คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : | OS | Behind The Glass : Luhan x Minseok ♡
| Behind The Glass|
Paring : Luhan x Minseok
AUTHOR : NUTCRACKER
“เด็กพวกนั้นนอนกันหมดแล้วเหรอ?”
มินซอกพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังเทคลีนซิ่งออยล์ลงบนฝ่ามือหลังจากที่รูมเมทของตนเองเดินกลับเข้ามาในห้องเมื่อสักครู่นี้
“ยังหรอก” ลู่หานเข้ามายืนข้างหลังแล้วมองเขาผ่านกระจกเงาหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ คนตัวเล็กเหลือบตามองครู่หนึ่งแต่แล้วก็หันกลับมาสนใจของเหลวที่อยู่บนฝ่ามือมากกว่า
“โดนไล่มาล่ะสิ”
“ก็เปล่านะ”
“เหรอเหรอเหรอ?” มินซอกพูดล้อคนที่กำลังยืนจ้องเขาในกระจก แม้จะนับได้ว่าเป็นพี่รองของวงแต่ลู่หานก็ยังถูกเด็กๆแกล้งอยู่ดี ซึ่งก็มีตรงนี้ที่แตกต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง “ไม่น่าเชื่อ”
“เด็กพวกนั้นกลัวฉันกันหมดแหละน่า” ไม่ว่าเปล่า กำปั้นแข็งทุบลงที่ต้นแขนเล็กเบาๆจนทำให้ฝ่ายถูกกระทำต้องเซไปอีกทาง
“บ้าพลังชะมัด” มินซอกบ่นเบาๆ
“เหนื่อยเป็นบ้าเลย...” พอขาดคำ คนตัวเล็กก็ได้ยินเสียงดังตุบเมื่อลู่หานทิ้งตัวลงบนที่นอนสปริงที่อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะเครื่องแป้งมากนัก ร่างสูงถอนหายใจออกมาในขณะที่ตายังมองเพดานอยู่
“ลุกเดี๋ยวนี้”
“ทำไม?”
“ไปล้างเมคอัพแล้วก็อาบน้ำ เก็บข้าวเก็บของเข้าที่ด้วย” ลู่หานเบ้หน้าให้กับนิสัยรักความสะอาดเสียยิ่งกว่าผู้หญิงของรูมเมท เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จ้างให้ก็ไม่ลุกออกไปง่ายๆหรอก
“ลู่หาน” คนเดิมเรียกซ้ำอีกครั้ง ใบหน้าคมขาวซุกลงบนผ้าปูเตียงก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างดื้อรั้น
“จะนอนทั้งแบบนี้ไม่ได้นะ” คราวนี้ร่างสูงคว้าหมอนขึ้นมาปิดหูแล้วขยับขึ้นไปถึงกลางเตียง มินซอกมองเข้าไปในกระจกก่อนจะละเลงคลีนซิ่งออยล์ลงทั่วหน้าแล้วหันกลับมาหาคนที่นอนนิ่งไป
“ป่านนี้แบคฮยอนจะอาบน้ำหรือยังนะ”
ได้ผล...
