คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [SF] เด็กช่าง 2/2 #ฟิคแก้บน [End]
เด็กช่าง 2/2
*ใครลืมตอนเเรกอนุญาติอ่านใหม่ได้ค่ะ*
คิมซอกจินถูกรบกวนเวลานอน
ปกติเเล้วสำหรับซอกจินเวลาเช้าตรู่นั้นไม่ใช่เวลาที่เขาจะมีสติ แต่ตอนนี้เขาต้องลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงแปลกๆที่รบกวนเขามาเป็นชั่วโมงตอนเเรกคิดว่าอาจเเค่ละเมอไม่นานก็หายเเต่นี่มันไม่ใช่
โวยยยยย
จินลุกอย่างหัวเสียไปที่จุดกำเนิดเสียงปลายเตียง
เสียงบ่นพึมพำอะไรยางอย่างยังไม่หยุดดัง จินขมวดคิ้วเมื่อภาพที่เห็นมันแปลกๆ จองกุกเด็กที่เขาพามันกลับมาห้องด้วยเมื่อวานที่ตอนนี้ นอนขดตัวอยู่ในก้อนผ้าห่มผืนบาง ใบหน้าขึ้นสีแบบแปลกๆ ไรผมที่เปียกจากเหงื่อเม็ดเล้กที่ทยอยกันผุดขึ้น ริมฝีปากแดงที่มีรอยเเผลเผยอกอบโกยอากาศ
"หนาว...."
เสียงแบบเดียวกับที่ทำเขาตื่นดังขึ้นอีกครั้ง อาการแบบนี้นี่มัน
จินเลื่อนหลังมือไปอังบนหน้าผากของเด็กน้อยตรงหน้าก่อนจะสบทออกมาทันที
"ไอ้นี่...กูบอกเเล้วไงว่าอย่าป่วย"
"มันจะลำบากกู"
ปากพูดไปอย่างงั้นต่างจากร่างกายส่วนอื่น ซอกจินรีบเดินออกไปนอกห้องก่อนกลับมาพร้อมกะละมังใส่น้ำ และผ้าขนหนูผืนขาวซอกจินวางมันไว้ข้างเตียง แล้วละมายังคนที่นอนขดอยู่บนโซฟาใต้เตียง แขนแกร่งช้อนตัวขึ้นแล้วเดินไปปล่อยลงบนเตียงตัวเอง
จินจัดท่านอนจองกุกให้เรียบร้อยก่อนจะหันไปสนใจผ้าขนหนูในอ่าง สัมผัสเย็นๆจากผ้าไล้ตั้งแต่บริเวรกรอบหน้าลงไปไอร้อนถูกดูดขึ้นมาจนผ้าอุ่น
ทำไมเขาต้องมาลำบากด้วยวะ
จินคิดอีกครั้งก่อนหยุดการกระทำตรงหน้า
นั้นสิ เขาจะมาลำบากเพราะเด็กนี่ทำไม ซอกจินเลิกเช็ดตัวจองกุกทันที แต่ก็ไม่วายพับผ้าให้เล็กแล้วเอาวางบนหน้าผาก
หนักหัวไปหมด
นี่เขาอยู่ที่ไหน
เปลือกตาสีอ่อนขยับก่อนจะเปิดขึ้น กระพรบถี่ๆเพื่อปรับโฟกัส ก่อนสมองจะค่อยๆรันเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เขาถูกพวกอีกโรงเรียนรุม ไอ้พี่จินมาช่วย ทำแผลให้ในห้อง ห้อง...
เห้ย!!
