-
งืม หลังจากอ่านจบ เราจะจัดละนะเบสนะ 55555 จากที่เคยสัญญากันไว้เมื่อปีที่แล้วว่าจะมาวิจารณ์ยาวๆ
-ตัวละคร > เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวอย่างชัดเจน ชอบตัวละครเรื่องนี้ตรงที่แต่ละตัวมีข้อดี-ข้อเสียเหมือนมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆทั่วไป (ถึงมันสมองจะระดับอัจฉริยะก็เหอะ) มีพลาด มีล้มบ้าง แต่ชอบในวิธีการแก้ปัญหา ชอบในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ไม่ใช่ง้องแง้งจะทำตามอุดมการณ์ของตัวเองอย่างเดียวทั้งๆที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย เช่นจากอเล็นเล่ใสๆ แม้ตอนนี้นางจะยังใสอยู่ แต่เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทำให้นางเข้มแข็งขึ้น มีไหวพริบมากขึ้น ตัวละครแต่ละตัวนั้นปั้นออกมาได้สมจริงในระดับสอง(เอ่อ หมายความว่ามากกว่าระดับหนึ่ง 555) มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนจริงๆ ทำให้เราเชื่อได้ว่ามันมีอยู่จริงในโลกใบนี้
-ภาษาและการบรรยาย > ขอบอกว่าดีกว่าตอนแรกที่เราเข้ามาอ่านเยอะมาก 555 เบสต์ถือเป็นนักเขียนที่มีการพัฒนาตัวเองได้เร็วมาก การบรรยายของเบสต์สั้น กระชับ สนุก อ่านแล้วเข้าใจง่าย (เราอิจฉาเบสต์เรื่องนี้อยู่เลย เรานี่ติดบรรยายทีนึงยาวเป็นหางว่าว T_T) ถ้าเปรียบเป็นหนัง นิยายของเราคงจะเป็นแนวๆสงคราม-ดราม่าดาร์คๆ บรรยากาศขาวดำอึมครึมทั้งเรื่อง มุมกล้องแพนช้าๆเน้นซูมท่าทาง ปฏิกิริยาและภาษากายของตัวละคร ไม่ก็ตั้งแช่ไว้ ในขณะที่ Intimate Mind จะใช้เทคนิคมุมกล้องและแสงเงาหลากหลายกว่าในการสื่อให้ผู้ชมได้ดู ดำเนินเรื่องเร็ว ฉากแอคชั่นตัดฉับไปฉับมาสะใจไม่มีสโลว์โมชั่น แสงจ้าๆกล้องสั่นๆเน้นภาพรวมมากกว่าตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง ส่วนฉากที่ดีซีกำลังครุ่นคิดก็ทำได้ดี แสงเงามืดๆกล้องนิ่งๆ ตอนที่วิคเตอร์กำลังจะเดี้ยงก็ให้ภาพแบบฝันๆ หมอกกระจายฟุ้งๆ เศร้าๆ อึนๆ ไม่รู้สิ เวลาอ่านนิยายเราชอบคิดตามเป็นภาพอ่ะ และนิยายของเบสต์มันให้ครบรสจริงๆ เหมือนจ่ายตังแค่สามสิบบาท ได้ราดหน้าทะเลใส่ไข่มาจานใหญ่ไรงี้
-มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง
-ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ติอะ หนึ่งเลยก็คือการใช้คำ สั้น กระชับ คือข้อดี แต่ข้อเสียคือมีคำซ้ำบางประโยค และบางทีการใช้คำมันยังไม่อีปิคพอ คือจะพูดยังไงอะ 5555 บางบรรยากาศแบบระเบิดตูมตามแบบหนังไมเคิลเบย์งี้ เบสต์ยังใช้ภาษาเหมือนบรรยายบรรยากาศธรรมดาอยู่อะ แต่อันนี้โอเคนะ จะไม่แก้ก็ได้เพราะยังไงมันก็ดีอยู่แล้ว แก้อีกนิดเดียวก็ดีมากๆแล้ว