พอลองแกล้งพูดแบบนั้นหมอนใบใหญ่ที่เคยใช้ปิดหน้าก็ถูกปัดออกมาทันควัน ลู่หานลุกขึ้นมานั่งหน้ามุ่ยก่อนจะจ้องมองมาที่เขา มินซอกหันไปแค่นยิ้มให้หนึ่งทีพอเห็นว่าใบหน้าเล็กๆของลู่หานตอนนี้กำลังง้ำงอเหมือนเด็กที่โดนขัดใจ
“ฉันอาบก่อนก็ได้” พูดจบมินซอกก็โยนหลอดน้ำยาล้างเมคอัพไปให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงที่รับได้อย่างพอดิบพอดี
“ดีเลย” ลู่หานระบายยิ้มออกมาอย่างมีพิรุธ ร่างเล็กเลิกคิ้วมองเป็นเชิงถามว่าดีตรงไหน? แต่คำตอบก็มีอยู่ในใจอยู่แล้ว... นิสัยอย่างลู่หานน่ะเหรอ ก็คงจะรอให้เขาเป็นฝ่ายเข้าไปอาบน้ำก่อนอีกตามเคย
“วางของใช้ให้เป็นที่นะ แยกของฉันกับของนายด้วย ตอนเก็บกลับเข้าไปจะได้ไม่ปนกัน”
“ปนกันแล้วไม่ดียังไง?” ลู่หานถามพลางบีบคลีนซิ่งออยล์ลงบนฝ่ามือของตัวเองบ้าง
“ไม่ดีแล้วกัน” มินซอกตอบแบบขอไปทีแล้วก้มลงไปหยิบของใช้ส่วนตัวในกระเป๋าเสื้อผ้า
“ไม่ดียังไง?” ไม่วายที่จะถามซ้ำ ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าลู่หานคงกำลังไม่พอใจที่เขาพูดแบบนั้น มินซอกโยนโฟมล้างหน้าขึ้นมาก่อนจะแบมือรับกลางอากาศ
“ไม่ดีตรงที่ต้องมาเอาบ่อยๆน่ะสิ”
“เอาบ่อยๆแล้วไม่ดีเหรอ?”
ฉ่า...
รู้สึกเหมือนกำลังมีเพลิงไหม้อยู่บนหัวจนไอร้อนของมันต้องตกลงมาถึงแก้มทั้งสองข้าง เขาไม่หันกลับไปสบตาคนพูดพลางคิดต่อว่าจะเก็บอาการอย่างไรดี ป่านนี้อีกคนคงกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่ในใจแน่ๆ... บ้าเอ๊ย! ลู่หานพูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตายได้ยังไงกันนะ?
“ทำไมไม่ตอบ” เหมือนโดนค้อนทุบซ้ำลงมาอีกครั้ง มินซอกเม้มปากแน่นก่อนจะกลอกตามองอีกฝ่าย ลู่หานกำลังยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วโน้มตัวเข้าไปหากระจกเงาบานใหญ่ ดูเหมือนว่าไม่ได้สนใจในสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาด้วยซ้ำ มีแต่เขาที่คิดมากไปเองล่ะมั้ง...
“ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีหรอก”
“ใช่ไหมล่ะ”
“อื้อ” พอตอบออกไปแล้วลู่หานก็หันกลับมามอง
“ฉันก็คิดแบบนั้นล่ะ” ร่างสูงระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับใบหน้าของตัวเองในกระจกอีกครั้ง มินซอกเกาหลังหูเบาๆแก้เขินแล้วรีบลุกขึ้นมาทันควัน
ก้มหน้าก้มตาเดินเข้ามาถึงหน้าห้องน้ำแล้วไฟในห้องก็ปิดลง ได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังขึ้นจากข้างหลังก็พอจะรู้ว่าลู่หานคงจะนั่งดูรายการกีฬาฆ่าเวลา หันมองกลับไปก็เห็นว่าร่างสูงเลิกคิ้วแล้วยิ้มให้ก่อนจะทอดสายตาไปที่หน้าจอแอลซีดีอีกครั้ง คืนนี้อาจจะไม่มีอะไรน่ากังวลก็ได้
พรึ่บ!
พอปลายนิ้วมือเล็กแตะลงบนสวิตช์ ไฟห้องน้ำสีส้มนวลก็ส่องสว่างขึ้นมา มินซอกทำผ้าขนหนูหล่นลงไปกองกับพื้นทันทีเมื่อเห็นว่าในโซนของห้องอาบน้ำและชักโครกกลับถูกสร้างขึ้นมาโดยมีกระจกหนาบุเป็นผนัง ยิ่งไปกว่านั้น...
