คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Fic:Projects Love ตอนที่15.Fight!
[Fic] Projects Love แผนรักกับดักร้าย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่15.Fight!
"ซอฮยอนจะไปไหนอะ"
"ไปตึก การแสดง"
ฉันบอกกับมุนอาแค่นั้น ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปที่ห้องซ้อมโซน A1ทันที่
"แล้วนี่มันเรื่องอะไร ยงฮวา!" เสียงเหมือนคนกำลังทะเลาะกันดังออกมาจากห้องซ้อม ของ CNBLUE น้ำเสียงที่เเข็งกร้าว บ่งบอกความไม่พอใจอย่างยิ่ง ตะเบงเสียงคล้ายกับจะคอกอยู่ในที และที่สำคัญ
เธอเป็นผู้หญิง!
ฉันจึงหยุดมือที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไป แล้วเงี้ยหูฟังอย่างสงบ
"มันก็ไม่ได้มีอะไรนิ" เสียงของยงฮวาพูดเสียงเรียบกับใครอีกคนในห้อง ที่ฉันเห็นแต่เพียงด้านหลังของเธอ
"ทำไมนายไม่รีบไปปฏิเสธข่าวพวกนี้ล่ะ" ผู้หญิงที่อยู่ในห้อง หยิบนิติยสาร ที่ฉันคาดว่าคงเป็นนิติสาร L ขึ้นมา (ฉันมองมันไม่ค่อยถนัดน่ะ)
"ก็มันไม่มีอะไร ฉันถึงไม่ปฏิเธสไง ไม่เอาหนาชินเฮ" ท้ายประโยคฟังเหมือนยงฮวาจะยอมๆ ผู้หญิงคนนี้มากกว่านะ
แต่เอ๊ะ!
'ชินเฮ' จะใช่ปาร์คชินเฮคนเดียวกันหรือเปล่านะ ฉันเห็นยงฮวาตบไหล่ของเธอเบาๆด้วย
"แล้วทำไมทีเรื่องของฉันนายจะต้องรีบปฏิเสธด้วย" ชินเฮ กอดอกพูดด้วยน้ำเสียงเชิงน้อยใจนะ ฉันว่าไม่ผิดคนแน่ๆ เพราะมุนอาเคยบอกกับฉันว่าปาร์คชินเฮก็เคยมีข่าวทำนองแบบฉันกับยงฮวา แต่ยงฮวาก็ปฏิเสธข่าว ว่าเธอเป็นแค่เพื่อนสนิท ฉันมั้นใจว่าคือคนเดียวกันแน่ๆ
"ก็เพราะฉันกลัวว่าเธอจะเสียหายไงละ"
ฉันไม่รอให้ผู้หญิงตรงหน้า ได้ใกล้ชิดหรือออดอ้อนแฟน? ของฉันไปมากกว่านี้ ฉันสำรวจตัวเองในสภาพที่เปียกปอน อย่างกับลูกหมาตกน้ำ แต่ฉันยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ฉันจึงจัดการขยี้หัวของตัวเอง และขย้ำเสื้อผ้าของตัวเองนิดหน่อย
เอาล่ะ เริ่มเรียกซีนอารมณ์ที่ก่อให้เกิดฉากดราม่าที่ห่างหายไปนานได้เเล้ว ซอจูฮยอน!
"ฮือ~~~~~~"
ฉันวิ่งผลักประตูเข้าไป และไม่สนใจใครทั้งนั้น เป้าหมายของฉันก็คือต้องพุ่งตรงเข้าไปที่ตัวของยงฮวาคนเดียว
หมับ!
ฉันวิ่งเข้าไปสวมกอด ยงฮวาโดยไม่สนใจสายตาของชินเฮ ที่มองมาอึ้งๆเลย ก่อนจะเอาหน้าซุกลงไปกับแผงอกกว้างๆ และจัดการสั่งน้ำตาให้ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง หุหุ
"นี่เธอเป็นอะไรเนี่ย ทำไมถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้" ยงฮวามองฉันอย่างอึ้งๆ และดันร่างที่ไร้เรียวแรงของฉัน ออกอย่างเบามือ เขาใช้สายตาสำรวจดูสภาพของฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าดูจากสายตา ฉันคิดว่าเดาไม่ผิดแน่ ว่าตอนนี้ยงฮวากำลังแสดงออกว่าเป็นห่วงฉัน มาก!
