คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 11
Chapter 11
.
.
.
เออ ชีวิตแม่ ง โคตรเหี้ยเลย
3 ปีก่อนหน้านั้น
“มึง สอนเลขกูหน่อยดิ”
“ทำไมกูต้องสอนมึง”
“ก็มึงเก่งอ่ะ จองโฮซอกของปาร์คจีมิน เก่งที่สุดในโลก” ใบหน้ากลมยิ้มร่าก่อนเข้าไปจับแขนคนใกล้ตัวที่ตัวเองเพิ่งชมไปเมื้อกี้
“เหี้ย มึงน่ารักว่ะ”
“น่ารักก็รักกูมากๆแล้วกัน”
เพื่อนรักกลายเป็นอื่นอย่างเขาเเละปาร์คจีมิน ความรักที่เกิดขึ้นจากความสนิทของคนสองคน ตั้งเเต่ประถมที่เรียนด้วยกันมา เพื่อนยังไงก็เป็นเพื่อนมาตลอดเเต่เรื่องกลับเปลี่ยนไปเมื่อตอนมอสองที่อยู่ๆ คนอย่างปาร์คจีมินก็รู้สึกว่าความรู้สึกนั้นมันเปลี่ยนไป มันมากขึ้นมากจนเกินคำว่าเพื่อนไปซะแล้ว
เเต่เขาก็ตันสินใจที่จะบอก เขาไม่กลัวว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพูดออกไป เพราะยังไงก็ดีซะกว่าเขาต้องทรมานเก็บความรู้สึกไว้อย่างนี้ เสียเพื่อนก็ช่าง มอสี่ก็คงไม่ได้อยู่ที่เดียวกันอยู่แล้วบอกๆไปซะ ดีกว่ามานั่งอึดอัด
“โฮป กูชอบมึงวะ”
จีมินหลับหูหลับตาพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกไปโดยที่ทำใจไว้เเล้วกลับคำตอบไม่ว่ามันจะออกมาอย่างไรก็ตาม
“....”
“มึงจะเกลียดกูก็ได้นะ แต่กูรักมึงไปแล้ว อีกปีนึงทีเหลือก็ช่วยทนเป็นเพื่อนกันไปก่อนละกัน” ร่างเล็กพ่นทุกสิ่งที่คิดออกมาอย่างรวดเร็วแทบไม่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังตรงหน้าตอบโต้อะไรมาได้เลย จนคนตรงหน้าเรียกชื่อเพื่อเบรคประโยครัวๆนั้น
“จีมิน!!”
“เอาจริงป่ะกูก็ไม่ต่างจากมึงเท่าไหร่หรอก”
“ห้ะ”
“กูก็ชอบมึง”
ในเมื่อความรู้สึกของทั้งสองคนตรงกัน ระยะเวลาต่อจากนั้นคงเป็นช่วงที่ที่ปาร์คจีมินและจองโฮซอก มีความสุขที่สุดแล้ว
โฮซอก!!!
ผมกับโฮซอกที่นอนอ่านหนังสือกันบนเตียงเหมือนปกติที่ติวสอบกัน เรื่องมันดันเกิดจากที่อยู่ๆโฮซอกมันก็คร่อมผมกะจะแกล้งเล่น เเต่มันจะไม่มีอะไรถ้าแม่ของร่างตรงหน้าเขา จะไม่เปิดประตูเข้ามาเห็นซะก่อน
“นี่....ลูก...กับจีมิน..” น้ำเสียงสั่นๆหากแข็งกร้าวดังขึ้น มันอาจไม่ใช่เสียงที่ดังมากขนาดนั้น แต่สำหรับจีมินตอนนี้แล้วเขารู้สึกเหมือนมันดังเหลือเกิน แม่ของโฮซอกไม่ยอมรับกับเรื่องแบบนี้ เขาเคยคุยกับโฮซอกแล้ว แต่เขาสองคนก็ยังคงยืนยันที่จะทำในสิ่งที่แม่ของเขามองว่ามันผิด
“ครับ” เสียงโฮซอกดังขึ้นข้างๆเขา จีมินเงยหน้าขึ้นไปมองเเต่ทว่าภาพข้างหน้ามันค่อนข้างเลือนลางเหตุมาจากม่านน้ำที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นช้าๆในหน่วยตาคู่สวย โฮซอกไม่โกหก ไม่เลือกที่จะปฏิเสธเพราะเขารู้ดีว่าอย่างไงก็ต้องมีวันนี้เพียงแค่มันมาเร็วเกินไปเท่านั้น
“ออกมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้!!! ” หญิงสาววัยกลางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณของคนรักเขาพูดขึ้นก่อนจะเดินหันหลังออกจากห้องไป จีมินหันมาสบตาเพียงแว้บเดียวก่อนรู้สึกได้ถึงแรงบีบเบาๆที่ฝ่ามือก่อนจะค่อยๆคลายออก และเหลือเพียงเขาคนเดียวในห้อง
ห้องที่เคยมองว่ามันแคบเหลือเกินแต่ตอนนี้มันดูกว้างเกินไปสำหรับเขา มันกว้างซะจนจีมินรู้สึกกลัว สิ่งของรอบๆตัวดูจะไม่เป็นมิตรกับผมซะเลยทั้งๆที่ไม่กี่นาทีที่แล้วมันยังเป็นเหมือนเพื่อนที่น่ารักของผมอยู่เลย เวลาเพียงไม่นานหลังจากโฮซอกเดินออกไป แต่สำหรับผมตอนนี้มันนานเกินไปหรือเปล่า
ร่างสูงของโฮซอกเดินมาหยุดตรงหน้าเขาก่อนจะเอ่ยชื่อเขาเบาๆ
“จีมิน”
“กูขอโทษ...”
