ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจ นักรบ (นัทซิน singular)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 56


    บทที่ ๑

                10 ปีผ่านไป

                    “คุณย่าๆ คุณย่าขา”เสียงใสของเด็กน้อยคนหนึ่งดังขึ้นเรียกให้หญิงชราที่กำลังจีบพลูอยู่ต้องหยุดมือและหันไปเอ็ดเบาๆ

                    “เสียงดังเอะอะอะไรรึซิน เจ้าจะตะโกนทำไมเดินมาให้ถึงก่อนค่อยเรียกย่าก็ได้”

                    “โธ่ก็ซินรีบนี่เจ้าคะ คุณย่า”ร่างเล็กบางนั่งพับเพียบลงข้างกายหญิงชราแล้วเงยหน้าขึ้นสบสายตาผู้เป็นย่า

                    “แล้วเรียกย่าลั่นเรือนขนาดนั้นน่ะมีอะไร จะมาอ้อนขออะไรย่าอีกย่าซิ ดูทำหูทำตาเข้าแม่คนนี้นี่”หญิงชราพูดขึ้นเมื่อเห็นดวงตาพราวระยับมีแววอ้อนนิดๆที่หลานส่งมาให้

                    “คือซินจะมาขอไปตลาดกับพี่ศร พีนวลเจ้าค่ะคุณย่า”เด็กน้อยเอ่ยบอกความต้องการ

                    “อยากจะไปก็ไป แต่ต้องทำตัวให้เรียบร้อยและพูดจาตามที่ย่าเคยสอนไว้ เจอผู้ใหญ่ที่รู้จักก็ต้องยกมือไหว้”

                    “เจ้าค่ะคุณย่า”ร่างเล็กพยักหน้ารับเพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งแจ้นลงเรือนไปทันที ท่านผู้เฒ่าได้แต่ส่ายหน้ากับความซุกซนของหลานคนเล็ก นับตั้งแต่วันที่ซินเซียร์เกิดท่านผู้เฒ่าก็เป็นฟูมฟักเลี้ยงดูหลานคนเล็กมาเป็นอย่างดีแม้ว่าจะเป็นชายหากแต่การเลี้ยงดูสั่งสอนกลับเหมือนเลี้ยงหลานสาวคนหนึ่ง ตั้งแต่การแต่งกาย  การสั่งสอน ทำพูดคำจา งานบ้านงานเรือน กิรกยามารยาท และการวางตัว ก็สอนดั่งเช่นเด็กหญิงทั่วไป รวมถึงการ ขียนอ่าน อีกทั้งพระสุวรรณราชผู้เป็นบิดายังสอนงานช่างทองหลวงให้บุตรคนเล็กอีกด้วย ทำให้เด็กน้อยเฉลียวฉลาดกว่าเด็กวัยเดียวกันและยังเป็นที่รักของคนทั้งบ้านเพราะหลังจากที่ซินเซียร์เกิดได้เพียงหนึ่งเดือนมารดาก็ได้เสียชีวิตลง เด็กน้อยจึงเติบโตมาด้วยความรักของบิดา ย่า พี่ทั้งสองคนและพี่เลี้ยง

                    “พี่ศร พี่นวลจ๋าไปกันเถอะ”เด็กน้อยวิ่งตรงไปหาพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ทันที

                    “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ซิน เดี๋ยวก็ล้มลงไปเป็นแผล คุณย่าก็จะดุเอาเสียเปล่าๆ”ศรปรามน้อง

                    “อย่าดุน้องสิเรื่องแค่นี้เอง เรารีบไปกันดีกว่านะซิน”ประโยคแรกนวลหันไปพูดกับศร ก่อนจะหันกลับมาบอกซินแล้วจูงมือซินไปลงเรือที่จอดรออยู่ที่ท่าน้ำ

                    “ซินอยากให้ถึงวันแต่งงานของพี่ศรกับพี่นวลเร็วๆซินอยากให้พี่นวลมาอยู่กับซินจะได้มาดูแล

    ซินด้วย”

                    “มีพี่ใหม่แล้วลืมพี่เลยนะแม่ตัวดีของพี่”ศรหรือหลวงเสนาพูดหยอกน้องน้อย

                    “ซินไม่ได้ลืมพี่ศรเลยนะเจ้าคะ ซินรักพี่ศรเช่นเดิมเพียงแต่ว่าซินรักพี่นวลเพิ่มขึ้นอีกคนเท่านั้นเอง”ซินตอบเสียงใสยิ้มหวานส่งไปให้พี่ชาย ที่เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ รอยยิ้มหวานที่ถอดแบบออกมาเกือบจะเหมือนกับรอยยิ้มของมารดา มือใหญ่เอื้อมออกไปอุ้มร่างเล็กให้มาอยู่บนตัก ลุบหัวเบาๆ แล้วกอดแล้วทั้งตัว ซึ่งซินก็ดิ้นขลุกขลักหัวเราะคิกคักอยู่ในอ้อมกอดพี่ชาย

