ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาดูหนังเรื่อง รักแห่งสยาม กันT-T

    ลำดับตอนที่ #5 : ... เพลงรัก... ถ้าไม่รักก็เขียนไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 50


    ... เพลงรัก... ถ้าไม่รักก็เขียนไม่ได้

    นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้เห็นคนเขียนหนังทำหน้าที่เดียวกับคนเขียนเพลง นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้เห็นหนังดีๆ ที่ใช้บทเพลงในการตีแผ่ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่ต้นจนจบ และนานเท่าไหร่แล้วที่เพลงรักไม่ได้ถูกพูดถึงในภาพยนตร์ไทยเท่าที่ควร

    “ รักแห่งสยาม” เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกแห่งปีที่มีเพลงรักน่าจดจำหลายเพลง จนไม่อาจปฏิเสธว่า มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ และนักแต่งเพลงคนนี้กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลงและวงการภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กัน กับผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไพเราะและซึ้งกินใจ และยิ่งไปกว่านั้นเพลงทุกเพลงกำลังบอกเล่าความรู้สึกของตัวละครเอกได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้เห็นถึงพัฒนาการทางความคิดและการเติบโตขึ้นของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง

    “ จริงๆ แล้ว เพลงทุกเพลงเหมือนเขียนขึ้นเพื่อหนังเรื่องนี้ ซึ่งจะมีตัวละครของมิวเป็นตัวที่ถ่ายทอดเพลงเหล่านี้ออกมา มิวจะเป็นคนที่เล่าความรู้สึกตัวเองผ่านบทเพลงที่ตัวเองเขียนขึ้นมา ไม่ว่ามิวคิดอะไรอยู่ มิวต้องการจะบอกอะไรกับใคร มิวก็จะใช้เพลงสื่อ เหมือนฉากที่อาม่าเคยบอกมิวตอนเด็กว่า เรียนไว้เถอะดนตรี วันหนึ่งมันจะใช้บอกอะไรกับคนอื่น ถ้าเราไม่กล้าบอกอะไรตรงๆ” มะเดี่ยว กล่าว

    เพลงแรกที่เราจะได้ยินในหนังก็คือเพลง “Ticket” ซึ่งมันจะเป็นเพลงแรกที่เล่าว่ามิวเป็นนักร้อง และเพลงของเขาเพลงนี้ก็กำลังดัง ฮิตติดชาร์ตและถูกเปิดในคลื่นวิทยุมากมาย

    “ เพลงนี้จะออกมาในช่วงที่เล่าถึงการจากลาของมิวกับครอบครัวโต้งที่ย้ายบ้านออกไป แล้วก็ดำเนินต่อมาจนมิวโต เป็นเพลงที่แนะนะตัว “ วงออกัส” และตัวมิว ซึ่งเนื้อเพลงมันก็จะมีนัยยะถึงความรัก แต่มันไม่ได้พูดตรงๆ ใช้การเปรียบเปรย ซึ่งในเรื่องเพลงนี้ก็จะเป็นเพลงดัง ที่ขึ้นอันดับหนึ่ง แต่ว่าโปรดิวเซอร์คือพี่อ๊อด เค้าอยากได้เพลงที่มันพูดถึงความรักแบบตรงๆ ง่ายๆ ไม่ต้องอ้อม ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทำให้มิวต้องมาคิดแล้วละว่าความรักในมุมมองมิวมันคืออะไร”

    เพลงที่เล่าความรู้สึกของมิวในช่วงเวลาต่อมา ผู้กำกับบอกเล่าความพิเศษว่าเป็นเพลงที่น้อง พิช วิชญ์วิสิฐ์ หิรัญวงษ์กุล ผู้รับบทมิว เป็นคนลงมือแต่งเนื้อร้องและทำนองด้วยตัวเองในเพลงที่มีชื่อว่า “ รู้สึกบ้างไหม” น้องพิชเล่าให้เราฟังถึงการมีส่วนร่วมในการทำเพลงนี้ว่า

    “ โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว สำหรับเรื่องนี้ก็ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมกับงานเพลงด้วย ก็คือเพลง รู้สึกบ้างไหมพิชแต่งเนื้อร้องและก็ทำนองเอง แต่ในเรื่องของดนตรีตรงนี้จะยกให้พี่มะเดี่ยวเป็นคนทำให้ครับเพลงนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนครับ เพื่อนกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความรัก เค้าก็โทรมาปรึกษาเรา แล้วเราก็ช่วยเค้า เราก็เลยได้ไอเดียสำหรับเพลงนี้มาครับ”

    “ เพลงนี้พูดถึงคนที่ไม่ได้เจอกันนาน จากกันไปนานแล้วก็รู้สึกเหมือนมันไม่มีความสุขเลย พิชก็ใช้คำดีนะ เป็นคำถามว่ารู้สึกเหมือนกันรึเปล่า ว่าตอนที่อยู่ด้วยกันมีความสุขนะ ในเรื่องมิวก็เขียนเพลงนี้ขึ้นมาเหมือนตั้งใจจะถามคนๆ หนึ่ง มันก็เล่าเรื่องได้ค่อนข้างดี” ผู้กำกับเสริม

    และเพลงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเพลง “ กันและกัน” เพลงที่เป็นเหมือนแกนสำคัญในชีวิตของมิวกับสิ่งที่มิวกำลังค้นหาอยู่นั่นก็คือ “ ความรัก”
    “ เพลงนี้เหมือนเป็นเพลงบอกรักหนึ่งเพลง แต่บอกรักในฐานะของคนที่เขียนเพลง เป็นการบอกความในใจแบบตรงๆ เลย ถ้าบอกว่าเพลงนี้แต่งให้เธอเธอจะเชื่อไหม มันอาจไม่เพราะเหมือนเพลงอื่นๆ หรอกแต่ว่ามันเป็นความรู้สึกพิเศษที่อยากให้รู้ว่า เพลงนี้เป็นเพลงของเธอนะ ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นแต่งขึ้นมาได้ยังไง แต่นานแล้ว แต่ก็แต่งเพื่อตอนเขียนบทเรื่องนี้แหละ”

    “ ต่อมาเพลง ‘ คืนอันเป็นนิรันดร์’ เพลงนี้แต่งตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปี 2 เคยใช้ประกอบละครเวทีที่คณะนิเทศศาสตร์ที่จุฬา ซึ่งออริจีนัลเวอร์ชั่นของเพลงนี้ จะเป็นเสียงของพี่ลูกหว้า ( วงดูบาดู) เป็นคนร้อง แต่พอมาอยู่ในหนังเรื่องนี้มันก็จะเป็นเสียงของน้องเพชร - ภาสกร วิรุฬห์ทรัพย์ นักร้องยุวชนยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ประจำปี 2549 ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครในหนังด้วย รู้สึกว่าเสียงน้องเพชรสามารถสื่อสารอะไรออกมาได้มากมายและทำให้เราเชื่อ ซึ่งมันก็จะเล่าเรื่อง ตอนที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในสภาพที่แย่ เหมือนตกอยู่ในหลุมแล้วก็พยายามตะเกียกตะกายกันออกมา เต็มไปด้วยความสับสนไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่ปลอบประโลมจิตใจให้เราพยายามผ่านช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ไป”

    มาถึงเพลงสุดท้าย ผลงานเก่าของ สุกัญญา มิเกล ที่นำมาทำใหม่เพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ กับเพลง “ เพียงเธอ” เพลงรักเนื้อหาซึ้งๆ ความหมายดีที่อยู่ในใจผู้กำกับคนนี้มานานแล้ว เมื่อมีโอกาสเขาเลยไม่รีรอที่จะบรรจุเพลงนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร

    “ โดยส่วนตัวชอบศิลปินคนนี้มาก คุณสุกัญญา มิเกล เป็นศิลปินที่เจ๋ง เป็นศิลปินในดวงใจคนหนึ่ง รู้สึกว่าเพลงที่เค้าร้องส่วนใหญ่จะเป็นเพลงรักเนื้อหาดี ไม่น้ำเน่า แล้วเพลงนี้ เพลง ‘ เพียงเธอ’ ก็เป็นเพลงที่ออกมานานแล้วเป็นสิบปีแล้วมั้ง ตั้งแต่เราเป็นเด็กๆ แล้วเราก็ชอบมาก คือรู้สึกว่าในหนังมันควรจะร้องเพลงของคนอื่นบ้าง ก็เลยให้มิวร้องเพลงนี้ดีกว่า คาดว่าคงจะมีคนรู้จักบ้างแหละ”

    แม้ว่าบทเพลงรักที่ถูกเขียนขึ้นในหนังจะได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่และเวลาที่แตกต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่บทเพลงซึ้งเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนกันก็คือ การถ่ายทอดเพลงรักที่มันเยียวยาหัวใจ เยียวยาชีวิตให้เราสามารถอยู่ต่อไปได้ เหมือนกับความตั้งใจของผู้กำกับที่ต้องการทำให้ภาพยนตร์ “ รักแห่งสยาม” เป็นภาพยนตร์ที่อบอวลไปด้วยความรัก ความหวัง เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะมีกำลังใจก้าวเดินต่อไป

    แม้ว่าบทเพลงรักที่ถูกเขียนขึ้นในหนังจะได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่และเวลาที่แตกต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่บทเพลงซึ้งเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนกันก็คือ การถ่ายทอดเพลงรักที่มันเยียวยาหัวใจ เยียวยาชีวิตให้เราสามารถอยู่ต่อไปได้ เหมือนกับความตั้งใจของผู้กำกับที่ต้องการทำให้ภาพยนตร์ “ รักแห่งสยาม” เป็นภาพยนตร์ที่อบอวลไปด้วยความรัก ความหวัง เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะมีกำลังใจก้าวเดินต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×