คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SF] เด็กช่าง 1/2 #ฟิคแก้บน
เด็กช่าง 1/2
Author : น้ำตาลอ้อยใจ
Rate : ไม่รู้ 555555555
Author's Note : คือฟิคนี้เราแต่งทิ้งไว้นานมากกกแล้วตั้งแต่รูปนี้
แบบเห้ยเขามีเป็นคู่ คู่รักเด็กช่างไรงี้ แต่เพราะด้วยความขี้เกียจเลยไม่แต่งต่อจนจบ แต่ นี่ไปบนบานพูดเล่นๆว่าถ้าได้ในบางสิ่งจะแต่งต่อและลง สรุปคือได้ค่ะ ต้องแก้บน ฟิคนี้เลยกลายมาเป็นฟิคแก้บน ตอนแรกว่าจะตอนเดียวจบ แต่ยิ่งแต่งยิ่งยาวขอแยกเป็นสองแล้วกันเนอะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ
♥♥♥
“เห้ย! มึงมันมาแล้วจัดการเลยป่ะวะ”
เสียงเพื่อนตัวเองดังขึ้นในความมืดก่อนจะตามด้วยเสียงฝีเท้าที่คาดเดาจากเสียงแล้ว ไม่ต่ำกว่าสิบแน่ๆ เสียงอึกถึกเขามาใกล้เรื่อยๆ
“หึ เอาให้เต็มทีเลยนะเว้ย!”
“มึงแหละจองกุก ระวังตัว หนังหน้ามึงยิ่งถูกฉโลกไอ้พวกนั้นอยู่ด้วย”
“มึงหุบปากไปเลย โฮซอก” ทันทีที่สิ้นคำพูดก็ตามด้วยเสียงหมัดต่อหมัดที่พุ่งเข้าหากลุ่มคนมาใหม่
พลั่ก
ตุบ
“ซี้ดดดด” เสียงซู้ดปากดังขึ้นทันทีหลังจากใบหน้าที่หันไปตามแรงที่โดนปะทะเข้ามา ลิ้นเล็กตะหวัดเข้าที่มุมปาก รสสัมผัสคาวๆ ทำให้เขาสบทออกมา
“ไอ้เชี่ยนี่...”
พลั่ก
หมัดหนักถูกส่งกลับไปทันที จอนจองกุกเด็กช่างกลโรงเรียนดังปีหนึ่ง หนึ่งในหัวโจกของประจำกลุ่ม ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาประจำทุกคืน ที่กลุ่มของเขากับ อีกกลุ่มต่างโรงเรียนจะมาเจอกัน เขาก็ไม่รู้ว่าตีกันทำไมรู้แต่ว่าเขาแพ้ใครไม่ได้ ยิ่งกับไอ้พวกโรงเรียนนี้แล้วด้วย
“มึงเก่งหนักหรือไง!!” น้ำเสียงเหี้ยมของไอ้มืดต่างโรงเรียนตะคอกใส่หน้าผม
แต่ขอโทษนะ...จอนจองกุกไม่กลัว
“กูคิดว่างั้นว่ะ” สิ้นคำพูดขายาวก็ฟาดเข้าที่สีข้างของร่างยักษ์ตรงหน้าทันทีเล่นเอาเจ้าของร่างทรุดลงกับพื้นก่อนจะซ้ำด้วยเรียวขางามๆอีกข้าง
“เชี่ยมึงนี่แม่ ง เดี๋ยวก็ตายกันพอดี” จีมินเพื่อนอีกคนในกลุ่มเขาวิ่งมาหาและพูดขึ้นหลังจากจัดการในส่วนของตัวเองเสร็จ
“ให้มันรู้ซะมั้ง ว่าใครเป็นใครว่ะ” เสียงวุ่นวายเริ่มซาลง พวกที่สู้ไม่สู้ก็เริ่มลุกหนี พวกที่ไม่ไหวก็นอนเล่นบนพื้นอยู่อย่างนั้น เหตุการณ์เดิมๆที่เขาเห็นจนชินตา
“ป่ะ! กลับกันเหอะมึง”
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนจองกุกก็เดินมานั่งพักแถวๆ ป้ายรถเมล์เพื่อที่จะรอรถกลับบ้าน มือขาวที่ตอนนี้มีรอยสีม่วงๆเขียวๆปะปราย ไม่รวมกับใบหวานที่มีรอยนิดหน่อย มุมปากที่มีเเผลพร้อมกับเลือดสีแดงที่ตอนนี้แห้งเกาะอยู่ แต่หากที่เจ้าตัวอย่างจองกุกจะแคร์ไม่
