ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Red หยุดเกมส์ร้าย ให้หัวใจได้รัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 277
      4
      18 ก.ค. 57

    3

                   

                  1 คืนผ่านไป

                 ช่วงชีวิตของมนุษย์ช่างแสนสั้น แค่คิดว่านี่คือเช้าวันใหม่ เช้าที่ต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้าย แค่นี้มันก็ทำให้ฉันไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยจริงๆ ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้อีกต่อไป การได้พบเจอกับเขาเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของฉัน เขาสร้างรอยแผลไว้กับฉันมากมาย ทำให้ฉันอับอายจนสติแตก (แบบอลังการ)

    ไม่มีเหตุผลที่ฉันจำเป็นต้องเชื่อเขา แค่คำขู่ของผู้ชายที่ชื่ออัลฟองเซ่ มันทำให้คนอย่างฉันหวาดกลัว ไม่กล้าไปไหนงั้นเหรอ

    ไม่มีทาง -*-ฉันจะต้องออกจากอพาทเมนต์นี้ให้เร็วที่สุด

    ฉันเดินฉับๆ ลงบันไดไปที่ห้องป้าเช้ง เพื่อแจ้งย้ายออกทันที

    “ป้าคะ ป้า”

    ฉันเรียกป้า พร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องว่างเปล่า มีเพียงสายลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่างเบาๆ แต่มันก็แรงมากพอที่จะทำให้กระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะปลิวตกลงมาใกล้ๆ ฉันก้มลงมองทำให้รู้ว่ามันคือ O[ ]O

    รูปที่ฉันกับเขาจูบกันเมื่อวาน

    ไม่จริง /O_O\

                    ฉันเดินไปที่โต๊ะแล้วพบว่า บนโต๊ะมีรูปอีกหลายรูป กระจายเต็มไปหมด ฉันหยิบรูปทั้งหมดขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา ริมฝีปากขบแน่นด้วยความโกรธ

    หมอนั่นทำเกินไปแล้วจริงๆ -*-

                    “อ้าว เธออยู่นี่เองเหรอ ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะมาที่นี่จริงๆ ^^

                    ฉันหันไปมองตามเสียง นายจอมแสบกำลังพิงขอบประตูด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข คงมีความสุขที่ได้แกล้งฉันสินะ -*- ท่าทางแบบนั้นทำให้ฉันเดือดซะยิ่งกว่าเดิมซะอีก

                    “นาย -*- เลวมาก”

    พรึ่บ! ฉันฟาดรูปทั้งหมดใส่หน้าเขาทันที ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมหลบสายตา เขาฉีกยิ้มชั่วร้ายส่งมาให้ก่อนก้มเก็บรูปที่ตกอยู่ตามพื้น

    “เธอจะมาขอย้ายออกจริงๆ สินะ ว่าแต่เธอไม่รู้สึกว่ารูปพวกนี้สวยรึไง^^” เขาชูรูปขึ้นมาราวกับกำลังชมผลงานเอกของศิลปินระดับโลก

    “น่ารังเกียจ เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องเอารูปพวกนี้มาประจานกันเลยรึไง -*-

    อารมณ์เสียอย่างแรง ฉันกำหมัดแน่นไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้ เขาตั้งใจให้ฉันมาเห็นกับตา เหมือนกับจะบอกว่าฉันไม่มีทางรอดเงื้อมมือของเขาได้

    ให้ตายเถอะ ฉันเกลียดเขาอย่างที่ไม่เคยเกลียดใครมากเท่านี้

    “ฉันเตือนเธอแล้วไง เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอกนะ ^^

    “มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องเชื่อฟังคนน่าขยะแขยงอย่างนาย”

    “เหตุผลทั้งหมดอยู่ในมือของฉันแล้วไง ^^

    “นายมันน่าสมเพชสิ้นดีทำเป็นแค่ขู่คนอื่นเท่านั้นไม่รู้สึกละอายใจบ้างรึไงที่ได้แค่เล่นเกมส์โง่ๆ นายก็รู้ว่าตัวเองไม่มีวันชนะ -*-