มองแค่นี้ก็รู้แล้ว ว่ายงฮวาเป็นห่วงฉัน แต่คนที่ยืนตัวแกร่งอยู่ข้างหลังฉันเนี่ยซิ ฉันรับรู้ได้ถึงแรงอำหิตที่ส่งผ่านมาให้ฉันเสียวสันหลังวูบวาบเล่นๆเลย
"ฉะ ฉัน ฮึก....." (ฉันแสร้ง) ทำเป็นสะอึกสะอื้นและแทบยืนไม่ไหว ยงฮวาจึงพยุงฉันให้ไปนั่งที่โซฟา โดยที่ทำเหมือนไม่มีชินเฮอยู่ในห้องนี้
"ฉันว่า ฉันพอจะเดาออกแล้วนะ ว่าทำไมนายถึงไม่ปฏิเสธข่าวบ้าๆ พวกนี้!" ชินเฮที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างนิ่งๆ เอ่ยขึ้น ทำให้ยงฮวาเงยหน้าขึ้นไปพูดกับเธอ
"เธอก็เห็นว่าสภาพยัยนี้เป็นยังไง ไม่เอาน่าชินเฮ มีเหตุผลหน่อยซิ"
"แล้วเธอเป็นใคร ทำไมต้องวิ่งเข้ามานาย ทำไมนายต้องทำท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเธอถึงขนาดนี้"
ก็เป็นคนสำคัญของเขานะซิยะ แค่นี้ก็ดูไม่ออก ฉันอยากจะพูดออกไปแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่าดราม่าอยู่นะ
"ไม่เอาน่าชินเฮ" ยงฮวาทำหน้าอ่อนใจเหลือทน
ฉันยังนั่งร้องไห้ (เบาๆ) ปล่อยให้สองคนเขาพูด? กันไปก่อน ฉันไม่อยากจะเข้าไปแทรกระหว่างพวกเขาน่ะ มันจะเสียมารยาท ^^
"เหอะ แค่นี้ฉันก็ดูออกแล้ว ยงฮวา นายไม่ต้องพยายามอธิบายหรอก" ชินเฮถอยห่างออกไปเรื่อยๆ โดยที่ยงฮวาพยายามจะอธิบายเรื่องราวต่างๆ แต่เธอก็ไม่หยุดฟัง และเดินออกจากห้องไป โดยไม่สนใจเสียงเรียกไล่หลังของยงฮวาเลย
ฉันแอบเสียใจนิดๆนะ ที่ยงฮวาทำเป็นจะรั้งยัยนั้นไว้ แต่พอยัยนั้นปิดปะตูเท่านั้นแหละ เขาก็ถลาเข้ามานั่งข้างๆ ฉันเลย ฉันเลยเสียใจไม่ลงน่ะซิ
"พี่คะฉันกลัว ฮึก ฮึก" ยงฮวาไม่ได้พูดอะไร แต่เขาเดินไปหยิบผ้าขุนหนูผืนนึ่งในล๊อคเกอร์ออกมา เอ๊ะ ฉันบอกไปหรือยัง ว่าห้องซ้อมโซน Aทั้ง3ห้องเนี่ย มีห้องอาบน้ำในตัว และมีล๊อคเกอร์เก็บของไว้ด้วย เลิสอย่างบอกใครเลยใช่มั้ยล่ะ
เเละเขาก็ห่มผ้าเช็ดตัวลงกับตัวฉัน ฉันได้แต่มองการกระทำที่ดูอบอุ่นของเขาอย่างรู้สึกขอบคุณ
"ไหน บอกฉันมาซิ ว่าใครมันกล้ามีเรื่องกับเด็กจอบแสบซ่า และหัวดื้ออย่างเธอ"
"พี่อะ" ฉันหันไปทำหน้าหงิกใส่คนที่เขาค่อนแขวะฉัน "วันนี้ทั้งวัน ฉันโดนแกล้งตลอดเลยคะ L ตั้งแต่ที่ข่าวออกไป"
"นั้นแหละ ที่นี่ยังอยากจะเรียกร้องให้ฉันเป็นของแฟนเธออยู่อีกหรือเปล่า"
"นั้นมันคนละเรื่องกันเลยนะคะ" ฉันทำน้ำตาคลอๆ ขึ้นมาอีกรอบ ขอบคุณน้ำตา ที่สั่งการได้ตลอด เหมือนก๊อกน้ำที่เปิดปิดได้ด้วยมือ