ร่างสมส่วนเด้งตัวทันทีเมื่อคิดได้ว่าตอนนี้เขาอาศัยอยู่ที่ใด คิ้วบางขมวดเข้าหากัน เมื่อมองสิ่งที่รองตัวเองอยู่
เขามาอยู่บนเตียงได้ยังไง
แล้วไอ้ผ้าบนหัวนี่คือ ? แต่ยังไม่ทันหาคำตอบประตูห้องก็เปิดขึ้นพร้อมกับเจ้าของบ้านหน้าหล่อที่เขขาก็ยังไม่ถูกชะตาเดินเข้ามา
“ไง ตื่นแล้วไง กูบอกแล้วอย่าให้กูลำบาก”
“มึงนี่ตัวซวยจริงๆ”
เข้ามาก็ด่าเป็นชุดไอ้พี่นี่มันจะเอายังไงวะ คิดแล้วก็ปวดหัวแล้วนี่เขาเป็นไข้หรอ
“กินข้าวละกินยา กูวางไว้ข้างเตียงมึงละ”
จองกุกหันมองตาม ชามข้ามต้มสีขาว วางข้างแก้วน้ำ และยา ไอ้พี่นี่มันทำให้เขาหรอ
“กินไปเหอะหนะ ถึงกูทำเองแต่ไม่ได้ใส่ยาให้มึงหรอก” จินพูดขึ้นน้ำเสียงติดหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางระแวงจากไอ้คนที่นั่งอยู่บนเตียงเขา
จองกุกเอี้ยวตัวไปหยิบถ้วยมาไว้ในมือก่อนจะลงมือทันที หลับทั้งวันไม่หิวก็แปลก
ซอกจินเผลอยิ้มออกมากับภาพตรงหน้า เด็กแสบไม่สบายที่ก้มหน้าก้มตากินไม่สนโลก ไปหิวอะไรมา ปากแดงที่ขมุบขมิบตามจังหวะการเคี้ยว แก้มขาวที่อูมขึ้น น่ารักจนเขาไม่อาจละสายตา
“มึง..อ่ะ พี่มองผมทำไม” จองกุกถึงกับต้องเปลี่ยนสรรพนามเมื่อสายตาคมจากซอกจินส่งกลับมา
“ก็บอกแล้วว่ามึงน่ารัก”
แกร๊ง!!
ช้อนถึงกับร่วง
“อิ่มแล๊ว” โอ้ยยยมาพูดจาอะไรงี้อีกแล้วมือไม้นี่ก็เป็นไร ทำเป็นอ่อนแรง จองกุกหงุดหงิดตัวเอง วางถ้วยลงที่เดิมก่อนหยิบยาและน้ำเข้าปาก
“นอนไปละกัน เดี๋ยวตอนเย็นปลุก”
ซอกจินพูดลอยๆก่อนจะเดินออกจากห้องแต่ก็ต้องสะดุดกับเสียงอู้อี้ที่ดังขึ้น จากไอ้คนที่นอนมุดผ้าห่มอยู่ ถึงจะอู้อี้ แต่ก็ได้ยินชัดเจน
“ขอบคุณ”
.
.
.
หลังจากวันนั้นที่เขาไม่สบายเเล้วนอนอยู่ในห้องไอ้พี่นั่น เขาก็ไม่เจอไอ้พี่นั้นอีกเลย เรื่องที่เกิดขึ้นรู้ถึงหูเพื่อนเขาทำเอาต้องมานั่งตอบคำถามกันยกใหญ่ นอกจากจะอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วยังด่าเขาหาว่าไม่บอกเพื่อน เเต่เหนืออื่นใดคือชื่นชมไอ้พี่นั่น
“มึงไอ้โรงเรียนนั้น แม่ งท้าพวกเราว่ะ สงสัยแม่ งเหงา” เจโฮปเพื่อนหน้าม้าในกลุ่มพูดขึ้นหลังจากก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์เป็นชั่วโมงๆ
“เอาดิวะ กำลังเหงามืออยู่พอดี” นัมจุนพูด
“เออไปแก้เเค้นให้ไอ้กุกมันด้วย” จีมินเสริมอีกแรง
“เดี๋ยวๆกูไปเกี่ยวไร” จองกุกพูดขัดขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อตัวเองในประโยค
“เอ้า! ก็มึงโดนทำร้ายร่างกายมาไงสมองเลอะเลือนเเล้วๆไง หรือว่าเจอรุ่นพี่โรงเรียนนั้นดูแลจนสติเลอะเลือน” สิ้นประโยคจากจีมิน ลูกรับลูกส่งจากไอ้พวกที่เหลือก็พากันโห่ฮริ้ว
ฮริ้วพ่ องงงง
“เออๆไปก็ไป”
นี่แผลเก่ายังไม่ทันหายสนิท เเผลใหม่จะมาเยือนเเล้วหรอวะ ...
