คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Stop It chapter2 60per
3 วันต่อมา
ณ ห้องประชุม เวลา 10.00 น.
"ทุกคนคงรู้ใช่มั้ยว่าอีกสองวันข้างหน้าจะมีงานพิธีเปิดสำนักรัฐสภาแห่งใหม่ซึ่งในครั้งนี้ท่านนายกจะไปงานเปิดสำนักรัฐสภาแห่งนี้ด้วยตัวท่านเอง"ผมบอกกับเหล่าตำรวจหลายยศที่เข้าประชุมในครั้งนี้
"พวกเราทราบครับ/ค่ะ"เหล่าตำรวจยศต่างๆที่อยู่ในสถานที่ประชุมตอบกันอย่างพร้อมเพรียง
"และในงานวันนั้นทางสายสืบของเราได้สืบมาจนรู้ว่าอาจจะมีการลอบสังหารท่านนายกด้วย ดังนั้นในวันนี้ผมจึงเรียกเหล่าตำรวจทุกท่านเพื่อจะถามว่าใครต้องการจะทำภารกิจนี้บ้างซึ่งผมจะไม่บังคับแต่อย่างไร เพราะเราอาจจะต้องสละชีพเพื่อช่วยท่าน ดังนั้นใครไม่พร้อมจะทำภารกิจนี้เชิญเดินออกนอกห้องประชุมไปได้เลยครับ"หลังจากผมพูดจบก็มีตำรวจไม่น้อยเดินออกนอกห้องประชุมไปซึ่งผมทำใจเอาไว้แล้วบ้าง ฉะนั้นต่อให้ไม่เหลือใครเลยผมก็จะทำภารกิจคนเดียวจะปกป้องท่านด้วยกำลังของผมเอง แต่ยังโชคดีทีเหลือตำรวจอยู่ 5 นาย ซึ่งตำรวจเหล่านี้ก็เป็นแค่ตำรวจหน้าใหม่ที่มาประจำที่นี่ไม่ถึง1ปีด้วยซ้ำ
"พวกนายพร้อมตายใช่มั้ย"ผมลองถามหยั่งเชิง
"ไม่พร้อมครับ"ตำรวจ1ใน5ที่อยู่ทางด้านขวามือของผมตอบขึ้น
"ไม่พร้อมแล้วทำไมถึงลงภารกิจนี้ล่ะ ผมพูดไม่ชัดเหรอว่าเราอาจจะต้องสละชีพเพื่อท่าน"ผมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของตำรวจนายนี้ที่ซึ่งไม่มีความกลัวเลยซักนิด
"ก็สารวัตรบอกว่าอาจนี่ครับ ไม่ได้บอกว่าต้องตายซักหน่อย"เขาตอกหน้าผมได้เจ็บมาก
"โอเค นายยืนยันว่าจะทำภารกิจนี้ใช่มั้ย"ผมถามย้ำอีกครั้ง
"แน่นอนครับ"
"ดี งั้นผมรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ของทุกคนพร้อมชื่อเขียนต่อท้ายด้วยนะครับ"ผมหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะประชุมมาให้ตำรวจที่กำลังรออยู่ ผมยื่นกระดาษให้กับตำรวจที่ยืนอยู่ใกล้ผมมากที่สุด ซึ่งสูงกว่าผมนิดหน่อย แถมหน้ายังโคตรนิ่งอีกตั้งหาก เขารับกระดาษไปเขียนแล้วส่งต่อให้คนอื่นๆที่รออยู่
หลังจากเขียนเสร็จ ตำรวจนายสุดท้ายก็ยื่นกระดาษกลับมาให้ผม อืม ชื่อกอร์นงั้นเหรอ ชื่อแปลกดีแฮะ
"ผมไปได้รึยังครับ" ผมจ้องมองชื่อเขาอยู่นานจนกระทั่งเสียงเขาขัดขึ้นมา ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ทำให้ตาของเราสบกันอย่างบังเอิญ
