คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7
Chapter 7
ตึงดึ้ง~
เสียงเตือนและแรงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์ร้องเรียกให้เจ้าของที่กำลังเคลิ้มเพราะเสียงของอาจารย์ที่บรรยายอยู่หน้าห้องสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะดันตัวขึ้นจากโต๊ะเรียน บิดซ้ายทีขวาทีเพื่อคลายความตึงของร่างกายจากการฟุบตัวลงนอนกับโต๊ะเรียนตัวจิ๋ว ซอกจินล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อเอาออกมาดูว่าใครกันที่มารบกวนเวลานอนของเขา
จองกุก
สายตาคมไล่อ่านตัวอักษรที่ขึ้นบนหน้าจอพร้อมอ่านออกเสียงออกมาเบาๆ ก่อนนิ้วเรียวจะสไลด์หน้าจอทันทีที่สมองประมวลผลได้ว่าเป็นน้องชายคนนึงที่หายไปเลยตั้งแต่เขาช่วยงานคราวนั้น
Jungkook : พี่จิน
ซอกจินมองหน้าจอโทรศัพท์นิ่ง ก่อนจะรีบพิมพ์ตอบกลับไป
Jin : ว่าไง
เพียงไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมข้อความจากคู่สนทนาของเขา
Jungkook : ผมจะบอกว่าผมชนะเลือกตั้งประธานสีฮะ
เพิ่งคิดจะมาบอกหรอวะ หรือ เพิ่งนึกได้หรือไง ซอกจินอ่านข้อความที่ขึ้นก่อนรอยยิ้มเล็กๆจะผุดขึ้นที่มุมปาก
Jin : ยินดีด้วยนะครับบบบบ
อ่านแต่ยังไม่ตอบ...จินจ้องโทรศัพท์ที่อยู่ในมือนิ่งๆ
ทำไมยังไม่ตอบ
ห้านาทีผ่านไปแล้ว ยังคงไร้การตอบกลับจากเครื่องมือสื่อสารในมือ
ตอนนี้จินไม่รู้สึกง่วงอย่างในตอนแรกความสนใจทั้งหมดของเขาตอนนี้ขึ้นอยู่กับ แอปพลิเคชั่นการสื่อสารสีเขียวนั้นอย่างเดียวก่อนที่ความข้องใจเหล่านั้นเพราะข้อความสั้นๆที่ทำให้โทรศัพท์เขาสั่นอีกรอบ
jongkook : ผมอยากเลี้ยงขอบคุณพี่จินอ่ะ
นัด ?
จินอ่านข้อความนั้นอีกรอบพลาง คิดว่าวันนี้เค้าไม่มีอะไรพอที่จะไปตามนัดของคนที่ชวนหรือเปล่า
_____________________________________
ร้านขนมที่ถูกตกแต่งเป็นอย่างดีด้วยสีสันของขนมมากมายวางเรียงรายกันแค่ก็ไม่ได้หวายหยดย้อยถึงขั้นผู้ชายอย่างเขาจะไม่กล้านั่ง ทันที่ที่เปิดประตูเข้ามาในร้านสายตาคมก็กวาดหาที่นั่งที่ดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายก็ได้มาเป็นโต๊ะในสุดริมหน้าต่าง ซอกจินเดินไปนั่งพักเพื่อรอคนที่นัดเขา ซึ่งยังไม่มีวี่เเวว
สงสัยผลัดกันรอสินะ
กริ๊ง~
เสียงกระดิ่งจากประตูร้านดังขึ้นเรียกความสนใจของซอกจินที่นั่งอยู่มาก ใบหน้าคมเงยขึ้นไปก่อนพบกับเด็กมอปลายที่เขาคุ้นหน้า จองกุกเดินมาหาเขาพร้อม ฉีกยิ้มกว้างสดใสเหมือนครั้งเเรกที่เขาเห็นในชุดหมีนั่น
“รอนานไหมครับบ” จองกุกเอ่ยก่อนนั่งลงตรงข้าม
“ก็ไม่เท่าไหร่นะ"
พนักงานเดินเอาเมนูมาวางตรงหน้าคนทั้งคู่ ก่อนจะกวาดสายตาเพื่อที่จะเลือกเมนูที่ถูกใจ
“กุกชอบทำกิจกกรรมหรอ” พี่จินพูดขึ้นหลังจากสั่งขนมกับพนักงานเสร็จเรียบร้อยจนทั้งโต๊ะเหลือเเค่เขาสองคน
ในเมื่อมีโอกาสแล้วจอนจองกุกจะไม่ทิ้งเด็ดขาด เอาว่ะ!!!