    “ฮึ สมกับเป็นทะเล ผู้หญิงที่ชอบจุดประกายไฟให้กับฉัน ^^

    เขาระบายยิ้มชั่วร้ายอย่างที่ถนัดแล้วแค่นหัวเราะเบาๆก่อนยกรูปขึ้นมา จากนั้นหยิบไฟแช็คในกางเกงมาจุดให้เห็นเปลวไฟ เผารูปทั้งหมดในมือจนกลายเป็นขี้เถ้า

    ... แล้วปล่อยลงสู่พื้น

    “ฉันเกลียดคนอย่างนายที่สุด”

    “ยิ่งเกลียด ก็ยิ่งรักง่ายขึ้น ^^

    “ไม่มีทาง มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

    “ความรักเป็นเรื่องที่เราห้ามมันไม่ได้หรอกนะ ^^

    “ดูเหมือนนายจะรู้ดีนี่นา แต่นายก็รู้ว่าความเกลียดชังนะ มันก็ห้ามกันไม่ได้เหมือนกัน”

    “มันจะทำให้เธอคิดถึงแต่เรื่องของฉันจนหยุดไม่ได้ต่างหาก ^^

    “นาย... หลงตัวเองจริงๆ”

    “มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่หลงตัวเอง ออกจะเฟอร์เฟคขนาดนี้ ^^

    “เฮอะ ใช่ นายมันสมบูรณ์แบบ นายมีทุกอย่าง ยกเว้น... ” ฉันจงใจเว้นวรรคเพื่อหยั่งเชิงเขา ซึ่งมันได้ผล เขาหุบรอยยิ้มชั่วร้าย แล้วส่งแววตาสงสัยมาแทน

    “ยกเว้นอะไร -*-

    ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วเงยหน้าสบตาของคนที่อยู่ตรงหน้า แววตาสงสัยมองฉันอย่างเคลือบแคลงใจ ฉันกำหมัดแน่นก่อนทุบหน้าอกด้านซ้ายของเขาอย่างเต็มแรง

    “ความรักไงล่ะ”

    อัลฟองเซ่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ฉันเลื่อนมือออกจากตัวของเขา แล้วเดินออกไปจากห้องป้าเช้ง

    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทำเอาฉันอึ้งไปเลยนะเนี่ย คนอย่างเธอจะรู้จักความรักแค่ไหนกันเชียว”

    ฉันหยุดนิ่งกับคำพูดเสียดแทงของเขาที่ทำเอาฉันแทบกระอักเลือด แล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง

    “มากกว่าคนอย่างนายที่เอาแต่สนุกกับความรู้สึกของคนอื่น”

    “เธอโมโหเหรอเนี่ย น่าสนุกจริง ^_^

    เขาส่งยิ้มที่แสนสุขมาให้ แววตาฉายแววราวกับสัตว์ป่าที่พบลูกกวางตัวน้อยๆ ท่าทางของเขาทำให้ฉันรู้สึกโมโหมากจริงๆ ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่ออดกลั้นความโมโหเอาไว้

    “นายต้องการอะไรจากฉันนักหนา ฉันชักทนไม่ได้แล้วนะ -*-

    “ฉันต้องการอะไรน้า อืม ” เขาทำท่าทางคิดหนัก ซึ่งมันทำให้ฉันโมโหมากขึ้นไปอีก

    “ฉันไม่สนอีกแล้วว่านายต้องการอะไร”

    ฉันเขย่งเท้าแม้มันจะยังปวดจากแผลเมื่อวาน เงยหน้าขึ้นมามองตาของเขาตรงๆ เราทั้งคู่นิ่งเงียบสักพัก รอยยิ้มของคนตรงหน้ายังไม่เลือนหายไป แต่มันยังทวีคูณความชั่วร้ายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

