ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stop It หยุดนะ ฉันไม่อยากฆ่านาย (Boy’s Love)

    ลำดับตอนที่ #2 : Stop It chapter1

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 57


    chapter1



     

    ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ซอยเล็กๆที่เต็มไปด้วยกำแพงที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่ ใจจริงผมก็ไม่อยากจะมาหรอก ถ้ามันไม่ใช่หน้าที่ของผม ผมเดินเข้าไปใกล้ร่างของผู้ตายที่ถ้าใครไม่เคยเห็นคงต้องวิ่งไปอ้วกแถวๆนี้ก็ได้ แต่ผมคงชินแล้วล่ะ เพราะเคยเกินเหตุแบบนี้มาค่อนข้างหลายคดี

    "สารวัตกันต์ครับ" เสียงตำรวจนายหนึ่งเรียกผม

    "มีอะไร"ผมถามในขณะที่ผมกำลังสำรวจร่างของผู้ตายรายหนึ่งที่ถูกยิงที่ขาทั้ง2ข้างและในโพรงปากปากด้วยปืนอย่างละ1นัด ส่วนข้อมือถูกตัดแต่ไม่ขาดเหลือเพียงเส้นเอ็นที่เชื่อมอยู่กับมือแค่นั้น โดยอาวุธที่น่าจะใช้ตัดก็น่าจะเป็นมีดของผู้ตายเอง เพราะมีคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งผมได้บอกให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วและก็ตรงกับผู้ตายพอดี โดยมีดนั้นตกอยู่ใกล้ๆร่างของผู้ตาย

    "สันนิษฐานเวลาการตายคือเวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งของคืนที่ผ่านมาครับ"ตำรวจซึ่งมียศเป็นจ่าบอกผม

    "แล้วเก็บหลักฐานอะได้เพิ่มเติมหรือเปล่า"ผมถามเสียงเครียด เพราะที่ผ่านๆมาเจอกี่ศพ ก็แทบจะไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะสามารถโยงไปถึงคนฆ่าได้เลยซักนิด

    "เราไม่พบหลักฐานอะไรเพิ่มเติมเลยครับ"จ่ารายงานผม

    "แล้วบริเวณรอบๆล่ะ ปลอกกระสุนปืนพบรึเปล่า"ผมถาม

    "ไม่พบเลยครับ"จ่ารายงานด้วนน้ำเสียงที่ค่อนข้างเบา

    "งั้นจ่าไปทำงานต่อเถอะ"ผมบอกอย่างสะกดกลั้นอารมณ์

    "ครับ"จ่าก้มหัวให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินออกไป

    "โธ่เว่ย!"ผมปาแฟ้มคดีลงพื้น ก่อนจะระบายความโกรธกับกำแพงที่อยู่ใกล้ๆ

    พลั่ก!!

    พลั่ก!!

    ผมกระหน่ำหมัดเข้ากับกำแพงที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อระบายความโกรธที่สุมอยู่ในอกของผม มันทำแบบนี้เพราะอะไร ฆ่าคนเพื่ออะไร ผมกระหน่ำต่อยไปเรื่อยๆจนกระทั่งมีมือที่ใหญ่หว่าผมนิดหน่อยมาคว้าแขนของผมไว้

    "ปล่อยกู"ผมพยายามสะบัดมือที่โดนพันธนาการอยู่ แต่ก็ไม่หลุด

    "ถึงมึงต่อยจนกำแพงถล่ม แต่มึงก็ไม่สามารถจับคนร้ายได้หรอกนะ"เสียงทุ้มเอ่ยปรามผม

    "เออ กูเลิกต่อยก็ได้ ทีนี้ก็ได้เวลาที่มึงควรจะปล่อยกูได้ละ ไอฟิว"ผมบอกกับเพื่อนของผมที่จับแขนของผมซะแน่นเลย

    "ถ้ากูไม่ห่วงกูคงไม่มาห้ามมึงหรอก"มันปล่อยแขนของผม แล้วก้มลงเก็บแฟ้มคดีของผมก่อนจะโยนมาให้ผม

    "ขอบใจ"ผมรับแฟ้มคดี ก่อนจะเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของผม

    "เดี๋ยว ไอกันต์"ไอฟิวเรียกผม

    "อะไร"ผมถามในขณะที่เอาแฟ้มคดีใส่กระเป๋าเป้ใบโปรดของผม

    "มึงจะไปไหน"มันถาม

    "กลับไปเคลียร์งานที่กรมตำรวจทำไม"ผมบอกก่อนจะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์