“อือ มันได้ประสบการณ์เยอะนะพี่จิน ได้เจออะไรดีๆ หลายอย่างเลย เหมือน.....ที่ได้เจอพี่จินนี่ไง”
ประโยคนี้เหมือนจะเคยคิดไปแล้วแต่ไม่เคยพูดออกมาในเมื่อมีโอกาส ครั้งนี้จอนจองกุกก็เลือกที่จะพูดมันออกไปแอบเห็นหน้าพี่จินเหวอนิดๆด้วยอ่ะ แต่แบบบอกเลย ตอนนี้จอนจองกุกรู้สึกกระดากปากตัวเองมาก รู้สึกผิดต่อแม่นิดหน่อย
“เออ..มะ ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง” ยังไม่ทันที่จองกุกจะได้หยอดอะไรเพิ่ม พนักงานก็เอาขนมมาเสริฟตรงหน้า เค้กแต่ละอันน่ากินมาก จองกุกเลยขอที่จะเลือกขนมก่อน เด็กน้อยที่มัวแต่สนใจขนมตรงหน้า จนไม่ได้สังเกตเลยว่าคนตรงหน้าตัวเองตอนนี้กำลังทำหน้าตายังไง
ซอกจินที่กำลังมองเด็กน้อยตรงหน้ายิ้มขึ้นอย่างเอ็นดู เด็กน้อยที่ดูจะมีความสุขเหลือเกิน เกินที่เขาจะสามารถละสายตาจากภาพตรงหน้าได้
“งั้นเอาอย่างงี้ไหมละ”
รูปประโยคแปลกๆจากปากคนพี่ดังขึ้น ดึงความสนใจคนน้องตรงหน้าขึ้นมาได้
“มันจะมีค่ายจัดสำหรับเด็กมอปลายที่อยากเข้านิเทศอ่ะ ความจริงมันปิดรับสมัครเเล้วละเเต่ถ้าสนพี่จะจัดการให้ ไปม่ะละ” ค่ายประจำปีที่คณะเขามักจะจัดขึ้น การเวิคร์ช้อปในสายวิชาต่างๆถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่นักเรียนมอปลายจากหลายๆโรงเรียนที่มักจะแย่งชิงกันเข้ามา บางคนอยากเรียนรู้จริงๆ หรือบางคนอาจแค่อยากมาสนุกๆ ซึ่งปกติแล้วต้องมีการตอบคำถาม เหมือนการสอบเข้านิดๆเป็นแนวๆข้อสอบจิตวิทยาที่ไม่มีคำตอบตายตัว หรือเอากันตรงๆก็ขึ้นอยู่กับ รุ่นพี่ที่อ่านด้วยซ้ำว่าถูกชะตากับใคร แต่ตอนนี้คิมซอกจินรู้สึกเหมือนจะถูกชะตากับคนตรงหน้า จนอยากจะรับเข้าโดยไม่ต้องตอบคำถามอะไรเลย
“จริงอ่อพี่นี่สนนะ”
“อือ ถ้าไปเดี๋ยวพี่เพิ่มชื่อให้”
“งั้นไป” ไม่มีการคิดใดๆเเล้ว จอนจองกุกตอบตกลงกลับไปทันทีที่จบประโยค
โอกาสของจองกุกที่จะรุกพี่จินลอยมาขนาดนี้แล้วไม่คว้าก็บ้าแล้วว!!
.
.
.
“หือ... กินยังไงเนี่ย ปากเลอะหมดเเล้ว”
มือคู่สวยเอื้อมไปเพื่อป้ายคราบครีมที่ติดอยู่ที่มุมปากของคนตรงหน้า
เหตุการณ์เมื่อกี้ถามว่า ใครทำ
ถ้าคิดว่าพี่จินแล้วละก็....เสียใจด้วยค่ะคุณไม่ได้ไปต่อ
จองกุกที่อยู่ๆก็เอื้อมมือไปปาดครีมที่เปื้อนอยู่ที่มุมปากของพี่จิน ใจกล้าดีนะ แต่ทว่ายังไม่ทันทีที่ จองกุกจะเอานิ้วกลับมา เพื่อเช็ดครีมที่เลอะปลายนิ้วตัวเอง กลับถูกมือที่ใหญ่กว่าขว้าไว้ได้ก่อนที่จะ
“อืม..”