ตอนเย็น
“มันจะมากี่โมงว่ะ นี่กูหิวแล้วนะ” นัมจุนบ่นขึ้น
“ไม่รู้ว่ะ นี่ก็เลยเวลานัดมานานแล้วนะเว้ย”
พลั่ก!!
เสียงฝาเท้ากระแทกเข้ากับสีข้างของโฮซอกดังขึ้นอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง ก่อนจะตามด้วยเสียงอื่นอีกมากมาย สงครามมือเท้าดำเนินขึ้นอย่างไม่มีใครยอมใครแต่ด้วยร่างกายที่ไม่เต็มร้อยของจอนจองกุกทำให้เป็นต่ออีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด หมัดหนักสวนเข้ามาที่ท้อง ตามแนวเดิมที่ยังไม่หายดี ความเจ็บปวดวิ่งแล่นไปทั่วร่าง สีหน้าถึงกับเปลี่ยนสี
ยังไม่ทันหายเจ็บ แรงกระแทกจากฝ่าเท้าใครก็ไม่รู้แตะเขาที่กลางหน้าแข่ง เรียกว่าทรุด จอนจองกุกล้มลงไปจมอยู่ที่พื้น ในขณะที่เพื่อนของเขาจัดการพวกโรงเรียนนั้นใกล้จะหมด
จีมินเสร็จก่อนรีบละออกมาช่วยเขาทันทีในขณะที่นัมจุนตามมาติดๆ
“มึงไหวมั๊ยวะ จองกุก”
จองกุกพยักหน้าช้าๆพร้อมกับกุมท้องที่เพิ่งโดนกระแทกเข้าไปเต็ม
“ไหวเหี้ยไรจะลุกยังไม่ขึ้นเลยมั้งมึงอ่ะ”
สงครามสงบเรียกว่าชนะแบบไม่เต็มทีเพราะจองกุกที่ยืนขึ้นเหมือนจะล้มไม่ล้มแหล่
“ให้พวกกูไปส่งม่ะมึง”
“ไม่ต้องๆ แค่นี้ก็ไหว”
“กูไม่ใช่ไอ้พี่จินสินะ”
เกี่ยวอะไรวะ จองกุกได้แต่คิดก่อนส่ายหน้าให้เพื่อนเขา ไม่มีแรงจะเถียงวะเหนื่อย
หลังจากลากันเขาก็พาร่างอันบอบช้ำมาทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมล์ประจำจนได้ เปลือกตาหลับลงด้วยความเหนื่อยก่อนจะต้องเบิกโพลงเมื่อเสียงคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับแรงยวบข้างๆ
“มึงนี่แม่ งซ่าจังวะ”
จองกุกหันมองตามเสียงที่ได้ยิน พร้อมๆกับสะดุ้งเมื่อผ้าเย็นๆกระทบที่โหนกแก้มเขา
“แล้วมึง...เอ่อพี่มายุ่งอะไรด้วยอ่ะ”
คำพูดสั้นๆจากปากร่างแสบตรงหน้าทำเอาคนอย่างซอกจินถึงกับจะต้องชะงัก
นั้นสิ เขามายุ่งทำไม ถ้าไม่ใช้ไอ้แทฮยองน้องเขาที่มันมาหาไอ้ก้าละบอกว่าเห็นเด็กนี่เดินป่วยอยู่ริมถนนเขาไม่ออกมาหรอก
“กูแค่สงสาร”
สงสารหรอ ทำไมรู้สึกว่ามันไม่เข้าหูงี้อ่ะ
“ถ้าแค่สงสารพี่เก็บไว้ใช้กับหมาที่บ้านเหอะ”
“พอดีหมาที่บ้านมันไม่กัดกับใครว่ะ”
“กัดแม่ งก็กับโรงเรียนพี่ทั้งนั้นอ่ะ”
จองกุกเริ่มโมโห เจ็บก็เจ็บ จุกก็จุกแล้วยังมาโดนพูดจาอย่างนี้ใส่อีก
“แล้วทำไมมึงต้องสู้ว่ะ”
คิ้มสวยวิ่งเข้าชนก่อนจะเถียงกลับทันที
“แล้วพี่จะให้ผมยอมไง”
ยังไม่ทันที่ซอกจินจะได้เอ่ยตอบจองกุกก็สวนกลับมาทันที
“ อ๋อ! ลืมไปหนิว่าอยู่โรงเรียนนั้น เหอะนี่ผมไม่น่ามาเสียเวลาคุยกับพี่เลยจริงๆ”
โอ้ย แรงดึงที่ข้อมือทำเอาจองกุกหลุดเสียงร้อง
“เจ็บ!”
