ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FICTION GOT7] HEIRESS RING [MARKBAM-BNIOR-JACKJAE-YUGJIN]

    ลำดับตอนที่ #4 : HEIRESS RING EP3 100%

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 58


    O W E N TM.






    Heiress ring Ep3 

     

     

     รถหรูสีดำเคลือนตัวออกจากบ้านเพื่อมาส่ง 'เด็กไร้มารยาท' มาโรงเรียน โดย 'ผู้ใหญ่ปากหมา' เป็นคนขับรถให้ ตลอดทางขับรถ มีแต่เสียงเงียบกริบไม่มีใครกล้าทำร้ายความเงียบสงบนี้ อาจเป็นเพราะยังไม่ชินที่นั่งรถที่แล่นด้วยกันสองต่อสอง ในรถมีเสียงเพลงสากลเปิดเบาๆทำให้สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดูตึงเครียดมากนัก และทำให้แบมแบมเอนตัวลงเบาะนั่งก่อนจะหลับลงในที่สุด สาเหตุก็คงเป็นเพราะเจ้าตัวตื่นเช้าเพราะต้องตื่นเดินทางที่อยู่ห่างไกลจากบ้านของมาร์คพอสมควรบวกกับเพลงเบาๆที่เพราะชวนน่านอน เลยทำให้นั่งหลับบนรถอย่างที่เห็น

     

     

     "แบมแบม ตื่นได้แล้ว" มือหนาจะเขย่าไหลบางเบาๆ

     

     

    "แม่ครับ ขออีก5นาที" น้ำเสียงหวานปมงัวเงียตอบอย่างละเมอ คิดว่าผู้เป็นแม่สุดที่รักของตนเองมาปลุกเอ่ยขึ้น

     

     

    "นี้ จะให้บอกกี่ครั้งว่าไม่ใช่แม่ ตื่นถึงโรงเรียนแล้ว"มาร์คเริ่มหงุดหงิด ดวงตาจ้องไปที่ร่างที่กำลังนอนอยู่ มือหนาเขย่าแขนเรียวหวังให้ร่างนี้ตื่นสักที เขาไม่มีเวลามานั่งเฝ้าเด็กน้อยนี้ทั้งวันหรอกน่ะ งานอ่ะงาน เป็นบอดิการ์ดก็จริง แต่ท่านภูมิปรมภัทรก็มอบหน้าที่อื่นให้เขาทำเช่นกัน

     

     

     

     "..." ไร้เสียงในการตอบ ร่างสูงจึงตัดสินใจ เดินลงจากรถ ก่อนจะใช้มือหนาเปิดประตู สะพายกระเป๋านักเรียนที่ภายในมีแต่หนังสือก่อนมือหนาจะฉุดร่างบางให้อยู่ในอ้อมกอดและเปลี่ยนมาเป็นอุ้มท่าเจ้าสาว ขายาวรีบก้าวขึ้นไปบนอาคารเพื่อพาเจ้าเด็กแสบไปนอนต่อบนห้องเรียน ปีหนึ่งห้องเอ เดินมาได้ไม่นาน ก็พบก็ร่างสูงโย้งที่คุ้นตาไร้ผมสีชมพูแปลกตาดูได้ไม่ยากว่าจะเป็นใคร เขาเคยไปเล่นกับเจ้าเด็กนี้บ่อยๆตอนไปหาแจบอมเพื่อนของเขา

     

     

    "เฮ้!! ยูคยอม" เอ่ยทักด้วยน้ำเสียงไร้เรียวแรงเพราะเอาแรงมาอุ้มร่างบางที่หนักไม่น้อยบวกกับกระเป๋าใส่หนังสือที่หนักเหมือนใส่ปูน

     

     

    "อ้าวพี่มาร์-- เฮ้ยแบมแบม" ยูคยอมรีบร้องเสียงหลงเมื่อพบแบมแบมอยู่ในอ้อมกอดมาร์ค ขายาวรีบวิ่งเพื่อมาช่วยเพื่อนสนิทพี่ชายของตนที่อุ้มแบมแบม เขารู้ว่าแบมตัวหนักแค่ไหน ขนาดเขาที่ตัวใหญ่ๆยังอุ้มแบมแบมนี้ไปร้องบ่นไป แล้วพี่มาร์คที่ตัวใหญ่กว่าแบมไม่มากนักจะไม่หนักรึไง

     

     

    "รู้จักกันก็ดี ช่วยพาไอ้เด็กขี้เซานี้ขึ้นเรียนหน่อยฉันมีธุระต้องทำต่อ" เมื่อยัดเยียดกระเป๋าอันแสนหนักและการอุ้มร่างบางให้ยูคยอมได้แล้ว มือหนาโบกมือบัยบายเชิงบอกลาก่อนขายาวจะรีบก้าวเท้าเดินหนีไป ทิ้งภาระให้ยูคยอมที่ปรากฏตัวใหม่อย่าง งงๆ 'ไปรู้จักกันตอนไหน'

     

     

     

    ________________________________________________

     

     

     