    "กูมีเรื่องจะคุยกับมึง แต่เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูเข้าไปคุยกับมึงในกรมก็แล้วกัน"มันบอกแค่นั้น ก่อนจะเดินหายไป ส่วนผมก็สวมหมวก สตาร์ทรถ ก่อนจะขี่ออกไป

    หลังจากที่ผมขี่ออกมาได้ซักพัก ท้องของผมก็เริ่มร้องเป็นจังหวะเพลงGee ทำให้ผมต้องแวะหาอะไรกินที่7-11ก่อน ผมขี่รถเข้ามาจอดในที่สำหรับจอด ก่อนจะเดินเข้าไป

    "7-11 ยินดีต้อนรับค่ะ"เสียงพนักงานพูดขณะที่ผมเดินเข้าไปข้างใน ผมเดินไปหยิบตะกร้า แล้วเดินมาเลือกของที่ต้องการจะกิน ผมเดินไปหยิบ ขนมปัง แยมส้ม น้ำแดง 2 ขวด เบียร์อีก 5 กระป๋อง ไอศครีมและถุงเท้าที่อยู่ชั้นล่าง

    "โอ้ย"หัวของผมกระแทกเข้ากับหัวของผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านบนอย่างเต็มแรงส่งผลให้ผมและใครอีกคนล้มกันไปคนละทาง ผมรู้สึกมึนนิดๆแต่ยังพอไหว ผมเลยพยายามลุกขึ้นยืน แต่พอยืนเท่านั้นแหละ ผมก็เริ่มทรงตัวไม่อยู่ในที่สุดผมก็ล้มลงแต่ก็ยังไม่โชคร้ายเท่าไหร่เพราะมีวงแขนที่ค่อนข้างแข็งแรงโอบเอวของผมเอาไว้นั่นทำให้ผมไม่ล้มลงไปนอนกับพื้น ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นเท่านั้นแหละ ผมถึงกับอึ้งเพราะหน้าของเราทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นของน้ำหอมของคนตรงหน้าที่มันค่อนข้างดึงดูดใจสุดๆไปเลย

    เหมือนคนตรงหน้าจะรู้สึกก่อนเลยปล่อยแขนที่โอบเอวของผมอยู่ ซึ่งตอนนี้สติของผมได้กลับเข้าสู่ตัวผมครบหมดแล้ว

    "ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม"ผมกล่าวขอบคุณคนตรงหน้า

    "อืม"เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์

    ส่วนผมก็เดินไปที่เคาน์เตอร์เพราะเลือกของเสร็จแล้ว ผมเดินไปต่อช่องข้างหลังเขา ผมมองรูปร่างของเขาที่สูงโปร่ง ผอมนิดๆ ผมสีดำสนิทๆที่ยาวลงมาถึงบริเวณท้ายทอย แล้วชุดที่เขาใส่ก็เป็นสูทสีเขียว กางเกงสีเทา รวมแล้วโคตรดูดีอะ

    "จะจ้องอีกนานมั้ย"เขาถามขึ้นลอยๆ

    "ขะ ขอโทษครับ"ผมเอ่ยออกไป ทั้งๆที่เขาไม่ได้ระบุชื่อด้วยซ้ำว่าใคร แต่เสียงที่เค้าพูดมันเยือกเย็นจนผมที่ได้ยินยังแอบกลัวเลย

    เขาจ่ายเงินแล้วหิ้วของออกนอก 7-11 ไป ส่วนผมก็จ่ายเงินแล้วก็เดินกลับไปที่มอเตอร์ไซค์ของผม ผมนั่งลงไปที่เบาะของรถแล้วรื้อหาไอศกรีม ผมนั่งกินไปจนกระทั่งมีผ้าเช็ดหน้าสีดำยื่นมาตรงหน้าของผม ผมเงยหน้าขึ้นมามอง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนตรงหน้าจับคางของผมก่อนจะค่อยๆเช็ดคราบไอศกรีมที่เลอะอยู่ที่ปากของผมจนหมด แล้วปล่อยคางของผมก่อนจะยิ้มนิดๆ

    "กินเหมือนเด็กอนุบาลเลยนะ"เขาบอก

    "ขอบคุณครับ"ผมยิ้มตอบนิดๆพอเป็นมารยาท แต่ให้ตายเถอะตอนนี้หัวใจผมเต้นแรงมากยังกับพึ่งออกกำลังกายมา แค่คนตรงหน้ายิ้มแค่นิดเดียวทำไมมันดูดีนักนะ เขาวางผ้าเช็ดหน้ามันเบาะรถแล้วหันหลังกลับ

