผีก็คือรูมเมทของเขาคนนี้นี่ล่ะ

     

     

     

                “นายอาบน้ำเสร็จหรือยัง ฉันจะเข้าไปแล้ว” เสียงข้างนอกดังขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้สะดุ้งโหยง จากที่คิดว่าจะอาบฝักบัวให้เสร็จคนตัวเล็กก็ต้องรีบนั่งยองๆลงบนอ่างอาบน้ำทันที

                “ยัง” เวลาแค่นี้ใครอาบเสร็จก็ไม่ใช่คนแล้ว

                “ฉันจะเข้าไปแล้ว”

                “ไม่ได้!” จะวิ่งออกไปล็อคประตูก็ไม่ได้ ถ้าออกไปไม่ทันตอนนี้ต้องตายแน่ๆ

     

     

                ลู่หานเงียบไป... เขาไม่มีทางออกเลยตอนนี้ ในสมองก็ตันไปหมด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเขาคงเป็นวิธีที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่เคยทำมาคือเอื้อมมือออกไปเปิดวาล์วน้ำแรงๆเพื่อให้น้ำไหลเข้ามาในอ่าง มินซอกนั่งพิงขอบอ่างโดยหันหลังให้ประตูแถมตอนนี้ยังกอดเข่าอยู่ด้วย คนตัวเล็กชโลมสบู่ไปบนร่างกายที่เปียกน้ำมาก่อนหน้านี้แล้วทำให้เกิดฟองพอกตัวเต็มไปหมด สายน้ำอุ่นหลั่งไหลออกมาจนปิดสะโพก เขาบีบสบู่เหลวเพิ่มเข้าบนผิวน้ำไปอีก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                แต่ลู่หานก็ยังไม่เข้ามา...

     

     

     

     

     

     
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เสียงน้ำเงียบไปแล้ว...

                ได้ยินเสียงบุ๋งๆอยู่สักพักก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาจากน้ำทันที มือเล็กรีบปาดฟองสบู่ขมคอออกจากจมูกและปากแล้วสะบัดหัวที่เปียกชุ่มแรงๆอยู่สองสามครั้ง เพราะโหมงานหนักมาตลอดอาทิตย์จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่เผลอหลับอยู่ในห้องน้ำแบบนี้

     

     

     

                แย่ล่ะ...ลู่หานรออาบน้ำอยู่นี่!

     

     

     

     

                “นายเหมือนเด็กเลย”

                เสียงที่คุ้นเคยดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล มือเล็กบีบจมูกตัวเองแน่นก่อนจะช้อนตามองตรงไปทางด้านหน้า เขากระพริบตาถี่ๆเพื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่ ขาทั้งสองข้างที่งอเข้าหาตัวอยู่แล้วยิ่งต้องขดกลับเข้ามาใกล้กว่าเดิมอีก มินซอกเกาข้างแก้มเบาๆก่อนจะชายตามองอีกฝ่ายอีกครั้ง

                “ออกไปก่อนสิ ฉันยังไม่เสร็จ” พูดแล้วก็รู้สึกไม่กล้าสบตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก็อีกฝ่ายเล่นจ้องหน้าเขาไม่วางตาแบบนี้...

              “ก็มาทำให้เสร็จพร้อมกันสิ”

     

     

     

     

     

     

     

     

    โดนเล่นอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ไม่เอา”

    ศีรษะทุยเล็กส่ายรั้นไปมาสองสามครั้งขณะที่แผ่นมือหนาของอีกคนกำลังดึงให้เขาขยับเข้าไปใกล้ ลู่หานไม่พูดอะไรเลยสักนิดนอกจากบีบมือเขาเบาๆเมื่อเห็นว่าไม่ยินยอม ดวงตากลมเหลือบมองคนตรงหน้าอีกครั้ง...

