ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ BTS ] ตัวร้าย JINKOOK ll GAV

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] เด็กช่าง 1/2 #ฟิคแก้บน

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 57


    เด็กช่าง  1/2
     

    Author : น้ำตาลอ้อยใจ

    Rate  : ไม่รู้ 555555555

    Author's Note :  คือฟิคนี้เราแต่งทิ้งไว้นานมากกกแล้วตั้งแต่รูปนี้              


    แบบเห้ยเขามีเป็นคู่ คู่รักเด็กช่างไรงี้ แต่เพราะด้วยความขี้เกียจเลยไม่แต่งต่อจนจบ แต่ นี่ไปบนบานพูดเล่นๆว่าถ้าได้ในบางสิ่งจะแต่งต่อและลง สรุปคือได้ค่ะ ต้องแก้บน ฟิคนี้เลยกลายมาเป็นฟิคแก้บน ตอนแรกว่าจะตอนเดียวจบ แต่ยิ่งแต่งยิ่งยาวขอแยกเป็นสองแล้วกันเนอะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ

     

     

     

    ♥♥♥

     



     

    เห้ยมึงมันมาแล้วจัดการเลยป่ะวะ

     

    เสียงเพื่อนตัวเองดังขึ้นในความมืดก่อนจะตามด้วยเสียงฝีเท้าที่คาดเดาจากเสียงแล้ว ไม่ต่ำกว่าสิบแน่ๆ เสียงอึกถึกเขามาใกล้เรื่อยๆ


     

    หึ เอาให้เต็มทีเลยนะเว้ย!


     

    มึงแหละจองกุก ระวังตัว หนังหน้ามึงยิ่งถูกฉโลกไอ้พวกนั้นอยู่ด้วย


     

    มึงหุบปากไปเลย โฮซอก”  ทันทีที่สิ้นคำพูดก็ตามด้วยเสียงหมัดต่อหมัดที่พุ่งเข้าหากลุ่มคนมาใหม่

     



    พลั่ก

     


    ตุบ

     

     

     “ซี้ดดดดเสียงซู้ดปากดังขึ้นทันทีหลังจากใบหน้าที่หันไปตามแรงที่โดนปะทะเข้ามา ลิ้นเล็กตะหวัดเข้าที่มุมปาก รสสัมผัสคาวๆ ทำให้เขาสบทออกมา

     

    ไอ้เชี่ยนี่...


     

    พลั่ก

     

     หมัดหนักถูกส่งกลับไปทันที  จอนจองกุกเด็กช่างกลโรงเรียนดังปีหนึ่ง หนึ่งในหัวโจกของประจำกลุ่ม ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาประจำทุกคืน ที่กลุ่มของเขากับ อีกกลุ่มต่างโรงเรียนจะมาเจอกัน เขาก็ไม่รู้ว่าตีกันทำไมรู้แต่ว่าเขาแพ้ใครไม่ได้ ยิ่งกับไอ้พวกโรงเรียนนี้แล้วด้วย

     

     

    มึงเก่งหนักหรือไง!!”  น้ำเสียงเหี้ยมของไอ้มืดต่างโรงเรียนตะคอกใส่หน้าผม

     

     แต่ขอโทษนะ...จอนจองกุกไม่กลัว

     


     

    กูคิดว่างั้นว่ะ”  สิ้นคำพูดขายาวก็ฟาดเข้าที่สีข้างของร่างยักษ์ตรงหน้าทันทีเล่นเอาเจ้าของร่างทรุดลงกับพื้นก่อนจะซ้ำด้วยเรียวขางามๆอีกข้าง

     

    เชี่ยมึงนี่แม่ ง เดี๋ยวก็ตายกันพอดี”  จีมินเพื่อนอีกคนในกลุ่มเขาวิ่งมาหาและพูดขึ้นหลังจากจัดการในส่วนของตัวเองเสร็จ

     

    ให้มันรู้ซะมั้ง ว่าใครเป็นใครว่ะ”   เสียงวุ่นวายเริ่มซาลง พวกที่สู้ไม่สู้ก็เริ่มลุกหนี  พวกที่ไม่ไหวก็นอนเล่นบนพื้นอยู่อย่างนั้น  เหตุการณ์เดิมๆที่เขาเห็นจนชินตา

     

     

    ป่ะ! กลับกันเหอะมึง”  

     

     

    หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนจองกุกก็เดินมานั่งพักแถวๆ ป้ายรถเมล์เพื่อที่จะรอรถกลับบ้าน  มือขาวที่ตอนนี้มีรอยสีม่วงๆเขียวๆปะปราย ไม่รวมกับใบหวานที่มีรอยนิดหน่อย มุมปากที่มีเเผลพร้อมกับเลือดสีแดงที่ตอนนี้แห้งเกาะอยู่ แต่หากที่เจ้าตัวอย่างจองกุกจะแคร์ไม่

     

     

    ใครๆต่างก็บอกว่าคนอย่างเขาไม่น่าจะมาเรียนช่างกลได้ เพราะรูปร่างหน้าตาที่หวานเกินผู้หญิง ผิวพรรณที่ผุดผ่องสะดุดสายตาคนทั่วไป ไม่เหมาะที่จะมาถูกเคลือบไว้ด้วยเสื้อช้อปสีทึบนี่ เเต่ผิดอะไรที่เขาชอบที่จะมาทางนี้ 

