ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Projects Love แผนรักกับดักร้าย [ยงซอ]

    ลำดับตอนที่ #7 : Fic:Projects Love ตอนที่5. About you?

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 56


     

     


    [Fic] Projects Love  แผนรักกับดักร้าย















                                                             













     
       

    ซอจูฮยอน:งานนี้ฉันสู้ไม่ถอยแน่ค่ะ Fighting!!
     














    Jay Park- Nothing On You (Korean Ver.)



     



    ตอนที่5.About you?












     
    นายตัวสูงปากดีได้แต่ทำปากพะงาบๆ  โดยที่พูดอะไรไม่ออก บอกอะไรไม่ถูก

     

     หึ อึ้งไปเลยล่ะซิ!

     

         "ไม่จริง  เป็นไปไม่ได้   เธอเอาอะไรมาพูด"  เสียงเข้มที่ดึงสติของตัวเองได้ก่อนใคร  หันมาพูดด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะ

    เป็นตวาดใส่ฉัน

     

    ก็ฉันพูดเรื่องจริงนิคะ  พี่ก็เป็นแบบนี้ทุกที ฉันจะร้องไห้แล้วนะคะ ฉันหันไปพูดกับยงฮวา พรางทำหน้างอนๆ

     

         "หมอครับ นี้มันอะไรกัน  ยงฮวาหันมาคาดคันเอาคำตอบกับหมอ"  เมื่อเห็นทีว่าคงคุยกับฉันไม่รู้เรื่องแล้ว  นี้เขาจะตื่นเต้นไปทำไมกัน  ฉันสิที่ควรตื่นเต้น

     

     

    "รบกวน เอ่อ.... แฟนของคนไข้ ตามหมอ ไปที่ห้องทีนะครับ"

     

    คุณหมอ เดินนำออกไป  ก่อนที่ยงฮวาจะเดินตามไปอย่างหงุดหงิด และเขาก็ไม่ลืมที่จะปฏิเสธเรื่องที่คุณหมอเรียกเขามาว่าแฟนของฉันด้วย

     

    พยาบาลคนนึ่งบอกกับฉันว่าอีก 15 นาที ให้ฉันเข้าห้องตรวจเพื่อไป เอ็กซเรย์ สมองอีกรอบ

     

     

    ซึ่งฉันก็ทำตามแต่โดยดี โดยไม่มีข้อสงสัย 

     

     

    และก่อนที่ฉันจะออกมาจากห้อง  ฉันก็รับรู้ได้จากสายตาที่มองฉันแปลกๆ  ของเพื่อนแฟนฉันทั้งสามคน แต่ช่างเถอะ อาจจะเป็นเพราะว่าเรายังไม่สนิทกันก็เป็นได้

     

     

     

     

     

    [YongHwa :Part ]

     

    ผมเดินตามหมอมาอย่างหงุดหงิด  ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ภายในห้องทำงานส่วนตัวของหมอ

     

    สรุปว่ามันคืออะไรกันแน่ครับหมอ  ผมรีบถามอย่างร้อนรน

     

     

         "สำหรับอาการของคุณ ซอจูฮยอน  หมอไม่เคยเจอมาก่อนเลยนะครับ ผู้ป่วยที่มีอาการกระทบกระเทือนทางสมองรายอื่นๆ ที่เจอมาคือคล้ายๆ กันหมด คือแทบทุกรายจะลืมความทรงจำของตัวเองไปหมดทุกอย่าง  แม้กระทั้งชื่อของตัวเอง"

     
        .......

