ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stop It หยุดนะ ฉันไม่อยากฆ่านาย (Boy’s Love)

    ลำดับตอนที่ #3 : Stop It chapter2 60per

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 57





    3 วันต่อมา

    ณ ห้องประชุม เวลา 10.00 น.

    "ทุกคนคงรู้ใช่มั้ยว่าอีกสองวันข้างหน้าจะมีงานพิธีเปิดสำนักรัฐสภาแห่งใหม่ซึ่งในครั้งนี้ท่านนายกจะไปงานเปิดสำนักรัฐสภาแห่งนี้ด้วยตัวท่านเอง"ผมบอกกับเหล่าตำรวจหลายยศที่เข้าประชุมในครั้งนี้

    "พวกเราทราบครับ/ค่ะ"เหล่าตำรวจยศต่างๆที่อยู่ในสถานที่ประชุมตอบกันอย่างพร้อมเพรียง

    "และในงานวันนั้นทางสายสืบของเราได้สืบมาจนรู้ว่าอาจจะมีการลอบสังหารท่านนายกด้วย ดังนั้นในวันนี้ผมจึงเรียกเหล่าตำรวจทุกท่านเพื่อจะถามว่าใครต้องการจะทำภารกิจนี้บ้างซึ่งผมจะไม่บังคับแต่อย่างไร เพราะเราอาจจะต้องสละชีพเพื่อช่วยท่าน ดังนั้นใครไม่พร้อมจะทำภารกิจนี้เชิญเดินออกนอกห้องประชุมไปได้เลยครับ"หลังจากผมพูดจบก็มีตำรวจไม่น้อยเดินออกนอกห้องประชุมไปซึ่งผมทำใจเอาไว้แล้วบ้าง ฉะนั้นต่อให้ไม่เหลือใครเลยผมก็จะทำภารกิจคนเดียวจะปกป้องท่านด้วยกำลังของผมเอง แต่ยังโชคดีทีเหลือตำรวจอยู่ 5 นาย ซึ่งตำรวจเหล่านี้ก็เป็นแค่ตำรวจหน้าใหม่ที่มาประจำที่นี่ไม่ถึง1ปีด้วยซ้ำ

    "พวกนายพร้อมตายใช่มั้ย"ผมลองถามหยั่งเชิง

    "ไม่พร้อมครับ"ตำรวจ1ใน5ที่อยู่ทางด้านขวามือของผมตอบขึ้น

    "ไม่พร้อมแล้วทำไมถึงลงภารกิจนี้ล่ะ ผมพูดไม่ชัดเหรอว่าเราอาจจะต้องสละชีพเพื่อท่าน"ผมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของตำรวจนายนี้ที่ซึ่งไม่มีความกลัวเลยซักนิด

    "ก็สารวัตรบอกว่าอาจนี่ครับ ไม่ได้บอกว่าต้องตายซักหน่อย"เขาตอกหน้าผมได้เจ็บมาก

    "โอเค นายยืนยันว่าจะทำภารกิจนี้ใช่มั้ย"ผมถามย้ำอีกครั้ง

    "แน่นอนครับ"

    "ดี งั้นผมรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ของทุกคนพร้อมชื่อเขียนต่อท้ายด้วยนะครับ"ผมหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะประชุมมาให้ตำรวจที่กำลังรออยู่ ผมยื่นกระดาษให้กับตำรวจที่ยืนอยู่ใกล้ผมมากที่สุด ซึ่งสูงกว่าผมนิดหน่อย แถมหน้ายังโคตรนิ่งอีกตั้งหาก เขารับกระดาษไปเขียนแล้วส่งต่อให้คนอื่นๆที่รออยู่

    หลังจากเขียนเสร็จ ตำรวจนายสุดท้ายก็ยื่นกระดาษกลับมาให้ผม อืม ชื่อกอร์นงั้นเหรอ ชื่อแปลกดีแฮะ

