ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Red หยุดเกมส์ร้าย ให้หัวใจได้รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 315
      4
      3 ส.ค. 57

    2

     

    “กรี๊ดดดดด>O<

    ฉันกรี๊ดร้องทันทีเมื่อจู่ๆอัลฟองเซ่ก็ช้อนตัวฉันขึ้น จนฉันลอยคว้างในอากาศ เขาใช้เท้าเตะประตูห้องให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ก่อนเดินเข้าห้องโดยที่ฉันไม่ได้อนุญาตเลยสักนิดแถมยังใช้เท้าปิดประตูส่งท้ายด้วย -*-

    “ปล่อยฉันนะ -*-

    “ได้ครับผม ^^

    เขาปล่อยฉันลง ก่อนเดินเข้ามาใกล้ๆ ฉันถอยหลังอย่างหวาดกลัวนิดๆ จนตอนนี้หลังฉันพิงกับประตู อัลฟองเซ่โน้มหน้าลงมา ลมหายใจของคนตัวสูงที่กำลังรดจมูกฉันอยู่ สายตาที่นิ่งจ้องมองเข้ามาในดวงตาฉันราวกับจะค้นหาว่าฉันคิดอะไรอยู่ฉันไม่เคยเห็นสีหน้าในด้านนี้ของเขาเลย ปกติมันจะเป็นหน้ายิ้มทะลึ่งแบบไม่ปิดปังมากกว่า -_-

    “นาย ใกล้เกินไปแล้ว -*-

    ฉันพลักอกอัลฟองเซ่แรงๆ เพื่อให้เขาออกไป แต่ตัวเขาไม่สะเทือนสักนิด แถมยังเอาแขนมากั้นฉันไว้อีกต่างหาก

    “ฉันจะทำให้เธอคิดถึงแต่เรื่องของฉันจนบ้าคลั่ง”

    “ไม่มีวัน”

    “ฮึ เธอแน่ใจได้ยังไง”

                    อัลฟองเซ่เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนทำให้ฉันที่พยายามเขย่งเท้าอยู่ เอนตัวหลบเขาจนลืมระวังตัวแล้วกดน้ำหนักลงที่เท้าอย่างเต็มที่ เศษถ้วยเลยปักลึกลงไปกว่าเดิมT_T

                    “โอ๊ย!

                    “เธอเป็นอะไร เฮ้ย O_O

                    อัลฟองเซ่ดูตกใจมากที่เห็นรองเท้าสลิปเปอร์สีขาวของฉันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ความเจ็บปวดเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันพยายามกลั้นหายใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลืมความเจ็บปวด

                    “นาย กลับไปซะ”

                    ฉันพลักเขาออกตอนที่กำลังเผลอ ซึ่งมันได้ผลเขาเซไปเล็กน้อย ฉันค่อยๆเขย่งไปยังโซฟาที่ไม่ไกลจากประตูนัก

                    “ทำไม ไม่บอกว่าเธอเจ็บล่ะ เงียบอยู่ได้ แล้วตู้ยาอยู่ไหนเนี่ย”

    อัลฟองเซ่บ่นเป็นชุด เขาเดินไปหาตู้ยาสามัญประจำบ้านที่แม้แต่ตัวฉันเองยังไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน =_=;

                    “บอกให้นายสมเพชฉันรึไง”

    “เธอคิดเรื่องแบบนี้ได้ไง สมเพชผู้หญิงไม่แมนสักนิด อ๊ะ เจอแล้ว”

    เขาเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับยาสองสามขวดและสำลี แล้วนั่งลงตรงหน้า จับขาฉันให้พาดอยู่ตรงโต๊ะเล็กจากนั้นดึงเศษถ้วยออกจากเท้าฉันอย่างรวดเร็ว T^T;

    เลือดกระฉูดเลย Y_Y

    “โอ๊ย นายจะทำอะไร มันเจ็บนะ”