"อะ โอเค ทุกคนไปได้แล้ว ถ้าผมมีอะไรก็จะโทรไปบอกแล้วกันนะ"ผมบอกตำรวจทุกนายให้ไปได้ ตำรวจทั้ง5นายทยอยกันออกนอกห้องไป
"บ้าเอ้ย ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน"ผมเอามือมาจับที่หัวใจของตัวเองแล้วบีบเบาๆ
"จะว่ารู้สึกดีก็ไม่ใช่ กลัวก็ไม่ใช่"ผมได้แต่ถามตัวเอง
ผมเก็บแฟ้มเอกสารของผมทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะประชุมแล้วแบกกลับห้องของตัวเอง ผมเดินมาถึงลิฟต์ที่ใช้สำหรับพนักงานแต่มันไม่สามารถเปิดได้ ไม่ใช่เพราะมันฟังแต่มันไม่มีมือจะกดต่างหาก
"ด้วยผมช่วยถือดีกว่า"ผมหันไปหาต้นเสียงแต่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรร่างสูงก็คว้าแฟ้มเอกสารไปถือซะแล้ว
"นาย"ผมเอ่ยออกมา
"ผมชื่อกอร์นครับไม่ใช่นาย"ร่างสูงหรือกอร์นตอบผม
"จริงๆนายไม่ต้องช่วยก็ได้นะ ผมถือเองได้"ผมบอกกับหมวดกอร์นที่ยืนอยู่ข้างๆผม
"ครับ ถือได้แต่กดลิฟต์ไม่ได้"ผมหันขวับไปมองหมวดที่กำลังจะทำให้ผมอารมณ์เสีย
"แล้วสารวัตรจะไปชั้นไหนครับ"หมวดกอร์นถามขึ้น
"3"ผมตอบแค่นั้น
"แค่ชั้นเดียวไม่เห็นต้องขึ้นลิฟต์เลยหนิ"หมวดกอร์นพูดขึ้นมา
"ก็ผมมีแฟ้มเอกสารหมวดไม่เห็นรึไง"ผมหันไปพูดกับหมวด ทำไมวันนี้มีแต่คนกวนบาทาผมทั้งนั้นเลย
"แต่ตอนนี้มันอยู่กับผมหนิครับ"หมวดกอร์นเถียงผม
"งั้นผมเดินขึ้นบันไดก็ได้ส่วนหมวดก็ขึ้นลิฟต์ไปแล้วเอาแฟ้มเอกสารไปให้ผมที่ห้องด้วยละกัน"ผมบอกปัดแล้วเดินไปขึ้นบันได
"ไอหมวดกวนส้นเท้า นิสัยนายมันไม่เหมาะกับหน้านายจริงๆเลยเหอะ"ผมบ่นแล้วเดินขึ้นบันได พอถึงชั้น 3
ก็เห็นหมวดกอร์นยืนอยู่หน้าห้องทำงานของผม
"ยังโอเหนิ ไม่เข้าห้องทำงานของฉันโดยพลการ"ผมเอ่ยชมหมวดกอร์นที่ยืนอยู่หน้าห้อง
หมวดกอร์นก้มหัวนิดๆ
"แล้วไหนล่ะ แฟ้มเอกสารของผม"ผมถามหาแฟ้มงานทั้งหมดของผม
"ในห้องครับ"หมวดกอร์นตอบหน้าตาย
เพล้ง! หน้าของแตกจนไม่เหลือชิ้นดี ผมไม่น่าชมมันเลยจริงๆ
"นายนี่มัน"ผมจะด่าหมวดกอร์นแต่นึกคำด่าไม่ออกจริงๆ
"ก็บผมบอกว่าชื่อกอร์นไงครับไม่ใช่นาย"หมวดกอร์นแก้ไขชื่อของตัวเอง
"โอเค หมวดจะไปไหนก็ไปเลย ก่อนที่ผมจะอารมณ์เสียไปมากกง่านี้"ผมไล่หมวดกอร์นที่ยืนทำหน้านิ่งใส่ผม อ้าก ผมอยากจะเตะไอหน้านิ่งๆนี่เหลือเกิน
หมวดกอร์นก้มหัวให้ผมเล็กน้อยแล้วเดินออกไป
ส่วนผมก็เอื้อมมือไปเปิดประตู
แกร๊ก!