     

     

    เครื่องมือสื่อสารประจำตัวถูกหยิบขึ้นมาเสียบหูฟังและกดเปิดเพลงโปรดก่อนจะยัดมันกลับลงที่เดิม ปลายนิ้วเรียวขยับเล่นตามจังหวะเพลงที่ได้ยิน


     

    แรงยวบของที่นั่ง ทำให้จองกุกต้องเหลือบไปมองแล้วก็ต้องชะงักค้างกับ คนในเครื่องแบบที่เขาคุ้นเคย

     

     

    ไอ้นี่มันเด็กโรงเรียนคู่อริหนิ

     

     

    แม่ ง เห็นแล้วหมั่นไส้

     

     

    จองกุกเบ้ปากลง ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นก้อนหินก้อนเล็กๆ อยู่ที่ปลายเท้าพอดี  ทำให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้ ร้อยยิ้มเจ้าเลห์ระบายขึ้นก่อน จะลงมือทำในสิ่งที่คิดทันที

     

     

    เท้าเล็กออกแรงแตะก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าไปทางด้านข้างที่ไอ้เด็กโรงเรียนคู่อรินี่นั่งอยู่ทันที และก็ส่งผลให้ทางฝั่งนั้นเงยหน้าขึ้นมามอง

     

    เชี่ยทำไมหล่อจังวะ


     

    เห้ยมึงอ่ะ

     

    สักยกมั๊ยจองกุกพูดไปก่อนจะยักคิ้วกวนๆกลับไป


     

    หึ!เสียงหัวเราะในลำคอจากไอ้คนข้างๆดังขึ้นก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ


     

    กล้าดียังไงเมินจอนจองกุกวะ

     

    คิดว่าโรงเรียนมึงแน่นักหรอ

     

    กูพี่มึงนะคนแปลกหน้าตอบกลับหลังจากสังเกตเครื่องเเบบที่ใส่เเล้วว่ายังไงก็อายุน้อยกว่าเขาเเน่ๆ

     

     

    พี่แล้วไงวะ?”

     


    ไอ้เด็กนี่ หน้าตาก็น่ารักดีหรอก... ไม่สิ น่ารักมากด้วยซ้ำ  ริมฝีปากแดงๆ จมูกรั้นๆ ผิวขาวนั้นอีก รับกับสั้นผมดำที่ตอนนี้เปียกนิดๆลู่ลงกลับกรอบหน้า



     

    แม่ ง ทำไมนิสัยไม่น่ารักเหมือนหน้าตาวะ


     

    มองหน้าหาเลขหรอ”  ไม่ทันความคิดนิสัยอันน่ารักของคนตรงหน้าก็ถ่ายทอดออกมาทางคำพูดให้เขาถึงกับอ้าปากค้าง

     


    เหอะ เด็กว่ะ”  


     

    มึงว่าใครเด็กน้ำเสียงแข็งพร้อมหาเรื่องถูกส่งพร้อมกับเจ้าของเสียงที่ลุกขึ้นเตรียมสู้

     

     

    มึงไง...จอนจองกุกเขาที่ทนกับนิสัยก้าวร้าวของเด็กตรงหน้าไม่ไหวจึงเดินเข้าไปใกล้ พร้อมเรียกชื่อที่ปักอยู่ที่อกเสื้อ ก่อนจะหันหลังเตรียมตัวเดินออกไป

     

    เห้ย..แน่จริงมึงอย่าหนีดิวะ จะเอาไงก็ว่ามาเมื่อตั้งสติได้จอนจองกุกก็โต้กลับทันที  ร่างสูงที่เดินห่างออกไปหันหลังกลับมา

     


    เอาไงหรอ..ไม่ต้องห่วงกูได้เอามึงแน่

     

    เอออีกอย่าง กูชื่อ คิมซอกจิน ไม่ได้อยากให้รู้ แต่กูอยากให้มึงจำ


     

    ไปละ

     

    พูดจบก็หันหลังเดินออกไปทันทีทิ้งไว้แต่จอนจองกุกที่ยืนกำหมัดแน่น มันเจ็บใจ ยังไม่มีใครกล้ามาพูดแบบนี้กับเขาแล้วไอ้นี่มันเป็นใคร เขาอาจจะไม่โกรธขนาดนี้ ถ้าไอ้คนที่พูดมันไม่ใช่โรงเรียนคู่อริกัน


     

    อย่าว่าแต่ทำตัวงี้เลย ต่อให้มันทำดีกลับเขาก็ไม่มีวันญาติดีด้วยแน่ๆ

     




    _____________________________

     

     


    "ได้ข่าวว่ามึงจัดการไอ้พวกโรงเรียนนู้นซะนวมเลยหรอวะ"  คิมนัมจุนพูดขึ้น

     

    เหอะ นี่ใครจอนจองกุกพูดหัวเราะร่วนก่อนจะนึกได้ถึงอะไรบางอย่างให้พาลอารมณ์เสีย

     

