ตอนที่ 22 : [SF] ขวัญใจ : ตอนที่ 14 (200%)
PA_riz : ตกลงเย็นนี้ ที่สโมฯหลังมอนะ
ขวัญใจคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงหลังอ่านข้อความบังคับแกมข่มขู่จากน้องภาริส ที่นัดให้ไปเจอกันที่ร้านเหล้าหลังมอ ตาเรียวหันไปมองแฟนที่กำลังขับรถไปส่งที่หอสมุด เพราะวันนี้พี่ชลต้องขึ้นเวรพอดี ขวัญใจเลยขอให้พี่ชลพาไปส่งที่ห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบกับเพื่อน
“ถึงห้องแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ” เดือนแพทย์หันมาสั่ง
“...”
“ขวัญใจ”
“...”
“ขวัญใจ”
“หา!”
ชลธรยิ้มเอ็นดูให้เจ้าคนถูกเรียกที่สะดุ้งตัวโยน เห็นขวัญใจกำลังก้มหน้าอ่านข้อความในโทรศัพท์อยู่ ขมวดคิ้วมุ่นจนหน้าผากยับ ก็นึกสงสาร ขวัญใจบอกว่าเปิดเทอมเมื่อไรอาจารย์จะมีพรีเทส หากสอบไม่ผ่านก็จะไม่ได้เข้าเรียนวิชานั้น คนตัวเล็กที่ไม่ได้ใช้ชีวิตปิดเทอมเหมือนเด็กมหาลัยคณะอื่นๆ คงจะเครียดน่าดู
“มีอะไรรึเปล่า”
“มี เอ้ย! ไม่มีครับ”
ปลายนิ้วคลอเคลียอยู่ตรงปลายจมูกรั้นของผู้โดยสาร ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ตกลงว่ามีหรือไม่มีกันแน่”
ขวัญใจหลบตาวูบ พยายามคิดหาข้อแก้ตัวดีๆ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพี่ชลเรื่องภาริสเลย แต่ถ้าพี่ชลรู้ก็คงไม่ยอมให้ไป เผลอๆจะทะเลาะกัน แล้วพี่ชลคงไม่มีสมาธิทำงาน ขวัญใจไม่อยากทำให้พี่ชลไม่สบายใจเลย แล้วก็แค่ไปกินเหล้าให้มันเสร็จๆไปก็แค่นั้นเอง
“คุโด้ไลน์มาบอกว่าแท่งขนมเวย์โปรตีนที่เราซื้อมากิน โดนหนูแทะหมดเลย”
“ขนม?เวย์?”
“ที่คนเล่นกล้ามเขากินกันไงพี่ชล”
ไม่ได้โกหกนะ ตอนเปิดถุงขนมยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมมันมีรูรั่ว ปรากฎมีหนูนอนนิ่งอยู่ในถุงเลยจ้า ดีที่วันนั้นคุโด้อยู่ด้วย ก็เลยจับหนูด้วยมือเปล่ามาย่างให้ขวัญใจกิน (ไม่ใช่แล้ว จับโยนไปนอกห้องต่างหาก) อยากเล่าให้ฟังไงว่ารูมเมทขวัญใจน่ะโหดแค่ไหน
“นี่เราเล่นกล้ามอยู่เหรอ” เห็นแฟนทำเป็นเลิกคิ้ว ยิ้มล้อเลียน ขวัญใจล่ะอยากจะหยิกเนื้อแขนแน่นๆของพี่เขาสักที
“ก็หนูมันแย่งเวย์เราไปกินไง กล้ามเรามันเลยไม่ขึ้นน่ะ”
“อือฮึ”
“แพงก็แพง เสียดายชะมัด”
“แล้วซื้อมาเท่าไร”
“รู้แล้วห้ามฟ้องแม่เรานะ”
“เท่าไรล่ะ”
“สามพัน”
“เดี๋ยวพี่โอนเงินให้ เอาไปซื้อใหม่”
“...”