    “เธอไม่อยากรู้จริงๆนะเหรอ ^^

    “ไม่ เพราะไม่ว่านายต้องการอะไรจากฉัน” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ คนตรงหน้าเองก็ดูเหมือนจะก้มต่ำลงมา จนทำให้ฉันได้กลิ่นลมหายใจกลิ่นมิ้นต์ ฉันยิ้มอย่างท้าทาย “นายจะไม่มีวันได้ ^^

    ฉันสะบัดหน้าและเดินออกมาในตอนที่จมูกของเราชนกันพอดี โดยไม่หันหลังกลับไปมองเขาสักนิด เพราะฉันรู้ดีว่าตอนนี้เขาคงยิ้มกว้างร้ายกาจ

    ฮึ อลังการมากทีเดียวกับฉากแบบนี้ ^_^

    “เธอเร่าร้อนจริงๆ ฮึ ^^

    โอเค เมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ แม้ว่าฉันจะไม่อยากเห็นหน้าเขา แต่ฉันเองก็ไม่ต้องการหลบหนีให้ใครมาดูถูก เลือดในตัวดูเหมือนจะพุ่งพล่านด้วยความหงุดหงิด ลมที่พัดผ่านรวมถึงลมหายใจของตัวฉันเองมันร้อนจนทรมาน

    อัลฟองเซ่ นายผิดเองที่มาเล่นเกมส์บ้าๆกับฉัน

    ... เพราะตอนนี้ฉันเอง ก็อยากเอาชนะนายเต็มทน

     

     

    “เฮ้! ทะเล นี่แกยังเป็นเพื่อนฉันอยู่ใช่ไหม -*-

    ฉันหันไปมองตามเสียงตะโกนของคนที่กำลังเดินฉับๆ บนเส้นทางโกรธเกรี้ยว ผมลอนยาวสีบลอนด์ที่ตรงปลายผมไฮไลด์ด้วยสีฟ้าและสีชมพูที่แสนคุ้นตาและแสบตามากด้วย (=_=;) ปลิวไปด้านหลังเผยให้เห็นเนินอกคัพดี ใบหน้าสวยเหมือนตุ๊กตากำลังปิดเบี้ยวด้วยความโกรธ รองเท้าส้นสูงสีบานเย็นสดบดขยี้กับพื้นร้านอาหารอย่างไร้ความเกรงใจ และไม่สนใจว่าตอนนี้คนในร้านจะมองเธอเป็นตาเดียว

    “เน็ต แกอย่าตะโกนนะ  =_=;” ฉันยกมือห้ามทันทีที่ลิลิเน็ตมาถึงโต๊ะ และกวาดตาไปรอบๆร้านเพื่อให้ยัยนี่รู้ตัวสักทีว่ากำลังจะถูกเชิญออกจากร้านถ้าหากเธอยังตะโกนเสียงดังอีก

    ลิลิเน็ตมองฉันอย่างหงุดหงิดก่อนนั่งลงไขว้ขาแสนเรียวยาว ทำให้ชุดเดรสรัดรูปสีม่วงสลับกับสีชมพูเข้มของเธอเลิกขึ้นนิดหน่อย ซึ่งเผยให้เห็นขาอ่อน เธอกวาดสายตาไปรอบๆร้านพร้อมกับโปรยรอยยิ้มมีเสน่ห์ และตบท้ายด้วยการขยิบตาให้กับเด็กเสิร์ฟที่กำลังจับตามองเธออย่างจงใจ

    “อย่าเรียกฉันว่า เน็ต อีกนะ ต่อไปนี้เธอต้องเรียกฉันว่าลิลิเน็ต -^-” เธอมองฉันอย่างค้อนๆ

    “โอเค เน็ต ฉันยอมรับผิด...ทุกอย่างเลย”

    “บอกแล้วไงอย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น -^-” เธอขึ้นเสียง แล้วกอดอกหันหน้าหนีไปทางอื่น

    “เน็ต ขอร้อง”