น้ำตาที่เอ่อคลอหน่วยตาคู่สวยนั้น ทลายลงทันทีที่สิ้นคำพูดนั้น ประโยคสั้นที่เขาเองเข้าใจทุกอย่าง มันคือความจริง ความจริงที่เขาเองก็ไม่สามารถเปลี่นเเปลงอะไรได้ ในเมื่อมันเป็นเเบบนี้เขาก็ต้องยอมรับใช่มั๊ย น้ำตาใสไหลลงอาบข้างแก้มช้าๆ ก่อนหัวเล็กจะพงกขึ้นลงเป็นนัยว่าเขาเข้าใจ
“กูเข้าใจโฮซอก กูเข้าใจ...ฮือๆ” น้ำเสียงสั่นและขาดหายจากการร้องไห้ที่หนักค่อยๆหนักขึ้น
“แต่กูก็ยังรักมึงนะ” โฮซฮกเองที่เสียงสั่นไม่แพ้กันเพียงแค่ยังไม่มีน้ำตาให้เห็นเพราะเขาเลือกที่จะกลั้นมันไว้
“อือเหมือนกัน”
"งั้นกูไปก่อนนะ" จีมินพูดแค่นั้นก่อนลุกออกเดินออกไปจากห้องทันที โฮซอกที่เหมือนจะคว้าเอาไว้แต่ก็ไม่ทำ ปล่อยไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
นี่ก็สอบเสร็จแล้วเวลาเกือบสามเดือนเเล้วที่เขาไม่ได้เจอโฮซอกเลย ถามทำไมไม่เจอ ผมหลบหน้ามันเอง มันเป็นคนชอบเข้าห้องสอบสายผมก็ชิงเข้าก่อน และรีบออกก่อนและกลับบ้านไปเลย ทำแบบนี้ตลอดช่วงสอบ และหลังจากนั้นก็เก็บตัวอยู่ในบ้าน ดีขึ้นแล้วนะ ดีขึ้นจริงๆ แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะเผขิญหน้าเหมือนกัน
หัวใจมันยังไม่พร้อม
ถึงเเม้เวลาที่ผมกับโฮซอกตัดสินใจคบกันในฐานะคนรักจะเป็นเวลาสั้นๆ เเต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากผมว่าโฮซอกก็เช่นกัน ผมหาทางไว้แล้วละ ผมจะไม่ต่อโรงเรียนเดิม อาจจะบอกว่าเป็นเพราะโฮซอกก็ได้แต่เอาจริงมันก็เป็นโรงเรียนในฝันผมอยู่แล้ว เเละผมก็ทำได้ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไม่มีอะไร จนกระทั่งวันปฐมนิเทศ
"เฮ้ยมึง"
เสียงใครวะ?
"มึงอ่ะ"
ใครวะไม่สนิทมาขึ้นมงขึ้นมึงไอ้นี่หนิ วอนซะละ จีมินหมุนตัวไปตามเสียงเรียกที่ได้ยินก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร
“โฮซอก” จีมินพึมพำชื่อคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนที่เจ้าของชื่อจะค่อยเดินเข้ามาใกล้ๆ
“ไม่เจอกันนานเลยนะเว้ย...เพื่อน”
เพื่อนหรอ ?