ใครๆต่างก็บอกว่าคนอย่างเขาไม่น่าจะมาเรียนช่างกลได้ เพราะรูปร่างหน้าตาที่หวานเกินผู้หญิง ผิวพรรณที่ผุดผ่องสะดุดสายตาคนทั่วไป ไม่เหมาะที่จะมาถูกเคลือบไว้ด้วยเสื้อช้อปสีทึบนี่ เเต่ผิดอะไรที่เขาชอบที่จะมาทางนี้
เครื่องมือสื่อสารประจำตัวถูกหยิบขึ้นมาเสียบหูฟังและกดเปิดเพลงโปรดก่อนจะยัดมันกลับลงที่เดิม ปลายนิ้วเรียวขยับเล่นตามจังหวะเพลงที่ได้ยิน
แรงยวบของที่นั่ง ทำให้จองกุกต้องเหลือบไปมองแล้วก็ต้องชะงักค้างกับ คนในเครื่องแบบที่เขาคุ้นเคย
ไอ้นี่มันเด็กโรงเรียนคู่อริหนิ
แม่ ง เห็นแล้วหมั่นไส้
จองกุกเบ้ปากลง ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นก้อนหินก้อนเล็กๆ อยู่ที่ปลายเท้าพอดี ทำให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้ ร้อยยิ้มเจ้าเลห์ระบายขึ้นก่อน จะลงมือทำในสิ่งที่คิดทันที
เท้าเล็กออกแรงแตะก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าไปทางด้านข้างที่ไอ้เด็กโรงเรียนคู่อรินี่นั่งอยู่ทันที และก็ส่งผลให้ทางฝั่งนั้นเงยหน้าขึ้นมามอง
เชี่ยทำไมหล่อจังวะ
“เห้ยมึงอ่ะ”
“สักยกมั๊ย” จองกุกพูดไปก่อนจะยักคิ้วกวนๆกลับไป
“หึ!” เสียงหัวเราะในลำคอจากไอ้คนข้างๆดังขึ้นก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ
กล้าดียังไงเมินจอนจองกุกวะ
“คิดว่าโรงเรียนมึงแน่นักหรอ”
“กูพี่มึงนะ” คนแปลกหน้าตอบกลับหลังจากสังเกตเครื่องเเบบที่ใส่เเล้วว่ายังไงก็อายุน้อยกว่าเขาเเน่ๆ
“พี่แล้วไงวะ?”
ไอ้เด็กนี่ หน้าตาก็น่ารักดีหรอก... ไม่สิ น่ารักมากด้วยซ้ำ ริมฝีปากแดงๆ จมูกรั้นๆ ผิวขาวนั้นอีก รับกับสั้นผมดำที่ตอนนี้เปียกนิดๆลู่ลงกลับกรอบหน้า
แม่ ง ทำไมนิสัยไม่น่ารักเหมือนหน้าตาวะ
“มองหน้าหาเลขหรอ” ไม่ทันความคิดนิสัยอันน่ารักของคนตรงหน้าก็ถ่ายทอดออกมาทางคำพูดให้เขาถึงกับอ้าปากค้าง
“เหอะ เด็กว่ะ”
“มึงว่าใครเด็ก” น้ำเสียงแข็งพร้อมหาเรื่องถูกส่งพร้อมกับเจ้าของเสียงที่ลุกขึ้นเตรียมสู้
“มึงไง...จอนจองกุก” เขาที่ทนกับนิสัยก้าวร้าวของเด็กตรงหน้าไม่ไหวจึงเดินเข้าไปใกล้ พร้อมเรียกชื่อที่ปักอยู่ที่อกเสื้อ ก่อนจะหันหลังเตรียมตัวเดินออกไป
“เห้ย..แน่จริงมึงอย่าหนีดิวะ จะเอาไงก็ว่ามา” เมื่อตั้งสติได้จอนจองกุกก็โต้กลับทันที ร่างสูงที่เดินห่างออกไปหันหลังกลับมา
“เอาไงหรอ..ไม่ต้องห่วงกูได้เอามึงแน่”
“เอออีกอย่าง กูชื่อ คิมซอกจิน ไม่ได้อยากให้รู้ แต่กูอยากให้มึงจำ”
“ไปละ”
พูดจบก็หันหลังเดินออกไปทันทีทิ้งไว้แต่จอนจองกุกที่ยืนกำหมัดแน่น มันเจ็บใจ ยังไม่มีใครกล้ามาพูดแบบนี้กับเขาแล้วไอ้นี่มันเป็นใคร เขาอาจจะไม่โกรธขนาดนี้ ถ้าไอ้คนที่พูดมันไม่ใช่โรงเรียนคู่อริกัน
อย่าว่าแต่ทำตัวงี้เลย ต่อให้มันทำดีกลับเขาก็ไม่มีวันญาติดีด้วยแน่ๆ