    “เธอควรขออย่างอื่นก่อนจะขอร้องนะ -^-

    “โอเค ฉันขอโทษ v.v” ฉันขอโทษเธอด้วยเสียงอันจริงใจ

    “เฮอะ ยกโทษให้ ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะว่ามันจะไม่มีครั้งที่สอง” เธอเหล่ตามาที่ฉันทั้งๆที่ยังไม่ยอมปล่อยมือที่กอดอกไว้แน่น

    “ขอบใจ ^^

    ฉันกลั้นยิ้มไม่ได้กับท่าทางที่เหมือนเด็กแปดขวบของยัยนั่น เธอไม่เคยโกรธฉันได้นานสักทีไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม เรื่องครั้งนี้ก็เหมือนกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง หลังจากที่ฉันบอกเลิกอัลฟองเซ่แล้วฉันก็ปิดโทรศัพท์ เพราะไม่ต้องการติดต่อกับใคร จนลืมนึกไปว่าเธออาจเป็นห่วง

    “บอกมานะว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากที่เธอบอกเลิกเขา แล้วทำไมต้องปิดโทรศัพท์ รู้ไหมสามวันมานี้ฉันแทบบ้าตายเพราะติดต่อเธอไม่ได้ แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเธอกำลังลั้นล้ากับการย้ายไปพักอพาร์ตเมนท์ และมันก็ทำให้ฉันสติแตก -*-” เธอร่ายยาวอย่างลืมหายใจก่อนกระดกน้ำดื่มจนหมดแก้ว

    “รู้สิถึงได้โทรเรียกให้เธอมาด่าฉันไง”

    “นั่นมันเป็นคำบ่น ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร ที่อยากรู้คือเกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

    “โอเค ใจเย็นๆก่อนสิ” ฉันยกมือห้ามลิลิเน็ตที่อยากรู้จนตาแทบถลนออกมา =_=; ก่อนจะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ฉันเดินเข้าไปฟาดหัวอัลฟองเซ่แล้วเดินออกมาอย่างสง่างาม จนถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่ถึงชั่วโมง

    “อืม -_- ถ้าให้สรุปก็คือตอนนี้เธอกำลังเล่นเกมส์กับเขา โดยเอาหัวใจเป็นเดิมพันสินะ” ลิลิเน็ตพยักหน้าหงึกหงัก หน้าตาที่ครุ่นคิดของเธอ กำลังรวบรวมข้อมูลที่ฉันป้อนให้ไปอย่างเอาจริงเอาจัง

    “น้ำเน่าน่า -_- ไม่มีใครเอาหัวใจมาเดิมพันทั้งนั้น ฉันแค่ต้องการให้เขารู้ว่าไม่มีทางที่จะชนะฉันได้ก็แค่นั้น”

    “ถึงเธอจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ ฉันว่ามันก็เสี่ยงเกินไปนะ หมอนั่นอันตราย”

    “ฉันไม่มีวันหลงกลเขาหรอกน่า”

    “แต่ก็หลงคบกับเขามาเกือบเดือน =_=;

    “เน็ต -_++” ฉันหรี่ตามองอย่างเคืองๆ

    “โอเค เธอคงอยากให้ฉันช่วยสินะ”

    “อืม” ฉันบอกพลางจิบน้ำแคนตาลูปปั่นที่สั่งมา

    “สิ่งแรกที่เธอควรทำ คือห้ามรักเขาเด็ดขาด”

    “ฉันรู้น่า -*-“ฉันทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสาวตรงหน้า ตกลงเธอจะช่วยฉันได้ไหมเนี่ย

    “จริงสิ! ฉันเพิ่งนึกได้ เออ แต่สัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ -).(-” ลิลิเน็ตหรี่ตามองอย่างชั่งใจ ก่อนตักเค้กคำโตใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

    “พูดๆมาเถอะน่า”