“ที่ตอนนี้มาเจ็บที่ตอนมึงตีกันไม่เห็นจะบ่น!
สายตาคมอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าของร่างตรงหน้า ท่าทางจะเจ็บจริง
“มึงรู้ม่ะ แต่ก่อนกูก็ไม่ต่างจากมึงอ่ะ” จินพูดขึ้นลอยๆก่อนจะผ่อนแรงที่จับข้อมือของคนตรงหน้าลง แต่ก็ยังไม่ปล่อย
“อือ...” ก็พอได้ยินมาจากพวกเพื่อนตัวดีของเขาบ้าง
“แล้วทำไมถึงหยุดอ่ะ”
ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่ได้อยู่ฟังคำตอบนี้จากคิมซอกจิน แต่ตอนนี้เหมือนมันจะเป็นข้อยกเว้น
ข้อยกเว้นที่ซอกจินเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร
“มึงอยากรู้หรอ”
“อือ”
“เสื อกนะมึงอ่ะ”
ซอกจินพูดขึ้นขำๆก่อนจะปล่อยข้อมือจองกุกเป็นอิสระ และเอนหลังลงพิงกับบอร์ดด้านหลัง
“แต่ก่อนกูก็ไม่ต่างจากมึงหรอก ต่อยตีกับเขาไปเรื่อย”
“แต่กูว่ากูเก่งกว่ามึงเยอะ”
จองกุกเบ้ปากลงทันทีแต่ก็ปล่อยให้ไอ้พี่ชายขี้หลงตัวเองตรงหน้ามันเล่าต่อ
“มันทำให้กูดูดีในสายตาคนอื่น”
“แต่มันก็ทำให้กูมีคนเกลียดมากในเวลาเดียวกัน”
“...”
“แต่กูก็ไม่สน”
“จนวันนึง”
“วันที่มันทำให้กูเกือบเสียทุกอย่าง”
“กูเกือบเสียเพื่อน เสียน้อง รวมถึงชีวิตกูเอง”
“....”
“กูถึงอยากให้มึงลองคิดไง”
“แล้วแม่ งเกี่ยวไรกับผมอ่ะ” จองกุกคิดตามนี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยซักนิด
“เพราะกูไม่อยากเสียมึงไปอีกคนไง!”
“ห้ะ!?”
ตาคมเบิกกว้าง ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งหลุดปากไป
ไม่รู้อะไรเหมือนกันที่ทำให้พูดไปแบบนั้น ไม่ต่างจากคนฟังที่นั่งช็อคไปแล้วเหมือนกัน
เขาได้ยินชัดเจน ทุกคำทุกประโยค
“หมายความว่าไง” สมองเขาอาจประมวลผลผิดลองถามอีกครั้งแล้วกัน
“....”
“กูก็ไม่รู้” ซอกจินพูดขึ้นโดยที่ไม่หันไปมองคู่สนทนาอย่างจอนจองกุก
“กูแค่ห่วง”
“มึงบ้าไปแล้วแน่ๆ” สรรพนามที่ถูกเปลี่ยนตามความสับสนในใจ
“เออ กูก็คิดอย่างงั้น”
.
.
.
“จองกุกคืนนี้ป่ะวะ”
“มึงอยากเห็นกูตายหรอ ดูสภาพกูนิดนึง”
จองกุกพูดขึ้นหลังจากเพื่อนตัวดีมาชวนเขาไปทำสงครามมือเท้าเฉกเช่นทุกครั้ง แต่นี่ชักจะบ่อยไปละ
กูไม่อยากเสียมึงไป...
