ตอนที่ 18 : [SF] ขวัญใจ : ตอนที่ 12 (150%)
หลังจากขับรถออกมาจากมอ พี่ชลก็แวะเข้าไดร์ฟทรูซื้อแมคโดนัล กับชาเขียวสตาร์บัคส์ บอกให้ขวัญใจกินรองท้องไปก่อน วันนี้วันซ้อมรับปริญญาถนนเส้นนี้รถติดมาก กว่าจะถึงห้องพี่เราจะเหนื่อย ทีแรกขวัญใจก็จะให้พี่ชลไปส่งที่หอ แต่พอพี่เขาบอกว่าซื้อขนมจากรัสเซียมาฝากเต็มเลยอยู่ที่ห้อง ขวัญใจก็เลยไม่สงสัยอะไรอีก นอนค้างห้องพี่ชลก็ได้ ตอนเด็กๆขวัญใจก็เคยไปนอนค้างห้องเพื่อน
พอมีของกินอยู่เต็มสองมือ ถึงรถจะติดแหง็กอยู่บนถนน ขวัญใจก็ยังอารมณ์ดี ตัวเองกินอิ่มก็หยิบแฮมเบอร์เกอร์ส่วนของพี่ชลขึ้นมาป้อนให้พี่เขาระหว่างขับรถอยู่ แอบกัดกินบ้างนิดๆหน่อยๆ พี่ชลก็ไม่ว่าอะไร บอกว่าเป็นแฟนแล้วขวัญใจจะกินเท่าไรก็ได้
“พี่ชลกลับมาก่อน ก็น่าจะโทรมาบอกเรา”
“กลัวเราไม่ไปรับพี่น่ะสิ”
“พี่ชลกลัวหรอ”
“อือ”
ขวัญใจมองหน้าแฟนตัวยักษ์ที่ทำหน้าตาน่าสงสารเกินจริง นี่ถ้ามีน้ำตาเทียมอยู่แถวนี้คงแอบเอามาหยดเพิ่มเอฟเฟคท์น้ำตาคลอเบ้า คนตัวเล็กที่เพิ่งดูซีรี่ส์กับคุณแม่และไม่อยากทำลายบรรยากาศหวานๆ เลยหยิบทิชชู่มาเช็ดมือที่เปื้อนซอส ก่อนจะยื่นมือเล็กไปวางทาบกับหลังมือใหญ่ที่วางอยู่บนพวงมาลัย
“ไม่ต้องกลัวนะ ยังไงเราก็ตั้งใจจะไปรับพี่ชลอยู่แล้ว”
ประโยคเมื่อกี้จำมาจากซีรี่ส์เมื่อคืน ...คนน่ารักยิ้มเผล่ ตาเป็นรูปสระอิ ตอนที่ชลธรหันมามองเขาแทบอดใจยื่นมือไปหยิกแก้มยุ้ยนั่นไม่ไหว คนอะไรจะรวบรวมทั้งความน่ารัก น่าหยิก และน่าหมั่นไส้ เอาไว้ที่ตัวเองคนเดียวจนน่าแกล้งได้ขนาดนี้
“ขวัญใจ..”
“...”
“ถึงพี่จะกลับมาเร็ว แต่พี่ก็ไม่ลืมเรื่องที่เราติดค้างพี่ไว้อยู่นะ”
จู่ๆพี่ชลก็พูดเรื่องที่ขวัญใจเกือบลืม (ความจริงแกล้งทำเป็นลืม)ขึ้นมา ขวัญใจเผลอขบริมฝีปาก ดวงตาเรียวเล็กมองตรงไปที่ถนน ไม่กล้าสบตาคนข้างๆ ถามปากคอสั่น
“พะ..พี่ชลพูดเรื่องอะ..อะไร”
“ที่เรารับสายพี่ไม่ทัน รู้มั้ยว่ากี่มิสคอล”
นิ้วเล็กถูกยกขึ้นมาทั้งสิบนิ้ว ขวัญใจหักนิ้วลงช้าๆ ริมฝีปากก็พึมพำเบาๆ “ขะ..ขอเรานับก่อนนะพี่ชล”
“ถ้าไม่ยอมทำพี่จะริบช็อคโกแลตจากรัสเซียทั้งหมดเลยนะ”
“ฮื่อ พี่ชลอย่าเร่งสิ..เรากำลังนับอยู่” นับพลาดไม่ได้นะ เรื่องนี้ขวัญใจมีแต่เสียเปรียบกับเสียเปรียบ
ชลธรแอบมองคนข้างตัวที่ก้มหน้าก้มตานับอย่างตั้งใจ รู้แหละว่าจงใจถ่วงเวลา แต่เขาจะปล่อยเหยื่อให้ตายใจไปก่อน ให้เวลาคนตัวเล็กได้เตรียมใจสักนิด แต่ก็ไม่นานหรอก ยิ่งคนข้างๆน่ารักมากซะขนาดนี้ ลักยิ้มผุดขึ้นที่ข้างแก้ม เจ้าของเสียงทุ้มก้มลงกระซิบที่ข้างหูแฟนด้วยความเอ็นดู
“คิดนานไป...” ความอยากแกล้ง อยากเห็นร่างเล็กของเขาทำตัวไม่ถูก พอรถหยุดติดไฟแดง ชลธรก็ยกเบรกมือขึ้น ก่อนจะประทับจูบ ตรงมุมปากที่เบะออกมาน้อยๆของเจ้าคนที่กำลังนั่งทำใจ
“พี่เก็บดอกเบี้ยก่อนนะ” ชลธรส่งยิ้มเจ้าชู้ให้ขวัญใจที่นั่งนับนิ้วค้างไว้อยู่เลย พอนิ้วเล็กถูกหักลงทีละนิ้ว เหมือนกำลังเร่งตัวเองให้นับเร็วขึ้น เขาก็โน้มตัวลงไปสัมผัสมุมปากอีกข้าง ที่มีจุดขี้แมลงวันอยู่ ถ้าสัญญาณไฟจราจรไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวซะก่อนเขาคงมีเวลาบดจูบจนปากเล็กๆนั่นจนช้ำ
แต่ไม่เป็นไร ยังมีไฟแดงอีกหลายแยก!