                    “เมื่อถึงวันที่เจ้าโตจนถึงเวลาที่จะต้องออกเรือนไปพี่คงคิดถึงเจ้าและเหงามากแน่ๆ”

                    “ถ้าอย่างนั้นซินก็จะไม่มีเรือน จะอยู่กับพี่ศร กับคุณย่า แล้วก็คุณพ่อกับพี่สร้อยไปจนแก่เลยดีไหมเจ้าคะ”ศรทำเพียงยิ้มน้อยๆกับความคิดของน้อง แล้วหันไปถามคนรัก

                    “แล้วนี่เรื่องของแม่วาดเป็นเยี่ยงไรบ้างเล่าพี่เห็นพ่อนัทเขาขวางๆอยุ่มิใช่รึ”

                    “ก็อย่างที่พี่ศรรู้นั่นแหละจ้ะ พี่นัทจ้องจะขัดขวางท่าเดียว แต่ฉันก็พอจะเข้าใจว่าพี่นัทก็เป็นห่วงแม่วาด กลัวว่าน้องสาวจะน้ำตาเช็ดหัวเข่าเพราะคนเจ้าชู้มักมากอย่างหมื่นศรี แต่ก็นั่นแหละ แม่วาดน่ะหาฟังไม่เจอคำหวานเข้าไม่ก็หน้ามืดตามัว แล้วไหนจะแม่อีกเล่าพี่ศรเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เขาเอาของมากำนัลให้แม่ก็ปลื้มเสียเหลือเกิน อยากจะรีบให้มีงานแต่งเสียเต็มทีแล้วแต่ยังมีเจ้าคุณพ่อและพี่นพกับพี่นัทขวางอยู่ ยิ่งพี่นัทนี่ถึงกับเคยจะประดาบกันเลยที่เดียว ส่วนฉันจะขัดอะไรก็หาได้ไม่ทำได้เพียงคอยห้ามปรามพี่นัทก็เท่านั้นแล”

                    “มันอาจจะเป็นบุญเป็นกรรมที่เขาทำรวมกันมาก็ได้ เราเข้าไปยุ่งมากๆมันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ นวลก็ปรามๆพ่อนัทไว้บ้าง แล้วนี่ยิ่งอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ก็เลือดร้อนเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”ศรบอกคนรัก

                    “ฉันก็พยายามจะคิดอย่างนั้นอยู่จ้ะ บอกพี่นัทแบบนี้แหละแต่ก็นั่นแหละเขามีเรื่องกันมาอยู่แล้วด้วยฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”นวลถอนหายใจ เด็กน้อยที่นั่งตาแป๋วฟังความอยู่ได้แต่สงสัยในสิ่งที่ทั้งสองคุยกัน

                    “มีอะไรกันหรือจ๊ะ ทำไมต้องดูกังวลกันขนาดนั้น แล้วคนที่ชื่อนัทกับศรเขาเป็นใครกันหรือจ๊ะ”เด็กน้อยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่เป็นนิสัยของเจ้าตัวอยู่แล้ว

                    “เป็นเด็กเป็นเล็กเจ้าจักอยากรู้เรื่องอะไรของผู้ใหญ่กันเล่าซินเซียร์”ศรดุน้อง การเรียกชื่อเต็มแบบที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักทำให้ซินรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรยุ่งจริงๆจึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ

    เดี๋ยวแอบไปถามพี่นวลทีหลังก็ได้ซินคิดในใจ

                    “ดูซิดุน้องมากน้องกลัวหมดแล้ว มานั่งกับพี่นี่แน่ะซิน เจ้าอยากรู้รึว่าคนที่ชื่อนัทเป็นใคร”นวลก้มหน้าลงถามเด็กน้อย

                    “เจ้าค่ะ”ซินตอบรับ

                    “พี่นัทหรือขุนโชติธรรมาธิเบศร์เป็นพี่ชายแท้ๆของพี่ไงเล่าเดี๋ยวเจ้าก็คงได้เจอหรอก เพราะพี่จะแวะไปที่บ้านพอดี”ยังไม่ทันจบคำพูดดีเรือก็เริ่มเบนเข้าจอดที่ท่าน้ำของบ้านหลังโตหลังหนึ่ง เมื่อก้าวขึ้นมาจากเรือก็พบกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่

                    “อ้าวพี่นัทเป็นอะไรเล่าจ๊ะไยไม่ขึ้นบ้านมานั่งหน้ายุ่งอยู่ที่ท่าน้ำทำไมเล่า”นวลถามพี่ชาย

                    “พี่ขึ้นไปแล้วนวล แต่เพิ่งจะลงมาเมื่อครู่ เพราะไอ้คนกระล่อนปลิ้นปล้อนมาหรอก พี่ไม่อยากร่วมวงสนทนกับมันมีแต่เรื่องโอ้อวดา เอาความดีเข้าตัวเท่านั้นแหละ”นัทหรือขุนโชติธรรมาธิเบศร์บอกเสียงขุ่น