ยิ่งพี่ชลใจดีกับขวัญใจแบบนี้ ขวัญใจยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก ..วันหลังขวัญใจจะชดใช้ให้พี่ชลนะ
“สบายใจรึยังครับ”
“ขอบคุณนะพี่ชล”
ก่อนเปิดประตูลงจากรถ คนตัวเล็กก็ชะโงกหน้าไปจุ๊บเบาๆตรงมุมปากของคนพี่ มันไม่ใช่การจูบแต่เหมือนชลธรโดนปลาดตอดปากมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เขานั่งตัวแข็ง ใจเต้นแรงเป็นเด็กหัดมีความรัก ยิ่งเจ้าคนที่ขโมยจูบกันโต้งๆหันมาจ้องเขาตาแป๋ว ชลธรยิ่งเขินจนไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน
“พี่ชล เขินเราเหรอ”
“ไม่..ไม่น่าจะใช่”
“ทำเหมือนไม่เคยโดนจูบไปได้”
แน่ะ พอเห็นเขาทำตัวไม่ถูก ไอ้ตัวแสบมันยิ่งได้ใจ แบบนี้มันต้องจับมาสั่งสอนซะหน่อย
“งั้นคงต้องให้ขวัญใจช่วยสอนพี่หน่อย”
“...”
“ว่าจูบจริงๆมันเป็นยังไง”
“—อื้อ”
แล้วมันก็กลายเป็นขวัญใจซะเอง ที่ได้เรียนรู้จูบจริงๆจากเดือนแพทย์ คนตัวเล็กครางอื้อในลำคอเพราะหายใจไม่ทัน และถ้าชลธรไม่ต้องรีบไปขึ้นเวรล่ะก็ เขาคงจะไม่ปล่อยขวัญใจลงไปจากรถจริงๆ
แล้วดูเอาเถอะ โดนจูบก็ตั้งหลายครั้ง พอผละออกไปจากอ้อมกอดเขาทีไร แฟนเขาเป็นต้องหน้าแดงทุกครั้งไป
“พะพอก่อนนะพี่ชล”
แล้วไอ้ท่าทางยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำลายตรงริมฝีปากน่ะ
ใครมันจะไปอดใจได้วะ
ควันสีขาวถูกพ่นออกมาจากปลายบุหรี่ที่ติดไฟสีแดง ชลธรไม่ได้ติดบุหรี่ แต่จะสูบเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย ในเวลาที่สมองมันคิดอะไรไม่ออกอย่างเช่นเวลานี้ เสียงประตูเหล็กของดาดฟ้าถูกเปิดดังครืด ปลายหางตาคมเหลือบมองนิดหนึ่ง พอเห็นว่าเป็นภีมพลที่เดินขึ้นมา ก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยทักตามมารยาท
“เคสคุณป้าคนนั้นกูรับมาดูแทนมึงแล้วนะ”
“ขอบใจ”
“ทั้งเหล้าทั้งบุหรี่เลยเหรอวะเพื่อนกู”
“เออ”
ภีมพลเอนหลังพิงระเบียง ปล่อยให้ลมเย็นๆพัดด้านหลัง เขาคงชื่นชมกับวิวบนชั้นดาดฟ้ามากกว่านี้ ถ้าเพื่อนรักไม่มายืนหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะทะเลาะกับแฟนจนต่างคนต่างแยกกันอยู่แบบนี้
“ดูไม่ใช่มึงเลยนะไอ้ชล”
“แล้วกูต้องเป็นไงเหรอ”
“มึงเป็นคนใจเย็น มีสติ และมีเหตุผล มึงไม่ใช่คนที่เห็นอะไรแล้วเก็บเอาไปคิดจินตนาการขึ้นมาเองโดยไม่คิดให้รอบคอบซะก่อน”
ชลธรหยิบบุหรี่อีกตัวขึ้นมาจุดสูบ เขาบี้ขี้บุหรี่ที่ร่วงลงบนพื้นด้วยปลายเท้า ที่จริงเขาไม่ชอบทำให้อะไรมันซับซ้อน หากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับแฟนคนก่อนๆก็คงบอกเลิกไปอย่างไม่ลังเล แต่พอเป็นขวัญใจเรื่องที่ควรจะจัดการได้ง่ายๆ กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