"ล็อคเหรอ"ผมบ่น
แกร๊กๆ!
"ล็อคจริงๆด้วย แล้วไอหมวดหน้านิ่งมันเข้าไปยังไงของมันวะ"ผมถามตัวเอง
ผมใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจห้องขึ้นมาไข พอไขเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องก็พบเอกสารทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะทำงานของผม แล้วก็มีกระดาษใบหนึ่งสอดอยู่
"กระดาษอะไรวะ"ผมเดินไปหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน
'เย็นนี้ไปหากูที่ผับ xx ด้วย '
ฟิว
อ่อที่แท้ก็ไอฟิว นึกว่าเป็นหมวดหน้านิ่งนั่นซะอีก เอ๊ะ แล้วทำไมผมต้องคิอว่าเป็นเค้าด้วยล่ะ ท่าจะประสาทแล้วแฮะ ผมเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านไปเรื่อยๆ
ณ ห้องทำงานของสารวัตรกันต์ เวลา 18.00 น.
ตื่นได้แล้วครับ สารวัตรกันต์สุดหล่อๆๆๆ
ผมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับกดปิดนาฬิกาปลุก
"เฮ้อ!" ผมลุกขึ้นไปคว้าผ้าขนหนูแล้วเข้าไปในห้องน้ำ
20 นาที ต่อมา
ผมออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปส่องกระจก เสื้อยืดสีขาว ทับด้วยเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าใบสีดำและแว่นสีดำอีก1อัน
"นี่กูจะไปงานศพรึไงวะเนี่ย"ผมถามตัวเองในกระจก
"งั้นก็ไปเปลี่ยนสิ"เสียงที่ค่อนข้างแหลมตอบผมกลับ
"ไม่เอาอะ ขี้เกียจ"ผมตอบกลับแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซต์แล้วเดินออกมาจากห้องโดยที่ไม่ลืมล็อกห้อง ผมเดินลงมาจากห้องแล้วเดินไปที่จอดรถของผม ผมสวมหมวกแล้วขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซต์ก่อนจะสตาร์ทแล้วขี่ออกไป
ณ ผับ xx
ผมเดินเข้าไปในผับหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ผมยืนมองหาไอฟิวแต่ก็หาไม่เจอ
"ขอโทษนะครับ คุณใช่เพื่อนของฟิวรึเปล่าครับ"เสียงทุ้มเอ่ยผมจึงหันไปมอง
"ครับ"ผมตอบ
"เพื่อนคุณจองโต๊ะไว้ทางนี้ครับ"และแล้วเจ้าของเสียงทุ้มหรือบริกรที่นผับนี้ก็พาผมไปหาไอฟิว ผมเดินตามมาจนหยุดอยู่ที่โต๊ะๆนึงแต่ไม่เห็นจะมีใครเลยซักคน แม้แต่อะตอมซักตัวยังมองไม่เห็น (มันก็ต้องมองไม่เห็นอยู่แล้วสิยะ) ผมหันไปมองหน้าบริกร
"เค้าให้คุณนั่งรอก่อนนะครับ"บริกรบอก ส่วนผมก็นั่งลงไปพร้อมกับสั่งเครื่องดื่ม
"น้องเอาวอดก้าให้พี่ด้วย"ผมบอกบริกรคนเดิม
ไม่นานเครื่องดื่มก็มา ผมนั่งดื่มไปเงียบๆคนเดียว จนกระทั่ง