“ดอกเบี้ยอะไรกัน พี่ชลน่ะขี้โกง” ขวัญใจบ่นเสียงอู้อี้ ก้มลงนับนิ้วต่อ เนี่ยถ้าพี่ชลไม่กวนก็รู้แล้วว่ากี่ครั้งกันแน่ที่รับสายไม่ทัน
“ไฟแดงอีกแล้ว”
เพราะกำลังเกาหัวแกรกๆด้วยความสับสน ขวัญใจเลยไม่ได้ยินว่าเมื่อกี้พี่ชลพูดอะไร กว่าจะรู้ตัวลมหายใจร้อนๆของพี่ชลก็รินรดอยู่ข้างหูแล้ว ขวัญใจจะหดคอหนี แต่ก็ช้ากว่าคนชอบฉวยโอกาส ที่โอบไหล่เล็กๆเอาไว้ด้วยวงแขนแข็งแรง
“ระ..เราไม่ให้พี่ชลจูบแล้วนะ” ร่างเล็กขู่ฟ่อ น่ากลัวที่สุดเท่าที่ขวัญใจจะทำได้แล้ว พี่ชลเป็นเจ้าหนี้ที่ใช้ไม่ได้เลย เอะอะๆก็เก็บดอกๆ ขวัญใจยังคำนวณต้นไม่เสร็จเลย แบบนี้น่ะเมื่อไรขวัญใจจะใช้หนี้หมดกัน
“ใครจะจูบ”
“กะ..ก็..”
“พี่จะบอกว่าไฟแดงหน้าก็ถึงห้องพี่แล้ว..หรือขวัญใจอยากให้พี่จูบต่อก็บอกมาตรงๆ” ถามหน้าตายแบบไม่เกรงใจเจ้าคนน่ารักที่เขินจนแก้มสั่น แล้วตอนที่ร่างเล็กหันไปมองถนน ชลธรก็ก้มลงกดปลายจมูกกับแก้มโย้เสียงดังฟอด
ขวัญใจเบิกตาโพลง หันไปมองคนที่กำลังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตาเขียวปั้ด แต่คนตัวโตกลับยิ้มหน้าเป็น “ก็แก้มเราหอม พี่เลยอยากรู้ว่าเราใช้แป้งยี่ห้ออะไร”
พอโดนหมัดตรงของคนพี่หลายรอบเข้า ขวัญใจก็ชักไปไม่เป็น ขยับตัวจะซุกเข้าซอกรถหนีคนชอบฉวยโอกาส ชลธรก็ล็อคคอคนที่สรีระตกเป็นรองเขาทุกทางเอาไว้ ก่อนจะดึงตัวเจ้าคนน่ารักมาปล้ำจูบอีกครั้ง คราวนี้เขาเก็บทั้งต้นทั้งดอก แทบไม่เปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่ชินได้หายใจ กว่าจะยอมปล่อยปากเล็กๆก็ช้ำไปหมด
ขวัญใจยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง ตัวสั่น หน้าแดง แทบทรุดลงไปกับเบาะ ถึงอย่างนั้นปากเล็กก็พยามจะอธิบาย “ระ..เราไม่ได้ทาแป้ง--”
ไม่ทันได้พูดจบหรอก คนที่อดทนรอโอกาสมาตลอดหลายเดือนก็ก้มลงใช้จมูกกดลงข้างแก้มน้องอีกรอบ
“อืม ไม่ใช่แป้งจริงๆด้วยแฮะ”
จนไฟเขียวอีกครั้งนั่นแหละ ชลธรถึงยอมปล่อยคนตัวเล็กที่ไม่ได้ทาแป้งแต่หอมไปทั้งตัวให้ได้พักหายใจ
คุโด้กับไข่มุกก็เคยเตือนขวัญใจแล้วว่า พี่ชลน่ะไม่ธรรมดานะ ต้องระวังตัวเองด้วย นี่ถ้าคุโด้กับไข่มุกรู้ว่าเป็นแฟนกันวันแรก ขวัญใจก็โดนจูบไปตั้งสี่หนแล้ว สองคนนั้นต้องหยิกขวัญใจจนเนื้อเขียวแน่
ทีแรกก็ตั้งใจจะขัดขืนอยู่หรอก แต่พี่ชลชอบจู่โจมเข้ามาทีเผลอ แล้วขวัญใจก็ไม่ทันตั้งตัวด้วย รู้ตัวอีกทีก็เผลอใจสั่นไปกับสัมผัสของเขา