_____________________________
"ได้ข่าวว่ามึงจัดการไอ้พวกโรงเรียนนู้นซะนวมเลยหรอวะ" คิมนัมจุนพูดขึ้น
“เหอะ นี่ใคร” จอนจองกุกพูดหัวเราะร่วนก่อนจะนึกได้ถึงอะไรบางอย่างให้พาลอารมณ์เสีย
“เออพูดแล้วแม่ งหงุดหงิด”
“เมื่อวานกูเจอโรงเรียนนั้นกวนตีนก่อนจะกลับบ้าน” จองกุกเล่าให้เพื่อนๆฟังอย่างหัวเสีย
“แล้วมึงก็ปล่อยให้มันกวนมันอ่าเหรอ?” โฮซอกถามขึ้นบ้าง
จองกุกไม่พูดได้แต่พยักพเยิดหน้าตอบไป
“แม่ งเจ๋งงงว่ะ มันชื่อไรอ่ะ มันได้บอกไว้ป่ะ” นัมจุนถามต่อจองกุกใช้เวลาคิดไม่นอนก่อนจะตอบออกไป
“คิมซอกจิน”
“เห้ย // เห้ยยยย” เสียงของเพื่อนเขาทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกันจนเขาสะดุ้ง
“โอ้ยแล้วพวกมึงจะเสียงดังกันทำไมวะ”
“ไอ้เชี่ยยย มึง” จีมินที่เข้ามาพอได้ยินเรื่องราวพุ่งเข้ามาจับแขนเขายกขึ้นหมุนซ้ายหมุนขวาดูอย่างละเอียด
“คิมซอกจิน หัวโจ้กของโรงเรียนฝั่งนู้น มีแต่คนกลัวพี่เขา แล้วนี่เขาทำไรมึงป่ะ” โฮซอกพูดขึ้น
“เออนั้นดิ แต่เหมือนว่าเขาจะวางมือแขวนนวมแล้ววะ ไม่รู้ทำไม” นัมจุนพูดต่อ
วางมือ...
“แล้วกูจะไปรู้มั๊ยละ แม่ งพูดแล้วหงุดหงิดมึงเงียบไปเลย”
จอนจองกุกตัดบทเพื่อนตรงหน้าไม่ฟังเสียงโวกเวกที่ตามมา เด็กช่างกลกับเรื่องชกต่อยดูจะเป็นของคู่กันยิ่งเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนแล้ว ทำไม...
แล้วนี่เขาจะมานั่งคิดให้ปวดหัวทำไมวะ
ตอนเย็น
วันนี้เลิกเรียนเร็ว เวลาว่างของผม ขอใช้เวลาให้ตัวเองหน่อยเถอะ จอนจองกุกพาตัวเองเดินออกจากโรงเรียนก่อนถอดเสื้อช้อปสีหม่นออกเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเท่านั้น
ใครว่าร้านขนมหวานกับนักเรียนช่างกลไม่เข้ากัน ผมคนนึงนั้นแหละที่จะขอเถียงชนฝา ถึงผมจะชอบในความเฝื่อนๆคาวๆของกลิ่นเลือดเเต่ผมก็หลงรักในรสชาติหวานๆของขนมพวกนี้ไม่ต่างกัน
จองกุกเปิดประตูกระจกขนาดใหญ่เข้าไปภายในร้านขนมเจ้าประจำ ลมจากเครื่องปรับอากาศตรงเข้ามาปะทะกับผิวขาวทันทีที่ก้าวเข้าไป
สายตาคู่สวยมองไปยังโต๊ะประจำ ริมกระจกซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีเพราะวันนี้ตอนนี้มันว่าง
ขายาวของจองกุกรีบก้าวไปยังโต๊ะตัวโปรดก่อนเจ้าของร้านอย่าง "มินยุนกิ" จะเดินมาทักทาย
"ไง...มาพร้อมเเผลตามเคยนะ"
"นี่ไงครับมาให้ขนมพี่รักษาอยู่นี่ไง" จอนจองกุกตอบไปพร้อมรอยยิ้มอย่างเคย
จอนจองกุกมาร้านนี้บ่อยตั้งเเต่เริ่มเรียนที่นี่เเรกๆจนเรียกว่าสนิทสนมกับเจ้าของอย่างมินยุนกิเป็นอย่างดี มากซะเรียกว่าเป็นพี่ชายน้องชายกันก็ว่าได้ แต่ใครจะไปรู้ว่า มินยุนกินี่แหละ 'นักเลงเก่า'