    เออพูดแล้วแม่ งหงุดหงิด


     

    เมื่อวานกูเจอโรงเรียนนั้นกวนตีนก่อนจะกลับบ้าน”  จองกุกเล่าให้เพื่อนๆฟังอย่างหัวเสีย

     

    แล้วมึงก็ปล่อยให้มันกวนมันอ่าเหรอ?” โฮซอกถามขึ้นบ้าง

     

    จองกุกไม่พูดได้แต่พยักพเยิดหน้าตอบไป

     

    แม่ งเจ๋งงงว่ะ มันชื่อไรอ่ะ มันได้บอกไว้ป่ะ”  นัมจุนถามต่อจองกุกใช้เวลาคิดไม่นอนก่อนจะตอบออกไป

     

    คิมซอกจิน

     

    เห้ย // เห้ยยยย”  เสียงของเพื่อนเขาทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกันจนเขาสะดุ้ง


     

    โอ้ยแล้วพวกมึงจะเสียงดังกันทำไมวะ

     

     

    ไอ้เชี่ยยย มึง”  จีมินที่เข้ามาพอได้ยินเรื่องราวพุ่งเข้ามาจับแขนเขายกขึ้นหมุนซ้ายหมุนขวาดูอย่างละเอียด

     

    คิมซอกจิน หัวโจ้กของโรงเรียนฝั่งนู้น มีแต่คนกลัวพี่เขา แล้วนี่เขาทำไรมึงป่ะโฮซอกพูดขึ้น

     

    เออนั้นดิ แต่เหมือนว่าเขาจะวางมือแขวนนวมแล้ววะ ไม่รู้ทำไม”  นัมจุนพูดต่อ

     

    วางมือ...


     

    แล้วกูจะไปรู้มั๊ยละ แม่ งพูดแล้วหงุดหงิดมึงเงียบไปเลย

     

    จอนจองกุกตัดบทเพื่อนตรงหน้าไม่ฟังเสียงโวกเวกที่ตามมา เด็กช่างกลกับเรื่องชกต่อยดูจะเป็นของคู่กันยิ่งเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนแล้ว ทำไม...

     


    แล้วนี่เขาจะมานั่งคิดให้ปวดหัวทำไมวะ

     

     

     

     

     

     

    ตอนเย็น

     

    วันนี้เลิกเรียนเร็ว เวลาว่างของผม ขอใช้เวลาให้ตัวเองหน่อยเถอะ จอนจองกุกพาตัวเองเดินออกจากโรงเรียนก่อนถอดเสื้อช้อปสีหม่นออกเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเท่านั้น

     

    ใครว่าร้านขนมหวานกับนักเรียนช่างกลไม่เข้ากัน ผมคนนึงนั้นแหละที่จะขอเถียงชนฝา  ถึงผมจะชอบในความเฝื่อนๆคาวๆของกลิ่นเลือดเเต่ผมก็หลงรักในรสชาติหวานๆของขนมพวกนี้ไม่ต่างกัน





    จองกุกเปิดประตูกระจกขนาดใหญ่เข้าไปภายในร้านขนมเจ้าประจำ  ลมจากเครื่องปรับอากาศตรงเข้ามาปะทะกับผิวขาวทันทีที่ก้าวเข้าไป





    สายตาคู่สวยมองไปยังโต๊ะประจำ ริมกระจกซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีเพราะวันนี้ตอนนี้มันว่าง
    ขายาวของจองกุกรีบก้าวไปยังโต๊ะตัวโปรดก่อนเจ้าของร้านอย่าง "มินยุนกิ" จะเดินมาทักทาย





    "ไง...มาพร้อมเเผลตามเคยนะ" 




    "นี่ไงครับมาให้ขนมพี่รักษาอยู่นี่ไง" จอนจองกุกตอบไปพร้อมรอยยิ้มอย่างเคย

     

    จอนจองกุกมาร้านนี้บ่อยตั้งเเต่เริ่มเรียนที่นี่เเรกๆจนเรียกว่าสนิทสนมกับเจ้าของอย่างมินยุนกิเป็นอย่างดี มากซะเรียกว่าเป็นพี่ชายน้องชายกันก็ว่าได้ แต่ใครจะไปรู้ว่า มินยุนกินี่แหละ 'นักเลงเก่า'

     

    มือขาวจับช้อนคันเล็กก่อนจะตักมันเข้าปาก  รสชาติหวานอมเปรี้ยวเเผ่ซ่านไปทั่ว ช่างเป็นความสุขจริงๆถ้าไม่ติดที่ว่าเมื่อเงยหน้าไปจะเจอกับสายตาของไอ้คนที่นั่งตรงข้ามที่จ้องมาทางเขาอย่างไม่ละสายตา

     

     

    สายตาคมมองการกระทำของเด็กตรงหน้าอย่าลืมตัว เรียกว่าตกใจเหมือนกันที่เจอเด็กนักเลงอย่างจอนจองกุกที่นี่เเต่ก็น่ารักไม่น้อยที่ได้มาเห็นไอ้เด็กหาเรื่องในอริยาบทแบบนี้


     