แล้วนี่ยังเดินขึ้นรถเข้ามาต้อยๆ
คิดแล้วก็อยากตีตัวเองที่เห็นแก่ของกิน มากกว่าสวัสดิภาพของตัวเองจริงๆ
ขวัญใจนึกว่าพี่ชลจะพาไปคอนโดแถวรังสิต แต่บีเอ็มของพี่ชลกลับขับเข้ามาจอดในเขตรั้วโรงแรมสูงที่เป็นที่พักตากอากาศชานเมือง พร้อมกับพนักงานที่เดินมาเปิดประตูให้ทันทีที่รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใคร ขวัญใจถึงนึกขึ้นได้ว่า พี่ชลเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจโรงแรมในเครือที่ดังมากๆแบรนด์หนึ่งของประเทศไทย
ร่างเล็กที่ถูกล่อลวงมาก็ไม่เชิง เพราะเต็มใจเดินขึ้นรถเขามาเอง ถูกลูกชายเจ้าของสถานที่จูงมือเดินผ่านห้องหับหรูหรา ทีแรกขวัญใจนึกว่าพี่ชลคงให้ขวัญใจนอนพักห้องใดห้องหนึ่งในโรงแรมนี้ แต่พอลิฟท์เคลื่อนมาหยุดชั้นบนสุด ร่างเล็กกลับอ้าปากค้างกับความใหญ่โตอลังการของห้องเพ้นท์เฮ้าส์ที่มีอยู่เพียงสองห้องบนชั้นที่สูงที่สุดของโรงแรม พี่ชลบอกว่า ห้องหนึ่งเป็นของคุณพ่อคุณแม่ ส่วนอีกห้องเป็นของพี่ แล้วขวัญใจก็ถูกจูงมือเข้าไปห้องพี่ชลอย่างว่าง่าย
ไม่รู้หรอกว่าห้องที่กินพื้นที่เกือบครึ่งชั้นของพี่ชลราคาเท่าไร แล้วขวัญใจก็ไม่กล้าเดาด้วย แค่เปิดประตูห้องเข้าไปคนตัวเล็กก็ยืนตะลึงกับวิวภูเขาด้านนอกกระจกบานใหญ่ ที่ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของห้องก็สามารถเห็นวิวภูเขากับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มได้ชัดเจน แถมยังตกแต่งด้วยเครื่องเรือนโทนสีเรียบแต่หรูหราเข้ากันกับบุคลิกของเจ้าของห้อง ซึ่งขวัญใจไม่รู้หรอกว่านำเข้ามาจากประเทศไหนบ้าง แต่ไม่มีให้เห็นในเมืองไทยแน่ๆ ยิ่งสำรวจยิ่งไม่กล้าแตะต้องสมบัติของเจ้าของห้อง ลำพังหนี้เก่าที่ติดพี่ชลไว้ กว่าจะใช้หมด ขวัญใจก็แทบไม่ทันได้หายใจ ขืนทำข้าวของพี่ชลพัง มีหวังพี่เขาคงเอาตัวขวัญใจมาล่ามไว้ที่ห้องให้ใช้หนี้ไปจนตายแหงๆ
ชลธรปล่อยแฟนตัวเล็กให้เดินสำรวจจนพอใจ อีกหน่อยเวลามาอยู่ด้วยกันขวัญใจจะได้รู้สึกสบายๆเหมือนอยู่บ้าน แม้การพามาครั้งแรกต้องล่อลวงด้วยขนม ชลธรก็แอบหวังว่าครั้งต่อๆไปเจ้าตัวจะขอมาเองเพราะอยากมา ส่วนเขาจะได้ถือโอกาสที่อยู่กันสองต่อสองฟัดเจ้าคนที่หมั่นเขี้ยวมานานให้เต็มที่ ..อะแฮ่ม..หมายถึง จะได้ดูแลขวัญใจได้มากขึ้นไง
“ไปอาบน้ำก่อนไป เดี๋ยวพี่โทรสั่งข้าวกับรูมเซอร์วิส อาบเสร็จแล้วจะได้ออกมากินพอดีเลย”