มือขาวจับช้อนคันเล็กก่อนจะตักมันเข้าปาก รสชาติหวานอมเปรี้ยวเเผ่ซ่านไปทั่ว ช่างเป็นความสุขจริงๆถ้าไม่ติดที่ว่าเมื่อเงยหน้าไปจะเจอกับสายตาของไอ้คนที่นั่งตรงข้ามที่จ้องมาทางเขาอย่างไม่ละสายตา
สายตาคมมองการกระทำของเด็กตรงหน้าอย่าลืมตัว เรียกว่าตกใจเหมือนกันที่เจอเด็กนักเลงอย่างจอนจองกุกที่นี่เเต่ก็น่ารักไม่น้อยที่ได้มาเห็นไอ้เด็กหาเรื่องในอริยาบทแบบนี้
ปากแดงๆตอนนี้ที่มีคราบครีมขาวๆเลอะอยู่ ทำให้ คิมซอกจิน เผลอจ้องมองเเละไม่สามารถละสายตาจากภาพตรงหน้าได้เลย จนกระทั่งเหมือนคนตรงข้ามจะรู้ตัวเเละตอบกลับด้วยคำพูดเเสนลื่นหู
"หน้ากูมีชื่อมึงติดอยู่หรอ"
หยาบคาย
ซอกจินคิดได้เเค่นั้นก่อนหลุดหัวเราะออกมาเพราะอดขำไม่ได้ของความคอนทราสที่เกิดขึ้น
เขาด่าไปแล้วไงยังมีหน้ามาขำ ไอ้คิมซอกจินนี่มันยังไง ไม่รู้ว่าโมโหซอกจินหรือโมโหตัวเองกันแน่ ที่กำลังรู้สึกประหม่ากับสายตานั่นที่มองมา
เค้กเริ่มแหว่งไปเรื่อยๆหากแต่ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นก็เป็นอันต้องเจอสายตานี้ตลอด
แม่ งหงุดหงิด
จองกุกทนไม่ไหวทันทีที่ขนมตรงหน้าหมดเจ้าตัวรีบสาวขายาวไปยังโต๊ะตัวตรงข้ามทันที
"มีปัญหาอะไก็พูดดิวะ"
"จะมองหน้ากูเพื่อ!"
ซอกจินยิ้มก่อนจะตอบกลับบ้าง
"กูไม่ได้หาเรื่องกูเเค่อยากมอง"
“แล้วมองทำไมวะ!” จองกุกถามกลับทันที
“ก็มึงน่ารัก”
“อะ...ไอ้....”
ปากอยากจะหาคำสรรเสริญซักคำเเต่ทำไมทันพูดไม่ออกเเล้วรู้สึกเหมือนเลือดวิ่งขึ้นหน้าขนาดนั้นวะ
แม่ งเอ้ย มึงนี่น่ารำคาญว่ะ
จองกุกบ่นแค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่เคาน์เตอร์ที่พี่ชายตัวขาวเขายืนอยู่
"อ่ะพี่ค่าขนมไปละ หมดอารมณ์"
"เอ้า! เป็นอะไรห้ะ"
"บรรยากาศเเม่ งเป็นพิษ" จองกุกพูดพรางกรอกตาไปทางด้านหลัง ทำให้มินยุนกิลองชะโงกตามไป เเต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรนอกจากซอกจินเพื่อนเขา
"ไปละพี่ วันหลังค่อยคุยกัน"
สิ้นคำพูดจองกุกก็พาตัวเองออกจากร้านไปทีนที อากาศข้างนอกไม่ร้อนมาก ลมอ่อนๆพัดมาปะทะกับผิวขาว ที่ตอนนี้เดินฟังเพลงอยู่ริมถนน
เสียงเพลงจากหูฟังเส้นโปรดทำให้เขาเหมือนตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก จังหวะกลอง เบสต่ำๆทุ้มๆ หรือจะเป็นเสียงแหลมของกีต้าร์ ทำให้เขารู้สึกสบายใจได้ๆน้อย
"ก็มึงน่ารัก"
จู่ๆคำพูดของไอ้พี่บ้านั้นก็เข้ามาในหัว น่าขนลุกชะมัดอะไรคือมาชมเขาว่าน่ารัก เเล้วนี่ทำไมใจเขาต้องเต้นไม่เป็นจังหวะงี้ด้วย ...หรือเขาจะเป็นโรคหัวใจ ?
จองกุกสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกก่อนจะเพิ่มเสียงเพลงที่ฟังอยู่ให้ดังขึ้นอีก
เเต่ก่อนจะได้เดินต่อกลับมีใครบางคนที่เหมือนเพิ่งเจอกันไปเมื่อวานมาขวางไว้
"ไงมึง...ได้ข่าวว่าเมื่อวานเก๋าหรอวะ"
"...."