เขาไม่อยากเป็นแฟนที่ไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่แทบจะมองออกหมดว่าภาริสคงจะใช้ลูกไม้อะไรบางอย่างหลอกล่อขวัญใจไปในที่แบบนั้น ในเวลาแบบนัน้น เพียงแต่ถ้าขวัญใจจะบอกเขาสักนิด ไม่ใช่โกหกว่าอ่านหนังสืออยู่กับเพื่อนที่ห้องสมุด ทั้งที่ปกติเขาทำอะไรอยู่ที่ไหน ก็บอกขวัญใจหมดทุกอย่าง เพราะอยากให้คนตัวเล็กเชื่อใจเขา แต่พอขวัญใจโกหก ไม่รู้สิ ขวัญใจอาจจะกลัวเขาโกรธ เห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย หรืออะไรก็ตาม แต่ชลธรไม่ชอบ
ไม่ชอบที่เห็นแฟนตัวเองอยู่กับผู้ชายคนอื่น
“ถ้าแฟนมึงบอกว่าไปอ่านหนังสือ แต่มึงจับได้ว่าเขาแอบไปกินเหล้ากับผู้ชายคนอื่น มึงจะคิดว่าไง”
“ก็ต้องดูที่เจตนา เขาอาจจะแค่ไปกินเหล้า ตามประสาเพื่อนกันก็ได้”
“เพื่อนกันไม่ซบกันแบบนั้นเปล่าวะ”
“งั้นก็เลิกเลย”
เออ เลิกเลย...ทำได้ซะที่ไหนล่ะ แค่เห็นหน้าหงอยๆใจเขาก็หงอยจะแย่ ไม่รู้ไอ้ภาริสมันทำอะไรขวัญใจบ้าง หวงแทบตาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โมโหที่แฟนตัวเองโคตรซื่อ และก็คงจะไม่รู้ตัวตอนที่โดนรุ่นน้องใช้ลูกไม้ตื้นๆหลอกให้ดื่มเหล้าทั้งๆที่ตัวเองแพ้แอลกอฮอล์ขั้นรุนแรง
“แต่คนนี้ ยังไงมึงก็ไม่เลิกใช่มั้ยล่ะ”
เลิกกันไม่เคยมีอยู่ในหัวด้วยซ้ำ
“ทำไมเขาต้องโกหกกูด้วยวะ”
ก็แค่..น้อยใจ
“กูว่ามึงต้องใจเย็นๆ แล้วไปคุยกับน้องดูก่อน มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้”
แต่ยังไงก็ไม่ยอมเลิกแน่ๆ
“มันคงผิดที่กูเองแหละ ที่รักเขามากไป”
“...”
เขานึกถึงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า หลังจากตั้งสติได้ ก็โทรหาคุโด้ ให้โทรตามเพื่อนกลับห้อง โชคดีที่ภาริสรับสายและมันพาขวัญใจไปส่งหอ ไม่ได้พาไปที่ไหน ไม่เช่นนั้นชลธรก็ไม่กล้ารับประกันเหมือนกันว่าเขาจะไม่ทำอะไรสักอย่างให้รุ่นน้องคนนั้นต้องกระเด็นออกจากมหาลัยไปก่อนเวลาอันควร
แล้วพอคุโด้โทรมาบอกว่าขวัญใจถึงหอแล้ว ให้วางใจได้ แทนที่เขาจะเลี้ยวรถกลับไปเคลียร์งานที่โรงพยาบาลต่อ เท้ากลับเหยียบคันเร่งไปจอดรถตรงหน้าหอแฟนอย่างไม่รู้ตัว
เงยหน้ามองไฟห้องแฟนยังเปิดสว่างจ้า ใจนึงก็โกรธ อีกใจก็เป็นห่วง จึงเป็นอีกครั้งที่เขาต่อสายหาน้องรหัสของเพื่อน เพียงเพื่อถามว่าแฟนเขานอนหลับไปรึยัง
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงห้านาที ร่างเล็กที่ทำเขาเจ็บจนทำอะไรไม่ถูกก็วิ่งลงมาจากหอ สมองมันสั่งการให้ชลธรสตาร์ทรถแล้วขับออกไป แต่ใจกลับไม่เชื่อฟัง
ก็แค่อยากแน่ใจ
ว่าคนตัวเล็กไม่ได้มีส่วนไหนบอบสลายไป
‘ภาริสเป็นคนพามาส่งที่หอใช่ไหม’
