ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EVOL รักสายมรณะ

    ลำดับตอนที่ #6 : บันทึกที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 55


     ...

    เช้าวันต่อมา.........

                ผมแทบอยากจะคลานมาโรงเรียน ผมนอนไม่พอ ว่าผมจะหลับก็ตี 2 ไหนจะตื่นอีก 6 โมง วันนั้นเป็นวันที่ผมซีดเซียวสุดๆ ผมเดินหาวตลอดทางเหมือนคนติดยา เปลือกตาผมค่อยๆ ปิด...แล้วผมก็ต้องสะดุ้งอยู่เรื่อย ผมเป็นแบบนั้นตลอดทางการเดินเท้ามายังโรงเรียน.... ผมเกือบเดินตกท่อ...

    ผมมาถึงห้องเรียนผมนั้งลงไปกับโต๊ะ แล้วฟุบลง โดยไม่สนใจคำถามใดๆ จากเพื่อนของผม ผมหลับเป็นตาย จนกระทั่งเข้าเรียนคาบแรก ...

    ผมเมื่อยสุดๆ และผมขี้เกียจมากๆ แต่เมื่ออาจารย์เช็คชื่อ ก็มีสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผมตื่น... 

    “ฮานะบิระ โยชิมิ... ไม่มางั้นหรือ?” อาจารย์เอ่ยชื่อของเธอ แล้วผม ก็หันไปมองข้าง ...

    เธอไม่มาโรงเรียน ทำไมกัน? หรือเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนหรือเปล่า? ผมไม่ดีใจเลยที่เธอไม่มา ผมกลับเป็นห่วงว่าเธอเป็นอะไรมากกว่า....

    ...ตกเย็น ผมก็ยังทำตัวเรื่อยเปื่อย วาดรูปเล่นๆ พลางๆ แต่ก็..เป็นห้วงโยชิมิอยู่ดี ผมถามเพื่อนๆ ในห้องว่า เธอมีเบอร์โทรศัพน์มั้ย? บ้างเฮอยู่ไหน? วันนี้เธอเป็นอะไร? ไม่มีใครรู้เลยซักคน เธอเหมือนคนที่โดดเดี่ยว อยู่ตัวคนเดียว...

    ระหว่างทางกลับบ้าน ผมจึงเดินเล่นๆ ไปเผื่อจะเจอเธอที่ไหนบ้าง..

    และสิ่งที่ผมคิด ก็เป็นความจริง ผมเห็นเธอนั่งกอดเข่าอยู่ที่สวนสาธารณะ เหมือนเธอกำลังร้องไห้ เธอยังใส่เครื่องแบบนักเรียนอยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปหาเธอทันที..

    เธอสะดุ้ง มองหน้าผม น้ำตาไหลอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง เธอกำลังลุกหนีผม ผมดึงแขนรั้งเธอไว้ แล้วผมก็ถามเธอว่า เธอเป็นอะไร ทำไมไม่ไปโรงเรียน?


    เธอหันหน้าหนี เธอตอบผมไม่ตรงคำถาม เธอบอกผมว่า....

    ทำไม ข้าต้องร้องไห้เช่นมนุษย์อ่อนแอพวกนี้ด้วย....

    เธอเปลี่ยนสรรพนามไป ผมจึงพาเธอมานั่งข้างๆ ผม แล้วให้เธอ อธิบายเรื่องราวทั้งหมด ที่ผมยังไม่รู้...

    เธอบอกกับผมว่า...

    "อย่างที่ข้าเคยบอกไป.. ข้าคือยมทูต เจ้าไม่เข้าใจ เจ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขัน..."

    เธอทำหน้าจริงจังแล้วพูดออกมา แถมยังใช้สรรพนามพิลึกๆ อีก ตอนนั้นในใจของผมก็ขำอุบอิบอยู่ แต่ต่อจากนั้น...

    "เรื่องนี้มันเกี่ยวพันธ์ ถึงชีวิตของเจ้า เจ้าจงตั้งใจฟังให้ดี....
    ยมทูต คือผู้นำพาดวงวิญญาณที่ไร้ร่างไปยังนรกภูมิ... วิญญาณเหล่านั้นต้องไปชดใช้บาปต่อไป ซึ้งบาปทั้งหลายก็มีการลงโทษที่แตกต่างกันไป เจ้าคงรู้ดีจากสิ่งที่เรียกว่าความเชื่อ..."

    ผมหุบยิ้ม แล้วตั้งใจฟังเธอพูดต่อไป...

    "และข้า... ได้ทำงานผิดพลาดไป.. ข้าไม่สามารถนำดวงวิญญาณที่ถึงคาดดวงหนึ่งมาได้ แต่วิญญาณดวงนั้น..."

    เธอหยุดพูดแล้วหันมามองที่ผม...

    "เจ้านั่นเอง..เจ้าน่ะ ควรที่จะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ต้องวันที่เจ้าประสบอุบัติเหตุแล้ว...."

    ผมได้ยินประโยคนี้ ถึงกับช๊อคไปชั่วครู่.. ผมคือ...คนที่กำลังจะตายงั้นหรือเนี่ย?

    ผมเริ่มสับสน และฟังเธอเล่าต่อ.... 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×