    "ผมไปได้รึยังครับ" ผมจ้องมองชื่อเขาอยู่นานจนกระทั่งเสียงเขาขัดขึ้นมา ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ทำให้ตาของเราสบกันอย่างบังเอิญ

    "อะ โอเค ทุกคนไปได้แล้ว ถ้าผมมีอะไรก็จะโทรไปบอกแล้วกันนะ"ผมบอกตำรวจทุกนายให้ไปได้ ตำรวจทั้ง5นายทยอยกันออกนอกห้องไป

    "บ้าเอ้ย ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน"ผมเอามือมาจับที่หัวใจของตัวเองแล้วบีบเบาๆ

    "จะว่ารู้สึกดีก็ไม่ใช่ กลัวก็ไม่ใช่"ผมได้แต่ถามตัวเอง

    ผมเก็บแฟ้มเอกสารของผมทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะประชุมแล้วแบกกลับห้องของตัวเอง ผมเดินมาถึงลิฟต์ที่ใช้สำหรับพนักงานแต่มันไม่สามารถเปิดได้ ไม่ใช่เพราะมันฟังแต่มันไม่มีมือจะกดต่างหาก

    "ด้วยผมช่วยถือดีกว่า"ผมหันไปหาต้นเสียงแต่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรร่างสูงก็คว้าแฟ้มเอกสารไปถือซะแล้ว

    "นาย"ผมเอ่ยออกมา

    "ผมชื่อกอร์นครับไม่ใช่นาย"ร่างสูงหรือกอร์นตอบผม

    "จริงๆนายไม่ต้องช่วยก็ได้นะ ผมถือเองได้"ผมบอกกับหมวดกอร์นที่ยืนอยู่ข้างๆผม

    "ครับ ถือได้แต่กดลิฟต์ไม่ได้"ผมหันขวับไปมองหมวดที่กำลังจะทำให้ผมอารมณ์เสีย

     "แล้วสารวัตรจะไปชั้นไหนครับ"หมวดกอร์นถามขึ้น

    "3"ผมตอบแค่นั้น

    "แค่ชั้นเดียวไม่เห็นต้องขึ้นลิฟต์เลยหนิ"หมวดกอร์นพูดขึ้นมา

    "ก็ผมมีแฟ้มเอกสารหมวดไม่เห็นรึไง"ผมหันไปพูดกับหมวด ทำไมวันนี้มีแต่คนกวนบาทาผมทั้งนั้นเลย

    "แต่ตอนนี้มันอยู่กับผมหนิครับ"หมวดกอร์นเถียงผม

    "งั้นผมเดินขึ้นบันไดก็ได้ส่วนหมวดก็ขึ้นลิฟต์ไปแล้วเอาแฟ้มเอกสารไปให้ผมที่ห้องด้วยละกัน"ผมบอกปัดแล้วเดินไปขึ้นบันได

    "ไอหมวดกวนส้นเท้า นิสัยนายมันไม่เหมาะกับหน้านายจริงๆเลยเหอะ"ผมบ่นแล้วเดินขึ้นบันได พอถึงชั้น 3

    ก็เห็นหมวดกอร์นยืนอยู่หน้าห้องทำงานของผม

    "ยังโอเหนิ ไม่เข้าห้องทำงานของฉันโดยพลการ"ผมเอ่ยชมหมวดกอร์นที่ยืนอยู่หน้าห้อง

    หมวดกอร์นก้มหัวนิดๆ

    "แล้วไหนล่ะ แฟ้มเอกสารของผม"ผมถามหาแฟ้มงานทั้งหมดของผม

    "ในห้องครับ"หมวดกอร์นตอบหน้าตาย

    เพล้ง! หน้าของแตกจนไม่เหลือชิ้นดี ผมไม่น่าชมมันเลยจริงๆ

    "นายนี่มัน"ผมจะด่าหมวดกอร์นแต่นึกคำด่าไม่ออกจริงๆ

    "ก็บผมบอกว่าชื่อกอร์นไงครับไม่ใช่นาย"หมวดกอร์นแก้ไขชื่อของตัวเอง

    "โอเค หมวดจะไปไหนก็ไปเลย ก่อนที่ผมจะอารมณ์เสียไปมากกง่านี้"ผมไล่หมวดกอร์นที่ยืนทำหน้านิ่งใส่ผม อ้าก ผมอยากจะเตะไอหน้านิ่งๆนี่เหลือเกิน

    หมวดกอร์นก้มหัวให้ผมเล็กน้อยแล้วเดินออกไป

    ส่วนผมก็เอื้อมมือไปเปิดประตู

    แกร๊ก!

