ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 : 'กับดัก'
- ตอนที่ 5 : 'กับดัก' -
"จะเลือกใครดีน้า..?" เด็กสาวผมสองจุก หรือ 'ขนุน' ถามเสียงหวาน พร้อมควงแท่งเหล็กปลายแหลมไปมาอย่างมีความสุข เธอเหล่สายตามองทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไปมา
"อ๊อกก..." ไม้กลืนน้ำลายเสียงดังเพราะความตื่นกลัว
"พี่ชายที่ใส่ผ้าโพกหัวคนนั้นละกัน" ขนุนชี้ปลายแหลมของเหล็กไปที่ชายหนุ่ม ซึ่งก็คือ 'ไม้'
"หา!?" ไม้อุทานขึ้นมาพร้อมร่างกายของเขาที่หยุดชะงัก ซึ่งคนอื่นๆก็ตกใจตามไปด้วย
"มะ... ไม่ได้นะ! เรื่องทั้งหมดน่ะ พวกคนอื่นๆไม่ได้เกี่ยวข้องนะ!!" หญิงสาวในชุดเดรสชมพูหรือ 'ยูอิ' ออกปากสั่งห้ามแล้วเดินไปด้านหน้าไม้ จากนั้นเธอก็กางแขนสองข้างเหมือนเป็นการป้องกัน ขนุนหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเอาด้านปลายเหล็กแหลมแตะที่ลิ้นแล้วเลียเบาๆ
"ก็นะ แต่ในเมื่อเธอทำกับพวกเราก่อน คราวนี้มันจะสนองกับเพื่อนของแกบ้างล่ะ!!" สาวน้อยผมสองจุกกล่าวเสียงดังลั่น เธอดีดนิ้วจนเกิดเสียงดัง
ป๊อก!
"เฮ้ย!! นี่มันบ้าอะไรเนี่ยยัยเด็กผี!" ชายหนุ่มผู้ตกเป็นคู่ต่อสู้ของขนุนตะคอกเสียงดัง เพราะที่ร่างกายของเขามีดวงไฟสีดำวนเวียนรอบตัวไปมา ดวงไฟสีดำสนิทนั้นเริ่มหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ แล้วหายไปพร้อมกับตัวไม้ด้วย!
แว้บบบ
"ไม้!!" คนในกลุ่มเกือบทุกคนเรียกชื่อของไม้ แต่เขากลับได้หายไปเสียแล้ว
"เขาไม่เป็นไรหรอก พวกเราแค่ส่งเขาไปสถานที่ต่อสู้เท่านั้น" สาวน้อยผมน้ำตาลผูกแกละบอกพลางส่งสายตาเย็นชา
"แต่พวกเรามีข้อแลกเปลี่ยนนะ" ขนุนพูด ทำให้คนที่เหลือเกิดความสนใจกับประโยคนี้ขึ้นมา
"อะไรล่ะ?" ยูอิถาม "พวกเธอที่เหลือต้องไขปริศนาเรื่องราวทั้งหมด หาคนก่อคดีของที่นี่ให้เจอและหา 'เพชรประจำตระกูลฮาตานะ' อันเป็นเพชรสีเขียวมรกตให้พบ แล้วนำมาให้พวกเรา พวกเราจะปล่อยพวกเธอและพี่ชายคนนั้นออกไป" ขนุนอธิบาย
"ถ้าแก้ไขไม่ทันภายในเวลาเที่ยงคืน แน่นอนว่าทุกคนที่เข้ามาจะไม่มีใครรอดชีวิต รวมทั้งพี่ด้วย ยูอิ..." ขนุนมองยูอิด้วยสายตาอาฆาตสักพัก ก่อนจะยิ้มแบบน่ารักๆ
"ไว้เจอกัน!" ขนุนโบกมือลา และแล้วร่างของเธอก็หายไปพร้อมเกลียวควันสีเทา
"ก็ได้..." ยูอิกำหมัดแน่น
"หนูว่าแยกย้ายกันไปตามหาปริศนาที่เด็กคนนั้นว่าเถอะค่ะ" หน่าเสนอแนะ
"นั่นสินะ แต่ใครจะไปกับใครดีล่ะ?" ชายหนุ่มผมน้ำตาล 'ภูมิ' เอ่ยขึ้นมา
"งั้น... หน่า ฝากตูนด้วยนะ ส่วนแนคจะไปกับภูมิ ฉันจะไปเอง" สาวผมเขียวน้ำทะเลออกคำสั่ง
