ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยุทธภพไร้ใจ ตัวข้าไม่ไร้รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : อารัมภบท

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 65


    อารัมภบท

    “สองคนนี้น่ะหรือ? ที่แม้แต่เทพบุพเพก็มิอาจตัดเส้นวาสนาได้” ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเป็นผู้ปกครองสูงสุดเหนือจักรวาลทั้งปวงในฉลองพระองค์ลายมังกรสีทองเจิดจรัสเอ่ย พลางปรายตามองไปยังดวงจิตสองดวงที่ปรากฏใบหน้าของมนุษย์ชายหญิงนอนหลับตาพริ้มอยู่ในโหลแก้ว 2 ใบในมือของเทพชรา ผู้เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวของ ‘อวี่หวงต้าตี้’

    หนึ่งเป็นบุรุษและอีกหนึ่งเป็นสตรี…ซึ่งสิ้นชีพพร้อมกันในสงครามระหว่างมนุษย์และอสูรของภพอู่อวี๋ ทั้งที่ตามลิขิต ฝ่ายสตรีจะต้องไม่ตาย แต่ก็ดื้อดึงรนหาที่ตายจนได้

    “มิผิดพ่ะย่ะค่ะ จะกี่ภพกี่ชาติ ไม่ว่าให้เกิดเป็นอะไร เป็นศัตรู เป็นสิ่งมีชีวิตคนละจำพวก หรือตัดเส้นบุพเพคนหนึ่งไปร้อยถักทอเข้ากับคนใหม่ สุดท้ายพวกเขาก็ฝืนลิขิตสวรรค์กลับมาหากันอยู่ดี...ทั้งที่เส้นวาสนาของพวกเขาน่ะมันสิ้นไปนานแล้ว...” เซียนเทพชราตอบ

    เฮ้อ~ อวี่หวงต้าตี้ถอนหายใจออกมาแรงๆ ทีหนึ่ง พลางคิดในใจ...

    นี่พวกเจ้าคิดว่าทั้งจักรวาลมีแค่พวกเจ้าสองคนหรือไร!? ไยมิคิดจะสานสัมพันธ์กับผู้อื่นบ้าง

    และเพราะการฝืนลิขิตสวรรค์นี่แหละถึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายนั่นนี่ตามมานับไม่ถ้วน!!

    อย่างชาติหนึ่งฝ่ายบุรุษเกิดเป็นองค์ชายแคว้นใหญ่ต้องถูกส่งไปอภิเษกกับองค์หญิงที่มีฐานะทัดเทียมกันอีกเเคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ก็ดันไปหลงรักฝ่ายสตรีที่เกิดเป็นขอทานนั่งดีดพิณ ทำให้ประกาศถอนหมั้นองค์หญิงอีกแคว้น โดยไม่บอกกล่าวผู้เป็นบิดาเลยเกิดเป็นสงครามครั้งใหญ่ระหว่างสองแคว้น...มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายกันมากมาย

    ส่วนสองคนนั้นน่ะหรือล่องเรือไปลงหลักปักฐานอยู่เกาะร้างด้วยกันอย่างมีความสุข!

    อา...ช่างบัดซบยิ่ง!

    ข้ามไปอีกชาติภพ ให้คนหนึ่งเป็นหมา คนหนึ่งเป็นแมว...

    ตามธรรมชาติหมากับแมวไม่ถูกกัน เจอหน้าทีไรกัดกันทุกที แต่สองคนนี้ก็ยังอุตส่าห์รักและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...จนในที่สุดก็โดนรถทับตายพร้อมกัน

    หรือแม้แต่ให้คนหนึ่งเกิดเป็นต้นไม้ใหญ่ในสุสาน อีกคนเป็นผู้กล้าจากแดนสวรรค์ ไอ้ผู้กล้านี่ก็ยังหาทางขุดต้นไม้ไปปลูกที่บ้านจนได้ วันๆ ไม่ทำไรนอกจากเอาแต่นั่งๆ นอนๆ กอดต้นไม้จนกระทั่งตัวตาย...

    และพอให้ไปเกิดกันคนละช่วงเวลา คนละภพ ต่างคนก็ต่างไม่สนใจคู่หมายที่ผูกบุพเพไว้ให้ แถมไม่เปิดใจรับใคร ครองความโสดกันไปยันวาระสุดท้ายของชีวิต!

    “หรือพวกเรามิควรไปยุ่งอะไรกับเส้นวาสนาของทั้งสองคนพ่ะย่ะค่ะ!?”