"เฮ้อ.." ยงฮวาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน และเหมือนจะยอมให้กับฉันในครั้งนี้ เขาจึงหยิบผ้าขุนหนูที่คลุมตัวฉันอยู่ ขึ้นมาเช็ดหัวให้อย่างเบามือ ในแบบที่ฉันเองก็คาดไม่ถึง และตกใจกับการกระทำ ที่ไม่มีสัญญาณบอกกล่าวของเขาเลย
ฉันสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้เขาเช็ดหัวที่เปียกปอนให้อย่างว่าง่าย พอได้มองหน้าใกล้ๆ ของยงฮวาแบบนี้ เขาทั้งหล่อ ทั้งเข้ม ดวงตาคมเป็นประกายเหมือนกว้างหนุ่มนั้นอีก ทำเอาฉันหลงใหลและเคลิ้มไปกับมันจนไม่รู้ตัว
กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าเผลอจ้องมองเขาอยู่นานแค่ไหน เสียงเข้มก็ทักขึ้นมาก่อน
"จะมองฉันอีกนานมั้ย รู้หรอกน่าว่าหล่อ" ยงฮวาพูดแบบยิ้มๆ เผยให้เฉยเขี้ยวเสน่ห์คู่แสนเย้ายวนนั้น
"ค่ะ หล่อมาก เอ้ย!" ฉันสะดุ้งกับคำพูดที่หลุดปากของตัวเอง ก่อนจะก้มหน้าซ่อนความเอียงอายเอาไว้ ได้โปรดอย่าไปยิ้มแบบนี้ที่ไหนนะคะ ยงฮวาของฉัน
สองคนยังคงไม่รู้ ว่ากำลังมีใครบางคนจ้องมองการกระทำของคนในห้องตั้งแรกเริ่ม สองมือของร่างบาง กำหมัดแน่น ราวกับโกธรแค้นมานานแสนนาน เล็บยาวที่ถูกเคลือบไว้ด้วยสีเข้มๆ กำหมัดแน่นจนมันแทบจิกลงไปที่เนื้อมือของเธอ
"ฉันจะไม่ยอมหยุดแค่นี้เเน่!" คนตรงหน้าประตูเอื้อนเอ่ยพร้อมกับดวงตาเกรี้ยวกราดเอาเรื่อง ก่อนจะเดินหุนหันออกไป
ฉันนั่งมองยงฮวา ที่กำลังร้องเพลงและเล่นกีต้าไปเรื่อยๆ เสียงของเขาช่างมีเสน่ห์ดึงดูดคนฟังมากจริงๆ เมื่อไหร่ที่เขาได้เอื้อนเอ่ยบทเพลงออกมา มันไพเราะ จนฉันไม่อยากจะพลาดการได้ยิน หรือการมองเห็นไปเพียงเซียววินาที
"พี่ชอบเล่นกีต้าร์มากเลยเหรอคะ" ฉันถามเมื่อเห็นว่าเขาหยุดร้องเพลงลงแล้ว ยงฮวา เงยหน้าขึ้นจากกีต้าร์ก่อนจะหันมาบอกกับฉัน เสียงเรียบ
"นอกจากการร้องเพลงแล้ว กีตาร์ก็คือชีวิตของฉัน"
"สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอคะ" ฉันทำตาหลุดวาวล้อเรียน ในสิ่งที่เขาพูด
"พูดไปเธอก็ไม่เข้าใจมันหรอก"
"งั้น.....ถ้าจะให้ฉันเข้าใจ พี่ก็สอนฉันเล่นกีต้าร์ซิคะ แล้วฉันจะได้เข้าใจในสิ่งที่พี่พูดไง" ฉันบอกอย่างยิ้มๆ แต่กลับได้รับการส่ายหน้าปฏิเสธตอบกลับมา
"ถ้าเธอไม่รักและเพราะอยากจะเรียนมันด้วยใจ เธอก็ไม่มีวันเข้าใจมันอยู่ดี ถ้าเธออยากเรียนเพื่ออยากเข้าใจฉัน ก็อย่าเลยดีกว่า"
"หืม~ ถ้าพี่ไม่สอนให้ฉันรู้จักกีตาร์ แล้วฉันจะรู้จักและรักมันได้ยังไงละค่ะ ในเมื่อฉันยังไม่เคยลองเล่นมันดูซักครั้งเลยนิ จะรู้ได้ไงกัน"
ฉันก็เคยคิดอยากจะเล่นกีต้าร์มันซักครั้งนะ แต่เพราะฉันงงกับไอ้ตัวที่เรียนว่าคอร์ดไง เลยตัดใจไม่เรียนมันดีกว่า