"กูถามทำไมมึงไม่ตอบ"
สายตาหวานของจอนจองกุกมองหน้าไอ้หน้าหนวดตรงหน้านิ่งๆ
"นี่มึงกวนตีนกูหรอ"
จองกุกถอนหายใจก่อนจะค่อยๆยกมือมาดึงหูฟังที่ตัวเองใส่อยู่ออก
"กู-ไม่-ได้-ยิน" เน้นทีละคำอย่างชัดเจน
"ไอ้เชี่ย ปากดีหนักนะมึง"
"หมัดกูก็ดีนะ" จองกุกพูดช้าๆก่อนจะค่อยๆม้วนสายหูฟังลงกระเป๋า
"เหอะ...เเค่กูทำเพื่อนมึงฟกช้ำนิดหน่อยนี่ถึงกับหมาหมู่เลยหรอวะ"
"ม่ะ เข้ามาเลยกูพร้อมละ"
"ทำเป็นซ่าวะ" ซอกจินเอ่ยขึ้นหลังยืนมองเหตุการณ์อยู่ฝั่งตรงข้าม ตอนเเรกก็ไม่ได้จะรีบออกมาหรอถ้าแฟนไอ้ก้าเเม่งไม่ได้มา เพื่อนมีแฟนไอ้ตัวเขานี่ก็หมาหัวเน่าดีๆนี่เอง เลยไม่อยากเป็นกขค
บังเอิญเจอเด็กน้อยมาซ่าขอหยุดดูหน่อยแล้วกันว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ
"มึงพร้อมเเล้วหรอวะเเต่กูไม่พร้อมวะ"สิ้นประโยคเสียงลูกรับลูกส่งจากพวกลูกน้องเกรดต่ำก็ดังขึ้นก่อนไอ้หน้าหนวดจะก้าวเข้ามาใกล้และยิ้มขึ้นเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้
"ตัวมึงขาวดีวะ"
ประโยคเนื้อความแปลกๆทำเอาคิ้วของเขากระตุก
"หน้าก็สวย..ถ้ากูต่อยไปคงจะช้ำ น่าเสียดายเนอะ"
"นี่มึงจะทำอะไร" น้ำเสียงกล้าๆในตอนเเรกเริ่มหาย และถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงหวาดๆแทน
"ทำอะไรดีละ?"
"จะแก้เเค้นก็มาต่อยกันตัวต่อตัวดิวะ"
"เเล้วถ้ากูไม่อยากทำละ" มือหนาๆดำๆเอื้มมาดันคางของเขาขึ้น
"ปากดีนะมึงอ่ะอยากจะรู้จัง...ว่าจะดีจริงหรือเปล่า"
"จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยนะเว้ย!" จองกุกโวยวาย
"ปล่อยก็โง่ดิวะ"
"ไม่ปล่อยใช่มั๊ย" จบประโยคหมัดเล็กแต่หนักของจองกุกก็เข้าปะทะใบหน้าหยาบกร้านของไอ้หน้าหนวดนั้นทันที
"ถุย!" เลือดสีแดงสดกระเด็นลงไปตามแรง
"มึงนี่มัน"
พลั่ก!
หมัดใหญ่พร้อมแรงกระแทกพุ่งเข้าช่วงตัวกลางท้องจองกุก เล่นซะจุกตัวง้อ พูดไม่ออก
"ไงพูดไม่ออกเลยหรอครับ...คนสวย"
จองกุกได้เเต่ตวัดตามองเท่านั้น
"พูดไม่ออกก็ไม่ต้องพูดนะ...รอครางอย่างเดียว"
"เห้ยพวงมึงไปดูต้นทางดิ"
ประโยคเเรกมันหันมาพูดกับผมก่อนประโยคที่สองจะหันไปฝั่งไอ้ลูกน้องของมัน
เวลาที่เริ่มเย็นขึ้นทำให้บริเวณนั้นคนน้อยไปลงอีก รวมถึงเขาตอนนี้ที่โดนมันลากเข้ามาอยู่ในซอกหลืบมุมตึกแบบในหนัง ที่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง
"ปล่อยกูนะเว้ยมึงจะซ้อมกูจะต่อยกูยังไงก็ได้"
"อย่าทำอย่างนั้น..."
จองกุกที่ฟื้นจากอาการจุกรีบร้องขอ จะซ้อมจะรุมยังไงเขายอมได้เพราะยังไงมันก็เป็นธรรมเนียมปฎิบัติซึ่งเขาเองก็ทำ เเต่ไอ้การกระทำแบบนี้มันเกินไป
"ทำไมละ..." น้ำเสียงทุ่มน่ากลัวกระซิบข้างใบหูก่อนมือหยาบจะไล้ไปตามสีข้างของคนตัวเล็กที่พยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการที่จับเเขนขาเขาไว้
"ปล่อยกูนะไอ่เหี้ยยย" จองกุกหวีดเสียงด้วยความกลัว
ตอนนี้เขากลัวกลัวมากจริงๆ ใบหน้าของไอ้หน้าหนวดเลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหานใจร้อนๆ จองกุกได้เเต่เม้มปากเน้นหดคอตามสัญชาตญาณ ก่อนจะหลับตาเเน่น
พลั่ก
โครม
เสียงโครมครามดังขึ้นเบรกการกระทำให้ไอ้หน้าหนวดนั้นต้องหันหลังไปมองซึ่งก็ต้องผงะ เมื่อจู่ๆร่างลูกน้องของมันก็ลอยปลิวมาตกข้างหน้า่่
"เห้ย...อะไรวะเนี่ย!"