ทำไมอยู่ๆไอ้คำพูดไอ้พี่บ้านี่มันถึงได้ลอยเข้ามาให้หัวได้ว่ะ หลังจากพูดจบพี่จินเเม่ งก็เดินออกไปเลยทิ้งให้เขานั่งเครียดมาจนตอนนี้ โคตรไม่ยุติธรรม
“จองกุก”
“...”
“เห้ย ไอ้กุก”
“ห้ะ”
“มึงเป็นไรเนี่ย”
“กูก็ไม่รู้ว่ะ”
“เมื่อวานกูเจอไอ้พี่จิน”
“แล้วไง” ?
“มันขอให้กูเลิกต่อยตี”
“แล้วมึงจะทำตาม” ?
“กูไม่รู้แต่...เราทำไปแล้วเราได้ไรวะ”
.
.
.
.
ผมพาร่างที่เหมือนจะพังไปร้านพี่ก้า หวังหาขนมมารักษาหน่อย แต่ทำไมสิ่งที่ผมเห็นกลับทำให้ยิ่งรู้สึกว่าแผลมันกำลังกำเริบ
ไอ้พี่ที่เพิ่งมาทำให้ผมสับสน ยืนช่วยกันทำอะไรบางอย่างอยู่หลังเคาน์เตอร์ กับพี่ก้า
หรือวันนี้ผมควรไปร้านอื่น แต่คงสายไป พี่ก้าเห็นผมแล้ว
“อ้าว...จองกุก”
“เอ่อ...หวัดดีครับ”
“โหยย ยับเลยนะนั่น”
เขาหลบหน้าผม
คิมซอกจินเดินไปหยิบแก้วกาแฟที่เคาท์เตอร์ ก่อนเดินหันหลังเข้าอ่างล้างจานทันที
“เอาอะไร เหมือนเดิมมั๊ย” เสียงเรียกดังขึ้นเรียกสติผมกลับมา
“ครับ”
วันนี้ร้านคนเยอะ ทำให้เขาต้องจำใจนั่งโต๊ะตัวหน้าร้านที่หันหน้าเข้าเคาท์เตอร์ อย่างห้ามไม่ได้
ทันทีที่ผมเดินมานั่ง พี่จินก็หันกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มือเล็กหยิบหูฟังในกระเป๋าออกมาเสียบกับโทรศัพท์ เพื่อสร้างโลกส่วนตัว
หลบไปอยู่ในโลกใบนี้บ้างเผื่อมันจะดีขึ้น
หลังจากพี่ก้าเอาขนมมาให้ ผมก็ลงมือเหมือนในทุกๆครั้งแต่เหมือนมันไม่ดีขึ้นเลย สารให้ความหวานที่เข้าไปกับความขมในใจมันหักล้างกันไม่ได้จริงๆ อยากจะเดินเขาไปถามให้กระจ่าง แต่ถ้าให้เขาถามตัวเองตอนนี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้ มันคืออะไร ?
ผมเดินไปจ่ายเงินและรีบออกมาจากร้าน โดนอ้างกับพี่ก้าว่าไม่ค่อยสบาย แต่จริงๆแค่จะหนีบรรยากาศอึดอัดของคนที่พยายามหลบผมตลอดเวลานั้นมากกว่า แต่ถ้าผมมองไม่ผิด ตอนที่ผมบอกไม่สบาย ไอ้พี่บ้านั้นดูจะตื่นๆนะ แต่ก็ช่างเหอะ ไม่อยากคิดละ ปวดหัว
.
.
.
.
ทำไมโทรมได้ ขนาดนี้นะ
ไอ้เด็กปากดีนี่ ซอกจินอยากเข้าไปตี ซอกจินอยากจะเดินเข้าไปด่า แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างค่ำคออยู่
ทำให้เขาไม่อยากจะให้มันมากไปกว่านี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ มันจะมากขึ้นกว่าคำว่าเอ็นดู
ครั้งแรกแค่อยากแกล้ง เห็นซ่าดี แต่พอเห็นมันเจ็บมันป่วย ก็รู้สึกไม่ชอบ เห็นแล้วหงุดหงิดบอกไม่ถูก
...ก็ได้เขายอมรับ เขาเป็นห่วง และด้วยความหลังที่ไม่ดีที่เคยเกิดขึ้น เขาเลยหลุดปากพูดออกไปให้มันเลิกมีเรื่อง
เขาเลยต้องมาคลุกกับไอ้ก้ามันทั้งวันไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านเเต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอ แล้วได้ยินแว่วๆว่าไม่สบาย
ไอ้เด็กนี่หนิ
กูบอกแล้วว่าอย่าป่วยกูจะลำบาก
...เป็นห่วงจนไม่รู้จะห่วงยังไงแล้วเนี่ย
.