    ปากแดงๆตอนนี้ที่มีคราบครีมขาวๆเลอะอยู่ ทำให้ คิมซอกจิน เผลอจ้องมองเเละไม่สามารถละสายตาจากภาพตรงหน้าได้เลย จนกระทั่งเหมือนคนตรงข้ามจะรู้ตัวเเละตอบกลับด้วยคำพูดเเสนลื่นหู

     

     

    "หน้ากูมีชื่อมึงติดอยู่หรอ"

     

     

    หยาบคาย

     

     

    ซอกจินคิดได้เเค่นั้นก่อนหลุดหัวเราะออกมาเพราะอดขำไม่ได้ของความคอนทราสที่เกิดขึ้น

     

     

    เขาด่าไปแล้วไงยังมีหน้ามาขำ ไอ้คิมซอกจินนี่มันยังไง ไม่รู้ว่าโมโหซอกจินหรือโมโหตัวเองกันแน่  ที่กำลังรู้สึกประหม่ากับสายตานั่นที่มองมา

     

     

    เค้กเริ่มแหว่งไปเรื่อยๆหากแต่ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นก็เป็นอันต้องเจอสายตานี้ตลอด

     

     

    แม่ งหงุดหงิด


     

    จองกุกทนไม่ไหวทันทีที่ขนมตรงหน้าหมดเจ้าตัวรีบสาวขายาวไปยังโต๊ะตัวตรงข้ามทันที

     

     

    "มีปัญหาอะไก็พูดดิวะ"

     


    "จะมองหน้ากูเพื่อ!"

     

     

     

    ซอกจินยิ้มก่อนจะตอบกลับบ้าง

     

    "กูไม่ได้หาเรื่องกูเเค่อยากมอง"


     

    แล้วมองทำไมวะ!จองกุกถามกลับทันที


     

    ก็มึงน่ารัก

     


    อะ...ไอ้....

     


    ปากอยากจะหาคำสรรเสริญซักคำเเต่ทำไมทันพูดไม่ออกเเล้วรู้สึกเหมือนเลือดวิ่งขึ้นหน้าขนาดนั้นวะ

     

     

    แม่ งเอ้ย มึงนี่น่ารำคาญว่ะ

     


    จองกุกบ่นแค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่เคาน์เตอร์ที่พี่ชายตัวขาวเขายืนอยู่

     

     

    "อ่ะพี่ค่าขนมไปละ หมดอารมณ์"

     

     

    "เอ้า! เป็นอะไรห้ะ"

     

     

    "บรรยากาศเเม่ งเป็นพิษจองกุกพูดพรางกรอกตาไปทางด้านหลัง ทำให้มินยุนกิลองชะโงกตามไป เเต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรนอกจากซอกจินเพื่อนเขา

     

     

    "ไปละพี่ วันหลังค่อยคุยกัน"

     


    สิ้นคำพูดจองกุกก็พาตัวเองออกจากร้านไปทีนที อากาศข้างนอกไม่ร้อนมาก ลมอ่อนๆพัดมาปะทะกับผิวขาว ที่ตอนนี้เดินฟังเพลงอยู่ริมถนน

     

     

    เสียงเพลงจากหูฟังเส้นโปรดทำให้เขาเหมือนตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก จังหวะกลอง เบสต่ำๆทุ้มๆ หรือจะเป็นเสียงแหลมของกีต้าร์ ทำให้เขารู้สึกสบายใจได้ๆน้อย

     

     

     

    "ก็มึงน่ารัก"

     

     

     

    จู่ๆคำพูดของไอ้พี่บ้านั้นก็เข้ามาในหัว น่าขนลุกชะมัดอะไรคือมาชมเขาว่าน่ารัก เเล้วนี่ทำไมใจเขาต้องเต้นไม่เป็นจังหวะงี้ด้วย ...หรือเขาจะเป็นโรคหัวใจ ?

     

     

    จองกุกสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกก่อนจะเพิ่มเสียงเพลงที่ฟังอยู่ให้ดังขึ้นอีก

     

     

    เเต่ก่อนจะได้เดินต่อกลับมีใครบางคนที่เหมือนเพิ่งเจอกันไปเมื่อวานมาขวางไว้

     


    "ไงมึง...ได้ข่าวว่าเมื่อวานเก๋าหรอวะ"

     

     

    "...."



     

    "กูถามทำไมมึงไม่ตอบ"

     

     

    สายตาหวานของจอนจองกุกมองหน้าไอ้หน้าหนวดตรงหน้านิ่งๆ

     

     

    "นี่มึงกวนตีนกูหรอ"

     

    จองกุกถอนหายใจก่อนจะค่อยๆยกมือมาดึงหูฟังที่ตัวเองใส่อยู่ออก

     

     

    "กู-ไม่-ได้-ยิน"  เน้นทีละคำอย่างชัดเจน

     

     

    "ไอ้เชี่ย ปากดีหนักนะมึง"

     

     

    "หมัดกูก็ดีนะจองกุกพูดช้าๆก่อนจะค่อยๆม้วนสายหูฟังลงกระเป๋า

     

     

    "เหอะ...เเค่กูทำเพื่อนมึงฟกช้ำนิดหน่อยนี่ถึงกับหมาหมู่เลยหรอวะ"