     

         "แต่คุณซอจูฮยอน เธอกลับจำได้หมด และจำเพิ่มเกินขึ้นมาอีกด้วยซ้ำ"

     

         "หมอจะบอกผมว่า ยัยนั้นกุเรื่องขึ้นมาโกหกงั้นเหรอครับ"

     

         "ป่าวครับป่าว"   หมอรีบส่ายหน้าปฏิเสธ

     

         "ในกรณีนี้ก็มีเปอร์เซนที่จะเป็นไปได้  แต่น้อยรายมากที่จะเกิดขึ้นแบบนี้  อาจจะเป็นไปได้ว่าจิตสำนักสุดท้ายของผู้ป่วยอาจจะจดจ่ออยู่ที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง  และกระทำสุดท้ายที่ได้เห็น  เรื่องมันถึงผูกเชื่อมโยงกันนะครับ แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้"

     

    ผมฟังเรื่องที่หมอคาดเดาอย่างไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง  ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ และมีอยู่จริงบนโลกนี้ ถ้าผมไม่ได้ฟังจากปากของหมอแบบนี้  ให้ตายผมก็เชื่อไม่ลงหรอกครับ 

     


        "แล้วจะมีทางรักษาให้หายขาดมั้ยครับ"

     

         "ก่อนอื่นเราควรเปิดใจคุยกับผู้ป่วย  ก่อน  คือการรักษาเบื้องต้นนะครับ"

     

     

    หมอหยุดพูดไปชัวขณะ  และทำท่าว่าจะนึกอะไรขึ้นมาได้

     

         "หมอมีเพื่อนที่เคยเจอผู้ป่วยแบบคุณซอจูฮยอนนะครับ  รู้สึกว่ารายนั้นหนักกว่าคุณซอจูฮยอน"

     

     

         "แล้วรักษาหายมั้ยครับ ผมรีบโพล่งถามหมอทันที"

     

         "หายนะครับ  แต่ใช้เวลารักษาและฝื้นความทรงจำอยู่นานแรมปีกันเลย"

     

         "เกือบปีถ้าต้องรักษาอะไรนานถึงขนาดนั้น ผมว่าฆ่าผมให้ตายดีกว่า ผมมีงานที่ต้องทำ มีหน้าที่อีกมากมายที่จะต้องดูแล ไม่ว่างมานั่งดูแลผู้ป่วยทางสมองแบบนี้หรอกครับ

     

     อีกอย่าง  เธอก็เป็นคนกระโจนลงมากลางถนนเอง   แม้แต่เธอยังยอมรับมันเลย จะให้ผมมารับผิดชอบกับเรื่องงี่เง้าแบบนี้ก็ไม่ไหว แค่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุกบาททุกสตังให้เธอก็ดีเท่าแล้ว  เพราะถ้าว่ากันไปตามความจริงแล้ว เธอเองต่างหากที่ผิดกับเรื่องนี้

     

     

         "หมอครับ  มีวิธีที่จะรักษาเธอคนนั้นให้หายภายในวันสองวันนี้  มีมั้ยครับ  ถ้าต้องรักษากันอยู่นานแรมปี ผมคงแย่แน่ๆ"

     

     

          "คุณยงฮวาไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับ เรื่องที่จะฝื้นความทรงจำหมอต้องทำเต็มที่อยู่แล้ว  แต่ความจำจะกลับมา  ช้าหรือเร็วนั้น  มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ร่างกายและสภาพจิตใจของผู้ป่วย จะฝื้นตัวได้เร็วขนาดไหน"

     

    ..............

     

         "อีกวิธีคือ  พาผู้ป่วยไปในที่ที่คุ้นเคย  ทำในสิ่งที่เคยทำ พบป่ะผู้คนเดิมๆ  หรือค่อยเล่าเรื่องราวส่วนที่ขาดหายให้ผู้ป่วยได้รับรู้อยู่ตลอด  หมอเชื่อว่าอีกไม่นานความจำผู้ป่วยก็คงกลับมาเป็นปกติครับ"

     

    แล้วผมจะไปหาใครที่รู้เรื่องราวของเธอได้ถึงขนาดนั้นละครับ
    ในเมื่อญาติก็ติดต่อไม่ได้  พ่อกับแม่ของเธอก็เสียไปหมดแล้ว