    “ก็ช่วยเธอทำแผลน่ะสิ แผลขนาดนี้ ทนเจ็บได้ไงตั้งนาน”

    “ฉันอดทนเสมอ... กับทุกเรื่อง”

    “เรื่องแบบนี้ ถ้าเจ็บก็บอกมาซิ เธอโง่รึเปล่า-*-

    “เกินไปแล้ว นายทำให้ฉันเป็นแบบนี้ แล้วยังมาด่าฉันอีก -*-

    “ฉันทำตอนไหน -*-

    “ตอนที่นายดึงฉันหลบยัยแพมมี่ไงล่ะ”

    “ฉันช่วยเธอนะ ยังจะมาโทษฉันอีก”

    “ถ้านายไม่ดึงฉันหลบ ฉันก็ไม่เหยียบเศษถ้วยนี่”

    “แต่จะตบกับแพมแทน

     “ฉันไม่บ้าถึงขนาดไปตบตีกับใครง่ายๆหรอกน่า”

    “แต่ฟาดหัวคนได้ง่ายๆ

    “เลิกประชดประชันฉันสักที  นายออกไปซะ ฉันทำแผลเองได้ โอ๊ย >.<

    ฉันพยายามชักขาเข้าหาตัวทันที แต่ไม่สำเร็จ เขามันบ้ามากที่ราดแอลกอฮอล์ลงแผลฉันตรงๆ มันแสบมากจนน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดฉันมองไปที่เขาอย่างอาฆาตแค้น แต่เขากลับส่งยิ้มมาให้ แล้วต่อด้วยคำพูดที่ว่า

    “สมน้ำหน้า  อยากไล่ฉันดีนัก”

    “ฮึ ไหนนายบอกว่าสมเพชผู้หญิงไม่แมนสักนิด กลับคำพูดตัวเองเฉยเลย”

    “ฉันไม่ได้สมเพช ฉันสมน้ำหน้าต่างหาก”

    “นะ นาย.....”

    “ถ้าเธอด่าฉันอีก ฉันจะกดแผลเธอแรงๆ ^_^+++

    “ชิ ( -^-)

    ฉันสะบัดหน้าหนี ก่อนหลับตาลง แล้วคอยบอกกับตัวเอง ว่าไม่เจ็บ ไม่เจ็บ และไม่เจ็บ แต่ร่างกายฉันมันกลับบอกว่าเจ็บสุดๆ TT^TT ยาพวกนี้แสบชะมัด เมื่อไหร่จะมีคนผลิตยาที่พ่นแบบสเปรย์ปุ๊บ หายปั๊บ อะไรอย่างนี้ออกมาขายบ้างนะ ฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอะไรอยู่อย่างนี้ Y_Y

    ฉันลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าเขาทายาเสร็จแล้ว อัลฟองเซ่ค่อยๆพันแผลให้ฉันอย่างเบามือ จนฉันไม่คิดว่าคนตัวโตอย่างเขาจะพันแผลได้นุ่มนวลขนาดนี้

    ใช่ว่าฉันจะชื่นชมอะไรเขาหรอกนะ แต่เขามีหุ่นที่เฟอร์เฟกใช่ย่อย แถมยังมีกล้ามนิดๆที่ดูไม่น่ากลัวจนเกินไป ส่วนสูงที่ดูเหมือนจะแย่งความสนใจจากคนรอบข้างได้อย่างง่ายดาย แถมยังพกหน้าตาหล่อแบบร้ายกาจ และน่ารักแบบแปลกๆ(?) มาด้วย

    เฮอะ! มันอลังการมากกว่าฉันที่ต้องดึงดูดความสนใจด้วยการเดินกระแทกแรงๆ เพื่อให้เกิดเสียงดังซะอีก

    “อะ เสร็จเรียบร้อย” เขาบอกพลางมองผลงานอย่างชื่นชม “แหม ไม่คิดว่าฉันเองก็มีศิลปะกับเขาเหมือนกัน ^^

    เขากอดอกพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงักอย่างปลาบปลื้ม ฉันมองไปที่ผ้าพันแผลที่ดูกี่ทีก็แสนธรรมดา มันค่อนข้างห่างไกลกับคำว่าศิลปะอยู่มากโขเลยทีเดียว =_=;

    “อย่ามองมันด้วยสายตาแบบนั้นนะ เธอนี่ไม่มีศิลปะเลย -*-

    “อืมๆ ฉันมันไม่มีศิลปะ ว่าแต่นายจะออกไปจากห้องคนไม่มีศิลปะได้รึยัง

    “เฮอะ คนไม่มีสามัญสำนึก ฉันช่วยแล้วยังไม่รู้จักขอบคุณสักคำ -^-

    “ฉันขอร้องรึไงล่ะ นายยุ่งไม่เข้าเรื่องเอง”

    “ก็ฉันมันเป็นคนดี ^^”เขายักไหล่อย่างอารมณ์ดี

    “เอาความจริง

    “ฉันอยากให้เธอประทับใจและตกหลุมรักฉันเร็วๆ แล้วฉันจะได้หักอกเธอให้ดัง เปอะ!^^”เขาเดอะลิ้นเสียงดังอย่างเปี่ยมสุข ปิดท้ายประโยคได้อย่างน่าประทับใจ -*- (ประชด)

    “นายประกาศอยู่ปาวๆ ว่าจะหักอกฉัน ฉันคงจะโง่ไปรักรักนายหรอกนะ

    “นั่นแหละมันยิ่งท้าทาย ^^ ฉันจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับรู้ทั้งรู้ว่าฉันมีจุดประสงค์อะไร แต่ก็หักห้ามใจให้รักฉันไม่ได้

    “ไร้สาระน่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก -_-; ฉันคบกับนายมาเกือบเดือน ยังไม่หวั่นไหวเลยสักนิด”

    “เธอว่าไงนะ O_O;” เขาเบิกตาโพลงอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนขยับมาใกล้ฉันเรื่อยๆ “เธอไม่หวั่นไหวสักนิดเลยรึไง ฉันทำดีกับเธอสารพัดเลยนะ ทั้งพาไปกินข้าว ซื้อของแบรนด์แนมหรูๆ หรือแม้แต่การเป็นราชรถมารับส่งเธอไปทำผม ทำเล็บที่แสนจะน่าเบื่อ”

    “อาฮ่ะ -_-

    “ไอ้คำว่า อาฮ่ะ นี่มันหมายความว่าไง -*-

    “ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ แล้วก็นายน่ะจะสิงฉันอยู่แล้วเนี่ย” ฉันพลักใบหน้าของเขาออกอย่างรังเกียจ ตอนนี้ผมของฉันคงมีแต่ฟองน้ำลายของเขาเต็มไปหมดแน่ๆ ยี้ >_<;

    “ฮึ เป็นอย่างที่ไอ้ทิมมันพูดจริงๆ ก็ว่าอยู่ทำไมเธอไม่ยอมให้ฉันจูบสักที

    ความจริงมันไม่ควรจะจบแค่นี้ มันควรต่อด้วยประโยคที่ว่า ทั้งๆที่ฉันพยายามแทะโลมเธอตลอดเวลาเข้าไปด้วย (-*-) ถึงแม้ความจริงบางครั้งฉันก็แอบหวั่นไหว จนเกือบเสียท่าโดนจูบไปเหมือนกัน แต่ฉันก็จะเลี่ยงๆให้มันเกิดขึ้นกับแก้ม หรือไม่ก็หน้าผากฉันแทน

    ก็หมอนี่ใช่ย่อยที่ไหน เสน่ห์เต็มเปี่ยม แถมฟุ้งกระจายทั่วเลยล่ะ =_=;

    “ถ้านายต้องการแก้แค้น เอานี่ฟาดหัวฉันคืนเลยดีกว่า” ฉันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนยื่นขวดแอลกอฮอล์ขนาดเท่าแขนฉันให้กับเขา เขามองมันอย่างลังเลก่อนหยิบมันมาจากมือฉัน