.
มีคนเคยบอกว่า ตาขวากระตุก จะเจอโชคร้าย
“ไงมึง”
สงสัยต้องเชื่อคำโบราณแล้วแหละ
จอนจองกุกถอดหูฟังแล้วโยนลงกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ
“อะไรของมึงอีก”
“เจอหน้ากู มีอย่างอื่นด้วยหรอว่ะ” เจ้าของเสียงพูดจบก่อนหักนิ้วตัวเองดับกรอบแกรบ
“”ไว้วันหลังเหอะ กูเหนื่อย”
“นี่มึงหยามกูหรอ”
“ป่าว แค่เบื่อ นี่พวกมึงไม่เบื่อจะตีกันบ้างเลยหรอวะ”
“นี่มึง หมายความว่าไง”
“กูก็พูดภาษาคนนะ”
“ไอ้...” กลืนคำด่าลงไป ก่อนจะหยุดคิด
“กูมีข้อเสนอ”
“ว่ามา...”
“ถ้ามึงอยากเลิก”
“วันนี้กูจะส่งท้ายให้มึงถ้ามึงแน่จริง แล้วกูจะไม่ยุ่งกะมึงอีก”
“ถึงพวกกูจะเลว แต่ กูก็แมนพอนะ”
จอนจองกุกช่างใจ ก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง
เขากำลังจะทำให้สิ่งที่ถูกใช่มั๊ย ?
.
.
.
ปังๆๆๆๆ !
“ไอ้พี่ซอกจิน!!!”
“ไอ้พี่จินนนนนนนนนนน”
“พี่จินนนนนนคร้าบบบบบบบบ”
เสียงโวกเวกโวยวาย ดังขึ้นจากหน้าประตูบ้าน ดึกๆนี่มันน่าโมโหจริงๆ
จิน ลุกขึ้นอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินออกไปเพื่อเปิดประตู แต่ก็ต้องตกใจและงงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ภาพน้องชายตัวเองอย่าง ไอ้แทฮยอง กับเพื่อนหน้าแปลกสองสามคน ที่กำลังหิ้วร่างคุ้นชินที่เขารู้จักอยู่
“เพราะพี่แน่ๆเลยแม่ง ไปบอกให้มันเลิกต่อยตีใช่ม่ะ” ไอ้หัวสีสว่างคนนึงพูดขึ้น
ตามด้วยไอ้ตัวเล็ก
“พี่รู้มั๊ยว่ามันสับสน จนไปยืนให้อีกฝ่ายต่อยเอาๆ ไม่สู้ ดีที่มันยังมีแรงมาหาพวกผม”
“พี่เอาไปเลยนะ รับผิดชอบในสิ่งที่ทำด้วย” คนหน้าเหมือนม้าอีกคนพูดต่อก่อนจะส่งตัวไอ้เด็กแสบที่ตอนนี้หมดสภาพมาให้
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้แท”
“ก็ตามนั้นพี่ ผมมีหน้าที่แค่มาส่งตัว”
“แทนที่พวกมึงจะดูแลเพื่อนมึง กลับกระเตงกันมาเพื่อให้กูรับผิดชอบเนี่ยนะ”
“ครับ!” สามเสียงตอบรับพร้อมกัน
“พวกมึงนี่ท่าจะบ้า” ซอกจินด่าไปลอยๆแปลกที่คนที่น่าจะรับกับยืนขำ
“ส่งตัวเสร็จ ก็หมดหน้าที่ละ ป่ะกลับ” ไอ้แทพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องให้ผม