มันดันเป็นกระจกใส
ไวกว่าความคิด คนตัวเล็กรีบเอาหลังดันประตูห้องน้ำให้ปิดลงดังปัง มีกลอนล็อคประมาณสองชั้นเขาก็จัดการล็อคมันอย่างแน่นหนา ถ้าลู่หานทะเล่อทะล่าเข้ามาก็เห็นกันหมดพอดี
“เฮ้! อย่าล็อคประตูสิ” เสียงจากข้างนอกดังขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กหลับตาแน่น กลั้นลมหายใจเอาไว้ในอกก่อนจะปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติตอบกลับไป
“คนบ้าที่ไหนเขาอาบน้ำแล้วไม่ล็อคประตูกันบ้าง”
“ฉันไง” คนเดิมตอบ คนที่กล้าทำเรื่องแบบนั้นก็มีแต่นายเท่านั้นแหละ
“ใครสนล่ะ” มินซอกพูดด้วยน้ำเสียงเย็นแสดงออกถึงความไม่ใส่ใจทั้งที่ความจริงก็ยืนขาอ่อนอยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว
“ตามใจนายแล้วกัน” ร่างเล็กถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ถ้าฉันปวดห้องน้ำ ฉันจะลงไปตามพนักงานมาเปิดประตู”
บ้าเอ๊ย!
มินซอกเตะผ้าขนหนูบนพื้นจนกระเด็นเข้าไปติดผนัง เขาหายใจเข้าออกอย่างแรง โมโหก็ใช่ ประสาทเสียยิ่งใช่เข้าไปใหญ่ แต่ที่ใช่ที่สุดคงต้องเป็นความรู้สึกอับอายแน่ๆ... ถ้าเขากำลังอาบน้ำอยู่แล้วลู่หานเปิดประตูเข้ามาล่ะ? บ้าเอ๊ย... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?
“ไม่ล็อคก็ได้”
ร่างเล็กกัดฟันพูดออกมาก่อนจะปลดล็อคกลอนที่บานประตูทั้งสองชั้นออก เงี่ยหูฟังอยู่สักพักก็เห็นว่าลู่หานเงียบไป คงจะใจจดใจจ่ออยู่กับฟุตบอลในโทรทัศน์แน่ๆ ถ้ารีบอาบน้ำให้เสร็จตั้งแต่ตอนนี้ก็คงไม่เป็นปัญหา
ฉลาดจริงๆเลยนะคิมมินซอก
พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็ชั่งใจต่ออีกครู่ ป่านนี้รายการมันดำเนินไปถึงไหนแล้วนะ... ถ้ามันพักเบรกก่อนลู่หานต้องเดินเข้ามาล้างหน้าแน่ๆ เขาควรจะรอให้ลู่หานเข้ามาล้างหน้าก่อนไหม? ไม่สิ...ถ้าแบบนั้นคงไม่มีเวลาอาบน้ำแน่ๆ ถ้าออกไปตอนนี้เพราะกลัวโดนถ้ำมองก็คงจะต้องโดนล้อไปถึงเดือนหน้า ไม่ได้นะคิมมินซอก...เป็นพี่เขาแล้วยังจะขี้ขลาดกับเรื่องเด็กๆแค่นี้อีก เห็นก็เห็นสิ เห็นก็เห็นไปเลย เห็นไปเลย! เห็นให้หมดไปเลย!