     รถหรูคันสีดำเคลือนมาจากบ้านหลังใหญ่ระหว่างทางมีการพูดคุยกันเล็กหน่อยเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าตัวแสบที่หายไปเมื่อวานจนมาร์คต้วนต้องโทรเรียกอิมแจบอมให้ไปช่วยหา พอจินยองรู้เรื่องก็ตกใจ แต่อิมแจบอมก็อธิบายไปหมดแล้วว่าหาเจอแบมแบมปลอดภัยเลยทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนเบาะตรงข้ามคนขับสบายใจขึ้นระดับหนึ่ง

     

    "ตั้งใจเรียนน่ะ" เสียงทุ้มพูดขึ้นก่อนมือหนาจะโบกมือบัยบายเป็นการบอกลา

     

     

     

     "รู้แล้วหน่าา"เสียงหวานของจินยองตอบกลับก่อนมือบางจะปิดประตูอย่างรู้งาน และก้าวเท้าเล็กเข้าไปยังโรงเรียนวันนี้เขามาโรงเรียนกับแจบอมแค่สองคนเพราะยูคยอมบอกจะแวะไปที่อื่นก่อนเลยไม่ได้มาด้วยกัน สายตาคมเมื่อเห็นว่าร่างบางที่เขาเฝ้ามองดูอยู่บนรถเดินเข้าตึกโดยปลอดภัยแล้ว มุมปากกระตุกยิ้ม ก่อนจะขับรถออกไปจากโรงเรียนนี้เพื่อไปหาคนที่เขานัดไว้ ซึ่งห่างจากโรงเรียนเพียงแค่300เมตร เมื่อถึงที่หมายเขาก่อนจอดรถลงในที่สุด มือหนาเปิดประตูเพื่อลงจากรถก่อนขายาวจะก้าวเพื่อเข้าร้านขายกาแฟ

     

     

     

    "เฮ้ ไอ้เงิง" ทันทีก้าวเข้าร้านขายกาแฟขนาดไม่ใหญ่มากภายในร้านถูกตกแต่งสไตร์วิลเทจบวกกลับกลิ่นกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้คนที่เขามาสบายใจ แต่ไม่ใช่กับอิมแจบอมคนนี้ ขนาดเขาพึ่งเขาร้านไอ้เพื่อนตัวดีที่ขอร้องอ้อนวอนให้เขาช่วยหาเจ้าเด็กแสบ มันก็ทักทายเขาแบบนี้ ใบหน้าหล่อแต่น้อยกว่ามาร์คทำหน้าไม่พอใจ ริมปากขยับด่าว่าเบาเบาแบบไม่มีเสียงว่า 'เดี๋ยวเถอะมึง' ก็จะเปลี่ยนเป็นยิ้มทักทายคนที่นั่งอยู่ข้างมาร์คและโค้งตัวให้ตามมารยาท

     

     

    "สวัสดีครับ ท่าน" คำทักทายเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย่มแจ่มใส ทำให้อีกคนตอบรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับบุคคลที่เขาเพิ่งทักทายด้วยเมื่อครู่

     

    "ท่านดูผอมลงไปนะครับ"

     

     

    "ก็เครียดนิดหน่อยนะ"ตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย เพราะว่าแหวนวงสำคัญดันมาหายทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน กลัวเหล่าทายาทของเขาจะตกอยู่ในอันตราย

     

    "วันนี้ฉันนัดพวกนายมาเพราะว่า ฉันมีของสำคัญในการช่วยตามหาแหวนมาให้"ว่าก่อนมือหยาบจะล้วงเข้ากระเป๋าเสื้อและหยิบกล่องสีแดงกำมะหยี่ออกมา

     

     

     "ของสิ่งนี้คือตัวที่จะช่วยหาแหวนได้ เพราะตัวนี้สามารถจับได้ว่าแหวนอยู่ที่ไหน ฉันคิดว่ามันต้องมีเหตุการณ์นี้เลยติด GPS ไว้ใต้เพชรของแหวน ช่วยฉันหน่อยนะ" เสียงแหบพูดอธิบายประโยคของสิ่งของที่อยู่ภายใต้ของกำมะหยี่สีแดง ก่อนประโยคขอร้องจะถูกส่งมาให้สองหนุ่มที่ถูกนัด มือหนาของมาร์คเอื้อมมือไปหยิบกล่องสีแดงกำมะหยี่นั้นอย่างถือวิสาสะก่อนจะเปิดมันด้วยความเบามือ ภายในมีGPS ที่อยู่ในคล้ายรูปแบบเข็มบอกทิศ มันสามารถบอกได้ว่าพิกัดของแหวนกับตนเองที่ห่างกันมากหรือน้อยเพียงใด แต่เมื่อดูจากจุดสีเขียวที่บอกตำแหน่งเรากับจุดสีแดงที่เป็นตำแหน่งของแหวนก็ต้องขมวดคิ้วเป็นไปปม เพราะจุดสีสองสีนี้อยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สายตาคมจ้องมองบริเวณทั่วร้านแต่ก็ไม่มีบุคคลใดน่าสงสัย

     

     

    กริ๊งงงง~~ เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมสองบุคคลที่มาใหม่ทำให้ทั้งสามที่นั่งอยู่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะบุคคลที่เข้าร้านมาคือแบมแบมกับยูคยอม