“ได้เลย พี่ชลรู้ใจเราที่สุด”
พอได้ยินว่าจะได้กินอีกแล้ว ขวัญใจที่แสนว่าง่ายก็เดินไปตามทางที่เจ้าของห้อง ชี้ให้เห็นว่าเป็นห้องน้ำ ตั้งใจจะรีบอาบน้ำแต่งตัวให้ไวที่สุด เพราะเริ่มดึกก็เลยชักจะหิวขึ้นมาอีกแล้ว
จัดการลบเมคอัพออกด้วยรีมูฟเวอร์ราคาแพงหูฉี่ของพี่ชล ที่ใช้ดีมากปาดแค่ทีเดียวจากตาที่กรีดอายไลน์เนอร์เอาไว้ก็เหลือแต่ตาเล็กๆ ที่พี่รหัสชอบล้อว่าเล็กเท่าเม็ดก๋วยจี๊ ขวัญใจยืนขำตัวเอง กำลังคิดว่าถ้าลบคิ้วออกด้วยพี่ชลต้องตกใจแน่ๆเลย ขวัญใจนี่มันเด็กดอยใจดีชัดๆ
พออาบน้ำเสร็จ ขวัญใจก็นุ่งผ้าเช็ดตัวที่มีลายขอโรงแรมออกมาจากห้องน้ำ ติดกับห้องน้ำเป็นห้องนอนใหญ่ของเจ้าของห้อง ที่เครื่องเรือนส่วนใหญ่ยังคงเป็นโทนสีเข้ม ขวัญใจต้องใช้เวลามองหาอยู่นานกว่าจะเจอตู้เสื้อผ้า ที่เป็นสีเดียวกับผนัง เพียงใช้นิ้วแตะสัมผัสตรงประตูตู้ ประตูก็จะค่อยๆเลื่อนออกได้เอง
ตะลึงกับตู้แล้ว ขวัญใจยังต้องตะลึงกับเสื้อผ้าในตู้ อยากจะยืมเสื้อยืดเก่าๆของพี่ชลมาใส่ชั่วคราวสักตัว ในตู้ก็มีแต่เสื้อแบรนด์เนมที่ขวัญใจไม่กล้าเอามาใส่นอนแน่ๆ
หลับตาหยิบเสื้อยืดสีขาวเรียบๆออกมาหนึ่งตัว ไม่ได้ตั้งใจทำตัวโรคจิตนะ แต่อยากลองสักนิดไง.. จมูกเล็กของขวัญใจฝังลงกับเสื้อสีขาวเนื้อดี ที่เดาเอาเองว่าพี่ชลใช้ใส่นอนเป็นประจำ
แล้วก็ยืนหน้าแดง เพราะเสื้อตัวนั้นมันมีกลิ่นของพี่ชลเต็มๆ ให้ตาย แล้วขวัญใจจะกล้าใส่ได้ยังไง ขืนใส่ตัวนี้มีหวังนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ๆ
“ไม่ได้ๆ” มือเล็กตบหน้าผากตัวเองเรียกสติ รีบพับเสื้อตัวนั้นเก็บเข้าที่เดิม สำรวจหาเสื้อตัวใหม่ที่เจ้าของน่าจะไม่ค่อยได้ใช้
“โอโห..กุชชี่..ใครจะกล้าใส่นอน” แต่ก็นั่นแหละ ตู้เสื้อผ้าคนรวย ไม่แปลกใจเลยที่ตอนเจอพี่ชลวันแรก ทั้งตัวพี่เขาถึงมีแต่ของแพงระยับจนขวัญใจมองแล้วยังแสบตา นี่ขวัญใจก็ไม่รู้จะทำยังไงดี กำลังคิดว่าถ้านอนเปลือยแบบนี้ทั้งคืนเจ้าของห้องจะว่าอะไรมั้ยนะ
หลังจากส่งแฟนเข้าห้องน้ำไปแล้ว ชลธรก็เดินไปบริเวณครัวเล็กๆ หยิบนมจากตู้เย็นมาเทใส่แก้ว ก่อนจะเอาเข้าไมโครเวฟอุ่นให้ร้อนกำลังพอดี ยืนยิ้มรออย่างเหม่อลอย จนได้ยินเสียงเครื่องไมโครเวฟดังติ๊ง เขาถึงรู้ตัวว่าเผลอเหม่อมองประตูห้องนอนตัวเอง ที่แฟนตัวเล็กเพิ่งเดินเข้าไปเหมือนคนบ้า
ขวัญใจ...
