ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Projects Love แผนรักกับดักร้าย [ยงซอ]

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 56


     Projects Love  แผนรักกับดักร้าย

     

    TEASER 2 [Fic] Projects Love แผนรักกับดักร้าย [Yong & Seo]












































    ฮ่าๆๆ  หน้ารังเกียจเป็นบ้า!!”

     

    ออกไปเลยนะ  ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างเธอ

     

    พลัก!!!!

     

    ร้องไปเถอะ เราไม่มีวันเห็นใจคนเธอหรอก ฮึ่ย!”

     

    เธอดูสารรูปยัยนี่สิพวกเธอ  ยังมีหน้ากล้ามาที่นี่อีก

     

     

          ฉันเดินผ่านสวนสาธารณะเล็กๆ  ที่ไม่ห่างจากคอนโดของฉันซักเท่าไหร่  ก่อนจะได้ยินเสียงกลุ่ม
    คนกำลังทะเลาะกันอยู่  ไม่ไกลจากจุดที่ฉันเดินนัก

     

           ตัวฉันเองก็ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านซักเท่าไหร่หรอกนะ  ถ้าไม่ติดว่า ฉันเห็นการกระทำ
    บางอย่างของคนกลุ่มนี้  ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้ ฉันจึงรีบสาวเท้าเดินอย่างรีบเร่ง
    เพื่อให้ไปถึงที่หมาย

     

    พลัก!!!

    ออกไปเลยนะ ยัยซื่อบื่อ!!!

     

          ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรออกไป  ร่างหนาบึกก็ถูกหลายคนผลักให้ล้มลง จนตัวถลาไปกับพื้นปูน
    หยาบๆในลานสวนสาธารณะเเห่งนี้   แต่แทนที่จะมีคนเข้าไปช่วย กลับกลายเป็นว่าทุกคนได้แต่ยืนดู
    การกระทำดังกล่าว และหัวเราะอย่างชอบใจ  ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการแสดงตลกโชว์อยู่ก็ไม่ปาน

     

             ฉันเหลืออดกับภาพตรงหน้า ก่อนจะแหวกกลุ่มคน  เข้าไปในวงล้อม

     

    ทำอะไรกันน่ะ!!!” ฉันตวาดอย่างสุดทนให้เก็บเด็กนักเรียน เมื่อฉันสังเกตที่เสื้อของแต่ละคน ว่ายัง
    อยู่ ม.ต้นกันอยู่เลย ทำไมถึงริออาจมีเรื่องชกต่อย และที่สำคัญ ยังเป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมดอีก

     

                  เด็กเหล่านี้มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย และเริ่มถอยห่างออกไป

     

    เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย นี้มันรุนแรงเกิดไปแล้ว!”   ประโยคคำถามที่ไม่ได้รับ
    คำตอบทำเอาอารมณ์ฉันเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาแล้วล่ะ ปกติฉันเป็นคนเก็บอารมณ์ได้ดีมากนะ แต่มันก็
    ระเบิดได้ไม่อยากเช่นกัน

     

    เอาละสาวน้อย…”   ฉันเสยผมหยักโศกเป็นลอนหน่อยๆของตัวเองอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ เพราะ
    ถ้าฉันพลั้งมือทำร้ายสาวน้อยพวกนี้ละก็ ชาวบ้านเขาคงได้หาว่าฉันเป็นผู้ใหญ่ใจร้ายรังแกเด็กแน่ๆ

     

    “..มีใครในที่นี้บอกกับฉันได้บางว่า มันเกิดอะไรขึ้น 
    ฉันแสยะยิ้มอย่างที่คิดว่าร้ายกาจที่สุดส่งมอบไปให้เด็กๆขนหัวลุกเล่นๆ และนั้นมันก็ได้ผลดีที
    เดียวละ เด็กสาวนับสิบคนหน้าถอดสีกันเป็นแทบ  ก่อนจะมีเสียงใครคนหนึ่งบอกกับฉันอย่าง
    ลนลาน

     

    กะ  กะก็ยัยกาอิน นี่ซิคะ มาเซ้าซี่พวกเราขอเข้าชมรมเชียร์ลีดเดอร์  ตะ  ตะแต่ว่า...