    เอาก็เอา! เจ็บครั้งเดียวดีกว่าให้เรื่องมันยืดเยื้อต่อไป ฉันเบื่อมากที่จะต้องมาเจอหน้าเขาเต็มทน ฉันหลับตาลงอย่างใจเย็น ทั้งที่ในใจลึกๆแล้วฉันภาวนาขออย่าให้เขาฟาดหัวฉันเลยและถ้ายอมปล่อยฉันไปเฉยๆจะยิ่งดีมาก Y_Y

    กริ๊ก!

    ฉันลืมตาช้าๆ แล้วแอบลอบถอนหายใจเบาๆที่เขายอมวางมันลงบนโต๊ะอย่างโล่งอก ก่อนเงยหน้าสบตากับเขาที่ยืนอยู่อย่างสงสัย

    “เธอจะให้ฉันเอาขวดฟาดหัวผู้หญิงเนี่ยนะ ถ้าทำฉันคงโครตเลวอ่ะ

    “ก็ในเมื่อนายอยากแก้แค้นฉันนี่นา ทำๆไปเถอะ ฉันจะไม่บอกใครว่านายทำ (-_-)

    ฉันพูดไปงั้นๆแหละ ความจริงดีใจสุดๆที่เขายังมีพอจริยธรรมไม่ฟาดฉัน แต่ที่พูดไปเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าฉันไม่อยากยุ่งยากในสิ่งที่เขากำลังจะทำมันแบบสามารถถวายชีวิตได้อะไรอย่างนี้ แล้วดีไม่ดีเขาอาจใจอ่อนปล่อยฉันไปเฉยๆก็ได้

    “ฉันไม่ทำ ฉันไม่ได้แค้นไอ้เรื่องแผลนี่มันไม่เท่าไหร่หรอก ช่างมันเถอะในเมื่อฉันก็ทำเธอเจ็บเหมือนกัน”

    “รึว่า นายจะล้มเลิกความคิดงี่เง่านั่น”

    ฉันดีใจยิ้มจนแก้มแทบปริ ทันทีที่เห็นเขาพยักหน้าหงึกๆ สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการที่ไม่มีเขาคนนี้ ไม่มีอัลฟองเซ่อยู่ในวงจรชีวิตฉันอีกต่อไป ความสงบสุขที่ฉันปรารถนามาตลอดกำลังจะกลับมาหาฉัน ^O^

    (_ _)” เขาก้มหน้าลง แล้วส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาให้ แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมารอยิ้มอ่อนโยนนั้นกับแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “ว่าแต่ ฉันพูดตอนไหนว่าฉันจะล้มเลิกความคิดสุดแสนบรรเจิดแบบนี้ ^^

    “ก็เมื่อกี้ นาย”

    “ฉันก็เออออไปงั้นแหละ เธอจะได้ยิ้มออก ฉันไม่ชอบเห็นผู้หญิงหน้าบึ้ง ยิ่งเป็นเธอตอนนี้แล้วด้วย ไม่อยากเห็นเป็น 10 เท่าเลย ^_<

    “แต่เมื่อกี้นายพยักหน้าแล้วนะ -*-

    “ฉันแค่ปวดคอ :P

    (-*-) ไหนนายบอกว่า ช่างมันในเมื่อนายก็ทำฉันเจ็บเหมือนกันไง”

    “ฉันไม่คิดเรื่องหยุมหยิมแบบนั้นหรอกน่า เรื่องหัวแตกแค่จิ๊บๆ”

    “แล้วทำไมนายถึงยังไม่ล้มเลิกความคิดโง่ๆ นี้สักทีล่ะ

    “ก็เธอทำฉันขายหน้านี่นา ทั้งเจ็บ และอาย แถมยังโกรธมากๆด้วย -^-

    “งั้นก็ถือว่าเจ๊ากันไป ในเมื่อนายก็ทำฉันเป็นตัวตลกเหมือนกัน

    ( - - ) (_ _) ( - - )” เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ (ละมั้ง?)