ขวัญใจดูตกใจไปชั่วครู่ แต่แล้วก็พยักหน้าตอบรับด้วยเสียงแผ่ว
แล้วคนตัวเล็กก็ก้มหน้าไม่กล้าสบตาแฟนของตัวเองอีก สายตาพี่ชลในเวลานี้มันช่างน่าใจหาย ดูหมางเมินจนแม้แต่คำพูดที่เตรียมมาอ้อน ขวัญใจก็ไม่ได้พูดมันออกไป
ชลธรกำพวงมาลัยแน่น ยิ่งเห็นท่าทางก้มหน้ายอมรับแบบนั้น ความโมโหในใจเขาก็ยิ่งทวีคูณ รู้ตัวดีว่าตอนพูดออกไปน้ำเสียงตัวเองฟังดูแย่แค่ไหน แต่เวลาแบบนี้มันคุมอารมณ์ได้ยากเหลือเกิน ‘รู้ตัวว่าแพ้เหล้า แต่ก็ไปกินกับมันเนี่ยนะ’
‘แล้วทำไมพี่ชลต้องขึ้นเสียงด้วย’
และมันทิ่มแทงใจคนฟังเข้าอย่างจัง
น้ำตาหยดใสร่วงเผาะลงบนหลังมือ ขวัญใจเม้มปากแน่น ก้มหน้าไม่ให้คนข้างกายได้เห็นว่าร่างเล็กกำลังพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาจนไหล่สั่น
‘ถะ..ถ้าพี่ชลคิดแบบนั้นตั้งแต่แรก จะมาถามเราอีกทำไม’
เมื่อเริ่มคิดได้ว่าตัวเองไม่ควรพูดไม่ดีกับแฟนแบบนั้นเลย ชลธรก็คิดถึงแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน คืนนั้นทั้งคืนเขาทำรายงานไม่คืบหน้าสักกะผีก พอรวบรวมสมาธิได้ ปากเบะๆกับหน้างอๆ ของคนตัวเล็กก็ต้องลอยเข้ามาทำสมาธิเขากระเจิง ขนาดเปิดหนังสือเจอหน้าเด็กที่กำลังร้องไห้ เขายังเห็นเป็นหน้าแฟนเลย คิดดู!!
ชลธรไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคืนนั้นเผลอหลับไปตอนไหน และเมื่อไม่มีคนโทรมาปลุก หรือเจ้าคนที่ชอบปีนขึ้นเตียงมาแกล้งเขาในทุกเช้าๆ วันนี้ชลธรจึงตื่นสายกว่าปกติ กว่าจะทำธุระออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบสิบเอ็ดโมง
ไม่รู้ป่านนี้ขวัญใจจะตื่นนอนรึยัง เขาส่งข้อความไปหาตั้งแต่เมื่อคืนก็ยังไม่อ่าน ไม่รู้โทรศัพท์แบตหมด หรือนอนตื่นสายแล้วเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งไว้ใต้เตียงรึเปล่า ถามคุโด้รายนั้นก็ไม่อยู่ห้อง เมื่อคืนเห็นรอยแดงที่คอคนตัวเล็ก น่าจะเป็นผื่นที่เกิดจากการแพ้แอลกอฮอล์นั่นแหละ เพราะหากเป็นรอยอื่นจะไม่ขึ้นเป็นปื้นแบบนั้น ที่จริงเขาก็เคยแกล้งขวัญใจอยู่บ่อยๆ ตลกดี ที่ตอนนั้นกลับคิดไม่ได้
ร่างสูงตัดสินใจเลี้ยวรถจอดบริเวณใกล้ๆกับโรงอาหาร ถ้ามีของกินติดมือไปสักหน่อย คนตัวเล็กน่าจะยอมฟังเขาพูดมากขึ้น เพราะสำหรับขวัญใจของกินเยียวยาทุกสิ่งได้จริงๆ ชลธรรู้ดี
เช่นเดียวกับที่ภาริสจับจุดรุ่นพี่ได้ ขวัญใจเกือบจะปิดประตูใส่หน้าไอ้รุ่นน้องตัวดีที่ทำเขาทะเลาะกับแฟนแล้วเชียว หากภาริสไม่ยกถุงข้าวยำไก่แซ่บของโปรดขึ้นมาตรงหน้า
“ฉันซื้อข้าวยำไก่แซ่บมาฝาก”
ตาเล็กเหลือบมองถุงไก่เคเอฟซีในมือภาริสอย่างชั่งใจ ตอนนั้นเองที่ท้องเล็กๆร้องเสียงดังโครก ภาริสยิ้มอ่อนโยน แสนเอ็นดูเจ้าคนที่ทำเป็นใจแข็ง
“...”