"ขอนั่งด้วยคนนะครับ"ผมเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่พูดกับผม
"เชิญ"ผมบอกแค่นั้น
และเขาก็นั่งลงใกล้ๆกับผม ใกล้จนจะสิงผมอยู่แล้วเนี่ย ที่มีตั้งเยอะไม่นั่งวะ
"คุณชื่ออะไรครับ"เขาถามผม
"แล้วคุณล่ะครับชื่ออะไร"ผมไม่ตอบแต่ถามคำถามกลับไป
"ฉลาดดีหนิครับ ผมชื่อเอก อายุ25ปีครับ ทีนี้บอกชื่อคุณได้รึยังครับ"ผมไม่ได้ถามอายุซักหน่อย บอกทำไมวะ
"กันต์"ผมบอกพร้อมขยับตัวออกจากผู้ชายที่ชื่อเอกเล็กน้อยไม่ได้รังเกียจแต่แค่อึดอัด
"แล้วทำไมนั่งแค่คนเดียวล่ะครับ"อยากสงสัยมากนักได้มั้ย
"รอเพื่อน"ผมตอบแล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อย
"ให้ผมรอเป็นเพื่อนมั้ย"เอกถามผม
"ไม่ต้อง"ผมตอบกลับด้วยความเร็วแสงยังแพ้ขาด
"ตรงดีนะครับ"
ผมไม่ตอบก่อนจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดแล้วเทเติมใหม่
“งั้นผมขอตัวนะครับ”เอกลุกขึ้น
ตึกๆๆ
มีบางอย่างหล่นมาจากกระเป๋าของมัน
“เก็บให้หน่อยได้มั้ยครับ”ดูท่าว่ามันจะไม่อยากไปอย่างที่ปากมันบอกเลยซักนิด แต่ผมก็ไม่คิดจะสนหรอก ผมก้มลงไปแล้วควานหาของที่ตกอยู่ใกล้ๆเท้าของผม เมื่อผมหาเจอก็ยื่นให้กับเอกที่ยืนรออยู่ ผมคิดว่าเมื่อเอกรับของแล้วจะไป แต่ก็คิดผิด เมื่อมันผลักตัวผมแล้วขึ้นคร่อมผมทันที มันจับคางของผมแล้วประกบจูบลงมาทันที
“อื้ออ”ผมร้องออกมาเมื่อปากที่สากยิ่งกว่าส้นตีนของผมพยายามจะรุกล้ำเข้ามาภายในปากของผมแต่เข้ามาไม่ได้ เพราะผมไม่มีทางให้มันเข้ามาได้แน่ๆ เมื่อไม่ได้ดั่งใจมันจึงถอนจูบออก
“ปากมึงนี่มันหวานได้ใจกูจริง”มันยิ้มแล้วบีบคางผมเบาๆ
“แต่ปากมึงมันสากยิ่งกว่าส้นตีนของกูอีก”ผมพูดพร้อมกับถ่มน้ำลายใส่หน้ามัน
“ปากดีนัก..”มันชะงักกึกเมื่อรู้ว่ามีของแข็งจ่ออยู่บริเวณท้องของมัน
“ลุกไป”ผมสั่งมัน
มันค่อยๆลึกขึ้นออกจากตัวผม ดีนะที่ผับนี้ค่อนข้างมืด ทุกคนที่ผ่านมาจึงมองไม่ค่อยเห็นปืนที่ผมกำลังถืออยู่
“ใจเย็นๆนะ คือกูไม่ได้ตั้งใจ”มันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเหนือหัว
“ใจเย็นกับแม่มึงสิ มึงไม่ได้จะโดนเอาเหมือนกูหนิ เลยพูดได้”ผมตะคอกใส่หน้ามันด้วยความโกรธ
“งั้นมึงก็เอากูสิ”หืม มึงนี่มัน ผมยกปืนจ่อหัวมัน
“เอากับปืนไปก่อนมั้ยหะ”ผมยื่นกระบอกปืนเข้าไปใกล้ๆมัน