    “เถอะนะ”

    นัยน์ตาสีเข้มที่กำลังวาวชื้นมองสบเข้ามาในคู่ตาเล็กทันทีราวกับว่ารอจังหวะนี้อยู่ ริมฝีปากหยักแค่นยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะออกแรงกระตุกร่างของคนตัวเล็กให้ขยับเข้ามาใกล้

    “ฉันจะไม่ทำอะไร”

    มินซอกชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเชื่อในสิ่งที่คนตรงหน้าพูดถึงดีไหม ที่ผ่านมาก็พูดแบบนี้...หลายครั้งก็ทำตามที่พูดแต่หลายครั้งก็ไม่

    “ไม่เชื่อเด็กเลี้ยงแกะหรอก”

    “ฉันไม่ทำอะไรหรอก”

    คนเดิมพูดย้ำอีกครั้ง ใบหน้าคมขาวดูอ่อนเยาว์ลงไปอีกเมื่อไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอาง แววตาสีรัตติกาลคู่นั้นกำลังออดอ้อนเขาอยู่ เขารับรู้มันได้ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช้คำพูดอะไรให้มันมากมาย...ลู่หานเป็นแบบนี้กับเขาเสมอ

    “มินซอกอา...”

    กี่ครั้งก็ต้องยอมใจอ่อนเวลาที่ลู่หานเรียกชื่อเขาแบบนี้ ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเหนื่อยใจกับวิธีอ้อนแบบเด็กๆของร่างสูง

     

     

     

    ในที่สุด...เขาก็ต้องยอมปล่อยให้ร่างกายของเขาโอนอ่อนไปตามอีกฝ่ายโดยดี

     

     

     

     

    มือหนากระตุกแรงดึงไม่มากนักแต่ก็ทำให้เรือนร่างของคนที่ว่าง่ายขยับเข้ามาจมอยู่บนแผ่นอก ลำแขนแกร่งโอบรอบเอวคอดเอาไว้หลวมๆก่อนจะเหยียดช่วงขายาวออกไปจนชิดกับขอบอ่างอีกฝั่ง มินซอกปล่อยให้แผ่นหลังเรียบเนียนของตนเองเอนอิงเข้าหาผิวกายเปลือยเปล่าของชายหนุ่มก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเมื่อกรอบหน้าคมสันเบียดเข้ามาหาพวงแก้มขาวอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

     

    “ไหนบอกว่าไม่ทำอะไรไง”

    คนตัวเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้เมื่อรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วหยาบโลนนั่นกำลังสัมผัสเข้ามาที่ผิวกายของตนเอง

    “ไม่ทำมากกว่าที่เคย”

    ลู่หานกระซิบข้างหู...

    ปลายจมูกโด่งรั้นกำลังซุกไซร้ไปบนเนินแก้มนวลเนียนของเขาจนต้องเอียงหน้าหนี มือหนาที่เคยวางอยู่บนหน้าขาตอนนี้กลับเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอกอย่างรวดเร็ว

    “อย่ารุงรังสิ”

    คนเสียเปรียบร้องปราม มือบางเคลื่อนขึ้นมาวางทาบลงบนหลังมือใหญ่เพียงหมายจะเคลื่อนสัมผัสนั้นลงมาจากจุดเดิมสักหน่อยแต่มันกลับไม่เป็นผล

    “ฉันพยายามแล้ว”

    ร่างสูงกล่าวตอบออกมาสั้นๆผิดวิสัยของผู้ชายช่างเจรจาเพราะรู้สึกว่าในช่วงเวลาแบบนี้ไม่ควรให้การสนทนาเข้ามามีส่วนร่วมมากนัก ริมฝีปากหยักละเลียดจูบไปบนลำคอระหงอย่างเชื่องช้าแล้วก็ดูเหมือนว่ามินซอกกำลังตอบสนองสัมผัสของเขาอยู่เช่นกัน สังเกตจากมือบางที่เมื่อครู่เพิ่งพยายามดันมือของเขาลงมาจากหน้าอกแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาจิกหลังมือของเขาแน่น ลู่หานหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนเริ่มเลียจากต้นคอขึ้นมาจนถึงติ่งหูนิ่ม

    “ใจเย็นๆกับฉันหน่อย...”

    ไม่ใช่คำพูดห้ามปรามแต่กลับเป็นคำร้องขอไม่ให้ลู่หานเร่งรัดความต้องการของตนเองจนเกินไป กลีบปากหนาขบเม้มใบหูของคนตรงหน้าเบาๆจนทำให้อีกฝ่ายต้องยอมหันหน้าเข้ามาหา

    “งั้นก็เริ่มเองสิ”

     กดจุมพิตลงที่ปลายคางมนเบาๆเพียงไม่กี่ครั้งก็ต้องทอดนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาสบเข้าที่ดวงตาอีกคู่ แววตาของมินซอกยังคงสั่นไหวและเต็มไปด้วยความประหม่าเมื่อมันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้...แล้วมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกๆด้วยเช่นกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

    CUT

     

     

     

     

     

     

     



     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

      

     

     

     

     

    “ยังไม่เสร็จอีกเหรอ?”