จำไม่ได้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่แค่นึกถึงเจ้าของชื่อเขาก็หลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ตั้งแต่เมื่อไรที่เขาไม่มีสมาธิทำงานเลย เวลาถูกเจ้าของชื่อเมิน
ตั้งแต่เมื่อไรที่อยากพาขวัญใจมานอนห้องส่วนตัวของเขา ทั้งที่ไม่เคยอนุญาตให้เพื่อนหรือแฟนคนไหน
เข้ามาในห้องห้องนี้
ชลธร ยังจำวันที่ขวัญใจเอาร่มมาให้เขายืมได้ เคยคิดว่า ขวัญใจ มันก็เป็นแค่ไอ้ตัวกระเปี๊ยกที่สู้อะไรเขาไม่ได้เลย แต่ยิ่งได้รู้จัก ได้ใกล้ชิด ชลธรก็พบว่าเขาต่างหากที่แพ้ขวัญใจทุกทาง
รูมเซอร์วิสนำมื้อเย็นที่เขาสั่งขึ้นมาส่ง ชลธรกำลังกลัวว่าแฟนตัวเล็กจะเห่ออ่างจากุชชี่แล้วลงไปแช่จนไม่สบาย จึงตัดสินใจเดินเข้าไปตาม ด้วยความไม่เคยพาใครเข้ามาในห้องตัวเอง เขาจึงเปิดประตูห้องนอนโดยไม่ได้เคาะ
ภาพที่เห็นร่างเล็กก้มลงฝังจมูกกับเสื้อนอนของเขา ทำหัวใจที่แข็งแกร่งดังหินผาระเบิดดังตูม ยิ่งร่างเล็กนั่นเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เปลือยท่อนบน เผยให้เห็นผิวขาวบอบบาง ที่มีเพียงผ้าขนหนูปิดบังส่วนใต้สะดือลงไปอย่างหมิ่นเหม่ ชลธรก็แทบจะเลือดกำเดากระฉูด
เขาต้องรวบรวมสติอยู่นาน กว่าจะตัดสินใจเคาะประตู เจ้าคนที่ไม่รู้ว่าพี่ชลมาอยู่ตรงนี้นานเท่าไรแล้วสะดุ้งโหยง ขวัญใจยกมือขึ้นเกาท้ายทอย พอเห็นพี่ชลยืนมองมาด้วยใบหน้าเรียบสนิท ยิ่งทำตัวไม่ถูก
“พี่ชลไม่มีเสื้อยืดตราห่านให้เรายืมสักตัวเหรอ”
ชลธรถอนหายใจ ถ้าปล่อยขวัญใจหาเสื้อใส่เอง ไม่แน่ว่าคืนนี้เจ้าตัวอาจถอดเสื้อนอน ขืนทำแบบนั้นชลธรคงไม่มีสมาธิทั้งคืนแน่ๆ ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้คนตัวขาวที่ยืนเปลือยท่อนบน เป็นภาพที่ล่อเสือล่อตะเข้อย่างเขาได้ดีจริงๆ เขารีบหยิบเสื้อของตัวเองที่อยู่ในตู้ออกมา
“ใส่ตัวนี้แหละ”
ขวัญใจสะดุ้งเฮือก ตอนที่พี่ชลกางเสื้อยืดออกแล้วสวมมันลงมาผ่านศีรษะเล็ก กลิ่นน้ำหอมของพี่ชลที่กระจายอยู่ทั่วห้อง ยิ่งตอนที่ยืนอยู่ใกล้มันก็ยิ่งชัดเจน ทำขวัญใจใจเต้นเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ของวัน ร่างเล็กยกแขนขึ้นสอดเข้าแขนเสื้ออย่างเงอะๆงะๆ ไม่กล้าสบตาแฟนหมาดๆ ที่จนแล้วจนรอดก็ยังทำดาเมจต่อเนื่อง ด้วยการยื่นหน้าเอาริมฝีปากมาชิดข้างหู จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าว
“ต้องให้พี่ใส่กางเกงให้ด้วยมั้ย”
“เดี๋ยวเราใส่เอง!”
หลังจากกินข้าวเสร็จและแกะห่อขนมของฝากกินจนพอใจ ขวัญใจที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวไซส์ XL เตรียมพร้อมนอน ก็ย้ายตัวเองมาอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวีจอยักษ์ ไม่มีอะไรอยากดูเป็นพิเศษหรอก แต่เห็นแฟนนั่งอ่านหนังสืออยู่ขวัญใจก็เลยอยากจะนั่งเป็นเพื่อน ถือโอกาสแอบมองตอนพี่ชลนั่งอ่านหนังสือด้วย
ขวัญใจน่ะชอบมองเวลาพี่ชลตั้งใจทำอะไรสักอย่างที่สุดเลย จากที่ปกติก็ว่าหล่ออยู่แล้วนะ ตอนใส่แว่นนั่งหลังพิงโซฟา มือนึงถือชีท อีกมือเปิดเท็กซ์บุ๊ค แล้วหูก็ยังฟังขวัญใจคุยไปด้วยได้ ไม่รู้ว่าพี่ชลทำได้ไง แต่พี่ชลตอนนี้น่ะเท่ห์มากๆเลย
“พี่ชลพยากรณ์อากาศบอกคืนนี้ฝนจะตกแหละ”
“อืม เมื่อกี้พี่เห็นข้างนอกฟ้าแลบแวบๆ”
“จริงเหรอ”
เงยหน้ามองนอกหน้าต่างบานโต ที่เห็นเส้นสีขาวพาดลงมาจากก้อนเมฆดำทะมึนอย่างหวาดๆ ตอนหัวค่ำเห็นท้องฟ้ามืดๆกับดาวประจำเมืองดวงเล็กๆก็ว่าวิวห้องนี้สวยดีอยู่หรอก แต่พอรู้ว่าคืนนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ขวัญใจก็ชักจะหน้าซีด
“พี่ชลง่วงรึยัง เราไปนอนกันดีมั้ย เริ่มง่วงแล้วเนี่ย”
มือสวยยกรีโมทขึ้นมากดปุ่มปิดทีวี
“โอเค เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
ชลธรเลยต้องขยับตัวปิดหนังสือ ใช้โทรศัพท์คั่นหน้าไว้ชั่วคราวจูงแฟนตัวเล็กที่เริ่มง่วงและทำท่าจะนอนมันตรงโซฟานี่แหละเข้าไปนอนในห้องนอนใหญ่ดีๆ
ก็เคยคิดไว้ว่าสักวัน หากมีคนตัวเล็กมาร่วมแบ่งปันพื้นที่ในห้องใหญ่ห้องนี้ เขาจะมีความสุขขนาดไหน ชลธรก็ไม่นึกหรอกว่าความสุขเวลาที่ได้ดูแลคนที่เรารักมันจะทำให้หัวใจพองโตขนาดนี้
แค่เห็นขวัญใจมานอนบนเตียงที่เขานอนคนเดียวอยู่ทุกวัน มันก็เกินที่ฝันมาตั้งไกล
ก็อยากจะนอนกับแฟนเหมือนที่คู่อื่นเขาทำกันนะ
แต่นั่นแหละ แค่อยู่ใกล้กันในรถเขายังคุมตัวเองไม่ได้ แล้วภาพตัวขาวๆที่ไม่ใส่อะไรเลยก็ยังติดอยู่ในความทรงจำ
ชลธรก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ ถึงได้ไม่รู้สึกอะไร
เพราะงั้นถึงจะต้องทิ้งแฟนให้นอนเหงา แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของขวัญใจเอง..