     

     

    ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่มีทางออกให้กับผมเลย

     

     

     

     

     

     

         "แล้วเราจะไปหาใครได้วะ ติดต่อคนรู้จักยัยนี้ไม่ได้ซักคน"

     

    ผมหันไปพูดกับจงฮยอน  หลังจากที่เล่าสิ่งที่ได้รับฟังจากหมอมาทั้งหมดให้มันฟัง  จงฮยอนเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม  ผมว่ามันต้องมีทางออกดีๆ ให้กับผมแน่ๆ

     

    มันเงียบไปครู่หนึ่งเพราะกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก  ก่อนจะดีดนิ้ว เป๊าะ หนึ่งเชิงว่าคิดออกแล้ว

     

    ไม่เสียเเรง ผมไว้วางใจมันที่สุดจริงๆ

     

         "แกจำวันที่ซอจูฮยอน เดินมาคุยโทรศัพท์ที่หน้าห้องพักหลังเวทีวันที่เราแสดงคอนเสริตที่ มหาลัย  งานรับน้องนั้น
    ได้ปะ"

     

    ผมหยุดคิดไปชัวขณะ  ก่อนจะนึกย้อนตามที่จงฮยอนบอก  ภาพหญิงสาวที่กำลังอ้อนวอน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั้น ใช่ เธอนั้นเอง!

     

         "เอ่อวะ จำได้"

     

          "นั้นแหละ เธอคุยกับแฟนใช่มั้ย"

     

         "อืม น่าจะใช่ แต่เหมือนกำลังทะเลาะกันอย่างหนักเลยนะ แต่เอ๊ะ ถ้าเราหาแฟนยัยนั้น และบอกให้หมอนั้นกลับมาดูแลเธอล่ะ"

     

         "ถูก!"  จงฮยอนหันมาชี้นิวมาที่ผม กับความคิดที่เริ่มเข้าที่เข้าทางของพวกเรา เพราะหมอนั่น คือคนสุดท้ายที่เรายังไม่ได้ติดต่อ

     

        "จริงด้วย"   ผมพึ่งคิดออกได้ยังไงนะ 

     

         "งั้นไปที่สถานีตำรวจ ไปขอดูหลักฐานอย่างอื่นเพิ่มเติมอีก"

     

          "เอ่อดี  งั้นไปกันเลย"

     

    ความหวังสุดท้าย ผมหวังว่ามันจะไม่ใช่ทางตันหรอกนะ

     

     

     

    [End:YongHwa. Part ]

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เฮ้อ~~~~~~~ ฉันถอดหายใจรอบที่ล้าน? ก่อนจะหยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดทีวีอย่างเซงๆ

     

    สองอาทิตย์  ที่ฉันอยู่ที่นี่  สร้างความหงุดหงิดให้กับฉันมากมาย

     

    เมื่อมันไม่เป็นไปตามคาด!

     

    ยงฮวาไม่โผล่หน้าหล่อๆ ของเขา มาอีกเลยตั้งแต่วันที่ฉันฝื้น ส่วนเพื่อนของเขา ที่ชื่อ จงฮยอนก็มาเยี่ยมฉันสี่ถึงห้าครั้ง โดยครั้งแรกเขามากับนายตัวสูงๆที่ฉันพึ่งจะรู้จักชื่อของเขา นายนั้นชื่อจงชิน  และก็คนตาเล็กๆ ยิ้มน่ารักๆ นั้นชื่อมินฮยอก คนพวกนั้นมาเยี่ยมฉันด้วยเหมือนกัน

     

    แต่พี่จงฮยอนเขาดูจะมาสังเกตการณ์ฉันมากกว่านะ  สายตานี้แบบจับผิดอยู่ตลอดเวลาเลย  ฉันละกลัวความจะแตกจริงๆ

     

     