     

     

     

    กึก!

    ประตูห้องน้ำปิดลง เสียงทุ้มห้าวดังก้องขึ้นตามมาด้วยเสียงน้ำที่ไหลจากอ่างล้างหน้า คนตัวเล็กขยี้ตาตัวเองเบาๆก่อนจะก้มลงสำรวจร่างกายของตัวเองอยู่สักพัก

     

     

     

    นี่ฝันไปเหรอเนี่ย...

     

     

     

    ตารางงานที่อัดแน่นจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักทำให้กังวลเป็นพิเศษว่าถ้าลู่หานทำเรื่องทะลึ่งทะเล้นกับเขาแบบนั้นอาจจะทำให้เวลานอนของเราไม่เพียงพอ เขาเอามือวางทาบบนหน้าอกก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนแต่มันก็นานพอที่จะทำให้เก็บสิ่งที่หวาดระแวงไปฝันได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว

    “ฉันเปิดไอจีให้อีกรอบแล้วนะ”

    ลู่หานชวนคุย เขาทำได้แต่พยักหน้ารับในสิ่งที่อีกคนพูดถึงเพราะเวลานี้ในสมองยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องความฝันที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ มือเล็กวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าก่อนจะบีบจมูกตัวเองแน่น

    “ลงรูปให้แล้วด้วย ที่นายเซลก้าวันนี้”

    “เล่นโทรศัพท์ฉันเหรอ?”

    “ทีนายยังเช็คโทรศัพท์ฉันเลย”

    มินซอกขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันหน้ากลับไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ลู่หานเพิ่งล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ใบหน้าคมสวยนั่นหันมาเอียงคอยิ้มให้เขาอย่างเต็มไปด้วยเล่ห์

    “ทำไมถึงมองฉันแบบนั้นล่ะ?”

    “ห้องน้ำกระจกนี่ดีนะ...ว่าไหม?”

     

     

     

     

     

     

    กว่าสมองจะประมวลผลได้ว่าฟองสบู่ที่ลอยอยู่ในอ่างอาจไม่เพียงพอต่อการปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าที่อยู่ใต้ผิวน้ำ ผ้าขนหนูผืนใหญ่ก็ถูกปลดออกจากบั้นเอวหนาของร่างกายสูงโปรงที่กำลังเปลือยเปล่า

     

     

     

     

     

     

    ลู่หานกำลังเดินมาทางนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - E N D –

     

     

    ฆ่าฉันเถอะทูนหัว...

    อย่าปล่อยให้อีหนวดมีชีวิตอยู่บนโลกต่อไปเลยค่ะ T_T

    สารภาพว่าปกติถึงจะเป็นคนทะลึ่งตึงตังขนาดไหนก็ไม่เคยคิดจะเขียนฟิควันช็อตที่มีเนื้อหาแบบนี้มาก่อนเลยนะ แต่จากสิบปากว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างห้องน้ำกระจกใสและลู่หมินนั้นทำดิฉันแทบคลั่งตาย เนื้อหาจึงออกมาทำนองนี้ค่ะ แงแง T_T

     

    สำหรับวันช็อตเรื่องนี้หากใครอยากสกรีมพี่หนวดขอใช้ Hashtag เป็น #บฮดก (Behind The Glass) นะคะ ง่ายดี 55555555555555555555555555

     

    มาถึงจุดนี้ก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หนวดและแรงผลักดันต่างๆที่ทำให้หนวดต้องเขียนวันช็อตเรื่องนี้มา เนื้อหาแนวนี้คงจะไม่มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ เพราะฉะนั้นอย่ารอคอย อย่าคาดหวัง เพราะหนวดถนัดแนวดราม่ามากที่สุดเลยค่ะ 555555555555555555 (แต่ที่เขียนมาแต่ละเรื่องแทบไม่มีดราม่าเลย ฉีกแนวตัวเองสุดๆ) ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และคะแนนโหวตด้วยนะคะ รวมไปถึงแฟนพันธ์แท้ของชอร์ตฟิคหน้านี้ด้วย ขอฝากเอาไว้นะคะ หากมีเวลาจะพยายามสร้างสรรค์เนื้อหาดีๆมาให้ผู้อ่านทุกคนค่ะ ซารังเงย์ <3



     

    Owen :D
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×