“ไม่นอนด้วยกันเหรอ”
เขาก็ควรจะหาข้ออ้างดีๆ เพราะขวัญใจน่ะชอบเอาตัวเองมาเสี่ยงอันตรายแบบที่ไม่รู้อะไรเลยอยู่เรื่อย
“พี่ต้องทำรายงานให้เสร็จน่ะสิ คืนนี้ไม่รู้จะได้นอนรึเปล่า”
เขายิ้มอบอุ่นให้เจ้าลูกหมาที่เขาส่งเข้านอนแล้วก็ยังไม่ยอมนอนนิ่งๆ พอเขาหันหลังเจ้าคนที่โดนรังแกตั้งแต่บนรถกลับดึงชายเสื้อเขาไว้ ชลธรมองฟ้าผ่าที่นอกหน้าต่าง คืนนี้คงมีพายุเข้า แต่มันคงสู้พายุในใจเขาที่กำลังปั่นป่วนอย่างรุนแรงไม่ได้
“พี่ชลเอางานมาทำบนเตียงก็ได้นี่”
รู้สึกเหมือนกำลังถูกทดสอบความอดทนจากพระเจ้า
“พาเรามานอนด้วย ก็ต้องมานอนกับเราสิ”
ตอนนั้นเอง ที่ฟ้าผ่าเสียงดังเปรี้ยง ขวัญใจสะดุ้งตัวโยน ปากเล็กสั่นหงึกๆ รีบหดแขนหดขาเข้าใต้ผ้าห่มเหมือนเต่าที่ผลุบตัวเข้ากระดอง
“กลัวเสียงฟ้าร้องเหรอ” เขาถามเจ้าคนที่หลับตาปี๋อย่างเอ็นดู กำลังขยับตัวเดินไปปิดม่านบังตาให้อีกชั้น มือเล็กก็ยืนออกมาจากผ้าห่มคว้าชายเสื้อของเขาไว้อีกรอบ
“พี่ชลมานอนเป็นเพื่อนเลย เรานอนไม่หลับแล้ว”
ชลธรถอนหายใจ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รายงานไง เขาน่ะก็อยากนอนปลอบแฟนให้หลับฝันดี แต่ชลธรรู้ตัวเองดีว่าความรู้สึกที่เขามีต่อขวัญใจมันรุนแรงแค่ไหน คนตัวเล็กคงต้องร้องไห้แน่ๆ ถ้ารู้ว่าในหัวเขาคิดจะทำอะไร
เขายิ้ม แกล้งขู่ให้ขวัญใจลองชั่งใจดูอีกที
“ถ้าให้พี่นอนด้วย พี่ไม่นอนเป็นเพื่อนนะ”
เขาเว้นจังหวะ ก่อนจะโน้มหน้าลงมาจนริมฝีปากชิดกับใบหูเล็กของเจ้าคนที่นอนลืมตาโพลงในความมืด
“พี่จะนอนเป็นแฟน”
ขวัญใจทำปากยื่นใส่คนตัวโตที่เอะอะก็หยอดกันอยู่เรื่อย ไม่รู้ใช้วิธีนี้ล่อลวงสาวๆมาตั้งกี่คนแล้ว ยิ่งพอรู้ว่าขวัญใจไม่เคยมีแฟนมาก่อน ยิ่งชอบพูดอะไรแปลกๆให้ขวัญใจใจเต้นอยู่เรื่อย
แต่คืนนี้ขวัญใจจะเอาชนะพี่ชลดูบ้าง ..ยังไงพี่ชลก็น่ากลัวน้อยกว่าคุณท้องฟ้า
“งั้นก็มาสิ” มือเล็กคว้ามือใหญ่ของคนที่กำลังหันหลังเดินออกไปจากห้องเอาไว้
ชลธรแทบไม่เชื่อหูตัวเอง นี่เขาขู่ขนาดนี้แล้วนะ
“พูดกับพี่แบบนี้ ขวัญใจแน่ใจแล้วใช่มั้ย” เสียงทุ้มต่ำถามออกไป จงใจแกล้งยั่วคนที่นอนกัดปากตัวเองอยู่บนเตียง เจ้าคนที่ดูอยากเอาชนะเขาในตอนนี้กลับทำหน้าเหมือนลูกหมาขี้อ้อน ที่รอให้เจ้านายจับฟัด
..คงเป็นเพราะร่างสูงของพี่ชลที่ก้าวขึ้นมาบนเตียง
เท่านั้นไม่พอ คนเจ้าเล่ห์ยังกักร่างของคนตัวเล็กกว่าไว้ด้วยแขนแข็งแรงทั้งสองข้าง
วินาทีนั้น ขวัญใจรู้แล้วว่าพี่ชลน่ะน่ากลัวไม่น้อยกว่าคุณท้องฟ้าเลย!!