“ฮู่ว์...” มินซอกถอนหายใจออกมาก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของตนเองออกให้หมด จะเละเทะยังไงเวลานี้ก็ช่างมันเถอะ อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยมาพับออกไปก็ได้
มือเล็กดันประตูกระจกเข้าไปภายในส่วนของห้องอาบน้ำ ขาเรียวก้าวเข้าไปในอ่างขนาดกลางที่มีที่ว่างพอสำหรับลงไปแช่แค่คนเดียว ห้องน้ำกว้างขนาดนี้ผสมกับความหวาดระแวงทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบราวกับกลัวว่าจะมีใครจ้องมองอยู่... น่ากลัวยิ่งกว่าผีก็คือรูมเมทของเขาคนนี้นี่ล่ะ
“นายอาบน้ำเสร็จหรือยัง ฉันจะเข้าไปแล้ว” เสียงข้างนอกดังขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้สะดุ้งโหยง จากที่คิดว่าจะอาบฝักบัวให้เสร็จคนตัวเล็กก็ต้องรีบนั่งยองๆลงบนอ่างอาบน้ำทันที
“ยัง” เวลาแค่นี้ใครอาบเสร็จก็ไม่ใช่คนแล้ว
“ฉันจะเข้าไปแล้ว”
“ไม่ได้!” จะวิ่งออกไปล็อคประตูก็ไม่ได้ ถ้าออกไปไม่ทันตอนนี้ต้องตายแน่ๆ
ลู่หานเงียบไป... เขาไม่มีทางออกเลยตอนนี้ ในสมองก็ตันไปหมด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเขาคงเป็นวิธีที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่เคยทำมาคือเอื้อมมือออกไปเปิดวาล์วน้ำแรงๆเพื่อให้น้ำไหลเข้ามาในอ่าง มินซอกนั่งพิงขอบอ่างโดยหันหลังให้ประตูแถมตอนนี้ยังกอดเข่าอยู่ด้วย คนตัวเล็กชโลมสบู่ไปบนร่างกายที่เปียกน้ำมาก่อนหน้านี้แล้วทำให้เกิดฟองพอกตัวเต็มไปหมด สายน้ำอุ่นหลั่งไหลออกมาจนปิดสะโพก เขาบีบสบู่เหลวเพิ่มเข้าบนผิวน้ำไปอีก
แต่ลู่หานก็ยังไม่เข้ามา...
เสียงน้ำเงียบไปแล้ว...
ได้ยินเสียงบุ๋งๆอยู่สักพักก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาจากน้ำทันที มือเล็กรีบปาดฟองสบู่ขมคอออกจากจมูกและปากแล้วสะบัดหัวที่เปียกชุ่มแรงๆอยู่สองสามครั้ง เพราะโหมงานหนักมาตลอดอาทิตย์จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่เผลอหลับอยู่ในห้องน้ำแบบนี้
แย่ล่ะ...ลู่หานรออาบน้ำอยู่นี่!
“นายเหมือนเด็กเลย”
เสียงที่คุ้นเคยดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล มือเล็กบีบจมูกตัวเองแน่นก่อนจะช้อนตามองตรงไปทางด้านหน้า เขากระพริบตาถี่ๆเพื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่ ขาทั้งสองข้างที่งอเข้าหาตัวอยู่แล้วยิ่งต้องขดกลับเข้ามาใกล้กว่าเดิมอีก มินซอกเกาข้างแก้มเบาๆก่อนจะชายตามองอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ออกไปก่อนสิ ฉันยังไม่เสร็จ” พูดแล้วก็รู้สึกไม่กล้าสบตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก็อีกฝ่ายเล่นจ้องหน้าเขาไม่วางตาแบบนี้...
“ก็มาทำให้เสร็จพร้อมกันสิ”
โดนเล่นอีกแล้ว
“ไม่เอา”
ศีรษะทุยเล็กส่ายรั้นไปมาสองสามครั้งขณะที่แผ่นมือหนาของอีกคนกำลังดึงให้เขาขยับเข้าไปใกล้ ลู่หานไม่พูดอะไรเลยสักนิดนอกจากบีบมือเขาเบาๆเมื่อเห็นว่าไม่ยินยอม ดวงตากลมเหลือบมองคนตรงหน้าอีกครั้ง...
“เถอะนะ”
นัยน์ตาสีเข้มที่กำลังวาวชื้นมองสบเข้ามาในคู่ตาเล็กทันทีราวกับว่ารอจังหวะนี้อยู่ ริมฝีปากหยักแค่นยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะออกแรงกระตุกร่างของคนตัวเล็กให้ขยับเข้ามาใกล้
“ฉันจะไม่ทำอะไร”
มินซอกชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเชื่อในสิ่งที่คนตรงหน้าพูดถึงดีไหม ที่ผ่านมาก็พูดแบบนี้...หลายครั้งก็ทำตามที่พูดแต่หลายครั้งก็ไม่
“ไม่เชื่อเด็กเลี้ยงแกะหรอก”
“ฉันไม่ทำอะไรหรอก”
คนเดิมพูดย้ำอีกครั้ง ใบหน้าคมขาวดูอ่อนเยาว์ลงไปอีกเมื่อไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอาง แววตาสีรัตติกาลคู่นั้นกำลังออดอ้อนเขาอยู่ เขารับรู้มันได้ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช้คำพูดอะไรให้มันมากมาย...ลู่หานเป็นแบบนี้กับเขาเสมอ
“มินซอกอา...”
