คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ
ช่อดอกไฮยาซินท์ถูกประคองอย่างทะนุถนอมในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขอย่างคนที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์พึงจะมี เขาก้าวลงจากรถเพื่อเข้าไปยังร้านอาหารที่มีเธอรออยู่ข้างใน วรกานต์จะดีใจแค่ไหน เธอจะทำหน้ายังไง ตอนที่เขามอบช่อดอกไม้ และคุกเข่าเพื่อขอเธอแต่งงาน ถึงแม้แหวนแต่งงานของเขาจะเป็นแค่แหวนเงินเกลี้ยงๆไม่มีราคาค่างวดเท่าไหร่ แต่เขาแน่ใจว่า คนรักของเขาไม่รังเกียจ และรอยยิ้มยิ่งเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
เมื่อครั้งที่เขายังเป็นหนุ่มน้อยในชุดนิสิต ใครๆต่างก็พากันพูดลับหลัง ถึงความต่างระหว่างคู่รักในรั้วมหาวิทยาลัยที่ฝ่ายชายเป็นเพียงลูกของครูบ้านนอกวัยใกล้เกษียณ ที่มีดีเพียงแค่หน้าตากับดีกรีนักเรียนทุน แต่สามารถพิชิตใจดอกฟ้า ที่มีบิดาเป็นถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่กำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชากรทหารสูงสุดในขณะนั้น ส่วนมารดาเป็นคุณหญิงที่มีเชื้อสายจากในวัง รักในความต่างที่ดูเหมือนไม่มีทางเป็นไปได้ ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนฝูงทั้งของฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เมื่อวรกานต์ตกลงรับคำขอเป็นแฟนในวันวาเลนไทน์ของปีแรกที่ทั้งคู่รู้จักกัน คนอื่นอาจนึกสงสัยแต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่า เหตุผลที่ดอกฟ้ายอมโน้มกิ่งลงมาก็เพราะ
“กานต์ชอบนนท์ เพราะนนท์ไม่เหมือนคนอื่น นนท์รักกานต์เพราะกานต์เป็นกานต์ ไม่ได้รักเพราะกานต์เป็นลูกของใคร กานต์รักนนท์เพราะนนท์ให้คุณค่าของคนที่ความเป็นคนของคนๆนั้น ไม่ใช่เพราะชาติตระกูล”
“งั้นถ้านนท์ขอจับจองทั้งตัวและหัวใจของกานต์ด้วยแหวนวงนี้ กานต์จะรับไว้ไหม” ชายหนุ่มควักแหวนออกจากกระเป๋ากางเกง แหวนที่ทำจากลวดพันด้วยริบบิ้นสีทองที่ใช้มัดปากถุงขนมปังจากร้านเบเกอรี่เจ้าประจำของหญิงสาวนั่นเอง
วรกานต์กลั้นหัวเราะ ก่อนจะทุบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ “เล่นอะไรก็ไม่รู้ กานต์มีพ่อมีแม่นะ จะให้รับปากส่งๆได้ไง”
“ว้า ที่กานต์ไม่รับ เพราะแหวนนนท์มันไม่มีราคาใช่ไหมละ” เขาหน้าสลดอย่างที่เห็นได้ชัดว่าแสร้งทำ
“พูดบ้าๆนะนนท์ ถ้านนท์ไปขอกานต์กับคุณพ่อคุณแม่ ต่อให้ใช้แหวนที่ทำจากกระดาษทิชชู่นะ กานต์ก็ไม่รังเกียจ”
“ถ้าอยากให้เห็นว่าไม่รังเกียจจริงๆ ก็รับแหวนนี่ไปก่อน สักวันหนึ่งนนท์ต้องไปขอกานต์แน่ๆ หวังว่าพ่อกานต์คงไม่ฆ่านนท์นะ”
“ไม่ยอมหรอก ถ้าพ่อจะฆ่าคนที่กานต์รัก พ่อก็ต้องฆ่ากานต์ด้วย แต่ก่อนหน้านั้นนนท์ต้องโดนกานต์ฆ่าก่อน เพราะบังอาจมาลูกไม้ หลอกให้เรารับแหวนไว้ นี่แน่ะๆ อย่าวิ่งหนีนะ” แล้วหญิงสาวก็วิ่งไล่ตีชายหนุ่มไปรอบๆโต๊ะหินอ่อนในสนามหน้าคณะ เสียงหัวเราะคิกคักๆ ใบหน้าที่มีแต่ความสุขเหมือนจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