แต่เดี๋ยวก่อนนะ ขวัญใจแค่ขอพี่ชลนอนเป็นแฟนเองนะ! นอนเป็นแฟนก็แค่นอนกอดกัน จับมือกัน แล้วภาพก็ตัดไปที่โคมไฟ แล้วพระเอกนางเอกก็หลับฝันดีไง ไม่ใช่เหรอ!! แล้วทำไมพี่ชลถึงทำสายตาแพรวพราวส่งมาให้ขวัญใจแบบนี้ล่ะ ที่เห็นในละครไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ
“คะ..คนอื่นเขานอนเป็นแฟนกันอย่างนี้เหรอพี่ชล”
ริมฝีปากที่ถูกฟันเล็กขบกัดจนเป็นสีชมพูระเรื่อ เหมือนจะจงใจดึงดูดให้คนที่พยามควบคุมอารมณ์ตัวเอง ได้เข้าไปลองลิ้มชิมรสชาติ ชลธรรู้ดีว่าคนใต้ร่างเขาไม่ได้ตั้งใจจะเย้ายวนหรือเชิญชวนแต่อย่างใด ขวัญใจยังคงเป็นขวัญใจที่รู้สึกอย่างไร ก็แสดงออกมาอย่างนั้น แต่ขวัญใจไม่มีทางรู้หรอกว่า ไอ้ธรรมชาติแบบนั้นมันไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย มันกลับกำลังยั่วเย้าให้ความอดทนของชลธรลดลงเรื่อยๆ
“ขวัญใจอยากรู้มั้ยล่ะ”
เขาเว้นจังหวะ จุดยิ้มที่ข้างแก้ม “พี่จะสอนให้”
ถึงจะพูดยิ้มๆ แต่แววตาเขาร้ายกาจน่าดู ชลธรใช้สายตากวาดมองเจ้าของดวงหน้าหวานที่ตอนนี้หน้าแดงแจ๋ ห้องที่เงียบกริบทำให้เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวเหมือนกลองของคนตัวเล็ก..หัวใจคนละดวงที่เต้นดังเหมือนกับหัวใจของเขา
“ระ...ระ...เรา..งะ..ง่วง..แล้วพี่ชล” คนตัวเล็กละล่ำละลัก พลิกตัวตะแคงข้าง ถ้าทำได้ขวัญใจก็อยากเอาแก้มแดงๆมุดลงไปกับเตียงหนีอายให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อกี้ขวัญใจจะเอาชนะพี่ชลให้ได้อยู่เลย แต่ตอนนี้ทำไมถึงกลายเป็นพี่ชลที่ต้อนขวัญใจจนมุมแบบนี้เล่า
“ไม่อยากรู้แล้วเหรอ คนเป็นแฟนเขานอนกันยังไง”
“มะ..ไม่..”