    แต่อะไร!!”  ฉันตวาดซะคนบอกสาระดุ้งโหยง และรีบบอกประโคถัดมาอย่างว่องไว้

     

    แต่ว่าชมรมเรามีกฎรับแค่คนหน้าตาดี และหุ่นดีเท่านั้นนะค่ะ คนอย่างกาอินไม่มีคุณสมบัติพอ

     

             เหอะ กฎบ้าบอที่สุด ฉันส่ายหัวให้กับความคิดและกฎบ้าๆของชมรมเชียร์ลีดเดอร์ ไม่ว่าจะ
    สมัยไหน คนไม่สวย หุ่นไม่ดีก็ไม่มีสิทธิซินะ ฉันปรายตามองเด็กสาวนับสิบที่พร้อมไปด้วยทั้ง
    หน้าตา และหุ่นอันสวยงาม  แต่ละคนล้วนแล้วแต่ขาวผ่อง ตัวเล็กสวยใสน่ารัก ราวกับไอดอล
    หญิงเกาหลีเลยละ

     

          ทำไมความลำเอียงบนโลกมนุษย์มันถึงมีมากมายเช่นนี้นะ คนสวยเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ทำอะไรๆ
    ก็อย่างนั้นเหรอ ฉันบอกปัดกับตัวเองก่อนจะเดินไปพยุง กาอิน (ฉันเรียกตามเด็กบอกสารคนนั้นนะ)
    ให้ลุกขึ้น

     

    โอ้ย!!”

    เธอเจ็บตรงไหน

    ข้อเท้าน่ะคะ” เธอบอกกับฉัน  ก่อนจะก้มลงไปจับที่ข้อเท้าของเธอซึ่งมีรอยถลอกนิดหน่อย และข้อเท้าเธอก็คงแพลงด้วยน่ะซิ

     

    หึ..สมควรแล้วนิ!”

     

         ฉันจ้องเขม็งไปยังต้นเสียง ที่เอื้อนเอ่ยประโยคที่ไม่น่าฟังเอาซะเลยออกมา  ฉันปล่อยมือจาก
    กาอิน    เมื่อเห็นว่าเธอพยุงตัวยืนได้แล้ว  ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปประจันหน้ากับต้นเสียงดังกล่าว

     

    เธอบอกว่ามันสมควรงั้นเหรอ สาวน้อย    รอยยิ้มอาบพิษถูกส่งไปให้คนตรงหน้า ทำเอาสาวน้อย
    น่ารักคนนี้ ถึงกับน้ำตาคลอ

     

    “…มันสมควรที่ กาอินจะเจ็บตัว และมันสมควรแล้วใช่มั้ย ที่พวกเธอจะรังแกคนที่แค่มาขอเข้า
    ชมรมเชียร์แค่นี้ เธอไม่คิดว่ามันจะมากเกินไปด้วยหรือไง  ห๊ะ
    !!”

     

          อาจจะเป็นเพราะฉันตวาดเสียงดัง หรือเด็กนี้กลัวไปเองจนตัวสั่น อาจจะดูว่าฉันใจร้ายกับเด็ก
    ม.ต้น   แถมยังเป็นเด็กผู้หญิงสวยใสน่ารักใช่มั้ยละ แต่ถ้าพวกคุณเห็นเหมือนที่ฉันเห็น พวกคุณ
    ยังจะเอ็นดูเด็กที่สวยแค่ภายนอกอย่างพวกเธอได้หรือไม่
    ?

     

                   สิ่งที่พวกเธอทำมันอาจจะไม่ได้ร้ายแรงมากมาย แต่ถ้าเทียบกับกาอิน เด็กในวัยเดียวกัน ที่
    ต้องตกอยู่ในสภาพที่มีคนเป็นสิบรุมทำร้าย และหัวเราะเยาะแบบนี้ ฉันว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่อง
    ชกต่อยของพวกมาเฟียเลยซักนิด อะไรทำนองนั้นเลยละ

     

    เฮ้อ….”  ฉันถอนหายใจอีกรอบ เพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเอง เพราะถ้าฉันโมโหหรือโกธรกับ
    อะไร ฉันจะบ้ามากถึงมากที่สุดเลยล่ะ เพราะฉะนั้นสะกดกลั้นมันไว้คือดีที่สุด อย่าให้มันต้อง
    ระเบิดออกมาตอนนี้เลย