    "ล็อคเหรอ"ผมบ่น

    แกร๊กๆ!

    "ล็อคจริงๆด้วย แล้วไอหมวดหน้านิ่งมันเข้าไปยังไงของมันวะ"ผมถามตัวเอง

    ผมใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจห้องขึ้นมาไข พอไขเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องก็พบเอกสารทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะทำงานของผม แล้วก็มีกระดาษใบหนึ่งสอดอยู่

    "กระดาษอะไรวะ"ผมเดินไปหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน

    'เย็นนี้ไปหากูที่ผับ xx ด้วย '

                                                      ฟิว

    อ่อที่แท้ก็ไอฟิว นึกว่าเป็นหมวดหน้านิ่งนั่นซะอีก เอ๊ะ แล้วทำไมผมต้องคิอว่าเป็นเค้าด้วยล่ะ ท่าจะประสาทแล้วแฮะ ผมเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านไปเรื่อยๆ

    ณ ห้องทำงานของสารวัตรกันต์ เวลา 18.00 น.

    ตื่นได้แล้วครับ สารวัตรกันต์สุดหล่อๆๆๆ

    ผมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับกดปิดนาฬิกาปลุก

    "เฮ้อ!" ผมลุกขึ้นไปคว้าผ้าขนหนูแล้วเข้าไปในห้องน้ำ

    20 นาที ต่อมา

    ผมออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปส่องกระจก เสื้อยืดสีขาว ทับด้วยเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าใบสีดำและแว่นสีดำอีก1อัน

    "นี่กูจะไปงานศพรึไงวะเนี่ย"ผมถามตัวเองในกระจก

     "งั้นก็ไปเปลี่ยนสิ"เสียงที่ค่อนข้างแหลมตอบผมกลับ

    "ไม่เอาอะ ขี้เกียจ"ผมตอบกลับแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซต์แล้วเดินออกมาจากห้องโดยที่ไม่ลืมล็อกห้อง ผมเดินลงมาจากห้องแล้วเดินไปที่จอดรถของผม ผมสวมหมวกแล้วขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซต์ก่อนจะสตาร์ทแล้วขี่ออกไป

    ณ ผับ xx

    ผมเดินเข้าไปในผับหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ผมยืนมองหาไอฟิวแต่ก็หาไม่เจอ

    "ขอโทษนะครับ คุณใช่เพื่อนของฟิวรึเปล่าครับ"เสียงทุ้มเอ่ยผมจึงหันไปมอง

    "ครับ"ผมตอบ

    "เพื่อนคุณจองโต๊ะไว้ทางนี้ครับ"และแล้วเจ้าของเสียงทุ้มหรือบริกรที่นผับนี้ก็พาผมไปหาไอฟิว ผมเดินตามมาจนหยุดอยู่ที่โต๊ะๆนึงแต่ไม่เห็นจะมีใครเลยซักคน แม้แต่อะตอมซักตัวยังมองไม่เห็น (มันก็ต้องมองไม่เห็นอยู่แล้วสิยะ) ผมหันไปมองหน้าบริกร

    "เค้าให้คุณนั่งรอก่อนนะครับ"บริกรบอก ส่วนผมก็นั่งลงไปพร้อมกับสั่งเครื่องดื่ม

    "น้องเอาวอดก้าให้พี่ด้วย"ผมบอกบริกรคนเดิม

    ไม่นานเครื่องดื่มก็มา ผมนั่งดื่มไปเงียบๆคนเดียว จนกระทั่ง

    "ขอนั่งด้วยคนนะครับ"ผมเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่พูดกับผม