ไอ้เด็กซ่าจอนจองกุกตอนนี้ที่สลบคาไหล่ผมอยู่ จินเลยตัดสินใจ ช้อนร่างหมดสภาพในอ้อมกอดนี้ขึ้นมาก่อนพาเดินไปยังห้องนอน
สภาพเรียกว่ายับ หางคิ้วมีเลือดออกนิดๆ แก้มบวมเป็นลูกมะนาว มุมปากสีสวยตอนนี้กลับมีสีม่วงๆที่มุม
แขนขาเป็นจ้ำๆ เฮ้อออ อยากจะปลุกขึ้นมาตีซะจริงๆ
ผ้าขนหนูสีขาวสะอาด ถูกเช็ดเบาๆบนกรอบหน้าสวยที่ตอนนี้มีแต่แผล ไอ้แผลแบบนี้มันเจ็บนะ และท่าไอ้คนโดนก็คงเจ็บถึงได้รู้สึกตัว แรงขยับนิดๆบริเวณมุมปากพร้อมกับเสียงซี้ดเบาดังขึ้น ก่อนเปลือกตาที่ตอนแรกปิดไว้ค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ
“เห้ยพี่”
“อะไรมึง เสียงดังเดี๋ยวข้างห้องเขาก็มาด่าหรอก”
“ผมมาอยู่นี่ได้ไงอ่ะ”
“เพื่อนมึงหิ้วมา”
“มันบอกว่ากูผิด กูต้องรับผิดชอบ”
“ม่ะตื่นมาก็ดี ลุกขึ้นนั่งมา ทำแผลให้”
เจ้าของร่างที่ถูกสั่งเท้าเเขนขึ้นจากเตียงก่อนจะค่อยๆดึงกายให้ตั้งตรง ขัดสมาธิอยู่ใต้ผ้าห่ม ซอกจินที่ง่วนกับการจัดยาในกล่องเงยหน้าขึ้นก่อนจะต้องสติหลุดกลับภาพที่เห็น
จอนจองกุกไอ้เด็กแสบที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างลูกแมวป่วยที่อยู่ในผ้าห่ม
หัวยุ่งๆ เสื้อยับๆ ทำไมเเม่ งน่ารักจังวะ
มองอยู่นั้นละ จู่ไอ้พี่บ้ามันก็มานิ่งเป็นหินมองเขา
แผลก็เจ็บจะเเย่ละยังจะมาทำให้หน้าร้อนอีก
“พี่จิน!”
“อ่า..เออมาๆ ทำแผล”
สำลีสีขาวก้อนกลมๆดูนุ่มนิ่งถูกนิ้วงอๆหยิบขึ้นก่อนเปิดขวดใสสีฟ้าที่จอนจองกุกขยาด สำลีก้อนนุ่มที่บัดนี้ชุ่มไปด้วยน้ำสีฟ้าใส ค่อยๆเลื่อนมาใกล้ๆแผลบริเวณโหนกแก้ม
“ดะ...เดี๋ยว”
“อะไรของมึง” จินโวยขึ้นเมื่ออยู่ๆไอ้เจ้าของแผลก็ขัดขึ้น
“....พี่อย่าลืมเป่าให้ผมอีกนะ “
พูดจบก็ก้มหน้าลงนิดนึง ไม่อยากจะให้เห็น แก้มเขาต้องแดงมากแน่ๆ
ซอกขินหลุดขำน้อยๆกับท่าทางของเด็กแสบตรงหน้า
เวลาสิ้นฤทธิ์นี่น่ารักชะมัด
“เออ”
จองกุกหลับตาลง รู้สึกอุ่นใจแบบแปลกๆ เขาไม่กลัวทั้งทีปกกตินี้ให้ตายก็ไม่ยอม
พวกเพื่อนๆเขานี่แทบจับมัดมือมัดเท้า
อาการแสบวิ่งจี๊ดทันทีที่รู้สึกถึงสัมผัสที่แก้มเเต่ก็แค่เเว๊บเดียวเท่านั้น
เพียงเสี้ยววิก็ตามด้วยลมร้อนๆ อุ่นจังบางทีอาจอุ่นไปถึงหัวใจเลยก็ได้
ยาสีเหลืองๆถูกป้ายเต็มหน้าจนดูตลกไปหมด
"มึงแม่ ง โคตรหมดสภาพอ่ะ"
ปั๊ก!