    “สัญญาก่อนสิ o).(o

    “เออๆ สัญญา” ฉันรับคำอย่างรำคาญ ปกติยัยเน็ตไม่ใช่คนเซ้าซี้นี่น่า แสดงว่าต้องมีอะไรพิลึกพิลั่นแน่ๆ

    “ฉันว่านะ -_-” ลิลิเน็ตมองหน้าฉันอย่างชั่งใจอีกครั้ง มันจะอะไรกันนักกันหนา เธอคงไม่ให้ฉันสั่งฆ่าอัลฟองเซ่หรอกนะ =_=; แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่เข้าท่า แต่ก็ไร้อารยธรรมเกินไป -/ \-

    “อะไร ว่ามาสิ”

    “ฉันว่า... เธอต้องทำให้เขาหลงรักเธอให้ได้ -_-;

    “ลิลิเน็ต นี่มันไม่ขำ -*-

    ฉันเรียกชื่อเต็มของยัยเน็ต ซึ่งนั่นแปลว่าตอนนี้ฉันเริ่มอารมณ์เสียกับความคิดของเธอ แถมมันยังทำให้ฉันเริ่มเดือดปุดๆ ฉันไม่ต้องการอยู่ใกล้หมอนั่น ไม่อยากเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ =*= ถ้าหากฉันต้องทำให้เขารักฉัน ฉันไม่ต้องแสร้งยิ้มหวานให้เขาทั้งๆที่ไม่เต็มใจ อยู่ใกล้ๆทั้งๆที่ฉันเกลียดเขาเนี่ยนะ

    ยังไงฉันก็ไม่ทำ -*-

    “ฉันรู้ อย่าเพิ่งโมโหสิ เธอสัญญากับฉันไว้แล้วนะ (  ‘.’)” ยัยเน็ตเชิดหน้าอย่าไม่รู้สึกรู้สาก่อนตักเค้กใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ น่าโมโหชะมัด -*-

    “เธอก็รู้ ฉันเกลียดเขาขนาดไหน ฉันไม่อยากอยู่ใกล้เขา เธอเข้าใจไหม -*-

    “เธออดทนหน่อยสิ แค่เจอกับเขาบ่อยๆ แค่แป๊ปๆ จากนั้นเธอก็จะไม่ได้เจอเขาอีก เพราะเขาจะไม่เข้ามาหาเธออีกเลย”

    ฉันนิ่งเงียบอย่างชั่งใจ ถ้าจะไม่ได้เจอเขาอีกเลย...

    ไม่มีอัลฟองเซ่มาตอแยอีก...

    มัน...ก็คงจะดีไม่น้อย

    “ยังไง -_-?”

    ลิลิเน็ตยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ ก่อนเอนหลังพิงเก้าอี้ เชิดหน้าอย่างสง่า (แต่ไม่เท่าฉัน -_-;) สลับขาที่ไขว้กัน ก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะจ้องลึกเข้ามาที่ดวงตาของฉัน

    “ก็ทำเหมือนที่เขากำลังทำกับเธอ แน่นอนว่าถ้าเธอรักเขานั่นหมายถึงว่าเธอแพ้ แต่ถ้าเขารักเธอนั่นหมายถึงมันจะทำให้เธอกอบกู้ศักดิ์ศรีเธอคืนมาได้ และเมื่อเธอหักอกเขา จะไม่มีผู้ชายที่ชื่ออัลฟองเซ่ตามตอแยเธออีกเลย เชื่อสิ”

    “อือ” ฉันตอบรับเบาๆ เพราะไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ ว่าจะทำให้เขารักได้ ก็ฉันออกจะเกลียดเขาขนาดนั้น =_=; แถมยังมีปัญหาใหญ่และสำคัญกว่านั้นอีก

    “เธอมีปัญหาอะไรรึไง @_@?” ลิลิเน็ตเอียงคอถาม

    “อืม มีปัญหาแค่ข้อเดียวเท่านั้น”

    “อะไร?”