     

     

    "นั้นไงอยู่นี้จริงๆด้วย" เสียงทุ้มของยูคยอมดังขึ้นก่อนมือหนาจะจับแขนบางให้เดินไปตามแรงของเขา

     

     

     

    "มาที่นี้ทำไม" แจบอมผู้เป็นพี่ชายของยูคยอมเอ่ยถามน้องชายของตน นี้มันเวลาเรียนแล้วทำไมถึงมาเดินเล่นแถวนี้

     

     

    "ก็วันนี้ผมรีบจนลืมกระเป๋าตังค์เลยไปซื้อของไม่ได้ ส่วนแบมแบมทำกระเป๋าตกไว้บนรถพี่มาร์คเลยไม่มีเงินนะสิ"ยูคยอมฟ้องพี่ชายของตนก่อน

    จะเข้ากอดพี่ชายสุดที่รัก เพื่ออ้อนของยืมเงิน ส่วนแบมแบมก็เช่นกัน เกาะแขนมาร์คแล้วเขย่าๆเหมือนเด็กจนท่านภูมิปรมภัทรที่นั่งดูอยู่หัวเราะกับการกระทำของเด็กพวกนี้

     

     

     

    "นี้ผู้ใหญ่ปากสุนัข เปิดรถหน่อยนะ ผมจะเข้าไปเอากระเป๋าตังค์" น้ำเสียงอ้อนนั้นทำให้มาร์คหัวเราะในลำคอ ก็เขาเจอกระเป๋าตังค์ของแบมไว้ตั้งแต่ลงรถแล้วเก็บมาไว้กับตัวเองแล้วว่าจะเอาไปคืนหลังคุยธุระเสร็จแต่คงไมต้องแล้วมั้งเจ้าตัวมาทวงเอง

     

     

     

    "นี้แบมไปเรียกพี่เขาแบบนั้นได้ไงลูก พ่อบอกให้เรียกว่าอะไร"เสียเอ็ดดุลูกชายเอาแต่ใจดังขึ้น เพราะแบมดื้อแบบนี้เขากลัวคุมไม่ไหวเลยให้ไปอยู่กับมาร์คที่ดุและกวนตีนใช้ได้

     

     

    "โห่พ่ออะดุผมทำไมเนี้ย ปกติพี่มาร์คของผมอะปากหมาจะตาย " น้ำเสียงไม่พอใจที่ผู้เป็นพ่อคนที่สองว่าตนดังขึ้น 'พ่ออะไรก็พี่มาร์คดีอย่างนู้นใจดีอย่างงี้แบมดื้อเองพี่มาร์คเลยดุ ตกลงใครลูกพ่อ' ก่อนความคิดบ้าๆของของจะก่อตัวขึ้น แบบนี้เขาเรียกว่าน้อยใจรึป่าวนะ

     

     

    "ก็ลูกทำไมไปเรียกพี่มาร์คเขาแบบนั้นละดื้อละสิพี่มาร์คถึงไม่ใจดีด้วย" ผู้เป็นพ่อว่าจบประโยคใบหน้าหวานก็ก้มหน้าก้มตามองฝ่าตัวเองที่กำแน่น คำก็ดื้อสองคำก็ดื้ออะไรก็พี่มาร์ค

     

     

     

     "อะไรก็พี่มาร์คทำไมไม่เอาพี่มาร์คมาเป็นทายาทมาเป็นลูกแทนแบมเลยละ!!" น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นก่อนจะส่งสายตาขวางเริ่มมีน้ำตาคลอมองไปหาร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ กำปั้นเล็กยกขึ้นทุบอกแกร่งอย่างไม่พอใจก่อนจะวิ่งออกนอกร้านไป

     

     

    "อ้าวเฮ้ยแบ--"

     

     

     "ไม่ต้องเดี๋ยวพี่ไปตามเอง" ไม่ทันที่ยูคยอมจะเอ่ยจบเสียงมาร์คก็เอ่ยตัดหน้าเสียก่อน ขายาวรีบวิ่งตามร่างเล็กที่วิ่งออกนอกร้านไปเมื่อกี้เพื่อหวังที่จะให้แบมแบมอารมณ์เย็นลงบ้าง เขาแค่อยากให้แบมเข้าใจว่าที่ท่านภูมิปรมภัทรพูดนั้นหวังดีไม่อยากให้แบมเป็นเด็กก้าวร้าว ไม่ใช่จะว่าแบมแบบที่คิด เด็กก็น่ะคงไม่เข้าใจคำว่าเตือนกับด่าว่าหรอก

     

     

     

    "แบม" เมื่อเห็นร่างบางที่กำลังตามหาวิ่งอยู่ข้างทาง ริมฝีปากหยักพูดชื่อแบมเบาๆก่อนจะรีบวิ่งตามร่างเล็กนั้น

     

     

    "หยุดก่อนแบม" เมื่อวิ่งตามร่างเล็กที่วิ่งหนีทันมือหนารีบคว้าแขนเรียวมาไว้ในกำมือเพื่อไม่ให้ร่างบางนั้นหนีไปได้ แขนเรียวพยายามแกะมือหนาออกทั้งสบัดทั้งปัดแต่ก็ไม่เป็นผล

     

     

    "ปล่อยผม!!"