แล้วพอขวัญใจตอบด้วยหางเสียงแตกพลิ้ว ริมฝีปากร้อนของชลธรก็ประกบลงพอดีกับกลีบปากหวาน จูบร้อนแรงทำคนตัวเล็กร้อนวูบวาบเหมือนคนเป็นไข้ พี่ชลจู่โจมเข้ามาตักตวงจูบจากขวัญใจครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อให้เกิดอารมณ์วูบวาบรุนแรงเสียยิ่งกว่าพายุที่โหมกระหน่ำอยู่ด้านนอก ขวัญใจไม่รู้ตัวเลยว่าถูกอ้อมแขนแข็งแรงอ้อมมาช้อนด้านหลังไว้ตอนไหน
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แผ่นอกขาวสัมผัสกับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เมื่อเสื้อยืดที่ใส่ไว้ก่อนนอนถูกมือหนาเลิกขึ้นไปกองอยู่ตรงอก
ขวัญใจคิดว่าคงจะใจขาดเสียแล้ว ยิ่งตอนที่จมูกโด่งของคนช่างรังแกซุกไซ้ไปทั่วผิวบอบบาง ก่อนจะทิ้งรอยคิสมาร์กเอาไว้ตรงหลุมเหนือสะดือ
“อื้อออ..พี่..ชล”
“ครับ”
พอพี่ชลเงยหน้าขึ้นมาตอบรับด้วยน้ำเสียงทุ้มปนแซ็กซี่แบบนั้น ขวัญใจก็เหมือนจะมือไม้อ่อน เรี่ยวแรงที่พยามรวบรวมมามาต่อต้านผู้ชายร้อนแรงตรงหน้า..ก็เหมือนจะอ่อนปวกเปียกสู้อะไรเขาไม่ได้เลย
“สงสัยไม่ได้นอนแล้วมั้งคืนนี้” หยอกเย้าเจ้าคนที่เหมือนสติหลุดลอยไปแล้วด้วยคำพูด พอได้ยินแบบนั้นขวัญใจก็เบะปากใส่ ทำให้ได้รับการลงโทษเป็นการถูกป้อนจูบให้อีกครั้ง คราวนี้ชลธรใช้ลิ้นสอดเข้าไปในโพรงปากอุ่นเก็บเกี่ยวความหวานจนคนอ่อนหัดส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ
“อ๊ะ”
ขวัญใจหลุดอุทานออกมาตอนที่ฝ่ามือร้อนลูบไล้ลวนลามไปถึงสะโพกที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงนอน เจ้าของใบหน้าคมคายที่กำลังทำคิสมาร์กตรงซอกคอขาวกลิ่นหอมละมุนเหมือนนมอุ่นๆถึงได้สติ
ชลธรหยุดชะงัก เขาอยากให้ทุกคนบนโลกนี้ได้รู้เหลือเกิน ว่าเขาต้องใช้สติมากแค่ไหนเพื่อถอยออกมาก่อนที่อะไรๆมันจะเกินเลย
ตาคมกวาดมองร่างเล็กที่นอนหอบหายใจ แขนทั้งสองข้างที่น่าจะเอามาใช้ปัดป้องตัวเองในเวลาที่ตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ กลับยอมจำนนให้มือหนาของคนตัวโตล็อคเอาไว้เหนือศีรษะ ทั้งปากเล็กที่เคลือบด้วยน้ำสีใส เสื้อนอนที่ถูกเลิกขึ้นจนปิดบังอะไรไม่ได้ กางเกงนอนที่ถูกปลดลงจนเห็นขอบชั้นในตัวจิ๋ว และรอยคิสมาร์กที่เขาทิ้งเอาไว้บนผิวขาวเนียน
ขวัญใจไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองน่ะน่ารังแกขนาดไหน
“ให้ตายเถอะ..”
...เขาตั้งใจจะรอ จนกว่าจะถึงวันที่ขวัญใจพร้อม
ไม่ใช่ถูกล่อลวง จนหมดทางสู้แบบนี้
“พี่ชล”
ถึงแม้อีกคนจะเรียกชื่อเขาด้วยเสียงผะแผ่ว ราวกับจงใจยั่วเย้าให้ใจเต้นกระหน่ำ
น้องยังไม่ประสา...
เขาย้ำกับตัวเองซ้ำๆ ยากกว่าเรียนให้ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ก็คือการต้องรวบรวมกำลังใจทั้งหมดที่มีผละออกจากร่างนุ่มนิ่มตรงหน้านี่แหละ ร่างสูงถอยหลังลงจากเตียงมาตั้งหลักได้ ก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไม่พูดไม่จา ทิ้งเจ้าคนใสซื่อที่น่าบีบที่สุดในโลกนอนมองประตูห้องน้ำที่ปิดดังโครมด้วยความสงสัย
“พี่ชลจะไปไหน”
“...”
“ปวดท้องเข้าห้องน้ำเหรอ(・□・;)”
ยังค่ะ ยังไม่คัท ใจเย็นนะคะ
ตั้งใจอัพมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์พี่น้องแบคโดยเฉพาะ
คนอะไรน่ารักได้ทุกวี่ทุกวัน พูดแล้วก็คิดถึง EXO จัง
ดีใจมากๆๆเลยนะคะที่ฟิคนี้เป็นฟิคฟีลกู้ดสำหรับทุกคน ขอบคุณสามพันครั้งเลยค่ะ
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีเเต่เรื่องเครียดๆ ถ้าน้องขวัญใจทำให้คนอ่านยิ้มออกมาได้
เราก็รู้สึกประสบความสำเร็จแล้วค่ะ
อาจมีหลายอย่างที่เราบกพร่องไปบ้าง ยังไงจะพยามระวังและอันไหนแก้ไขได้จะปรับแก้ให้นะคะ
สุดท้ายสำหรับคนที่รอรวมเล่ม เดี๋ยวภายในสองถึงสามวันนี้เราจะอัพรูปเล่มพร้อมรายละเอียดให้นะคะ
กำลังพยามหาของที่ระทึกให้อยู่ค่ะ ส่วนราคาที่เราประมาณไว้อยู่ที่ 350 บาท ต่อชุดไม่เกินนี้ค่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชั้นลุ้นจนมือไม้สั่น ใจหายใจคว่ำ
หนูจะโดนพี่เค้ากินแล้วลูกเอ๊ยยยย
แงงงงงช้านเขินไปหมดแล้ววววววววว