    “ผู้ชายคนนั้น ...รักใครไม่เป็นหรอก”

    ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆ หมอนั่นรักใครเป็นซะที่ไหน ความรักน่ะเคยรู้จักรึเปล่าก็ไม่รู้

    เฮ้อ ~ แค่เริ่มคิดเรื่องนี้ก็ดูเหมือนทางมันจะตันไปหมด

     “เอ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ทะเล ดูเหมือนเธอกำลังอ่อนแอนะ _._

    “เปล่าสักหน่อย ฉันแค่คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ =_=;

    “ไม่งั้นก็ยอมให้เขาเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆ สักพักเธอก็บอกชอบเขา แล้วพอเขาหักอกเธอทิ้ง เขาก็จะจากเธอไปพร้อมกับศักดิ์ศรีของเธอ”

    “เป็นตัวเลือกที่แย่จริงๆ”

    “ฉันก็คิดว่างั้น แต่ฉันว่าเขาคงไม่ยอมรามือง่ายๆแน่ ถ้าเขาไม่ชนะแบบถือโล่หรือแพ้แบบราบคาบ”

    “...” ฉันนิ่งค้างอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ลิลิเน็ตจะเป่าหูฉันด้วยประโยคที่พูดง่าย แต่ทำยาก ยากสุดๆ =_=;

    “เชื่อฉันเถอะ ทำให้เขารักให้ได้สิ อย่างเธอมันไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ ^_^

    “โอ๊ย! แล้วฉันต้องทำยังไงเนี่ย #_#?” ฉันมึนไปหมดกับความคิดที่สับสนปนเป

    “เธอก็แค่ทำในแบบที่เขาชอบสิ”

    “ปัญหาเพิ่มมาอีกข้อ ฉันไม่รู้ว่าเขาชอบแบบไหนน่ะสิ =_=;

    “เธอคบกับเขามาเกือบเดือนไม่รู้รึไงว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน” ลิลิเน็ตมองอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ฉันควรจะเน้นให้เธอฟังดังๆไหมนะ -*-

    “หมอนั่นชอบทุกแบบล่ะน่า ถ้าสวยเข้าหน่อยล่ะก็นะ =*=;

    พูดเรื่องนี้พาลนึกถึงเรื่องแย่ๆที่เขาทำกับฉัน (-*-) บอกตามตรงฉันเคยเห็นเขาควงผู้หญิงทุกแบบตอนที่ยังเป็นแฟนฉัน ไม่ว่าจะเป็นสาวหวาน สาวหมวย สาวสวย สาวห้าว เซ็กซี่ เปรี้ยวเด็ดเข็ดฟัน หรือแก่นแก้วเหมือนในละครหลังข่าว ถ้าหากเขาสนใจละก็ทุกคนล้วนติดกับทั้งนั้น

    “ไม่น่านะ มันน่าจะมีอะไรที่คล้ายๆกันบ้าง -_-?”

    “ไม่รู้สิ -_-

    “งั้นฉันก็บอกไม่ได้เหมือนกัน”

    “เน็ต -*-

    “ฉันไม่ได้รู้จักเขาดีขนาดนั้นหรอกนะ” ลิลิเน็ตหน้ามุ่ย ก่อนทำตาโตเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก “จริงสิO_O เธอก็รู้คนอย่างเขาคบกับใครไม่ถึงสามวันหรอกนะ แต่กับเธอเกือบเดือนเชียวนะ แถมเธอยังเป็นฝ่ายบอกเลิกเขาอีกต่างหาก”

    ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกระตุกอย่างรุนแรง ก่อนเต้นระส่ำอย่างไม่เป็นจังหวะ

    มันหมายความว่ายังไงกันนะ

    หรือว่า...เขาชอบฉัน

    ถ้ามันเป็นจริงฉันคงมีโอกาส ...โอกาสที่จะสลัดเขาออกไปจากชีวิต ^O^

    แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ในเมื่อแววตาเขาไม่ได้บอกอย่างนั้น แววตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆนั่น -*-