"ถ้ามีคุณครูทั้งหล่อ ทั้งเก่งแบบพี่คอยสอนฉัน ฉันต้องเล่นได้แน่ๆ ค่ะ" ยิ้มหวานถูกส่งไปให้คนตรงหน้าอีกรอบ
แต่ก่อนที่ฉันจะได้ สวีต? กับคุณแฟนสุดที่รักไปมากกว่านี้ ก้างชิ้นใหญ่ ก็เปิดประตู้เข้ามาขว้างทันที
"แหม! สวีตกันไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเขาเลยนะ" อีจงชินเป็นคนเปิดประเด็นคนเเรก ตามเข้ามาด้วย พี่จงฮยอน และพี่มินฮยอค
"เห็นคนเขาลือกันทั้งคณะ ว่าซอฮยอนไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ต่างคณะเหรอ เป็นอะไรมากหรือเปล่า" พี่มินฮยอคถามอย่างเป็นห่วง
"แกต้องไปถาม คู่กรณีอีกคนมากว่า ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า เห็นโดนละเลงข้าวทั้งจานลงบนหัว แถมน้ำหวานอีกแก้วใหญ่ เหอะ" ไม่พูดซักเรื่องมันจะตายมั้ย
"พูดเป็นฉากๆ เหมือนเห็นกับตาตัวเองเลยนะคะ รุ่นพี่อีจงชิน!" ฉันหันไปทำเสียงเย็นยะเยือกใส่อิตาตัวโย่งนี่ เขาเพียงยักไหล่แบบไม่สนใจกลับมาให้ฉัน
"แล้วซอฮยอนเป็นอะไรมากหรือเปล่าล่ะ" พี่จงฮยอนถามฉันอีกคน
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกคะ แค่โดนน้ำเทราดหัวจนเปียกไปทั้งตัวแค่นั้นเอง"
"หืม ไปมีเรื่องผิดใจอะไรกันหรือเปล่า"
"เปล่าหรอกค่ะ เขาคงโกธรกับเรื่องที่นิติยสาร L ลงข่าวไปน่ะค่ะ" ฉันบอกอย่างไม่ใส่ ไม่ยักรู้แฮะ ว่าฝั่งนู้นที่ฉันเล่นงานเป็นรุ่นพี่ แต่ใครสนกันละ
"เอ่อ ว่าแต่ยังไงวะยงฮวา แกปล่อยไปแบบนี้ แล้วซอฮยอนจะไม่เดือนร้อนหรือไง" พี่มินฮยอคหันไปถามกับยงฮวาอย่างจริงจัง
"ก็กำลังคิดอยู่"ตนถูกถามตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"อย่าคิดให้มันนานนักละ เดี๋ยวซอฮยอนก็แย่ไปซะก่อน" พี่จงฮยอนสัมทับไปอีกคน
"ฉันว่าคนที่จะแย่ คือคนที่คิดที่จะสู้กับยัยนี่มากกว่า" อีกแล้วคะพี่น้อง อีจองชิน ผู้มีปากที่(ดี) เกินไป
ฉันรู้ว่ายงฮวาเองก็คงกังวลเรื่องฉันอยู่ไม่น้อย ถึงเขาจะไม่ประกาศบอกกับทุกคนเรื่องของฉัน ฉันก็ไม่เสียใจหรอกนะ เพราะเรื่องของหัวใจ.....
มันเป็นเรื่องของคนสองคน?
ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต้องการ หรือจะเรียกร้องให้เขาต้องประกาศบอกกับใครต่อใครตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เห็นมั้ยล่ะคะ อย่างน้อยๆความคิดของฉัน ก็มีเรื่องที่ดีๆ อยู่บ้างละนะ^^
วันนี้คลาสบ่ายทั้งคลาส ฉันเเทบสติแตก เพราะสายตาเคลือบแคลงของนิสิต ร่วมห้อง ให้ตายเถอะ นี่พวกเขาจะมองฉันอีกนานมั้ย เล่นมองแบบไม่ปิดบังแบบนี้ กลัวว่าฉันจะไม่รู้หรือไงกัน!