"แล้วไม้ล่ะคะ?" 'ตูน' เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจ
"ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องรอดมาได้แน่ๆ เพราะงั้น แยกย้าย!" ยูอิออกคำสั่งอีกครั้ง ทุกคนจึงออกแยกย้ายตามไขปริศนาทุกอย่างและตามหา 'เพชรประจำตระกูล' ด้วย
ทางด้านหน่าและตูน
ทั้งสองเดินสำรวจบริเวณทางเดินห้องเรียนที่มีซากปรักหักพังไปทั่ว ซึ่งมีแต่ความมืดมิด เพราะบริเวณนี้ไม่มีหน้าต่างเลยแม้แต่บานเดียว ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้มีไฟฉายอยู่กับตัวเสียด้วย
ครึก!
"เอ๊ะ?" สาวผมบ๊อบสีน้ำเงินตกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าขาของตัวเองกระทบกับอะไรบางอย่าง เธอก้มตัวลงไปหยิบมันขึ้นมา เท่าที่เธอลองใช้ประสาทสัมผัสทางผิวหนังคลำไปมา พบว่าเป็นไฟแช็กที่ยังมีเชื้อเพลิงอยู่บ้าง
หน่าไม่รอช้า รีบเปิดไฟแช็กนั่นทันที
แช็ก!
เปลวไฟจากไฟแช็กได้ทอแสงสว่างประมาณรัศมีสองเมตร ซึ่งพอที่จะส่องนำทางได้บ้าง
"แล้วจะหน่าจะไปทางไหนต่อหรอ?" ตูนถาม หน่ายื่นไฟแช็กในระยะห่างจนสุดแขน พบว่าเป็นทางเดินที่ทำด้วยแผ่นไม้ที่ไหม้เกรียมบางส่วนจนเป็นรอยผุ จนสุดทางเป็นประตูไม้บานหนึ่ง ซึ่งไม่มีลูกบิดประตู เนื่องจากมันถูกหลอมละลายที่อาจจะเกิดจากการถูกเผาไฟเมื่อครั้งก่อนหมดแล้ว
"เหมือนดูไม่ค่อยปลอดภัยเลยแฮะ..." หน่ายังไม่ไว้ใจกับทางเดินข้างหน้า เธอก้มตัวลงใช้มือขวาแตะแผ่นไม้ที่เรียงเป็นพื้นทางเดินอยู่แล้ว ก่อนจะกดแผ่นไม้ลงแรงๆ
พื้นไม้ไม่ตอบสนองอะไรกับแรงดันจากฝ่ามือของหญิงสาวเลย ได้แต่แข็งทื่ออยู่กับที่ ทำให้หญิงสาวเชื่อใจว่ามันแข็งแรงและปลอดภัย สามารถเดินข้ามผ่านไปได้
"เราไปกันเถอะ" หน่าเอ่ยชักชวน
"แต่ประตูข้างหน้าไม่มีลูกบิดแล้วนะ จะเปิดได้ยังไง?" ตูนถาม
"ไม่ต้องห่วงหรอก ลองสังเกตบานประตูดีๆอีกทีสิ" หญิงสาวผมน้ำเงินชี้ไปที่ด้านล่างสุดของบานประตู พบว่ามีร่องรอยผุพังที่กว้างพอ ที่คนจะหมอบคลานผ่านเข้าไปได้ และที่รอยผุพังนั้นมีแสงจากอีกฝั่งของประตูด้วย
"เห็นใช่มั้ยล่ะ? เราน่าจะคลานผ่านเข้าไปได้นะ บางทีอาจจะเจอเบาะแสหรือเพชรที่เด็กคนนั้นว่าไว้แน่ๆเลยล่ะ" หน่าอธิบายด้วยความมั่นใจ เพราะความที่เธอเป็นคนช่างสังเกต
ว่าแล้ว หญิงสาวก็ค่อยๆก้าวเหยียบเดินบนพื้นไม้ เพื่อที่จะเดินไปถึงประตูเบื้องหน้า โดยมีเด็กสาวผมเปียในชุดชมพู ซึ่งก็คือตูน คอยเดินตามอยู่อย่างใกล้ชิดเนื่องจากความกลัว
แต่ทันใดนั้น เมื่อหน่าก้าวเหยียบไปบนพื้นไม้เป็นก้าวที่ห้า ซึ่งห่างจากประตูประมาณอีกหนึ่งเมตรก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น!!