กี่ครั้งก็ต้องยอมใจอ่อนเวลาที่ลู่หานเรียกชื่อเขาแบบนี้ ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเหนื่อยใจกับวิธีอ้อนแบบเด็กๆของร่างสูง
ในที่สุด...เขาก็ต้องยอมปล่อยให้ร่างกายของเขาโอนอ่อนไปตามอีกฝ่ายโดยดี
มือหนากระตุกแรงดึงไม่มากนักแต่ก็ทำให้เรือนร่างของคนที่ว่าง่ายขยับเข้ามาจมอยู่บนแผ่นอก ลำแขนแกร่งโอบรอบเอวคอดเอาไว้หลวมๆก่อนจะเหยียดช่วงขายาวออกไปจนชิดกับขอบอ่างอีกฝั่ง มินซอกปล่อยให้แผ่นหลังเรียบเนียนของตนเองเอนอิงเข้าหาผิวกายเปลือยเปล่าของชายหนุ่มก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเมื่อกรอบหน้าคมสันเบียดเข้ามาหาพวงแก้มขาวอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไหนบอกว่าไม่ทำอะไรไง”
คนตัวเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้เมื่อรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วหยาบโลนนั่นกำลังสัมผัสเข้ามาที่ผิวกายของตนเอง
“ไม่ทำมากกว่าที่เคย”
ลู่หานกระซิบข้างหู...
ปลายจมูกโด่งรั้นกำลังซุกไซร้ไปบนเนินแก้มนวลเนียนของเขาจนต้องเอียงหน้าหนี มือหนาที่เคยวางอยู่บนหน้าขาตอนนี้กลับเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอกอย่างรวดเร็ว
“อย่ารุงรังสิ”
คนเสียเปรียบร้องปราม มือบางเคลื่อนขึ้นมาวางทาบลงบนหลังมือใหญ่เพียงหมายจะเคลื่อนสัมผัสนั้นลงมาจากจุดเดิมสักหน่อยแต่มันกลับไม่เป็นผล
“ฉันพยายามแล้ว”
ร่างสูงกล่าวตอบออกมาสั้นๆผิดวิสัยของผู้ชายช่างเจรจาเพราะรู้สึกว่าในช่วงเวลาแบบนี้ไม่ควรให้การสนทนาเข้ามามีส่วนร่วมมากนัก ริมฝีปากหยักละเลียดจูบไปบนลำคอระหงอย่างเชื่องช้าแล้วก็ดูเหมือนว่ามินซอกกำลังตอบสนองสัมผัสของเขาอยู่เช่นกัน สังเกตจากมือบางที่เมื่อครู่เพิ่งพยายามดันมือของเขาลงมาจากหน้าอกแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาจิกหลังมือของเขาแน่น ลู่หานหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนเริ่มเลียจากต้นคอขึ้นมาจนถึงติ่งหูนิ่ม
“ใจเย็นๆกับฉันหน่อย...”
ไม่ใช่คำพูดห้ามปรามแต่กลับเป็นคำร้องขอไม่ให้ลู่หานเร่งรัดความต้องการของตนเองจนเกินไป กลีบปากหนาขบเม้มใบหูของคนตรงหน้าเบาๆจนทำให้อีกฝ่ายต้องยอมหันหน้าเข้ามาหา
“งั้นก็เริ่มเองสิ”
กดจุมพิตลงที่ปลายคางมนเบาๆเพียงไม่กี่ครั้งก็ต้องทอดนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาสบเข้าที่ดวงตาอีกคู่ แววตาของมินซอกยังคงสั่นไหวและเต็มไปด้วยความประหม่าเมื่อมันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้...แล้วมันก็ไม่ใช่ ‘ครั้งแรกๆ’ ด้วยเช่นกัน
CUT
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ?”
กึก!