     

     

     "ไม่ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

     

     

    "จะคุยไรอีก ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณ" คำสรรพนามถูกเปลี่ยนจากที่เรียกว่าพี่มาร์คกลับเป็นคำว่าคุณ

     

     

     "มีเหตุผลหน่อย" ดวงตาคมจ้องมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาดุปนเป็นห่วง แบมแบมเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา มือหนากระชากแขนบางจนใบหน้าสวยซุกลงอกแกร่ง มือบางทุบอกแกร่งรัวๆอีกรอบดวงตากลมโตมีน้ำตาไหล่คลอออกมาไม่ขาดสาย

     

     

    "ไอ่คนบ้า ฮึก คิดว่าตัวเองเป็นเทวดาหรือไง ฮึ.. เออ คุณมันหล่อนิสัยดี เก่งไปทุกอย่าง ฮื้อออ"น้ำเสียงสะอึกสะอื้นเอ่ยออกมาด้วยความน้อยใจ มือบางหยุดทุบอกแกร่งหยดน้ำตายังคงไหลไม่หยุด มือหนายกขึ้นมาลูบหัวทุยเบาๆ สัมผัสกับกลุ่มผมสีดำนุ่ม กลิ่นแชมพูนิดๆอดไม่ได้ที่จะเข้าไปหอม มาร์คต้องการมอบสัมผัสอันอ่อนโยนให้แบมแบม เขาไม่อยากให้แบมคิดมากกับคำพูดของท่านภูมิปรมภัทร เขากอดกันอยู่นานจนเวลาล่วงเลยไป10นาที จนดวงตากลมโตไม่มีน้ำสีใสไหลออกมามือหนาผลักร่างบางที่ก้มหน้าร้องไห้ซุกอกแกร่งก่อนจะใช้ฝ่ามือเช็ดน้ำตาที่แห้งไปแล้ว

     

     

    "เลิกร้องไห้ได้แล้วเด็กขี้แง ไปโรงเรียนไปหรือจะกลับบ้าน" น้ำเสียงอ่อนโยนของมาร์คเอ่ยถาขึ้น ดวงตาคมยังคงมองร่างบางด้วยความอ่อนโยน

     

     

    "ไปหายูคยอม"

     

     

     

    "งั้นก็ไปโรงเรียนเถอะ" มือหนาของมาร์คฉุดแขนเรียวให้เดินตามทางเพื่อไปที่รถ ก่อนจะขับรถมุ้งหน้าไปทางโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกล และไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าตังค์ให้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

     

     

    "อะกระเป๋าตังค์ลงไปเรียนได้แล้ว ห้ามโดดเรียนด้วย" มาร์คยืนกระเป๋าตังค์สีดำเรียบให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนรถ แต่ร่างบางก็ยังคงเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบีตา สมองสับสนไปด้วยความวุ่นวาย เขาควรทำไงดี เปิดเผยความอ่อนแอให้เห็นไปแล้วควรทำไงดี แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหรือจะอ่อนแให้คนตรงหน้าปลอบต่อไป เพราะคิดๆไปแล้ว . . . . . .'พี่มาร์คก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เป็นคนดีมากเลยด้วยซ้ำ หรือการกระทำเป็นการสร้างภาพ?'

     

     

     

    "แบมได้ยินมั้ย" ร่างบางเงยหน้าตาเสียงเรียกก่อนรอยยิ้มจะปรากฎมุมปาก

     

     

     

    "พี่มาร์คครับไปส่งแบมที่ห้องนะ"คำสรรพนามถูกเปลี่ยนอีกครั้ง จากที่เรียกแทนตัวเองว่าผมกลับกลายเป็นแบม จากที่ตอนแรกเรียกร่างสูงว่านายกลับกลายเป็นพี่มาร์ค มาร์คได้แต่มองร่างบางตรงหน้าด้วยความงงคิ้วเรียวขมวดเป็นปม . . . . 'แบมแบมเปลี่ยนตัวเองเป็นเด็กดีแล้วหรือต้องการสร้างภาพให้เขาเห็นใจ'

     

     

     

    "อ..อื้มมไปสิ" หลังจากเดินพาร่างบางไปส่งเข้าคราสเรียนแล้ว เจ้าตัวกลับไม่ยอมเข้าคราสเรียนยืนเกาะแขนเขาอยู่หน้าห้องจนอาจาร์ยตรงออกจากห้องมาถามว่า 'ทำไมไม่เข้าห้อง' แต่คำตอบของร่างบางทำให้มาร์คหนักใจไม่น้อย เลือกคำตอบให้ไม่เหมือนเด็กปัญญาอ่อนกว่านี้ไม่ได้รึไง คำตอบที่ร่าบางพูดคือ 'ให้พี่มาร์คอยู่ด้วยไม่งั้นไม่เข้าคราสเรียน พร้อมเอาพวงแก้มนุ้มๆมาถูแขนของมาร์คทำให้เขางงไม่น้อย เมื่อเช้าเขาก็ว่าไม่ได้เอาอะไรให้แบมแบมกินผิดสำแดงไปนะแต่ทำไมไอ่เด็กปากเสียถึงกลายเป็นเด็กขี้อ้อนได้ก็ไม่รู้ มาร์คพยายามพูดบอกปฎิเสธแบมหลายครั้งบอกว่ามีงานต้องทำแต่ก็แพ้ให้ไอ่เด็กเอาแต่ใจขี้อ้อนตรงหน้า จนตอนนี้เขาเลยได้แต่นั่งหล่ออยู่หน้าห้องเรียนเฝ้าไอ่ตัวแสบเรียนให้เสร็จเพื่อกลับบ้าน เฮ้อออ จะพักเที่ยงหรือยังนี้มันก็เที่ยงกว่าแล้วนะหรือครูปล่อยช้า ห้องอื่นเขาก็ปล่อยกันหมดแล้ว