พลั่ก!!
โครมมมม!
พื้นไม้จากที่ยังแข็งแรงอยู่กลับพังทลายร่วงลงสู่ด้านล่างเป็นระยะทางเกือบหนึ่งเมตรทำให้หน่าร่วงลงไปพร้อมกับเหล่าเศษไม้ แผ่นไม้ และไฟแช็กที่ยังเปิดอยู่ แต่เมื่อปะทะกับแรงลมเมื่อร่วงหล่น ทำให้เปลวไฟที่จุดอยู่ดับไป
"กรี๊ดดดดดด!!" หญิงสาวกรีดร้องเมื่อร่างของตนร่วงหล่นจากพื้นไม้ที่พังทลายลงอย่างกะทันหัน
"หน่า!" เพราะตูนไม่ได้อยู่ในเขตที่พื้นไม้พัง ตูนเลยไม่ได้ตกลงไปด้วย เธอเรียกชื่อหน่าอย่างดังแต่ก็ไม่สามารถช่วยเธอได้ทัน ร่างของหญิงสาวที่ตกลงสู่เบื้องล่าง ได้หายไปกับความมืดมิดเสียแล้ว
"ไม่นะ..." ขาของเด็กสาวแทบทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น เพราะความหมดหวัง
"พี่สาว" เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังแว่วๆมาจากข้างหลังของตูน ทำให้เธอรีบเหลียวหลังไปมองทันที
เจ้าของเสียงเป็นเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลกากีที่สั้นถึงบ่า ใส่ชุดนักเรียนสีขาว-แดง ที่บางส่วนขาดวิ่น มีผิวขาวซีด แววตาดูหม่นหมอง เด็กคนนั้นได้ถามต่อไปว่า
"เพื่อนของพี่ยังไม่ตายหรอก..." สาวน้อยผิวซีดกล่าว จากนั้น เธอผายมือไปทางด้านขวามือของเธอซึ่งตอนแรกเป็นกำแพงสีเทาหม่น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นบันไดลงชั้นล่างได้อย่างไรก็ไม่ทราบ
"ทางนี้..." เด็กผิวซีดกล่าว ตูนที่ดูจากแค่ลักษณะก็รู้สึกไม่น่าไว้ใจแล้ว แต่เธอก็ลองทำเป็นเชื่อใจเด็กคนนั้นไปก่อน เธอกล่าวไปว่า
"ฉันชื่อตูนนะ เธอชื่ออะไรหรอ?"