    “เข้าใจแล้ว ก็ล้มเลิกความคิดซะ แล้วออกไปได้แล้ว

    “เหตุผลพวกนั้นดูฟังขึ้นอยู่หรอก แต่เหตุผลจริงๆที่ทำให้ฉันอยากเล่นเกมส์กับเธอขึ้นมาจริงๆจังๆ ก็เพราะ...”

    “เพราะอะไร -*-” ฉันรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะมีเหตุผลอื่น นอกจาก เอ่อ....อืม... คิดไม่ออก -_-;

    “เพราะเรื่องที่เธอบอกเมื่อกี้ เรื่องที่เธอไม่รู้สึกอะไรกับฉัน -^- แถมไม่หวั่นไหวสักนิด” เขาทำปากจู๋ขึ้นอย่างงอนๆ “ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนไม่แลฉันเลยนะ แค่ฉันดีดนิ้ว พวกเธอก็มาตอมฉันหึ่งๆ แล้ว ฮึ ( - *-)

    “นายเป็นอึ รึไง ถึงต้องมีแมลงวันมาตอมหึ่งๆ”

    “หยาบ!

    “นายกล้ามากนะที่ด่าฉัน ฉันไม่ว่านายเป็นเป็นขี้ก็บุญแค่ไหนแล้ว -*-

    “แต่เธอเพิ่งพูดมันออกมาไม่ใช่รึไง =O=;

    “อุ๊ย! ลืมตัว ^^” ฉันส่งยิ้มที่คิดว่าร้ายกาจที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่งไปให้เขา เช่นกันเขาเองก็ส่งยิ้มออกมาแบบเฉือดเฉือน

    “บอกตรงๆว่ารับไม่ได้ มันจะยังดีกว่าถ้าเธอเอาขวดไวน์เป็นสิบๆลังมาฟาดหัวฉันแบบไม่ยั้งต่อหน้าคนเป็นล้านๆคน” เขาหยุดพูดก่อนยกมือขึ้นมากอดอกแล้วจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง “เพราะมันทำให้ฉันโกรธน้อยกว่าเรื่องที่เธอคบกับฉันเกือบเดือน แต่ไม่หวั่นไหวเลยสักนิด -*-

    “เออ ความจริงฉันแอบหวั่นไหวกับนายนิดๆ”

    “สายตาเธอไม่ได้บอกอย่างนั้น”

    “จริงๆ เพราะฉะนั้นหักอกฉันตอนนี้เลยเถอะ”

    “อย่าคิดว่าฉันโง่จนตามเธอไม่ทันนะ”

    “อ้าว นายตามทันหรอกเหรอ”

    “เธอนี่มัน ฮึ!

    ทันทีที่เห็นมุมปากของเขายกขึ้นทำให้เกิดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เพียงไม่กี่วินาที ตัวฉันก็ถูกกระแทกจนนอนราบกับโซฟาอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่แสนหนักอึ้ง ทับตัวฉันอีกที =_=;

    “นายจะทำอะไร >_<” เขาหลับตาหยี พร้อมจีบปากจีบคอ แสดงท่าทางได้อย่างสะดีดสะดิ้งเป็นที่สุด “คำถามสุดฮิตของนางเอกนิยายน้ำเน่า เธอคงกะจะพูดแบบนี้ใช่ไหม”

    “ฉันเปล่าสักหน่อย ไม่ได้คิดจะพูดอย่างนั้นสักนิด =_=;

    “อ้าว งั้นเหรอ ^^แล้วเธอจะพูดว่าอะไรล่ะ”

    “ออกไปซะ

    “ฟังดูเร้าใจ เซ็กซี่ดีจริงๆ ^^

    “นายโรคจิตรึไง ฉันบอกให้ออกไปไง

    “ฉันไม่ไป ทำไมเธอเอาแต่หนีตลอดเวลา”