ประตูห้องน้ำปิดลง เสียงทุ้มห้าวดังก้องขึ้นตามมาด้วยเสียงน้ำที่ไหลจากอ่างล้างหน้า คนตัวเล็กขยี้ตาตัวเองเบาๆก่อนจะก้มลงสำรวจร่างกายของตัวเองอยู่สักพัก
นี่ฝันไปเหรอเนี่ย...
ตารางงานที่อัดแน่นจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักทำให้กังวลเป็นพิเศษว่าถ้าลู่หานทำเรื่องทะลึ่งทะเล้นกับเขาแบบนั้นอาจจะทำให้เวลานอนของเราไม่เพียงพอ เขาเอามือวางทาบบนหน้าอกก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนแต่มันก็นานพอที่จะทำให้เก็บสิ่งที่หวาดระแวงไปฝันได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
“ฉันเปิดไอจีให้อีกรอบแล้วนะ”
ลู่หานชวนคุย เขาทำได้แต่พยักหน้ารับในสิ่งที่อีกคนพูดถึงเพราะเวลานี้ในสมองยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องความฝันที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ มือเล็กวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าก่อนจะบีบจมูกตัวเองแน่น
“ลงรูปให้แล้วด้วย ที่นายเซลก้าวันนี้”
“เล่นโทรศัพท์ฉันเหรอ?”
“ทีนายยังเช็คโทรศัพท์ฉันเลย”
มินซอกขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันหน้ากลับไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ลู่หานเพิ่งล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ใบหน้าคมสวยนั่นหันมาเอียงคอยิ้มให้เขาอย่างเต็มไปด้วยเล่ห์
“ทำไมถึงมองฉันแบบนั้นล่ะ?”
“ห้องน้ำกระจกนี่ดีนะ...ว่าไหม?”
กว่าสมองจะประมวลผลได้ว่าฟองสบู่ที่ลอยอยู่ในอ่างอาจไม่เพียงพอต่อการปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าที่อยู่ใต้ผิวน้ำ ผ้าขนหนูผืนใหญ่ก็ถูกปลดออกจากบั้นเอวหนาของร่างกายสูงโปรงที่กำลังเปลือยเปล่า
ลู่หานกำลังเดินมาทางนี้
- E N D –
ฆ่าฉันเถอะทูนหัว...
อย่าปล่อยให้อีหนวดมีชีวิตอยู่บนโลกต่อไปเลยค่ะ T_T
สารภาพว่าปกติถึงจะเป็นคนทะลึ่งตึงตังขนาดไหนก็ไม่เคยคิดจะเขียนฟิควันช็อตที่มีเนื้อหาแบบนี้มาก่อนเลยนะ แต่จากสิบปากว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างห้องน้ำกระจกใสและลู่หมินนั้นทำดิฉันแทบคลั่งตาย เนื้อหาจึงออกมาทำนองนี้ค่ะ แงแง T_T
สำหรับวันช็อตเรื่องนี้หากใครอยากสกรีมพี่หนวดขอใช้ Hashtag เป็น #บฮดก (Behind The Glass) นะคะ ง่ายดี 55555555555555555555555555
มาถึงจุดนี้ก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หนวดและแรงผลักดันต่างๆที่ทำให้หนวดต้องเขียนวันช็อตเรื่องนี้มา เนื้อหาแนวนี้คงจะไม่มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ เพราะฉะนั้นอย่ารอคอย อย่าคาดหวัง เพราะหนวดถนัดแนวดราม่ามากที่สุดเลยค่ะ 555555555555555555 (แต่ที่เขียนมาแต่ละเรื่องแทบไม่มีดราม่าเลย ฉีกแนวตัวเองสุดๆ) ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และคะแนนโหวตด้วยนะคะ รวมไปถึงแฟนพันธ์แท้ของชอร์ตฟิคหน้านี้ด้วย ขอฝากเอาไว้นะคะ หากมีเวลาจะพยายามสร้างสรรค์เนื้อหาดีๆมาให้ผู้อ่านทุกคนค่ะ ซารังเงย์ <3
ความคิดเห็น