     

     

     

    "ม่ะ เข้ามาเลยกูพร้อมละ"

     

     

     

     

    "ทำเป็นซ่าวะซอกจินเอ่ยขึ้นหลังยืนมองเหตุการณ์อยู่ฝั่งตรงข้าม ตอนเเรกก็ไม่ได้จะรีบออกมาหรอถ้าแฟนไอ้ก้าเเม่งไม่ได้มา เพื่อนมีแฟนไอ้ตัวเขานี่ก็หมาหัวเน่าดีๆนี่เอง เลยไม่อยากเป็นกขค

     

     

    บังเอิญเจอเด็กน้อยมาซ่าขอหยุดดูหน่อยแล้วกันว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ

     

     

    "มึงพร้อมเเล้วหรอวะเเต่กูไม่พร้อมวะ"สิ้นประโยคเสียงลูกรับลูกส่งจากพวกลูกน้องเกรดต่ำก็ดังขึ้นก่อนไอ้หน้าหนวดจะก้าวเข้ามาใกล้และยิ้มขึ้นเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้

     

     

    "ตัวมึงขาวดีวะ"

     

     

    ประโยคเนื้อความแปลกๆทำเอาคิ้วของเขากระตุก

     

     

    "หน้าก็สวย..ถ้ากูต่อยไปคงจะช้ำ น่าเสียดายเนอะ"

     

     

    "นี่มึงจะทำอะไรน้ำเสียงกล้าๆในตอนเเรกเริ่มหาย และถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงหวาดๆแทน

     

     

    "ทำอะไรดีละ?"

     


    "จะแก้เเค้นก็มาต่อยกันตัวต่อตัวดิวะ"

     

     

    "เเล้วถ้ากูไม่อยากทำละมือหนาๆดำๆเอื้มมาดันคางของเขาขึ้น

     

     

    "ปากดีนะมึงอ่ะอยากจะรู้จัง...ว่าจะดีจริงหรือเปล่า"

     


    "จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยนะเว้ย!"  จองกุกโวยวาย

     

     

    "ปล่อยก็โง่ดิวะ"

     

    "ไม่ปล่อยใช่มั๊ยจบประโยคหมัดเล็กแต่หนักของจองกุกก็เข้าปะทะใบหน้าหยาบกร้านของไอ้หน้าหนวดนั้นทันที

     


    "ถุย!เลือดสีแดงสดกระเด็นลงไปตามแรง

     


    "มึงนี่มัน"

     

    พลั่ก!

     
     

    หมัดใหญ่พร้อมแรงกระแทกพุ่งเข้าช่วงตัวกลางท้องจองกุก เล่นซะจุกตัวง้อ พูดไม่ออก

     


    "ไงพูดไม่ออกเลยหรอครับ...คนสวย"

     


    จองกุกได้เเต่ตวัดตามองเท่านั้น

     

     

    "พูดไม่ออกก็ไม่ต้องพูดนะ...รอครางอย่างเดียว"

     


    "เห้ยพวงมึงไปดูต้นทางดิ"

     

     

    ประโยคเเรกมันหันมาพูดกับผมก่อนประโยคที่สองจะหันไปฝั่งไอ้ลูกน้องของมัน

     

    เวลาที่เริ่มเย็นขึ้นทำให้บริเวณนั้นคนน้อยไปลงอีก รวมถึงเขาตอนนี้ที่โดนมันลากเข้ามาอยู่ในซอกหลืบมุมตึกแบบในหนัง ที่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง

     


    "ปล่อยกูนะเว้ยมึงจะซ้อมกูจะต่อยกูยังไงก็ได้"

     


    "อย่าทำอย่างนั้น..."

     


    จองกุกที่ฟื้นจากอาการจุกรีบร้องขอ จะซ้อมจะรุมยังไงเขายอมได้เพราะยังไงมันก็เป็นธรรมเนียมปฎิบัติซึ่งเขาเองก็ทำ เเต่ไอ้การกระทำแบบนี้มันเกินไป

     


    "ทำไมละ..." น้ำเสียงทุ่มน่ากลัวกระซิบข้างใบหูก่อนมือหยาบจะไล้ไปตามสีข้างของคนตัวเล็กที่พยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการที่จับเเขนขาเขาไว้

     

     

    "ปล่อยกูนะไอ่เหี้ยยยจองกุกหวีดเสียงด้วยความกลัว

     


    ตอนนี้เขากลัวกลัวมากจริงๆ  ใบหน้าของไอ้หน้าหนวดเลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหานใจร้อนๆ จองกุกได้เเต่เม้มปากเน้นหดคอตามสัญชาตญาณ ก่อนจะหลับตาเเน่น

     

     

    พลั่ก

     

     

    โครม

     

     

    เสียงโครมครามดังขึ้นเบรกการกระทำให้ไอ้หน้าหนวดนั้นต้องหันหลังไปมองซึ่งก็ต้องผงะ เมื่อจู่ๆร่างลูกน้องของมันก็ลอยปลิวมาตกข้างหน้า่่

     

    "เห้ย...อะไรวะเนี่ย!"