“ขับรถไปซื้อมาให้จากคลองสิบเลยนะ”
“จะเอาอะไรจากเราอีกล่ะ”
“ไม่ได้จะเอาอะไร เอาไก่มาฝากเฉยๆ”
ไลอ้อนคิงจบลงพร้อมๆกับข้าวยำไก่แซ่บที่หมดจาน ภาริสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โต๊ะเขียนหนังสือลุกขึ้นบิดขี้เกียจ มองขวัญใจที่ยังอยู่ในชุดนอนนั่งจุมปุ๊กอยู่บนเตียง เดาว่าคงอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เช้า ถ้าเขาไม่ซื้อข้าวมาให้ก็คงไม่ยอมลุกไปไหน
“แล้ววันนี้อาการดีขึ้นหรือยัง”
เจ้าของห้องไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าลงช้าๆ ภาริสมองสำรวจใบหน้ากับลำตัวที่เมื่อคืนมันแดงและมีผื่นขึ้นเป็นปื้นจนน่ากลัว วันนี้ไม่เห็นผื่นพวกนั้นแล้วก็สบายใจขึ้น
เห็นขวัญใจทำท่าจะหมุนตัวกลับลงไปนอนอีกรอบ ภาริสก็คว้าแขนเล็กเอาไว้
“นี่ไม่คิดจะไปอาบน้ำ ล้างหน้าหน่อยรึไง”
ขวัญใจมองมือใหญ่ที่จับแขนตัวเองไว้แน่น สลับกับมองรุ่นน้องตัวโตตาเขียวปั้ด
“นายกับพี่ชลเคยรู้จักกันมาก่อนใช่มั้ย”
ภาริสเลิกคิ้ว สีหน้าดูไม่แปลกใจเท่าไรที่ถูกรู้เข้าจนได้ “ไปรู้มาจากไหน?”
“คุโด้บอกว่านายเป็นเพื่อนกับพี่ชลในเฟส”
“ไม่ได้เป็นเพื่อน แต่เป็นน้องชายห่างๆของคุณชลธรต่างหาก”
“แล้วนายมายุ่งกับเราทำไม”
“ก็แค่อยากรู้น่ะว่า เวลาพี่ชายที่แสนสุภาพโกรธมันเป็นยังไง”
“นิสัยไม่ดี”
ภาริสยิ้มขำ เขาเป็นน้องชายต่างแม่กับชลธร แต่ก็สนิทกับพี่ชายคนโตมาตั้งแต่เด็ก ที่จริงตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจมาเรียนที่นี่เลย ที่มาโอเพ่นเฮ้าส์คราวก่อนก็เพราะอยากมาเยี่ยมพี่ชาย เห็นอยู่แต่มอเวลาว่างก็ไม่ยอมกลับบ้าน สมัยอยู่ปีต้นๆยังพอมีเวลากลับบ้านพาน้องไปเที่ยว แต่ช่วงหลังมานี่ เวลาแม้แต่เฟสไทม์คุยกันยังไม่มี ภาริสก็เลยใช้ช่วงเวลาก่อนไปเรียนที่อังกฤษในเทอมหน้า สอบเข้าคณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ชล ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพียงแค่อยากเรียกร้องความสนใจ ก็ไม่คิดว่าจะได้ผลขนาดนี้
“ทีแรกฉันก็แค่อยากรู้ว่านายมันมีอะไรดี ทำไมพี่ชายฉันถึงได้หลงนัก หน้าตาก็ขี้เหร่ น้ำก็ไม่อาบ แล้วยังซกมก..”