"ใครแม่งทำวะ มึงอยากลองดีกับกูหรือไง" ไอ้หน้าหนวดพูดเสียงดังเเต่ก็ยังคงจับสองเเขนของจองกุกไว้
"กูเอง" น้ำเสียงนุ่มหากแต่ในเวลานี้มันเยือกเย็นจนน่กลัว
"พะ...พี่ซอกจิน"
ไอ้หน้าหนวดร่างยักษ์ตกใจทันทีที่เห็น รุ่นพี่ที่เเต่ก่อนถือเป็นที่สุดของโรงเรียน เเค่คิดเเหย่มชีวิตก็ดับเเล้ว
"เออกูเอง"
"มึงกำลังทำอะไรหรอ ? " ซอกจินถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆก่อนค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ สายตาคมที่ตอนนี้มองรุ่นน้องร่วมสถาบันก่อนจะละไปมองเด็กน้อยที่ตอนนี้กลายร่างเป็นแมวกลัวน้ำ ซึ่งสภาพจองกุกแบบนั้นยิ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกอยากจะประเคนหมัดให้น้องร่วมสภาบันตัวเองซะเดี๋ยวนี้
"เมื่อวานมันทำเราก่อนนะครับ เเล้วมันก็อยู่โรงเรียนนั้นด้วย"
"มึงจะต่อยจะตีกันกูไม่ว่าเเต่แบบนี้คืออะไร!”
“แล้วทำไมพี่ต้องห่วงมันด้วยอ่ะ!”
“…กูไม่ได้ห่วง” จินชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะตอบคำถามรุ่นน้อง
“แค่สิ่งที่มึงทำมันทุเรศ!”
พลั่ก
คำพูดสั้นๆส่งออกไปพร้อมหมัดหนัก ไอ้หน้าหนวดหนกลับมาด้วยใบหน้าที่ดูแดงขึ้นและริมฝีปากที่เหมือนจะแตก
“มึงจะไปไหนก็ไปก่อนที่จะโดนมากกว่านี้”
ทันทีที่รุ่นน้องร่วมสถาบันเขาวิ่งหนีออกไป จินก็หันมายังไอ้เด็กแสบที่ตอนนี้กลายร่างเป็นแมวป่วยเรียบร้อยแล้ว
“ลุกขึ้นดิมึง”
“....”
ร่างเล็กไม่ตอบเพียงแต่ก็ยังไม่หยุดส่งสายตาขวางๆมาให้เขา
“ลุกดิจะนั่งให้รากมันงอกออกมาหรือไง”
“กะ..กูลุกไม่ไหว” น้ำเสียงอ่อยๆ ขัดกับหน้าตาที่โคตรเจ็บใจที่ต้องมาพูดประโยคหน้าอายแบบนี้ต่อหน้าอีกคน
“เฮ้อ...” ซอกจินถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ หันหลังแล้วลดตัวนั่งลงตรงหน้า
“ขึ้นมา” เสียงคำสั่งดังขึ้น
จองกุกที่เข้าใจว่าจะต้องทำอะไร แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะทำมัน
“เร็วๆดิวะ กูเมื่อย” แขนเล็กๆค่อยๆเอื้อมไปวางท้าวบนไหล่ของคนตัวสูงข้างหน้า แล้วโน้มน้ำหนักตัวให้พิงไปที่หลัง ทำให้ความเจ็บตรงสีข้างวิ่งแปร๊บจนต้องร้องออกมา
ซอกจินคว้าแขนเล็กนั้นก่อนจะลุกขึ้นและเปลี่ยนไปจับขาขาวที่ขนาบอยู่ข้างลำตัวแทน
“มึงอยากเกร็งดิว...กูหนัก”
“หนักก็ปล่อยดิ ไม่ได้ขอ”
จินไม่ตอบ ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ
“ทำเป็นพูดดี เดินเองไม่ไหวแล้วยังทำปากเก่ง”
จองกุกมองเสี้ยวหน้าของคนที่แบกเขาอยู่ ทำไมมันหล่อแบบนี้วะ เครื่องหน้าเรียงตัวกันดีอย่างกับจับวาง ไหล่ที่เขาพิงอยู่ก็กว้างซะเขาอิจฉา จองกุกเลิกพิจารณาก่อนจะถามคำถามที่สงสัยออกไป
“นี่จะไปไหนอ่ะ?”
“ไปห้องกู”
“เอ้ย! ไม่ทำไมกูไม่ไป!!!”
“หรือมึงอยากกลับบ้านสภาพนี้”
“...”