     

    “….ฉันขอให้พวกเธอย้ายหน้าสวยๆ ออกไปจากสวนสาธารณนี้ให้เร็วที่สุดได้มั้ย ก่อนที่อารมณ์
    ฉันมันจะระเบิดออกมา

     

    สิ้นคำประกาศิตของฉัน การสลายตัวดุจความไวเเสงก็เกิดขึ้น  ต่างคนต่างวิ่งแตกตื่นราวกับนกที่
    กำลังแตกรังในยามเย็นเลยละ

     

    ฉันพลิกตัวหันหลัง ก่อนจะพยุงกาอินและพาเธอเดินไปนั่งพักในศาลาที่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุซัก
    เท่าไหร่

     

    ขอบคุณพี่สาวคนสวยมากๆ เลยนะคะ เธอส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ฉัน

     

    ถึงเด็กพวกนั้นจะบอกว่าเธอ อ้วนน่าเกลียด ถึงอย่างไรก็แล้วแต่   สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นและสัมผัสได้
    ทันที คือภายใต้เบื้องหน้าที่ถึงแม้อาจจะไม่สวยสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยๆ จิตใจของเธอก็ยัง
    ดีกว่ากลุ่มเด็กที่สวยงดงามแค่เปลือกนอกกลุ่มนั้น

     

    ไม่เป็นไร แต่เอ๊ะ  ข้อศอกเธอมีแผลถลอกนี่ เลือดออกด้วย ฉันนั่งลงข้างเธอทันที ก่อนจะพลิก
    ดูบาดแผล ที่จุดอื่นๆ เผื่อว่าจะมีอีก

     

    มิน่าละ ถึงรู้สึกแสบๆ แฮ่ๆ

     

            ฉันส่ายหน้าให้กับความใสซื่อของเธอ  ก่อนจะล้วงยิบกระเป๋าเล็กๆ ในเป้นักศึกษาของ
             ตัวเองอย่างคล่องแคล่ว

     

    กระเป๋าเล็กที่มีอุปกรณ์ทำแผลครบครัน ไม่ว่าจะเป็น แอลกอฮอล์ล้างแผลล้างแผลขวดเล็ก ยาแดง
    ใส่แผล ลำลี และอีกบลาๆๆ   แล้วลงมือจัดการทำแผลเสร็จสรรพด้วยความชำนาญ

     

    พี่พกอุปกรณ์ทำแผลติดตัวตลอดเลยเหรอคะ

     

    ใช่จ๊ะ พี่จำเป็นต้องใช้มันอยู่ตลอดน่ะซิ เอ๊ะ  ไม่ซิ  เมื่อก่อนต่างหากละ ที่พี่จำเป็นต้องใช้มัน
    เดี๋ยวนี้ไม่แล้วละ  พี่แค่พกติดตัวไว้ เพราะความเคยชินน่ะ

     

    ฉันยักไหล่และไม่ใส่ใจกับความคิดของตัวเอง  พรางหันไปส่งยิ้มให้กับกาอิน แล้วจัดการเก็บ
    อุปกรณ์ทำแผล ยัดใส่กระเป๋าเป้ใช่เดิม

     

    อืม เธอน่ะ ชื่อกาอินใช่มั้ย

    ค่ะ

    อืม เธอรู้ใช่มั้ย ว่า กาอิน แปล ว่าผู้หญิงสวย” ^^

     

    ฉันละเกลียดชื่อตัวเองจริงๆเลยคะ

     

     ฉันขมวดคิวเป็นเชิงสงสัย กาอินเลยพูดต่อ

     

    พี่ก็เห็นได้จากวันนี้ใช่มั้ยคะ คนน่าเกลียดแบบฉันดันไปชื่อกาอิน พอใครที่ได้ยินชื่อฉันแบบนี้แล้ว
    เห็นตัวจริง  พวกเขาก็พากันหัวเราะเยาะ ทำกับเหมือนกับว่าฉันเป็นตัวประหลาด จนฉันไม่
    อยากจะไปยุ่งหรือสุงสิงกับใครเลยละคะ เพราะฉันรู้ว่าฉันนะมันน่าเกียจขนาดไหน
    !”