    “ฉันเปล่าหนีสักหน่อย ฉันไล่นายต่างหาก โอ๊ย! พูดกับนายแล้วปวดหัวทุกที />*<\

    “เธอไล่ฉันก็เท่ากับเธอไม่อยากเห็นหน้าฉัน เธอไม่อยากเห็นหน้าฉันก็เท่ากับหนีฉัน ฉันพูดผิดตรงไหน”

    “ผิดสิยะ เพราะถ้าฉันหนีนาย นายก็จะไม่ได้เห็นหน้าฉัน เข้าใจรึยัง” ฉันถอดหายใจอย่างอัดอั้น ทำไมฉันต้องมาอธิบายเรื่องบ้าบอแบบนี้ด้วยเนี่ย

    “เข้าใจ แต่เธอก็ต้องหนีฉันแน่ๆ” เขาทำหน้าครุ่นคิดสักพัก ก่อนค่อยๆระบายรอยยิ้มสุดชั่วร้าย “ฉันจะทำให้เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้เลย คอยดูสิ^^

    ริมฝีปากร้อนทาบบนริมฝีปากฉันอย่างรวดเร็ว รุนแรงแล้วก็หนักแน่น นัยย์ตาสีน้ำตาลฉายแววร้อนแรงจ้องมองมายังฉันอย่างไม่กระพริบตาเนิ่นนาน ก่อนดวงตาคู่สวยจะค่อยๆหลับตาลงเหลือให้เห็นแค่เพียงเปลือกตา และขนตาเป็นแพงอนงามไม่แพ้ผู้หญิง ความรู้สึกที่ริมฝีปากค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับเขาสามารถควบคุมมันได้ ฉันไม่มีแรงมากพอที่จะผลักเขาออกไป หรือแม้กระทั่งปฏิเสธจูบนั้น

    แควก!

    ฉันตกใจที่อยู่ๆ เขาก็ฉีกเสื้อยืดของฉันเผยให้เห็นไหล่ขาวนวล ฉันพยายามผลักเขาออกแต่ก็ไม่ได้ผล เขาไม่ยอมถอนริมฝีปากออกไปจากฉันเลย แถมดูเหมือนตอนนี้เขาจะดูดกลืนลมหายใจของฉันไปจนหมด

    แช๊ะ! แช๊ะ! แช๊ะ!

    ฉันตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงแฟลชเป็นสิบๆครั้ง  คนตรงหน้าส่งยิ้มมาให้ทั้งที่ๆยังจูบฉันอยู่ ก่อนที่ค่อยๆละริมฝีปากอย่างเชื่องช้า และลุกขึ้นนั่งบนโซฟา พร้อมกับจ้องมองรูปในโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มที่พอใจ

    “นาย....” ฉันชี้หน้าเขา ก่อนลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ทั้งยังต้องคอยจับเสื้อที่ขาดตรงไหล่ไม่ให้มันหลุดลงมา นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย ทำไมต้องมาเจอคนอย่างอัลฟองเซ่ด้วย

    “ดูรูปนี้สิ ฉันดูหล่ออย่างร้ายกาจ แต่เธอดูไม่ได้เลยนะ ว่าไหม^^

    เขายื่นโทรศัพท์มาให้ดู รูปที่เขาก้มลงจูบฉันในขณะที่เสื้อผ้าฉันขาดรุ่งริ่ง และหน้าตาฉันที่ดูเหลอหลาอย่างบอกไม่ถูก =_=; ฉันยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์มาลบรูปอย่างบ้าคลั่ง

    “เฮ้! นี่จิ้มแรงขนาดนั้นโทรศัพท์พังพอดี ^^

    “นายมันเลวจริงๆ -*- แต่แค่นี้นายก็ไม่มีอะไรจะเอามาขู่ฉันแล้ว”

    “ไม่เห็นเป็นไร ^^

    ฉันงงกับท่าทางที่ไม่สะทกสะท้านของเขา เขายังยิ้มแล้วก็ฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี ก่อนลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