วรกานต์ คนรักของเขานั่งอยู่ตรงนั้น ที่นั่งริมหน้าต่างที่ประจำ กำลังเพลิดเพลินกับสนามภายนอกที่มีเด็กๆทั้งหญิงชายวิ่งเล่นอยู่ เสี้ยวหน้าด้านข้างที่เห็นทำให้รู้ว่าเธอกำลังยิ้ม และนัยน์ตาก็มีประกายวิบวับที่ใช้เฉพาะกับเขาคนเดียวเท่านั้นยามเมื่อหันมาเห็นคนรัก ก่อนจะลุกและเดินเข้ามาหา
“นนท์มาช้า กานต์รอตั้งนานรู้ไหม” หญิงสาวแกล้งต่อว่า ด้วยน้ำเสียงที่พยายามที่จะทำให้ขรึมแล้ว
“รับดอกไม้แทนคำขอโทษ นนท์น้อยๆผิดไปแล้ว”
“แหวะ นนท์น้อยๆหรอ ที่กานต์เห็นตอนนี้ ไม่มีนนท์น้อยนนท์นิดทั้งนั้นแหละ มีแต่นนท์ผู้ใหญ่ตัวโตแต่ยังทำเล่นเป็นเด็กๆ” หญิงสาวย่นจมูกพลางส่ายศรีษะจนผมดำสนิทยาวจรดเอวสะบัดน้อยๆ
ชายหนุ่มแสร้งทำหน้าเจ็บปวดกับคำกล่าวหา เอามือกุมที่หัวใจ “เจ็บจังเลย กานต์ใจร้าย ทำร้ายจิตใจนนท์” วรกานต์อดไม่ได้จริงๆที่จะยิ้มให้กับตนรักของเธอ เขามีวิธีทำให้หล่อนยิ้มได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน
ภาพของหญิงสาวสวยที่มีรอยยิ้มเย็นตากับชายหนุ่มสูงโปร่ง รูปร่างสมส่วน ที่มีรอยยิ้มสดใสกับลักยิ้มที่แก้มซ้าย กำลังยืนอยู่ในระยะประชิด ฝ่ายหญิงถือดอกไม้อยู่ในมือ ไม่ใช่ภาพที่จะมองผ่านตาไปได้ง่ายๆ ทำให้ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาของลูกค้าคนอื่นๆในร้าน
“ไปนั่งกันเถอะค่ะนนท์ คนอื่นๆมองแล้ว กานต์อาย” หญิงสาวกระตุกมือชายคนรัก
“ยังนั่งไม่ได้ครับ” วรกานต์มองหน้าชายหนุ่ม เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“กานต์จำได้ไหม ที่กานต์เคยบอกว่าถ้าวันหนึ่งที่นนท์กล้าไปขอกานต์กับคุณพ่อคุณแม่” ชายหนุ่มเว้นจังหวะ ก่อนจะค่อยๆคุกเข่าลงช้าๆ “กานต์จะรับแหวนของนนท์แม้ว่ามันจะทำจากกระดาษก็ตาม”
ถึงตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวแดงซ่าน และริมฝีปากก็แย้มยิ้ม เป็นยิ้มแบบที่ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
“เมื่อวานนนท์ทำตามสัญญานั้นแล้ว วันนี้กานต์ต้องทำตามสัญญาบ้างนะ แต่งงานกับนนท์นะครับ” ชายหนุ่มยิ้ม ทั้งสองสบตากันหวานซึ้ง ซึ่งไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าตาไม่บอดก็สามารถแปลได้อย่างเดียวกันว่า รัก นั่นเอง
ขณะที่เขาก้มลงเพื่อหยิบกล่องแหวนในกระเป๋ากางเกง แต่แล้วจู่ๆทุกอย่างก็กลับตาลปัตร บรรยากาศสีชมพูในร้านอาหารเมื่อครู่หายไป กลายเป็นห้องโถงในคฤหาสน์หลังใหญ่ เสียงกรี๊ดโหยหวนปานขาดใจ ผู้คนพลุกพล่าน ทั้งเด็กรับใช้ในบ้าน ทั้งตำรวจและนายทหารหลายคน ทุกอย่างดูสับสน ชายหนุ่มหยิบกล่องแหวนพร้อมๆกับที่ช่อดอกไม้ตกกระทบกับพื้น กลีบดอกทั้งชมพู ขาวและม่วงเปื้อนเลือดเป็นปื้นๆ สิ่งที่ตามช่อดอกไม้มาคือ เลือดสดๆ หยดกระทบพื้น ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นไป ใบหน้าของหญิงสาวเปรอะไปด้วยเลือด ดวงตาแดงก่ำเหลือกลาน พร้อมกับริมฝีปากที่อ้าเผยอเพื่อขออากาศเฮือกสุดท้าย คำพูดสุดท้ายติดอยู่ที่ริมฝีปาก แผ่วเบา ทว่าดังก้องในความทรงจำ “คนทรยศ”
สองชีวิตที่อยู่ห่างกันเกือบจะเป็นคนละมุมโลกผวาตื่นในเวลาเกือบจะพร้อมกัน จากความฝันที่ราวจะเป็นหนึ่งเดียวหากทว่าต่างเหลือเกินในความรู้สึกและมุมมอง
ความคิดเห็น