"จูนค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" เด็กสาวผิวซีด 'จูน' กล่าวแนะนำตัว พร้อมทั้งแสดงท่าทีเป็นมิตร ก่อนจะเดินนำลงบันไดตามที่เธอแนะนำไป ซึ่งตูนก็ยอมเดินตามเธอไปด้วย ในกระเป๋ากระโปรงของเธอซ่อนอาวุธป้องกันตัวไว้ด้วย ซึ่งก็คือมีดคัตเตอร์ที่ถูกลับจนคมกริบ ได้ถูกพับซ่อนไว้
เด็กสาวเริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลจากตัวของจูน สาวน้อยปริศนา เนื่องจากร่างกายของเธอมีกลิ่นสาบศพลอยอยู่จางๆ ยิ่งดูไม่น่าไว้ใจ เด็กสาวผมเปียจ้องมองร่างสาวน้อยปริศนาไปชั่วครู่เพราะรู้สึกสงสัยในตัวเธอ
ควับบ
"!?" ตูนชะงัก เมื่อจูนหันกลับมามองตูน พร้อมสีหน้าสงสัยไร้เดียงสา ก่อนจะยิ้มให้แบบน่ารักและดูเป็นมิตร ตูนเลยยิ้มให้ตอบกลับไปด้วย จูนหันกลับไปทางข้างหน้าต่อ จากนั้นเธอก็หยุดเดินตรงสุดทางของบันได ซึ่งเป็นทางลงสู่ชั้นสาม แต่สิ่งที่ค่อนข้างแปลกคือ ต่อจากบันไดชั้นที่สาม กลับไม่มีเส้นทางบันไดลงสู่ชั้นสองและหนึ่ง..
"ถึงแล้วล่ะ พี่สาว"
ทางด้านของภูมิและแนค
ชายหนุ่มทั้งสองคนถือกระบอกไฟฉายประจำตัวของพวกเขาเดินส่องทางไปมา ภูมิที่เดินอยู่ฝั่งซ้ายมือของแนคเดินส่องไฟฉายลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนไปสะดุดตากับห้องห้องหนึ่งที่มีประตูบานเลื่อนเปิดทิ้งไว้
"แนค ดูนั่นสิ" ชายหนุ่มเสื้อน้ำตาลสะกิดไหล่ซ้ายของหนุ่มผมม่วงให้หันมามอง
"อะไรล่ะ?" แนคหันไปถาม เมื่อเห็นว่าภูมิกำลังส่องไฟฉายไปที่ห้องหนึ่ง ทำให้เขาเกิดอาการสนใจขึ้นมาทันที แต่ในห้องนี้มีหน้าต่างอยู่ด้วย จึงทำให้มีแสงลอดผ่านเข้ามาบ้าง ทั้งสองหนุ่มปิดไฟฉายเก็บไว้ในกระเป๋า ก่อนที่จะเดินเข้าไปสำรวจ
ในห้องมีแต่รอยไฟไหม้จนเป็นสีดำไปทั่วห้อง มีโต๊ะเรียนที่ถูกไฟเผาจนเกรียมไปหลายตัวอีกทั้งยังมีซากศพผู้คนที่ไหม้เกรียมจนเป็นสีดำทั่วทั้งร่าง ทั้งเสื้อผ้าและเส้นผมของศพก็หลุดร่วงถูกไฟเผาไปจนหมดสิ้น ซึ่งมีอยู่เกลื่อนพื้นห้องเป็นจำนวนมาก
"อ๊อก!" แนคกวาดสายตาไปทั่ว พลางกลืนน้ำลายดังอ๊อก ชายหนุ่มอีกคนพบเห็นขวดโหลดินเผาที่มีผ้าขาวคลุมปากขวด มีเชือกเส้นเล็กสีแดงผูกรอบขอบปากขวดไว้อย่างแน่นหนา ตั้งกับพื้นห้องข้างๆขอบทางเข้าห้อง
ภูมิก้มตัวลงไปหยิบขวดโหลดินเผาขึ้นมาลองแกะเชือกดู แต่เชือกยังคงรัดปากขวดแน่นไม่เปิดออกง่ายๆ "นั่นอะไรน่ะ?" หนุ่มผมดำอมม่วงหันมาเห็นเข้า ภูมิเริ่มอารมณ์เสีย คิดจะขว้างขวดโหลนั่นทิ้งไปแต่แนคกลับรั้งไว้ก่อน
"หืม? ดูสิ มีอะไรเขียนข้างขวดด้วย" แนคบอกพร้อมชี้ไปที่ข้างขวดโหลดินเผา พบว่ามีข้อความเรืองแสงปรากฏขึ้นมาด้วย ข้อความนั้นเขียนไว้ว่า
'โปรดตอบคำถามเพื่อใช้เป็นรหัสสำหรับเปิดขวดนี้'
ข้อความนี้หายไป และก็มีข้อความใหม่ปรากฏขึ้นมาอีก
'ศพที่ยังไม่ได้ถูกเก็บส่งคืนญาติในห้องนี้มีกี่ศพ?'