    "เชิญ"ผมบอกแค่นั้น

    และเขาก็นั่งลงใกล้ๆกับผม ใกล้จนจะสิงผมอยู่แล้วเนี่ย ที่มีตั้งเยอะไม่นั่งวะ

    "คุณชื่ออะไรครับ"เขาถามผม

    "แล้วคุณล่ะครับชื่ออะไร"ผมไม่ตอบแต่ถามคำถามกลับไป

    "ฉลาดดีหนิครับ ผมชื่อเอก อายุ25ปีครับ ทีนี้บอกชื่อคุณได้รึยังครับ"ผมไม่ได้ถามอายุซักหน่อย บอกทำไมวะ

    "กันต์"ผมบอกพร้อมขยับตัวออกจากผู้ชายที่ชื่อเอกเล็กน้อยไม่ได้รังเกียจแต่แค่อึดอัด

    "แล้วทำไมนั่งแค่คนเดียวล่ะครับ"อยากสงสัยมากนักได้มั้ย

    "รอเพื่อน"ผมตอบแล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อย

    "ให้ผมรอเป็นเพื่อนมั้ย"เอกถามผม

    "ไม่ต้อง"ผมตอบกลับด้วยความเร็วแสงยังแพ้ขาด

    "ตรงดีนะครับ"

    ผมไม่ตอบก่อนจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดแล้วเทเติมใหม่

    งั้นผมขอตัวนะครับเอกลุกขึ้น

    ตึกๆๆ

    มีบางอย่างหล่นมาจากกระเป๋าของมัน

    เก็บให้หน่อยได้มั้ยครับดูท่าว่ามันจะไม่อยากไปอย่างที่ปากมันบอกเลยซักนิด แต่ผมก็ไม่คิดจะสนหรอก ผมก้มลงไปแล้วควานหาของที่ตกอยู่ใกล้ๆเท้าของผม เมื่อผมหาเจอก็ยื่นให้กับเอกที่ยืนรออยู่ ผมคิดว่าเมื่อเอกรับของแล้วจะไป แต่ก็คิดผิด เมื่อมันผลักตัวผมแล้วขึ้นคร่อมผมทันที มันจับคางของผมแล้วประกบจูบลงมาทันที

    อื้ออผมร้องออกมาเมื่อปากที่สากยิ่งกว่าส้นตีนของผมพยายามจะรุกล้ำเข้ามาภายในปากของผมแต่เข้ามาไม่ได้ เพราะผมไม่มีทางให้มันเข้ามาได้แน่ๆ เมื่อไม่ได้ดั่งใจมันจึงถอนจูบออก

    ปากมึงนี่มันหวานได้ใจกูจริงมันยิ้มแล้วบีบคางผมเบาๆ

    แต่ปากมึงมันสากยิ่งกว่าส้นตีนของกูอีกผมพูดพร้อมกับถ่มน้ำลายใส่หน้ามัน

    ปากดีนัก..มันชะงักกึกเมื่อรู้ว่ามีของแข็งจ่ออยู่บริเวณท้องของมัน

    ลุกไปผมสั่งมัน

    มันค่อยๆลึกขึ้นออกจากตัวผม ดีนะที่ผับนี้ค่อนข้างมืด ทุกคนที่ผ่านมาจึงมองไม่ค่อยเห็นปืนที่ผมกำลังถืออยู่

    ใจเย็นๆนะ คือกูไม่ได้ตั้งใจมันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเหนือหัว

    ใจเย็นกับแม่มึงสิ มึงไม่ได้จะโดนเอาเหมือนกูหนิ เลยพูดได้ผมตะคอกใส่หน้ามันด้วยความโกรธ