"ซอฮยอน วันนี้กลับด้วยกันมั้ย พอดีคุณพ่อมารับฉันวันนี้อะ" มุนอาหันมาพูดกับฉัน หลังจากที่เราเก็บอุปกรณ์การเรียนใส่การเป้ เรียบร้อยแล้ว
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ฉันกลับเองได้ บ้านเราก็ไม่ได้ไปทางเดียวกันเลย เกรงใจคุณพ่อน่ะ" ฉันหันกลับไปปฏิเสธกับเพื่อนแสนดี อย่างสุภาพ และซึ้งในน้ำใจของเธอนะ
แต่คอนโดของฉันกับบ้านมุนอามันคนละเส้นทางเลย ฉันพักที่อิลซาน ส่วนมุนอาพักอยู่แถวๆ คังนัม ใกล้กับ มหา'ลัย จะตายไป แล้วจะวกไปวนมาทำไมจริงมั้ย?
"แน่ใจนะ ว่าวันนี้กลับคนเดียวได้"
"ได้ซิจ๊ะ ปกติ ฉันก็กลับคนเดียวตลอดอยู่แล้ว เธอก็เห็น" ฉันบอกกัยบมุนอาอย่างมั่นใจ ฉันรู้ว่าทำไมวันนี้มุนอาถึงดูห่วงฉันออกนอกหน้านัก
"แต่ว่า..."
"ไม่มีแต่ ไปได้แล้ว" ฉันบอกเสียงเข้ม ก่อนจะจับไหล่ของมุนอาให้หันออกไปยังประตู และดันให้เธอเดินออกไปพร้อมกับแขนของฉันที่เกาะไล่ของเธออยู่
"หาอะไรซอฮยอน" มุนอาถามขึ้นในระหว่างที่เรากำลังเดินลงตึก
"ก็สมุดเลคเชอร์ที่จดวันนี้ไง มันหายไปไหนก็ไม่รู้" ฉันบอกพร้อมกับวางกระเป้ลง แล้ว รื้อค้นทุกซอกทุกมุมในกระเป๋าอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มันก็เจอ
"เจอมั้ย "
"ไม่เจอ สงสัยลืมไว้ในคลาสสุดท้ายอะ"
"ปะ งั้นรีบไปเอากัน" มุนอาเตรียมจะเดินนำฉันไปยังคลาสเรียนคาบสุดท้าย แต่ฉันก็รีบปฏิเสธ
"เดี๋ยวไม่กี่นาที คุณพ่อก็คงมาถึงแล้ว เธอไปรอท่านเถอะ ฉันจะไปเอาคนเดียวเอง ไงก็ต้องแยกกันอยู่ดี" ฉันบอกอย่างมีเหตุผล
"ก็ได้ งั้นไปละนะ" ฉันโบกมือลาเพื่อนสาวอีกรอบ ก่อนจะรีบสาวเท้าไปยังที่หมาย เพราะนี่มันก็เย็นมากแล้ว
เอ๊ะ นั้นไง สมุดเลคเชอร์ของฉันมันตกอยู่พื้นตรงกับที่ฉันนั่งเลย สงสัยจะเป็นตอนเก็บกระเป๋า แน่ๆ เพราะฉันยัดๆ ของกระเป๋าเลยไม่ทันสังเกตุ ทำให้สมุดมันล่วงไป
"ไม่ต้องเสียเวลาตามให้เหนื่อยเลยนะ น้ำเสียงที่ฟังดูไม่เป็นมิตร ดังขึ้นก่อนที่ฉันจะหันไปยังต้นเสียง
"หึ นึกว่าใคร" ฉันจ้องตาคนพูดอย่างเอาเรื่องเมื่อจำหน้าเธอได้แม่นยำ ก่อนจะปรายตาไปมองอีกสามถึงสี่คน ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ
จะไม่ให้ฉันจำ แม่สาวที่ฉันกับมุนอาเล่นงานเธอด้วยข้าวจานใหญ่กับน้ำหวานสีสวย นั้นได้หรือไง
"ปากดีไปเถอะ แกรู้มั้ยว่าฉนเป็นใคร!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดพูดอย่างเอาเรื่อง
"ฉันจะไปรู้กับเธอเหรอ หึ สมองเสื่อมหรือยังไงถึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร" ฉันตอบอย่างยียวนกวนในที ทำเอาฝ่ายครงข้ามแทบจะพุ่งเข้ามากระชากหัวฉัน
"ถ้าจะมาพร่ามเรื่องไร้สาระแค่นี้ ฉันขอตัวนะ" พูดจบฉันก็เตรียมจะเดินหนี แต่โดนเรียกไว้ซะก่อน พร้อมกับอีกสามคนที่วิ่งมาดักหน้าอย่างเอาเรื่อง ทำอย่างกับเป็นพวกมาเฟียขาใหญ่ก็ไม่ปาน
"จับมันไว้ซิ" ผู้หญิงคนเดินตะเบงเสียงเหมือนสั่งการ กับประโยคหลังเธอหันไปพูดกับเพื่อนของเธอ ก่อนที่สามคนจะเข้าเข้าจักแขนฉันไว้ ให้ตายเถอะ!