    “เช่นนั้นก็เท่ากับว่าปล่อยให้พวกเขามามีอำนาจเหนือสวรรค์น่ะสิ...และไม่แคล้วต้องมีคนเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” อวี่หวงต้าตี้กล่าวพลางส่ายหน้า

    แต่หากจะทำลายดวงจิตสองดวงทิ้งก็หาได้มีเหตุอันสมควรไม่...การที่พวกเขารักและดันทุรังจะอยู่ด้วยกันทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาก็จริง ทว่าทั้งคู่นั้นไม่ได้ก้าวร้าวประพฤติตนรุนแรงใส่ผู้อื่นหรือลบหลู่เทพเจ้าบนสวรรค์

    “หรือบางที...พวกเขาจะ...อยู่เหนือการควบคุมของพวกเราจริงๆ “ เซียนเทพชราเอ่ยตามที่คิด เพราะตั้งแต่บำเพ็ญเพียรจนได้บรรลุเลื่อนขั้นเป็นเทพและรับใช้ผู้ที่เป็นเจ้าแห่งจักรวาลทั้งปวงมา ยังไม่เคยเจอใครที่สามารถฝืนลิขิตสวรรค์ได้ทุกครั้งเช่นคู่นี้เลย

    “อืม...เจิ้นคิดว่า...เอาแบบนี้ละกัน” อีกฝ่ายนิ่งไปสักพัก ก่อนที่น้ำเสียงอันทรงพลังนั้นจะเรียกเซียนเทพชราเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอ่ยอะไรบางอย่างที่ข้างหู

    “โอ้...จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นกระหม่อมจะส่งคนไปดำเนินการให้เดี๋ยวนี้เลย!” เซียนเทพชราพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ หลังจากได้ยินสิ่งที่หวงตี้ของสวรรค์กล่าว...

     

    “เทียนจวิน (จอมเทพ) คนที่ห้าแห่งภพช่างเซี่ยรับบัญชาพะย่ะค่ะ” ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาในอาภรณ์สีฟ้าเหลือบขาวสบายตา พูดพร้อมกับโค้งตัวให้แผ่นพระราชโองการของเจ้าจักรวาล ชายเสื้อที่พลิ้วตามการเคลื่อนไหวให้ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า 

    เมื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเทพส่งสารที่อยู่ตรงหน้า เทียนจวินก็หันไปพยักพเยิดให้ร่างบางสมส่วนในอาภรณ์สีชมพูอมส้มของ ‘เถาเซียน’ (เทพธิดาท้อ) เดินเข้าไปหยิบของจากมือของผู้ส่งสาร โดยมีเทพอีกสององค์ยืนมองด้วยท่าทางสบายๆ

    “เช่นนั้นข้าพเจ้าขอตัวก่อน” ผู้ส่งสารกล่าวหลังการส่งมอบของเสร็จสิ้น ก่อนหายตัวไป

    “รุ่นเราต้องสนุกกว่ารุ่นก่อนๆ แน่” ‘เซินหลินเซียน’ (เทพพนาสัณฑ์) เจ้าของร่างแกร่งผิวสีน้ำผึ้งในอาภรณ์สีเขียวพูด ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มออกมา เมื่อจินตนาการถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ช่างคุ้มค่ากับการที่เขาผู้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุมาสมัครเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาสวรรค์เสียจริง

    “หึๆ ข้าพเจ้าล่ะอยากให้ถึงเวลานั้นเร็วๆ เสียจริง พวกเรารีบไปบอกเรื่องนี้แก่คนอื่นๆ ในสภาเถิด” จ้านเสิน (เทพสงคราม) ร่างยักษ์ผู้มีผิวสีดำแดงในชุดเกราะสีแดงเลือดหมูเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย

    ซึ่งความจริงแล้วพวกเขาหาได้ชื่อเทียนจวิน เถาเซียน เซินหลินเสิน จ้านเสินไม่ นี่เป็นเพียงตำแหน่งที่พวกเขาต้องใช้แทนตัวและทุกคนใช้เรียกยามอยู่ที่ยุทธภพช่างเซี่ยเท่านั้น ส่วนชื่อที่แท้จริงนั้นจะใช้เรียกกันยามอยู่นอกรอบหรือไม่ก็แล้วแต่ทวยเทพแต่ละองค์

    แต่ส่วนนั้นช่างมันก่อนเถิด! มาสนุกกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นดีกว่า!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×