                    “แล้วนี่เจ้ามาทำอะไรเล่าเห็นว่าไปบ้านพี่ศรมิใช่รึ”นัทถามน้องสาว

                    “จ้ะ นี่กำลังจะไปตลาด แวะมาเอาของ”นวลบอกพี่ชาย

                    “แล้วนั่นเด็กที่ไหนตามมาด้วยกันเล่าทำไมไปหลบอยู่หลังเจ้าเช่นนั้น”นัทถามเมื่อเห็นร่างบางของเล็กน้อยยืนทำตัวลีบอยู่ด้านหลังน้องสาว

                    “นี่ซินจ้ะพี่นัท ซินเซียร์น้องพี่ศรที่ฉันเคยเล่าให้พี่ฟังไงเล่าจ๊ะ”ซินก้มลงไหว้พี่ชายว่าที่พี่สะใภ้

                    “คนนั้นน่ะรึ นี่เป็นชายจริงอย่างที่เจ้าว่าแน่หรือนวลไม่เห็นจะเหมือนเด็กผู้ชายตรงไหน ไม่บอกพี่ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นชาย ดูท่าว่าโตไปจะงามมิใช่น้อยเลย”นัทกล่าวชมเด็กน้อย ตรงหน้า  เสื้อคอกระเช้าสีเขียวอ่อน กับโจงกระเบนสีหมากสุก รวมถึงจุกบนหัวที่มีมาลัยดอกมะลิสวมไว้ทำให้เด็กน้อยตรงหน้าดูน่ารักน่าชังไม่ต่างจากเด็กผู้หญิง แถมยังดูน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงบางคนเสียอีก

                    “หญิงงามในเมืองมิมีใครให้เจ้าชมแล้วรึไรถึงได้มาชมเด็กหัวเท่ากำปั้นเช่นนี้”เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้นัทเงยหน้าขึ้นมองทันที แล้วประนมมือไหว้ผู้ที่มีอายุมากกว่า

                    “พี่ศรก็มาด้วยรึนี่ ฉันนึกว่านวลมากับน้องคนเล็กของพี่คนเดียวเสียอีก”

                    “ก็จะออกไปซื้อของกับนวล แต่แม่ตัวยุ่งนี่ขอตามมาด้วย”ศรจับหัวน้องเขย่าเบา

                    “ซินไม่ใช่แม่ตัวยุ่งสักหน่อย”เด็กน้อยบ่นอุบอิบ

                    “แล้วนี่พี่ได้ยินเจ้าพูดแว่วๆว่าใครมารึ”ศรถาม โดยทำเป็นไม่สนใจแม้จะได้ยินที่เด้กน้อยบ่นก็ตาม

                    “ก็ไอ้หมื่นศรีน่ะสิขอรับ”นัทพูดเสียงเริ่มเข้มขึ้นมาอีกครั้ง

                    “ใจเย็นน่าพ่อนัท ไปตลาดกับพี่เสียดีกว่าไป ไปเดินดูอะไรเพื่อใจจะสงบขึ้น รอนวลขึ้นไปเอาของบนเรือนครู่เดียว”ศรรีบปรามนัทเพื่อไม่ให้อารมณ์ร้อนไปกว่านี้ ส่วนนวลก็รีบเดินขึ้นไปเอาของบนบ้านแล้วรีบเดินมาทันที

                    “ไปลงเรือไป ไปลำเดียวคงไม่หมดเดี๋ยวเอาเรือบ้านเจ้าไปอีกลำ แล้วให้นวลไปนั่งกับเจ้า”ศรบอก

                    “เอ่อ พี่ศรอยากนั่งกับพี่นวลก็นั่งเถิดจ้ะ ซินไปนั่งลำนู้นกับ เอ่อ กับ....”เด็กน้อยอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดต่อด้วยไม่รู้จะเรียกอีกคนว่าอย่างไร

                    “เรียกว่าพี่นัทก็ได้”ศรบอกน้องอย่างรู้ทัน

                    “จ้ะ เดี่ยวซินไปนั่งลำนู้นกับพี่นัทเอง”เด็กน้อยบอก ศรจึงพาน้องไปลงเรือ แล้วเดินกลับมาลงเรืออีกลำ ก่อนที่เรือจะแล่นออกจากท่าเพื่อมุ่งหน้าไปตลาด

     

    มารายงานตัวแล้วครับผม
    ยุ่งนิดหน่อยฮับ เลยไม่ว่างมาลง
    แต่ตอนนี้มาแว้วว
    ตรงไหนมันทะแม่งๆก็มองข้ามมันไปนิดนุงนะฮับ
    แต่งแนวนี้ครั้งแรก ไม่ชินเท่าไหร่
    ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้หงส์น้อยคอยรักผู้นี้ด้วยนะฮับ
    ช่วยกันเม้นๆ โหวตๆให้น้องหงส์ด้วยนะคะ(แบ๊วๆ) ขอบคุณค่ะ
    แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการฮับ บายยยยย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×