     

     

    "ใครแม่งทำวะ มึงอยากลองดีกับกูหรือไงไอ้หน้าหนวดพูดเสียงดังเเต่ก็ยังคงจับสองเเขนของจองกุกไว้

     

     

     

    "กูเองน้ำเสียงนุ่มหากแต่ในเวลานี้มันเยือกเย็นจนน่กลัว

     

     

    "พะ...พี่ซอกจิน"

     


    ไอ้หน้าหนวดร่างยักษ์ตกใจทันทีที่เห็น รุ่นพี่ที่เเต่ก่อนถือเป็นที่สุดของโรงเรียน เเค่คิดเเหย่มชีวิตก็ดับเเล้ว

     


    "เออกูเอง"

     


    "มึงกำลังทำอะไรหรอ ? ซอกจินถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆก่อนค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ สายตาคมที่ตอนนี้มองรุ่นน้องร่วมสถาบันก่อนจะละไปมองเด็กน้อยที่ตอนนี้กลายร่างเป็นแมวกลัวน้ำ ซึ่งสภาพจองกุกแบบนั้นยิ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกอยากจะประเคนหมัดให้น้องร่วมสภาบันตัวเองซะเดี๋ยวนี้

     

     

     

    "เมื่อวานมันทำเราก่อนนะครับ เเล้วมันก็อยู่โรงเรียนนั้นด้วย"

     

     

     

    "มึงจะต่อยจะตีกันกูไม่ว่าเเต่แบบนี้คืออะไร!

     

     

    แล้วทำไมพี่ต้องห่วงมันด้วยอ่ะ!

     

     

    กูไม่ได้ห่วง จินชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะตอบคำถามรุ่นน้อง

     

    แค่สิ่งที่มึงทำมันทุเรศ!

     

     

    พลั่ก

     

     

    คำพูดสั้นๆส่งออกไปพร้อมหมัดหนัก ไอ้หน้าหนวดหนกลับมาด้วยใบหน้าที่ดูแดงขึ้นและริมฝีปากที่เหมือนจะแตก

     

     

    มึงจะไปไหนก็ไปก่อนที่จะโดนมากกว่านี้

     

     ทันทีที่รุ่นน้องร่วมสถาบันเขาวิ่งหนีออกไป จินก็หันมายังไอ้เด็กแสบที่ตอนนี้กลายร่างเป็นแมวป่วยเรียบร้อยแล้ว

     

     

    ลุกขึ้นดิมึง

     

    “....”

     

    ร่างเล็กไม่ตอบเพียงแต่ก็ยังไม่หยุดส่งสายตาขวางๆมาให้เขา

     

     

    ลุกดิจะนั่งให้รากมันงอกออกมาหรือไง

     

     

    กะ..กูลุกไม่ไหว” น้ำเสียงอ่อยๆ ขัดกับหน้าตาที่โคตรเจ็บใจที่ต้องมาพูดประโยคหน้าอายแบบนี้ต่อหน้าอีกคน

     

     

    เฮ้อ...ซอกจินถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ หันหลังแล้วลดตัวนั่งลงตรงหน้า

     

     

    ขึ้นมาเสียงคำสั่งดังขึ้น

     


    จองกุกที่เข้าใจว่าจะต้องทำอะไร แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะทำมัน

     


    เร็วๆดิวะ กูเมื่อย   แขนเล็กๆค่อยๆเอื้อมไปวางท้าวบนไหล่ของคนตัวสูงข้างหน้า แล้วโน้มน้ำหนักตัวให้พิงไปที่หลัง ทำให้ความเจ็บตรงสีข้างวิ่งแปร๊บจนต้องร้องออกมา

     


    ซอกจินคว้าแขนเล็กนั้นก่อนจะลุกขึ้นและเปลี่ยนไปจับขาขาวที่ขนาบอยู่ข้างลำตัวแทน

     

     

    มึงอยากเกร็งดิว...กูหนัก

     

    หนักก็ปล่อยดิ ไม่ได้ขอ


     

    จินไม่ตอบ ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ   

     

    ทำเป็นพูดดี เดินเองไม่ไหวแล้วยังทำปากเก่ง”  

     

     

    จองกุกมองเสี้ยวหน้าของคนที่แบกเขาอยู่ ทำไมมันหล่อแบบนี้วะ เครื่องหน้าเรียงตัวกันดีอย่างกับจับวาง ไหล่ที่เขาพิงอยู่ก็กว้างซะเขาอิจฉา จองกุกเลิกพิจารณาก่อนจะถามคำถามที่สงสัยออกไป

     

     

    นี่จะไปไหนอ่ะ?

     

    ไปห้องกู


     

    เอ้ย! ไม่ทำไมกูไม่ไป!!!

     


    หรือมึงอยากกลับบ้านสภาพนี้

     


    “...”