ฉากเหมือนในละครเลยนะ และอีกไม่นานผู้หญิงตรงหน้าก็เดินเข้ามาตบหน้าฉันซินะ แต่มันคงไม่ง่ายอย่างที่คิด
ฉันแสยะยิ้มอย่างที่คิดว่าใครก็ไม่กล้าจะสู้พร้อมกับกดเสียงต่ำบอกกับคนที่จับตัวฉันอยู่
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าพวกเธอไม่อยากเดือนร้อน" พูดจบฉันก็หันไปจ้องตาสามคนที่จับฉันอยู่ แล้วส่งสายตาแกร้งกร้าวจิกอย่างจริงจังที่สุดไปให้พวกเธออีกละลอก
และได้ผล! พวกเธอกำลังหวาดกลัวและลังเล ว่าจะปล่อยฉันดีหรือไม่ ฉันจึงสบัดแขน ให้หลุดจากการเกาะกุม และเตรียมจะเดินเร๋วๆ หนี้ไปอีกหน ใครจะอยู่ต่อกรด้วยละ 4 ต่อ 1 มันไม่คุ้มหรอกนะ
"ปล่อยมันทำไม ตามไปจับมันมาเส่!" เสียงสั่งการดังขึ้นอีกหน และคราวนี้พวกเธอไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระไปได้ง่ายๆ ยัยคนที่สั่งการย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน
คิดว่าจะจะเล่นงานฉันได้ง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ ไม่มีทาง!
ฉันพยายามสะบัดแขน และดีนดิ้นสุดชีวิต แต่ไม่รู้ว่าสามคนที่จับฉันไว้เอาเรียวแรงมาจากไหน ถึงตรึงฉันไว้อยู่กับที่ได้
"อย่าดิ้นนักเลยน้า พอจัดการเธอเสร็จ เราก็จะปล่อยเธอเองนั้นแหละ!" หนึ่งในสามหันมาพูดเสียงเย็นยะเยื่อกกับฉัน
"รีบจัดการเลยเยมี เดี๋ยวใครจะผ่านมาเห็นเข้า" ผู้หญิงตัวเล็กอีกคนหันไปพูดกับผู้หญิงที่โดนฉันกับมุนอาเล่นงานไปตอนเที่ยง ชื่อเยมี ซินะ
"ฉันรู้แล้วละน่า" ไม่รอให้ทันความคิด มือของเธอก็ง้างขึ้นเตรียมจะฟาดลงมาที่หน้าสวยๆของฉันอย่างเหลืออด จนฉันต้องหันหลบแทบไม่ทัน
หมับ!
แต่อยู่ดีๆ มือของเยมี ก็ต้องค้างอยู่บนอากาศ เมื่อถูกอีกมือหนึ่ง มาขว้าไว้ทันท่วงที
"สี่ลุมหนึ่ง มันไม่แฟร์เลยนะ" เสียงเข้มกดต่ำบงบอกถึงอารมณ์มาคุ พร้อมกับสายตาจ้องเขม็งไปยังคู่กรณีของฉันอย่างเอาเรื่อง!
ซอจูฮยอน: พี่ยงแอบคุยกะสาวเหรอ!
คยูฮยอน:เฮ้อ! เมื่อไหร่ผมจะได้ออกไปเรียกเรตติ้งซะที!
จองยงฮวา: ผมกับมัน คุณจะเลือกใคร!
***---------------------------------------------------------------------------***
2013-01-27
Talk
มาแล้วววว ใครจะมาช่วยซอจูกันนะ?
ส่งกำลังใจให้ทีคะ เพราะเครื่องกำลังฮอต
และร้อนแรงกันมาก แต่ละคน ><
จะเป็นพี่ยงหรือคยูดีน้า~~ ประมาทไม่ได้นะ
เพราะคนเขียนอารมณ์ไม่เหมือนชาวบ้านเขา (หัวเราะ)
ซอจูของเราก็เเรงดีเช่นเดิม
ยังไงก็เม้นๆ โหวตๆ ติชมเช่นเดิมนะคะ
อ่านคอมเม้นของแต่ละท่านแล้ว ทั้งสนุก
ทั้งฮา และได้ข้อคิดเยอะมากค่ะ
Thank You^^
ความคิดเห็น