ใช่ถ้าเขากลับบ้านสภาพนี้คงไม่ดีแน่ๆ จองกุกตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง จนรู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกพาเข้ามาในตึกหรูนี่แล้ว ก่อนเจ้าตัว คนที่แบกเขาอยู่จะหยิบการ์ดบางอย่างมาเตะที่ประตูแล้วเดินชนมันเข้าไป
ตุ้บ
“โอ้ย”
เสียงร่างกระทบเบาะดังตุบใหญ่หลังจากซอกจินที่ปล่อยจองกุกลงบนโซฟาปลายเตียงอย่างไม่สนใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงร้องดังขึ้น
คิ้วคมขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของร่างที่เขาเพิ่งปล่อยลงไปขึ้นมา
อย่างที่คิดไว้
รอยแดงขนาดเท่ากำมือสีแดงดวงใหญ่ ที่ตอนนี้เริ่มมีสีม่วงปนเขียวขึ้นมาบ้างปะปราย นี่ไอ้บ้านั้นมันออกแรงเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ หรือเพราะไอ้นี่มันบอบบาง
“โอ้ย” จองกุกร้องลั่นเมื่อจินใช้นิ้วจิ้มไปตรงกลางวงนั้น
“มึงทำเชี่ยไรเนี่ย!”
“เรียกกูดีๆได้มั๊ยวะ”
“กูไม่เรียก!”
“โอ้ย!”
“กูเป็นพี่มึงนะ” จองกุกจับมือจินแน่นพยายามจะดึงออกแต่ก็สู้แรงของจินไม่ได้
“กูไม่นับ”
“โอ้ยยยยย!”
จองกุกเจ็บจนน้ำตาเล็ด จนเขาต้องยอมที่จะเอ่ยปาก
“พะ..พี่จิน” ซอกจินยิ้มน้อยๆอย่างพอใจถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่เห็นน้ำตาใสคลอหน่วยตานั่น
“ไปอาบน้ำไปค่อยออกมาทายา” จินพูดขึ้นก่อน เดินเลี่ยงไปค้นเสื้อผ้าในตู้ ดีที่ขนาด ตัวเท่าๆกันยังพอใส่กันได้
เสื้อยืดสีเทากับกางเกงขาสั้นสีแดงและผ้าเช็ดตัวสีขาวถูกโยนเข้าใส่
“แปรงสีฟันมีแบบยังไม่ใด้ใช้อยู่ให้ห้องน้ำ อยากใช้ก็แกะเอา”
จินพูดก่อนเดินไปที่เตียงหยิบโทรศัพท์มากดเล่นอย่างไม่ใส่ใจ จองกุกจึงเลือกที่จะเดินไปอาบน้ำอย่างที่ว่า ก็มันทำอะไรไม่ได้แล้วหนิ
แกร๊ก
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกตามด้วยร่างเล็กในชุดตัวโคร่งหากแต่พอดีตัว
ผมสีดำเปียกชื้นลู่ลงตามกรอบหน้า ใบหน้าขาวตอนนี้บวมช้ำไปทั้งหน้าดูน่าสงสารเเต่ก็คงไม่ใช่กับคิมซอกจิน ผ้าสีขาวผืนใหม่ถูกโยนเข้าปะทะกับใบหน้าขาว
"เช็ดหัวมึงซะ เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาลำบากกูอีก" จินพูดก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางหนึ่งของมุมห้อง
"มานั่งนี่" คำสั่งดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเขาเองเพลียเกินกว่าจะเถียงจึงได้แต่เดินตามไป
เก้าอี้สองตัวถูกจัดให้หันหน้าเข้าหากันโดนบนโต๊ะตัวข้างๆนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
"ผมทำเองได้" จองกุกพูดขึ้นอย่างรู้งาน
"รู้ เเต่กูจะทำ"
จองกุกมองตามมือใหญ่ที่หยิบจับนั่นทีนี่ทีอย่างหวาดๆเมื่อเห็น ไอ้พี่ตรงหน้าหยิบขวดสีฟ้าใสๆออกมาจากกล่อง มันเป็นสิ่งที่ถ้าเขาทำเองเขาจะไม่มีวันใช้สิ่งนี้เด็ดขาด ซึ่งมีหรอ...ที่ซอกจินจะดูไม่ออก
"มึงจะถอยทำไม"
จินโวยขึ้นเมื่อคนตรงหน้าที่จะทำแผลให้เขยิบถอยออกห่างทุกครั้งที่เขาจะล้างแผล
"ไม่ใช้แอลกอฮอลล์ไม่ได้หรอ" จองกุกพูดขึ้นอย่างยอมเเพ้ แอบเจ็บใจที่ต้องมาอ่อนแอต่อหน้าเป็นครั้งที่สอง
"อยากเป็นบาดทะยักตายหรือไง" ตอนเเรกยอมรับว่าจะแกล้งเเต่พอเห็นหน้าตรงหน้าเเล้วก็อดสงสารไม่ได้ ดวงตาเเข็งอ่อนลงอย่างห้ามไม่ได้
"เดี๋ยวกูเป่าให้"
ประโยคแปลกๆที่จองกุกไม่ค่อยเข้าใจดังขึ้นจากปากคนเป็นพี่ข้างหน้าก่อนจะต้องร้องเมื่อสำลีถูกคนอย่างซอกจินกดลงไปบนแผลตรงโหนกเเก้มทันที
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก แสบบบบบบบบบบ ไอ้พี่จินนนน ไอ้บ้าา ไอ้..."