กำปั้นเล็กกระเเทกลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่าย เเต่ซอกจินก็ไม่ได้ถือโทษอะไรซ้ำยังหัวเราะลั่น ครีมสีขาวเย็นๆถูกป้ายไปตามเเขนขาก่อนจะบีบนวดเบาๆตามร่องรอยที่เเสดงให้เห็น
บรรยากาศเงียบลงอีกครั้งก่อนซอกจินจะถามคำถามที่เขาเองสงสัย
"เพื่อนมึงบอกว่า มึงไม่สู้พวกนั้น เพราะกู จริงเปล่าวะ"
"......"
"ถ้ามันจริง กูดีใจนะ" สองมือที่ทายาอยู่ละออกก่อนจะค่อยๆเก็บอุปกรณ์ต่างๆลงกล่อง
"ไม่รู้"
"...."
“ผมไม่รู้ เเค่จู่ๆก็เบื่อ ละมันก็ได้ยินเสียงพี่"
"..."
"เลยอยากลองดูว่าถ้าทำเเล้วมันจะดีไหม"
"..."
"แม่ ง! เจ็บหนักกว่าเดิมอีก"
ซอกจินขำกับท่าทางตรงหน้า
"ขอบใจนะมึง"
"ขอบใจที่เชื่อกู"
จู่ๆ ไอ้พี่บ้ามันก็ดึงผมเข้าไปกอด ว่าเเต่ทำไมหัวใจผมเต้นเเรงจัง
"กูไม่รู้ว่าว่ากูเป็นอะไร"
“ตอนเเรกแค่อยากแกล้งมึง”
“เเต่พอเห็นมึงเจ็บกูก็...ไม่ชอบ”
“ตอนที่มึงบอกว่าไม่สบายกูก็เป็นห่วง”
“พี่จิน..” จองกุกพูดก่อนจะออกแรงผลักไอ้พี่บ้าที่พูดเพ้อเจ้ออะไรไม่รู้ออก
“อย่าเพิ่ง..”
“กูเขิน”
ประโยคสารภาพจากปากคนเป็นพี่ ทำเอาจองกุกยิ้มออกมาทันที
"กูไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร กูเเค่อยากมีมึงให้ได้รู้จักมากกว่านี้ ไม่อยากจะเสียมึงไปเพราะไอ้เรื่องชกต่อยไร้สาระ"
“พูดอย่างกับตัวเองไม่เคย” น้ำเสียงอู้อี้เพราะใบหน้าที่ซบอยู่กับไหล่กว้างๆ
"ความจริงนะ ผมก็ยังไม่รู้ ทำไมผมต้องเชื่อพี่"
"แค่รู้สึกมีพี่มันก็อุ่นใจดีอ่ะ"
“ทั้งทีตอนแรกนี่โคตรไม่ชอบหน้า...มึงเลย”
จบประโยคเสียงหัวเราะก็ดังลั่น สายตาสบกัน ริมฝากก็เหมือนมีแรงดึงดูด แต่ทันทีที่สัมผัส เสียงร้องจากจอนจองกุกก็ดังขึ้นทันที
“โอ้ย”
ลืมไปว่าปากแตกอยู่
จบ (?)
“พี่จินดูต่างหูคู่นี้ดิ”
“ตะปูเนี่ยนะ น่ากลัว”
“สวยออก ดูทิ่มแทงดี”
“มึงไม่ต้องไปแทงใครหรอก กูแทงมึงเอง”
-//////-
“พี่จินแม่ งง”
“ไม่รู้ละ ผมเอาอันนี้”
“งั้นกูเอาอันนี้”
“อะไรอ่ะ”
“คีม เอาไว้งัดตะปูอย่างมึงไง”
จบเถ๊อะ
______________________________
555555555555555555555555
กว่าจะจบได้ ชีวิตเรายุ่งมากเลยนี่ดีขึ้นเเล้วเลยมาอัพต่อ
เอาจนจบจนได้เนอะ ฟิคแก้บนซัมติงของเรา
แปลกๆหรือไม่ชอบก็มองข้ามไปเนอะ
ชอบก็เม้นบอกกันได้ เลิ้บเอวี่บอดี้ค่ะ
น้ำตาลอ้อยใจ
ความคิดเห็น