“นี่! อย่ามาว่าเรานะ!”
“แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า..”
“...”
“พี่ชายฉันมันตาบอด”
“ย๊า”
“จะบอกอะไรให้นะ สภาพแบบนายตอนนี้เนี่ย อย่าว่าแต่พี่ชายฉันเลย ขนาดฉันยังไม่อยากจะมอง”
ว่าแล้วก็ออกแรงฉุดร่างเล็กที่อยู่ในชุดนอนของขวัญใจให้ลุกขึ้นจากเตียง ตอนนั้นเองที่คนซุ่มซ่ามสะดุดเท้าตัวเองหงายหลัง ดึงภาริสให้ล้มเสียหลักลงกับเตียงไปด้วย อยู่ในท่าที่ร่างสูงคร่อมร่างเล็กอยู่ข้างใต้
“ย๊า ระวังหน่อยสิ”
ภาริสมองหน้าเจ้าคนที่ตกตะลึง เขาทำท่าจะลุกขึ้นออกจากร่างบาง จังหวะนั้นประตูห้องของขวัญใจก็ถูกกระชากออก เป็นชลธรที่เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็ชะงักอยู่ตรงนั้น มือข้างที่ถือถุงข้าวกลางวันเอาไว้กำเข้าหากันแน่น
...ภาพแฟนของเขาที่นอนอยู่บนเตียง ในชุดนอน มีน้องชายของเขานอนทับอยู่เหนือร่าง แขนของภาริสที่ช้อนอยู่ด้านหลังและปลายจมูกของทั้งคู่ที่แทบจะแนบติดกัน
มีความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะหนึ่ง จนกระทั่งภาริสเริ่มขยับตัวหันมาทางเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“พี่” ภาริสหลุดพูดออกมาได้เพียงวลี ไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ ประตูห้องนอนก็ถูกปิดดังปัง ทิ้งไว้เพียงเจ้าของห้องกับน้องชายที่ไม่ทันได้อธิบายอะไรออกมาสักคำ
“เฮือกกก”
“ปล่อยมือฉัน ถูกแล้ว ให้ใจของฉันปวดร้าวแค่ไหน
ยอมฝืนใจให้เธอ เดินจากฉันไป~
“ฮือ ฮือ ฮึก”
“วันเดียวบ้าอะไร ตอนจักรยานล้มมึงก็ร้อง โดนแมลงกัดมึงก็ร้อง”
“พี่ชลต้องขอเราเลิกแน่ๆเลยโด้ ฮือออ”
“กูเป็นรูมเมทกับมึงมานาน กูรู้ว่ามึงฉลาดน้อยยังไงอิขวัญ ดังนั้น กูจะพูดตรงๆเลยนะ แฟนมึงน่ะเขาเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อคุยกับมึงคนเดียวน่ะรู้มั้ย”
“โด้ร้องเพลงอยู่เหรอ”
“เฮ้อ กูพยายาม ..กูพยายามแล้วจริงๆนะ”
แล้วขวัญใจก็กดเปิดเพลงดูไว้ของยังโอมให้โด้ร้องสมใจ
หลังจากไถเงินเพื่อนมาหยอดตู้คาราโอเกะเพื่อร้องเพลงได้อีกหลายสิบเพลง คุโด้ที่เหนื่อยกับการร้องเพลงแข่งเสียงร้องไห้ของขวัญใจ ก็ยกน้ำขึ้นซด พอร้องไห้มาได้สักพัก เซเลปขวัญใจที่เริ่มกึ่มๆก็ยอมเปิดปากเป็นครั้งแรกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเดือนมหาลัย
“ที่จริงพี่ชลน่ะรักเรามากๆเลยนะโด้”
“อือฮึ”