"โห... เกลื่อนเต็มพื้นขนาดนี้เนี่ยนะ" หนุ่มเสื้อน้ำตาลไทต์น้ำเงินเริ่มโวยวาย เขาถอนหายใจลงช้าๆ
"ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ... งั้นเราช่วยกันเดินนับศพในห้องนี้กันเถอะ" แนคบอก ทั้งที่ในใจเขารู้สึกหวาดกลัว แต่ในเมื่อไม่ตอบ หากในขวดโหลมีอะไรที่ช่วยพวกเขาได้ล่ะก็ อาจจะเสียโอกาสดีไปฟรีๆ
ทั้งคู่เดินลัดเลาะนับศพในห้องนี้ไปเรื่อยๆ อย่างระมัดระวังกลัวว่าจะเจออะไรที่น่ากลัวขึ้นมา
ฟุ่บ!
"จ๊ากกก!!" ภูมิร้องเสียงหลง เมื่อขาของเขาเผลอไปเหยียบแขนของศพศพหนึ่ง แขนของศพในส่วนที่ถูกเหยียบสลายตัวเป็นผงขี้เถ้า แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามมา
"ฮู่วว.. ไม่มีอะไรสินะ?" แนคถอนหายใจแทน ทั้งคู่ก็นับต่อไปเรื่อยๆจนครบถ้วน
"อาล่ะ!" แนคหยิบขวดโหลดินเผาจากมือของภูมิขึ้นมา หลังจากรู้ผลจำนวนแล้ว
"ยี่สิบหกศพ" ชายหนุ่มตอบด้วยเสียงวาจา ทันใดนั้น ข้อความเรืองแสงข้างขวดก็โผล่ขึ้นมา
'ถูกต้อง'
แนควางขวดโหลดินเผาลงบนพื้น เชือกสีแดงที่มัดปากขวดได้คลายตัวออกเอง พร้อมกับผ้าขาวปิดปากขวดที่หลุดร่วงออกไป และแล้ว เปลวควันสีขาวก็หลุดลอยออกมาจากขวดโหลเป็นจำนวนมาก เปลวควันสีขาว ออกมารวมตัวเป็นร่างของชายหนุ่มขนาดเท่ามนุษย์จริง เขาแต่งตัวด้วยชุดโทนสีเขียวอ่อน ผมแสกสีดำสนิท สวมแว่นตา มีนัยน์ตาสีเขียวเข้มน้ำทะเล ทำให้ทั้งสองหนุ่ม ภูมิและแนครู้สึกคุ้นเคยและอึ้งไปตามๆกัน ก่อนจะเรียกชื่อของชายสวมแว่นคนนั้นพร้อมๆกัน
"ปัน!?"
"น...นี่นาย.. ตายแล้วหรอ?" หนุ่มเสื้อเขียวผมดำอมม่วงถามอย่างตกตะลึง เพียงเพราะดูจากลักษณะการปรากฏตัว ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช้ภาพฉายแน่นอน ซึ่งร่างกายของชายคนนี้ที่ทั้งสองหนุ่มเรียกว่า 'ปัน' ไม่ได้อยู่ในร่างกายหยาบ แต่เป็นกายละเอียด หรือ วิญญาณ นั่นเอง
"พวกนาย... กำลังตามหาสิ่งที่ 'พวกนั้น' ต้องการอยู่สินะ?"