คำด่าถูกกลืนหายไปทันทีเมื่อรู้สึกถึงลมอุ่นๆบริเวณแผลนั่น ตาใสที่หลับไปเพราะความแสบลืมขึ้นก่อนจะพยายามปรับโฟกัสซึ่งก็ไม่สามารถ เนื่องจากสิ่งที่ทำให้เกิดลมนั้นอยู่ใกล้เกินไป
จินก้มหน้าลงชิดกับเเผลที่เขาเพิ่งล้างไปก่อนจะบรรจงเป่าลมลงไปเบาๆเหมือนที่เเม่ชอบทำให้เขาตอนเด็กๆ
"แสบนิดเดียวเดี๋ยวแม่เป่าให้ก็หายเเสบเเล้วนะ"
"หายหรือยัง" ซอกจินถามขึ้นเมื่อเสียงโวยวายตรงหน้าสงบลง
"หะ...หายเเล้ว" จองกุกตอบกลับทันที ใช่มันหายเเสบเเล้วทั้งที่ปกติมันต้องนานกว่านี้ หายแสบเเล้วทว่ากลับมีอาการอื่นเกิดขึ้นบนใบหน้าแทน
มันร้อน...
มือใหญ่ทรงแปลกๆเอื้อมมาจับปลายคางเเล้วพลิกไปมา ก่อนจะตามด้วยก้านสำลีที่ชุ่มไปด้วยยา พี่จินทำแผลให้กับเขา ปากก็บ่นเหมือนคนแก่หากแต่กลับมือเบาจนเขาไม่รู้สึก
"อ่ะ" ซอกจินยื่นยาหลอดสีขาวให้
"ไว้ทาตรงเอวมึงอ่ะ...หรือจะให้ทาให้"
"ไม่ต้อง!" รู้ว่าเป็นผู้ชายเหมือนกันเเต่เขาก็ไม่รู้ทำไมเเค่คิดเขาก็รู้สึกได้ว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าเขิน ก็ไม่ต่างจากคิมซอกจิน พูดไปอย่างงั้นเเต่ใจจริงก็ไม่กล้าที่จะเตะผิวขาวๆใต้เสื้อผ้านั่นเหมือนกัน
"มึงนอนโซฟานะ"
"อือ" จองกุกขานรับ
เขารู้อยู่เเล้วละ เเต่เเค่นี้สำหรับเขาจิ๊บๆ นอนข้างทางกับไอ้พวกโฮซอกเขายังทำกันมาเเล้วเลย ซอกจินเลิกสนใจจองกุกก่อนจะเลี่ยงไปอาบน้ำบ้าง
ห้องที้เคยสว่างบัดดนี้กลับเหลือเพียงเเสงสลัวๆจากโคมไฟเท่านั้น
กล้าดีอย่างไงมาปิดไฟห้องเขา เเต่ถ้าถามว่าคนอย่างซอกจินจะเปิดมันขึ้นอีกไหม
คำตอบคือ...ไม่
ซอกจินล้มตัวนอนก่อนเเอบเหลือบมองไปยังร่างเล็กที่ปลายเตียง ทำไมเขาต้องพามันมาดูแลขนาดนี้ แค่โกรธหรอ? ที่รุ่นน้องตัวเองทำไมดีกับมัน หน้าตาหาเรื่องตอนเเรกที่เจอครั้งแรก หน้าตาตอนที่ไอ้นี่หงุดหงิด มันน่าแกล้งซะเหลือเกิน แต่ใจเขาก็ต้องกระตุกวาบเมื่อนึกถึงใบหน้าที่เขาเพิ่งเห็นไม่นานนี้
ใบหน้าตอนจอนจองกุกกลัว ใบหน้าหวานที่น่าสงสารในตอนนั้น
เเละตอนนี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรพาเขาลุกจากเตียงมายืนอยู่ข้างโซฟาตัวเล็กนี่ ใบหน้ายามหลับ เปลือกตาสีอ่อนที่ปิดสนิท แพขนตาหนา ริมฝีปากสีแดง น่ามองซะเหลือเกินถ้าไม่ติดที่พวงเเก้มขาวเต็มไปด้วยรอยช้ำ รอยเเตกมากมายขนาดนี้อ่านะ
มือหนาเลื่อนไปดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ดีอีกครั้ง ก่อนจะอดเลื่อนมือไปวางบนกลุ่มผมนุ่มไม่ได้
เขาเเค่เอ็นดูเด็กนี่ใช่มั๊ย ?
_____________________
ลงตอนง่วงมาก ถ้ามีอะไรผิดซอรี่ค่อยเเก้เนอะ
ความคิดเห็น