    งั้นมึงก็เอากูสิหืม มึงนี่มัน ผมยกปืนจ่อหัวมัน

    เอากับปืนไปก่อนมั้ยหะผมยื่นกระบอกปืนเข้าไปใกล้ๆมัน

    กูไม่เอามึงก็ได้แต่มึงต้องห้ามฆ่ากูนะมึงมีสิทธิ์ต่อรองได้ด้วยเหรอวะ"กูไม่ฆ่ามึงหรอก เสียดายลูกกระสุน แต่ตอนนี้มึงรีบออกไปไกลๆหน้ากูเลยก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจยิงมึงดีกว่า"ผมพูดแล้วถีบไปที่อกของมันด้วยแรงเต็มที่จนมันกระเด็นถอยหลังไป แล้วนั่งลงคว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกอีกแก้ว

    "นี่มัน 3 ทุ่มแล้วนะ"ผมหยิบโทรศัพท์กดหาเบอร์มันแล้วโทรออกไป

    "มึงอยู่ไหน"ผมยิงคำถามใส่มันทันทีหลังจากที่มันรับ

    [อยู่บ้าน]มันตอบเสียงงัวเงีย

    "แล้วมึงนัดกูมาที่ผับ xx ทำเหี้ยอะไร"ผมถามมัน

    [ชิบ กูลืมเลยว่านัดมึงไว้ เดี๋ยวกูไป]มันพูดแล้วตัดสายทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

    "หึ ให้มันได้อย่างนี้สิ"ผมบ่นแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อ

    "ร้อน"ผมถอดเสื้อยีนส์ที่ใส่มาแล้ววางไว้ข้างๆตัว ตอนนี้ผมเหลือแค่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียว แต่มันก็ยังไม่ทำให้ผมหายร้อนได้

    "แอร์ที่นี่เสียกระทันหันรึไงวะ ตอนแรกยังไม่ร้อนเลย"เสื้อของผมชุ่มเหงื่อไปหมด ตาก็เริ่มมัวขึ้นทีละนิด จนมองไม่ค่อยชัดแล้ว ผมคว้าเสื้อยีนส์ของผมแล้วรีบเดินออกไปจากผับนี้ ผมเดินเซไปเซมาจนต้องจับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาไปทั่ว แล้วไอตอนที่โดนตัวใครทำไมตัวผมมันถึงได้ร้อนเหมือนโดนไฟเผาเลย ผมพาตัวเองมาถึงรถมอเตอร์ไซต์ของผม ผมกระสับกระส่ายจนแม้แต่กุญแจรถยังใส่ไม่ตรงรูเลย ผมพยายามใส่อยู่นานจนกระทั่งมีมือปริศนาดึงมือผมให้ตามเขาไปจนกระทั่งถึงรถสปอร์ตคันนึง

    "ปล่อยผม"ผมบอกด้วยเสียงแหบพร่าและพยายามสะบัดข้อมือจากผู้ชายนิรนามตรงหน้า

    "เสียงคุณตอนนี้มันน่าเอาชะมัดเลย"เสียงนี้มันใครกันนะ เสียงมันคุ้นจนน่าแปลกใจ

    "ปล่อยผม"ความรู้สึกตอนนี้มันทำให้ผมทำตามใจตัวเอง

    ผมใช้แขนทั้งสองข้างโอบคอของร่างสูงลงมาแล้วประกบปากลงปนปากของร่างสูงทันที

    "อือ~"ผมครางออกมาเมื่อคนตรงหน้าใช้ลิ้นสอดเข้าในโพรงปากของผม เขาใช้ลิ้นดูดดุนลิ้นของผมจนพอใจแล้วถอนจูบออกก่อนจะก้มลงไปไซร้คอของผม

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 

    To.Reader ทุกท่าน

    มาแค่นี้ก่อนนะ จริงๆฉากต่อไปมันรอพร้อมจะออกแต่ต้องขอกั๊กไว้ก่อนละกันนะ

    ปล.หนาวแล้วอย่าลืมซื้อเสื้อกันหนาวมาใส่กันเยอะๆนะ จะได้ไม่เป็นหวัดนะ ระนะ จู๊บๆๆๆๆๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×