    “เดี๋ยว ทำไมนายดูไม่เดือดร้อน นายมีแผนอื่นรึเปล่า -*-

    “เธออยากให้ฉันอยู่ต่องั้นเหรอ ^^

    “นายพูดไม่รู้เรื่องรึไง ฉันถามว่านายมีแผนอื่นใช่ไหม -*-

    “ไม่มีอะไรทั้งนั้น ^^

    “นายดูไม่เดือดร้อนนะ -*-

    “งั้นเหรอ ก็ฉันได้จูบเธอแล้วนี่นา เอาไว้ครั้งต่อไปฉันจะอ่อนโยนกว่านี้หน่อยละกัน เพราะดูเหมือนเธอจะชอบให้ฉันจูบแบบอ่อนโยนกว่านะ ^^

    “นายมันแย่ที่สุด -*-///

    “ไปนะที่รัก แล้วอย่าหนีผมไปไหนล่ะ ^^

    “ออกไปซะ!-O-

    ปัง!

    ฉันขว้างหมอนออกไปสุดแรง แต่มันดันกระทบกับประตู ไม่ใช่หัวคนที่ฉันตั้งใจให้โดน ฉันถอนหายใจพร้อมกับซบหน้าลงบนฝ่ามืออย่างจิตตก หนทางที่แสนสงบสุขของฉันต้องจบลง เพราะผู้ชายแค่คนเดียว T_T

    ตริ้ง!

    เสียงข้อความจากโทรศัพท์เรียกสติของฉันกลับมาได้ ฉันค่อยๆเขย่งไปที่หัวเตียงอย่างอืดอาด แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาฉันจ้องมองที่หน้าจออย่างแปลกใจ ดีลุกซ์ ส่งข้อความมางั้นเหรอ ฉันกดอ่านข้อความด้วยความรู้สึกสงสัย ก่อนที่จะเห็นข้อความที่ทำให้ฉันแทบเป็นบ้า TOT

    รูปที่ฉันจูบกับอัลฟองเซ่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ ตบท้ายด้วยข้อความแสนเจ็บปวดT_T

    ดีลุกซ์ --->ร้อนแรงกันจริงนะ ^^

    ตริ้ง!

    รูปเดิม แต่ตกแต่งเป็นรูปหัวใจอยู่เต็มจอT^T

    ธิมโมธี--->Oh! He’s sexy and You’re so hot O[ ]O

    ตริ้ง!

    รูปเดิม แต่มีตัวหนังสือบนรูปว่า ‘Kiss me, Kiss you ^3^’

    วอดก้า--->ไว้ฉันจะซื้อเสื้อยืดตัวใหม่ไปให้ เพราะตัวนี้คงใช้ไม่ได้แล้ว:P

                    ตริ้ง!

    อัลฟองเซ่---> อย่าคิดว่าจะหนีไปไหนได้นะที่รัก ถ้าหากผมไม่ได้เจอเธอล่ะก็ภาพพวกนี้กระจายแน่^O^ 5555+ ผมไม่ได้ขู่เธอนะที่รัก เธอก็รู้ว่าผมทำจริงๆ แล้วถ้าจูบกันครั้งหน้า ช่วยจูบตอบผมนะ ^3^

    ไม่จริง! >O< พระเจ้า โปรดบอกลูกทีว่านี่ไม่ใช่ความจริง ข้อความทั้งหมดนี้ไม่มีจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสติที่พุ้งซ่านของลูก โปรดบอกลูกทีว่านี่ลูกแค่ฝันไป เป็นแค่ความฝันที่เลวร้ายเมื่อตื่นขึ้นมา ลูกจะนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม พอตกใจตื่นลูกก็จะพูดว่า

    โอ้ >/ \<นี่เป็นฝันร้าย ขอให้ฝันร้ายกลายเป็นเรื่องดีใช่ไหม TTOTT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×