     

     

     

    "เฮ้ยยย!! ระวัง หล่นๆๆๆ" ปั้ง!! เสียหวานของเด็กหนุ่มผู้ชายดังขึ้นก่อนจะกลายเป็นเสียงกองหนังสือหลายเล่มหล่นกระจายเต็มพื้น เด็กหนุ่มผู้ชายหน้าขาวปากแดงตาตี๋ก้มเก็บหนังสือที่เขาทำหล่น กลุ่มผมสีดำปกปิดหน้าทำให้ร่างสูงเห็นหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ชัดแต่น้ำเสียงที่เคยฟังกลับคุ้นเคย มาร์คเห็นดังนั้นจึงก้มลงไปช่วยเด็กหนุ่มคนนั้นเก็บหนังสือด้วยอีกแรงเพื่อพอเป็นมารยาท

     

     

     

    "ไม่ต้องลำบากหรอครับ แต่ก็ขอบคุณครับ"

     

     

    "ไม่เป็นไรหรอก ฉันช่วย" มาร์คตอบออกมาในขณะที่ยังก้มหน้าช่วยเด็กคนนั้นอยู่ แต่เด็กหนุ่มกับชะงักกับน้ำเสียงคุ้นเคยที่เขาเคยได้ยินมันทุกเช้าเมื่อสามปีก่อน เขาจำมันได้ดี น้ำเสียงนี้ พี่มาร์ค..


    "พี่มาร์ค...."



     

     
    50%
     
     
    "พี่มาร์ค.."เสียงแผ่วเบาเรียกคนตรงหน้าให้เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก แววตากลมโตตกใจไม่น้อยว่าใช่จริงๆ คนตรงหน้าเป็นพี่มาร์คจริงๆ ไม่ต่างอะไรจากมาร์ค คนตรงหน้าที่เขาช่วยเก็บหนังสือ คือจินฮวาน..
     
     
     
    "จินฮวาน.." ทั้งคู่มองกันด้วยสายตาตกใจไม่น้อย เขามองหน้ากันอยู่นานจนมีเสียงเล็กทำร้ายความเงียบขึ้น 
     
     
    "พี่มาร์คครับแบมเรียนเสร็จแล้ว / อ้าวพี่จินฮวานมาได้ไงครับ" เสียงเด็กน้อยทั้งสองคนที่เพิ่งออกมาจากห้องเอ่ยทำร้ายความเงียบ แบมแบมเรียกมาร์คก่อนจะช่วยมาร์คถือกองหนังสืออันหนักเพื่อช่วยเบาแรง เช่นเดียวกับยูคยอมที่ยื่นมือไปช่วยจินฮวาน 
     
     
     
     
    "ขอบคุณครับพี่มาร์คที่ช่วยผม ผมขอตัวก่อน" จินฮวานว่าก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นโดยลืมหนังสือที่มาร์คและแบมแบมช่วยถืออยู่ มาร์คกับแบมมองหน้ากันไปมา ก่อนจะหันไปทางยูคยอม ที่ยืนอยู่ข้างๆและยกกองหนังสืออันแสนหนักนี้ให้ยูคยอมดูแล 
     
     
     
    "ฝากด้วยน่ะยูคยอมอ่าาา / เราลงไปรอที่โรงอาหารนะยูคยอม ซารางเฮ" ฟิ้ววววว มาร์คกับแบมพร้อมใจจะยกหน้าที่นี้ให้ยูคยอมก่อนจะรีบวิ่งลงไปโรงอาหารเพื่อหาของกิน หนังสือกองโตถูกร่างสูงโย่งยก ขายาวก้าวเซไปเซมา นึกด่าว่าจินฮวานในใจ เป็นรุ่นพี่ป้ะเนี้ยไหงทำกับรุ่นน้องงี้ว่ะไอ่รุ่นพี่หน้าเด็ก!!
     