ปลายนิ้วที่เปื้อนเค้กได้ถูกพี่จินจับมาปาดลงไปที่ริมฝีปากล่างก่อนที่ ปากอิ่มจะเม้มลงมาเพื่อสัมผัสกับรสครีมนั่น
“เสียดายของ”
“เสียดายของ”
“เสียดายของ”
“เสียดายของ”
จองกุกรู้สึกเหมือนจะหายใจติดขัด หน้าร้อนขึ้นมาแบบทันที เลือดในกายสูบฉีดอย่างรุนแรง
พะ พะ พี่จิน ทำไมทำแบบนี้ สงสารหัวใจน้องชายคนนี้บาง มันคิดไปไกลจนกู่ไม่กลับแล้วนะ
_______________________________________
หลังจากวันนั้นที่แทฮยองบอกจะจีบผม ผมก็ไม่เจอมันอีกเลย ไม่ใช่ว่าวีมันหายหน้าหายตาไปนะ แต่ยอมรับเลยที่ไม่เจอนั้นก็เพราะ ผมหลบหน้า มันเองครับ ไม่ใช่ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้านะแต่แบบ....มีใครมาพูดอะไรแบบนั้น อยู่ๆมาบอกจะตามจีบเขา ใครกันจะกล้าเจอหน้า ยิ่งสายตาแวววับระยิบระยับปานดาวลูกได่เจ็ดดวงนั้นอีก เห้อ...นี่ก็เพิ่งวิ่งหลบเข้ามา วันนั้นก็หลบจนไอ้จินมันสงสัยแล้วดันเผลอหลุดไปอีก เลยได้เเต่จำใจจนต้องเล่าให้มันฟัง แล้วดูมันมีหน้ามาหัวเราะอีก
“ดีซะอีก มึงจะได้มีแฟนซะที”
ไอ้บ้าหนิ กูจะปรึกษากับไม่ได้อะไรที่ดีขึ้นเลย แต่มันก็บอกนะว่าจะจัดการให้
“เออๆ มึงไม่ต้องหวงเดี๋ยวกูหาทางจัดการให้เว้ย”
ซึ่งไอ้คำว่าจัดการจากปากของมันเนี่ยคืออะไรก็ไม่มีใครรู้ ถามไปแม่ งก็ไม่ตอบ ผมละเซ็งจริงๆ
ชูก้าที่เพิ่งวิ่งหลบวีมาหมาดๆ เดินเข้ามานั่งที่ม้านั่งหลังตึกคณะ ซึ่งในเวลานี้ คนไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆในชีวิตของชูก้า สายตาเรียวมองหาที่นั่งก่อนเลือกม้านั่งเล็กๆใต้ต้นไม้ ร่างบางเอนกายพิงลงกับพนักพิงก่อนจะหลับตาลง พักผ่อนไปกับเสียงเงียบๆของธรรมชาติที่เหมือนใช้ความเงียบขับกล่อม
“เฮ้อ...”
“ถอนหายใจมากเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอกครับ”
“เฮ้ยยยยย!!!!!!!!!!!!!...มึง”
“โหยยยยยย พี่ก้าอะ พูดไม่เพราะเลย”
ชูก้าที่หอบหายแรงจากอาการตกใจ ที่อยู่ๆไอ้คนที่เขาหลบหน้ามาหลายวันก็มาโผล่ตรงหน้าในชนิดที่ว่า แค่คืบ!!!