ทางด้านหน่า
หญิงสาวที่นอนบนพื้นทางเดินในสภาพบาดเจ็บเล็กน้อย หน่าลุกขึ้นช้าๆเอามือคลำศีรษะเมื่อรู้สึกเจ็บปวดที่ศีรษะ เธอปัดฝุ่นรอบๆตัวออก ก่อนจะมองไปรอบๆสถานที่ที่ตนเองยืนอยู่
ตอนนี้ ที่ที่เธอยืนอยู่กลับเป็นทางเดินของชั้นสอง ไม่ใช่ชั้นสาม เพราะหน่าเห็นป้ายระบุเลขชั้นอาคารเธอเงยหน้ามองเบื้องบนเพดาน ก็ไม่เห็นว่ามีรอยทะลุหรือช่องทางเปิดลงมาแต่อย่างใด ยิ่งทำให้หญิงสาว
สงสัยมากขึ้นไปอีก
ตึก
เสียงก้าวเท้าได้ดังขึ้นมาจากทางเดิน ทำให้หญิงสาวผมน้ำเงินหันไปมองต้นเสียงทันที
"เจ๊ยูอิ!?" หน่าเรียกชื่อของคนที่เป็นต้นเสียงออกมาทันที เมื่อเห็นว่าต้นเสียงเป็นหญิงสาวผมยาวสีเขียวน้ำทะเล ในชุดเดรสสีชมพูอ่อน ซึ่งเธอเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี
"หน่า ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ? ตอนแรกเธออยู่ชั้นสี่ไม่ใช่หรอ?" ยูอิถาม
"พอดีคือว่า... เรื่องมันยาวน่ะค่ะ.." หน่าไม่ขอเล่าเพราะต้นตอของเรื่องค่อนข้างยาว และยังไม่รู้ต้นตออีกด้วย ว่าพื้นไม้จะพังกะทันหันจนเธอตกลงมาได้อย่างไร ทั้งที่มันก็แข็งแรง และทำไมเธอถึงปรากฏตัวที่ชั้นสอง ไม่ใช่ชั้นสาม
"อ๋อ อืม" ยูอิกล่าว เมื่อสาวชุดฟ้าจ้องมองไปที่นัยน์ตาของยูอิ พบว่าเป็นนัยน์ตาที่ดูหม่นหมองไร้แววตาเหมือนกับว่าเธอไม่มีชีวิต
"ยูอิ?" หน่าสงสัยพร้อมเอื้อมมือไปจับมือของยูอิที่เย็นเฉียบ
ฟู่!
"!!" หน่าสะดุ้งเฮือก เมื่อเธอสัมผัสมือของยูอิ มือที่เย็นเฉียบสลายไปเป็นผงขี้เถ้าสีดำสนิท แขนและทุกส่วนของร่างกายของหญิงสาวเดรสชมพูสลายเป็นผงขี้เถ้า ยกเว้นเสื้อผ้าที่ยังคงสภาพอยู่ได้ร่วงลงไปกองกับพื้น
ไม่นาน เหล่าผงขี้เถ้าก็ลอยตัวมารวมตัวเป็นร่างของหญิงสาวที่ร่างกายถูกไฟเผาจนเกรียมทั้งตัวซึ่งลักษณะเหมือนกับ ผีที่เคยเจอในตอนแรกๆทุกประการ
"เจอกันอีกแล้วนะ" ริมฝีปากของศพร่างเกรียมแสยะยิ้มกว้าง หน่ารู้สึกได้ว่ามีของมีคมบางอย่างกำลังจ่อที่ข้างหลังของเธอ ซึ่งมันก็คือ...
มีด..
Aiyara01
__________________________________________________________________________
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น