     


    ใช่ถ้าเขากลับบ้านสภาพนี้คงไม่ดีแน่ๆ จองกุกตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง จนรู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกพาเข้ามาในตึกหรูนี่แล้ว ก่อนเจ้าตัว คนที่แบกเขาอยู่จะหยิบการ์ดบางอย่างมาเตะที่ประตูแล้วเดินชนมันเข้าไป 

     



    ตุ้บ

     

    โอ้ย

     


    เสียงร่างกระทบเบาะดังตุบใหญ่หลังจากซอกจินที่ปล่อยจองกุกลงบนโซฟาปลายเตียงอย่างไม่สนใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงร้องดังขึ้น

     

     


    คิ้วคมขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของร่างที่เขาเพิ่งปล่อยลงไปขึ้นมา

     


    อย่างที่คิดไว้

     


    รอยแดงขนาดเท่ากำมือสีแดงดวงใหญ่ ที่ตอนนี้เริ่มมีสีม่วงปนเขียวขึ้นมาบ้างปะปราย  นี่ไอ้บ้านั้นมันออกแรงเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ หรือเพราะไอ้นี่มันบอบบาง

     

     

     

    โอ้ยจองกุกร้องลั่นเมื่อจินใช้นิ้วจิ้มไปตรงกลางวงนั้น

     


    มึงทำเชี่ยไรเนี่ย!

     


    เรียกกูดีๆได้มั๊ยวะ

     


    กูไม่เรียก!

     


    โอ้ย!


     

    กูเป็นพี่มึงนะจองกุกจับมือจินแน่นพยายามจะดึงออกแต่ก็สู้แรงของจินไม่ได้

     


    กูไม่นับ

     


    โอ้ยยยยย!

     

    จองกุกเจ็บจนน้ำตาเล็ด จนเขาต้องยอมที่จะเอ่ยปาก

     


    พะ..พี่จิน  ซอกจินยิ้มน้อยๆอย่างพอใจถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่เห็นน้ำตาใสคลอหน่วยตานั่น

     

     

     

    ไปอาบน้ำไปค่อยออกมาทายาจินพูดขึ้นก่อน เดินเลี่ยงไปค้นเสื้อผ้าในตู้ ดีที่ขนาด ตัวเท่าๆกันยังพอใส่กันได้

     

     

    เสื้อยืดสีเทากับกางเกงขาสั้นสีแดงและผ้าเช็ดตัวสีขาวถูกโยนเข้าใส่

     

     

    แปรงสีฟันมีแบบยังไม่ใด้ใช้อยู่ให้ห้องน้ำ อยากใช้ก็แกะเอา

     

     

    จินพูดก่อนเดินไปที่เตียงหยิบโทรศัพท์มากดเล่นอย่างไม่ใส่ใจ จองกุกจึงเลือกที่จะเดินไปอาบน้ำอย่างที่ว่า ก็มันทำอะไรไม่ได้แล้วหนิ

     

     

     

     

     

    แกร๊ก




     

    เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกตามด้วยร่างเล็กในชุดตัวโคร่งหากแต่พอดีตัว

     

    ผมสีดำเปียกชื้นลู่ลงตามกรอบหน้า ใบหน้าขาวตอนนี้บวมช้ำไปทั้งหน้าดูน่าสงสารเเต่ก็คงไม่ใช่กับคิมซอกจิน  ผ้าสีขาวผืนใหม่ถูกโยนเข้าปะทะกับใบหน้าขาว

     


    "เช็ดหัวมึงซะ เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาลำบากกูอีกจินพูดก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางหนึ่งของมุมห้อง

     


    "มานั่งนี่คำสั่งดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเขาเองเพลียเกินกว่าจะเถียงจึงได้แต่เดินตามไป

     


    เก้าอี้สองตัวถูกจัดให้หันหน้าเข้าหากันโดนบนโต๊ะตัวข้างๆนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปฐมพยาบาล

     

     

    "ผมทำเองได้จองกุกพูดขึ้นอย่างรู้งาน

     

    "รู้ เเต่กูจะทำ"

     

    จองกุกมองตามมือใหญ่ที่หยิบจับนั่นทีนี่ทีอย่างหวาดๆเมื่อเห็น ไอ้พี่ตรงหน้าหยิบขวดสีฟ้าใสๆออกมาจากกล่อง  มันเป็นสิ่งที่ถ้าเขาทำเองเขาจะไม่มีวันใช้สิ่งนี้เด็ดขาด ซึ่งมีหรอ...ที่ซอกจินจะดูไม่ออก

     

     

    "มึงจะถอยทำไม"

     

    จินโวยขึ้นเมื่อคนตรงหน้าที่จะทำแผลให้เขยิบถอยออกห่างทุกครั้งที่เขาจะล้างแผล

     


    "ไม่ใช้แอลกอฮอลล์ไม่ได้หรอจองกุกพูดขึ้นอย่างยอมเเพ้ แอบเจ็บใจที่ต้องมาอ่อนแอต่อหน้าเป็นครั้งที่สอง

     


    "อยากเป็นบาดทะยักตายหรือไง"  ตอนเเรกยอมรับว่าจะแกล้งเเต่พอเห็นหน้าตรงหน้าเเล้วก็อดสงสารไม่ได้ ดวงตาเเข็งอ่อนลงอย่างห้ามไม่ได้

     


    "เดี๋ยวกูเป่าให้"

     

    ประโยคแปลกๆที่จองกุกไม่ค่อยเข้าใจดังขึ้นจากปากคนเป็นพี่ข้างหน้าก่อนจะต้องร้องเมื่อสำลีถูกคนอย่างซอกจินกดลงไปบนแผลตรงโหนกเเก้มทันที

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก แสบบบบบบบบบบ ไอ้พี่จินนนน ไอ้บ้าา ไอ้..."