    ถ้าพวกเขารู้ว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร  ถ้าเขารู้ว่าฉันแกล้งความจำเสื่อม เขาต้องโกธรฉันมากแน่ๆ

     

    เพราะอันที่จริง  ฉันฝื้นมาตั้งแต่วันที่พี่จงฮยอน และยงฮวาเข้ามาคุยเรื่องอาการของฉันแล้ว ที่ฉันลงทุนทำแบบนี้ก็เพราะเพื่อจะได้ตามติดยงฮวา และอ้างให้เขารับผิดชอบกับฉัน

     

    แต่เหมือนสวรรค์จะเลือกเข้าข้างฉันมากกว่านะ ที่ทำให้ฝื้นมาได้ยิน บทสนทนาของสองหนุ่มในวันนั้น

     

    หมอบอกว่าสมองของเธอได้รับความกระทบกระเทือน ฉันไม่แน่ใจ ว่าพอฝืนขึ้นมาสมองของเธอจะยังทำงานครบร้อยเปอร์เซนอยู่หรือป่าวน่ะซิ

     

    ประโยคของพี่จงฮยอน  มันเหมือนกับชี้ทางสว่างให้ฉันได้เล่นเกมนี้ อย่างไม่ยากเย็นเท่าไรเลยล่ะ

     

    แต่ฉันก็ใช่ว่าจะชอบการโกหกแบบนี้หรอกน่ะ 

    แต่กว่าจะถึงวันนั้น ฉันกับยงฮวาก็คงลงเอยกันด้วยดีแล้วละ

     

    ในเมื่อฉันพยายามมาถึงป่านนี้แล้ว ฉันก็จะพยายามมันต่อไป และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรือลดละมันเด็ดขาด!

     

    จะมีสักกี่คนที่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยความยากลำบากได้มากมายเท่ากับฉัน  และจะมีอีกสักกี่คน ที่จะบ้าดีเดือนกล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงตายแบบนี้  ถึงฉันจะกลัวขนาดไหน ก็ห้ามท้อ  ถึงแม้ฉันจะท้อ แต่ฉันก็ไม่มีวันถ้อยเด็ดขาด!

     

     

    ฉันพร่ำบอกกับเองในเวลาที่ท้อแท้  และเหนื่อยล้า ฉันไม่มีใครที่จะมากอดปรอบ  หรือไม่มีใครที่จะมาค่อยเช็ดน้ำตาให้ในวันที่ฉันร้องไห้ เพราะฉะนั้น ฉันจึงเลือกที่จะกอดและเช็ดน้ำตาให้กับตัวเองมานานเกินพอแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องมีใครสักคนมาค่อยเคียงข้าง และเขาคนนั้นก็ต้องเป็น

     

    ผู้ชายที่ชื่อ จองยงฮวา คนเดียวเท่านั้น!

     

     

    ก๊อก  ก๊อก ก๊อก~

     

    เสียงเคาะประตูจากด้านนอกดึงสติที่กำลังฟุ้งซานของฉันกลับมา  เพียงไม่นาน  เจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวขึ้น รุ่นพี่จงฮยอน  (ไอ้)รุ่นพี่ชงชิน และรุ่นพี่มินฮยอค ก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ปรายเตียงของฉัน

     

     

         "ไง เธอพอจะจำอะไรได้บางมั้ย"  ฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ก็โดนคนถามพูดแทรกขึ้นอีกครั้ง โดยไม่รอฟังคำตอบจากฉันเลย

     

    แล้วจะถามไปเพื่อ?