“ไม่ได้ตั้งใจเว้ย! คนมันตกใจ แล้วนี่....รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่ห๊ะ”
“ผมไม่รู้หรอกว่าพี่อยู่ไหน แต่เพราะผมเห็นว่าพี่วิ่งเข้ามาในนี้ต่างหาก ก็แค่เดินตามมาเท่านั้นเอง”
ชูก้าพลาดเอง
“ที่ผมไม่เจอพี่มาหลายวันก็เพราะอย่างนี้หรอ พี่ไม่อยากเจอผมขนาดนั้นเลยสินะ...” วีที่ตอนนี้นั่งอยู๋ช่ข้างๆผม ก้มหน้าลงไม่มองหน้าผม ทำให้ผมไม่สามารถเห็นได้เลยว่า ไอ้เด็กข้างๆผมตอนนี้ มันเป็นอย่างไง
“พี่รำคาญผมมากหรอครับ” ประโยคตัดพ้อกับน้ำเสียงที่เบาหวิวของวี นั้นทำให้ชูก้ารู้สึก เหมือน หายใจไม่ออกยังไงก็ไม่รู้ บรรยากาศมันน่าอึดอัดจนผมเองก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน ยิ่งการที่ไอ้เด็กพูดมากๆข้างๆมันเงียบขนาดนี้ ยิ่งทำให้ เกิดความร้อนใจเล็กๆขึ้นกับเขา
“วี”
“....”
“วี”
“...”
ไหลของร่างที่นั่งข้าๆงเขา เริ่มสั่นเทาเบาๆยิ่งทำให้คนอย่างชูก้า ที่เหมือนจะเป็นต้นเหตุให้ไอ้คนพูดมากข้างๆเงียบได้ขนาดนี้ ถึงกับตกใจ แต่เพียงไม่นานก็ถึงบางอ้อ
“แทฮยอง!!!!”
“ฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ไหลไหวเพราะขำไหลสั่นเพราะหัวเราะ วีเงยหน้ามา ใครที่คาดจะเห็นหน้าเศร้าๆบอกเลยไม่มีสักนิด มีเพียงเเต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสนุกที่ได้เห็นพี่ตัวขาวร้อนใจ
“ย๊า!! คิมแทฮยอง” “นี่แกล้งฉันเหรอ” ชูก้า ที่หน้าเริ่มแดงขึ้นไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่...
“ พี่ห่วงผมใช่ม่ะ"
"ถึงพี่จะรำคาญผมหรือยังไงผมก็ไม่แคร์หรอก เพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมแคร์คือหัวใจของผมมากกว่า”
เปลี่ยนอารมณ์เร็วไปมั๊ย
“อย่าหลบหน้าผมเลยนะครับ มันทรมาน”
มันทรมานจริงๆ เหมือนเป็นความเคยชิน สำหรับแทฮยองไปแล้วที่จะต้องได้เห็นหน้ารุ่นพี่ต่างคณะคนสวยคนนี้ ทุกวัน วันละครั้งก็ยังดี ครั้งแรกที่ได้เจอกับรุ่นพี่คนนี้คือ หน้าคณะตอนเขาเดินผ่าน รุ่นพี่ตัวเล็กตาเรียวคนนี้ มันช่างโดนใจคิมแทฮยองคนนี้จริงผิวขาวๆนั้นทำให้แทฮยองลงทุนตามสืบทุกวิธีทางจนรู้มาว่า พี่เขาชื่อ "มินยุนกิ" หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า "ก้า" เขาเลือกที่จะนั่งมองพี่ชายคนนี้จากมุมหนึ่งในมหาวิทยาลัยมานานตั้งเเต่ที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่จนเพื่อนในกลุ่มเขาทนไม่ได้ จนหาเรื่องตะโกนบอกพี่เค้าไปซะได้ทว่า ผมก็เลือกที่จะไม่ปฏิเสธและทิ้งโอกาสที่จะได้รู้จักนางฟ้าของผมคนนี้ไปหรอก
__________________________________________
สวัสดีเดือนเเห่งความรักเเละพระธรรม อิอิ
สวัสดีกุมภาพันธ์ขอให้รีดเดอร์ทุกคนสมหวังในความรัก เพี้ยง!!!
เหมือนเดิมขอบคุณทุกคนนะที่เป็นกำลังใจให้เลิ้บๆมากเลยย ♥
ไม่รู้ดำเนินเรื่องช้าไปเปล่าเเต่เราคิดว่าคนเราชีวิตก็ไม่ได้เดินไปเร็วหนักหรอกเนอะ
น้ำตาลอ้อยใจ
ความคิดเห็น