     

    คำด่าถูกกลืนหายไปทันทีเมื่อรู้สึกถึงลมอุ่นๆบริเวณแผลนั่น  ตาใสที่หลับไปเพราะความแสบลืมขึ้นก่อนจะพยายามปรับโฟกัสซึ่งก็ไม่สามารถ เนื่องจากสิ่งที่ทำให้เกิดลมนั้นอยู่ใกล้เกินไป

     

    จินก้มหน้าลงชิดกับเเผลที่เขาเพิ่งล้างไปก่อนจะบรรจงเป่าลมลงไปเบาๆเหมือนที่เเม่ชอบทำให้เขาตอนเด็กๆ

     

     

    "แสบนิดเดียวเดี๋ยวแม่เป่าให้ก็หายเเสบเเล้วนะ"

     

     

    "หายหรือยังซอกจินถามขึ้นเมื่อเสียงโวยวายตรงหน้าสงบลง

     


    "หะ...หายเเล้วจองกุกตอบกลับทันที ใช่มันหายเเสบเเล้วทั้งที่ปกติมันต้องนานกว่านี้ หายแสบเเล้วทว่ากลับมีอาการอื่นเกิดขึ้นบนใบหน้าแทน

     

    มันร้อน...

     


    มือใหญ่ทรงแปลกๆเอื้อมมาจับปลายคางเเล้วพลิกไปมา  ก่อนจะตามด้วยก้านสำลีที่ชุ่มไปด้วยยา  พี่จินทำแผลให้กับเขา ปากก็บ่นเหมือนคนแก่หากแต่กลับมือเบาจนเขาไม่รู้สึก

     


    "อ่ะซอกจินยื่นยาหลอดสีขาวให้

     

    "ไว้ทาตรงเอวมึงอ่ะ...หรือจะให้ทาให้"

      


    "ไม่ต้อง!" รู้ว่าเป็นผู้ชายเหมือนกันเเต่เขาก็ไม่รู้ทำไมเเค่คิดเขาก็รู้สึกได้ว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าเขิน ก็ไม่ต่างจากคิมซอกจิน พูดไปอย่างงั้นเเต่ใจจริงก็ไม่กล้าที่จะเตะผิวขาวๆใต้เสื้อผ้านั่นเหมือนกัน

     

     

     

    "มึงนอนโซฟานะ"

     

    "อือจองกุกขานรับ

     

    เขารู้อยู่เเล้วละ เเต่เเค่นี้สำหรับเขาจิ๊บๆ นอนข้างทางกับไอ้พวกโฮซอกเขายังทำกันมาเเล้วเลย ซอกจินเลิกสนใจจองกุกก่อนจะเลี่ยงไปอาบน้ำบ้าง

     

     

     

     

    ห้องที้เคยสว่างบัดดนี้กลับเหลือเพียงเเสงสลัวๆจากโคมไฟเท่านั้น

     

     

    กล้าดีอย่างไงมาปิดไฟห้องเขา เเต่ถ้าถามว่าคนอย่างซอกจินจะเปิดมันขึ้นอีกไหม

     

    คำตอบคือ...ไม่

     


    ซอกจินล้มตัวนอนก่อนเเอบเหลือบมองไปยังร่างเล็กที่ปลายเตียง  ทำไมเขาต้องพามันมาดูแลขนาดนี้ แค่โกรธหรอ? ที่รุ่นน้องตัวเองทำไมดีกับมัน  หน้าตาหาเรื่องตอนเเรกที่เจอครั้งแรก หน้าตาตอนที่ไอ้นี่หงุดหงิด มันน่าแกล้งซะเหลือเกิน แต่ใจเขาก็ต้องกระตุกวาบเมื่อนึกถึงใบหน้าที่เขาเพิ่งเห็นไม่นานนี้

      


    ใบหน้าตอนจอนจองกุกกลัว ใบหน้าหวานที่น่าสงสารในตอนนั้น

     

    เเละตอนนี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรพาเขาลุกจากเตียงมายืนอยู่ข้างโซฟาตัวเล็กนี่ ใบหน้ายามหลับ เปลือกตาสีอ่อนที่ปิดสนิท แพขนตาหนา ริมฝีปากสีแดง น่ามองซะเหลือเกินถ้าไม่ติดที่พวงเเก้มขาวเต็มไปด้วยรอยช้ำ รอยเเตกมากมายขนาดนี้อ่านะ

     

    มือหนาเลื่อนไปดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ดีอีกครั้ง ก่อนจะอดเลื่อนมือไปวางบนกลุ่มผมนุ่มไม่ได้

     




    เขาเเค่เอ็นดูเด็กนี่ใช่มั๊ย ?

     

     

     

    _____________________


     

     ลงตอนง่วงมาก ถ้ามีอะไรผิดซอรี่ค่อยเเก้เนอะ

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×