     

         "แต่ไม่ใช่ว่าจำเรื่องของ ไอ้ยงฮวามันเป็นแฟนเธอได้หรอกนะ เลิกฝันกลางวันได้เเล้ว  ยัยเด็กเลี้ยงแกะ"

     ฉันแทบจะตรงเข้าไปตะกุยหน้าไอ้คนที่พูด ถ้าไม่ติดว่าสายน้ำเกลือมันปักอยู่มือละก็ นายเจอดีแน่ นายจงชินปากเสีย

     

    ไว้ให้ฉันกับยงฮวาลงเอยกันเมื่อไหร่เถอะ  ฉันจะบอกให้เขาเลิกคบเพื่อนนิสัยแย่ๆ ปากเสียๆ แบบนายไปเลย  คอยดู!

     

     

         "ทำไมฉันจะต้องโกหก ในเมื่อฉันกับพี่ยงฮวาเราเป็นแฟนกันจริงๆ  แต่ที่เขาไม่แสดงออกเพราะว่าเราแค่ทะเลาะกัน ก็เท่านั้น  และเขาก็คงโกธรฉันอยู่  ถึงได้ไม่มาเยี่ยมฉัน"

     

    ฉันลอยหน้าลอยตาพูดกับ(ไอ้) รุ่นพี่จงชิน  อย่างไม่สำนึกกับเรื่องที่ตัวเองกุขึ้นมาแบบน้ำขุ่นๆ   ทำเอาฝ่ายตรงข้าม ชักสีหน้าไม่พอใจ  นี้ถ้าเขาดูอ้อนแอ้น ไม่สมชายชาตรีล่ะก็นะ   ฉันคงคิดว่าเขาหลงรัก แฟนฉันแน่ๆ เลย ออกตัวแรงซะไม่มีอะ

     

         "เดี๋ยวตอนบ่ายๆ หมอก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ ซอจูฮยอน" คราวนี้เป็นรุ่นพี่มินฮยอกที่หันมาพูดกับฉันอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับฉันอย่างเป็นมิตร

     

    ผิดกับอิตาโย่งจงชิน ไปนั่งหน้าเสียอยู่ที่โซฟามุมนู้น ชิ ใครสนกันละ ไม่ได้ขอร้องให้เขามาเยี่ยมฉันซักนิด

     

         "ซอจูฮยอน"

     

        "คะ?"  ฉันหันไปหารุ่นพี่จงฮยอนตามเสียงเรียก น้ำเสียงของพี่จงฮยอนฟังดูนิ่งแต่แฝงไปด้วยความจริงจังแบบที่ฉันยังนึกหวั่นๆเลยล่ะ

     

    ที่พวกเรามาเยี่ยมและอธิบายทุกอย่างให้เธอฟัง เธอพอจะนึก  หรือจำอะไรขึ้นมาได้บางหรือเปล่า

     

    ฉันถอดหายใจ เฮือกใจ ก่อน(จะทำเป็น) ตีหน้าเศร้า  เล่าความเท็จ เอ้ย! ความจริงออกไป

    ทุกครั้งที่พวกเขาเข้ามาเยี่ยมฉัน พวกเขาทุกคนจะคอยเล่าแต่เรื่องเดิมๆ  เหตุการณ์เดิมๆ ในวันที่เกิดเรื่องให้ฉันฟังอยู่เสมอ จนฉันแทบจะหลุดอาการไปหลายที ดีที่พอสำนึกตัวเองได้บ้างว่า

     

    (แกล้ง) สมองเสื่อมอยู่

     

          "รุ่นพี่ไม่เชื่อฉันเหรอค่ะ  ฉันเป็นแฟนกับพี่ยงฮวาจริงๆ นะค่ะ"   บีบน้ำตาให้คลอเบ้าตาเข้าไว้  พี่จงฮยอนจะได้เห็นใจ และสงสารฉันบาง

     

          "ถ้าเป็นแฟนไอ้ยงฮวามันจริงๆ  ทำไมเธอถึงไม่รู้จักพวกฉันที่เป็นเพื่อสนิทกับมันล่ะ"

     

    ฉันอยากจะกรีดร้อง  ใส่หน้าอิตาจงชินนี้จริงๆเลย~~~ พี่จงอยอนพงะและเกือบจะเชื่อฉันอยู่แล้ว  แต่(ไอ้)รุ่นพี่บ้านี่ซิ โอ้ย  อย่าให้ฉันหายนะ นายได้เจอดีแน่ๆ อีจงชิน!