     
    "ไอ่รุ่นพี่จินฮวาน อยู่ไหน!! มารับกองหนังสือนี้ไปด้วยไม่งั้นผมโยนน่ะ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหงุดหงิด ทางเดินจากห้องเขามาห้องพี่จินฮวานตั้ง2ชั้น ไม่ให้หงุดหงิดได้ไง หิวข้าวโว้ยยย 
     
     
     
    "เฮ้ยๆๆๆ!!! พี่ขอโทษพอดีตกใจนิดหน่อย มา ส่งหนังสือมานี้มาๆ" จินฮวานเข้าไปรับหนังสือโกงโตของยูคยอมมาครึ่งหนึ่ง ใช้สายตาบอกยูคยอมว่า'ขอโทษน่ะช่วยยกกองหนังสืออีกครึ่งมาวางไว้บนโต๊ะนู้นให้หน่อยฉันคนเดียวไม่ไหว'ก่อนจะเดินนำหน้ายูคยอมเพื่อวางกองหนังสือไว้บนโต๊ะครู 
     
     
     
    "ผมอุตสาช่วย เลี้ยงข้าวผมเลย" เอ่ยออกมาน้ำเสียงอ้อนๆ ใบหน้าแกล้งบึ้งตึงเล็กน้อยก่อนมือหนาจะจับแขนเรียวของจินฮวานให้เดินไปตามแรงแต่ดูเหมือนรุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้จะไม่ยอมเดินตามมาง่ายๆ 
     
     
     
    "อ... เอ่อออ ยูคยอมอ่าา ฉันต้องสอนจุนฮเวทำการบ้านน่ะ"มือบางพยายามแกะมือหนาของยูคยอมที่ยังคงรัดแขนเขาแน่เหมือนกลัวเขาจะหายไป 
     
     
    'ทำไงดีว่ะไอ่จินฮวานเอ๊ยยย!?! ㅠㅠㅠ'  
     
     
     
    "พี่ไม่ต้องมาพูด ตอนที่ผมยกกองหนังสือนี้มาผมยังเจอรุ่นพี่จุนฮเวอยู่เลย รุ่นพี่บอกจะไปกินข้าว เลิกอ้างได้แล้วเลี้ยงข้าวผมเลย" มันรู้ทัน... 
     
     
     
    "แต่--" 
     
     
     
    "เลิกอ้างได้แล้ว ผมอุตสาแบกกองหนังสือนี้มาให้พี่ แล้วถ้าพี่ยังไม่เดินดีๆผมจะอุ้มพี่น่ะ" ยูคยอมพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเห่ล์ก่อนจะหันหน้ามองจินฮวานรุ่นพี่ตัวเล็กที่น่ารักพอๆกับเพื่อนเขา หรือเขาควรจะคิดกับแบมแบบนั้น.ไม่คิดเกินเพื่อน แล้วหันมาหาพี่จินฮวานดี นิสัยคลายๆแบมแถมตัวเล็กน่ารักเหมือนเพื่อนเขาอีก ถ้าเขาจีบแบมก็เหนือยป่าว อุตสาบอกชอบมาตั้ง3ปีแล้วยังไม่ได้เลื่อนขั้น สู้เป็นเมะให้รุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้ยังจะดีกว่า 
     
     
     
    "นายไม่กล้าหลอก อย่ามาขู่ฉันให้กลัวเลย" 
     
     
    "พี่คิดว่าผมไม่กล้าหรอ? ตัวเล็กแค่นี้แถมน่ายังเหมือนเด็กผู้หญิงอีก รองคิดดูสิว่าสภาพพี่ใส่วิกจะเป็นยังไง" แค่คิดสภาพรุ่นพี่คนข้างๆใส่วิกแล้วยูคยอมยิ่งจินตนาการไปได้ไกล ร่างที่เหมือนผู้หญิง ใบหน้าหวานขาว ริมฝีปากเล็กแดง โอ๊ยยย.ยูคยอมจะบ้าตาย
     
     
    "นี้!! ยูคยอมแกว่าฉันเหมือนเด็กผู้หญิงหรอ ฉันก็แค่เคะเท่านั้นแหละ" 
     
     
     
    "แล้วมันต่างอะไรกัน พี่ขึ้นเสียงกับผมนี้อยากโดนอุ้มใช่มั้ย"วูบหนึ่งที่จินฮวานเสียวสันหลังไปกับไอ่เด็กคนนี้ แต่ก็แค่วูบหนึ่งเท่านั้นแหละ ดวงตามองขวางใส่รุ่นน้องร่างสูงที่ฉุดเขาไปโรงอาหาร ทำไมเขาต้องยอมไอ่เด็กคนนี้ เขารุ่นพี่น่ะ
     
     
     
    "ฉันพี่แกนะเว้ยย!!" จินฮวานพยายามแกะมือหนาออกไปให้พ้นจากแขนเขาเพื่อให้หลุดจากการควบคุมของอีกฝ่ายแต่เหมือนมันจะไม่เป็นผล ยิ่งพยายามเท่าไหร่อีกฝ่ายยิ่งเพิ่มแรงมากขึ้นเท่านั้น 
     
     
     
    "พี่อย่าดื้อกับผมสิ" 
     
     
     
    "นายสิดื้ออ ฉันจะกลับคราส" 
     
     
     
    "ไหนพี่บอกจะเลี้ยงข้าวผมไง"น้ำเสียงเศร้าๆถูกส่งมา  ใบหน้าก้มลงไปมองปลายเท้าของตัวเอง มือหนาที่จับแขนเรียวเริ่มคลายออกก่อนจะปล่อยไปในที่สุด จินฮวานมองรุ่นน้องตรงหน้าที่แสร้งทำเป็นเศร้า ใช่เขารู้ว่ายูคยอมแกล้งแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกผิด 
     