     

    เธอหยุดคำพูดไว้เเค่นั้น ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างเศร้าสร้อย

     

    แล้วถ้าไม่อยากไปสุงสิงกับใคร ทำไมต้องอยากสมัครเข้าชมรมเชียร์ลีดเดอร์ด้วยละ

     

    คำถามของฉันทำเอาคนหน้าเศร้าเมื่อกี้ เปลี่ยนมาเป็นอมยิ้มหน่อยๆ ก่อนที่หน้าเธอจะแดงระเรื่อ
    ขึ้นมาเอาซะดื้อ ๆ

     

    เอ่อ คือ  คือว่าฉัน...  โอ้ยย ฉันละงงจริงๆ ว่าเธอจะมาอารมณ์ไหน เมื่อตะกี้ยังเศร้าสร้อยอยู่เลย
    เปลี่ยนมาม้วนตัวเขินอายซะงั้น 
    =.=’

     

    ฉันแอบชอบคนๆ หนึ่งอยู่นะคะ เขาเป็นผู้ชายในฝันของฉันเลยน้า~~  หล่อ เท่ เรียนก็เก่ง
    กีฬาก็เลิส  และอีกสองเดือนข้างหน้าจะมีการแข่งขันกีฬาระดับโรงเรียน ก็เพราะเขาเป็นตัว
    เเทนนักกีฬา  ของโรงเรียนเนี่ยละค่ะ

     

    เธอก็เลยอยากจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์เพื่อไปเชียร์เขา”   ฉันต่อท้ายประโยคอย่างเสร็จสรรพ เมื่อเริ่ม
    เดาความคิดของกาอินออก

     

    แต่เพราะฉันคงไม่มีสิทธิ์แล้วละคะ เพราะฉันไม่ได้อยู่ชมรมเชียร์ฯ ความพยายามที่ทำมา
    มันจบแล้ว
      กลับไปก้มหน้าเศร้าอีกแล้ว -*-

     

    อย่าพึ่งท้อสิ ถึงเธอไม่ได้เป็นเชียร์รีดเดอร์  ก็ใช่ว่าเธอจะไปเชียร์เขาคนนั้นไม่ได้นิ

     

    แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรละคะเขาไม่มีวันมองเห็นฉันหรอก

     

    เฮ้อออออออ ฉันถอนหายใจรอบที่ล้าน?  ก่อนจะควานหากระเป๋าสะตังในเป้ใบเดิม แล้ว
    ยิบบางสิ่ง    ในกระเป๋าสะตังออกมาส่งให้ กาอิน เธอรับมันไปอย่างงงๆ
    ก่อนจะมองไปที่สิ่งๆนั้น

     

    นี่รูปใครอะค่ะ อ๊วนนนอ้วน” 

     

    ฉันไม่ได้ตอบสิ่งที่กาอินถาม แต่กลับมองไปยังเบื้องหน้า  แล้วเริ่มเล่าเรื่องคนที่อยู่ในรูป
    เรื่องที่ฉันจดจำ และไม่มีวันลืมไปชัวชีวิต

     

    คนในรูปนี้ เคยหนัก 180 กิโลกรัม

    ..................

     

    ฉันเห็นเธอในวันนี้ พาให้นึกถึง ผู้หญิงที่กล้าหาญคนนี้ขึ้นมาน่ะ

    ทำไมเหรอคะ

    ผู้หญิงคนนี้ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ในโลกที่แสนเลวร้ายใบนี้ ทุกๆวันที่เธอไป
    โรงเรียน
    เธอรู้มั้ยกาอิน ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเจอกับอะไรบ้าง

     

    กาอินส่วยหน้าไปมา ก่อนจะส่งสายตา เป็นเชิงสงสัย

     

    ในทุกๆวันที่เธอคนนั้นไปโรงเรียน ไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่ร้องไห้   ไม่มีวันไหนเลย
    ที่ชีวิตของ   เธอจะได้อยู่อย่างสงบ  บางครั้งก็ถูกเอาร้องเท้าไปซ่อน โดนขโมยข้าวกล่องบ้าง 
    โดนรังแกจากผู้คน โดนดูถูก ด่าทอสารพัด ทั้งที่เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลย

     

    แล้วเธอคนนั้นไม่สู้บางเหรอค่ะ

     

    ฉันหันกลับมาจ้องหน้ากาอิน ก่อนจะยิ้มให้กับเธอบางๆ

    สู้สิ  ทำไมเขาจะไม่สู้ละ  แต่ทุกครั้งที่เขาสู้ มันเหมือนกับว่าเขาได้ทำร้ายตัวเองไปด้วยน่ะซิ

     

    ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยอะคะ

     

    ก็เพราะว่าเธอสู้ไง คนพวกนั้นถึงรังแก และเล่นงานเธอกลับเป็นเท่าตัว  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอ
    แบกร่างกายที่เจ็บปวดและจิตใจที่บอบช้ำกลับบ้านตามลำพัง  แม้แต่เพื่อนที่จะเดินเคียงข้าง
    ยังไม่มีซักคน

     

    โห~~ โหดร้ายเกินไปแล้ว อย่างน้อยๆ  ฉันก็มีเพื่อนนะคะ ถึงจะไม่มาก
    แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย

     

    ใช่ เธอยังโชคดีกว่าคนๆ นี้มากนะ กาอิน

     

    R r r~ ~~~~~~

     

    เสียงริงโทนจากมือถือของกาอินดังขึ้น ทำให้การสนทนาของเราชะงักไปชั่วครู่  ก่อนที่กาอิน
    จะหันมาบอกกับฉัน

     

    "พี่สาวคะ แม่ของฉันโทรมาตามกลับบ้านเเล้วล่ะค่ะ ฉันอยากจะอยู่ฟังเรื่องของเธอคนนั้นนะ
    แต่ว่า..... "   กาอินทำหน้าเศร้าไป เธอแสดงท่าทางว่าอยากจะฟังต่อจริงๆ
    แต่เธอก็ต้องกลับบ้านด้วยเหมือนกัน

     

    ไม่เป็นไร กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง ขาเธอ ค่อยยังชั่วขึ้นมาบางหรือยัง

     

    ดีขึ้นแล้วล่ะคะ

     

     

    “งั้นก็กลับบ้านได้แล้ว ยัยเด็กดื้อ

     

     

    อ้อ คะ ฉันควรกลับบ้านได้แล้วซินะ แฮ่ๆ ป่านนี้แม่คงรอแย่

     

    กาอินยิ้มแห้งๆให้กับฉัน  แล้วลุกพรวดพราด  เดินออกไปจากศาลาหลังนี้ทันที 

    ก่อนที่เราจะเดินกันไปคนละทาง

     

    อ้อ พี่สาวคะ  กาอินตะโกนเสียงดัง เพราะตอนนี้เราเดินห่างจากกันมาหลายช่วงตัวมาก
    ฉันจึงหันไปมองตามเสียง

     

    พี่สาวคนสวยชื่ออะไรคะ!”

    ฉันส่งยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะตะโกนกลับไป

     

    ซอฮยอน พี่ชื่อ ซอจูฮยอน!”

     

    ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ  และก็ขอบคุณอย่างมากเลยคะ ที่ช่วยฉันวันนี้” J

     

           กาอินโค้งให้ฉันไปหลายรอบ เดินไปโค้งไป ฉันจึงได้แต่โบกมือกลับไปให้  
    ก่อนจะหันหน้ากลับมามองยังพื้นถนนเบื้องหน้า




     

     

     แต่เอ๊ะ

     

    นั่นมัน............

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด >< 

      







                           ****--------------------------------------------****
    2013-01-02
    Talk
    เอาบทนำมาส่งตอนดึกๆ คะ ความจริงไรเตอร์นั่งอัพตั้งแต่ 3ทุ่มกว่าๆ
    แต่เน็ตมันไม่เอื้อเลย เอามาลงปีใหม่ตามสัญญาคะ
    ถึงช้าแต่ก็ดีกว่าไม่เนาะ  ฮ่าๆๆ

    สุขสันปีใหม่นะคะ

    Thank you^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×