     

         "ไม่รู้ทำไม ฉันถึงจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้ แต่กลับเห็นภาพของพี่ยงฮวากับฉันอยู่ในหัวตลอดเวลา ความรู้สึกและภาพมากมายเกิดขึ้นในหัวฉันเอง ฉันก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกัน  ฮึก..... ฮึ..ฮือ..."

     

    คราวนี้ฉัน (แสร้ง) ทำเป็นเป็นร้องไห้ขึ้นมาอย่างจริงจัง และหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ  จนทั้งสามคนเงียบไป

     

    เอาซี้~~~~~ ถ้าคิดว่าจะเอาชนะน้ำตาของฉันได้  ก็เอาเลย~~~~~~~~

     

    และสุดท้ายหนุ่มหล่อทั้งสอง  และมนุษย์เดินดินอีกหนึ่ง ก็เเพ้ราบคาบให้กับน้ำตาผู้หญิง (อย่างฉัน)จนได้  หุหุ ฉันว่าแนวดราม่านี้ฉันถนัดเลยนะเนี่ย  ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรให้คนเชื่อมาหลายต่อหลายคนละ ฮี่ฮี่

     

    ถ้าไปออดิชั่นเป็นดารา  ฉันคงไม่ต้องคิดถึงผลของมันหรอก ว่าจะออกมาเป็นไง มันก็เห็นๆ กันอยู่ล่ะนะ

     

     

     

     

    หลังจากที่ สามคนออกไปจากห้อง  ฉันก็จัดเเจงเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวออกจากโรงพยายาลซักที

     

    แผนไม่เดินหน้ามาครึ่งเดือนละ  กะจะทำคะแนนตั้งแต่อยู่ที่โรงพยายาลแต่ตัวต้นเหตุก็ไม่โผล่หน้า (หล่อๆ)  มาเยี่ยมฉันบางเลย  ใจดำชะมัด  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก  ถึงเขาจะพยายามหลบหน้าหรือหนีฉันไปซักแค่ไหน

     

     ต่อจากนี้ไป......ฉันจะเป็นฝ่ายวิ่งเข้าไปหาเขาเอง

















    ซอจูฮยอน:เตรียมรับมือไว้ให้ดีๆ เถอะ พี่ยง!










    จองยงฮวา: คิดว่าผมจะกลัวอย่างนั้นเหรอ เหอะ! ก็แค่ผู้หญิงคนเดียวจะไปทำอะไรได้!


     






    ****---------------------------------------------------------------------****




    2013-01-11
    Talk

    แจ้งเกี่ยวกับตอนของฟิคค่ะ ไรเตอร์พลาดเองเพราะเขียนในหน้าเวิร์ดตัวหนังสือใหญ่
    และพอเขียนๆ และแบ่งตอนออกมามันเหมือเยอะอะค่ะ พอเอามาอัพไหง ได้นิดเดียว 
    รู้สึกว่ามันสั้นมากจริงๆ ค่ะ แต่เปลี่ยนแปลงกับตอนไม่ได้ แต่ไรเตอร์จะรวบตอนเข้าไว้ด้วยกัน
    ที่เคยแจ้งบอกไว้ ว่าฟิคเรื่องนี้อาจจะมี 30 ตอนกว่าๆ ก็คงต้องรวบตอนเข้ามาให้สั้นลง 

    แต่รับร้องว่าเนื้อหา และพล๊อคเรื่องยังครบและจัดเต็มเหมือนเดิมจ้า 
    ตราบใดที่นักอ่านไม่เบื่อ  ไรเตอร์ก็จะขยันอัพเรื่อยๆจ้า

    Thank you^^
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×