    "เดี๋ยว"ผมเรียกเขาไว้ เขาเพียงแค่หันหลังกลับมา

    "คุณชื่ออะไร"ผมถามเขา

    "ผมชื่อ คีร์ แล้วอีกอย่างที่ผมจะบอกคุณก็คือ ผมจะฆ่าคุณ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ด้วยเสน่ห์ของผม"คนตรงหน้าหรือคีร์บอกแค่นั้นก่อนจะเดินจากไป ส่วนผมนะเหรอบอกเลยว่าโคตรของโคตรอึ้งอะ

    "คนบ้ารึเปล่าวะ แต่แต่งตัวดีขนาดนี้คงจะไม่บ้าหรอกมั้ง แต่เรานี่สงสัยจะบ้า แค่บอกแค่นี้ทำไมหัวใจมันเต้นแรงจังวะ"ผมได้แต่ถามตัวเอง

    ตี๊ดๆๆๆ

    เสียงโทรศัพท์ของผมส่งเสียงร้องขึ้นมา ผมรีบหยิบขึ้นมาดูทันที

    อ่อ ไอฟิวผมพึมพำ

    ว่าไงเพื่อนรักผม

    มึงอยู่ไหน ไหนบอกจะรีบกลับมาเคลียร์งานที่กรม แล้วมึงอยู่หนายยยยยยยมันตะโกนใส่หูผมจนต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกให้ห่างจากหู

    กูอยู่7-11อยากกินอะไรรึเปล่าผมถามมัน โดยไม่สนใจสิ่งที่มันกำลังโวยวายอยู่

    ไม่กินเว่ย จะแฮม ฮอตดอก ไส้กรอกชีท ไข่ลวก ไข่ต้ม มะยมตากแอร์ พะแนง แกงราดข้าว ปลาปักเป้าย่าง ปลาวาฬปิ้งหรืออะไรก็ไม่กินเว่ย สิ่งที่กูต้องการตอนนี้คือต้องการให้มึงกลับมาที่กรมแล้วเข้ามาหากูที่ห้อง กูต้องการคำปรึกษา ได้ยินที่กูพูดม้ายยยยยยมันตะโกนใส่โทรศัพท์อยู่เรื่อยๆแต่ใครจะสน ผมนั่งกินน้ำแดงตั้งแต่ตอนที่มันพูดแฮมและ เงียบแล้วแฮะ

    เดี๋ยวกูจะรีบกินนะ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันผมบอก

    กูให้แค่10นาทีๆเท่านั้น ไม่งั้นกูฟ้องผบ.แน่มันพูดกับผมแต่เบาเสียงลงมานิดนึง เอออย่างนี้ค่อยน่าคุยหน่อย

    อัวอายแอะ”(กลัวตายแหละ)ผมบอกทั้งที่ในปากยังกลืนน้ำแดงไม่หมด

    ก็มึงเป็นลูกผบ.หนิจะกลัวทำไม

    ก็ใช่ ฉะนั้นอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันผมบอกก่อนจะชิงตัดสายก่อนแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงที่เดิม

    ผมหยิบหมวกขึ้นมาสวมแล้วสตาร์ทรถก่อนจะขี่เพื่อกลับกรมจริงๆ

     

    ณ กรมตำรวจ เวลา 15.00 น.

    ผมขี่รถเข้าไปจอดในที่สำหรับเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ ผมจอดรถ ถอดหมวกเสร็จ ก็เดินเข้าไปในกรม แล้วมุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของผมเองโดยที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยถุงขนมที่สามารถพาคนมากินได้ไม่ต่ำกว่า10คน ระหว่างที่ผมเดินเข้ามาก็มีตำรวจหลายนายเข้ามาทำความเคารพผมแต่ไม่มีใครซักคนที่จะเข้ามาช่าวยผมถือเลย เดี๋ยวก็สั่งวิ่งรอบกรมซะเลยหนิ ผมเดินมาถึงห้องของตัวเอง แต่ด้วยความที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยถุงขนม

    ไม่น่าซื้อมาเยอะเลยแฮะผมบ่น แล้วใช้หลังดันประตูให้เปิดเข้าไปข้างใน

    ปึง!

    ปึง!