     
     
    "พี่กลับห้องไปเถอะ ผมไปกินข้าวกับแบมก็ได้" ว่าจบก่อนจะแสร้งเดินคอตกไปยังโรงอาหารโดยไม่หันมามองรุ่นพี่ร่างเล็ก จินฮวานขมวดคิ้วเป็นปมเขาใช้ความคิดว่าจะเลี้ยงข้าวยูคยอมดีมั้ย ถ้าไม่เลี้ยงก็รู้สึกผิด แต่ถ้าเลี้ยงก็ต้องนั่งรวมโต๊ะด้วย 
     
     
     
    'เอาว้ะจินฮวาน เกิดเป็นชายกล้าๆหน่อย' 
     
     
     
    คิดแค่นั้นก่อนขาเรียวสองข้างจะวิ่งไปหารุ่นน้องตัวสูงโย่งที่แสร้งเดินคอตก เมื่อวิ่งตามทัน มือเรียวจับมืออีกคนเอาไว้ก่อนจะแกว่งไปแกว่งมา แต่ยูคยอมกลับไม่มีทีท่าที่จะยิ้ม 
     
     
     
    "พี่ตามมาทำไม" 
     
     
    "เลี้ยงข้าวนายไง" รอยยิ้มแอบขึ้นบนมุมปากเล็กน้อย ในที่สุดรุ่นพี่หน้าเคะนี้ก็ยอมเลี้ยงข้าวเขา แต่ยอมหายงอนง่ายไปมันไม่ดีต้องเล่นตัวสักหน่อย
     
     
     
    "พี่ไม่ไปเข้าคราสเรียนหรอไหนบอกอยากเข้า" ยิ่งยูคยอมเอ่ยออกมาแบบนี้ยิ่งทำให้จินฮวานรู้สึกผิด ใบหน้าหวานก้มลงมองเท้าตัวเองที่เดินอยู่ เกิดความคิดขึ้นมากมาย เด็กนี้มันเป็นอะไรของมัน น้อยใจหรอ เสียใจหรอ หรือแกล้งให้เขารู้สึกผิด  หื้อออ ออมม่าเด็กนี้แกล้งจิน 
     
     
     
     
    "ไม่อ่ะเลี้ยงข้าวนายดีกว่า " พยายามใจดีสู้เสือแต่ผลตอบรับที่ได้กลับเป็นศูนย์
     
     
     
    "..." ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
     
     
     
    "..." 
     
     
     
    "..." 
     
     
     
    "นี้โกธรฉันหรอ" 
     
     
     
    "ป่าวนี้" 
     
     
     
    ขาเรียวหยุดเดินก่อนจะฉุดมือหนาให้หยุด ทำให้ยูคยอมงงไม่น้อย จะถึงโรงอาหารอยู่และอีกไม่กี่ก้าวรุ่นพี่จินฮวานหยุดเดินสะได้ 
     
     
     
    เมื่อเห็นหน้ารุ่นน้องตัวสูงหยุดเดินแล้ว ใบหน้าหวานหันซ้ายขวาก่อนจะเขย่งขาขึ้น ดวงตาโตปิดตาหยีก่อนริมฝีปากแดงจะหอมแก้มคนร่างสูงโย่ง 
     
     
    จุ้บบบบ
     
     
    "ไม่รู้ว่านายจะหายโกธรมั้ยแต่ฉันง้อแล้วน่ะ ไปกินข้าวกัน" จินฮวานพูดก่อนจะกระตุกมือเพื่อให้ยูคยอมเดินตาม ยูคยอมยังคงตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แต่รุ่นพี่คนนี้กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือหนายกสัมผัสแก้มตัวเองข้างทีถูกริมฝีปากเรียวประทับ ใบหน้าเริ่มแดงเพราะความเขินอาย มุมปากกระตุกยิ้มอย่างชอบใจ เขาว่าเขาเจอคนที่มัดใจเขาอยู่แล้วล่ะ 
     
     
     
    หลังจากต่อแถวซื้อกับข้าวเสร็จ จินฮวานก็จ่ายเงินค่าข้าวให้ยูคยอม จินฮวานเดินตัวเปล่าก่อนจะมองหาที่นั่งให้รุ่นน้องที่เขาเลี้ยงข้าว ยูคยอมขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความงง รุ่นพี่ตรงหน้าไม่ถือจานข้าวมาด้วยนั้นก็หมายความว่าไม่กินข้าวงั้นหรอ 
     
     
     
     
    "พี่ไม่กินข้าวหรอ" 
     
     
     
    "ไม่อะแค่เลี้ยงนายก็พอแล้วฉันไม่หิว" จินฮวานพูดจบประโยคทำให้ยูคยอมหงุดหงิดไม่น้อย ใช่เลยที่เขาบอกว่ารุ่นพี่หน้าเด็กคนนี้เหมือนแบม ดื้อเหมือนกันด้วย ดื้อกว่าด้วยซ้ำ นี้ไม่รู้จริงๆหรอว่าเลี้ยงข้าวคือชวนมากินข้าวทางอ้อม ไม่ใช่แค่ซื้อให้เขาจานเดียวแล้วตัวเองนั่งดูคนอื่นทานข้าว เห้อไม่น่าทำไมตัวแค่นี้ ทั้งดื้อทั้งซื่อทั้งบื้ออ ไปเป็นรุ่นพี่ได้ไง!?!
     