-การบรรยายในบทนี้ แปลกอยู่อย่างนึงคืออาการโคม่าของวิคเตอร์ คือมันจะพูดยังไงอะ บางทีคำพูด การบรรยายบรรยากาศมาคุในตอนนั้นมันยังไม่ถึงอารมณ์ ฉากที่วิคเตอร์กำลังสลบทำได้ดีมากนะ แบบ ผมนี่กลืนน้ำลายลงคอซูฮกให้เลยอ่ะ แต่พอมาตอนที่ชาลีรายงานดีซีเรื่องนี้ มันดูแบบ "อืม วิคเตอร์สาหัส อาการโคม่านะ" มันยังเฉยๆอยู่นิดนึง ปรับแก้ตรงนี้ด้วยนะแจร้
-ตัวละครหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ดี.ซี. เหมือนนางจะมาเป็นหนึ่งในกุญแจของภาคสอง ตอนแรกๆที่ดีซีเข้ามา เราไม่ค่อยชอบนางนะ คือนางบอกว่านางเป็นนักมายากลใช่มะ แต่กลหลายๆอย่าง มันดูเหมือนเวทมนตร์มากกว่า แบบ เฮ้ย อยู่ๆก็มาได้ไงวะ อ่าวเฮ้ย หายไปไหนละ ไรงี้ เราว่าถ้าจะปรับแก้ให้ดีซีเป็นดูนักมายากลจริงๆ น่าจะเติมมุมมองของดีซีในฉากมายากลไปด้วยว่า เออ กรูมาได้ไง กรูหายตัวไปได้ไง กรูเห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็นแล้วนำมาใช้สร้างเป็นกลของตัวเองได้ไง แต่ส่วนใหญ่ฉากที่ดีซีออกมา เบสต์จะใช้มุมกล้องของตัวละครตัวอื่นมากกว่าไง แต่ฉากโดดตึกในบทนี้โอเคมากนะ แบบ อืม เออว่ะ มันเป็นไปได้จริงๆที่กลนี้จะใช้ได้ในสถานการณ์โดดตึก ชอบตรงที่เบสต์สร้างสรรค์มายากลของดี.ซี.แบบนี้ มันไม่ใช่มายากลแบบเกินจริง เหนือธรรมชาติไรงี้เลย มันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ และเป็นมายากลที่ "ฉลาด" เลยทีเดียว
-เอาตรงๆไหม เราไม่เคยอ่านอะไรที่เป็นปรัชญา วิทยาศาสตร์ แฟนตาซีมาเลยในชีวิต (นอกจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่นั่นมันวรรณกรรมเยาวชนนี่หว่า = =") ไม่ดิ ต้องพูดว่าทั้งชีวิตเรานี่อ่านแต่แนวสงคราม-ประวัติศาสตร์ มาตลอด เราเจอนิยายเรื่องนี้ก็เพราะไปส่องไอดีไรต์เตอร์ดู(ก็ไรต์มาแอดแฟนคลับนิยายเราอ่ะเนอะ >_< ดีไตแปบ) อ่านๆไปแล้วแบบ...เฮ้ย...เขียนดี เขียนโอเค ยังกะนิยายแปลไซไฟของฝรั่งเลยว่ะ เลยลองอ่านไปเรื่อยๆ ซึ่งไรต์เตอร์ก็ไม่ทำให้คนอ่านผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว ชื่นชมรัวๆค่ะ ณ จุดๆนี้
ปล. จบละ โอ๊ยพิมพ์มาชั่วโมงนึง เมื่อยนิ้วมาก 555555555
**บทวิจารณ์เราอาจจะคล้ายๆ เม้นท์ของคนข้างบนไปบ้าง แต่เราคิดคล้ายๆเค้าอย่างนั้นจริงๆ
สู้โว้ยเบสต์ กรูเป็นกำลังใจให้มรึงเสมอออออออ รักนะจิบิ