    “นั่นเธอคงไม่ได้หมายความว่าเขาชอบฉันหรอกนะ =_=; รู้ไหมว่าหมอนั่นร้ายกาจแค่ไหน เขาควงผู้หญิงเกือบ 2 โหล ตอนที่กำลังคบกับฉัน -*-

    “ฉันรู้ และก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอมีบางอย่างที่เขาสนใจอยู่นะ”

    “ฉันเนี่ยนะ =_=;

    “ก็เธอน่ะสิ เลิกเป็นผู้หญิงสวยแต่โง่สักทีเถอะ =_=;

    “เน็ต -_-+++ แกว่าคนที่กวาดเอมาทุกวิชาแบบฉัน โง่เนี่ยนะ ฉันละอยากตาย”

    “งั้นเหรอจ๊ะ แม่คนกวาดเอ งั้นก็คิดไปคนเดียวแล้วกัน -^-

    พอพูดจบลิลิเน็ตก็ลุกขึ้นพรวดพราดจนฉันต้องรีบคว้าข้อมือไว้ก่อนที่เธอจะเดินหนีไป

     “เธอจะไปไหนมาช่วยกันคิดก่อนสิ”

    “ฉันมีหน้าที่แค่เดินหมากตัวแรกเท่านั้น ตัวต่อๆไปเธอต้องเป็นคนเดินเอง และที่สำคัญตอนนี้ฉันสายมากแล้ว หวังว่าธันคงไม่โกรธฉันหรอกนะ” ลิลิเน็ตพูดพลางทำหน้ากังวล

    ธัน ที่ลิลเน็ตหมายถึงก็คือแฟนของเธอเอง ผู้ชายที่มองยังไงก็ไม่เหมาะสมกันลิลิเน็ตเลยสักนิด หนุ่มเนิร์ดใส่แว่นที่หน้าตาห่างไกลกับคำว่าหล่ออย่างมาก แถมยังไม่ชอบเป็นที่โดดเด่นที่ช่างต่างกับยัยเน็ตที่แค่สีผมของเธอก็โดดเด่นเกินใคร =_=;

    “เธอมีเดตงั้นเหรอ”

    “ใช่สิ พอเธอโทรมาฉันก็เลยรีบมาหา แล้วก็เพิ่งนึกได้เมื่อกี้นี้เอง”

    “แล้วทำไมธันไม่โทรมาล่ะ”

    “ก็เพราะฉันลืมทุกอย่างไว้ในรถนะสิ ปล่อยนะฉันกำลังรีบ”

    “เดี๋ยวสิ ทุกอย่างเลยงั้นเหรอ”

    “เออสิ”

    “รวมถึงกุญแจรถด้วยรึเปล่า”

    “ก็ใช่น่ะสิ ถามเซ้าซี้อยู่ได้ O_O เอ๋ เมื่อกี้เธอว่าไงนะ”

    “กุญ-แจ-รถ =_=;” ฉันค่อยๆบอกทีละคำพร้อมกับเอามือมาอุดหูไว้ทันที

    “ไม่จริงงงง >O<

    เสียงตะโกนอันไร้ความเกรงใจของยัยเน็ตทำให้ฉันไม่สามารถอยู่ในร้านนี้ต่อไปได้ โดยไม่ต้องมีเด็กเสิร์ฟมาเชิญออกจากร้าน ฉันวางแบงค์พันลงบนโต๊ะก่อนพาเพื่อนตัวแสบออกมาจากร้านโดยไม่รอเงินทอน

    แม้จะมีเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งของยัยเน็ตที่อยู่ข้างๆ ตลอดทางที่เดินมา แต่สมองของฉันกลับจมอยู่กับความรู้สึกแปลกประหลาด

    มันอึมครึ้มจนฉันหาทางออกไม่เจอ...

    ไม่รู้ว่าจะเดินหมากไปทางไหนดี...

    เพราะไม่ว่าฉันจะเดินหมากไปทางไหน...

    ดูเหมือนว่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้วางกับดักไว้แล้ว

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×