    ผมเบี่ยงตัวหลบแฟ้มเอกสารที่ลอยมาหาผมโดยตรง ซึ่งคนทำเป็นใครไม่ได้นอกจากไอคนที่โทรเร่งผมให้รีบกลับมาที่กรม

    ปาแล้วก็มาเก็บด้วยผมบอกมันก่อนจะเดินเอาของที่ซื้อมาไปเก็บใส่ตู้เย็น

    ชิ มาช้าแล้วไม่สำนึกมันด่าลอยๆ

    ก็3โมงไม่ใช่รึไงผมบอกก่อนจะเงยหน้ามองไปที่นาฬิกา ตอนนี้พึ่ง 2โมงครึ่งเองด้วยซ้ำ

    นาฬิกามันตายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มึงจำไม่ได้รึไงมันมองค้อนผม นี่มึงผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่วะ

    เออวะผมระลึกความทรงจำซักพัก ก่อนจะร้องอ๋อ แล้วเอาของใส่ตู้เย็นต่อจนเสร็จ แล้วลุกไปนั่งที่โต๊ะทำงานซึ่งตอนนี้ไอฟิวได้เนรเทศตัวเองไปนั่งที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว

    ไหนลองบอกเรื่องที่คุณฟิวต้องการปรึกษาสารวัตรผูมีชื่อเสียงอันลือกระฉ่อนอย่างสารวัตรกันต์มาซิผมนั่งลงกับเก้าอี้แล้ววางมือบนโต๊ะก่อนจะถามไอฟิว

    เดี๋ยวกูถีบมันยกบาทาขึ้นมาเสมอระดับสายตาของผม

    ใจเย็นเพื่อน มีเรื่องอะไรก็พูดมาสิผมถามมันอีกครั้ง

    เรื่องคดีฆาตรกรรมที่มึงไปลงพื้นที่มาวันนี้มันเข้าสู่หมวดเครียดทันทีและไม่ใช่มันคนเดียวผมก็เครียดตามมันไปด้วย

    มึงรู้อะไรมาผมถามมัน

    ก็เรื่องเสื้อของเหยื่อน่ะมันบอกพร้อมกับยิ้มนิดๆ

    เสื้อของเหยื่อมันทำไมล่ะ บอกมาทีเดียวไม่ได้รึไง ออกมาทีละนิดเหมือนขี้อยู่ได้ผมชักอยากจะง้างปากมันแล้วนะ แล้วไอที่ยิ้มกรุ่มกริ่มที่มันอะไรอีกล่ะ

    กูจะบอกว่าเสื้อของเหยื่อวันนี้สวยดี พาไปซื้อหน่อยมันยิ้มแก้มปริ

    ฮะผมหูฝาดใช่มั้ย ใครก็ได้ตอบผมที

    มึงได้ยินไม่ผิดหรอกมันบอกกับผมเหมือนกับจะย้ำว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง

    ไอเชี่ยฟิว กูจะฆ่ามึงผมปาทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะใส่ไอฟิวทุกอย่างมีอย่างที่ไหน บอกผมให้รีบกลับมาที่กรม เพื่อฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้

    มึงใจเย็นๆมันบอกผม ในเวลาเดียวกันก็หลบของที่ผมบรรจงข้างอย่างไม่ออมแรง

    มึงจะให้กูใจเย็นยังไง กูรีบกลับมาเพราะกลัวมึงมีเรื่องไม่สบายใจ แต่เรื่องที่มึงบอกกู มันทำให้กูรู้สึกว่าการมีคนอย่างมึงก็แสดงว่ามันมีผู้ชายที่สามารถท้องได้เลยวะผมหยุดปาแล้วนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดแรง

    ยังไงวะมันโผล่หัวออกมาจากหลังโซฟา

    มึงมันไม่เหมือนใครไงผมยิ้ม เฮ้อให้ตายเถอะผมคบมันมาได้ยังไงวะเนี่ย

    ดีใช่มั้ยล่ะมันยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

    คงงั้นมั้งผมบอกมัน

    ไอฟิวเดินเข้ามาหาผมแล้วกระซอบบางอย่างกับผม

    เย็นนี้มึงต้องไปกับกูนะมันบอกผม

    จุ๊บ

    มันจุ๊บแก้มซ้ายของผมแล้วรีบวิ่งหนีออกนอกห้องไปอย่างรวดเร็ว

    ไอเชี่ยฟีวววววววววววววววผมตะโกนไล่หลังมันไปพร้อมกับร้องเท้าหนึ่งข้าง

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 

    To. Reader

    สวัสดีรีดเดอร์ทุกท่านนะคะ ไรต์มาต่อให้หลังจากหายไปหนึ่งอาทิตย์แหะๆ

    เรื่องนี้พึ่งออกมาได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยมีรีดเดอร์เข้ามาอ่านเท่าไหร่ แต่ไรต์ไม่ค่อยสนใจหรอกค่ะ ไรต์จะพยายามลงสำหรับรีดเดอร์ที่อ่านเนอะ ช่วงนี้หนาวแล้ว ห่มผ้าตอนนอนด้วยนะคะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×