“เมื่อคืนเราผิดเองที่ไม่ยอมบอกพี่ชลว่าจะไปเที่ยวกับน้องภาริส”
“คิดได้แล้วสิ”
“เราอยากขอโทษพี่ชล ที่เราก็ใช้อารมณ์เป็นเด็กๆมากไป ต่อไปเราจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่กว่านี้”
“ขึ้นปอสามแล้วสินะเพื่อนกู”
คนที่เลี้ยงเพื่อนมาตั้งแต่ปีหนึ่งรู้สึกตื้นตันใจนิดๆ เกือบจะจับเหม่งมันมาจูบแล้วเชียวถ้าแก๊งแม่ๆที่เลี้ยงนังขวัญมาเช่นกันไม่ยกโขยงกันเข้ามาก่อน ทั้งธิดา ทั้งไข่มุก สองคนนี้ก็อุ้มชูกันมาตั้งแต่นังขวัญใจหัดเดิน
“อ้าว ทีนี้ขนกันมาทั้งตี้เลย”
“เดี๋ยวนะอิขวัญ สภาพอย่างกับถูกผัวทิ้ง” ธิดาแทบจะกรี๊ด ตอนเห็นกองทิชชู่ข้างตัวเจ้าคนตัวเล็ก มันเกือบจะท่วมหัวขวัญใจอยู่แล้ว
“ถ้าพี่ชลเขาทิ้งแกแล้ว เดี๋ยวฉันดูแลให้แทนได้นะยะ” ซึ่งไข่มุกก็ทำหน้าที่จิตอาสาได้ดีเสมอ
“ไข่มุก!”
“โอ๋ๆๆเพื่อนล้อเล่น ดูซิฉันซื้ออะไรมาฝาก”
“บอนชอน!” นั่นแหละ คนที่นั่งสูดน้ำมูกอยู่เมื่อกี้ ถึงได้ดูสดใสขึ้นมาขีดหนึ่ง
“กินเสร็จแล้วก็มาเล่าให้ฟังซิว่าแกไปดื้ออะไรกับผัวฉันยะ”
แล้วมันก็เป็นหน้าที่คุโด้ที่รับหน้าที่เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้น โดยมีขวัญใจนั่งเบะปากพยักหน้าตาม จุดไหนอินมากๆ ก็จะช้อนตามองเพื่อน ทำน้ำตาคลอเบ้า แน่นอนว่าไม่มีใครกอดปลอบมีแต่เอามือเคาะกระโหลกด้วยความหมั่นไส้ที่มีว่าที่สามีดีขนาดนี้แล้วยังเอาแต่ขี้แยอยู่ได้
“ฉันว่าพี่ชลเข้าใจผิดไปขั้นนั้นแล้ว จะง้อด้วยคำพูดอย่างเดียวมันคงไม่พอ”
หลังจากฟังจบ ไข่มุกก็สรุปหน้าเครียด
“แล้วเราควรทำยังไง” ขวัญใจเลยขมวดคิ้วตาม
“ต้องง้อด้วยการกระทำ”
“ยังไง..”
“ไม่ต้องทำอะไรมาก ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”
แล้วคุโด้ก็รู้เลยว่าต่อไปนี้..พี่ชลงานงอกแน่นอนครับโผม
นี่ขวัญใจและผองเพื่อนนะ เผื่อทุกคนลืม!
ลุ้นเหนื่อยยย//ปาดเหงื่อฟีลลิ่งภีมพล
จริงๆตอนนี้ควรหั่นเป็นสองตอน แต่ยังไงก็ยาวมาขนาดนี้แล้วเนอะ
พาร์ทหน้าน้องจะง้อพี่แล้วน้า จะง้อยังไงดีน้า
ให้เดาอิๆๆ >3< ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้น้า
ฝากเม้นท์แอนด์ติดแท็กเหมือนเดิมนะค้า #ขวัญใจชบ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องขวัญใจจจจจ ทีหลังมีอะไรก็บอกพี่ชลไปตรงๆ เราผิดที่ไม่บอกเองนะ แล้วไปอารมณ์ใส่พี่ชลอีก คนเค้ากำลังหึงอ่ะ
เอาใจช่วยนะ
อีพี่ หายโกรธลูกเราไวๆเด้อออออ