“กูไม่เอามึงก็ได้แต่มึงต้องห้ามฆ่ากูนะ”มึงมีสิทธิ์ต่อรองได้ด้วยเหรอวะ"กูไม่ฆ่ามึงหรอก เสียดายลูกกระสุน แต่ตอนนี้มึงรีบออกไปไกลๆหน้ากูเลยก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจยิงมึงดีกว่า"ผมพูดแล้วถีบไปที่อกของมันด้วยแรงเต็มที่จนมันกระเด็นถอยหลังไป แล้วนั่งลงคว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกอีกแก้ว
"นี่มัน 3 ทุ่มแล้วนะ"ผมหยิบโทรศัพท์กดหาเบอร์มันแล้วโทรออกไป
"มึงอยู่ไหน"ผมยิงคำถามใส่มันทันทีหลังจากที่มันรับ
[อยู่บ้าน]มันตอบเสียงงัวเงีย
"แล้วมึงนัดกูมาที่ผับ xx ทำเหี้ยอะไร"ผมถามมัน
[ชิบ กูลืมเลยว่านัดมึงไว้ เดี๋ยวกูไป]มันพูดแล้วตัดสายทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
"หึ ให้มันได้อย่างนี้สิ"ผมบ่นแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อ
"ร้อน"ผมถอดเสื้อยีนส์ที่ใส่มาแล้ววางไว้ข้างๆตัว ตอนนี้ผมเหลือแค่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียว แต่มันก็ยังไม่ทำให้ผมหายร้อนได้
"แอร์ที่นี่เสียกระทันหันรึไงวะ ตอนแรกยังไม่ร้อนเลย"เสื้อของผมชุ่มเหงื่อไปหมด ตาก็เริ่มมัวขึ้นทีละนิด จนมองไม่ค่อยชัดแล้ว ผมคว้าเสื้อยีนส์ของผมแล้วรีบเดินออกไปจากผับนี้ ผมเดินเซไปเซมาจนต้องจับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาไปทั่ว แล้วไอตอนที่โดนตัวใครทำไมตัวผมมันถึงได้ร้อนเหมือนโดนไฟเผาเลย ผมพาตัวเองมาถึงรถมอเตอร์ไซต์ของผม ผมกระสับกระส่ายจนแม้แต่กุญแจรถยังใส่ไม่ตรงรูเลย ผมพยายามใส่อยู่นานจนกระทั่งมีมือปริศนาดึงมือผมให้ตามเขาไปจนกระทั่งถึงรถสปอร์ตคันนึง
"ปล่อยผม"ผมบอกด้วยเสียงแหบพร่าและพยายามสะบัดข้อมือจากผู้ชายนิรนามตรงหน้า
"เสียงคุณตอนนี้มันน่าเอาชะมัดเลย"เสียงนี้มันใครกันนะ เสียงมันคุ้นจนน่าแปลกใจ
"ปล่อยผม"ความรู้สึกตอนนี้มันทำให้ผมทำตามใจตัวเอง
ผมใช้แขนทั้งสองข้างโอบคอของร่างสูงลงมาแล้วประกบปากลงปนปากของร่างสูงทันที
"อือ~"ผมครางออกมาเมื่อคนตรงหน้าใช้ลิ้นสอดเข้าในโพรงปากของผม เขาใช้ลิ้นดูดดุนลิ้นของผมจนพอใจแล้วถอนจูบออกก่อนจะก้มลงไปไซร้คอของผม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
To.Reader ทุกท่าน
มาแค่นี้ก่อนนะ จริงๆฉากต่อไปมันรอพร้อมจะออกแต่ต้องขอกั๊กไว้ก่อนละกันนะ
ปล.หนาวแล้วอย่าลืมซื้อเสื้อกันหนาวมาใส่กันเยอะๆนะ จะได้ไม่เป็นหวัดนะ ระนะ จู๊บๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็น