     
     
    "มานี้เลยตามผมมา"มือหนาของยูคยอมลากจินฮวานให้เดินตามแรงฉุดของเขาอีกครั้งหากแต่คราวนี้มือของเขากุมมือเรียวไม่ได้จับแขนเรียวเหมือนแต่ก่อน หันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นเพื่อนตัวเล็กของตนก้มหน้าก้มตากินข้าวกับพี่มาร์ค ขายาวรีบเดินไปยังโต๊ะก่อนจะนั่งลง มือหนาปล่อยมือบางก่อนจะตบบนเก้าอี้เพื่อเชิญชวนนั่ง 
     
     
     
    "นั่งสิพี่ รอพ่อตัดลิบบิ้นหรอ" 
     
     
    "อ..เอ่อออ ฉันเพิ่งคิดได้ว่ามีการบ้านที่ต้องส่งหลังเลิกเรียนแต่ยังไม่ได้ทำเลยขอตัวน่ะ"จินฮวานพยายามจะออกจากสถานนะการณ์ตอนนี้แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อยูคยอมฉุดแขนจินฮวานให้ลงมานั่งตามแรงฉุด แต่รู้สึกแรงที่ใช่มันจะมากเกินไปสภาพเลยเป็นแบบที่เห็น ร่างเล็กของจินฮวานนั่งอยู่บนตักของยูคยอม มือหนาของยูคยอมคล้องเอวร่างบางไหวก่อนจะกะชับกอดให้แน่มากขึ้น
     
     
     
    "เอ้ยย!! ทำไรเนี้ยปล่อย" มือบางพยายามใช่กำปั้นอันน้อยนิดทุบไปยังอกของยูคยอมพยายาม ดันตัวขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล 
     
     
     
    "พี่ต้องอยู่ทานข้าวกับผมก่อน" 
     
     
    "ฉันไม่มีข้าวอีกอย่างฉันไม่หิวด้วย" 
     
     
    "ไม่หิวก็ต้องกิน จานเดียวกับผมเนี้ยแหละ" 
     
    !!!!!!!!
     
     
     
    "นายจะบ้าหรอ" 
     
     
     
     
     
     
    เสียงโวยวายระหว่างรุ่นพี่หน้าเคะกับรุ่นน้องยังคงเถียงกันตลอดในการกินข้าว ทำให้คนอื่นที่นั่งอยู่ข้างๆยิ้มไปกับการกระทำของพวกเขา บ้างก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่าย มาร์คกับแบมมองการกระทำนั้นก็เช่นกัน ยิ้มจนแก้มปริ  ยูคยอมยังคงไม่ปล่อยให้จินฮวานลุกออกจากตักตัวเอง แถมยังบังคับให้รุ่นพี่คนนี้ป้อนข้าวเขาอีก และที่น่าหงุดหงิดที่สุดสำหรับจินฮวานก็คือ ยูคยอมบังคับให้เขาทานข้าวด้วย คนบอกไม่หิวไงว่ะไอ่เด็กพูดไม่รู้เรื่อง 
     
     
     
     
     

     

    Talk

    พี่มาร์คกับน้องแบม แอร้ยเรียกกันมุ้งมิ้งเหลือเกิน >< น้องแบมโกรธไรพี่มาร์คเขา โกรธทีพี่มาร์คหล่อกว่า ' ว่าแต่ใครเป็น เด็กหนุ่มผู้ชายหน้าขาวปากแดงตาตี๋ที่พี่มาร์คช่วยเก็บของ ใบ้ให้ว่าไม่ใช่ยองแจ 555555

    อีก50%เดี๋ยวเค้ามาอัพให้น้ะ


    TALK 
    ไม่แล้วๆ >< 50% ที่เหลือ เดี๋ยวๆนี้ฟิคมาร์คแบมจริงๆน่ะไม่ใช่ยูคจินแต่ครึ่งหลังคู่นี้มาเหนือมาก ยูคยอมนังตัวร้าย 5555.เดี๋ยวตอนหน้ามาร์คแบมจัดเต็มให้เลย >< 

    ลีดคนนี้เดาถูกว่าเป็นใครอ่ะ แงงลีดรู้ทัน




    ส่วนลีดคนนี้เกือบเดาความหลังมาร์คจินถูก 







    นั่งถามตัวเอง เราแต่งง่ายไปรึป่าวเขาเดาทางเรา(เกือบ)ถูก ㅠㅠㅠ 
    ยังไงไรท์ก็ขอบคุณน่ะที่อ่านแล้วเม้นท์ให้ คือแบบได้อ่านคิมเม้นท์แล้วมันยิ้มได้อ่ะ เหมือนมีคนคุยด้วย คอมเม้นท์เนี้ยแหละเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดขอบคุณที่ติดตามฟิคเราน่ะ ♡♡♡



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×