จีมินที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไร จะว่าตกใจหรอก็ใช่ เรียกคิดไม่ถึงมากกว่า ใครจะคิดว่าจะเจอกันที่นี้ เขาไม่เป็นไร เขาสบายดี
“อ่ะ” น้ำหนักตัวที่โถมเข้าใส่จีมินเบาๆ แต่ก็แรงพอๆให้เซได้เหมือนกัน
“คิดถึงมึงว่ะ” โฮซอกที่ตอนนี้กอดจีมินไว้หลวมๆพูดขึ้นเบาๆข้างหูจีมิน ก่อนจะละออกไปยืนตัวตรงข้างหน้าเขาเหมือนเดิม
“คิดถึงเหมือนกันว่ะเพื่อน”
เขาโอเคแล้วตอนนี้ จีมินคิดงั้นนะ ถึงแม้รักครั้งนี้ของผมกับมันจะไม่สมหวังครองคู่ชูชื่นอะไรแต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ห่างกันเพื่อรักษาหัวใจเเละกลับมาเพื่อเริ่มใหม่ในฐานะเพื่อนคนนึงที่จำเเค่ว่าครั้งนึงเขาเคยรักกัน มันก็ดีที่สุดเเล้วสำหรับเขา
“ไงมึง” ซอกจินเอ่ยทักเพื่อนทันที ที่เห็นเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กปีหนึ่งที่เขาเพิ่งคุยกับมันมาไม่นาน เเทฮยองยิ้มกว้างก่อนพงกหัวเชิงขอบคุณส่งให้เพื่อนสนิทคนข้างๆที่ตอนนี้พุ่งเข้าไปประชิดตัวจินเรียบร้อยเเล้ว
“มึงแม่ งเลว”
“อ้าวเรื่องไรมาด่ากูอีกอ่ะ ไอ้นี่” จินพุ่งเข้าไปล็อคคอชูก้าก่อนโน้มน้ำหน้กลงไป
“โอ้ยไอจินกูหนักก มึงออกไป” ชูก้าโวยวายเสียงดัง
“ปล่อยกูววววววววววววว”
"เรื่องอะไรต้องปล่อย" ซอกจินใส่น้ำหนังลงไปอีกรอบโดยที่ไม่สนเสียงโวยวายข้างๆหูเลยซักนิด ก่อนที่จะหันไปเห็นบางสิ่งที่ทำให้เขาเลิกเล่นและปล่อยมือออกจากคอชูก้าให้เป็นอิสระ
จองกุกคุยกับใครวะ
ชูก้ายืนงงที่จู่ๆเพื่อนเขาก็ปล่อยเเถมยังมองไปที่จุดๆเดียวอีกต่างหาก ก่อนจะพอเดาอะไรบางอย่างออก
“จองโฮซอก” ชูก้าพูดขึ้นข้างๆ
“กูไม่ได้ถามมึงนะ” จินหันไปพูดใส่หน้าชูก้า
ไอ้เชี่ยนี่มันอ่านความคิดผมได้หรือไง
“หรอ...แต่กูว่ามึงอยากรู้” ชูก้าพูดขึ้นพร้อมยิ้มน้อยๆก่อนเดินออกไปเอากระเป๋าตัวเองที่ไปอยู่บนบ่าของไอ้เด็กปีหนึ่งวี
แหม่...กระเป๋ามึงมันหนักขนาดถือเองไม่ได้เลยมั้งง!
“พี่ไปพูดอะไรกับพี่จินอ่ะ ทำไมพี่เขาทำหน้าอย่างงั้น” วีถามขึ้นขำๆก่อนหันไปมองที่ต้นเหตุของคำถาม
“นี่ดูไม่ออกหรอว่าไอ้จินกับน้องคนนั้นหน่ะไอ้กุกอ่ะ มันยังไงๆกัน” ชูก้าพูดก่อนชี้ไม้ชี้มือไปที่จองกุก
“อ่อหรอ...”
“แล้วเมื่อไหร่พี่จะดูออกสักทีว่าผมอ่ะคิดยังไงกับพี่”
________________________________________________
เเต่ก็ใช่ว่าปัจจุบันจะไม่มีความสุขเนอะ
จบเเค่นี้แหละโฮปมิน ส่วนคู่หลักก็ลุ้นกันต่อไป
ยืดเยื้อมากอินี่ อย่าเพิ่งเบื่อกันน้าาา
รักทุกคนเสมอค่ะ จูบบบบบบบบบบบบ -3-
ความคิดเห็น